“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นบราเทอร์ไทสัน ผมหมายถึงกำจัดคนโง่คนนี้…” เจครู้สึกสับสนกับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของไทสัน เขารู้สึกว่าไทสันกำลังรู้สึกขุ่นเคืองจากการพูดของเขา แต่ใครเล่าจะต้านทานเงินที่มากขนาดนั้นได้?“คุณจะบอกว่าผมโง่อีกแล้วเหรอ?” ไทสันร้องเสียงหลงขณะที่เขาเตะเจคให้ล้มลงกับพื้น“เจ้าเซอร์เรย์คนนี้บอกฉันว่าเป็นคนโง่ ฉันจะจัดการแยกขามันออกจากกันซะ!” ไทสันตะโกนสั่งลูกน้องของเขาเขาจัดการเจค“บราเทอร์ไทสัน ผมไม่ได้บอกว่าคุณโง่! ผมมาที่นี่เพื่อให้เงินคุณจริง ๆ !”“บราเทอร์ไทสัน ผมจะให้มากกว่านี้!”“ทำไม บราเทอร์ไทสัน? ทำไมกัน?!"“อ้ากก!”เจคกรีดร้องขณะที่เขารู้สึกเจ็บขาอย่างรุนแรง เขาเป็นเด็กร่ำรวยที่ได้รับการปรนนิบัติอย่างดี เขาไม่รู้เลยว่าจะต้องเจอกับเรื่องแบบนี้เจคเป็นลมหลังจากนั้นไม่กี่วินาที“ท่านครับ เขาหมดสติไปแล้ว” ไทสันบอกด้วยความเคารพขณะที่เขาเดินไปหาฮาร์วีย์“ตอนนี้คุณรับงานจากใครก็ได้อีกแล้วเหรอ? ผมทำให้คุณเป็นคุณในวันนี้เพื่อช่วยผมจัดเตรียมทรัพยากร ไม่ใช่ให้ไปรังแกคนอื่น หากคุณยังไม่เข้าใจ ผมก็ไม่คิดที่จะแลกเปลี่ยนกับคุณ” ฮาร์วีย์เตือนอย่างจริงจัง“
“ตระกูลบรู๊คมีส่วนร่วมทั้งในธุรกิจที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ผมได้ยินมาว่าพวกเขาเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของเมืองนิอัมมี่” ไทสันพูดอย่างคลุมเครือจากนั้นก็พูดว่า “พนักงานของเราสองคนถูกทุบตีหลังจากที่พวกเขาไปบอกเรื่องการเรียกเงินทุนคืน มันเป็นเรื่องที่เราควรเข้าไปจัดการหรือตอนนี้ควรให้พวกเขาหายไป”“คิดจะล้อเล่นกับยอร์กงั้นหรือ? พวกเขากล้าดีแค่ไหนกัน” ฮาร์วีย์หัวเราะดวงตาฉายแววสนใจ“ตระกูลยอร์กไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะจัดการ ผมได้ยินมาว่าเด็กที่ร่ำรวยจากตระกูลของพวกเขาสนิทกับ เลียม สโตน นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงกล้าทำตัวอวดดีนัก” ไทสันเย้ยหยันเลียม สโตน เป็นอีกหนึ่งอันธพาลในเมืองนิอัมมี่ อำนาจของทั้งเลียมและไทสันนั้นเท่ากัน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรซึ่งกันและกันได้“คุณหมายความว่าเลียมเป็นเบื้องหลังของบรู๊คส์ใช่ไหม? คุณกำลังพยายามบอกผมว่าคุณไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ถามพลางหรี่ตา“ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน แต่เราอาจสูญเสียกำลังคนจำนวนมากถ้าเราเลือกที่จะต่อกรกับพวกเขา ผมจะไม่ลงมือทำหากไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ” ไทสันตอบอย่างประหม่า“สำนักง
บ่ายวันนั้นฮาร์วีย์ได้รับโทรศัพท์จากแมนดี้“ฮาร์วีย์ เพิ่งได้รับเงินโอนงวดแรกของจากยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ฝากขอบคุณมิสซาเวียร์ด้วยนะคะ” แมนดี้ร้องขอด้วยน้ำเสียงของเธอที่มีความสุข“ฮะ?” ฮาร์วีย์แทบจะกระโดดออกจากที่นั่ง แมนดี้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาแล้วงั้นหรือ?!“เธอไม่ใช่เพื่อนร่วมชั้นของคุณเหรอ? ฉันอยากจะเลี้ยงอาหารเธอสักมื้อหากเธอว่าง” แมนดี้พูดต่ออย่างร่าเริง“เอาล่ะ เรามาดูว่ามันจะเป็นอย่างไร ผมได้ยินมาว่าปกติแล้วเธอจะค่อนข้างยุ่งมาก” ฮาร์วีย์รู้สึกโล่งใจที่ควาามลับของเขาไม่ถูกเปิดเผยออกมาและปฏิเสธข้อเสนอของแมนดี้อย่างระมัดระวัง พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้หญิงสองคนนั้นกลายมาเป็นเพื่อนกัน“โอ้ คืนนี้ผมคงจะกลับบ้านดึกนะครับ ผมมีบางอย่างที่ต้องจัดการก่อน” ฮาร์วีย์บอกกับแมนดี้ในขณะที่เขาวางแผนที่จะไปพบเลียม สโตนในคืนนี้“โอเค… แต่ฉันจะไม่ล็อค…ประตู…” แมนดี้พูดอย่างเขินอายหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด…แมนดี้วางสายทันทีฮาร์วีย์รู้สึกตื่นเต้นหลังจากได้ยินสิ่งที่แมนดี้พูดและหวังว่าเขาจะกลับไปให้เร็วกว่านี้เลียม สโตน เป็นหนึ่งในอันธพาลที่ใหญ่ในเมือง
ในขณะเดียวกันชายสูงวัยที่แต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองยืนรออยู่ในโรงยิมมวยใต้ดิน เขามองสำรวจโดยรอบด้วยสายตาที่ไม่มีความสุข สายตาที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจที่มีต่อสถานที่นั้นใครก็ตามที่เคยดูรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับการพิสูจน์วัตถุโบราณจะจำชายคนนี้ได้ เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกซะจากเชน ไนส์เวลล์ ปรมาจารย์ด้านการตรวจสอบวัตถุโบราณเหตุผลที่เขามาถึงเมืองนิอัมมี่ก็เพื่อให้ฮาร์วีย์พิสูจน์ศิลปวัตถุที่มีค่าอย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของเขาในโรงยิมคืนนี้มีจุดประสงค์เพื่อพบปะกับเพื่อนเก่ามากกว่าที่จะมาทำงานโรซาลีซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เขาตลอดเวลามีสีหน้าไม่พอใจเหมือนกันจากห้องที่พวกเขาอยู่พวกเขาสามารถมองเห็นการแข่งขันชกมวยที่จัดขึ้นบนสังเวียนได้อย่างชัดเจนแม้ว่าพวกเขาจะได้รับการยกย่องว่าเป็นตระกูลที่น่านับถือ แต่โอกาสเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับพวกเขา ในฐานะที่เป็นตระกูลที่รู้จักกันดีในด้านของวัตถุโบราณจึงมีบ้างที่จะต้องเกี่ยวข้องคนที่ค่อนข้างไร้ศีลธรรมเมื่อต้องถูกบังคับให้รอเป็นเวลานาน ความโกรธของผู้อาวุโสไนส์เวลล์ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเอี๊ยด…ประตูห้องวีไอพีเปิดออกเลียม สโตน เข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มประจบ ดว
นี่เป็นช่วงเวลาพิเศษของโรงยิมมวยใต้ดิน จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักมวยและผู้ชมทำให้ผู้ชมมีโอกาสสัมผัสกับการชกมวยบนสังเวียน หากพวกเขาชนะพวกเขาจะได้รับรางวัลเป็นเงินสด อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ดังกล่าวไม่มีทางเป็นไปได้ท้ายที่สุดพวกเขาเป็นเพียงผู้ชมเท่านั้น จะเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะเอาชนะนักมวยอาชีพได้?“ผมจะขึ้นไปลองเล่นหน่อย” ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ และสวมหน้ากาก เขาเหวี่ยงขาเข้าไปในเวทีมวย“ดูเหมือนว่าเราจะมีผู้ท้าชิงที่กล้าหาญและลึกลับที่ต้องการเป็นคนแรกที่ได้ขึ้นชก” ผู้ตัดสินกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง เขาไม่สามารถซ่อนใบหน้าที่ดูถูกเหยียดหยามได้ ทำไมต้องทำตัวลึกลับในเมื่อจะต้องจบลงที่พื้นพร้อมกับเลือดที่กระเซ็นไปทั่วทุกหนทุกแห่ง? ครั้งก่อนผู้ตัดสินก็ได้เห็นมาแล้วว่าชายที่สวมหน้ากากไอรอนแมนที่ขึ้นชกคนนั้นก็จบลงด้วยการถูกเตะจนเลือดอาบอย่างไรก็ตามความจริงที่ว่าคนแปลกหน้าคนนี้เหวี่ยงตัวเองเข้ามาในสังเวียนนั้นน่าประทับใจมากผู้ตัดสินเดินเข้าหานักมวยอีกคนพร้อมกับเสียงกระซิบ “ระวังด้วย ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนว่าเขากำลังก่อปัญหา อย่าทำให้เราผิดหวัง…”นักมวยตะโกนว่า “ไม่ต้องกังวล
ในขณะที่เขาสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของโรซาลี เลียม สโตนก็แอบดูอยู่ข้าง ๆ เขาไม่สามารถที่จะเพิกเฉยต่อความรู้สึกที่ว่าโรซาลีอาจมีความสัมพันธ์พิเศษกับผู้ชายที่เพิ่งปีนขึ้นไปบนสังเวียน เมื่อคิดเช่นนี้เขาก็เกิดความหวังที่จะได้เธอมาเป็นของตัวเองไม่มีใครสังเกตเห็นเลียม สโตนที่แอบส่งข้อความทางโทรศัพท์ของเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเสร็จแล้วเขาก็เหลือบมองไปที่โรซาลี หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนคืนนี้สาวสวยคนนี้จะเป็นของเขา…นอกเวทีมวยไทสันยืนอยู่ในฝั่งผู้ชม ฮาร์วีย์คงเสียสติไปแล้ว การเผชิญหน้ากับเลียม สโตนด้วยตนเองเพื่อทำข้อตกลงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสิ่งที่เขาพยายามทำในตอนนี้ บางทีฮาร์วีย์อาจไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘รนหาที่ตาย’…ในเวทีมวยฮาร์วีย์พันหมัดด้วยผ้าพันสีขาว สีหน้าของเขาเป็นธรรมชาติและไม่มีความกังวลใด ๆ คู่ต่อสู้ของเขาเผยรอยยิ้มขบขัน “พี่ชาย ถ้าฉันเป็นคุณตอนนี้ฉันจะขอความเมตตาและออกไป คุณไม่ต้องมาประลองหมัดของฉันหรอก ฉันควบคุมไม่ได้หรอกนะว่าจะหมัดหนักแค่ไหน มันน่าเสียดายจริง ๆ ถ้าคุณถูกทำร้ายจนตายเพียงเพราะอยากดูดีต่อหน้าคนอื่น”ฮาร์วีย์ยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร เขากระดิกนิ้วส่งสัญญาณ
ในขณะที่เขาพูดจบประโยค เลียม สโตนก็ไม่สามารถซ่อนความรังเกียจของเขาได้ นักมวยที่เพิ่งถูกฮาร์วีย์ล้มลงนั้นความจริงแล้วเป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงในโรงยิมแห่งนี้เคยชนะการแข่งขันติดต่อกันถึงสิบครั้ง แม้ว่าเขาอาจจะไม่แข็งแกร่งที่สุด แต่ทักษะของเขาก็อยู่ในระดับสูงอย่างแน่นอนการเอาชนะเขาได้นั้นถือเป็นความท้าทาย“มิสไนส์เวลล์ คนต่อไปไม่ใช่นักมวยธรรมดา คุณมีอะไรจะพูดกับผมไหม?”เลียม สโตนหันไปมองโรซาลีใบหน้าของโรซาลีซีดเซียวราวกับแผ่นกระดาษ เธอเม้มปากแน่นและตอบว่า “เลียม สโตน ลูกน้องของคุณเพิ่งแพ้การแข่งขัน…”“ถูกต้อง เด็กของผมเพิ่งแพ้ไป แต่เนื่องจากผมต้องการให้คุณสนุกกับการเวทีมวยของผม ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง” เลียม สโตนยิ้มกว้าง “แล้วเรื่องนี้ล่ะ? ถ้าคุณอยากจะบอกว่าหยุดก็ควรบอกในเวลาที่เหมาะสม หรือไม่ก็ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…”เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรออก “ไปหาคนที่มีฝีมือมา ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่วีไอพีของเรารู้จักดังนั้นจงฉลาดให้มาก!”ในขณะที่เขาพูดสองคำสุดท้ายเขาก็ยิ้มกว้างให้กับโรซาลีอีกครั้งเธอฝืนยิ้ม แต่สายตาที่จ้องมองไปที่เวทีมวยนั้นเต็มไปด้วยความกังวลบนเวทีมวย
“นั่นก็เป็นไปได้ ย้อนกลับไปตอนที่ผมอยู่ในเมืองหลวง ผมเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ปรมาจารย์ด้านนี้ต้องได้คลุกคลีอยู่ในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้มาเป็นเวลานาน” เชนตอบพร้อมหัวเราะเบา ๆ “พวกเขาอาจจะไม่ดีเท่าที่ได้ระบุไว้ในนิยายศิลปะการต่อสู้ แต่การที่คน ๆ หนึ่งฆ่าผู้ชายเป็นร้อยได้นั้นไม่ใช่แค่ตำนาน”ใบหน้าของเลียม สโตน เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น ยิ่งความสนใจของเชนเพิ่มขึ้นเลียม สโตน ก็ยิ่งอับอายมากขึ้นเท่านั้นโรซาลีไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทั้งสองพูดได้ จิตใจของเธอปลิวล่องลอยออกไปแล้วผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา! แม้แต่นักมวยที่น่ากลัวทั้งสองคนก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ เขาไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถอย่างแน่นอน ถึงกระนั้นเขาก็เต็มใจที่จะกลายเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์และปล่อยให้ทุกคนในเมืองเย้ยหยันเขา ทำไมกัน?เป็นเพราะผู้หญิงจริง ๆ หรือ? แต่เขาไม่ได้สัมผัสมือภรรยาเลยแม้จะแต่งงานกันมาสามปีแล้วไม่ใช่หรือ?ความคิดของโรซาลีสับสนวุ่นวาย เธอไม่เข้าใจตัวเองเมื่อสังเกตเห็นความเขินอายที่เพิ่มขึ้นของเธอและหน้าแดง ๆ บนใบหน้าของเธอ เลียม สโตนก็เดือดดาลด้วยความโกรธ ในตอนแรกเขาต้องการโอ้อวดเธอจนถึงขั้นขู่ว่าจะเอาชีวิตของฮาร
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข