“นั่นก็เป็นไปได้ ย้อนกลับไปตอนที่ผมอยู่ในเมืองหลวง ผมเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ปรมาจารย์ด้านนี้ต้องได้คลุกคลีอยู่ในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้มาเป็นเวลานาน” เชนตอบพร้อมหัวเราะเบา ๆ “พวกเขาอาจจะไม่ดีเท่าที่ได้ระบุไว้ในนิยายศิลปะการต่อสู้ แต่การที่คน ๆ หนึ่งฆ่าผู้ชายเป็นร้อยได้นั้นไม่ใช่แค่ตำนาน”ใบหน้าของเลียม สโตน เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น ยิ่งความสนใจของเชนเพิ่มขึ้นเลียม สโตน ก็ยิ่งอับอายมากขึ้นเท่านั้นโรซาลีไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทั้งสองพูดได้ จิตใจของเธอปลิวล่องลอยออกไปแล้วผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา! แม้แต่นักมวยที่น่ากลัวทั้งสองคนก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ เขาไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถอย่างแน่นอน ถึงกระนั้นเขาก็เต็มใจที่จะกลายเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์และปล่อยให้ทุกคนในเมืองเย้ยหยันเขา ทำไมกัน?เป็นเพราะผู้หญิงจริง ๆ หรือ? แต่เขาไม่ได้สัมผัสมือภรรยาเลยแม้จะแต่งงานกันมาสามปีแล้วไม่ใช่หรือ?ความคิดของโรซาลีสับสนวุ่นวาย เธอไม่เข้าใจตัวเองเมื่อสังเกตเห็นความเขินอายที่เพิ่มขึ้นของเธอและหน้าแดง ๆ บนใบหน้าของเธอ เลียม สโตนก็เดือดดาลด้วยความโกรธ ในตอนแรกเขาต้องการโอ้อวดเธอจนถึงขั้นขู่ว่าจะเอาชีวิตของฮาร
ภายใต้สถานการณ์ปกติดาริโอ มัวร์ จะปรากฏตัวเพียงสองหรือสามครั้งต่อสัปดาห์ นับว่าเป็นโอกาสที่โชคดีสำหรับทุกคนที่จะได้เห็นเขาโชว์ฝีมือ หลายคนเข้ามาทุกวันเพียงเพื่อมีโอกาสเห็นเขาต่อสู้เหตุผลนั้นง่ายมาก การต่อสู้ของดาริโอนั้นรุนแรงมากและฝ่ายตรงข้ามของเขามักจะลงเอยด้วยการจมกองเลือดของพวกเขาเอง การต่อสู้ของเขายังมีความสง่างาม ช่วงแรก ๆ บ่อยครั้งที่การต่อสู้ของเขาดูเหมือนจะเป็นการแข่งขันกระชับมิตร แต่หลังจากนั้นก้าวไปสู่การต่อสู้นองเลือดที่แท้จริง ทุกการแข่งขันของเขาไม่เคยที่จะทำให้ประหลาดใจ“ดาริโอปรากฏตัวจริงหรือ?”“วันนี้ไม่ใช่โอกาสพิเศษและมีผู้คนไม่มากนัก ทำไมโรงยิมถึงจัดคู่ต่อสู้แบบนี้?”“เป็นไปได้ไหมว่าสิ่งนี้ไม่ได้วางแผนไว้? บางทีชายสวมหน้ากากคนนั้นกำลังพยายามก่อปัญหา?”“ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ได้เป็นคนของโรงยิม เขาจะมีปัญหาแน่นอนถ้าดาริโอออกมาต่อขึ้นชก มีข่าวลือว่าครั้งหนึ่งดาริโอเคยบดขยี้นิ้วของคู่ต่อสู้ จนผู้ชายคนนั้นต้องกลายเป็นคนพิการ!”“ฉันไม่ได้คาดคิดว่าฉันจะได้ชมการแสดงที่สนุกสนานเช่นนี้ในวันนี้ การมาที่นี่ไม่ได้สูญเปล่า!”ฝูงชนลุกขึ้นด้วยความคึกคะนองมากขึ้น พวกเขาตั้งหน้าตั
เมื่อเขาพันผ้าในมือเสร็จแล้ว ดาริโอมัวร์ก็ขยับตัวและพุ่งไปข้างหน้า เขาพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อเทียบได้กับนักวิ่งเข้าเส้นชัยฮาร์วีย์กดเท้าซ้ายลงบนพื้นอย่างมั่นคงโดยใช้โมเมนตัมผลักร่างของเขาขณะที่เขากระโจนเข้าหาดาริโอคนดูที่เฝ้าดูการต่อสู้หายใจเข้าฟึดฟัดเชนนั่งยิ้มอยู่ในห้องวีไอพี โรซาลีอยู่ข้าง ๆ ด้วยอาการประหม่า ใบหน้าที่ยิ้มก่อนหน้านี้ของเลียมถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่หม่นหมองนักสู้ทั้งสองปะทะกันทั้งต่างมีทักษะสูงในทักษะตัวเอง สำหรับดาริโอนี่เป็นครั้งแรกของเขาที่ต้องปะทะกับคู่ต่อสู้ที่มีความสามารถเท่ากันนับตั้งแต่เขาเข้ามาที่นี่การแข่งขันดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้รับชมพลั่ก!หมัดสองหมัดกระแทกเข้าหากันด้วยจังหวะการเต้นของหัวใจเดียวกัน การชกต่อยปะทะกันอย่างรวดเร็ว มีเพียงการเปลี่ยนหมัดโจมตีด้วยความรุนแรงความเจ็บปวดที่เสียดแทงเข้ามาที่ฮาร์วีย์ขณะที่มือขวาเริ่มสั่น เขาไม่ได้ฝึกฝนมาเป็นเวลาสามปีดังนั้นจึงทำได้ไม่ดีที่สุด ถ้าเขาฝึกฝนมาตลอด ดาริโอจะไม่สามารถทำร้ายเขาได้แน่นอนความเจ็บปวดที่มือขวาของเขาไม่สามารถทำอะไรฮาร์วีย์ได้ เขามีสีหน้าไม่เปลี่ย
“ไม่เลว การชกของดาริโอมีระดับเทียบเท่าแชมป์โลกมวยสากล” เชนลูบเคราของเขา “แรงที่เหวี่ยงหมัดออกไปคงมีน้ำหนักประมาณหนึ่งพันปอนด์”“คุณมีแววตาที่เฉียบคมจริง ๆ มิสเตอร์ไนส์เวลล์” เลียมพูดกล่าวอย่างเยาะเย้ย “หมัดของเขาสามารถทำให้คนทั่ว ๆ ไปกระดูกหักได้อย่างง่ายดาย พวกเขาต้องนอนโรงพยาบาลครึ่งเดือน! ไ้อ้สวะคนนี้ช่างกล้าที่ไปท้าทายและใช้แขนปกป้องการโจมตีของดาริโอ ถ้าผมพูดไม่ผิดตอนนี้แขนทั้งสองข้างของเขาคงจะหักแหลกละเอียดไปแล้ว!”เลียมมั่นใจ แต่ในวินาทีถัดมาสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ฮาร์วีย์ค่อย ๆ คลี่กางแขนแขนของเขาออก แม้ว่าเขาจะมีอาการเนื้อตัวสั่น แต่ก็เห็นได้ชัดว่าแขนของเขาไม่ได้หักใบหน้าของเลียมเปลี่ยนสี ริมฝีปากของเผยอค้างพร้อมขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงดในสภาพที่ฮาร์วีย์ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เชนพูดอย่างเฉยชาว่า “มิสเตอร์สโตน ดูเหมือนว่าคุณจะคิดผิด ผู้ชายคนนี้เกินความคาดหมายของเราทั้งคู่จริง ๆ ดูเหมือนว่าเขาจะตั้งรับต่อแรงหมัดของดาริโอนั้นได้อย่าง นั่นเป็นทักษะที่ดีทีเดียว”เลียมกัดฟันกรอด “แม้ว่าเขาจะสามารถตั้งรับการโจมตีนั้นได้ แต่ตอนนี้เขาก็คงเสียพละกำลังไปมากอย่างแน่นอน…”“อาจจะเป็นแบบนั้
“คุณแพ้แล้ว” ฮาร์วีย์พูดอย่างธรรมดา แม้ว่าดาริโอจะไม่กระเด็นออกไปและยังมีสติอยู่ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้แพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้การเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งที่สุดของดาริโอยังไม่สามารถทำให้ฮาร์วีย์ถอยหลังได้แม้แต่ครึ่งก้าวในขณะที่การโจมตีของฮาร์วีย์ทำให้ดาริโอต้องถอยหลังไปสามก้าว ความแตกต่างของทักษะนั้นเห็นชัดดาริโอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ เขาหันไปพูดกับผู้ตัดสินทันทีว่า “ฉันแพ้แล้ว ฉันจะไม่รับเงินสำหรับการแข่งขันครั้งนี้”กรรมการหน้าซีดเหมือนคนตาย ดาริโอเพิ่งยอมรับความพ่ายแพ้ของเขาใช่หรือไม่? ในโรงยิมทั้งหมดมีใครอีกที่สามารถต่อกรกกับไอ้สวะนั่น คนนั้นที่สามารถขัดขวางเพื่อหยุดยั้งความโกลาหลได้?ใบหน้าของฮาร์วีย์ดูผ่อนคลาย เขาจับลูบคลำมือเขาแล้วพูดว่า “คุณมีคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาอีกไหม? ถ้าไม่มีบอกเลียม สโตนให้มาหาผม”“ทำไมคุณ…!” หางตาของกรรมการกระตุก ไอ้สารเลวคนนี้ทำตัวอวดดีเกินไป อย่างไรก็ตามเขาก็มีวิธีการที่หยิ่งผยองตอบกลับเช่นกันพรึบ!ในห้องวีไอพีเลียมลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แก้วคริสตัลในมือของเขาบีบจนแตกออกเป็นชิ้น ๆ และเลือดสดไหลออกมาจากฝ่ามือของเขา เขาไม่ได้สังเกตเห็นมันเพรา
เลียม สโตน โบกมือเป็นสัญญาณ ชายคนหนึ่งของเขาที่ถือท่อนเหล็กอยู่ข้างหลังเขาพูด “เจ้านายครับ เคยมีคนมาที่ยิมชกมวยของเราด้วยการชนะติดต่อกันสิบครั้ง เขาคิดว่าเขาจะได้รับเงินมหาศาล แต่เขาไม่เข้าใจหลักการพื้นฐานอย่างหนึ่ง หลักการนั้นคือการใช้สองมือเพื่อเอาชนะสี่มือนั้นเป็นเรื่องยาก ผู้ชนะที่ไม่สามารถจัดการพวกเราทุกคนได้และถูกทุบตีจนเละ และนั่นเขารู้แล้วว่าเขา ‘ยอดเยี่ยม’ แค่ไหน!”“คุณได้ยินแล้วใช่ไหม? ผมยอมรับว่าคุณค่อนข้างมีทักษะที่สามารถทำให้ดาริโอ มัวร์ ล่าถอยได้ คุณยังยอดเยี่ยมมากเพราะคุณสามารถทำให้ไทสันยืนอยู่ข้างหลังคุณได้” เลียมหัวเราะอย่างเย็นชา “ปัญหาคือตอนนี้คุณทั้งคู่อยู่ในอาณาเขตของผม นี่เป็นเวลาที่จะอวดดีอยู่อีกงั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์อดไม่ได้ที่จะโพร่งถามตรง ๆ ว่า “ผมได้ยินมาว่าคุณให้การสนับสนุนครอบครัวบรู๊คและทำให้ชีวิตเราเกิดความยากลำบาก?”เลียมขมวดคิ้ว เขาหัวเราะเบา ๆ “พี่ชาย คุณจำเป็นต้องเริ่มสงครามครั้งใหญ่เพียงเพื่อประโยชน์ของลูกน้องสองคนงั้นหรือ? ไป เอาเงินมา มาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้พวกเขากัน”"ครับ เจ้านาย!" ลูกน้องคนหนึ่งของเขานำกระเป๋าเงินสองใบออกมาและเปิดมันต่อหน้าเลีย
เลียมปรบมือส่งสัญญาณ ทีวีในห้องโถงแข่งขันเปิดขึ้นและฉายภาพเชนและโรซาลีที่ทั้งคู่ผูกติดกับเก้าอี้ ไม่ได้ยินเสียงของเชนแต่ศีรษะของเขาก็มีเลือดไหลออกมาอย่างมาก ดูเหมือนว่าเขาจะโดนลูกน้องของเลียมทุบทีทำร้ายด้วยท่อนเหล็ก"มิสเตอร์ไนส์เวลล์เป็นผู้อาวุโสของตระกูลไนส์เวลล์ แกกล้าแตะต้องเขาได้ยังไง?” ฮาร์วีย์มองไปที่ทีวีด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เลียมทำตัวอุกอาจเกินไป เขาไม่รู้ว่าเชนเป็นผู้ชายแบบไหน? ถ้าเขาทำให้เชนขุ่นเคือง ตระกูลไนสส์เวลล์สามารถเข้ามาจัดการฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย“ทำไมฉันจะทำไม่ได้? ไม่เพียงแต่ฉันจะฆ่าเขา ฉันยังจะพาผู้หญิงคนนั้นไปขึ้นเตียงของฉันด้วย ถ้าฉันได้เธอสมใจแล้ว ฉันจะให้คนของฉันไปทิ้งเธอในตรอกที่ไหนสักแห่ง ใครจะรู้ว่าฉันคือคนทำ?” เลียมหัวเราะอย่างเย็นชา “ฉันจะให้แกเลือก ถ้าแกอยากให้พวกเขามีชีวิตอยู่ก็ยอมจำนนซะ ถ้าแกไม่ทำ ฉันจะให้แกดูพวกเขาตายต่อหน้า ผู้หญิงคนนั้นคือคนรักของแกใช่ไหม?”เลียมยังคงหัวเราะอย่างมั่นใจฮาร์วีย์หายใจเข้าลึก ๆ และขมวดคิ้ว “เลียม มันเป็นปัญหาระหว่างแกกับฉัน ทำไมแกต้องลากคนอื่นมายุ่งเกี่ยวด้วย? เงื่อนไขของแกที่ปล่อยพวกเขาคืออะไร? ผู้อาวุโสไนส์เวลล
“ท่านครับ บางทีมันอาจต้องการให้ท่านเป็นลูกเขยที่ไร้ค่าเหมือนมันด้วย ผมได้ยินมาว่าน้องสะใภ้ของเขาสวยมาก” ลูกน้องคนหนึ่งของเลียมพูดพลางหัวเราะ “เธอยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น!”ใบหน้าของเลียมเยาะเย้ย “ฉันจะไม่ทำ ฉันเป็นอันธพาลมาหลายปีแล้ว ถ้าฉันทำตามขยะไร้ค่านี้และได้เป็นลูกเขยเหมือนเขา ฉันจะต้องเสียชื่อเสียงแน่นอน!”“เจ้านาย ผมได้ยินมาว่าเขาช่วยเตรียมน้ำให้แม่สามีล้างเท้าด้วย” อีกคนหนึ่งบอก “เขาไม่เคยได้สัมผัสมือภรรยาเลยตลอดในช่วงสามปีที่แต่งงานกัน!”"จุ๊ จุ๊ จุ๊ ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ ฉันยอมรับว่าฉันรองเท้าบูทของฉันสั่นไปหมด!” เลียมกระทุ้งลิ้นของเขาด้วยความประหลาดใจ “ฉันอยากถามจริงจัง ฮาร์วีย์ ยอร์ก แกยังเรียกตัวเองว่าผู้ชายอยู่หรือเปล่า? ทำไมแกไม่ถอดกางเกงออกเช็คดูล่ะว่าน้องชายของแกยังอยู่ดีหรือเปล่า? แกมันแค่ขยะ! ชีวิตของแกยังมีความหมายอยู่หรือเปล่า?”ฮาร์วีย์เบื่อเกินกว่าจะโต้แย้งใด ๆ เขากระโดดลงจากสังเวียนและพุ่งเข้าหาเลียมคนของเลียมก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและสร้างกำแพงป้องกันไว้ ชายเหล่านี้เป็นนักมวยมาก่อน ๆ ที่พวกเขาจะมาเป็นอันธพาล ดังนั้นพวกเขาจึงมีร่างกายที่แข็งแรง พวกเขาจับ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข