สิบนาทีต่อมาผู้ตรวจการกลุ่มใหญ่พร้อมอาวุธก็พุ่งเข้ามาและจับกุมผู้คนทั้งหมดทันทีนักข่าวมากกว่าสิบคนก็มาถึงเช่นกันราวกับฉลามที่สัมผัสได้ถึงเลือดในน้ำตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงและลาสเวกัส บรีวู้ด ชินคาเงะเวย์ และคนอื่น ๆ ต่างกลายเป็นข่าวใหญ่ของค่ำคืนนี้ชื่อต่าง ๆ ที่ฮาร์วีย์กล่าวเพียงพอจะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นข่าวพาดหัวข่าว ไหนจะองค์ประกอบมากมายที่เกี่ยวข้องอีกสถานีตำรวจฮ่องกงและลาสเวกัสไม่กล้าที่จะบิดเบือนกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและรู้ตัวว่าพวกเขาจะต้องจัดการเรื่องนี้อย่างเป็นธรรมแม้แต่วินซ์ ยอร์ก ซึ่งมีสถานะสูงมากในฮ่องกงและลาสเวกัส ก็ไม่สามารถหลบหนีได้และถูกนำตัวไปสอบสวนผู้ตรวจการสถานีตำรวจฮ่องกงและลาสเวกัสไม่กล้ามีเจตนาร้ายใด ๆ ทุกคนได้กำชับให้ทุกอย่างดำเนินการอย่างเป็นกลางภายใต้การกำกับดูแลของสื่อมวลชนประชาชนเกือบร้อยคนถูกส่งไปยังสถานีตำรวจของเกาลูนซิตี้พวกเขาทุกคนผ่านการสอบปากคำอย่างเข้มงวดและถูกซักถามอย่างถี่ถ้วน แม้แต่ผู้บาดเจ็บก็ไม่รอดฮาร์วีย์ถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจของเกาลูนซิตี้เช่นกัน แต่เขายังคงสงบสติอารมณ์ได้ตลอดเวลาเขาจงใจทำแบบนี้เพราะวินซ์นอกจากจะต้องกา
โยอาน่าปิดปากตัวเองและหัวเราะเบา ๆ กับคำพูดของฮาร์วีย์ถ้าพวกเขาแจ้งความกับตำรวจโดยไม่มีหลักฐาน พวกเขาก็จะก่อให้เกิดคำถามและการคาดเดาที่ไม่มีมูลความจริงในหมู่ประชาชนเมื่อทุกอย่างถูกเปิดเผยแล้ว เรื่องนี้ก็จะถูกจัดการอย่างไม่ลำเอียงอย่างแน่นอนกึก กึก กึกทันทีที่ทั้งสองพูดจบ ผู้ตรวจการในเครื่องแบบก็เดินเข้ามาเธอเป็นผู้ตรวจการหญิงที่ผมสั้นสุดเท่ เป็นสาวลูกครึ่งที่มีจมูกโด่งและเบ้าตาลึก รูปลักษณ์ทั้งหมดของเธอตะโกนถึงความแปลกใหม่‘เลสลี่ คลาร์ก’ เขียนอยู่บนป้ายชื่อที่ปักไว้ที่หน้าอกของเธอเลสลี่มองฮาร์วีย์อย่างมีเลศนัยก่อนที่จะเหลือบมองโยอาน่า เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณเมนโดซา คุณสามารถประกันตัวชายคนนี้ได้ถ้าคุณต้องการ“อย่างไรก็ตาม เขาจะไม่สามารถออกจากฮ่องกงได้ประมาณสองสัปดาห์ เขาต้องอยู่ที่นี่ตลอดเวลาเผื่ออาจจะมีหมายเรียกจากสถานีตำรวจ”โยอาน่ายิ้มให้เลสลี่เล็กน้อย “ไม่ต้องห่วงคุณคลาร์ก ฮาร์วีย์เป็นเหยื่อ“ไม่ว่าคุณจะต้องการลงโทษใคร เขาจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่!“เราจะให้หลักฐานทุกอย่างที่คุณต้องการ”เลสลี่ส่งเสียงเยาะเย้ยกับคำพูดของโยอาน่าดูเหมือนว่าเธอจะไม่ชอบฮา
สิบนาทีต่อมาฮาร์วีย์ก็เดินออกจากสถานีตำรวจเกาลูนซิตี้ ขณะที่เขาทำเช่นนั้น เขาก็เหลือบมองพวกอันธพาลของบรีวู้ดหลายคนที่จ้องเขาอยู่ไม่ไกลอย่างเย้ยหยันเขายิ้มแล้วมองกลับไปที่สถานีตำรวจที่อยู่ไม่ไกล “ผู้บังคับบัญชาลำดับแรกของฮ่องกงน่าสนใจนะ”“เขาไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวและยังไม่ทำผิดกฎหมายเพื่อตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงและลาสเวกัสด้วย ไม่เลว”โยอาน่าหัวเราะ “จริงค่ะ แต่เนื่องจากเขาจัดการกับคดีนี้อย่างไม่ลำเอียง เขาจึงสร้างความขุ่นเคืองให้กับตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงและลาสเวกัส ชินคาเงะเวย์แห่งประเทศหมู่เกาะ และบรีวู้ด”“และไหนจะว่า… เขาจะยังสามารถรักษาตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับแรกได้หรือไม่ ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องเจอกับปัญหามากมายแน่นอน”ฮาร์วีย์ยิ้ม “ฮ่องกงไม่เหมือนลาสเวกัส มันซับซ้อนมาก ผู้บัญชาการลำดับแรกของฮ่องกงชื่ออะไร?”โยอาน่าตอบว่า “โทบี้ คลาร์กค่ะ“เนื่องจากโทบี้เป็นผู้บังคับบัญชาลำดับแรกของฮ่องกง แสดงว่าเขาก็มีอำนาจมากทีเดียว ต้องมีคนต้องการให้เขาอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อแน่นอน“ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงและลาสเวกัสคงไม่กล้าแตะต้องเขาง่าย ๆ แน่นอน”ในตอนแรกฮาร์วีย์ต้องการจะตบไหล่ของโยอา
ขณะที่ซีน่ากำลังจะชวนฮาร์วีย์ไปทานอาหารเช้า ร่างสง่างามก็เดินออกมาจากสถานีตำรวจเกาลูนซิตี้ที่อยู่ไม่ไกลนั่นก็คือเลสลี่ คลาร์กเธอหรี่ตามองฮาร์วีย์แล้วมองไปที่ซีน่าที่หยอกเล่นกับฮาร์วีย์ จากนั้นเธอก็พูดอย่างเย็นชา“ขยะ!”เลสลี่กัดริมฝีปากของเธอหลังจากที่ระเบิดออกมาอย่างดูถูก จากนั้นเธอก็เดินจากไปสายตาของโยอาน่าและซีน่ามองเลสลี่ในเวลาเดียวกัน พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ ลูกสาวของผู้บังคับบัญชาลำดับแรกจึงออกมาอีกครั้งตำรวจอาจรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของพวกเขาและต้องการจับกุมฮาร์วีย์เหรอ?ฮาร์วีย์มองเลสลี่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาอยากรู้ว่าเธอจะทำอะไร หากจำเป็น เขาจะกลับเข้าไปสถานีตำรวจอีกครั้งท้ายที่สุดคนที่ปวดหัวอย่างหนักจากสถานการณ์ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เขาอย่างแน่นอนเลสลี่มองฮาร์วีย์อย่างมีเลศนัย จากนั้นเธอก็พูดนิ่ง ๆ ว่า “นายน้อยยอร์ก ฉันขอคุยด้วยเป็นการส่วนตัวได้ไหม?”ฮาร์วีย์ยิ้ม “พวกเขาเป็นพวกของผม ถ้าคุณมีอะไรจะพูดคุณก็พูดได้เลย”หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง เลสลี่ก็พยายามพูดประโยคหนึ่งออกมา “คุณพ่อของฉันต้องการพบคุณ เขาอยากจะเชิญคุณไปทานอาหารเช้าด้วยกัน”ฮาร์วีย์ตกตะล
วูบ วูบ วูบ!เสียงกิ่งไม้ที่ลู่ลมดังขึ้นดูเหมือนว่าเลสลี่จะคาดเดาสิ่งนี้ไว้และจึงสงบนิ่งและไม่แยแสกับทุกสิ่ง เธอหันไปมองฮาร์วีย์อย่างประชดประชันด้วยความที่อยากเห็นเขาตื่นตระหนกกับสถานการณ์ที่วุ่นวายขึ้นมาอย่างกะทันหันอย่างไรก็ตาม ฮาร์วีย์ทำให้เธอผิดหวังฮาร์วีย์ยืนอยู่เฉย ๆ และเอามือไพล่หลังขณะที่ปล่อยให้กิ่งไม้บินผ่านเขาไปก่อนที่พวกมันจะตกลงข้างหลังเขาฮาร์วีย์หรี่ตาขณะที่มองโทบี้ซึ่งอยู่ไม่ไกล การทดสอบแบบสุ่มนี้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญของโทบี้!เขาเป็นคนอย่างไรกันแน่!ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังคิดเรื่องนี้ โทบี้ก็ได้ถอดแว่นกันแดดออกและส่งมันให้นายหญิงคลาร์ก ภรรยาของเขาจากนั้นเขาก็หยิบผ้าขนหนูออกมาเช็ดฝ่ามือ คำพูดของเขามีสำเนียงฮ่องกงและไต้หวันเล็กน้อย “ไม่เลวเลย! ไม่เลวเลย!“นายใจเย็นมาก!“ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งแม้จะยังอายุน้อยก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่เมื่อคืนนี้นายทำให้ฉันสูญเสียครั้งใหญ่“ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันจะสมควรได้รับมันจริง ๆ”โทบี้พูดอย่างตรงไปตรงมา เผยให้เห็นความชื่นชมในตัวฮาร์วีย์การเคลื่อนไหวของเขาในตอนนี้ไม่ใช่แค่เพื่อทดสอบฮาร์วีย์เท่านั้น แต่ยังเพื่อข่มขู่ฮาร์วีย์อีก
โทบี้ยังไม่พอใจ เขายังคงใช้พละกำลังมากขึ้นจนถึงจุดที่เขาใช้พลังไปถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์...แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่าพลังของเขาไร้ผล ง่ามนิ้วของเขาเจ็บราวกับว่ามีบางอย่างถูกฉีกออกจากกัน"ไม่เลว ไม่เลว”หลังจากนั้นโทบี้หยุดทดสอบความแข็งแกร่งของฮาร์วีย์ทันทีหลังจากวิเคราะห์ฮาร์วีย์แล้ว เขากล่าวว่า "นายไม่ใช่แค่ฉลาดมากเท่านั้น แต่ทักษะและความคิดของนายยังเหนือกว่าคนอื่น ๆ ด้วย ครั้งนี้ทำเอาฉันแพ้หมดรูปเลยทีเดียว!”โทบี้ส่งสัญญาณมือหลังจากพูดจบ คนรับใช้ของเขาจึงรีบย้ายเก้าอี้สองตัวและโต๊ะมาใกล้ ๆหลังจากส่งสัญญาณมือให้ฮาร์วีย์นั่งแล้ว เลสลี่ก็รินชาให้เขาก่อนที่จะเสิร์ฟขนมอบสไตล์ฮ่องกงอันประณีตมาให้เลสลี่รู้สึกสับสนเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าพ่อของเธอจะปฏิบัติต่อฮาร์วีย์ดีขนาดนี้การพบปะมื้อเช้าครั้งนี้ควรเป็นกับดักสำหรับฮาร์วีย์ แต่จู่ ๆ ก็กลายเป็นการรวมตัวของเพื่อนเก่าไปเสียได้ โทบี้จิบชาดำแก่ขณะชำเลืองมองเลสลี่ซึ่งมีสีหน้าแปลกใจ “ลูกสับสนเหรอ เลสลี่? ไม่ใช่แค่พ่อไม่ตบคุณยอร์กจนตาย แต่ยังชวนเขามาทานอาหารอีก” โทบี้พูดพร้อมหัวเราะเลสลี่ขมวดคิ้วก่อนจะพยักหน้าโทบี้ยิ้ม“ที่พ่อวางแผ
“ประการที่สอง ข้างนอกลือกันว่าตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงและแก๊งบรีวู้ดคอยกดดันผู้ว่าคลาร์กอยู่เสมอ ตอนนี้คนพวกนั้นกำลังจับตาดูอยู่ หากมีสัญญาณว่าคุณจะก้าวลงจากตำแหน่ง คนพวกนี้จะทำทุกอย่างเพื่อเหยียบย่ำคุณอย่างแน่นอน เพราะงั้นคุณกำลังใช้มื้ออาหารนี้เพื่อบอกทุกคนว่าไม่เพียงแต่คุณจะยังอยู่ในตำแหน่ง แต่จะอยู่ไปอีกนานด้วย“เหนือสิ่งอื่นใด คุณกำลังมองหาพันธมิตร ยิ่งไปกว่านั้นไม่เพียงแต่ผมจะจัดการกับสาขาของวังมังกรหลังจากมายังฮ่องกงและลาสเวกัสได้ แต่ยังประมือกับวินซ์อีกสองสามครั้ง เพราะงั้นคุณถึงอยากรู้ว่าผมจะไปได้ไกลถึงขนาดไหน และคุ้มที่คุณจะดึงเข้ามาให้เป็นพวกด้วยหรือเปล่า”เลสลี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำอธิบายของฮาร์วีย์เธอไม่คิดว่าเมื่อคืนนี้พ่อของเธอจะโดนกดดันจนถึงขนาดที่ต้องการให้คนนอกมาไกล่เกลี่ยสถานการณ์ในเวลาเดียวกัน เธอก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากกับความเฉลียวฉลาดและความตระหนักรู้ของฮาร์วีย์ที่เข้าใจถึงความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคำเชิญโทบี้มองไปยังฮาร์วีย์ ความสนใจของเขาถูกกระตุ้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“เหตุผลสองประการแรกคือความตั้งใจของฉันที่คิดจะเชิญนายมา แต่ไม่เคยคิดถ
ในเวลาเที่ยงวัน ฮาร์วีย์เดินออกจากเดอะ การ์เด้น วิลล่าขณะกำลังเอามือลูบท้องโทบี้เป็นคนไปส่งเขาทั้งตระกูลตกใจมากหลังจากเห็นภาพนี้ผู้ว่าราชการคลาร์ก ชายผู้สันโดษและลึกลับเคยคิดที่จะเดินไปส่งแขกคนไหนด้วยตัวเองด้วยหรือ?ฮาร์วีย์มีอะไรพิเศษกัน?สมาชิกในตระกูลคลาร์กอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฮาร์วีย์อย่างวางแผนที่จะเข้าใกล้เขาในสายตาของพวกเขา คนที่โทบี้มุ่งหมายในตัวเขาได้ย่อมต้องเป็นคนที่โดดเด่นอย่างแน่นอนหลังจากที่โทบี้เดินกลับมาที่ห้องโถง เลสลี่ซึ่งรู้สึกหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดก็นำกาแฟมาให้เขาหนึ่งถ้วย“หนูเข้าใจนะว่าทำไมพ่อถึงเชิญให้ฮาร์วีย์มาที่นี่ แต่เราปล่อยให้คนอื่นเป็นคนส่งข่าวเรื่องนี้ออกไปไม่ได้เหรอ ทำไมพ่อถึงตัดสินใจเรื่องอะไรใหญ่โตอย่างการเลือกที่จะอยู่ข้างเขาล่ะ? หากตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงรู้เรื่องนี้เข้า พวกเขาคงไม่พอใจกับเรา ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็คือราชาแห่งฮ่องกงและลาสเวกัส! หากเราไปทำตัวเป็นปรปักษ์กับพวกเขา เราจะเจอปัญหาใหญ่แน่!”ใบหน้าของเลสลี่บิดเบี้ยวเป็นสีหน้าสยดสยอง มันไม่ง่ายเลยที่จะมีใครสักคนในตระกูลนี้ได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการ เหตุผลเดียวที่โทบี้ทำตัวสันโด
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข