--- ดีแลน Talk ---“มึงว่าไงนะ!!” ผมถึงกับลุกขึ้นตวาดลูกน้องคนสนิทลั่น หลังจากได้ฟังคำรายงานของมันถึงเมียรักที่ชิ่งหนีกลับไปก่อน“แล้วลินได้บอกไหมว่าจะไปไหน” ผมถามพร้อมกับทิ้งตัวลงไปนั่งยังเก้าอี้ทำงานตัวเดิมด้วยความรู้สึกหงุดหงิด“เอ่อ...คุณลลินไม่ได้บอกครับนาย แต่ผมได้ยินเหมือนว่าเธอจะไปเจอกับเพื่อนร่วมงานเก่าครับ” ริกตอบไปตามสิ่งที่ตัวเองบังเอิญได้ยิน“เพื่อนร่วมงานเก่าเหรอ??” ผมทวนคำตอบด้วยความสงสัย ก่อนจะถามโพล่งออกไปด้วยความรู้สึกหึงที่ตีตื้นขึ้นมา“ผู้หญิงหรือผู้ชายว่ะ!!” เสียงเหี้ยมแสนหงุดหงิดเอ่ยถามลูกน้องอย่างหัวเสีย“น่าจะผู้หญิงนะครับ...เห็นชื่อว่าแววหรือวรรณอะไรนี่แหละครับนาย” ริกตอบทั้งที่หัวใจเต้นระรัวด้วยกลัวว่าคนตรงหน้าจะระเบิดอารมณ์ส่วนผมที่แม้จะรู้สึกไม่พอใจ แต่ด้วยอารมณ์หงุดหงิดและอาการแปลก ๆ ของเธอที่มีมาตั้งแต่เช้า จึงทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเธออาจจะรู้สึกอึดอัดหรือรู้สึกเหมือนโดนกักขังหรือเปล่า เพราะนับตั้งแต่ที่เธออยู่กับผมมา นอกจากผม ไอ้ริก ไอ้ห่าราม พี่ค้างแล้ว เธอเองก็แทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใครเลย“นายจะให้ผมส่งคนไปตามคุณลลินให้ไหมครับ” ริกถามเมื่อเห็นนายของต
กระทั่ง...“พอแล้วพี่ยุพิน...เดี๋ยวก็ได้ตายกันพอดี” ร่างกำยำคนที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับนังอดีตแม่เลี้ยงถึงกับวิ่งปรี่เข้ามารั้งตัวผู้กระทำเอาไว้หลังจากได้ยินเสียงทำร้ายร่างกายดังไปถึงด้านนอก ด้วยใจที่ไม่ได้เป็นห่วงคนร่างบางถึงสวัสดิภาพทางชีวิต หากแต่กลัวว่าขนมหวานที่เขาเฝ้าอยากจะชิมสักครั้งในชีวิตจะขาดใจตายลงเสียก่อนและทันทีที่คนอารมณ์ร้อนถูกห้ามขัดขวางไม่ให้ระบายอารมณ์ ด้วยความรู้สึกที่ถูกขัดใจก็ถึงกับเดือดดาลหันไปแผดเสียงใส่คนของตน ก่อนจะลงมือทุบลงไปตามตัวและต้นแขนอย่างไม่ออมแรงมือ“ทำไม...ที่กลัวมันตายเนี้ย เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เอามันใช่ไหม...ห๊ะ!! ตอบมานะตอบมา” เจ้าของร่างท้วมโวยวายอย่างรู้ทันคู่ขาของตนผลัวะๆๆๆ“โอ๊ย...โอ๊ยพี่ผมเจ็บนะ...โอ๊ยยยย” ชายชั่วร้องลั่นพร้อมกับร่างที่หลบกำปั้นไปมาอย่างคนหัวเสียแต่ไม่อาจโต้ตอบกลับไปได้ ทำได้เพียงปัดป่ายให้ตัวเองเจ็บน้อยที่สุดจนกระทั่งเมื่อพายุแห่งความบ้าคลั่งสงบลงหลังจากได้ระบายทุกอย่างจนสาแก่ใจ ผู้หญิงวัยกลางคนร่างหนาก็ได้หยุดมือลง“แฮ่กๆๆๆ หึ...อย่าให้กูรู้นะว่ามึงแอบมาเจ๊าะแจ๊ะกับมันน่ะ ไม่งั้นกูไม่เอามึงไว้แน่...ชิ” หญิงคู่ขาขู่คาดโทษ
“แก...ยัยยุพินนังแม่มดปีศาจร้าย แกไม่มีสิทธิ์มาว่าพ่อของฉันนะ”ผลั่ก!!ฉันที่ไม่เหลือแล้วซึ่งความอดทน อาศัยจังหวะหลังจากนังอดีตแม่เลี้ยงพร่ำเหยียดหยามครอบครัวฉันจบ รีบหยัดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วพุ่งทะยานกระแทกจนร่างที่เริ่มกลมของคนตรงหน้าหงายท้องกลิ้งไม่เป็นท่าทันที“กรี๊ดดดดดด!! อีลลิน!! นี่มึงกล้าทำร้ายกูเหรอ กรี๊ดดดดด...” เสียงกรีดร้องแผดเสียงเดือดดาลดังขึ้นพร้อมกับตัวที่พยายามหยัดขึ้นมาอย่างยากลำบาก“เออ...ถ้าไม่กล้าจะหน้าหงายไปแบบนั้นเหรอ” ส่วนฉันที่เหลืออดไม่ต่างกัน เริ่มต่อปากต่อคำหลังจากที่อดทนมานาน“ดี...เห็นเงียบ ๆ หงิม ๆ มาตลอด ฤทธิ์เดชเยอะนักนะมึง วันนี้แหละกูจะสั่งสอนให้มึงรู้สึกซะบ้างว่าใครเป็นใคร”สิ้นเสียงอาฆาตมาดร้าย ร่างที่เริ่มมีความหนาของชั้นไขมันก็กวาดสายตาหันไปหาอาวุธเพื่อเอามาใช้ทุ่นแรงทันทีและในจังหวะเดียวกันนั้นเองที่สายตาของนังแม่มดปีศาจร้ายได้ไปเหลือบเห็นท่อนไม้ที่อยู่ไปไกลจากมือมากนั้น ทันทีที่มันหยิบขึ้นมาได้ก็รีบตรงปรี่มาหาฉันด้วยความโกรธที่ยากจะควบคุม“ปากดีนักนะมึง...หึหึหึ”ร่างอวบเดินย่างสามขุมมาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคับแค้น พร้อมกับมือที่ลากไม้หน้าสา
--- ลลิน Talk ---โครม ~~ คราม ~~ ปัง!!“โอ๊ย...พวกแกเป็นใครกันว่ะ”ตุบตับ...ผลัวะ!!...ปั่ก...ผลั่ก!!“กรี๊ดดดดด ~~ ว๊ายยยย...ปล่อยกูนะพวกมึงเป็นใครมาทำกูทำไม”“ลิน...ลิน...ได้ยินพี่ไหมลิน”เสียงที่ดังอึกทึกครึกโครมผสานเข้ากับเสียงกรีดร้องเหมือนคนที่กำลังมีเรื่องกัน โดยเฉพาะเสียงคุ้นเคยที่เพียรเรียกชื่อฉันทำให้ฉันค่อย ๆ เปิดเปลือกตาที่เหนื่อยล้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ ด้วยความหนักอึ้งและเจ็บปวด“พะ...พี่ดีน...” สิ้นเสียงเรียกชื่อคนที่ฉันเฝ้าคะนึงหาสติสัมปชัญญะที่ประคองเอาไว้ก่อนหน้าก็พลันดับวูบลงไปทันทีคงเหลือไว้เพียงความรู้สึกสุดท้ายที่รับรู้ได้ว่าร่างบางของตัวเองกำลังลอยละลิ่วขึ้นเหนือจากพื้น โดยที่มีไออุ่นและกลิ่นที่คุ้นเคยตลบอบอวลอยู่รอบ ๆ กายจนทำให้วางใจได้ที่จะปิดเปลือกตาให้สนิทลง--- ดีแลน Talk ---“จับพวกแม่งไปที่โกดัง...เดี๋ยวกูจะตามไปจัดการพวกมันเอง” เสียงเยือกเย็นแข็งกร้าวดุดัน ประกาศลั่นหลังจากที่จับตัวไอ้อีสารเลวได้แล้ว“ครับนาย!!/ ครับนาย!! / ครับนาย!!” เสียงลูกน้องทั้งหลายต่างรับคำประสานด้วยท่าทางขึงขังก่อนที่คนตัวโตที่มีร่างบอบบางอันเป็นดั่งดวงใจที่ตอนนี้กำลังสลบไสลอยู่ในอ้อ
“แต่ว่า...อะไร...พี่ค้าง...แต่ว่าอะไร!!”ผมตะคอกพร้อมกับเขย่าตัวพี่สาวไปอย่างลืมตัว“...พี่เสียใจด้วยนะเรื่อง...เออ...ลูก!!”สิ้นประโยคบอกเล่าของคุณหมอสาวที่เป็นญาติสนิท ผมถึงกับตัวแข็งทื่อมึนงงคล้ายกับโดนค้อนขนาดใหญ่ตีเข้าหัวอย่างจังจนเกือบจะเสียศูนย์ ก่อนที่ตัวเองจะประคองสติถามพี่สาวกลับไปอีกครั้งให้แน่ใจ“มะ...หมายความว่ายังไง...ลูก!!...ผมงงไปหมดแล้ว” ผมถามละล่ำละลักถามทั้งที่สมองยังอื้ออึงคล้ายคนถูกตบบ้องหู“ดีน...น้องลินตั้งครรภ์ได้ประมาณ 6 สัปดาห์แล้ว และการที่น้องลินถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ในระยะที่เฝ้าระวัง อีกทั้งยังมาถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงนั่นจึงทำให้...เธอตกเลือด!!” หมอน้ำค้างพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เนื่องจากตนเองก็รู้สึกเสียใจและสงสารว่าที่น้องสะใภ้ที่ตนเองเอ็นดูไม่ต่างกัน“แม่งเอ๊ย!!...ไอ้พวกเหี้ย!! พวกมึงฆ่าลูกกู กูไม่ปล่อยให้มันมีลมหายใจเกินวันนี้แน่”และเสียงคำรามดังลั่นหน้าห้องฉุกเฉินบวกกับความโกรธที่พุ่งขึ้นถึงจุดขีดสุดจนทำให้ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาแปรเปลี่ยนเป็นอาฆาตร้ายจนพี่สาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ยังสัมผัสได้ถึงควา
ฟิ้วววว ~~ ฉัวะ!! ฉับ!!“อ๊ากกกกกกกกก...”“กรี๊ดดดดดดดดด...”เสียงกรีดร้องของทั้งชายโฉดหญิงชั่วต่างประสานหวีดออกมาด้วยความเจ็บปวดทันที หลังจากที่แขนของพวกมันคนละข้างถูกดาบซามูไรกระชากออกจากลำตัว“อ๊ากกกกกก...ผมไม่ได้ทำเธอเลยผมไม่ได้ทำ...ฮือออออ” ร่างกำยำที่ดูก็รู้ว่าออกกำลังกายรักษารูปร่างมาเป็นอย่างดี ร้องครวญครางเหมือนเด็กน้อยพร้อมกับกุมแขนที่เหลือเพียงแค่ท่อนแขนด้านบนเอาไว้“นายครับ...ผู้หญิงสลบไปแล้วครับนาย” ลูกน้องคนหนึ่งของผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแค้นใจไม่ต่างกัน“ทำให้มันฟื้นขี้นมา...” ผมบอกเสียงเหี้ยม ก่อนจะหันไปคุยกับคนที่ยังมีสติอยู่“มึงเล่ามา...เผื่อกูจะลดโทษให้...หึหึหึ”หลังจากที่ผมได้ฟังเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดจากปากซีดเผือดแห้งผากของคนตรงหน้าแล้ว ความโมโหที่เหมือนจะเบาบางลงกลับปะทุขึ้นมาพร้อมกับร่างผู้หญิงวัยกลางคนที่ถูกทำให้ฟื้นขึ้นมาพอดี“เฮือกกก ~~ อะ...ไอ้ชั่ว...มะ...มึงคิดจะป้ายความผิดให้กูคนเดียวเลยหรือไง...แค่กๆๆ” ยุพินที่เพิ่งฟื้นคืนสติหลังจากถูกสาดน้ำอีกครั้ง เอ่ยปากต่อว่าชู้รักของตนด้วยแววตาเจ็บปวดทันทีที่พอได้ยินคำสารภาพในช่วงท้าย“ท่านค่ะ...
“ดีน...” พี่ค้างที่นิ่งฟังผมระบายเรียกชื่อผมเบา จนผมที่กำลังครุ่นคิดยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดต้องหันไปมองเสียไม่ได้“รักษาเอาไว้ดี ๆ นะผู้หญิงแบบนี้น่ะ” (^-^) คุณหมอพี่สาวพูดพร้อมกับมือที่ตบลงมายังบ่าผมเบา ๆและคำพูดเพียงประโยคสั้น ๆ ของคนที่ผมนับถือเหมือนพี่สาวแท้ ๆ ก็ทำให้ผมถึงกับน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ภาพความทุ่มเทและการกระทำของเธอที่ผ่านมาได้ฉายเข้ามาในโสตประสาทอย่างชัดเจนคล้ายกับเพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อวาน เธอที่มักจะหนักแน่นเสมอมาถึงการให้เกียรติผม เธอที่อยากจะมั่นใจและภูมิใจที่จะยืนเคียงข้างผม และนั่นก็เพราะเธอเฝ้าแต่คิดว่าผมนั้นสูงส่งส่วนเธอนั้นต่ำต้อย เธอจึงต้องพยายามเพื่อที่จะขึ้นมายืนได้อย่างสง่างามไร้ข้อกังขาแต่ทำไมผมถึงเอาแต่คิดว่าเธอบ่ายเบี่ยง เอาแต่คิดน้อยใจว่าเธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นผู้หญิงของผม เอาแต่หึงแต่หวงตั้งแง่ว่าเธออยากจะรักษาความโสดเอาไว้ แต่ผมลืมไปว่าเธอต้องแบกอะไรไว้ในใจของเธอบ้างไม่ว่าจะด้วยอดีตที่เธอเคยพบเจอมา อีกทั้งสายตาและคำพูดที่จะถาโถมเข้ามาใส่เธอถ้าหากเธอไม่แข็งแกร่งพอตอนยืนข้างผมความคิดที่ผุดขึ้นมามากมายย้ำให้ผมได้แน่ใจแล้วว่าผมเลือกคนที่มายืนเคี
“น้องลิน...ค่ะ พี่ตรวจและสแกนร่างกายน้องลินเกี่ยวกับกระดูกหรือการบอบช้ำภายในร่ายกายแล้ว ผลปรากฏว่าไม่มีอะไรแตกหักหรือเป็นอันตรายมากให้ต้องกังวลนอกจาก...เอ่อ...”คุณหมอน้ำค้างหยุดพูดเล็กน้อยก่อนจะหันไปทางคุณดีนเพื่อขอความมั่นใจอีกครั้ง เนื่องจากเรื่องที่จะพูดต่อไปนี้มันค่อนข้างละเอียดอ่อนต่อความรู้สึก แต่ด้วยความเป็นหมอเธอก็จำเป็นที่จะต้องพูดเพื่อสุขภาพของคนไข้“นอกจากอะไรเหรอคะ??” ส่วนฉันที่แม้จะถามออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบแบบนั้น แต่ทว่า...ในหัวใจของฉันกลับเต้นระรัวดังยิ่งกว่ากลองส่งสัญญาณรบ“นอกจากรอให้น้องลินสุขภาพดีขึ้นกว่านี้...พี่จะนัดขูดมดลูกให้นะคะ” พี่หมอน้ำค้างค่อย ๆ พูดอย่างกระชับ อย่างต้องการประคองความรู้สึกของคนไข้“เอ๊ะ!! ทำไมลินต้องขูดมดลูกด้วยค่ะ??” ฉันที่เริ่มสงสัย เพราะการถูกทำร้ายร่างกายภายนอกมันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับมดลูกของฉันเลยนี่น่าฮึบ...และเสียงเรียกความมั่นใจของคุณหมอคนสวยก็ดังขึ้น ก่อนที่เธอจะบอกความจริงที่แสนเจ็บปวดให้ฉันได้รับรู้“ก็เพราะว่าน้องลิน...แท้งลูก...และเพื่อที่จะไม่ให้มีผลต่อการตั้งครรภ์ในอนาคตเราจึงจำเป็นต้องขูดมดลูกเพื่อเคลียร์สิ่งที่อาจตกค้า
สองเดือนผ่านไป ~~“มึงได้ข่าวลินบ้างไหมว่ะ” ผมเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทด้วยคำถามเดิมเฉกเช่นทุกครั้งยามที่มันเอาเอกสารมาให้เซ็นที่บ้าน“ยังเลยครับนาย แต่ผมก็ยังไม่ได้ให้ลูกน้องเลิกตามหาเลยนะครับ ทุกครั้งที่มีเบาะแสผมจะเป็นคนไปดูด้วยตัวเองตลอด เพียงแต่ว่า...” ริกพูดรายงานเหมือนเช่นเดิมทุกครั้ง อีกทั้งในน้ำเสียงนั้นก็ยังไม่อาจปิดบังความผิดหวังเอาไว้ได้ เนื่องด้วยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาเองก็แทบจะพลิกแผ่นดินหาคนที่เป็นดั่งหัวใจของเจ้านายตัวเอง เพียงแต่ว่ากลับไร้ซึ่งร่องรอยและไร้วี่แววเสมือนกับว่าเธอไม่เคยมีตัวตนมาก่อนบนโลกใบนี้“แล้วรามพี่ชายของลินล่ะ มึงได้ตามไปดูไหมเผื่อว่าเมียกูจะไปอยู่กับเขา” ผมถามไปถึงบุคคลอีกบุคคลหนึ่งที่ตอนนี้ได้ลาออกจากบริษัทผมไปตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องวันนั้นแล้ว ก่อนที่ตัวเองจะยกขวดแก้วใสที่ใส่น้ำสีอำพันสีเข้มกระดกปล่อยให้ของเหลวดีกรีร้อนแรงไหลลงคอต่อไป อย่างที่ต้องการจะให้มันได้เข้าไปดับความเจ็บปวดที่อยู่ข้างในให้บรรเทาเบาบางลงได้บ้างริกมองสภาพเจ้านายของตนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ภาพของชายหนุ่มที่เคยสง่างามมีออร่าเปล่งประกายแต่ทว่า...ตอนนี้กลับมีสภาพเหมือนคนพเนจรไร้จุดหมา
ดวงตากลมโตค่อย ๆ เปิดปรือขึ้นมาอย่างช้า ๆ เพื่อปรับโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า กระทั่งเมื่อความทรงจำสุดท้ายได้พาดผ่านเข้ามาในโสตประสาท นั่นจึงทำให้ฉันถึงกับกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที พร้อมกับกวาดสายตามองไปทั่วด้วยความตกใจ“ทะ...ที่นี่ที่ไหนกัน” หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อพบว่าภาพบรรยากาศตรงหน้านั้นไม่เหมือนกับภาพของสถานที่สุดท้ายที่ตัวเองได้หมดสติลงไปเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากสถานที่ตอนนี้ฉันเหมือนกับอยู่บ้านพักที่ไหนสักแห่งที่ไม่ใช่สถานีขนส่งอย่างก่อนหน้านี้จากนั้นเมื่อสติค่อย ๆ กลับคืนมา ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงก็ได้ฉายวาบเข้ามาในหัวใจทันที เมื่อนึกไปถึงใบหน้าของใครบางคนที่ใจร้ายด้วยกลัวว่าสุดท้ายแล้วฉันจะหนีจากเขาคนนั้นไม่พ้น และถูกเขาจับตัวกลับมาทรมานอีกครั้งเหมือนที่เขาเคยทำและในขณะที่ฉันกำลังคิดวิตกกังวลอยู่นั้น...เสียงที่เหมือนกับว่าจะเป็นเสียงเดียวกันกับที่ฉันได้ยินก่อนจะหมดสติไปก็ได้ดังขึ้นมาทันที“ฟื้นแล้วเหรอครับคุณลลิน เป็นยังไงบ้างครับยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนอีกหรือเปล่า ผมจะได้เรียกหมอให้มาตรวจดูอาการให้ครับ” ใบหน้าคมเข้มดูหล่อเหลาในแบบสไตล์ผู้ชายไทยได้ปรากฏขึ้นตรงหน้า พร
“มะ...ไม่มี...อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า”พี่น้ำค้างที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ อีกทั้งยังรีบลนลานเดินไปหายังห้องน้ำด้วยความร้อนใจ เพื่อหวังว่าจะพบร่างเมียรักของผมอยู่ในนั้นแต่แล้วทันทีที่พี่น้ำค้างเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปแล้วพบเข้ากับความว่างเปล่าเหมือนที่ผมเจอ...เธอก็เริ่มงึมงำกับตัวเองอีกครั้งทันที...ใบหน้าที่เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดของผู้เป็นพี่สาว ยิ่งทำให้ชายหนุ่มที่มีความหวังในตอนแรกเพราะคิดว่าเป็นเพียงแค่สิ่งที่พี่สาวกลั่นแกล้งตนเท่านั้น เริ่มที่จะหวาดหวั่นในใจขึ้นมาด้วยกลัวว่าสิ่งที่ตนกำลังกังวลอยู่นั้นจะเป็นจริง“หะ...หาย...หายไปได้ยังไงก็ในเมื่อตอนแรกก่อนที่ฉันจะออกไปก็ยังเห็นนอนหลับอยู่เลยไม่ใช่เหรอ” พี่น้ำค้างหันมาถามผมแทนอีกทั้งสีหน้ายังแสดงอาการตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่บนพื้นจะเต็มไปด้วยของกินที่นำมาฝากคนป่วยที่บัดนี้ได้กระจัดกระจายหล่นเต็มไปทั่วทั้งพื้นเนื่องจากคนถือตกใจจนทำร่วงหล่น“นี่พี่ไม่รู้เรื่องที่ลินหายไปจริง ๆ เหรอ” ผมที่ยังคงคลางแคลงใจคนตรงหน้าอยู่เล็กน้อยเอ่ยถามย้ำเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่การแสดงจากพี่สาว“ไอ้ดีน!! นี่แกจะบ้าเหรอ!! ฉันเนี้ยน่ะจะร
--- ดีแลน Talk ---หลังจากที่ผมจัดการชำระแค้นเรียบร้อย แม้ทุกอย่างมันจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิดเอาไว้และค่อนข้างจะผิดแผนไปนิด แต่ทว่า...คนที่ควรจะได้รับบทลงโทษก็สมควรได้รับหมดแล้ว และคงเหลือแค่เพียงผมเท่านั้นที่ต้องกลับไปรับโทษทัณฑ์จากคนที่ผมรักสุดหัวใจด้วยความเต็มใจสักทีผมจัดการควบรถหรูคู่ใจพุ่งทะยานไปยังจุดมุ่งหมายที่ใจปรารถนา และหวังเพียงว่าจะไปได้ทันพอที่เธอจะลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี ผมปรารถนาที่จะให้เธอตื่นมาพบกับผมเป็นคนแรกเพื่อที่ผมจะได้เสนอหน้าให้เธอเห็นแม้ว่าเธอจะไม่พอใจก็ตาม...ผมใช้เวลาไม่นานมากนักเจ้ารถหรูคู่ใจก็ได้พาผมมายังจุดมุ่งหมายปลายทางพร้อมกับหัวใจที่พองโตด้วยความคิดถึงคนร่างบางที่นอนพักผ่อนอยู่บนเตียง อีกทั้งตลอดระยะทางที่ขับรถมาผมก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะผมเองนั้นก็ได้ใช้เวลาช่วงนั้นในการขบคิดหาวิธีที่จะงอนง้อขอคืนดีกับเมียรักมาตลอดทาง ด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจและตั้งใจเอาไว้ว่าจะยอมรับผลของการกระทำแต่โดยดีถ้าหากเธอจะยังไม่ยอมให้อภัยในตอนนี้...ณ โรงพยาบาลชานเมืองหัวใจที่เบิกบานพองโตส่งให้เท้ายาวก้าวกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงไปยังห้องพักคนไข้ที่ข้างในกำลั
ณ โรงพยาบาลชานเมือง--- ลลิน Talk ---“นะ...น้ำ...ขอน้ำกินหน่อย” เสียงแหบแห้งที่หลุดออกมาจากริมฝีปากที่แห้งผาก ทำให้คนที่นั่งเฝ้าด้วยความเป็นห่วงอยู่ด้านข้าง ๆ ถึงกับรีบกุลีกุจอถามฉันทันที“น้องลิน...พี่อยู่นี่แล้วค่ะ” พี่น้ำค้างรีบเดินมาลูบหัวฉันเบา ๆ พร้อมด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือด้วยความสะเทือนใจยามที่เห็นสภาพอิดโรยของฉัน และยิ่งเจ็บใจเมื่อพานคิดไปว่าที่ฉันต้องมีสภาพเป็นแบบนี้นั่นก็เพราะฝีมือของน้องชายตัวเอง“พะ...พี่น้ำค้าง ละ...ลินขอน้ำกินหน่อยค่ะ” ฉันปรือตามองพร้อมกับขยับเรียวปากอีกครั้งถึงความต้องการของตัวเอง เนื่องจากตอนนี้รู้สึกริมฝีปากและคอแห้งผากไปหมด“อะ...อ๋อ...ได้จ้ะ...ได้” จากนั้นพี่น้ำค้างก็รีบหยิบน้ำให้ฉันกิน แล้วมองฉันด้วยแววตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำใสด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ“ขะ...ขอบคุณค่ะ” ใบหน้าซีดเซียวเผยยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้า ก่อนที่จะพยายามหยัดตัวลุกขึ้นเนื่องจากมีบางอย่างที่ต้องรีบบอกออกไปให้คนตรงหน้าได้รับรู้“อ่ะ...น้องลินค่อย ๆ นะคะ ระวังบาดแผลด้วยนะ” พี่น้ำค้างรีบเข้ามาประคองฉันให้ลุกขึ้นนั่งตามความต้องการของฉัน ก่อนที่เธอจะกดปรับเตียงนอนให้ตั้งขึ้นเพื่อให้ฉั
“กรี๊ดดดดดด ~~ อีลลินมันก็สกปรก มันก็นอนกับผู้ชายคนอื่น แล้วทำไม!! ทำไมถึงมีแค่ฉันที่สกปรกล่ะ ไม่...ไม่...ฉันไม่สกปรก ฉันสวย ฉันเพียบพร้อม ฉันมีหน้ามีตาในสังคม ฉันไม่ใช่เด็กกำพร้าไร้ยางอาย ฉันคือนางฟ้าของวงการไฮโซ กรี๊ดดดดดด ~~”เสียงหวีดร้องและอาการที่เหมือนกับคนไร้สติของหญิงสาวที่กรี๊ดออกมาไม่หยุดอย่างคนที่จบสิ้นแล้วทุกอย่างก็ทำให้คนที่เป็นพ่อแม่ถึงกับทรุดตัวลงตามเพื่อปลอบประโลมพร้อมกับร้องไห้ไปด้วยกันเนื่องจากสงสารลูกของตนเอง“มายา อย่าเป็นแบบนี้ซิลูก ฮือออออ ~~”“โธ่...มายา พ่อขอโทษ ฮึก...ฮึก ไปกันเถอะนะลูกใครไม่รักแต่พ่อรักลูกนะ”เสียงปลอบจากผู้สูงวัยทั้งสองที่ผลัดกันพูดกับคนที่ต่างฝ่ายต่างรักเหมือนกัน แต่น่าสงสารที่คำพูดเหล่านั้นเหมือนจะไปไม่ถึงหัวใจของคนที่ตนรักเลย เมื่อคำผรุสวาทที่ออกมาจากปากของหญิงสาวในประโยคถัดมาทำให้แม้กระทั่งผมยังตัวชาเพราะไม่คิดว่าเธอจะเสียสติได้ขนาดนี้“รักเหรอ...พ่อพูดคำนั้นออกมาได้ไงห๊ะ!! ไอ้พ่อไร้ประโยชน์!! แค่ลบล้างอดีตของกูยังทำไม่ได้มึงมีสิทธิ์อะไรมาอ้างความเป็นพ่อกับกู...ฮึก...ฮึก...มึงมันก็คิดถึงแค่หน้าตา แค่อำนาจ แค่ตำแหน่งจอมปลอมที่มีเอาไว้เชิด
ภาพแผ่นหลังของพ่อแม่ที่ต่างพากันประคองลูกสาวให้เดินออกไป แม้ว่าตัวผมจะรู้สึกขัดใจที่ไม่อาจลงโทษตัวตนเรื่องได้อย่างสาสมอย่างที่ใจต้องการ แต่เพราะเห็นแก่ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อหญิงสาวบวกกับในฐานะที่ผมเกือบจะได้เป็นพ่อคนนั้น จึงทำให้ผมเลือกที่จะกลั้นความโกรธเอาไว้แล้วปล่อยพวกเขาไปและในขณะที่พวกเขากำลังกึ่งดึงกึ่งลากลูกสาวของตนออกไปอยู่นั้น“ปล่อยหนูนะ...บอกให้ปล่อย!!” มายาที่สะบัดแขนพ่อแม่ของตนทิ้ง ก่อนจะหันกลับมาเพื่อเผชิญหน้ากับผมอีกครั้งอย่างคนที่ไม่เกรงกลัวอะไรอีกแล้ว“นี่ไง...กูกลับมาเจอหน้ามึงอีกครั้งแล้วนี่ไง ฆ่ากูเลยซิ!! ฆ่ากูเลย” ดวงตาเฉี่ยวจ้องมองผมอย่างแข็งกร้าว อีกทั้งยังกำมือแน่นอย่างไม่ยินยอมและไม่เกรงกลัวผมเลยแม้แต่น้อย“มายา...มึงอย่าท้ากูนะ!!” ผมชี้ปลายดาบที่ขึ้นสีเงินวาวตรงไปยังหน้าหญิงสาวที่ท้าทายด้วยความรู้สึกที่ไม่ประหวั่นกับคำท้านั้นเช่นกัน“กูไม่ได้ท้า แน่จริงก็ฆ่ากูเลยซิ หรือว่าความจริงแล้วมึงมันก็น่าตัวเมียเหมือนนิสัย!!” และคำพูดหญิงสาวที่เหมือนกับน้ำมันเติมเชื้อไฟโทสะก็ได้ราดรดลงมาสุมไฟที่ยังไม่มอดไหม้ให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง“ฮึ่ม...พวกมึงมาเอาลูกมึงไปให้พ้นหน
หญิงสาวที่มีความแค้นคับแน่นอยู่ในอกเพราะไม่เหลือซึ่งความหวังที่จะได้ครอบครองชายหนุ่มตรงหน้า ยิ่งส่งให้เธอระเบิดความบ้าคลั่งออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด“ฮือออออ ฮ่าๆๆๆ สะใจจริงโว้ยยยยย...หึ...ดีแลนมึงอะมันหน้าโง่เหลือเกินทั้งที่มีกูที่เพียบพร้อมแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาในวงสังคม บารมีของครอบครัวที่จะช่วยหนุนมึงให้ขึ้นสูงกว่านี้ได้ แต่มึงก็เสือกไปเลือกมัน...อีคนชั้นต่ำไม่มีหัวนอนปลายเท้าแถมยังกำพร้าพ่อแม่อีกอย่างอีลลิน กูถามหน่อยเถอะว่านอกจากความซิงของมันแล้ว มันยังมีอะไรดีกว่ากูงั้นเหรอ...ห๊ะ!!”ความรู้สึกในใจพรั่งพรูออกมาจากปากของมายาที่เปลี่ยนจากร้องไห้เสียใจเป็นหัวเราะใส่หน้าผมอย่างคนบ้าคลั่ง พร้อมกับตัวเองที่พยายามหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงออกมา ก่อนที่เธอจะลอยหน้าลอยตาเย้ยหยันใส่ผมอย่างไม่เหลือมาดคุณหนูผู้ใสซื่ออีกต่อไป“หึ...มึงมันก็เหมือนกับไอ้พวกผู้ชายใจหมาพวกนั้นนั่นแหละที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น มึงก็แค่หลงอีลลินเพียงเพราะว่ามันมีสิ่งที่กูไม่มีนั่นก็คือความสดใหม่เท่านั้นเอง คนอย่างมึงมันก็เห็นค่าผู้หญิงแค่เท่านั้นนั่นแหละ มึงมันก็เหมือนกับผู้ช
ผมนึกไปถึงข้อมูลที่ได้รับรู้มาถึงวีรกรรมของบริกรสาวคนนี้ที่มักจะชอบอาสาเจ้าของร้านซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชายของมายาทำเรื่องชั่ว ๆ ให้ตลอดเพื่อแลกกับเงิน โดยคนที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นพวกผู้หญิงที่ถูกวางยาเพื่อส่งไปสนองตัณหาของเจ้าของร้าน และเพราะด้วยอิทธิพลที่มีไม่น้อยของคนบงการจึงทำให้เหล่าบรรดาสาว ๆ ที่โดนวางยาต่างไม่กล้าไปแจ้งความและปล่อยให้เรื่องมันเงียบไป“อะ...เอ่อ...คะ...คือ” ก้อนคำพูดขึ้นมาติดอยู่ที่ลำคอของบริกรสาวทันทีอย่างคนมีพิรุธ และด้วยอากัปกิริยาที่แสดงออกมานั้น มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดจนแทบอยากจะจัดการมันให้รู้แล้วรู้รอด“หึ...มึงไม่ต้องมาอ้ำอึ้งกูถามว่ามือไหน...มึงก็แค่ตอบคำถามกูมาแล้วกูจะพิจารณาไว้ชีวิตมึง” ผมถามย้ำเสียงเย็นด้วยความเบื่อหน่ายเต็มทน“มะ...มือ...มะ...ไม่มี...หนูไม่ได้ทำ” สายตาเลิ่กลั่กอีกทั้งเหงื่อกาฬที่ผุดไหลเต็มหน้าบ่งบอกได้ดีเลยว่าบรรดาความชั่วทั้งหลายที่มันเคยทำเอาไว้ในอดีตบัดนี้ได้ทยอยผุดขึ้นมาตอกย้ำความชั่วของมันแล้วส่วนผมที่เริ่มจะไม่สบอารมณ์เต็มทีก็ได้ตัดความรำคาญพยักหน้าให้ลูกน้องจับมือของบริกรสาวเอามาวางไว้ต่อหน้าผม และด้วยอารามของค