คนล่ะ50%

เมื่อขวัญกลับบ้านแล้ว สิตาไม่มีที่พึ่งจึงไปขอร้องป้าสายให้ช่วย ป้าสายโทรไปรายงานแม่เลี้ยงนวลจันทร์ แม่เลี้ยงนวลจันทร์ก็บอกว่าไม่ต้องช่วยให้สิตาออกได้เลยเพราะว่าเธอไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่แล้ว เพราะตอนนี้เห็นตะวันไม่ได้สนใจอะไรในไร่แล้ว ตอนนี้เป็นปลายฝันเองที่เข้ามาทำแทน ถ้าสิตาอยู่ต่อไปก็จะสร้างความเดือดร้อนให้ปลายฝันป่าวๆ หลังจากวันนั้นมาปลายฝันก็รีบตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะทำกับข้าวแล้วก็รีบออกไปทำงานเพื่อที่จะได้ไม่พบกับพ่อเลี้ยงตะวันอีก ข่าวที่ว่าสิตาเป็นคนของคุณของขวัญถูกปลายฝันไล่ออกดังไปทั่งไร่ คนงานในไร่ที่เคยกลั่นแกล้งปลายฝันกับพ่อเลี้ยงตอนแรกรู้สึกว่า ในไร่เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วจริงๆ ถ้าพวกเขาไม่หันไปทิศทางคุณปลายฝันน่าจะอยู่ยากแล้ว หลายคนจึงหันมาเอาใจคุณปลายฝันอย่างเห็นได้ชัด บางคนหอบหิ้วข้าวของมาฝากช่วงใกล้ตรุษจีน

"ขอบคุณทุกคนที่เอาของมาฝากปลายนะคะ ไม่ต้องมาเอาใจไปถึงเพียงนี้เพียงแค่ทุกคนตั้งใจทำงานปลายก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วล่ะค่ะ ถ้าจะรู้สึกผิดกับเรื่องที่ผ่านมาให้ทุกคนหันมาตั้งใจทำงานนะค่ะ ปลายเองก็จะไม่ต้องถูกแม่เลี้ยงตำหนิที่ดูแลคนงานไม่ได้"

ปลายฝันขอบคุณคนงานและบอกให้คนงานตั้งใจทำงานพร้อมกับเอาแม่เลี้ยงมาบังหน้าด้วย ไร่ตะวันก็เกิดความสงบมาโดยตลอดหลังจากที่แม่เลี้ยงช่วยตะวันจ่ายค่าแรงคนงานแล้วสามเดือนที่คุยกันไว้ ปลายผฝันก็ทำงานต่อโดยใช้เงินส่วนที่ตะวันเคยโอนให้ไว้และค่าเช้าห้องคอนโด ปลายฝันปล่อยให้คนเช่าเป็นรายวัน เพราะเขาไม่อยากผูกมัด แถมได้เงินเร็ว เพราะมีคนผลัดเปลี่ยนมาติดต่อเข้าใช้ตลอด ปลายฝันคิดว่าถ้าหากญาติของแม่เลี้ยงต้องการเข้าพักจะได้ให้ห้องได้ตลอด จึงไม่ให้เช่าเป็นรายเดือน ส่วนโรงแรมที่คุณพิภพยกให้นั้น ปลายฝันไม่ได้โลภขนาดนั้น และเอาเข้าจริงๆปลายฝันเองก็ไม่มีเงินจ่ายพนักงานโรงแรมด้วย ปลายฝันจึงคุยกับคนพลอยไพลินภรรยาของคุณพิภพ ขอแค่ส่วนแบ่งรายเดือนเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเพราะตอนนี้ตนต้องเก็บเงินเพื่อที่จะเอามาจ่ายคนงานในไร่ตะวัน หลังจะปรึกษากันเสร็จคุณพลอยไพลินก็ไปคุยกับสามีจึงสรุปว่าจะให้ปลายฝันรับเฉพาะกำไรต่อเดือนเพียง 50% ส่วนเขาเองจะได้ 50% เพราะเขาต้องเอาเงินของตัวเองมาจ่ายคนงานอยู่ ทั้งสองตกลงกันได้ด้วยดี แม่เลี้ยงเองก็เห็นด้วยกับความคิดของปลายฝันและยิ่งชอบปลายฝันขึ้นไปอีกด้วย เพราะปลายฝันคิดที่จะบริหารไร่ตะวันอย่างจริงจัง ต่อไปนี้เขาคงจะต้องให้ส่วนแบ่งของไร่ตะวันให้ทางด้านปลายฝันแล้ว ไม่อย่างนั้นมันคงไม่พอสำหรับไร่ตะวันเป็นแน่ กำไรจากโรงแรมนั้นก็เพียงน้อยนิดแล้วยังต้องมาแบ่งครึ่งกับพิภพอีกแต่ความคิดของไปฝันก็ดีอยู่ อย่างหนึ่งเพราะตัวเองไม่สามารถที่จะจ่ายเงินกับพนักงานโรงแรมได้ จึงต้องอาศัยเงินจากพิภพและเป็นผลประโยชน์ให้กับพิภพซึ่งในแนวคิดว่าเป็นความคิดที่ดีมากเลย ปลายฝันก็คงจะดูแลไร่ตะวันได้เป็นอย่างดี วันเกิดของตะวันใกล้มาถึงแล้วปีนี้แม่เลี้ยงเป็นคนจัดงานวันเกิดให้ตะวัน แต่เขาก็ตั้งใจที่จะเชิญพิภพมางานด้วยเพราะพิภพไม่ได้มาร่วมงานวันเกิดของตะวันนานแล้ว ผู้เป็นแม่อยากให้ลูกได้มีวันดีดีร่วมกัน จึงจัดงานเลี้ยงให้ใหญ่โต และเชิญผู้ที่มีชื่อเสียงและอิทธิพลมามากมายเพื่อที่จะได้เชิญพิภพมาด้วย

"ตะวันวันเกิดลูกปีนี้แม่จะเชิญพี่มาร่วมด้วยดังนั้นแม่จึงจำเป็นต้องจัดงานใหญ่โตถ้าแกอยากพาของขวัญมาด้วยก็ได้นะแม่ไม่ห้ามหรอก"

แม่เลี้ยงนวลจันทร์พูดขึ้น

"แม่จะมาไม้ไหนครับ ปกติแม่ไม่ชอบของขวัญนี่แต่ทำไมครั้งนี้ถึงอยากให้เขามา หรือเพราะว่ายังไงเขาก็สู้ลูกสะใภ้แม่ไม่ได้หรือ ถึงอยากให้เขามาขนาดนั้น"

ตะวันถามขึ้น

"ป่าวหรอกแม่ต้องการให้แกมีความสุขนะ ทั้งพี่ชายแก่แม่ก็อยากให้พี่ชายแกมาฉลองวันเกิดให้แกบ้าง จึงจัดงานใหญ่โตถ้าผู้หญิงคนนั้นมาก็ไม่แปลกหรอก แล้วแต่แกถ้าไม่อยากให้เขามาก็ไม่เป็นไร"

แม่เลี้ยงพูดขึ้น ตั้งแต่วันที่ของขวัญมาวันนั้นที่ตะวันสงสัยก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะเขาก็วุ่นอยู่กับผับ เพราะช่วงนี้น้ำขึ้นให้รีบตักการท่องเที่ยวภาคเหนือมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากมาย และตอนกลางคืนย่อมมีผู้ที่ชอบเที่ยวกลางคืนอยู่มาก จึงทำให้ตะวันทุ่มความสนใจไปอยู่ที่ผับ เพราะเขาได้ยินหลายที่แล้ว ว่าตำรวจมักลงแต่เขาเฝ้าระวังมาสักพักก็ไม่ได้พบว่าจะมีตำรวจมาที่ผับเขาแต่อย่างใด แต่ช่วงนี้เขาต้องเข้ามาจัดการที่ผับเองแทบทุกวัน เป็นเพราะลูกค้าเพิ่มมากขึ้นแต่เขาไม่ต้องการที่จะเพิ่มพนักงาน จึงต้องมาบริหารงานเองและต้องมาเฝ้าลูกค้าเพราะบางทีก็มีปัญหากันบ้าง เขาเป็นพ่อเลี้ยงต้องออกมาให้พวกลูกค้ารู้ว่าเจ้าของผับคือใคร ลูกค้าจะได้ลดการมีปัญหากัน ซึ่งมันได้ผลจริงๆ ทำให้ช่วงกลางวันพ่อเลี้ยงต้องไปนอนที่ไร่โดยที่ไม่ต้องเข้าไปจัดการในไร่แล้ว เพราะปลายฝันทำแทนแต่เขาก็ไม่มีเวลาพอที่จะไปสืบเรื่องของขวัญ หรือว่าจริงๆแล้วเขาไม่ต้องการอยากรู้ เขาเองก็ยังไม่แน่ใจ หรืองานวันเกิดปีนี้เขาจะชวนของขวัญมาที่ไร่เพราะคุณแม่ต้องชวนผู้ที่มีชื่อเสียงมาอยู่แล้ว และหนึ่งในนั้นน่าจะมีคุณธาวินด้วย หากว่าปลายฝันพูดเป็นเรื่องจริงธาวินกับของขวัญต้องรู้จักกันแน่

"ได้ผมรู้สึกว่าคุณแม่จะมีแผนอะไรหรือเปล่าครับถึงให้ผมชวนขวัญมา"

ตะวันถามขึ้น

"แม่จะมีแผนอะไรล่ะ ไม่คุยด้วยแล้วเดี๋ยวแม่จะเข้าไร่ไปจัดการเรื่องจัดงานก่อนแม่ว่าจะให้ปลายฝันช่วย"

แม่เลี้ยงก็วางสายไป ถ้าของขวัญมาก็ดีเลยทีเดียว เพราะตอนนี้เหมือนขวัญจะสืบหาข้อมูลของพิภพอยู่ เหมือกำลังทำอะไรบางอย่างพยายามที่จะเข้าใกล้พิภพ ทางด้านนี้พิภพเองก็ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนตามน้ำ ยายของขวัญไปยังไงไม่รู้ หรือว่าลูกชายของเขาจะมีปัญหา

"คุณพิภพทำอะไรอยู่หรือคะ"

แม่เลี้ยงถามขึ้นเมื่อลูกชายรับสาย

"โถ่คุณแม่เลี้ยงคงจะลืมไปแล้วว่าลูกคนนี้เป็นลูกถึงขนาดต้องเรียกคุณเลยหรือครับ"

พิภพตอบกลับมา

"แม่ก็นึกว่าลูกประชุมอยู่กับผู้บริหารก็เลยเรียกคุณไปอย่างนั้นแหละ ทำไมตอนนี้ผู้หญิงที่ชื่อของขวัญตามติดแกจังเลยล่ะแกไปแถวไหนก็ต้องเห็นผู้หญิงคนนั้นอยู่แถวนั้น"

แม่เลี้ยงพูดขึ้นและถามทันที

"สงสัยทางบ้านพ่อเลี้ยงตะวันจะไม่เวิร์คละมั้ง ถึงได้ตามติดผมขนาดนี้วั นก่อนผมก็เลยให้พลอยไพลินจัดการไปหนึ่งครั้งตอนนี้ก็ยังไม่วายที่จะติดตามอยู่ ผมว่าต้องหาโอกาสให้ตะวันได้เห็นบ้างแล้วแหละแม่ เพื่อความจริงจะเปิดเผยสักทีนึง เมื่อหลายเดือนก่อนเห็นว่าปลายฝันเคยพูดแล้วครั้งนึง แต่ตะวันก็ได้แต่รู้สึกแต่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องจริงว่าผู้หญิงคนนี้มีสามีอยู่แล้ว แต่ถ้าครั้งนี้ให้เขาเห็นกับตาว่าผู้หญิงคนที่ตัวเองเรียกว่าแฟนกำลังตามตื้อพี่ชายของตัวเองอยู่แล้วตะวันจะรู้สึกอย่างไร"

พิภพกล่าวขึ้น เขาให้พลอยไพลินแค่มาโวยวายเฉยๆไม่ได้อะไรมากมายเพราะอยากให้พลอยไพลินไปจัดการผู้หญิงคนนี้ต่อหน้าตะวันมากกว่าตอนที่ผู้หญิงคนนี้เข้ามายุ่งกับพิภพ

"แบบนั้นก็แล้วไป แม่ยังคิดว่าลูกชายของแม่ทั้งสองจะตาบอดเห็นผู้หญิงคนนั้นดี ทั้งสองคนเสียอีก วันเกิดตะวันมาร่วมงานที่ไร่ด้วยนะแม่จะเชิญคนมาหลายคนเลย"

แม่เลี้ยงนวนจันทร์กล่าวขึ้น

"ได้สิครับแม่ผมอยากไปงานวันเกิดน้องมากทุกปีได้แต่ส่งของขวัญไปให้น้อง ตอนนี้ธุรกิจน้องก็ไปได้ด้วยดี แต่ผมก็อยากบอกว่าเรื่องนี้ต้องยกคนมีความชอบให้กับลูกสะใภ้คนเล็กของแม่เลย เรื่องโรงแรมเขาจัดการได้ดีมากและอีกอย่างคอนโดที่ตะวันโอนให้ปลายฝันปลายฝันก็ปล่อยให้เช่ารายวัน ซึ่งผมคิดว่าน่าจะไม่ค่อยเวิร์คแต่พอลองสำรวจดูแล้วหลายเดือนที่ผ่านมานี่เวิร์คมากมากเลยครับคุณแม่รายได้เยอะกว่าการเช่าคอนโดแบบรายเดือนเสียอีก เพราะการเข้าเช่าคอนโดแบบรายวัน ทำให้ราคาชาร์จขึ้นได้ เมื่อมีคนที่ต้องการมากๆเข้ามาแบบกะทันหัน เราก็สามารถชาร์จราคาขึ้นได้ ผมนับถือความคิดของน้องเลยครับ"

พิภพพูดขึ้น หลังจากได้ศึกษาดูราการขายห้องมาปลายฝันเป็นคนเสนอราคาในการเช่าเอง ส่วนใหญ่ปลายฝันก็จะดูวันและเทศกาลสำคัญและตั้งราคาขึ้นมา ส่วนมากผู้ที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯก็จะมีผลัดเปลี่ยนเข้ามาบ่อยๆจึงทำให้ราคานี้ที่สูง แต่ก็มีคนสู้ที่จะนอนค้างสักหนึ่งคืน ท่าทางด้านปลายฝันมีเงินมากพอที่จะบริหารโรงแรมที่นครพนมเองแล้วบอกเลยว่าน่ากลัวมาก ถ้าผู้หญิงคนนี้ตั้งใจที่จะเล่นอสังหาริมทรัพย์บอกเลยว่า ต้องเป็นลำดับหนึ่งของประเทศเป็นแน่ เขาเองมีเงินจึงเดินได้มาถึงจุดนี้ แต่ผู้หญิงคนนี้มีสมองในทางด้านนี้มากพอ เขาก็อิจฉาตะ วันไม่น้อย ที่ผู้หญิงของตะวันบริหารเงินได้ดีมากส่วนพลอยไพลินของเขาก็เป็นผู้หญิงที่อยู่ข้างกาย ความคิดในเรื่องที่จะบริหารเขาก็ไม่มีเลยสักนิด แต่เขาเองก็รักพลอยไพลินมาก ตอนนี้ได้แต่สนับสนุนน้องชายและน้องสะใภ้ แต่ อย่างแรกก็คือต้องกำจัดมือที่สามเสียก่อน