ตอนที่ 24 เริ่มต้นสัญญาร้ายเขาที่แบกร่างฉันมายังรถสปอร์ตสุดหรูที่ไม่บอกก็รู้ว่าราคาจะสูงลิบลับมากแค่ไหน จากนั้นเขาก็ได้เปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับแล้วจับฉันโยนเข้าไป และด้วยการกระทำที่รุนแรงของเขาก็เป็นผลทำให้หัวของฉันโขกเข้ากับขอบประตูรถอย่างจัง!!โป๊ก...!!“โอ๊ยยยยย เจ็บนะ!!” ฉันลูบหัวตัวเองปรอย ๆ ก่อนจะมองค้อนเข้าไปหนึ่งที(คนอะไรป่าเถื่อนชะมัด) (-*-)แต่ทว่า...เสียงร้องของฉันกลับไม่มีผลทำให้คนด้านข้างรู้สึกรู้สาอะไร แถมเขายังคงทำหน้านิ่งไม่ใส่ใจ ก่อนจะสตาร์ตรถหรูของตัวเอง แล้วรับบทนักขับตีนผีเหยียบคันเร่งส่งเครื่องยนต์ให้สมกับแรงม้าให้พุ่งทะยานออกไป จนตัวฉันที่ยังไม่ทันได้คาดเข็มขัดนิรภัยถูกแรงกระชากจนตัวปลิวติดเบาะไปตามแรงรถทันที“นะ...นี่นายขับให้มันช้า ๆ หน่อยได้ไหม จะรีบไปตายก็ไปคนเดียวนะฉันยังไม่รีบ” ฉันแว้ดออกไปอย่างเหลืออด พร้อมกับมือที่คว้านหาเข็มขัดนิรภัยมาคาดเพื่อป้องกันตัวเอง“หุบปาก...!!” และเสียงตวาดของเขาที่ส่งมา ก็ทำให้คนที่นั่งด้านข้างอย่างฉันถึงกับเม้มปากเงียบลงแทบจะทันทีจากนั้นรถสปอร์ตสุดหรูรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันที่มีไม่ถึง 10 คันบนโลกก็ได้ถูกควบมาจอดยังหน้าผับขนาดให
ตอนที่ 25 งานแรก’หนึ่งล้าน’“มองหาอะไร...”เขาถามหลังจากที่เห็นฉันมองไปทางนู้นทีทางนี้ทีเหมือนหาอะไรบางอย่าง“หะ...หาห้องน้ำ” ส่วนฉันที่พยายามคุมน้ำเสียงของตัวเองไม่ให้สั่น เพื่อตอบเขากลับไป“หาทำไม...!!” เขาเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ถามอย่างไม่เข้าใจ“อะ...อ้าว...ก็นายจะให้ฉันเปลี่ยนชุดไม่ใช่เหรอ” ฉันที่สงสัยในคำถามของเขาก็ได้ถามเขากลับด้วยความไม่เข้าใจเช่นกัน(ชิ...ประสาทกลับหรือไง เพิ่งจะบอกหยก ๆ ว่าให้เปลี่ยนชุด ทำยังกับว่าจะให้ฉันเปลี่ยนตรงนี้อย่างงั้นแหละ)สิ้นเสียงในสมอของฉันที่ฉันเพิ่งคิดกับตัวเอง ประโยคที่เหมือนกับหยั่งรู้ไปถึงความคิดของฉันก็ได้ดังขึ้น“เปลี่ยนตรงนี้...” เขาแสยะยิ้มร้ายออกคำสั่งอย่างเยือกเย็น(OoO) ฉันถึงกับเบิกตากว้างอ้าปากค้างทันทีที่ได้รับรู้เจตนาอันแท้จริงของเขา และคำสั่งนั้นก็ทำให้ฉันถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้มาขายตัวนะ” ฉันตะโกนออกไปด้วยความไม่พอใจ นี่เขาเห็นฉันเป็นตัวอะไรฉันก็เป็นคนมียางอายเหมือนกันนะ“ก็ใครจะให้มึงขายตัวล่ะ” เขาบอกในขณะที่ยังยกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ก่อนที่ในประโยคถัดมาของเขานั้นจะเป็นเหมือนกับแส้ที่ฟาดลงมาจนฉันตัวชาไปห
ตอนที่ 26 มีคนเล่นตุกติก!!ปากหนาทรงสวยที่ยังคงขยับพ่นคำขู่ออกมาไม่หยุด และในขณะที่เขายังไม่ทันพูดจบประโยค ฉันที่รู้สึกตื่นตระหนกตั้งแต่ประโยคแรกด้วยกลัวว่าผู้ใหญ่ที่ตนเคารพรักอย่างป้านีกับพี่รามจะเป็นอันตรายไป นั่นจึงทำให้ฉันได้แต่รีบตกปากรับคำคนตรงหน้าแทบจะทันที“ได้...ได้...ฉันยอมแล้ว ฉันยอมทำงานล้างหนี้ที่ฉันไม่ได้ก่อให้กับนายแล้ว...ฮึก...ฮึก...ฉันยอมแล้ว...แต่อย่าไปยุ่งกับครอบครัวฉันเลยนะ ฉันขอร้อง” ฉันละล่ำละลักรับปากอย่างไม่รีรอ พร้อมกับก้อนสะอื้นที่ตีตื้นจุกเข้ามาที่ลำคอจนยากที่จะต้านทานไว้ได้แต่ถึงกระนั้น ฉันที่กำลังตกอยู่ในภาวะสิ้นหวังและหวาดกลัวแค่ไหน แต่ฉันต้องไม่ยอมตกเป็นเหยื่ออีกเป็นครั้งที่สองแน่ ๆ ในเมื่อเขาต้องการให้ฉันใช้หนี้ ฉันก็จะทำ แต่มันต้องอยู่ภายใต้สัญญาใหม่ที่เขียนขึ้นเท่านั้น“ถะ...ถ้างั้น นะ...นายก็เขียนสัญญาใช้หนี้มาซิ” ฉันทวงสัญญาเพราะกลัวว่าเขาจะตุกติกพลิกลิ้นทีหลัง“นี่มึงไม่ไว้ใจกูขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาเลิกคิ้วถามด้วยน้ำเสียงที่เจือปนไปด้วยความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบัง“ใช่...!! เพราะนายมันคนเห็นแก่ตัว ดังนั้นฉันต้องรักษาสิทธิ์ของตัวเองไม่ให้นายมาเอาเปรียบไ
ตอนที่ 27 กลั่นแกล้งผมที่ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ ทั้งที่โดยปกติแล้ว ไอ้นิสัยที่จะมากลั่นแกล้งใครแบบนี้ผมไม่ทำโดยเด็ดขาด เพราะถึงผมจะปล่อยเงินกู้ หรือมีธุรกิจสีเทาบ้างพอเอาไว้สร้างบารมีและเลี้ยงลูกสมุน แต่เรื่องเอารัดเอาเปรียบใครผมไม่เคยคิดจะทำ มันไม่ใช่นิสัยผม!!แต่น่าแปลกที่ทำไมพอเป็นเธอคนนี้ ผมถึงยอมทิ้งตัวตนแล้วทำนิสัยแย่ ๆ แบบนี้ออกไป ผมที่พยายามหาเหตุผลมาตอบกับตัวเอง แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอเหตุผลที่ใช่ แต่เอ๊ะ!! หรืออาจจะเป็นเพราะผมนั้นหลงใหลในเรือนร่างที่ช่างสะกดตาเมื่อครั้งที่เธอนอนไม่ได้สติจนคิดแผนการเพื่อให้ได้เธอมาครอบครองกันนะ หรือจะเป็นเมื่อครั้งที่พอผมได้มองหน้าเธอเต็มสองตาแล้วพบเข้ากับคำว่าแม่ของลูกปรากฏอยู่บนหน้าเธอจนต้องสรรหาวิธีสกปรกมากักขังเธอเอาไว้ แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีหรือเหตุผลใด...ทำไมผมกลับรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดอันมหาศาลอย่างที่ไม่เคยได้รับจากผู้หญิงคนไหนมาก่อนนอกจากเธอ...โดยเฉพาะเมื่อผมยิ่งได้มอง ได้อยู่ใกล้ ได้พินิจพิจารณาเธอนาน ๆ ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ป่วนปั่นอยู่แถว ๆ ไอ้ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายก็ได้บังเกิดขึ้น อย่างที่ผมเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัวแต่ไม่ใช่ว่าผมจะเห็นแก
ตอนที่ 28 เล่นกับเหยื่อและจุดเริ่มต้นของคำสั่งที่ผมสั่งเธอออกไปแบบนั้น แม้การตอบรับของเธอที่แสดงกลับมาจะมีท่าทีว่าไม่ยินยอม แต่ด้วยความเจ้าเล่ห์ของผมที่อ้างว่าผมจะให้เธอทำงานใช้หนี้ โดยงานที่ทำนี้จะมีมูลค่า 1 ล้านบาทต่องาน ขอต่อรองเหล่านั้นที่แม้ว่าใครก็ยากที่จะปฏิเสธได้ ทำให้ ณ เวลานี้ได้บังเกิดความลังเลผสมกับความหมดหวังฉายขึ้นบนใบหน้าสวยอย่างเห็นได้ชัดดวง และนั้นยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าเธอจะไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอของผมอย่างแน่นอน(โธ่...ก็แกเล่นไปขู่เอาเครื่องในเขาแบบนั้น เป็นใครจะไม่ทำล่ะย่ะ...ชิ...ไอ้คุณดีแลน)จากนั้นผมที่ได้แต่นั่งรออย่างใจเย็น เพราะมั่นใจว่าบทสรุปมันต้องเป็นไปในแบบที่ตัวเองต้องการ...และเมื่อสุดท้ายแล้วทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ผมคาดการณ์เอาไว้ ผมที่กระหยิ่มยิ้มย่องในใจก็ได้แต่รอเวลาเพื่อเล่นสนุกกับเธอจนกระทั่ง...เมื่อจู่ ๆ เธอก็อยากจะได้โทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา...และด้วยความต้องการนั้นมันกลับทำให้ผมรู้สึกไม่พอใจขึ้นเสียดื้อ ๆความรู้สึกแปลกประหลาดก่อตัวขึ้นในใจผมอีกครั้ง เมื่อผมเผลอคิดไปว่าเธออาจจะอยากได้เพื่อเอาไปโทรบอกแฟนให้รับรู้ มันกลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดขึ้
ตอนที่ 29 เหยื่อตัวแสบ!!“สอนหน่อยรินเหล้าไม่เป็น” ฉันเอ่ยบอกไปตามความจริง“ขอให้คนเขาสอน พูดแบบนี้เหรอ ไร้การศึกษาจริง ๆ” ส่วนเขาหลังจากฟังคำขอของฉัน ถึงกับเอ่ยต่อว่าฉันอย่างเสีย ๆ หาย ๆ ไม่มีชิ้นดี(โอ้โห้...พระคู๊ณณณณณณ กล้าว่าคนอื่นเขานะย่ะ ดูปากตัวเองซะก่อนเถอะ ปกติฉันก็เป็นคนพูดจาไพเราะอ่อนหวานอยู่แล้ว แต่เพราะต้องมาเจอกับผู้ชายปากปีจอแบบนี้ไง...ชิ) ฉันแอบสบถใส่เขาในใจ“เห้ออออ...รบกวนสอนหน่อยค่ะ เผอิญว่าทำไม่เป็น” ฉันกลั้นใจพูดดีกับเขา แม้ในใจจะเหลืออดและหลังจากที่ฉันพูดจบ เขากลับยังคงกอดอกหลับตาพริ้มพิงหัวกับพนักโซฟาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวความเงียบไร้การตอบสนองจากเขาทำให้ฉันที่กำลังตั้งหน้าตั้งตารอฟังคำตอบอยู่นั้น ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นไปมองว่าเพราะเหตุใดเขาถึงได้เงียบไป“หลับใส่เหรอเนี้ย...!!” ฉันพูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะหยัดตัวลุกขึ้นเพื่อไปมองเขาใกล้ ๆ เนื่องจากไฟในห้องนี้ไม่ได้สว่างมากนัก จึงทำให้ฉันมองใบหน้าเขาได้ไม่ถนัดและหลังจากที่ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่เสมือนกับมีแรงดึงดูดอันน่าหลงใหลบางอย่างที่ส่งมาทำให้ฉันเผลอไผลลืมตัวจนเข้าไปใกล้ระยะอันตราย...พ
ตอนที่ 30 ถอด...ชิ้นละล้าน--- ลลิน Talk ---ฉันมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจถึงสายตาที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของเขา แต่นั่นมันก็ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร เพราะถึงอย่างไรงานที่เขาสั่งก็ถือว่าสำเร็จตามเป้าหมายแล้ว“อย่าลืมหักหนี้ 1 ล้านด้วยนะคะ” ฉันเอ่ยย้ำ ก่อนจะเชิดหน้าใส่อย่างคนไม่ค่อยพอใจ“หืมมม...1 ล้าน??” เขาทำหน้าสงสัย“ก็นายบอกงานละ 1 ล้าน เมื่อกี้นายสั่งให้ฉันรินเหล้า นี่ฉันทำมากกว่ารินอีกนะ ดังนั้น 1 ล้าน หักเหลือ 99 ล้านค่ะ” ฉันพูดฉะฉาน พร้อมกับยกไม้ยกมือนับนิ้วให้เขาดู อีกทั้งยังแอบคิดในใจว่าไปบอกใคร ใครเขาจะเชื่อว่าเครื่องดื่มถังนี้มีมูลค่าตั้ง 1 ล้าน...“หึหึ...ได้...กูมันคนรักษาสัญญาอยู่แล้ว” เขาแค่นหัวเราะในลำคอด้วยความรู้สึกเอ็นดูคนตรงหน้า ที่แม้หน้าจะสวยหวานดูไร้พิษสงแต่ทว่า...กลับซ่อนเขี้ยวเล็บไว้อย่างดี ก่อนจะยกยิ้มจนใบหน้าที่หล่อเหลายิ่งดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลหลังจากนั้นก็ได้มีพนักงานเข้ามาเสิร์ฟอาหาร ฉันที่สบจังหวะก็ได้ไหว้วานให้พนักงานคนนั้นนำกระดาษกับปากกาเข้ามาให้ ก่อนที่ฉันจะทำการร่างสัญญาการชดใช้หนี้ (ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ) ที่มีต่อเขาด้วยมือของฉันเอง“อะ...อ่านแล้วเซ็นรับทราบด้
ตอนที่ 31 มาถอดตรงนี้หัวใจของฉันถึงกับกระตุกวูบ อีกทั้งสีหน้าก็ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็เพราะว่าฉันกำลังลุ้นว่า...ข้อแม้ของเขานั้นคืออะไร“อะ...อะไร” ฉันถามออกไปด้วยเสียงอันแผ่วเบา พร้อมกับดวงตาที่จ้องเขาไม่กะพริบด้วยใจลุ้นระทึก“ข้อแม้ก็คือ...มึงต้องมาถอดตรงนี้...!!”สิ้นเสียง...ริมฝีปากทรงสวยก็แสยะยิ้มร้าย พร้อมกับสายตาที่ส่งมานำทางให้ฉันเดินไปตามสายตาคู่นั้น โดยที่จุดหมายของมันคือ ณ ตรงกลางระหว่างขาที่กำลังอ้ากว้างอยู่ของเขาฉันเบิกตาโพลงพร้อมกับใจที่เต้นสั่นระรัวทันที นี่...ฉันจะไม่มีโอกาสที่จะชนะเขาได้เลยหรือไงกัน เพราะทุกครั้งที่ฉันยื่นข้อเสนอที่ตัวเองคิดว่าจะได้ผลประโยชน์มากกว่า สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าตัวเองต้องเสียเปรียบอยู่ร่ำไป...เฮือก ~~ฉันกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก เนื่องจากสิ่งที่เขาอยากให้ฉันทำนั้นมันช่างดูล่อแหลมเสียเหลือเกินสายตาคมกริบปาดมองมาที่ฉันอย่างคนที่กำชัย พร้อมกับทำตัวสบาย ๆ เพื่อรอให้ร่างอรชรย่างกายเข้ามาในกำมือความคิดมากมายถาโถมเข้ามาให้สมองให้ขบคิด ถ้าหากฉันยอมทำตามที่เขาต้องการหนี้ที่มีก็จะลดลงไปอีกเท่าตัว และนั่นก็จะทำให้ฉันหลุดออกจากบ่วงเวรบ
สองเดือนผ่านไป ~~“มึงได้ข่าวลินบ้างไหมว่ะ” ผมเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทด้วยคำถามเดิมเฉกเช่นทุกครั้งยามที่มันเอาเอกสารมาให้เซ็นที่บ้าน“ยังเลยครับนาย แต่ผมก็ยังไม่ได้ให้ลูกน้องเลิกตามหาเลยนะครับ ทุกครั้งที่มีเบาะแสผมจะเป็นคนไปดูด้วยตัวเองตลอด เพียงแต่ว่า...” ริกพูดรายงานเหมือนเช่นเดิมทุกครั้ง อีกทั้งในน้ำเสียงนั้นก็ยังไม่อาจปิดบังความผิดหวังเอาไว้ได้ เนื่องด้วยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาเองก็แทบจะพลิกแผ่นดินหาคนที่เป็นดั่งหัวใจของเจ้านายตัวเอง เพียงแต่ว่ากลับไร้ซึ่งร่องรอยและไร้วี่แววเสมือนกับว่าเธอไม่เคยมีตัวตนมาก่อนบนโลกใบนี้“แล้วรามพี่ชายของลินล่ะ มึงได้ตามไปดูไหมเผื่อว่าเมียกูจะไปอยู่กับเขา” ผมถามไปถึงบุคคลอีกบุคคลหนึ่งที่ตอนนี้ได้ลาออกจากบริษัทผมไปตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องวันนั้นแล้ว ก่อนที่ตัวเองจะยกขวดแก้วใสที่ใส่น้ำสีอำพันสีเข้มกระดกปล่อยให้ของเหลวดีกรีร้อนแรงไหลลงคอต่อไป อย่างที่ต้องการจะให้มันได้เข้าไปดับความเจ็บปวดที่อยู่ข้างในให้บรรเทาเบาบางลงได้บ้างริกมองสภาพเจ้านายของตนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ภาพของชายหนุ่มที่เคยสง่างามมีออร่าเปล่งประกายแต่ทว่า...ตอนนี้กลับมีสภาพเหมือนคนพเนจรไร้จุดหมา
ดวงตากลมโตค่อย ๆ เปิดปรือขึ้นมาอย่างช้า ๆ เพื่อปรับโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า กระทั่งเมื่อความทรงจำสุดท้ายได้พาดผ่านเข้ามาในโสตประสาท นั่นจึงทำให้ฉันถึงกับกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที พร้อมกับกวาดสายตามองไปทั่วด้วยความตกใจ“ทะ...ที่นี่ที่ไหนกัน” หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อพบว่าภาพบรรยากาศตรงหน้านั้นไม่เหมือนกับภาพของสถานที่สุดท้ายที่ตัวเองได้หมดสติลงไปเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากสถานที่ตอนนี้ฉันเหมือนกับอยู่บ้านพักที่ไหนสักแห่งที่ไม่ใช่สถานีขนส่งอย่างก่อนหน้านี้จากนั้นเมื่อสติค่อย ๆ กลับคืนมา ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงก็ได้ฉายวาบเข้ามาในหัวใจทันที เมื่อนึกไปถึงใบหน้าของใครบางคนที่ใจร้ายด้วยกลัวว่าสุดท้ายแล้วฉันจะหนีจากเขาคนนั้นไม่พ้น และถูกเขาจับตัวกลับมาทรมานอีกครั้งเหมือนที่เขาเคยทำและในขณะที่ฉันกำลังคิดวิตกกังวลอยู่นั้น...เสียงที่เหมือนกับว่าจะเป็นเสียงเดียวกันกับที่ฉันได้ยินก่อนจะหมดสติไปก็ได้ดังขึ้นมาทันที“ฟื้นแล้วเหรอครับคุณลลิน เป็นยังไงบ้างครับยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนอีกหรือเปล่า ผมจะได้เรียกหมอให้มาตรวจดูอาการให้ครับ” ใบหน้าคมเข้มดูหล่อเหลาในแบบสไตล์ผู้ชายไทยได้ปรากฏขึ้นตรงหน้า พร
“มะ...ไม่มี...อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า”พี่น้ำค้างที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ อีกทั้งยังรีบลนลานเดินไปหายังห้องน้ำด้วยความร้อนใจ เพื่อหวังว่าจะพบร่างเมียรักของผมอยู่ในนั้นแต่แล้วทันทีที่พี่น้ำค้างเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปแล้วพบเข้ากับความว่างเปล่าเหมือนที่ผมเจอ...เธอก็เริ่มงึมงำกับตัวเองอีกครั้งทันที...ใบหน้าที่เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดของผู้เป็นพี่สาว ยิ่งทำให้ชายหนุ่มที่มีความหวังในตอนแรกเพราะคิดว่าเป็นเพียงแค่สิ่งที่พี่สาวกลั่นแกล้งตนเท่านั้น เริ่มที่จะหวาดหวั่นในใจขึ้นมาด้วยกลัวว่าสิ่งที่ตนกำลังกังวลอยู่นั้นจะเป็นจริง“หะ...หาย...หายไปได้ยังไงก็ในเมื่อตอนแรกก่อนที่ฉันจะออกไปก็ยังเห็นนอนหลับอยู่เลยไม่ใช่เหรอ” พี่น้ำค้างหันมาถามผมแทนอีกทั้งสีหน้ายังแสดงอาการตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่บนพื้นจะเต็มไปด้วยของกินที่นำมาฝากคนป่วยที่บัดนี้ได้กระจัดกระจายหล่นเต็มไปทั่วทั้งพื้นเนื่องจากคนถือตกใจจนทำร่วงหล่น“นี่พี่ไม่รู้เรื่องที่ลินหายไปจริง ๆ เหรอ” ผมที่ยังคงคลางแคลงใจคนตรงหน้าอยู่เล็กน้อยเอ่ยถามย้ำเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่การแสดงจากพี่สาว“ไอ้ดีน!! นี่แกจะบ้าเหรอ!! ฉันเนี้ยน่ะจะร
--- ดีแลน Talk ---หลังจากที่ผมจัดการชำระแค้นเรียบร้อย แม้ทุกอย่างมันจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิดเอาไว้และค่อนข้างจะผิดแผนไปนิด แต่ทว่า...คนที่ควรจะได้รับบทลงโทษก็สมควรได้รับหมดแล้ว และคงเหลือแค่เพียงผมเท่านั้นที่ต้องกลับไปรับโทษทัณฑ์จากคนที่ผมรักสุดหัวใจด้วยความเต็มใจสักทีผมจัดการควบรถหรูคู่ใจพุ่งทะยานไปยังจุดมุ่งหมายที่ใจปรารถนา และหวังเพียงว่าจะไปได้ทันพอที่เธอจะลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี ผมปรารถนาที่จะให้เธอตื่นมาพบกับผมเป็นคนแรกเพื่อที่ผมจะได้เสนอหน้าให้เธอเห็นแม้ว่าเธอจะไม่พอใจก็ตาม...ผมใช้เวลาไม่นานมากนักเจ้ารถหรูคู่ใจก็ได้พาผมมายังจุดมุ่งหมายปลายทางพร้อมกับหัวใจที่พองโตด้วยความคิดถึงคนร่างบางที่นอนพักผ่อนอยู่บนเตียง อีกทั้งตลอดระยะทางที่ขับรถมาผมก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะผมเองนั้นก็ได้ใช้เวลาช่วงนั้นในการขบคิดหาวิธีที่จะงอนง้อขอคืนดีกับเมียรักมาตลอดทาง ด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจและตั้งใจเอาไว้ว่าจะยอมรับผลของการกระทำแต่โดยดีถ้าหากเธอจะยังไม่ยอมให้อภัยในตอนนี้...ณ โรงพยาบาลชานเมืองหัวใจที่เบิกบานพองโตส่งให้เท้ายาวก้าวกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงไปยังห้องพักคนไข้ที่ข้างในกำลั
ณ โรงพยาบาลชานเมือง--- ลลิน Talk ---“นะ...น้ำ...ขอน้ำกินหน่อย” เสียงแหบแห้งที่หลุดออกมาจากริมฝีปากที่แห้งผาก ทำให้คนที่นั่งเฝ้าด้วยความเป็นห่วงอยู่ด้านข้าง ๆ ถึงกับรีบกุลีกุจอถามฉันทันที“น้องลิน...พี่อยู่นี่แล้วค่ะ” พี่น้ำค้างรีบเดินมาลูบหัวฉันเบา ๆ พร้อมด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือด้วยความสะเทือนใจยามที่เห็นสภาพอิดโรยของฉัน และยิ่งเจ็บใจเมื่อพานคิดไปว่าที่ฉันต้องมีสภาพเป็นแบบนี้นั่นก็เพราะฝีมือของน้องชายตัวเอง“พะ...พี่น้ำค้าง ละ...ลินขอน้ำกินหน่อยค่ะ” ฉันปรือตามองพร้อมกับขยับเรียวปากอีกครั้งถึงความต้องการของตัวเอง เนื่องจากตอนนี้รู้สึกริมฝีปากและคอแห้งผากไปหมด“อะ...อ๋อ...ได้จ้ะ...ได้” จากนั้นพี่น้ำค้างก็รีบหยิบน้ำให้ฉันกิน แล้วมองฉันด้วยแววตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำใสด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ“ขะ...ขอบคุณค่ะ” ใบหน้าซีดเซียวเผยยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้า ก่อนที่จะพยายามหยัดตัวลุกขึ้นเนื่องจากมีบางอย่างที่ต้องรีบบอกออกไปให้คนตรงหน้าได้รับรู้“อ่ะ...น้องลินค่อย ๆ นะคะ ระวังบาดแผลด้วยนะ” พี่น้ำค้างรีบเข้ามาประคองฉันให้ลุกขึ้นนั่งตามความต้องการของฉัน ก่อนที่เธอจะกดปรับเตียงนอนให้ตั้งขึ้นเพื่อให้ฉั
“กรี๊ดดดดดด ~~ อีลลินมันก็สกปรก มันก็นอนกับผู้ชายคนอื่น แล้วทำไม!! ทำไมถึงมีแค่ฉันที่สกปรกล่ะ ไม่...ไม่...ฉันไม่สกปรก ฉันสวย ฉันเพียบพร้อม ฉันมีหน้ามีตาในสังคม ฉันไม่ใช่เด็กกำพร้าไร้ยางอาย ฉันคือนางฟ้าของวงการไฮโซ กรี๊ดดดดดด ~~”เสียงหวีดร้องและอาการที่เหมือนกับคนไร้สติของหญิงสาวที่กรี๊ดออกมาไม่หยุดอย่างคนที่จบสิ้นแล้วทุกอย่างก็ทำให้คนที่เป็นพ่อแม่ถึงกับทรุดตัวลงตามเพื่อปลอบประโลมพร้อมกับร้องไห้ไปด้วยกันเนื่องจากสงสารลูกของตนเอง“มายา อย่าเป็นแบบนี้ซิลูก ฮือออออ ~~”“โธ่...มายา พ่อขอโทษ ฮึก...ฮึก ไปกันเถอะนะลูกใครไม่รักแต่พ่อรักลูกนะ”เสียงปลอบจากผู้สูงวัยทั้งสองที่ผลัดกันพูดกับคนที่ต่างฝ่ายต่างรักเหมือนกัน แต่น่าสงสารที่คำพูดเหล่านั้นเหมือนจะไปไม่ถึงหัวใจของคนที่ตนรักเลย เมื่อคำผรุสวาทที่ออกมาจากปากของหญิงสาวในประโยคถัดมาทำให้แม้กระทั่งผมยังตัวชาเพราะไม่คิดว่าเธอจะเสียสติได้ขนาดนี้“รักเหรอ...พ่อพูดคำนั้นออกมาได้ไงห๊ะ!! ไอ้พ่อไร้ประโยชน์!! แค่ลบล้างอดีตของกูยังทำไม่ได้มึงมีสิทธิ์อะไรมาอ้างความเป็นพ่อกับกู...ฮึก...ฮึก...มึงมันก็คิดถึงแค่หน้าตา แค่อำนาจ แค่ตำแหน่งจอมปลอมที่มีเอาไว้เชิด
ภาพแผ่นหลังของพ่อแม่ที่ต่างพากันประคองลูกสาวให้เดินออกไป แม้ว่าตัวผมจะรู้สึกขัดใจที่ไม่อาจลงโทษตัวตนเรื่องได้อย่างสาสมอย่างที่ใจต้องการ แต่เพราะเห็นแก่ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อหญิงสาวบวกกับในฐานะที่ผมเกือบจะได้เป็นพ่อคนนั้น จึงทำให้ผมเลือกที่จะกลั้นความโกรธเอาไว้แล้วปล่อยพวกเขาไปและในขณะที่พวกเขากำลังกึ่งดึงกึ่งลากลูกสาวของตนออกไปอยู่นั้น“ปล่อยหนูนะ...บอกให้ปล่อย!!” มายาที่สะบัดแขนพ่อแม่ของตนทิ้ง ก่อนจะหันกลับมาเพื่อเผชิญหน้ากับผมอีกครั้งอย่างคนที่ไม่เกรงกลัวอะไรอีกแล้ว“นี่ไง...กูกลับมาเจอหน้ามึงอีกครั้งแล้วนี่ไง ฆ่ากูเลยซิ!! ฆ่ากูเลย” ดวงตาเฉี่ยวจ้องมองผมอย่างแข็งกร้าว อีกทั้งยังกำมือแน่นอย่างไม่ยินยอมและไม่เกรงกลัวผมเลยแม้แต่น้อย“มายา...มึงอย่าท้ากูนะ!!” ผมชี้ปลายดาบที่ขึ้นสีเงินวาวตรงไปยังหน้าหญิงสาวที่ท้าทายด้วยความรู้สึกที่ไม่ประหวั่นกับคำท้านั้นเช่นกัน“กูไม่ได้ท้า แน่จริงก็ฆ่ากูเลยซิ หรือว่าความจริงแล้วมึงมันก็น่าตัวเมียเหมือนนิสัย!!” และคำพูดหญิงสาวที่เหมือนกับน้ำมันเติมเชื้อไฟโทสะก็ได้ราดรดลงมาสุมไฟที่ยังไม่มอดไหม้ให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง“ฮึ่ม...พวกมึงมาเอาลูกมึงไปให้พ้นหน
หญิงสาวที่มีความแค้นคับแน่นอยู่ในอกเพราะไม่เหลือซึ่งความหวังที่จะได้ครอบครองชายหนุ่มตรงหน้า ยิ่งส่งให้เธอระเบิดความบ้าคลั่งออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด“ฮือออออ ฮ่าๆๆๆ สะใจจริงโว้ยยยยย...หึ...ดีแลนมึงอะมันหน้าโง่เหลือเกินทั้งที่มีกูที่เพียบพร้อมแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาในวงสังคม บารมีของครอบครัวที่จะช่วยหนุนมึงให้ขึ้นสูงกว่านี้ได้ แต่มึงก็เสือกไปเลือกมัน...อีคนชั้นต่ำไม่มีหัวนอนปลายเท้าแถมยังกำพร้าพ่อแม่อีกอย่างอีลลิน กูถามหน่อยเถอะว่านอกจากความซิงของมันแล้ว มันยังมีอะไรดีกว่ากูงั้นเหรอ...ห๊ะ!!”ความรู้สึกในใจพรั่งพรูออกมาจากปากของมายาที่เปลี่ยนจากร้องไห้เสียใจเป็นหัวเราะใส่หน้าผมอย่างคนบ้าคลั่ง พร้อมกับตัวเองที่พยายามหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงออกมา ก่อนที่เธอจะลอยหน้าลอยตาเย้ยหยันใส่ผมอย่างไม่เหลือมาดคุณหนูผู้ใสซื่ออีกต่อไป“หึ...มึงมันก็เหมือนกับไอ้พวกผู้ชายใจหมาพวกนั้นนั่นแหละที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น มึงก็แค่หลงอีลลินเพียงเพราะว่ามันมีสิ่งที่กูไม่มีนั่นก็คือความสดใหม่เท่านั้นเอง คนอย่างมึงมันก็เห็นค่าผู้หญิงแค่เท่านั้นนั่นแหละ มึงมันก็เหมือนกับผู้ช
ผมนึกไปถึงข้อมูลที่ได้รับรู้มาถึงวีรกรรมของบริกรสาวคนนี้ที่มักจะชอบอาสาเจ้าของร้านซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชายของมายาทำเรื่องชั่ว ๆ ให้ตลอดเพื่อแลกกับเงิน โดยคนที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นพวกผู้หญิงที่ถูกวางยาเพื่อส่งไปสนองตัณหาของเจ้าของร้าน และเพราะด้วยอิทธิพลที่มีไม่น้อยของคนบงการจึงทำให้เหล่าบรรดาสาว ๆ ที่โดนวางยาต่างไม่กล้าไปแจ้งความและปล่อยให้เรื่องมันเงียบไป“อะ...เอ่อ...คะ...คือ” ก้อนคำพูดขึ้นมาติดอยู่ที่ลำคอของบริกรสาวทันทีอย่างคนมีพิรุธ และด้วยอากัปกิริยาที่แสดงออกมานั้น มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดจนแทบอยากจะจัดการมันให้รู้แล้วรู้รอด“หึ...มึงไม่ต้องมาอ้ำอึ้งกูถามว่ามือไหน...มึงก็แค่ตอบคำถามกูมาแล้วกูจะพิจารณาไว้ชีวิตมึง” ผมถามย้ำเสียงเย็นด้วยความเบื่อหน่ายเต็มทน“มะ...มือ...มะ...ไม่มี...หนูไม่ได้ทำ” สายตาเลิ่กลั่กอีกทั้งเหงื่อกาฬที่ผุดไหลเต็มหน้าบ่งบอกได้ดีเลยว่าบรรดาความชั่วทั้งหลายที่มันเคยทำเอาไว้ในอดีตบัดนี้ได้ทยอยผุดขึ้นมาตอกย้ำความชั่วของมันแล้วส่วนผมที่เริ่มจะไม่สบอารมณ์เต็มทีก็ได้ตัดความรำคาญพยักหน้าให้ลูกน้องจับมือของบริกรสาวเอามาวางไว้ต่อหน้าผม และด้วยอารามของค