“ประการที่สอง ข้างนอกลือกันว่าตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงและแก๊งบรีวู้ดคอยกดดันผู้ว่าคลาร์กอยู่เสมอ ตอนนี้คนพวกนั้นกำลังจับตาดูอยู่ หากมีสัญญาณว่าคุณจะก้าวลงจากตำแหน่ง คนพวกนี้จะทำทุกอย่างเพื่อเหยียบย่ำคุณอย่างแน่นอน เพราะงั้นคุณกำลังใช้มื้ออาหารนี้เพื่อบอกทุกคนว่าไม่เพียงแต่คุณจะยังอยู่ในตำแหน่ง แต่จะอยู่ไปอีกนานด้วย“เหนือสิ่งอื่นใด คุณกำลังมองหาพันธมิตร ยิ่งไปกว่านั้นไม่เพียงแต่ผมจะจัดการกับสาขาของวังมังกรหลังจากมายังฮ่องกงและลาสเวกัสได้ แต่ยังประมือกับวินซ์อีกสองสามครั้ง เพราะงั้นคุณถึงอยากรู้ว่าผมจะไปได้ไกลถึงขนาดไหน และคุ้มที่คุณจะดึงเข้ามาให้เป็นพวกด้วยหรือเปล่า”เลสลี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำอธิบายของฮาร์วีย์เธอไม่คิดว่าเมื่อคืนนี้พ่อของเธอจะโดนกดดันจนถึงขนาดที่ต้องการให้คนนอกมาไกล่เกลี่ยสถานการณ์ในเวลาเดียวกัน เธอก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากกับความเฉลียวฉลาดและความตระหนักรู้ของฮาร์วีย์ที่เข้าใจถึงความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคำเชิญโทบี้มองไปยังฮาร์วีย์ ความสนใจของเขาถูกกระตุ้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“เหตุผลสองประการแรกคือความตั้งใจของฉันที่คิดจะเชิญนายมา แต่ไม่เคยคิดถ
ในเวลาเที่ยงวัน ฮาร์วีย์เดินออกจากเดอะ การ์เด้น วิลล่าขณะกำลังเอามือลูบท้องโทบี้เป็นคนไปส่งเขาทั้งตระกูลตกใจมากหลังจากเห็นภาพนี้ผู้ว่าราชการคลาร์ก ชายผู้สันโดษและลึกลับเคยคิดที่จะเดินไปส่งแขกคนไหนด้วยตัวเองด้วยหรือ?ฮาร์วีย์มีอะไรพิเศษกัน?สมาชิกในตระกูลคลาร์กอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฮาร์วีย์อย่างวางแผนที่จะเข้าใกล้เขาในสายตาของพวกเขา คนที่โทบี้มุ่งหมายในตัวเขาได้ย่อมต้องเป็นคนที่โดดเด่นอย่างแน่นอนหลังจากที่โทบี้เดินกลับมาที่ห้องโถง เลสลี่ซึ่งรู้สึกหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดก็นำกาแฟมาให้เขาหนึ่งถ้วย“หนูเข้าใจนะว่าทำไมพ่อถึงเชิญให้ฮาร์วีย์มาที่นี่ แต่เราปล่อยให้คนอื่นเป็นคนส่งข่าวเรื่องนี้ออกไปไม่ได้เหรอ ทำไมพ่อถึงตัดสินใจเรื่องอะไรใหญ่โตอย่างการเลือกที่จะอยู่ข้างเขาล่ะ? หากตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงรู้เรื่องนี้เข้า พวกเขาคงไม่พอใจกับเรา ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็คือราชาแห่งฮ่องกงและลาสเวกัส! หากเราไปทำตัวเป็นปรปักษ์กับพวกเขา เราจะเจอปัญหาใหญ่แน่!”ใบหน้าของเลสลี่บิดเบี้ยวเป็นสีหน้าสยดสยอง มันไม่ง่ายเลยที่จะมีใครสักคนในตระกูลนี้ได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการ เหตุผลเดียวที่โทบี้ทำตัวสันโด
“ถึงแม้ว่าลูกจะไม่แยแสต่อความสำเร็จของเขาในประเทศ H แต่ลองนึกถึงสิ่งที่เขาทำหลังจากมายังฮ่องกงและลาสเวกัสเพียงไม่กี่วันดูสิ! เพราะเขาเพียงคนเดียว สถานการณ์ของลาสเวกัสก็กลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ! ตระกูลแฮมิลตันไม่ใช่ราชาของที่นี่ต่อไปแล้ว! และทั้งที่ตระกูลเมนโดซาไม่ได้ลงรอยกับตระกูลแฮมิลตันแต่ทั้งสองตระกูลก็ยังเลือกที่จะอยู่ข้างฮาร์วีย์!“ทันทีที่ฮาร์วีย์ทำให้โยอาน่าขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าสาขาของวังมังกรได้ ทั้งตระกูลก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเคียงข้างเขาไปจนสุดหล้าฟ้าเขียว นอกจากนี้ ไม่ว่าฟาเบียนจะมีมุมมองอย่างไร แต่ฮาร์วีย์ก็เป็นคนช่วยลูกสาวสุดที่รักของเขาเอาไว้เมื่อคืนนี้ จำไว้ว่าฟาเบียนให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของเขายิ่งกว่าอะไร นี่ยังไม่รวมว่าฮาร์วีย์ช่วยเขามาแล้วสองครั้งติดต่อกันอีก...“นี่ยังไม่พอที่จะทำให้เขายืนหยัดต่อสู้กับฮาร์วีย์อีกหรือ? ด้วยการสนับสนุนจากสองตระกูลนี้ ฮาร์วีย์ใกล้จะได้ครองอำนาจเบ็ดเสร็จในลาสเวกัสแล้ว หลังจากได้ยินทั้งหมดนี้ ลูกยังคิดว่าเขาเป็นแค่คนธรรมดาหรือเปล่าล่ะ?”เลสลี่ครุ่นคิดตาม ก่อนที่ใบหน้าของเธอจะเต็มไปด้วยความตระหนกฮาร์วีย์ประสบความสำเร็จ
บุคคลนั้นกลืนน้ำลายอย่างประหม่าและพูดต่อไป"ถูกต้อง ไม่เพียงแค่นั้น พวกเขายังพบรอยใบมีดที่คอของเขาด้วย สันนิษฐานเบื้องต้นเรื่องอาวุธอาวุธที่ใช้ก่อเหตุคือใบมีด พวกเขายังคงมองหาเบาะแสอื่น ๆ อยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ หลักฐานทุกอย่างที่พวกเขารวบรวมได้ รวมไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ทำให้ฮาร์วีย์กลายเป็นผู้กระทำความผิด”สีหน้าของโทบี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารู้ว่าตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงจะไม่อยู่เฉยแน่ แต่เขาไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วถึงขนาดนี้ เขาวางแผนที่จะมอบรางวัลพลเมืองดีให้ฮาร์วีย์ แต่ตระกูลยอร์กพยายามกล่าวหาเขาด้วยการฆาตกรรม เมื่อพิจารณาจากความเข้าใจของเลสลี่ที่มีต่อตระกูลยอร์ก และวินซ์ มากกว่าเขาตัดสินใจจะทำอะไรบางอย่าง พวกเขาจะทำทุกอย่างอย่างที่ต้องการแน่นอนพูดง่าย ๆ ก็คือฮาร์วีย์จะต้องโดนหมายหัวอย่างแน่นอนสำหรับการตายของนาโอโตะแม้ว่าโทบี้จะเป็นพยานให้ ก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขาจะมีหลักฐานเพียงพอที่จะยืนยันข้อกล่าวหาของฮาร์วีย์ณ จุดนั้นโทบี้ลูบหน้าผากของตัวเองก่อนจะหันไปมองเลสลี่“ไปหาวินซ์” เขาพูดเสียงเรียบ"ทำไม?"เลสลี่ขมวดคิ้ว“ไปบอกให้เขารู้ถึงจุดยืนของตระกูลของเรา”โทบี้ถ
เลสลี่ไม่สนใจการยั่วยุของเคทลินก็เลยแม้แต่น้อย เธอหันไปจ้องมองวินซ์ซึ่งกำลังจิบชาอย่างใจเย็นด้วยใบหน้าที่มืดมน“ฉันขอถามอะไรหน่อย นายน้อยวินซ์”“จะมาพาผมกลับไปที่สถานีตำรวจเหรอ? เมื่อคืนนี้ผมก็บอกทุกอย่างไปแล้วนี่ ผมเพิ่งไปที่นั่นมาเองนะ อีกอย่างผมก็ได้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งเพื่อความปลอดภัยของฮ่องกงแล้ว คุณจะไม่ให้รางวัลพลเมืองดีกับผมก็ไม่เป็นไรหรอก แต่จะทำให้ชื่อเสียงของผมเสื่อมเสียไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”หากเป็นโอกาสอื่น เลสลี่คงไม่เจรจากับอีกฝ่ายหลังจากได้ยินคำพูดที่ดูเกรี้ยวกราดของวินซ์ แต่วันนี้จะต่างออกไปเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ได้ นายน้อยยอร์ก ฉันมาที่นี่เพื่อถามคุณว่าทำไมคุณถึงฆ่านาโอโตะและใส่ร้ายฮาร์วีย์แบบนี้?”“นาโอโตะตายแล้วเหรอ?”ความสับสนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของวินซ์ ดูคล้ายว่าอีกฝ่ายไม่ได้เสแสร้งเลยแม้แต่น้อย“เมื่อคืนนี้ผมส่งหมอประจำตระกูลไปรักษาเขาที่โรงพยาบาลเอ็ดเวิร์ดแล้วไม่ใช่หรอ? เขาตายได้ยังไง”เลสลี่พินิจมองดูวินซ์เป็นเวลานาน“ก็ฉันบอกแล้วไงว่านาโอโตะถูกฆ่าตาย ไม่มีหมอที่ไหนทำให้คนตายแล้วฟื้นขึ้นมาได้หรอก!”ปัง!“ไร้สาระ!”วินซ์ลุกขึ้น
แต่ไม่ว่าจะสถานะไหน ตอนนี้ก็ไม่สำคัญแล้ว เอลลิสยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา“ไม่ต้องกังวล นายน้อยยอร์ก เราได้ติดต่อกับชินคาเงะเวย์ผ่านทางสายสัมพันธ์ของตระกูลผมแล้ว ผมได้ยินมาว่ามากิ ทาเคอิ ผู้อาวุโสแห่งชินคาเงะเวย์จะมาถึงที่นี่ในตอนกลางคืนพร้อมกับมาโกโตะและรูมิโกะ ทาเคอิ ลูกชายและลูกสาวของเขา พวกเขาจะแสวงหาความยุติธรรมให้กับนาโอโตะผู้เป็นที่รักของพวกเขาอย่างแน่นอน”วินซ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่“เฮ้อ นี่ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ทุกวันนี้รัฐบาลแทบจะไม่บังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว พวกเราที่เป็นประชาชนต้องมานั่งพึ่งตัวเอง เราทำให้มิตรสหายจากประเทศหมู่เกาะผิดหวังอย่างแท้จริง! รับแขกคนสำคัญของเราแทนฉันที เอลลิส สนองความต้องการของพวกเขา เราต้องทำให้แน่ใจว่านายจัดการได้อย่างหมดจด อย่าได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เบื้องหลัง”เอลลิสหรี่ตาเป็นการตอบแทน“รับทราบครับ นายน้อยยอร์ก ตระกูลพาร์สันหาเลี้ยงชีพด้วยการขนส่งทางน้ำ แม้จะมีบางสิ่งจะรั่วไหลออกไป ก็จะไม่มีร่องรอยใด ๆ ที่สามารถย้อนรอยมาหาเราได้”วินซ์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืนและมองไปที่ควินตัน“คุณแน่ใจหรือว่าฮาร์วีย์คือคนที่ฆ่านายน้อยทาเคอิ?”ควินตั
ตึก ตึก ตึก!ฮาร์วีย์ส่งข้อความออกไปอย่างไม่ตั้งใจขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า เขามาถึงห้องเก็บศพที่ตั้งอยู่สุดทางเดินมีผู้ตรวจการสองคนของสถานีตำรวจฮ่องกงยืนอยู่ที่ทางเข้าประตู พวกเขารู้ว่าฮาร์วีย์คือใคร ดังนั้นพวกเขาจึงพยักหน้าก่อนจะปล่อยให้ฮาร์วีย์เข้าไปข้างในเลสลี่รวบผมขึ้นในขณะที่สวมถุงมือแพทย์สีขาวอยู่ในห้องเก็บศพ เผยให้เห็นลำคอระหงที่อยู่เหนือปกคอเสื้อ ในตอนที่ฮาร์วีย์เข้ามาใกล้ เธอกำลังตรวจสอบบาดแผลที่ลำคอของนาโอโตะอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเธอกำลังให้ความสนใจกับร่างกายของนาโอโตะ เธอจึงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอกำลังโชว์เนื้อหนังเหนือหน้าอกของตัวเอง ฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ก่อนจะเดินหน้าต่อไป“เลสลี่ ทำไมคุณถึงมาชันสูตรศพด้วยตัวเองล่ะ? ถ้าพวกเขารู้เข้าจะเป็นยังไง”เลสลี่หยุดสิ่งที่เธอทำและชำเลืองมองฮาร์วีย์ สายตาที่มองมานั้นเรียบง่ายนั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์มากล้น“รายงานการชันสูตรพลิกศพออกมาแล้ว เราได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่พบในที่เกิดเหตุแล้วด้วย” เธอตอบ “หลักฐานทุกอย่างชี้ไปที่คน ๆ เดียว ซึ่งก็คือคุณ”ฮาร์วีย์ยักไหล่“แต่ผมไม่มีเวลาลงมือหรอก ผมอยู่ที่สถานีตำรวจเกาลูนซิตี้เมื่อคืนนี้
"คุณยอร์กเป็นเพื่อนของฉัน คุณหมอเว้นเขาไว้สักคนเถอะ”“เว้นไว้? ฉันทำแบบนั้นไม่ได้!”นักนิติวิทยาศาสตร์เย้ยหยันอย่างเย็นชา หลังจากเห็นตราบนหน้าอกของเลสลี่ เธอก็ตัวแข็งเล็กน้อย“คุณคือคุณคลาร์กนั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้น คุณก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อกฎของที่นี่ได้! คุณอยากจะให้คุณยอร์กเข้ามาที่นี่ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่เขาต้องลงทะเบียนก่อนเข้ามา”ฮาร์วีย์หรี่ตาเล็กน้อยก่อนจะยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับนักนิติวิทยาศาสตร์"ไม่มีปัญหา ถ้าอย่างนั้น ผมจะรีบไปที่นั่นทันที แล้วห้องสำหรับลงทะเบียนอยู่ที่ไหนล่ะ”นักนิติวิทยาศาสตร์เดินออกจากประตูและชี้ให้ฮาร์วีย์ไปที่ห้องทะเบียน“นั่นไง มีป้ายบอกทางด้านนอก แพทย์ชื่อชอน ซอเรลล์เป็นผู้รับผิดชอบในการลงทะเบียน แค่ไปหาเขา”“ขอบคุณครับคุณหมอ”ฮาร์วีย์พยักหน้าก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังโถงทางเดินที่ว่างเปล่าหลังจากที่ฮาร์วีย์ออกไป นักนิติวิทยาศาสตร์ก็เปลี่ยนสายตาไปยังผู้ตรวจการทั้งสอง"โอ๊ย!"นักนิติวิทยาศาสตร์ตะโกนอย่างเขินอายราวกับว่าเธอสะดุดนิ้วเท้าก่อนจะก้มลงดูเท้าของเธอ ผู้ตรวจการทั้งสองทำอะไรไม่ได้ แต่จ้องมองที่ข้อเท้าที่อ่อนนุ่มของเธอฟุ่บ!ทันทีที่ผู้ตรวจการม
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข