แลรี่ เฟร็ด และดาราหญิงทุกคนมีสีหน้าเย้ยหยันฮาร์วีย์อวดเก่งมากเกินไป! เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนที่น่าทึ่งจริง ๆเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธรรมดา ๆ ต้องการที่จะจัดการเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอด้วยตัวเขาเอง?เขาเสียสติไปแล้วเหรอ?เบนจามินที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของเขาไม่ใช่หรือถ้าไม่มีเบนจามิน ฮาร์วีย์จะทำอะไรได้มีเพียงเบนจามินและโยนาเท่านั้นที่แสดงความสนใจเป็นอย่างมากทั้งคู่ล่วงรู้ถึงความสามารถของฮาร์วีย์ดีอยู่แล้วแต่ฮาร์วีย์ยังไม่เคยแสดงให้พวกเขาเห็นมาก่อน หากพวกเขาฉวยประโยชน์จากเวลานี้ พวกเขาก็จะได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฮาร์วีย์อย่างที่ใจนึกฮาร์วีย์ไม่มีปฏิกิริยาต่อสายตาเย้ยหยันที่จ้องมองมาที่เขา เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออก “เหยียบย่ำเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอให้ผมที “หวังว่าจากนี้ไปหุ้นของเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอจะย่อยยับ“ชื่อเสียงของพวกเขาต้องพังพินาศ“ศิลปินและนักแสดงทุกคนที่อยู่ใต้สังกัดเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอจะถูกสังคมรังเกียจ”ฮาร์วีย์วางสายหลังจากพูดจบทุกคนจ้องมองที่ฮาร์วีย์ อย่างตกตะลึงเป็นที่สุด พวกเขาไม่แน่ใจว่าควรตอบสนองอย่
"อะไรนะ?!"ร่างกายของแลรี่สั่นสะท้าน หลังจากได้ยินคำพูดของเฟร็ดเขาพูดตะกุกตะกักโดยไม่รู้ตัว “เป็นไปได้ยังไงกัน?!”ดาราสาวคนอื่น ๆ ก็ตกใจเช่นกัน เปลือกตาของพวกเธอกระตุกอย่างรุนแรงเมื่อมองไปที่ฮาร์วีย์ไม่มีใครคาดคิดว่าฮาร์วีย์จะสามารถเหยียบย่ำเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอ กรุ๊ปได้อย่างรวดเร็วและน่าทึ่งเช่นนี้ไอ้สารเลวนี่มันเป็นใครกัน?เขาจะมีอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้อย่างไร?แอ๊ด!เพียงผู้เดียวก็มีคนผลักประตูวอร์ดเข้ามา ผู้ตรวจการระดับสูงไม่สนใจเอลีซาซึ่งยืนอยู่ที่นั่น และใส่กุญแจมือแลรี่ในทันที"คุณแชมเบอร์ส เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักแสดงหญิงสิบแปดคนให้การกับทางสถานีตำรวจไปในทิศทางเดียวกันว่าคุณบีบบังคับให้พวกเธอหลับนอนกับคุณ”“โปรดให้ความร่วมมือกับการสอบสวนด้วย”“พวกเธอได้ให้หลักฐานที่หนาแน่นพอแล้ว มีทั้งเสื้อผ้า วิดีโอวงจรปิด และหลักฐานประกอบอื่น ๆ”“อาชญากรรมของคุณถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง กรุณามากับเรา ถ้าคุณไม่อาจหาข้อแก้ต่างให้ได้อย่างชัดเจน คนก็จะถูกควบคุมตัว”เมื่อมองไปที่หมายจับในมือของผู้ตรวจการระดับสูง แลรี่ก็ตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก ซิการ์ในมือของเขาหล่นลงพื้นผู้ตรวจการอีก
อีเลียสไม่ค่อยได้รับผิดชอบอะไรเลยแม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดู แต่เขาก็เป็นคนที่สุขุมรอบคอบที่สุดไม่มีใครกล้ารบกวนเขาในขณะที่เขาฝึกหมากล้อม เปียโน วาดภาพ หรือศิลปะการต่อสู้แต่โทรศัพท์ของเขากลับดังขึ้นในขณะที่เขากำลังเล่นหมากล้อม นี่เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นแล้วอีเลียสยืนขึ้นเพื่อรับโทรศัพท์ เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ว่ามา”เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ไม่พอใจเล็กน้อยของอีเลียสเลขาที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์ก็ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “เจ้าชาย มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับผู้อำนวยการฌอง แลรี่ แชมเบอร์ส และพรรคพวกของเขา!“ในขณะที่พวกเขาไปสร้างปัญหาให้ฮาร์วีย์ที่โรงพยาบาล เบนจามินและโยนา ลินช์ก็ไปที่นั่น!“ผู้กำกับฌองทุกปลดออกจากตำแหน่ง และคุณแชมเบอร์สก็ถูกจับเข้าคุก!“เฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอกำลังเผชิญกับอันตรายที่คาดไม่ถึงเช่นกัน หากฝ่ายตรงข้ามยังไม่หยุดโจมตี บริษัทอาจล้มละลายได้เลย“อีกทั้งดิฉันยังได้รับข้อมูลจากโลกใต้ดินในเรื่องที่เราทำการตรวจสอบประวัติของฮาร์วีย์แล้วค่ะ กลับกลายเป็นว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เราคิด“เขามาจากบัควู้ด แต่ก่อนที่เขาจะมาที่น
“สารเลว!“คุณกล้าดียังไงมาบุกมาถึงใจกลางมอร์ดูแบบนั้น!“คุณอยากตายนักหรือไง?!”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนล้อมอยู่ทั่วบริเวณ พวกเขาปลดเซฟตี้ของปืนออกแล้วจ่อมันเข้าหาฮาร์วีย์ที่ด้านหลังมีเสียงคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดดังออกมาแม้ว่าพวกคุ้มกันจะดูดุร้าย แต่พวกเขาก็มองฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่หวาดกลัวโดยธรรมชาติแล้ว ในระหว่างทางที่เขาเดินมาถึงที่นี่ ฮาร์วีย์ได้ให้บทเรียนราคาแพงกับคนพวกนั้นไปแล้วฮาร์วีย์เดินไปที่กระดานหมากล้อมของอีเลียสโดยไม่สนใจผู้คุ้มกัน ก่อนหยิบหมากสีขาวขึ้นมา และด้วยการวางหมากเพียงตัวเดียวเขาก็ล้อมส่วนสีดำจนสามารถล้มกระดานได้จากนั้นฮาร์วีย์ก็หยิบหมากสีขาวตัวเดิมและพูดอย่างใจเย็นว่า “ใคร ๆ ก็ว่ากันว่าอีเลียส พาเทลเป็นฮีโร่ของยุค และไม่เป็นสองรองใครในเรื่องหมากล้อม“แต่พอผมเห็นแบบนี้แล้ว ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้มีฝีมืออย่างที่ใครเขาว่ากัน”อีเลียสโบกมือส่งสัญญาณให้ควบคุมการถอยออกไปข้างหลัง เขาพินิจมองฮาร์วีย์ด้วยรอยยิ้ม“ฮาร์วีย์ ยอร์ก? เจ้าชายยอร์กเองเหรอ?”ฮาร์วีย์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “ผมนึกว่าปลาซิวปลาสร้อยอย่างผมจะไม่มีวันได้รับความสนใจจากเจ้าชายพา
อีเลียสยักไหล่และตอบอย่างใจเย็น “ถ้าอย่างนั้นคุณอยากได้อะไรล่ะ”ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็นว่า “ผมไม่มักมากเท่าคุณหรอก ถ้าคุณแพ้ คุณจะต้องมาเป็นน้องชายคนเล็กของผมนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป“ในฐานะพี่ใหญ่ของคุณ ผมจะเป็นคนตัดสินว่าคุณจะอยู่หรือตาย”อีเลียสมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่เล็กลงอยู่นานสองนาน จากนั้นเขาก็ตบมือเป็นสัญญาณให้พนักงานก้าวออกมาข้างหน้า“งั้นก็มาทำสัญญากัน”เลขาสาวสวยเดินก้าวออกมาด้านหน้า ใบหน้าของเธอซีดเผือดราวกับกระดาษ เธอเริ่มทำสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ในทันทีสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างสาหัสเมื่อเธอได้อ่านเงื่อนไขของสัญญา เธอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เธอกำลังอ่านอยู่เจ้าชายพาเทล หนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดูกำลังทำการเดิมพันเช่นนี้กับชายบ้านนอกนี่ถึงอย่างนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาเช่นเธอก็ไม่มีอำนาจอะไรจะไม่หยุดเรื่องนี้ได้หลังจากทำสัญญาลุล่วง อีเลียสก็ลงนามในสัญญาทันทีและประทับลายมือของเขาลงไปโดยไม่คิดจะอ่านเนื้อหาเขาโบกมือขวาส่งสัญญาไปยังฮาร์วีย์ฮาร์วีย์เขียนชื่อของตัวเองลงในสัญญาอย่างใจเย็นและโยนมันกลับไปให้เลขาคนเดิมเมื่อพิจารณาจากตัวตนของอีเลียสและฮาร์วีย์แล้ว พวกเขาจะปฏิบัติ
หลังจากเห็นกำปั้นทั้งสองตรงเข้ามาหาเขา ในที่สุดฮาร์วีย์ก็จริงจังขึ้นเล็กน้อย เขายังคงยืนนิ่งอยู่ แต่เขาสามารถหลบหลีกการเคลื่อนไหวของอีเลียสในระยะเผาขน ด้วยการโยกศีรษะไปซ้ายทีขวาทีท่าทางของอีเลียสดูคล้ายจะเป็นแบบแผนเดิม ๆ ตำแหน่งของกำปั้นของเขาล้วนไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อเขาแสดงท่า ‘นั่งม้ามือเมฆ’ หมัดทั้งสองของเขาเปลี่ยนมุมอย่างฉับพลัน มันมุ่งเข้าหาขมับของฮาร์วีย์ในจังหวะที่เขาอยู่ใกล้แค่เอื้อมฮาร์วีย์ยังคงสงบนิ่ง เขาถอยหลังไปครึ่งก้าวและแทบจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีที่ร้ายแรงได้ตู้ม!เมื่ออีเลียสรู้ว่าตนถือไพ่เหนือกว่า เขาก็ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว หมัดทั้งสองของเขาพุ่งออกไปอีกครั้ง คราวนี้มันพุ่งไปที่หน้าอกของฮาร์วีย์การเคลื่อนไหวของเขานั้นไม่อาจหลบเลี่ยงได้ หากการโจมตีของเขาสัมผัสเข้ากับร่างกายของฮาร์วี่ กระดูกซี่โครงของฮาร์วีย์จะต้องหักอย่างแน่นอนฮาร์วีย์เคลื่อนไหว แต่เขาไม่ได้ออกท่าทาง เขากดที่ปลายกำปั้นของอีเลียสด้วยมือขวาก่อนจะเบี่ยงไปทางซ้ายแม้จะหลบการโจมตีจากอีเลียสได้ แต่ฮาร์วีย์ก็ไม่ได้ตอบโต้เลยแม้แต่น้อยในสายตาของผู้ชมโดยรอบ ต่างรู้สึกว่าฮาร์วีย์ไ
ปัง! อีเลียสกระทืบเท้าอย่างน่ากลัว เขายันร่างของตัวเองไปข้างหน้าด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาดกระเบื้องหินอ่อนบนพื้นมีรอยแตกอยากเห็นได้ชัดจากการเคลื่อนไหวของเขาฮาร์วีย์หรี่ตาลงเล็กน้อยวินาทีต่อมา อีเลียสก็ปรากฏตัวต่อหน้าฮาร์วีย์ อีกฝ่ายงอมือขวาเป็นรูปกรงเล็บ แล้วเหวี่ยงมันไปที่ใบหน้าของฮาร์วีย์มันคือท่ากรงเล็บอินทรีริมฝีปากของฮาร์วีย์ปรากฏเป็นรอยยิ้มราบเรียบ เขาออกหมัดอย่างมั่นคงเพื่อตอบโต้การโจมตีของอีเลียสปัง ปัง ปัง!ในพริบตาร่างของพวกเขาก็เข้าประสานกัน ในวินาทีถัดมา ร่างของอีเลียสก็เซถลาและถูกส่งให้ลอยไปในทันที หลังจากที่เขาร่วงลงสู่พื้น เขาก็โซซัดโซเซ ก่อนจะสามารถยืนตัวตรงได้ในทางกลับกัน ฮาร์วีย์ยังคงยืนอย่างสงบนิ่งดังเดิม"คุณแพ้แล้ว จำไว้ว่าตอนนี้คุณเป็นน้องชายคนเล็กของผม”อีเลียสขมวดคิ้วเล็กน้อย เสี้ยววินาทีต่อมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างลนลานเขาไม่รู้ตัวเลยว่าที่หน้าท้องของเขามีรอยเท้าปรากฏอยู่หากฮาร์วีย์ออกแรงเตะมากกว่านี้อีกเล็กน้อย อีเลียสคงพิการไปอย่างสิ้นเชิงการแสดงออกของอีเลียสเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเขาจ้องมองไปที่รอยเท้าดังกล่าว ใตอนที่สุดท้ายเขาจะถอน
ชายผมสลวยที่สวมสูทสีดำปรากฏตัวอยู่นอกประตูวิลล่าก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้โต้ตอบ ไคท์ก็เปิดประตูต้อนรับชายคนนั้นให้เข้ามาข้างในแล้ว“รุ่นพี่ ในที่สุดรุ่นพี่ก็มาถึงที่นี่“ฉันกำลังรอรุ่นพี่อยู่เลย”ชายผมสลวยเดินเข้ามาในวิลล่าและพูดว่า “ท่านอาจารย์เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฉันฟังหมดแล้ว“หลังจากรับสายของเธอวันนี้ เขาก็บอกให้ฉันมาปกป้องเธอ“ฉันไม่กวนใจเธอเรื่องนี้ แต่เธอควรฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณ“ถ้าเธอฝึกให้ดี อย่างน้อยเธอก็มีที่ยืนในมอร์ดู“พ่อของเธอก็คงไม่ปฏิบัติกับเธอแบบนั้นเช่นกัน“ท่านอาจารย์ขอให้ฉันมาปกป้องเธอเพราะเห็นแก่แม่ของเธอ“หลังจากเรื่องทั้งหมดจบลงแล้ว เธอต้องไปขอบคุณเขาให้มาก ๆ เขาซ่อนตัวจากโลกภายนอกมาหลายปีแล้ว”ชายคนนั้นสำรวจห้องโถงของวิลล่าด้วยสายตาตัดสิน ทันทีที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่กล่องใส่อาหารบนโต๊ะ เขาก็แสดงความรังเกียจออกมาเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นฮาร์วีย์ยืนอยู่ในห้องโถง แววตาของเขาก็มีแววเจตนาสังหาร เขาตระหนักได้เลยว่ารุ่นน้องที่เขาถวิลหามาตลอดกลับต้องมาอยู่กับผู้ชายคนนี้ตามลำพังเขาเก็บซ่อนเจตนาของตัวเอง แล้วแกล้งกะแอมออกมา“รุ่นน้อง ไม่ใช่ว่าฉันอยา
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข