จู่ ๆ โทรศัพท์ของมาเดลีนส่งเสียงดังขึ้นมา มีสายโทรเข้ามาหาเธอมาเดลีนรวบรวมความคิดของเธอและมองไปยังหน้าจอที่แสดงสายจากปลายทางเป็นเฟลิเป้ที่โทรเข้ามาเฟลิเป้หวังว่ามาเดลีนจะส่งข้อมูลในแฟลชไดรฟ์ให้กับเขา“คุณพ่อครับ ต่อจากนี้ไปวีล่าจะเป็นแม่ของผมใช่ไหม? ผมจะบอกเพื่อนคนอื่น ๆ ได้ไหมว่าแม่ของผมชื่ออ วีล่า ควินน์ เวลาที่เพื่อน ๆ ถามผม” แจ็คสันถามด้วยน้ำเสียงสดใสและไร้เดียงสามาเดลีนมองไปคนที่นั่งตรงข้ามเธอและเห็นเจเรมี่ตักอาหารใส่จานของแจ็คสัน จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างอบอุ่นและพยักหน้า “แจ็ค ไม่ว่าอดีตหรืออนาคต ลูกจะมีแม่เพียงคนเดียว และแม่ของลูกนั่งอยู่ตรงหน้าลูกแล้ว”หลังจากที่เขาบอกแบบนั้น แจ็คสันก็ยิ้มร่าอย่างไร้เดียงสาให้มาเดลีนแววตาของแจ็คสันเป็นประกาย รอยยิ้มหรือท่าทางของเขาช่วยเยียวยาหัวใจที่บาดเจ็บของมาเดลีนได้เป็นอย่างดีแต่ทันใดนั้นเธอกลับคิดอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกปวดใจ กระนั้น ทำให้เธอเริ่มรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาเธอกลัวว่าเธอจะเป็นคนที่จะทำให้รอยยิ้มของแจ็คสันหายไปในอนาคตหากถึงช่วงเวลาที่ชื่อเสียงของเจเรมี่ถูกทำลายและคนในตระกูลวิทแมนทุกคนทำให้ถูกขายหน้านั้น แจ็คสันก็คงจะ
มาเดลีนจ้องมองเจเรมี่อย่างเฉยเมยเมื่อได้ยินแบบนั้น ชายคนนั้นพลิกดูเอกสารในมือช้า ๆ โดยไม่เงยหน้าขึ้น “เกิดอะไรขึ้น?”เคนมองมาที่มาเดลีนอย่างลังเลมาเดลีนเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึงและยิ้มก่อนจะลุกขึ้น “เชิญพวกคุณคุยกันตามสบายเลยค่ะ ฉันจะกลับไปที่แผนกเครื่องประดับอยู่พอดี”“วีล่าเป็นภรรยาของผม ไม่มีอะไรที่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้รู้” เจเรมี่หยุดมาเดลีนไว้เพื่อไม่ให้เธอออกไปเคนพยักหน้าและกล่าวว่า “คุณวิทแมนครับ โครงการในเซียโล่ควอเบย์กับ ZF มีปัญหาติดขัดเล็กน้อย”เจเรมี่ดูรายงานตรงหน้าเขาและถามอย่างเชื่องช้า “โครงการยังไม่เริ่ม แล้วจะเกิดอะไรขึ้นได้?”“เรายังไม่ทันเริ่มสร้าง ก็มีคนแย่งงานไปก่อนแล้ว”หลังจากที่เคนกล่าวแบบนั้น เจเรมี่ก็หยุดพลิกดูเอกสารของเขาเขาเงยหน้าขึ้นพร้อมกับดวงที่แสนลึกลับราวกับมหาสมุทร “ใครแย่งมันไปจากเรา?”เคนพยักหน้า “บริษัทที่ชื่อ ซีมิส พวกเขาเซ็นสัญญากับแผนกที่เกี่ยวข้องของ ZF เมื่อวานนี้”“ซีมิส?” เจเรมี่พึมพำกับตัวเองเบา ๆ“คุณวิทแมน บริษัทของเราจะต้องสูญเสียครั้งใหญ่ ถ้าไม่ได้ทำงานร่วมกัน การเตรียมการที่เราทำในตอนนั้นจะต้องสูญเปล่า”หลังจากที่เคนกล่าวแบ
‘ฉันจะทิ้งแสงรำไรไว้ให้นายในช่วงฤดูหนาวเพื่อเห็นแก่คุณปู่และแจ็ค’‘นี่คือความเมตตาครั้งสุดท้ายของฉันที่มีต่อนาย’สองวันต่อมา ไม่เพียงแต่วิกฤตที่ไม่ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ยังพบว่าหุ้นของบริษัทวิทแมนก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะปิดตัวลงแต่เจเรมี่กลับไม่ได้ดูกังวล ในทางกลับกัน เขาพามาเดลีนกลับมารับประทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์วิทแมนระหว่างรับประทานอาหารเย็นอยู่นั้น โทรศัพท์ของเจเรมี่ก็ดังขึ้นไม่หยุด ครั้งนี้เขารับโทรศัพท์และลุกเดินออกไปข้างนอก ในช่วงเวลนี้แม่ของเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมากเธอวางช้อนส้อมลงด้วยความรู้สึกเป็นห่วงเขาจึงทำให้ไม่อยากทานอาหารต่อ“คุณป้าคาเลน มีอะไรหรือเปล่าคะ?” อีวอนแสดงสีหน้าดูกังวล“จะมีอะไรผิดพลาดได้อีก? มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นกับบริษัทเมื่อเร็ว ๆ นี้ ป้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นพร้อมกัน”“คุณป้าคาเลน ไม่ต้องกังวลนะคะ พี่เจเรมี่มีความสามารถ เขาจะจัดการทุกอย่างได้” ใบหน้าของอีวอนดูชื่นมื่นเมื่อเธอพูดยกยอพี่เจเรมี่“เธอรู้อะไรมาหรือเปล่า? เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ ZF ด้วย ฉันคิดว
“หุบปาก!” เจเรมี่ตะคอกกลับอย่างโกรธจัดอีวอนเงียบลงทันทีด้วยความกลัว เธอเห็นความเย็นชาในดวงตาของเจเรมี่ และไม่กล้าแม้แต่จะหายใจดังเกินไปเจเรมี่เดินผ่านอีวอนนและแม่ของเขาไป เขาเข้ามาใกล้มาเดลีน เมื่อเขาเห็นท่าทางไม่พอใจของมาเดลีน เขาก็ถามอย่างอ่อนโยนว่า “คุณอิ่มแล้วหรือยัง? ถ้าอย่างนั้นเรากลับบ้านกันเถอะ”มาเดลีนลุกขึ้นอย่างช้า ๆ ดวงตาที่เย่อหยิ่งของเธอกวาดสายตามองไปยังอีวอนและแม่ของเจเรมี่ เธอกล่าวขึ้นอย่างช้า ๆ “ฉันไม่อยากกินต่อแล้วล่ะ ฉันจะมีอารมณ์กินอาหารต่อได้ยังไงในเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนพวกนี้”“...” แม่ของเจเรมี่ระเบิดทันที “เจเรมี่ ลูกได้ยินไหม? เธอกำลังพูดถึงฉันด้วยความคิดแบบนั้น!”มาเดลีนยิ้มอย่างเย็นชา “แล้วถ้าฉันพูดกับคุณแบบนั้นล่ะ? คุณคิดว่าฉันจะปล่อยให้คุณรังแกฉันเหมือนกับมาเดลีนเหรอ?”“แก แก…” แม่ของเจเรมี่พูดไม่ออก “วีล่า ควินน์ เธอหมายความว่ายังไง? เธอโกรธเคืองกับความไม่ยุติธรรมที่มาเดลีนได้รับอย่างนั้นเหรอ? โอ้ น่าสนใจจริง ๆ แต่เธอไม่สามารถหยุดฉันให้หยุดด่าทอว่าเธอเป็นนังผู้หญิงเลวได้หรอก! เธอบอกว่าเมเรดิธใส่ร้ายมาเดลีน แต่ถ้าเธอทำตัวดี ๆ ใครจะคิดทำร้ายเธอได้
‘แต่ตอนนี้นายกำลังหาประโยชน์จากความตายของฉันอย่างน่าตลกและยังบอกว่านายรักฉัน?’‘เจเรมี่ นายมันน่าสมเพช’“ผมต้องไปเมืองเอฟในอีกสามชั่วโมง ผมจะอยู่ที่นั้นประมาณสองวัน” เสียงทุ้มต่ำของชายคนนั้นดังขึ้นเมืองเอฟ?ดวงตาของมาเดลีนเป็นประกายระยิบระยับ แล้วเธอก็ตอบเรียบ ๆ ว่า “โอเค”เมื่อเจเรมี่ได้ยินคำตอบที่ไร้ความรู้สึกของเธอ เขาก็เบิกตากว้างขึ้นและเห็นท่าทีที่เย็นชาของมาเดลีนจากการมองผ่านกระจกมองหลังของรถหลังจากที่รถหยุด มาเดลีนลงจากรถและเข้าไปในบ้าน เธอต้องการไปหาแจ็คสัน เธอจำได้ว่าเอโลอิสมารับเขาเมื่อเช้านี้แม้ว่าแจ็คสันจะไม่ใช่หลานชายแท้ ๆ ของพวกเขา แต่เขาก็ยังคงเป็นหลานชายของเอโลอิสกับฌอนในใจพวกเขาเสมอ พวกเขารักเด็กคนนี้จากใจจริงมาเดลีนกลับไปที่ห้องของเธอและคว้าชุดนอนของเธอ เพื่อไปอาบน้ำเมื่อเธอหันหลังกลับ เธอเห็นเจเรมี่มองเธอด้วยสายตาที่สับสน“มีอะไรงั้นเหรอ? คุณจะด่าฉันที่พูดกับแม่แบบนั้นหรือคุณจะมาบอกว่ามาเดลีนอดีตภรรยาของคุณเป็นนังผู้หญิงสาวเลว แล้วยังไงล่ะ ฉันไม่มีสิทธิ์ปกป้องเธอเหรอ?”เธอยิ้มออกมาอย่างประชดประชันอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเธอก็เดินไปประจันหน้ากับผู้ชายที่ยังย
หลังจากที่คาเลนพูดออกคำสั่งของเธอด้วยท่าทางที่ยังดูสง่างาม ทุกคนในห้องก็เงียบลงทันที พวกเขาทั้งหมดจ้องมาไปที่เธอและอีวอนอีวอนแสดงรอยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เธอชอบความรู้สึกที่ได้เป็นศูนย์กลางของความสนใจทั้งหมดนี้มาเดลีนหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นป้าและหลานสาวอยู่ข้างหน้าเธอ “คุณจะรับช่วงต่อเหรอคะ? คุณจะรับผิดชอบอะไรล่ะ? เป็นตัวตลกเหรอ?”คาเลนรู้สึกเสียหน้า “วีล่า เธอคิดว่าเธอเป็นใคร? กล้าดียังไงมาพูดจาแบบนั้นกับฉัน? เธอเป็นแค่ภรรยาของเจเรมี่เท่านั้น เธอมีคุณสมบัติอะไรบ้างที่จะบริหารบริษัทวิทแมน?”คาเลนพูดก่อนจะจ้องไปที่อีวอน “อีวอน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะนั่งตรงนี้ เมื่อเจเรมี่กลับมา ป้าจะบอกเขาว่าตอนนี้เธอได้เป็นเลขาของเขาแล้ว”อีวอนรู้สึกปราบปลื้มเมื่อได้ยินแบบนั้น “ขอบคุณค่ะ ป้าคาเลน!” เธอยิ้มและนั่งลงตรงที่นั่งของมาเดลีน“แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่? ออกไป! ไปจัดการงาน มิสเลย์ดี้ ของเธอสิ เธอไม่ได้มีงานอะไรอยู่ในบริษัทวิทแมนนะ” คาเลนไล่มาเดลีนออกไป จากนั้นเธอก็นั่งตัวตรงและแกล้งทำเป็นกล่าวว่า “เราจะไม่ประชุมกันเหรอ? เริ่มกันเลยสิ”หัวหน้าแผนกต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครฟังคำสั่งของคา
คาเลนจะพอใจกับสิ่งนั้นได้ยังไง? ทว่า เธอไม่มีทางเลือก เธอจึงทำได้เพียงยอมเดินออกไปในทันทีอีวอนขมวดคิ้วและกัดฟันด้วยความโกรธ เธอทำได้เพียงเดินตามคาเลนออกจากห้องประชุม“คุณป้าคาเลนคะ วีล่าทำตัวน่ารังเกียจมาก! ถ้าเธอไม่เคารพฉันก็ไม่เป็นไรเลย แต่เธอไม่แม้แต่จะให้เกียรติคุณป้าต่อหน้าหัวหน้าแผนกพวกนั้น!”อีวอนรู้สึกขุ่นเคืองและเธอก็เริ่มด่าทอให้คาเลนฟัง“คุณป้าคาเลน ในเมื่อพี่เจเรมี่ไม่อยู่ คุณป้าควรจะห้ามปรามวีล่าและสอนบทเรียนให้เธอ! ไม่อย่างนั้นเธอจะคิดว่าเธอเป็นผู้นำของที่นี้”คาเลนเย้ยหยัน “เธอพูดถูก คืนนี้ป้าจะบอกให้เธอได้รู้ว่าใครกันแน่คือผู้นำของที่นี่”ไม่กี่นาทีผ่านไปหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น มาเดลีนได้รับโทรศัพท์จากคฤหาสน์วิทแมน คนที่โทรมาบอกกับเธอว่าอาวุโสวิทแมนต้องการพบเธอในคืนนี้ถ้าเป็นเมื่อหกปีที่แล้ว มาเดลีนคงจะเชื่อว่าอาวุโสต้องการพบเธอจริง ๆ แต่หลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้วได้ชีวิตใหม่นี้มา เธอก็ไม่ไร้เดียงสาอีกต่อไปถึงอย่างนั้น มาเดลีนก็ยังตอบตกลงไปเธอคว้ากระเป๋าและสวมใส่รองเท้าส้นสูงของเธอ ขณะที่เธอเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์คาเลนกับอีวอนได้เตรียมกับดักส
หลังจากที่มาเดลีนพูดอย่างนั้น ใบหน้าของคาเลนก็ซีดลง เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อมองไปยังใบหน้าที่สวยงามแต่เย็นยะเยือกตรงหน้าเธออย่างไม่เชื่อเมื่ออีวอนเห็นใบหน้าซีดเซียวและท่าทางตกตะลึงของคาเลน เธอก็รู้สึกสับสน คำพูดของมาเดลีนทำให้เธอยิ่งรู้สึกสับสบเข้าไปอีก“คุณป้าคาเลน คุณ…”“มะ-เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?” คาเลนไม่สนใจอีวอน เธอเอื้อมมือออกไปและชี้ไปที่มาเดลีนและกล่าวว่า “พูดอีกครั้ง เธอ-เธอเป็นใครนะ?”มาเดลีนเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างไม่ใส่ใจเมื่อเห็นคาเลนพูดตะกุกตะกักด้วยความกลัวเธอเลิกคิ้วขึ้นและจ้องตรงไปที่คาเลน“มันเกิดขึ้นที่นี่ในวันนั้น คุณบอกว่าฉันจะเป็นหนึ่งในตระกูลวิทแมนและแต่งงานกับเจเรมี่ ถ้าคนตายฟื้นคืนชีพได้ ตอนนี้ในฐานะ ‘คนตาย’ ฉันกำลังยืนอยู่ตรงหน้าคุณ เป็นยังไงบ้าง? ตกใจไหม?”“...”คาเลนรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นแรงผิดจังหวะ เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความหวาดกลัว “ธ-ธะ-เธอไม่ใช่ วีล่า ควินน์ หรอกเหรอ!”มาเดลีนแสดงรอยยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “มันก็แค่สามปีเอง ลืมฉันเร็วไปหรือเปล่าแม่สามีที่รัก?”“...” คาเลนพูดตะกุกตะกักขณะจ้องมาเดลีนวีล่าเคลื่อนตัวอันสง่างามของเธอและเดิ
อดัมไม่ได้ให้เชอร์ลี่ย์เข้ามาด้วย ในขณะที่เขาพาทั้งเมเดลีนและเจเรมี่เข้ามาในห้องทำงานตัวเองห้องนั้นกว้างขวางและตกแต่งภายในอย่างหรูหรากว่าที่เห็นในโรงพยาบาล มีอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ดูค่อนข้างล้ำสมัยวางอยู่รอบ ๆเมเดลีนยืนอยู่ข้าง ๆ เฝ้าดูอดัมทำการทดสอบต่าง ๆ กับเจเรมี่ในที่สุดอดัมก็เก็บตัวอย่างเลือดจากเจเรมี่มาวางบนอุปกรณ์เพื่อทำการวินิจฉัยทันทีเธอรู้สึกกระวนกระวายใจในระหว่างที่รอถึงอย่างนั้นเธอก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าสีของตัวอย่างเลือดเจเรมี่ไม่ได้เข้มอย่างที่เคยเป็น ซึ่งนั่นอาจจะเป็นสัญญาณที่ดีประมาณสิบนาทีต่อมา ผลก็ออก“ทุกอย่างโอเคไหมอดัม?” เมเดลีนเอ่ยถาม“ไม่ต้องกังวลลินนี่ อาการผมจะดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน” เจเรมี่จับมือของเธอไว้แล้วปลอบโยน“ถ้าคุณอาการดีขึ้นมากแล้วทำไมวันนั้นคุณถึงทรุดลงกะทันหันแบบนั้นล่ะ?” เธอยังคงเอ่ยอย่างวิตกอดัมไม่ได้พูดอะไร เขาไล่สายตาผ่านรายงานวินิจฉัยสองครั้ง ก่อนจะมีแววตาเป็นประกาย ทว่าในไม่ช้าก็ต้องหายไป“ทุกอย่างดูดีทีเดียว ไม่มีอะไรผิดปกติ” อดัมพูดขณะที่มองเมเดลีน “ไม่ต้องกังวลมากไป เขากำลังค่อย ๆ ฟื้นตัวน่ะ”ได้ยินอย่างนั้นเมเดลีนก็ถอนหายใจโล่งอก
เมเดลีนเองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันที่เห็นใครบางคนลงมาจากรถ “เชอร์ลี่ย์ ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?”เชอร์ลี่ย์ยิ้มอย่างเป็นมิตร “ฉันบอกว่าจะกลับบ้านไม่ใช่เหรอคะ นี่บ้านฉันน่ะ”เมเดลีนชี้ไปที่วิลล่าขนาดเล็กข้างหน้า “นี่คือบ้านของคุณเหรอคะ?”“ค่ะ ที่นี่คือบ้านของฉัน” เชอร์ลี่ย์พยักหน้าอย่างมั่นใจ จากนั้นเธอก็เดินไปหาอดัมด้วยท่าทางจริงจัง “อดัม พี่สาวกลับบ้านทั้งทีทำไมดูไม่มีความสุขเลยล่ะ”ข้อมูลใหม่นั้นทำให้เมเดลีนรู้สึกงุนงง “เชอร์ลีย์ คุณเป็นพี่สาวของอดัมเหรอคะ?”“ค่ะ ฉันเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของเขา เรามีพ่อและแม่คนเดียวกัน” เชอร์ลี่ย์แตะไหล่ของอดัมเบา ๆ แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย “อดัม ทำไมไม่แนะนำเพื่อนให้ฉันรู้จักเลยล่ะ?”อดัมได้ยินอย่างนั้นก็ฝืนยิ้มออกมาเบา ๆ “ฉันไม่จำเป็นต้องแนะนำหรอก เพราะดูเหมือนทุกคนจะรู้จักกันอยู่แล้ว” เขาก้าวไปข้างหน้าราวกับว่าเขาจงใจหลีกเลี่ยงเชอร์ลี่ย์ “เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”เชอร์ลี่ย์ยิ้มอย่างสดใส "ฉันไม่ได้อยู่บ้านมาหลายปี ฉันก็ควรจะได้ชื่นชมบ้านหลังนี้ที่เคยอยู่บ้างนะ”ขณะที่พูดเธอก็เดินนำเข้าไปในบ้านก่อนอดัมเชิญเมเดลีนและเจเรมี่เข้าไป “เข้ามาสิ”เมเดลีนพยักห
อดัมอึ้งไปครู่หนึ่ง “ว่าไงนะ? คุณกำลังพูดอะไร? คุณเป็นใคร? เอวลีนอยู่ไหน?”“จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ? คุณก็เหมือนพ่อแม่ของคุณนั่นแหละอดัม ไร้หัวใจและโหดร้าย” เชอร์ลี่ย์ล้อเลียนอย่างเย็นชาอดัมเงียบไปชั่วครู่ก่อนสุดท้ายเขาจะตอบสนองกลับมา“เธอเองเหรอ” ราวกับว่ามีบางอย่างมากระตุ้นภายในใจเขาตกตะลึงปนประหลาดใจ“ใช่ ฉันเอง” เชอร์ลี่ย์ตอบอดัมอย่างไม่ลังเล “เดี๋ยวเร็ว ๆ นี้เราก็คงได้พบกัน แม้ว่าฉันไม่คิดว่านายจะตั้งตารอฉันหรอกใช่ไหม?”อดัมเงียบไปก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “ทำไมเป็นเป็นเธอที่รับโทรศัพท์? เอวลีนอยู่ที่ไหน? เจเรมี่เป็นยังไงบ้าง?”คนฟังเอ่ยอย่างเย้ยหยัน “ฉันไม่ได้บอกหรอกเหรอ? ว่าเดี๋ยวเขาก็ตายแล้ว ภรรยาที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็จะต้องใจสลายไปด้วยน่ะ”“พูดบ้าอะไรเนี่ย! เขาไม่มีทางตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตได้!” น้ำเสียงของอดัมเอ่ยออกมาด้วยความตื่นตระหนก “ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเล่นแบบนี้แน่!”อดัมรีบวางสายรอยยิ้มของเชอร์ลี่ย์กว้างขึ้นในขณะที่จ้องหน้าจอที่ค่อย ๆ หรี่แสงลงช้า ๆ“เป็นใครกันถึงมาห้ามไม่ให้ฉันเล่นน่ะอดัม? เป็นตัวแทนของคนสองคนนั้นที่ตายไปแล้วเมื่อหลายปีก่อนงั้นเหรอ? ฮึ”เธอเย้ยหยันแ
“เจเรมี่!”เมเดลีนพบว่าไม่สามารถทนรออยู่หน้าห้องน้ำได้อีกต่อไป เธอเปิดประตูแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ สิ่งที่เห็นคือเจเรมี่ที่มีสีหน้าโกรธเกรี้ยวและเย็นชา ขณะที่ร่างของเชอร์ลี่ย์ล้มลงข้างอ่างอาบน้ำเมเดลีนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็รีบเช็คก่อนว่าเจเรมี่เป็นอย่างไรบ้าง แต่ด้วยความมีมารยาทเธอจึงรีบเข้าไปหาและพยุงเชอร์ลี่ย์เธอเพิ่งเอื้อมมือออกไป แต่โดนเจเรมี่จับแขนไว้แน่น เขาจับไว้แรงมากจนเธอรู้สึกเจ็บ“อย่าไปแตะต้องตัวเธอ”เจเรมี่เอ่ยเสียงเย็นสุดขีด“เจเรมี่?” เมเดลีนมองแววตาที่เฉียบคมของเขา “คุณโอเคไหม เจเรมี่? เกิดอะไรขึ้น ทำไมเชอร์ลี่ย์…” “ไม่ต้องกังวลค่ะ คุณนายวิทแมน ฉันไม่เป็นไร” เชอร์ลี่ย์จับข้างอ่างขณะที่ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง เธอชำเลืองมองสายตาเย็นชาของเจเรมี่จากหางตาก่อนจะหันไปยิ้มให้เมเดลีน“เจเรมี่ไม่ต้องการให้คุณสัมผัสฉันเพราะฉันทำเข็มหักโดยไม่ตั้งใจน่ะค่ะ มันคงจะแย่ถ้าคุณได้รับบาดเจ็บเพราะความผิดพลาดที่ไม่เป็นมืออาชีพของฉัน”จากนั้นเมเดลีนก็เห็นเข็มเล็ก ๆ หักยื่นออกมาจากแขนของเชอร์ลี่ย์หญิงสาวดึงเข็มออกมาอย่างใจเย็นโดยที่คิ้วเรียวของเธอไม่แม้แต่จะขยับเข้าหากัน“เจเร
เธอสัมผัสแขนของเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล เพราะอุณหภูมิจากร่างกายของเจเรมี่ไม่เพิ่มขึ้นเลย “อุณหภูมิร่างกายของเขาต่ำเพราะเขาแช่น้ำแข็งน่ะค่ะ” เสียงของเชอร์ลี่ย์ดังขึ้นจากด้านหลังเมื่อหันไปมองเมเดลีนก็เห็นเชอร์ลี่ย์ค่อย ๆ เดินเข้ามาพร้อมเข็มฉีดยาในมือของเธอ“คุณช่วยรอข้างนอกได้ไหมคะคุณนายวิทแมน? ฉันไม่ชอบให้ใครมาเฝ้าเวลาต้องรักษาคนไข้น่ะค่ะ”เมเดลีนเข้าใจและลุกขึ้น แต่เจเรมี่จับมือเธอไว้เสียก่อน“อย่าไปนะลินนี่”“ไม่เป็นไรเจเรมี่ ให้เชอร์ลี่ย์ฉีดยาให้คุณแล้วคุณจะไม่เป็นไร โอเคไหม?” เมเดลีนเอ่ยราวกับว่าเขาเป็นเด็ก ก่อนจะปล่อยมือ“ขอบคุณนะคะ เชอร์ลี่ย์”“ด้วยความยินดีค่ะ ฉันยินดีที่ได้ช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือค่ะ” เชอร์ลี่ย์ยิ้มเล็กน้อยเมเดลีนได้ยินอย่างนั้นก็ไม่คิดมากก่อนจะเดินออกไปเธอมองเจเรมี่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนปิดประตู เห็นแววของเขาเริ่มมีสีแดงจาง ๆเขากำลังมองเธออย่างอ้อนวอนจู่ ๆ เมเดลีนก็รู้สึกว่าอยากจะเข้าไปอยู่ข้าง ๆ เขา แต่เชอร์ลี่ย์ก็หันกลับมาตรวจสอบว่าเมเดลีนออกไปจากห้องน้ำหรือยังตอนนั้นเองที่เมเดลีนเห็นรูปร่างสมส่วนของเชอร์ลี่ย์ซึ่งเปียกโช
เมเดลีนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งขณะที่ชำเลืองไปมองประตูห้องน้ำที่ปิดแน่น“อีกนิดเดียวมันก็จะจบแล้วเจเรมี่ อดทนอีกนิด“คุณจะปลดปล่อยความเจ็บปวดได้เหมือนที่ผ่านมาไง“ฉันเป็นหมอของคุณ แต่ฉันก็เป็นเพื่อนคุณด้วย ฉันช่วยคุณได้ อา…”เมเดลีนได้ยินเสียงของเชอร์ลี่ย์ดังออกมาไม่หยุดจนกระทั่งเธอกระซิบด้วยน้ำเสียงลุ่มหลงเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นเหตุการณ์ภายในห้องน้ำก็เงียบลงพนักงานมองไปที่ห้องน้ำด้วยสายตาแปลก ๆ ก่อนที่จะหันไปพูดกับเมเดลีน“ผมเอาน้ำแข็งไปไว้ในห้องน้ำหมดแล้วครับ คุณนายวิทแมน ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมติดต่อเราได้เลยนะครับ”แล้วเมเดลีนก็ได้สติกลับคืนมาสู่ความจริง “ขอบคุณค่ะ”“ด้วยความยินดีครับ” พนักงานยิ้มเล็กน้อยและจากไปเมเดลีนลากกระเป๋าเดินทางของเชอร์ลี่ย์ไปที่ห้องน้ำ เมื่อเอื้อมมือไปเปิดประตูก็พบว่าประตูถูกล็อคจากด้านใน“ฉันเอาของขึ้นมาให้แล้วนะคะ เจเรมี่เป็นยังไงบ้าง?” เมเดลีนถามในขณะที่ไม่มีเสียงตอบรับมาจากข้างใน“เชอร์ลี่ย์? เชอร์ลี่ย์? เจเรมี่! เจเรมี่!" เธอเริ่มตื่นตระหนก และไม่สามารถทนต่อความเงียบในขณะนี้ได้อีกต่อไปก๊อก ก๊อก ก๊อก เธอเคาะประตูซ้ำ ๆ จนข้อนิ้วเริ่มแดง“
เมเดลีนขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว ขณะที่ก้าวออกไปเธอก็เห็นใครบางคนที่คุ้นเคยอยู่ตรงทางเดิน“เชอร์ลี่ย์?” เมเดลีนเรียกออกมาอย่างลังเลผู้หญิงที่เดินห่างออกไปเล็กน้อยหยุดเดินแล้วหันมามอง “ใช่ ฉันเองค่ะ คุณนายวิทแมน” เชอร์ลี่ย์ยิ้มและอธิบาย “ฉันลืมของบางอย่างไว้ในห้อง ก็เลยกลับมาหยิบ”เมเดลีนวิ่งไปหาเชอร์ลี่ย์ ผู้หญิงคนนี้ไม่ต่างจากผู้ช่วยชีวิตของเธอในขณะนี้“พิษในร่างกายของเจเรมี่กำเริบกะทันหัน คุณเคยรักษาเขาใช่ไหมเชอร์ลี่ย์? คุณน่าจะช่วยเขาได้อีกครั้ง! ได้โปรดเถอะค่ะ ตอนนี้เขากำลังเจ็บปวดมาก!”ในตอนนั้นสีหน้าของเชอร์ลี่ย์ก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมา “ตอนนี้เจเรมี่อยู่ที่ไหนคะ?”“ในห้องค่ะ!”“รีบพาฉันไปที่นั่นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!” เชอร์ลี่ย์รีบเดินตามเมเดลีนไปเมื่อเข้าไปในห้องเมเดลีนก็เห็นว่าเจเรมี่สามารถลุกขึ้นนั่งพิงกับเตียงได้แล้ว เธอจึงรีบวิ่งไปหาเขาทันที “คุณจะไม่เป็นไรเจเรมี่ เชอร์ลี่ย์บังเอิญกลับมาที่โรงแรมเพราะลืมของเอาไว้ เธอสามารถช่วยคุณได้แน่!”เมื่อได้ยินเช่นนั้นดวงตาคมกริบก็หรี่ลง และเมื่อเห็นเชอร์ลี่ย์เดิยเข้ามาหา เขาก็ขยับตัวออกอย่างรังเกียจเชอร์ลี่ย์เองก็เห็นความไม่พ
เมเดลีนวิ่งออกจากห้องน้ำและเห็นเจเรมี่นอนกองอยู่บนพื้นข้างเตียง“เจเรมี่!”เธอรีบวิ่งไปคุกเข่าลงข้าง ๆ เขาอย่างลนลาน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันราวกับว่าเขากำลังทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส หัวใจของเมเดลีนเต้นรัวด้วยความตื่นตระหนก“เกิดอะไรขึ้นน่ะเจเรมี่? ยาพิษออกฤทธิ์อีกแล้วใช่ไหม?”เธอดึงไหล่ของเจเรมี่เพื่อให้เขาพิงมาที่ตัวเธอหากทำได้เธอก็อยากจะพาเขาไปที่เตียง แต่เธอกลับไม่แข็งแรงพอ“เกิดอะไรขึ้น? อดัมบอกเองนี่ว่ามันจะเกิดขึ้นไม่บ่อย แล้วทำไมตอนนี้อาการของคุณกำเริบขึ้นมาอีกแล้ว”เมเดลีนกระวนกระวายขณะที่น้ำตาเริ่มไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ และหยดน้ำตาใส ๆ ของเธอก็ตกลงบนใบหน้าของเจเรมี่“ไม่ต้องกังวลลินนี่” เจเรมี่พูดผ่านความเจ็บปวด พลางเอื้อมมือไปลูบแก้มของเธอเบา ๆ “ผมชินกับความเจ็บปวดแล้ว มันจะเจ็บไม่นาน เดี๋ยวผมก็อาการดีขึ้น”เขาปลอบโยนในขณะที่คลี่ยิ้มเพื่อคลายความกังวลของอีกฝ่ายแต่ยิ่งเจเรมี่คำนึงถึงอารมณ์ความรู้สึกของเธอมากเท่าไหร่ หัวใจของเมเดลีนก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น“อดัม ฉันจะโทรหาอดัม เขารู้ว่าต้องทำยังไง!” เมเดลีนรีบควานหาโทรศัพท์แล้วโทรหาอดัมทันทีแต่กลับไม่มีใครรับ
“สำหรับฉัน?” เมเดลีนรับของขวัญมาด้วยความสับสน ก่อนจะเห็นว่ามีข้อความติดมาด้วยในข้อความเขียนเอาไว้ว่า : [ฉันรีบไปหน่อยก็เลยไม่มีเวลาหาของขวัญสำหรับการเจอกันที่ดีกว่านี้ให้คุณ แต่หวังว่าคุณจะชอบสิ่งนี้นะคะ] ลงชื่อเชอร์ลี่ย์นี่เป็นของขวัญหลังจากพบกันครั้งแรกจากเชอร์ลี่ย์งั้นเหรอ?เมเดลีนรู้สึกประหลาดใจ “คุณมีข้อมูลติดต่อเชอร์ลี่ย์ไหมเจเรมี่? ฉันอยากจะขอบคุณเธอ”“ไม่” เจเรมี่ตอบห้วน ๆ “ไปกันเถอะ ส่วนอันนี้ก็ฝากพนักงานเอาไว้ที่นี่”“ทำแบบนั้นมันจะไม่ดูเสียมารยาทไปเหรอคะ?” เมเดลีนครุ่นคิดและตัดสินใจเอาของสิ่งนั้นกลับไปที่ห้องด้วยในที่สุด เจเรมี่ไม่พูดอะไรมากแล้วกลับไปที่ห้องพร้อมเมเดลีนระหว่างทางกลับเธอเปิดกล่องแล้วพบชุดอโรมาเทอราพีข้างในรูปร่างของขวดนั้นเป็นรูปงูดูแปลกตาเมเดลีนที่ไวต่อกลิ่นและเชี่ยวชาญด้านการผสมน้ำหอม เธอจึงลองดมดูแต่นอกจากกลิ่นปกติที่เคยดมแล้ว เธอสังเกตว่าสิ่งนี้มีกลิ่นบางอย่างที่เธอไม่เคยได้กลิ่นจากที่ไหนมาก่อนอยู่ด้วย“วางมันลงแล้วไปกันเถอะ ลินนี่ เดี๋ยวแผนวันนี้เราพังหมดนะ” น้ำเสียงราวกับว่าเจเรมี่กำลังเตือนเธอ เขาดูเกลียดของขวัญชิ้นนี้จริง ๆคำพูดของ