CHAPTER 11พิสูจน์ผี 2 “ตอนนี้นะครับเราก็เข้ามาสู่ด้านในกันแล้ว ฝั่งนี้ที่เรากำลังเดินอยู่เป็นโถงทางเดินของบ้าน ส่วนมุมด้านขวาเป็นห้องนั่งเล่น ถัดเข้าไปอีกจะเป็นห้องครัว…” เสียงผู้ดำเนินรายการดังสะท้อนก้องไปมาในตัวบ้านซึ่งมีสภาพน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าบรรยากาศด้านนอกหลายเท่าบริเวณด้านในมีเพียงเฟอร์นิเจอร์ผุพังไม่กี่ชิ้นกระจายตามมุมต่าง ๆ อย่างไม่เป็นระเบียบ เถาไม้เลื้อยชอนไชเข้าสู่ด้านในของพื้นที่ผ่านกรอบหน้าต่างบานกระจกซึ่งแตกละเอียด รากไม้ยึดเกาะเลาะเลื้อยตั้งแต่ผนังด้านข้างลามขึ้นสูงจวบจรดเพดาน ส่งผลให้บ้านทั้งหลังมองดูเหมือนกำลังถูกธรรมชาติดูดกลืน ทุกฝีย่างก้าวของทุกคนดังสะท้อนก้องไปมา ลำแสงของไฟฉายสาดส่องอย่างไร้ทิศทางตามแต่ผู้ถือต้องการใช้สายตามองไปยังตำแหน่งใด ความมืดสลัว และแสงจันทร์ซึ่งลอดผ่านหน้าต่างเข้าตกกระทบกับสิ่งต่าง ๆ ทำให้เกิดภาพเงาดำขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง และภาพซึ่งปรากฏไม่ชัดเจนย่อมทำให้จินตนาการของมนุษย์บังเกิดจินตภาพอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงจากการเดินแบบเว้นระยะห่าง บัดนี้ทุกคนต่างขยับเคลื่อนเข้าใกล้โดยไม่ได้นัดหมาย กระทั่งได้ยินบทสนทนาพึมพำระหว่
CHAPTER 12เด็กดอยตาขาวครึ่งชั่วโมงต่อมาเพราะเป็นร้านที่เปิดโต้รุ่งเพื่อรองรับลูกค้ายามดึก ร้านราดหน้าเจ้าประจำจึงยังคงมีลูกค้าเนืองแน่นไม่ต่างจากเดิมแม้เวลาจะล่วงเลยผ่านค่อนคืนไปแล้วก็ตาม เสียงเจ้าของร้านยังคงบ่นล้งเล้งอยู่กับลูกจ้าง แสงจากหลอดไฟนีออนก็ยังสว่างจ้าแสบตาราวกับทำการเปลี่ยนหลอดใหม่ในทุกเดือน กระทั่งหน้าตาอาหารแต่ละจานก็ไม่ต่างไปจากที่เคยกิน ทว่าคนกลุ่มหนึ่งที่มุมร้านรู้สึกว่ารสชาติราดหน้าร้านดังในย่านนี้ไม่อร่อยเหมือนเช่นทุกทีสองคนในเจ็ดคนที่นั่งกินไปคุยไปอย่างได้อรรถรสเห็นจะมีแค่เพลิงกับไฉซึ่งกำลังส่งเสียงพากย์บอลลีกอังกฤษที่ถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ ขณะที่สมาชิกร่วมคณะคนอื่นบ้างก็เขี่ยอาหารในจาน บ้างก็นั่งจ้องกันไปมา ก่อนใครสักคนจะโพล่งขึ้นหลังจากเงียบเสียงกันอยู่นาน “พวกมึงเห็นใช่ไหม?” “กูเห็น” “กูด้วย” “เราก็เห็น” “ไร้สาระ” “…” “กูไม่เห็นเหี้ยอะไร พวกมึงตกใจนกมันบินก็แค่นั้น” เพลิงเอ่ยในข้อเท็จจริง แต่เพราะการค้านสายตาของทุกคนบ่งชัดว่าเห็นต่าง เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเสริม “ผีมีจริงท
CHAPTER 13เตียงเดียวกันความอึดอัดบางชนิดที่เกิดขึ้นทำให้หนึ่งในสองคนเป็นฝ่ายทำลายความเงียบด้วยการวกกลับเข้าประเด็นเดิม“ขอนอนด้วยสักคืน สัญญาว่าเราจะไม่กวนเพลิง” ตากลมโตกะพริบปริบในสีหน้าร้องขอความเห็นใจ ก่อนจะเริ่มหันมองซ้ายขวาด้วยความหวาดระแวงอีกหน “คืนนี้เรากลัวจริง ๆ”“มันไม่มีอะไร คิดกันไปเอง” เพลิงพยายามปลุกปลอบอย่างใจเย็น ทว่าคนตรงหน้าก็กลับขยับเข้าประชิดตัว คว้ามือเขาขึ้นเขย่ารบเร้าเป็นจริงเป็นจัง“เรานอนไม่หลับ เปิดไฟนอนก็ไม่หลับ”“…”“นะ ๆ เรานอนบนพื้นก็ได้”“…”“จะไม่กวน ไม่เสียงดัง จะไม่ปลุกด้วย”“…”“สงสารหน่อยเราหน่อยสิ”“…”“เพลิงใจร้ายกับเราแบบนี้ได้ยังไง?”“…”เป็นอีกครั้งที่เพลิงต้องรู้สึกใบ้กิน เมื่อเจอเข้ากับไม้ตายของยายเด็กดอยตัวดีที่จู่ ๆ ก็ตั้งท่าเป่าปี่ขึ้นมาดื้อ ๆ ตากลมโตคลอหน่วยด้วยหยาดน้ำใสค้อนมองราวกับจะประชดอยู่ในที“ห้องนั้นเงียบมาก แถมนอนไปนอนมาเราก็กลัวอะไรมาดึงขา”“…”“นอนไม่หลับ”“…”“ทำไมใจดำขนาดนี้?”“…”“เพลิงก็รู้… อยู่ที่นี่เรามีแค่เพลิง”ตอนแรกเพลิงก็ใจแข็งได้อยู่…แต่เมื่อได้เห็นท่าทางเป็นกังวลของคนที่ยกมือขึ้นปาดน้ำตา ประกอบกับการพยายามเบียด
CHAPTER 14จิตปรุงแต่งหลายวันต่อมา การดำเนินชีวิตในสถานที่ใหม่ท่ามกลางผู้คนใหม่ยังเป็นไปอย่างราบรื่น เวลาผ่านไปได้ไม่ทันไรเรนก็มีเพื่อนใหม่ ทั้งที่เป็นเฟรชชีปีหนึ่ง รวมถึงเพื่อนของเพลิงที่อายุเท่ากันก็ด้วย แม้ชายหนุ่มจะไม่ว่างในบางครั้ง เธอก็มีโอกาสได้ออกไปไหนต่อไหนกับคะนิ้งและอาโปบ่อย ๆ โดยไปกันเฉพาะสาว ๆ เท่านั้น “ไอ้เพลิงว่าสัปดาห์ก่อนมันพาเธอไปกินขนมหวานทุกวัน ตอนนี้เชื่อแล้วว่าจริง” คนนั่งตำแหน่งสารถีเอ่ยด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ คะนิ้งเหลียวสายตามองคนนั่งเบาะหลัง “สั่งมาเยอะขนาดนี้จะกินไหวเหรอ?” “เราสั่งไปเผื่อเพลิงด้วย” เจ้าของขนมหวานในถุงพลาสติกให้คำตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เพลิงชอบกินทับทิมกรอบมาก” “อย่าบอกนะว่าถุงนั้นก็ซื้อไปทำให้มันกิน?” นิ้งหมายถึงถุงใส่วัตถุดิบประกอบอาหาร และคนโดนซักก็พยักหน้ารับอย่างพาซื่อ“เราบอกไว้หลายวันแล้วว่าจะทำให้เพลิงกิน” มาม่าหม้อไฟเรียกได้ว่าเป็นอาหารที่เรนมักกินร่วมหม้อเดียวกันกับคนซึ่งอ้างถึงอยู่บ่อย ๆ “เชื่อว่าสนิทกันจริง” นิ้งยังคงยิ้มกว้าง ก่อนจะเปรยต่อด้วยน้ำเสียงแปลกใจ “ว่าแต่วันนี
CHAPTER 15จิตวิทยาเที่ยงคืน “จะกลับแล้ว?” “พรุ่งนี้มีเรียน จะอยู่ทำไม?” “พูดซะกูรู้สึกผิด” “กูตั้งใจให้รู้สึกผิด” “จ้ะ” “หึ” เพลิงหัวเราะกับการตอบกลับด้วยนิ้วกลางของเติร์ก ร่างสูงวาดขาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์โดยยังคงโต้สนทนากับกลุ่มเพื่อนซึ่งนั่งอยู่ในพื้นที่ของร้านนั่งชิลล์ที่มีระยะห่างเพียงฟุตพาทขวางกั้นเท่านั้นบทสนทนาส่วนมากไม่พ้นคำแซวที่เพลิงหน่ายจะต่อปากต่อคำ แต่สายตาซึ่งมองลอดผ่านกรอบแว่นของใครคนหนึ่งที่กำลังยิ้มมุมปากอย่างคนช่างสังเกต ก็ทำเอาเขาอยากจะเดินกลับไปตบหัวมันสักที “แปลกว่ะ ช่วงนี้กลับห้องเก๊งเก่ง” เทมป์ยิ้มหวานนั่งเท้าคางมองด้วยสายตารู้ทัน “แถมได้สาวก็ไม่เอา” เพลิงเปิดหน้ากากหมวกกันน็อกส่งเสียงตอบกลับว่า “เสือก”อย่าว่าหยาบคายเลย เพื่อนเขามันเสือกเก่งจริง ๆแต่ไม่ใช่แค่ตัวขี้เสือกแบบเทมป์ที่ขยันทำตัวสอดรู้ ครั้งนี้ไฉก็ส่งสายตาตั้งคำถามด้วยเช่นกัน“กลับจริง? รีบไปไหนวะ?” “ช่วงนี้กูนอนไว” เพลิงให้คำอธิบายที่คิดมาแล้วเป็นอย่างดี แต่เสียงของเทมป์ก็สวนกลับ
CHAPTER 16ดาวภาค วันต่อมา เช้าที่ผ่านมาเพลิงนำเรื่องความฝันของเรนไปเล่าให้กลุ่มเพื่อนฟังโดยไม่ได้คิดอะไร ทว่าเพื่อนเขาต่างพากันหน้าซีดเป็นไก่ไหว้เจ้าที่ และลงมติว่าควรไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับสิ่งที่มองไม่เห็นเป็นการเร่งด่วน ทั้งที่ไม่มีใครรู้ว่ามี ผี ตามกลับมาจริงหรือไม่ด้วยซ้ำไปเพลิงไม่เชื่อแต่ไม่อยากขัดศรัทธา และหากทำให้คนบางคนหายหวั่นวิตกได้จริงก็นับว่าเป็นเรื่องดี… หลังจากหมดตารางเรียนในคาบเช้า ทุกคนจึงเคลื่อนขบวนไปที่วัดซึ่งอยู่ในละแวกใกล้กับมหา’ลัย และหลังจากปล่อยนก ปล่อยปลา กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลเสร็จเรียบร้อย ชาวคณะก็แวะกินส้มตำเป็นอาหารกลางวันใช้เวลาสนทนาระหว่างมื้ออาหารไปพร้อมกันคนรับหน้าที่ตอบคำถามมากที่สุดคงไม่พ้นเรนซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่มีชอปคณะสวมทับชุดนิสิตเหมือนคนอื่น “หรือมันเป็นการเบิกเนตรวะ?” เติร์กตั้งข้อสันนิษฐานกับความฝันที่ได้รับฟัง ก่อนใครคนหนึ่งจะแย้งเสียงในทันที “กูว่าแค่เก็บมาคิดมาก” “ไอ้ไฉพูดถูก” เพลิงดีดนิ้วเสียงดังพยักหน้าเห็นด้วย เขาอยากจะรำถวายคนที่ว่าให้รู้แล้วรู้รอด อย่างน้อยก็ม
CHAPTER 17คำทำนายตอนเย็น “ทำไมต้องมาที่นี่ด้วย น่าขนลุกออก” “ไอ้เติร์กบอกรุ่นพี่แนะนำมา” “มาทำไม?” “จะได้รู้ว่าเธอมีผีตามจริงไหม” “…” คนฟังถึงกับเงยหน้ามองเจ้าของคำขยายความ ผิวหน้าซีดเผือดเริ่มเผยให้ได้เห็นถึงความกังวลใจ เพลิงไม่ต่อความยาวสาวความยืด พยักหน้าเรียกหญิงสาวให้เดินเข้าสถานที่ตรงหน้าไปด้วยกัน แต่เรนก็ยังรีรอ กวาดสายตามองไปรอบตัวด้วยใจไม่เป็นสุข “เร็ว ๆ” ร่างสูงที่เดินนำอยู่ด้านหน้าเร่งเสียงเรียก “ถ้ามืดจะน่ากลัวยิ่งกว่านี้” เพลิงเก่งอยู่แล้วเรื่องขู่ให้กลัว “ไม่กลัวผีหรือไง?” “จะพูดทำไม?” ทันทีทันใดคนตาขาวก็รีบเร่งฝีเท้าเดินตาม มือผอมบางเกาะเข้าที่แขนของคนซึ่งมาด้วยกันในทีท่าหวาดระแวงด้านหน้าของทั้งคู่คือบ้านไม้ยกใต้ถุนสูงในสภาพกลางเก่ากลางใหม่โอบล้อมด้วยสุมทุมพุ่มไม้ กิ่งก้านสาขาของไม้ใหญ่กับเถาวัลย์ไม้เลื้อยเข้ายึดเกาะปกคลุมตัวบ้านจนมองดูรกครึ้ม ช่วงเวลาอาทิตย์อัสดงที่กำลังจะมาเยือนในไม่ช้า ยิ่งขับให้ภาพที่ปรากฏแก่สายตาทวีความน่าประหวั่นพรั่นพรึงเพราะเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ลึกเ
CHAPTER 18ผีผลัก วันต่อมา ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นในจังหวะที่ร่างสูงผุดกายลุกขึ้นบิดขี้เกียจพอดิบพอดี เสียงอ้อแอ้ของใครสักคนที่ด้านนอกส่งผลให้คิ้วหนาเลื่อนขมวดเข้าหากัน และเพียงบานประตูเปิดออก ร่างผอมบางอ่อนระทวยก็ถูกส่งตัวให้เพลิงรับไม้ต่อในทันที “เพื่อนมึงเมา” อาโปอธิบายสถานการณ์ตรงไปตรงมา ก่อนคะนิ้งที่ยืนอยู่ข้างกันจะยกนิ้วขึ้นสาบาน “กินไปแค่นิดเดียว กูไม่ได้พูดโกหกเลยจริง ๆ” “ไหนว่าไปกินขนม?” ร่างสูงสลับสายตามองระหว่างคนในอ้อมแขนที่บัดนี้ยืนทรงตัวแทบไม่อยู่กับอีกสองสาวซึ่งอยู่ในอาการปกติ จากสภาพของเรนที่เพลิงได้เห็น ทั้งสามคนคงไม่ได้ไปหาอะไรกินที่ละแวกถนนเลียบชายหาดเหมือนเช่นทุกที แต่คงพากันไปกินอย่างอื่นเสียมากกว่า “พวกกูกินแค่เหล้าปั่นนิดเดียว แต่เพื่อนมึงคออ่อนมากอะเพลิง เพราะฉะนั้นกูสองคนไม่ผิด” คะนิ้งทำหน้าปั้นยากรีบปัดตกความรับผิดชอบ “แดกนิดเดียวจริง ๆ” อาโปขยายความเพิ่มเติม ส่งต่อกระเป๋าของคนเมาให้กับผู้ปกครองส่วนตัว “มึงจัดการต่อด้วย กูต้องรีบกลับ ม้าโทรตามแล้ว”
SPECIAL 3สัญญาใจ 3 สิบสองปีก่อน “ฮึก!” “กลับบ้านได้แล้ว ถ้าเธอยอมกลับ เราจะปั่นจักรยานให้ซ้อนทุกวัน” “เพลิงขี้โม้ ฮึก!” “เราใจดี” เด็กหญิงตัวน้อยสะอึกสะอื้นอยู่บนชิงช้าซึ่งไร้การกวัดแกว่ง โดยมีเด็กชายวัยเดียวกันยืนใช้ปลายเท้าเขี่ยดินเล่นอยู่ที่ด้านหน้า บริเวณรอบด้านเต็มไปด้วยเครื่องเล่นมาตรฐานที่สนามเด็กเล่นทั่วไปพึงมี ตอนนี้เป็นเวลาเกือบพลบค่ำ เด็ก ๆ พากันกลับเข้าบ้านหมดแล้ว เหลือเพียงสองคนเท่านั้นที่ยังคงสนทนากันเพียงลำพัง เด็กชายรู้ดีว่าหากเขาไม่พาเพื่อนกลับบ้านก่อนค่ำมืดจะต้องโดนผู้เป็นแม่ดุ แต่เพราะอีกฝ่ายยังคงมีคราบน้ำตาปรากฏบนใบหน้าจึงอดทนรออย่างใจเย็น “จะค่ำแล้ว เดี๋ยวน้าศรีเป็นห่วง เธอจะโดนดุ และเราก็จะโดนแม่ตี” เสียงใจดีพยายามเอ่ยถึงบทลงโทษที่ทั้งคู่อาจได้รับหากมัวเถลไถลไม่ตรงต่อเวลาที่มีการตกลงกับพ่อแม่เอาไว้ แม้สนามเด็กเล่นของหมู่บ้านจะมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดีไม่ต้องกลัวคนนอกเข้าออก อีกทั้งบ้านของทั้งคู่ก็อยู่ไม่ไกลจากสนามส่วนกลาง รวมถึงต่างโตพอจะไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าตา
SPECIAL 2สัญญาใจ 2สิบนาทีต่อมาร่างผอมบางของเรนยืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิม สายตากวาดมองไปยังความคึกคักรอบด้าน เครื่องหน้าหมดจดมียิ้มมุมปากผุดเผยในสีหน้า เพียงคิดว่าเพลิงจะต้องกระดากอายกับจำนวนคนที่เพิ่มมากขึ้นเธอก็รู้สึกขบขันอย่างบอกไม่ถูกหลังจากการแสดงห้องล่าสุดของระดับชั้นจบลง เพียงแค่ร่างสูงคุ้นตาเดินขึ้นเวทีพร้อมกีตาร์ตัวหนึ่งเพื่อทำโชว์คิวถัดไป เสียงกรี๊ดกร๊าดของบรรดาสาว ๆ ต่างก็เริ่มวี้ดว้ายกระหึ่มลั่นไปทั่วทั้งลานอเนกประสงค์ด้านหน้าเวทีเรนไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเสียงที่ได้ยิน รวมถึงไม่แปลกใจว่าเหตุใดจำนวนคนถึงแห่กันมายืนมองแน่นขนัดไปหมด เพื่อนสนิทของเธอเป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียนเรื่องนี้หญิงสาวไม่เถียง แต่ตอนนี้คงมีแค่เธอคนเดียวที่กำลังหัวเราะกับท่าทีผิดปกติไปจากเคยของคนที่ว่าสายตาของเพลิงกวาดมองไปโดยรอบในจังหวะที่หย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ซึ่งมีการเตรียมไว้กลางเวที ก่อนสายตาที่ว่าจะจบลงยังตำแหน่งที่เรนกำลังยืนกอดอกมอง“สวัสดีครับ”“กรี๊ด!!!”“พี่เพลิง!!!”“ว้าย!!!”เพียงเสียงคุ้นหูทักทายผ่านไมโครโฟนซึ่งเสียบอยู่บนขาตั้งในระดับพอดีกับริมฝีปาก เสียงวี้ดว้ายของสาว ๆ ก็ตอบรับด้วยเสียงกระหึ
SPECIAL 1สัญญาใจ 1 หลายปีก่อน “เพลิงจะเขินอะไร?” “ไม่เขินได้ไง? คนทั้งโรงเรียน” “รุ่นน้องกรี๊ดเพลิงกันทั้งนั้น ไม่เห็นต้องอาย” “อาย” เพลิงพยักหน้ารับไม่กระดากแม้แต่นิด “เธอลองขึ้นไปร้องเพลงแล้วมีคนเป็นพันนั่งมองอยู่ข้างล่างเวทีดูไหม?” “ทำไมป๊อดงี้? ตัวก็ตั้งโต” “มันใช้คำว่า ‘ป๊อด’ ได้ที่ไหน?” ร่างสูงในชุดนักเรียนยกแขนขึ้นปาดเหงื่อซึ่งชื้นผ่านใบหน้า ท่ามกลางผู้คนซึ่งเดินขวักไขว่ ท่ามกลางเสียงดนตรีสดวงปัจจุบันกำลังบรรเลงอยู่บนเวทีกลางของโรงเรียน สองหนุ่มสาวยืนปรับทุกข์ห่างออกมาทางด้านหนึ่ง “ถ้าเราขึ้นร้องเพลงแทนเพลิงได้ก็คงทำไปแล้ว” คนตัวเล็กทำทีตบเข้าที่อก “ถ้าเป็นเราไม่อายหรอก” “เธอก็พูดได้” เพลิงหรี่ตามองอย่างไม่ศรัทธา แค่จะคุยกับเพื่อนคนอื่น เจ้าตัวยังต้องคอยให้เขาเป็นสะพานเชื่อมอยู่เรื่อย เมื่อโดนสายตาสบประมาทของชายหนุ่มหลุบมอง หญิงสาวในชุดนักเรียนก็ทำทีเปลี่ยนเรื่อง “เพลิงเป็นตัวแทนห้องนะ ทำหน้าที่หน่อยสิ ใจกล้า ๆ หน่อย” “ใครจะเก่งเ
CHAPTER 61ฝันละเมอ 4หนึ่งชั่วโมงต่อมาร้านขนมหวานร้านเดิมยังคงมีคนต่อคิวซื้อจนหางแถวยาวออกไปด้านนอกตัวร้าน เพลงที่เปิดคลอสร้างบรรยากาศเป็นเพลงภาษาถิ่นเหมือนเช่นทุกครั้ง กระทั่งลูกค้าก็ยังคงเป็นหน้าเดิม ๆ สภาพแวดล้อมแสนคุ้นเคยราวกับจะพาใจย้อนไปในวันวาน เหมือนเมื่อวานนี้เองที่สองเพื่อนสนิทในชุดนักเรียนมัธยมปลายพากันแว้นมอเตอร์ไซค์มาตบน้ำตาลเข้ากระแสเลือดในทุกค่ำของทุกวันหลังจากได้กินของหวานปิดท้าย สองหนุ่มสาวลูกค้าขาประจำของร้านยังคงนั่งรอออร์เดอร์ซึ่งสั่งกลับบ้านเป็นปกติธรรมดาอีกสองชุดใหญ่ระหว่างที่เพลิงสนทนาอยู่กับเพื่อนสมัยมัธยมที่บังเอิญเจอ เรนกำลังกวาดสายตามองกระดาษโน้ตหลากสีซึ่งกระจายแปะเต็มพื้นที่ผนังด้านหนึ่งของตัวร้าน โน้ตแต่ละแผ่นล้วนมีข้อความบางอย่างเขียนไว้ราวกับเป็นเครื่องเตือนใจว่าครั้งหนึ่งเคยมาเหยียบเยือนสถานที่ ทั้งจากลูกค้าที่เป็นขาประจำ รวมถึงลูกค้าขาจรก็ด้วยเช่นกันข้อความโดยส่วนมากเป็นการระบุว่าได้มาเยือนกับใคร มีทั้งที่เป็นคู่รัก มีทั้งที่เป็นกลุ่มเพื่อน มากันเป็นครอบครัว กระทั่งคนที่คล้ายจะประชดชีวิตโสดเขียนว่ามากินกับ หมา ก็มี“ทำไร?”“หืม?” เรนขานเสียงรับในล
CHAPTER 60ฝันละเมอ 3 ตอนค่ำ ตั้งแต่จำความได้ โต๊ะอาหารที่บ้านของเพลิงไม่ได้มีเฉพาะคนในครอบครัวแต่มีสมาชิกอีกสองคนมาร่วมรับประทานมื้อค่ำด้วยกันเสมอ เว้นแค่ช่วงเช้าเท่านั้นที่เพลิงจะเป็นฝ่ายไปฝากท้องที่บ้านหลังข้างกัน เสียงเจื้อยแจ้วคุ้นเคย รวมถึงการกุลีกุจอเป็นลูกมือหยิบจับทุกสิ่งอย่างของเรนเป็นสิ่งที่เพลิงได้เห็นมาจนชินตา นอกจากจะกระตือรือร้นเป็นปกติ คนที่ทำให้มื้ออาหารดำเนินไปด้วยรอยยิ้มก็คือเจ้าตัว เพลิงเคี้ยวข้าวกร้วม ๆ สลับสายตามองคนนั้นทีคนนี้ทีเพื่อสังเกตท่าทีว่าเป็นเวลาเหมาะสมหรือไม่ที่เขาจะเอ่ยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนออกมาบรรยากาศเป็นไปด้วยเสียงพูดคุยสนุกสนาน เรนกำลังช่วยผสมโรงมีอารมณ์ร่วมอยู่กับยายน้อยและน้าศรี ที่ต่างก็อินกับการก่นด่านางร้ายในละครซึ่งเปิดผ่านทางโทรทัศน์ ที่ได้เห็นไม่ใช่ภาพน่าประหลาดใจสำหรับเพลิง ในที่นี้มีเพียงเขาและพ่อเท่านั้นที่มองหน้ากันเองแล้วส่ายหัวไปมา “พ่อ” ในที่สุดเพลิงตัดสินใจหันมองหน้าบิดา เอ่ยในสีหน้านิ่งสนิท “ผมมีไรจะบอก” คนเดียวที่ว่างพอจะสนทนากับลูกชายถึงกับวางช
CHAPTER 59ฝันละเมอ 2ริมฝีปากอุ่นประทับผ่านลำคอเรียวระหง…เพลิงซุกไซ้ใบหน้าสูดดมกลิ่นกายหอมกรุ่นของคนตัวเล็กที่นอนนิ่งรับสัมผัสแต่โดยดี นัยน์ตาคมเลื่อนมองผิวกายขาวเนียนผุดผ่องเป็นยองใยทุกจุดที่ปลายลิ้นลากผ่าน ค้างนานบริเวณยอดถันสีชมพูหวาน หมดเวลากับการดูดเลียหัวนมสวยสะพรั่งของหญิงสาวนานหลายนาที ขณะที่ปากดูดเม็ดเต่งชูชัน มือหนาก็ขยำนวดเต้าข้างที่ว่างเว้นด้วยความมันมือแต่ละสัมผัสดำเนินไปอย่างเงียบเชียบเพราะสถานที่ไม่เป็นใจ ทว่าทุกวินาทีที่ดำเนินผ่านล้วนเต็มไปด้วยความหวามหวิวในอารมณ์ สายตาของชายหนุ่มหลุบเลื่อนมองตามสัดส่วนโค้งเว้าด้วยประกายตาเร่าร้อนแม้เรนจะกินเข้าไปมากเกินกว่าขนาดตัว แต่บั้นเอวผอมบางกลับไร้ชั้นไขมัน ทั้งยังเว้าสวยมิใช่เพียงแต่เร้าอารมณ์ภายใน ทว่ายังดึงดูดสันจมูกคมให้ไล้ผ่านตามแนวคดโค้ง ริมฝีปากอุ่นกดจูบสลับกับการดูดดึงเนื้อกายผ่องขาวไม่ละสัมผัสแม้แต่วินาที เพลิงชันกายขึ้นนั่ง สองมือคว้าสะโพกคนตัวเล็กขึ้นในระดับเดียวกัน สายตามากด้วยอารมณ์ทอดจับเรือนร่างสุดเซ็กซ์ ตั้งแต่เต้าใหญ่โตที่ประดับด้วยป้านบัวสดสวยขนาดเต็มปากเต็มคำ ทั้งแอ่งสะดือเล็กบนหน้าท้องแบนราบ ร
CHAPTER 58ฝันละเมอ 1 วันต่อมา เชียงใหม่ สองหนุ่มสาวลงเครื่องเหยียบพื้นดินบ้านเกิดตั้งแต่ช่วงเช้าของวันแต่เมื่อถึงบ้าน เพลิงก็ปลีกตัวไปนอนหลับให้เต็มตาสักตื่น เขาตื่นขึ้นอีกครั้งในตอนเที่ยงตรงพอดิบพอดี กว่าจะจัดการตัวเองเรียบร้อยแดดบ่ายก็เริ่มสาดต่ำผ่านกระจกหน้าต่างในตำแหน่งเดียวกับที่สายตามักหันมองเสมอ ทางด้านซ้ายของบ้านเขาเป็นบ้านอีกหลังที่มีขอบรั้วอยู่ชิดติดกัน ประตูรั้วบ้านหลังนั้นเปิดอ้าบ่งบอกว่ามีคนอยู่อาศัย รถญี่ปุ่นรุ่นเก่าของน้าศรีจอดนิ่งอยู่ในโรงจอด แคนาต้นเดิมสะบัดใบพลิ้วไหวตามสายลมซึ่งพัดเอื่อยหน้าต่างบานคู่ของห้องนอนบนชั้นสองเปิดอ้ารับลม ดอกไม้ปลอมที่ประดับรอบขอบหน้าต่างด้านนอกที่เพลิงตกแต่งให้ตามคำเรียกร้องของคนบางคน บัดนี้แห้งกรอบเพราะผ่านลมฝนมาหลายฤดูเพียงความคิดนึกย้อนถึงภาพคนตัวเล็กที่ยืนเท้าสะเอวออกคำสั่งอยู่ด้านล่าง โดยที่เขาต้องเป็นฝ่ายใช้บันไดลิงไต่ปีนขึ้นไปจัดการ เครื่องหน้าคมคายก็ปรากฏยิ้มกว้างเสียงแหวแว้ดของเรน รวมถึงการโต้เถียงด้วยความรำคาญของเขาที่ต่างก็อยู่ในชุดนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายยังคงชัดเจนในความทรงจำ
CHAPTER 57ความลับ 2หนึ่งชั่วโมงต่อมา วันนี้ไม่มีใครเมา… หลังจากจบการล้วงความลับของบรรดาตัวสอดรู้ เพลิงก็เอ่ยปากชวนหญิงสาวกลับห้องในทันทีเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางในช่วงเช้า อีกทั้งตั้งแต่แรกก็ตั้งใจเพียงเพื่อมาแสดงความยินดีกับเจ้าของร้านเท่านั้นจึงไม่คิดที่จะอยู่ต่อ เพราะเป็นละแวกร้านเหล้าซึ่งทำลานจอดรถไว้ที่ซอยถัดไป ทำให้คนเป็นลูกค้าต้องลำบากเดินไปเอายานพาหนะส่วนตัว แต่ตอนนี้มีแค่คนเดียวที่กำลังเดิน…ร่างสูงก้าวรุดไปด้านหน้าได้อย่างคล่องตัวแม้จะมีอีกคนเกาะติดอยู่บนหลังก็ตามที นานตั้งแต่เพลิงจำความได้ หญิงสาวชอบขี่หลังเขาเสมอ ไม่ว่าตอนเด็ก ตอนโต จะเมา กระทั่งว่าไม่เมา เจ้าตัวก็มักร้องขอการอำนวยความสะดวกแทบทุกครั้งไป บรรยากาศยามคืนค่ำดำเนินผ่านอย่างเชื่องช้า ทุกจังหวะก้าวย่างของคนตัวสูงไม่เร่งร้อนเช่นเดียวกัน สายลมพัดเอื่อยปะทะผ่านร่างกาย รวมถึงเสียงเจื้อยแจ้วที่ร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีราวกับจะขับกล่อมความรู้สึกให้ลอยล่องไปไกล หัวใจพองโตเป็นอย่างไรเพลิงมีโอกาสได้สัมผัสหลายครั้งหลายหนในช่วงระยะเวลาให้หลังที่ผ่านมา เรื่องบางอย่างที
CHAPTER 56ความลับ 1 สัปดาห์ต่อมา เพลิงอยากตั้งประเด็นสอบถามในหัวข้อใครเป็นคนคิดงานเลี้ยงอำลาส่งท้ายพี่ปีสี่ งานที่ตั้งแต่เปิดภาคเรียนเขาได้ร่วมสังสรรค์มานับครั้งไม่ถ้วน จะเลี้ยงส่งกันเพื่ออะไรในเมื่อรุ่นพี่ชั้นปีที่ว่าก็ยังเห็นหน้ากันอยู่ทุกวันวันนี้เป็นอีกคืนที่พวกเขาต้องเข้าร่วมสมาพันธ์ขยันอำลาอีกครั้ง บรรยากาศยามค่ำคืนยังคงเต็มไปด้วยแสงสีเสียง ร้านนั่งชิลล์เปิดใหม่ที่คึกคัก และคนแน่นเป็นพิเศษเพราะโปรโมชันฉลองเปิดร้านเป็นร้านของรุ่นพี่ที่เรียนจบไปเมื่อปีก่อน พี่เจ เจ้าของร้านเป็นประธานรุ่นของรุ่นที่ว่า แม้จะมีงานการทำเป็นหลักแหล่งตามใบประกอบวิชาชีพที่เรียนจบไป แต่ก็ไม่วายเกิดอยากเปิดร้านเหล้าเป็นงานอดิเรก จากโปรโมชันที่แปะโชว์แผ่นเบ้อเร่อที่หน้าร้านบ่งชัดว่าคงทำเป็นงานอดิเรกจริง ๆ “ไว้มาใหม่นะ ช่วงนี้มีโปรทุกวันครับน้อง รับรองประทับใจจนลืมไม่ลง” เจ้าของร้านให้การปฏิเสธลูกค้าเพราะไม่มีที่ว่างพอให้ใครเบียดเข้ามาในร้านได้อีกแล้ว เสียงที่ว่าดังต่อเนื่องมาร่วมสิบนาที ร่างสูงซึ่งสวมใส่เชิ้ตเข้ารูปสีขาวกับสแลกส์ดำเรียบกริบเป็นภา