Share

บทที่ 3

Penulis: ต้นไผ่น้อย
ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง หลิงอี้หรานจ้องมองเขาอยู่เงียบ ๆ ในตอนนั้นความเหงาที่เธอเคยรู้สึกเมื่อใดก็ตามที่เธอเพิ่งกลับมาที่อะพาร์ตเมนต์ดูเหมือนจะหายไป อาจเป็นเพราะมีคนอื่นอยู่ในห้องกระมัง?

หลังจากที่เขากินเสร็จ หลิงอี้หรานก็ทำความสะอาดจาน “ฉันมักจะนอนโดยเปิดไฟฉันหวังว่าคุณจะไม่รังเกียจนะคะ” เธอกล่าว นับตั้งแต่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเธอก็ติดนิสัยชอบเปิดไฟขณะนอนหลับ

“ไม่เป็นไร”

หลิงอี้หรานนอนลงบนเตียงในขณะที่เขานอนบนฟูกที่เธอปูไว้ที่พื้น

เธอหลับตาลงและพยายามอย่างมากที่จะหลับ เธอไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นเมื่อใด แต่ในบางช่วงเวลาเธอเริ่มพบว่ามันน่ากลัวจริง ๆ ที่จะข่มตาให้หลับลง

เพราะเมื่อเธอหลับลงคราใด เธอมักจะฝันถึงช่วงเวลาที่อยู่ในคุก เธอจะถูกทุบตีทำให้อับอายและถูกทารุณกรรม... และทุกนิ้วยังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากการถูกหักและเล็บที่ถูกถอด …

หลายครั้งที่เธอคิดว่าเธอจะตายในคุก

อย่างไรก็ตามช่างน่าแปลกที่เธอนอนหลับจนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้นในคืนนั้น และฝันร้ายประจำของเธอก็ไม่มาเยือน

หลิงอี้หรานมองร่างที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความงุนงง

มันเป็นเพราะเขางั้นเหรอ? เป็นเพราะเธอไม่ได้อยู่คนเดียวในห้องนี้อีกต่อไปและมีอีกคนอยู่กับเธอ?

ก่อนที่เธอจะรู้ตัว เธอลุกจากเตียงและค่อย ๆ นั่งยอง ๆ แล้ววางมือลงบนแก้มของเขา มือของเธอรู้สึกอบอุ่น

เขาเป็นคนจริงไม่ใช่สิ่งที่มาจากจินตนาการของเธอ เมื่อคืนเธอพาผู้ชายคนหนึ่งมาอะพาร์ตเมนต์ของเธอจริง ๆ

เมื่อเธอรู้สึกตัวก็พบว่าเขาตื่นแล้ว ดวงตาอันงดงามของเขาจับจ้องที่เธอ

“ขอโทษค่ะ” ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที “ ฉัน... ฉันแค่ ... นั่น... ถ้าคุณไม่มีที่จะไปคุณก็อยู่ที่นี่ได้”

เธอพูดอย่างรีบร้อน แต่หลังจากพูดไปแล้วเธอก็รู้สึกโล่งใจ

ใบหน้าสีแดงของเธอสะท้อนให้เห็นในรูม่านตาดำสนิทดั่งหินออบซิเดียนของเขาและร่องรอยของความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

“ถ้าคุณไม่ต้องการก็ทำเป็นว่าฉันไม่ได้พูดอะไร” เธอกล่าวเสริมพลางกัดริมฝีปากของเธอ

ในที่สุดริมฝีปากบางของเขาก็เปิดออกอย่างช้า ๆ "เธออยากให้ฉันอยู่ที่นี่เหรอ?" เสียงของเขาชัดเจนเหมือนดั่งน้ำใสฤดูในฤดูหนาว และยิ่งแจ่มชัดในห้องที่เงียบสงัดนี้

ถ้าผู้ชายคนอื่นพูดแบบนี้มันคงฟังดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจีบเธออยู่ แต่เมื่อคำพูดนั้นมาจากปากเขา มันเหมือนกับว่าเขาแค่ถามคำถามง่าย ๆ ว่า "อยาก" หรือ "ไม่อยาก" ไม่มีความคลุมเคลือในคำพูดของเขาและแม้แต่ดวงตาของเขาก็สงบ

หลิงอี้หรานเม้มริมฝีปากของเธอ "ใช่ค่ะ ฉันอยากให้อยู่"

เขาจ้องมองเธอและรอยยิ้มก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากบางของเขา "ตกลง”

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขายิ้ม แม้ว่ามันจะบางเบามาก... แต่ก็ดูสวยงามอย่างยิ่งสำหรับเธอ

หลิงอี้หรานไปทำงานและทิ้งเงิน 200 บาท ไว้ให้กับเขาเพื่อที่จะซื้ออาหารกินเอง

เมื่อชายหนุ่มออกจากอะพาร์ตเมนต์มีคนรอเขาอยู่ข้างนอกแล้ว หลังจากที่เห็นชายคนนี้ออกมาพวกเขาก็ทักทายเขาอย่างเคารพ "นายน้อยอี้"

“ไปกันเถอะ” อี้จิ่นหลี ตอบอย่างเเผ่วเบา

รถเมอเซเดส-เบนซ์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่ตรงหน้าเขา อี้จิ่นหลีเข้าไปนั่งและมองเงิน 200 บาทในมือของเขา เป็นเวลาหลายปีแล้วที่มีคนให้เงินเขาแบบนี้และมันก็เป็นเงินแค่ 200 บาท

"นายน้อยอี้ครับ ผู้หญิงที่อยู่กับนายน้อยเมื่อคืนนี้เป็นคนงานรับจ้างของศูนย์บริการสุขาภิบาล เธอเริ่มเช่าที่อยู่อาศัยปัจจุบันของเธอที่นี่เมื่อเดือนที่แแล้ว และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อสองเดือนก่อน"

ในฐานะเลขาส่วนตัวของอี้จิ่นหลี เกาฉงหมิงเริ่มรายงานข้อมูลทั้งหมดที่พบทันทีที่พวกเขาขึ้นรถมา

“ออกจากเรือนจำเหรอ?”

“ใช่ครับ เธอชื่อหลิงอี้หราน เธอเคยเป็นเเฟนเก่าของเซียวจื่อฉีแห่งตระกูลเซียวครับ เธอถูกตัดสินว่าเมาเเละขับและทำให้คุณห่าวเหมยยวี่ตายเมื่อสามปีก่อน เธอถูกตัดสินจำคุกสามปีและใบอนุญาตทนายของเธอก็ถูกเพิกถอน"

เกาฉงหมิงกล่าวขณะที่เขาสังเกตการแสดงออกของเจ้านายอย่างระมัดระวัง

“หลิงอี้หราน…” อี้จิ่นหลี พึมพำชื่อนี้เบา ๆ ริมฝีปากบางของเขาโค้งเป็นรอยยิ้มขี้เล่นขณะที่เขาพูดว่า "ดี น่าสนใจ”

ตอนที่เขาตัดสินใจจะยอมแต่งงานกับตระกูลห่าว หลัก ๆ เป็นเพราะห่าวเหมยยวี่นั้นยืนกรานว่าจะแต่งงานกับเขา และเธอก็เป็นคู่ที่เหมาะสม หากว่าเขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงสักคน ห่าวเหมยยวี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดี

แต่เขาไม่คาดคิดว่าห่าวเหมยยวี่จะจบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์

ถ้าหากว่าหลินอี้หรานรู้เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างห่าวเหมยยวี่กับเขา เธอจะทำหน้าแบบไหนกันนะ?

คิดดูแล้วนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีผู้หญิงจับมือเขาและพาเขาเข้าบ้าน เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทาเล็กน้อยแต่มุ่งมั่นว่าเธอชอบเขา

“ฉงหมิง นายคิดว่าผู้หญิงแบบไหนที่เหมาะกับฉัน?” อี้จิ่นหลีถามออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย

“อะไรนะครับ?” ในครู่หนึ่งที่เกาฉงหมิงอึ้งไปไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร “ผมคิดว่านั่นขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการผู้หญิงแบบไหนนะครับนายน้อยอี้”

อี้จิ่นหลียักไหล่ “ส่งข้อมูลของหลิงอี้หรานให้ฉันที่โต๊ะทำงานด้วย”

“ได้เลยครับ” เกาฉงหมิงกล่าว นายน้อยอี้จู่ ๆ ก็ให้ความสนใจหลิงอี้หรานขึ้นมางั้นเหรอ?

เมื่อหลิงอี้หรานเลิกงาน เธอได้รับโทรศัพท์จากพ่อของเธอสั่งให้กลับบ้าน เขาบอกว่าไหน ๆ เธอก็ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำมาแล้ว เธอควรที่จะไปจุดธูปไหว้เเม่ของเธอที่เสียไป

อี้หรานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเพราะตั้งแต่ที่เธอออกมาจากคุก ครอบครัวของเธอก็ยิ่งอยากที่จะทำตัวห่างเหินกับเธอ ตลอดสามปีพวกเขาไม่เคยไปเยี่ยมเธอในคุกเลย เหมือนกับว่าเธอไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวอีกต่อไป

แม่แท้ ๆ ของเธอเสียชีวิตไปตอนเธอเด็กมากอายุได้สามขวบ สามเดือนต่อมาพ่อของเธอได้แต่งงานใหม่และแม่เลี้ยงของเธอก็ได้ให้กำเนิดลูกสาวอีกคนหนึ่งชื่อหลิงลั่วอิน ตั้งแต่ตอนที่เป็นเด็กหลิงอี้หรานรู้ดีว่าพ่อกับเเม่เลี้ยงของเธอนั้นลำเอียงรักน้องสาวมากกว่า เธอจึงตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อให้ตัวเธอเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดและเธอก็ได้ผลการเรียนดีมาโดยตลอด

ตลอดตอนเป็นเด็กจนวัยรุ่นไม่เคยมีใครต้องกังวลเรื่องการเรียนของเธอ ในที่สุดพ่อของเธอก็เริ่มอวดคนอื่น ๆ ว่าเขามีลูกสาวที่เรียนเก่ง เมื่อเธอและเซียวจื่อฉีเริ่มคบหากัน สถานะในบ้านของเธอก็อยู่ในจุดสูงสุด

พ่อของเธอเห็นเธอเป็นหน้าเป็นตาและแม่เลี้ยงของเธอก็ห่วงใยความเป็นอยู่ของเธอ แม้แต่น้องสาวของเธอก็พยายามจะพูดจาเยินยอเอาอกเอาใจ เธอรู้ว่าทั้งหมดเป็นเพราะสายสัมพันธ์ของเซียวจื่อฉี เขาเป็นทายาทของเซียวกรุ๊ป

ในเวลานั้นเธอยังคงอดไม่ได้ที่จะโหยหาความรักในครอบครัว แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เธอก็ตระหนักว่าทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตา

ตอนนี้ที่บ้านตระกูลหลิง หลิงอี้หรานนั่งฟังฟางซุ่ยเอ๋อบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่หลิงลั่วอิน จะเข้าสู่วงการบันเทิงและเธอต้องรู้จักคนกว้างขวางหากจะได้รับบทบาทที่ดี

“อี้หราน เธอเองก็รู้ว่าครอบครัวของเราไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก แต่ตอนนี้น้องสาวของเธอต้องการเงิน เอาเป็นว่า... เธอให้เรายืมเงินก่อนและเมื่อน้องสาวของเธอกลายเป็นดาราใหญ่ในอนาคตแล้วหาเงินได้เยอะ เราจะคืนให้ดีไหม? " ฟางซุ่ยเอ๋อกล่าวอย่างจริงจัง

“ฉันไม่มีเงินเลย” หลิงอี้หรานตอบอย่างรวบรัด

สีหน้าของฟางซุ่ยเอ๋อเปลี่ยนไปเป็นแข็งทื่อ แต่เเล้วเธอก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยและพูดว่า “เธอไม่มีเงิน แต่เซียวจื่อฉีมีเงินนี่ใช่ไหม? เธอเคยคบกับเขาแต่ทันทีที่เธอเกิดเรื่องเขาก็เลิกกับเธอ เขาควรจะจ่ายชดใช้ให้บ้างไม่ใช่เหรอ?”

“น้าฟาง ทั้งน้า พ่อแล้วก็ลั่วอินก็ทำตัวห่างเหินกับฉันทันทีที่ฉันเกิดเรื่องไม่ใช่เหรอ?” อี้หรานตอบ

หลิงกวอจื้อพ่อของเธอพูดอย่างเกรี้ยวโกรธ "อะไร ตกลงว่านี่แกมาเพื่อรื้อฟื้นเรื่องเก่า ๆ เหรอ?ถ้าตอนนั้นแกไม่ได้ฆ่าคนตาย น้องสาวของแกคงจะได้รับเลือกให้เป็นดารานำไปนานแล้วและคงกลายเป็นดาราใหญ่ไปแล้ว!"

หลิงอี้หรานยิ้มอย่างเหน็บแนม เธอรู้ว่าที่หลิงลั่วอินได้รับเลือกให้เป็นนักแสดงนำเป็นเพราะเซียว กรุ๊ปเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนของซีรีส์ทางทีวีและเซียวจื่อฉีได้บอกให้หลิงลั่วอินเป็นดาราตัวนำต่างหาก เมื่อเธอเลิกกับเซียวจื่อฉี บทบาทดารานำของหลิงลั่วอินก็ลอยหายวับไปในอากาศเป็นธรรมดา

“พี่สาว พี่ยังแค้นที่พวกเราไม่ช่วยพี่ตอนที่อยู่ในคุกเหรอ?” หลิงลั่วอินถามอย่างแผ่วเบา

“ในตอนนั้นพี่ทำให้ตระกูลห่าวและอี้จิ่นหลีขุ่นเคือง! แม้แต่ตระกูลเซียวจนสั่งให้เซียวจื่อฉีเลิกกับพี่ทันที แล้วครอบครัวของเราจะไปทำอะไรได้ล่ะ? ในตอนนั้นถ้าพวกเรายืนอยู่ข้างพี่และช่วยเรื่องคดี ทั้งครอบครัวของเราอาจทำให้ตระกูลห่าวและอี้จินหลี่ขุ่นเคือง ครอบครัวธรรมดา ๆ แบบเราจะทนรับโทสะแล้วการกดดันของพวกเขาได้อย่างไร?” หบิงลั่วอินอธิบาย

“เธอพูดถูก” หลิงอี้หรานยิ้มอย่างอ่อนโยนและมองตรงไปที่หลิงลั่วอิน “แต่ในเมื่อเธอยืนอยู่ข้างฉันไม่ได้ในช่วงที่ฉันตกต่ำที่สุดแล้วทำไมฉันต้องมาเสียเงินสักแดงช่วยให้เธอได้ดิบได้ดีด้วย?”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 4

    หลิงลั่วอินหน้าซีดเผือดและหลิงกว๋อจื้อก็ตบหน้าหลิงอี้หรานฉาดใหญ่ "แกกำลังพูดเรื่องอะไร? แกขับรถชนคนตายแล้วติดคุก เพราะเรื่องนี้ทั้งครอบครัวของเราต้องอับอายเพราะแก แกมันไร้อนาคตไปแล้ว แกต้องการทำลายอนาคตของน้องสาวด้วยหรือไง?” หลิงกว๋อจื้อด่าแววตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจลูกสาว เมื่อเขานึกย้อนไปถึงช่วงเวลาที่ครอบครัวของเขาอยู่ในระดับเดียวกับตระกูลเซียว เขามีหน้ามีตามาก แต่ตอนนี้เขาเสียความนับถือพวกนั้นไปหมดแล้วแก้มของหลิงอี้หรานเจ็บมากและเหมือนถูกไฟเผา แต่การแสดงออกของเธอยังคงสงบราวกับว่าเธอไม่สนใจเลย“เดิมทีฉันแค่อยากจะมาจุดธูปให้แม่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันไม่จำเป็นต้องมาจุดที่นี่แล้ว ฉันจะไม่เหยียบเท้าเข้ามาในบ้านหลังนี้อีกแล้ว” หลิงอี้หรานบอกหลังจากพูดจบหลิงอี้หรานก็หันกลับและเดินออกจากที่ที่เคยเป็นบ้านของเธอ ที่นี่ไม่ใช่ ‘บ้าน’ ของเธออีกต่อไปแล้ว—เมื่อหลิงอี้หรานกลับมาถึงอะพาร์ตเมนต์ของเธอ สถานที่นั้นช่างมืดมิดและไม่มีไฟเปิดใด ๆ เมื่อเธอเปิดไฟเธอก็ได้รับการต้อนรับด้วยความเงียบงันห้องขนาดสิบตารางเมตรนี้ เเค่เพียงมองแวบเดียวเธอก็สามารถบอกได้ทันทีว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 5

    “เพราะว่า…” เธอกลืนหมั่นโถวที่เหลือ รสชาติของหมั่นโถวเหล่านี้ไม่ได้ดีมากนัก เมื่อก่อนเธออาจจะไม่ชอบมัน แต่ตอนนี้รสชาติเป็นรอง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอคือการทำให้อิ่มท้อง"เราเป็นคนประเภทเดียวกันใช่ไหม? เราทั้งคู่ถูกสังคมทอดทิ้ง ดิ้นรนอยู่อย่างชนชั้นล่าง ไม่มีใครต้องการคนอย่างเราและไม่มีใครเห็นค่า แต่อย่างน้อยเราก็ต่างทำให้อีกฝ่ายอบอุ่นใจได้ ฉันเป็นห่วงคุณและคุณก็เป็นห่วงฉันได้ด้วยใช่ไหม? " เธอยิ้มอ่อนโยนให้เขา รอยยิ้มนั้นปนเปทั้งความหวัง ความปรารถนาและความกระวนกระวาย“อย่างนั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าเราจะเป็นคนประเภทเดียวกันจริง ๆ แหละนะ...” เขาพึมพำ สายตาของเขาดุจดั่งนักล่าที่กำลังจ้องมองสัตว์ตัวเล็ก ๆ ซึ่งตกหลุมพรางของเขา บางทีชีวิตอาจน่าเบื่อเกินไปสำหรับเขาเพราะเขาสามารถคว้าทุกสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ดีดนิ้ว แต่ตอนนี้การละเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้เริ่มทำให้เขาสนใจขึ้นมาแล้ว"พี่สาว" เขาพูดคำที่เธอหวังจะได้ยินออกมาเบา ๆในชั่วพริบตานั้นรอยยิ้มของเธอก็สดใสเหมือนดั่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว…หลังอาหารค่ำหลิงอี้หรานพาอี้จิ่นหลีไปตลาดกลางคืนกับเธอเพื่อที่จะซื้อเสื้อผ้าชุด

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 6

    หลิงอี้หรานตอบ “ฉันไม่ต้องการให้คุณมายกย่อง”ภายใต้ฤทธิ์ของเหล้า ผู้ช่วยผู้กำกับเหอพุ่งเข้าใส่หลิงอี้หรานและตบหน้าของเธออย่างจัง “ถ้าฉันอยากให้ดื่ม เธอก็ต้องดื่ม เธอก็แค่คนไร้ค่ายังจะมีอะไรมาอวดเบ่งอีก”เขาหยิบขวดไวน์แน่นและกรอกเข้าปากของเธอ หลิงอี้หรานพยายามผลักเขาออกไป แต่ชายคนนี้แรงมากกว่าเธอ แถมหลิงลั่วอินก็ยังช่วยเขาด้วยผู้ช่วยผู้กำกับเหอพอใจที่หลิงลั่วอินเข้ามาช่วยและกล่าวว่า "ลั่วอิน คุณยังฉลาดนะ ผมจะคุยกับผู้กำกับและให้คุณได้บทมากขึ้น"หลิงลั่วอินเล่นตามน้ำ “ขอบคุณผู้ช่วยผู้กำกับเหอค่ะ พี่สาวของฉันไม่ฉลาดไปหน่อย ดังนั้นโปรดเข้าใจด้วยนะคะ”หลิงอี้หรานไม่รู้ว่าเธอถูกบังคับให้ดื่มไวน์ไปมากแค่ไหน เธอคอไม่แข็งดังนั้นเธอเริ่มรู้สึกเมามากขึ้นเรื่อย ๆ เธอพยายามดิ้นรนควบคุมสติ “ฉัน… ฉันอยากกลับ…”“ได้สิ ฉันจะพาเธอกลับเดี๋ยวนี้ล่ะ” ผู้ช่วยผู้กำกับเหอประคองหลิงอี้หราน ผู้หญิงตรงหน้าของเขานั้นอาจจะไม่ได้สวยตราตรึงมากเเต่เมื่อเขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นเเฟนกับเซียวจื่อฉีเขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นและไม่อยากพลาดโอกาสทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของผู้ช่วยผู้กำกับเหอก็ดังขึ้น

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 7

    "เปล่า ไม่ได้ทำอะไร" เขาพูด นึกถึงว่าหลังจากที่เขาอุ้มเธอกลับไปที่อะพาร์ตเมนต์ ตอนที่เขาจะวางเธอลงบนเตียงทันใดนั้นเธอก็ผลักเขาลงบนเตียง ในขณะนั้นเขารู้สึกแปลกใจว่าทำไมเขาถึงประมาทขนาดนี้ ถ้าเป็นคนที่ต้องการฆ่าเขา เขาก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เขาระวังตัวมาตลอด เขาเผลอตัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ?แต่ก่อนที่เขาจะทันทำอะไร เธอก็เอามือแตะใบหน้าของเขาและปัดผมม้าหนา ๆ บนหน้าผากของเขาออกไปและสัมผัสดวงตาของเขาด้วยปลายนิ้วของเธอ“ดวงตาของนายสวยมากเลย… ฉันชอบ… มันดูใสมาก…” เธอพึมพำพูดกับตัวเอง"ใสเหรอ?" เขาหัวเราะเบา ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนใช้คำว่า ‘ใส’ มาอธิบายตาของเขา “หมายถึงว่ามันดูใสบริสุทธิ์เหรอ?”"มันเหมือนกับว่า... มันไม่เคยแปดเปื้อนจากบาปใด ๆ... มันใสบริสุทธิ์มาก... " เธอพูดอย่างเมามาย “ จินไม่ต้องกลัว... ฉันจะ... ปกป้องนายเอง...”หลังจากพูดอย่างนั้นเธอก็ฟุบลงบนหน้าอกของเขาและหลับไปเขาพูดว่า "พี่สาว พี่ไม่ได้ทำอะไรเลย พี่แค่หลับไป"เมื่อได้ยินเช่นนี้เธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกสายตาของเขามองตรงส่วนที่บวมแดงบนแก้มของเธอ “หน้าเจ็บหรือเปล่า?”เธอชะงักแล้วพูดว่า "ไม่เป็นไร" นี่ค

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 8

    จนถึงตอนนี้เวลา 3 ทุ่มกว่าก็ยังไม่เห็นกลับมา หลิงอี้หรานเริ่มกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่เขาไม่มีโทรศัพท์มือถือเธอจึงไม่สามารถโทรติดต่อเขาได้เธอออกจากห้องแล้วไปที่ทางเข้าเขตที่พัก เธอมองไปรอบ ๆ เพื่อหวังว่าจะได้พบร่างสูงที่เธอรอหลังจากที่รู้สิกว่านานเหลือเกิน ในที่สุดเธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคยเดินมาหาเธอ“จิน!” เธอเรียกและรู้สึกโล่งใจอย่างเห็นได้ชัดอี้จิ่นหลีมองเธอที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเขาและอดไม่ได้ที่จะสะดุ้งตกใจเล็กน้อย เธอหายใจหอบและแก้มก็แดงก่ำจากความหนาว แต่ดวงตารูปอัลมอนด์ของเธอกระจ่างสดใส“ดีจัง ในที่สุดนายก็กลับมาแล้ว” เธอกล่าว“พี่สาว พี่... รออยู่เหรอ?” เขาถามและสัมผัสแก้มของเธอเบา ๆ และความเย็นจากแก้มเธอทำให้ปลายนิ้วของเขาจั๊กจี้ ดูเหมือนว่าเธอจะรออยู่ข้างนอกมานานแล้ว"ใช่ ฉันกังวลมากเพราะดึกแล้วนายยังไม่กลับมา นายกลับมาอย่างปลอดภัยฉันก็โล่งใจแล้ว" เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มเขาตากระตุก เธอเป็นห่วงจินไม่ใช่อี้จิ่นหลีทายาทของอี้กรุ๊ป หากเธอรู้ว่าเขาคืออี้จิ่นหลีในอนาคตเธอจะยังคงเป็นห่วงเขาอยู่ไหมนะเขายกมุมปากขึ้นพร้อมพูดว่า "ฉันแจกใบปลิวเสร็จช้าไปหน่อย มือของพี่เย็นแล้วฉันจ

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 10

    "ถ้านายไม่ได้ทำเรื่องผิดกฎหมาย ทำไมฉันจะต้องผิดหวังล่ะ?" เธอถามขณะใส่ถุงเท้าและรองเท้าอีกครั้ง จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะสี่เหลี่ยมเล็ก ๆเขายิ้มและมองเธอเดินไป ดวงตาของเขาหม่นลงและเขากระซิบกับตัวเองว่า "ก็ดีพี่สาว ฉันหวังว่าเธอจะไม่ผิดหวังในอนาคต"—ตั้งแต่คืนนั้นที่คลับ หลิงลั่วอินก็รู้สึกวิตกกังวลอยู่ตลอด เพราะท่าทางของผู้ช่วยผู้กำกับเหอในวันนั้นแปลกชอบกลและในวันต่อมาผู้ช่วยผู้กำกับเหอก็ไม่ปรากฏตัวที่กองถ่ายอีกเลย สองวันต่อมาขนาดผู้กำกับยังโดนเปลี่ยนตัวสำหรับเหตุผลของการเปลี่ยนผู้กำกับดูเหมือนไม่มีใครในทีมงานภาพยนตร์ที่สามารถอธิบายได้ แต่หลิงลั่วอินรู้สึกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยผู้กำกับ หรืออาจจะเกี่ยวข้องกับหลิงอี้หรานไม่กี่วันต่อมาเมื่อเธอได้ยินว่าผู้ช่วยผู้กำกับเหอบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาลและดูเหมือนว่ามือขวาของเขาจะบาดเจ็บจนไม่สามารถใช้การได้ไปตลอดชีวิต เธอก็ตกตะลึงงัน มือขวาของเขา... ถ้าเธอจำไม่ผิดนั่นคือมือที่เขาใช้ตบหลิงอี้หรานคืนนั้น หลิงลั่วอินตื่นตระหนก นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?ท่าทางแปลก ๆ หลังจากผู้ช่วยผู้กำกับเหอรับสายโทรศัพท์ในคืนนั้น

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 10

    "ตราบใดที่นายไม่ทำสิ่งผิดกฎหมายทำไมฉันจะต้องผิดหวัง?" เธอถามขณะใส่ถุงเท้าและรองเท้าอีกครั้ง จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะสี่เหลี่ยมเล็ก ๆเขายิ้มและมองเธอกลับไป ดวงตาของเขาเป็นประกายและเขากระซิบกับตัวเองว่า "ก็ดี พี่สาว ฉันหวังเป็นอย่างยื่งว่าเธอจะไม่ผิดหวังในอนาคต"—ตั้งแต่คืนนั้นที่คลับ หลิง ลั่วอิน รู้สึกวิตกกังวล อย่างไรก็ตามการแสดงออกของผู้ช่วยผู้กำกับเหอในวันนั้นเป็นเรื่องแปลก ๆ ชอบกลและในวันต่อมาผู้ช่วยผู้กำกับเหอก็ไม่ปรากฏตัวในที่ทำงานอีกเลย หลังจากนั้นอีกวันผู้กำกับก็ถูกเปลี่ยนไปสำหรับเหตุผลดูเหมือนไม่มีใครในทีมงานภาพยนตร์ที่สามารถอธิบายได้ อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางประการ หลิง ลั่วอิน รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของผู้กำกับภาพยนตร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ช่วยผู้กำกับ เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้มากขึ้นเธอก็เริ่มกลัวว่ามันจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับหลิง อี้หรานสำหรับเรื่องเหตุผลแล้ว ไม่มีใครในทีมงานภาพยนตร์ที่จะสามารถอธิบายมันได้เลย อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่าง หลิง ลั่วอิน รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของผู้กำกับภาพยนตร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ช่วยผู้กำกับเหอ เมื่อเธอนึกถึงเรื่องนี้มากข

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 11

    หลิงกว๋อจื้อ ฟางซุ่ยเอ๋อและหลินลั่วอินมองหน้ากันฟางซุ่ยเอ๋อยากจะด่าอีกแต่จู่ ๆ หลิงกว๋อจื้อก็ห้ามไว้ "เอาเถอะ บางทีหมอนั่นอาจออกจากคุกมาเหมือนกัน! ในคุกมีคนอยู่ทุกประเภท ใครจะรู้ว่าทำไมเขาถึงได้ติดคุก"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟางซุ่ยเอ๋อก็ลังเลแล้วพูดว่า "แล้วพวกเราจะปล่อยมันไปแบบนั้นเหรอ?"หลิงกว๋อจื้อลังเลอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า "รอดูก่อนเถอะ ถ้าผู้ช่วยผู้กำกับเหอจะเอาเรื่องลั่วอิน เราก็ค่อยคิดหาทาง" เขาไม่มีความกล้าที่จะเผชิญชายคนนั้นอีกหลิงลั่วอินขมวดคิ้ว ชายคนเมื่อกี้เคยอยู่ในคุกจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ แม้ว่าดวงตาของชายคนนั้นถูกปิดไว้ด้วยผมหน้าม้า แต่เธอก็ยังสังเกตเห็นได้ว่าเขาดูดี…อีกอย่างเธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นดูคุ้น ๆ เหมือนกับว่าเธอเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนหรือชายคนนี้อยู่ในแวดวงบันเทิงด้วย?ในห้องเช่า หลิงอี้หรานมองอี้จิ่นหลีและพูดว่า "ขอบใจนะ" ถ้าจินไม่กลับมาเธอคงจะถูกพ่อของเธอทุบตีไปแล้วเมื่อกี้นี้ "ฉันก็แค่ช่วยพี่สาว ไม่มีอะไรต้องขอบคุณหรอก นั่นเป็นเรื่องที่ฉันควรทำอยู่แล้ว" เขาพูดพร้อมมองไปที่ข้อเท้าของเธอ "มันยังไม่หายดีเลยนะ ฉันจะทาน้ำมันไพลให้พี่เอง"ในขณะที่เขาพู

Bab terbaru

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 424

    เสียงจัวเชียนอวิ๋นดังมาจากปลายสาย “นี่ การผ่าตัดของเสี่ยวเหยียนเป็นไปด้วยดีนะ หมอบอกว่าเสี่ยวเหยียน หลังจากผ่านไปสองสามวันเสี่ยวเหยียนปรับตัวได้ เขาก็จะเริ่มการฝึกเรื่องของการแยกแยะเสียงแล้ว”“ดีมากเลยค่ะ” หลิงอี้หรานดีใจที่ได้ยิน “ถ้างั้นตอนบ่ายฉันจะแวะไปเยี่ยมเสี่ยวเหยียนนะคะ”จากนั้นหลิงอี้หรานก็ถามอีกครั้งถึงเลขห้องผู้ป่วยของเสี่ยวเหยียนในโรงพยาบาลก่อนจะวางสายไป“นี่เรื่องของเด็กที่หูหนวกนั่นเหรอ?” อี้จิ่นหลีมองหลิงอี้หรานก่อนถาม“การผ่าตัดของเสี่ยวเหยียนเป็นไปด้วยดี ยังไงตอนบ่ายฉันก็มีเวลาว่าง ฉันเลยจะไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล” หลิงอี้หรานบอก“ให้ฉันไปกับเธอแล้วกัน” อี้จิ่นหลีพูด“คุณจะไปกับฉันเหรอคะ?” หลิงอี้หรานเบิกตาโตอย่างประหลาดใจ “แต่… คุณไม่มีงานต้องทำเหรอ?”“ฉันก็แค่บอกให้เลขาเลื่อนงานตอนบ่ายออกไป ยังไงก็ไม่ได้มีอะไรเร่งด่วน” อี้จิ่นหลีพูดเรียบ ๆแต่หลิงอี้หรานรู้ดีว่าในบริษัทใหญ่แบบนี้ สำหรับคนเป็นประธานไม่มีอะไรที่ “เร่งด่วน” สำหรับเขา“ทำไม เธอไม่อยากให้ฉันไปด้วยเหรอ?” เขาถาม“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น” พูดตามตรงการที่เขาเต็มใจจะไปเป็นเพื่อนเธอ ทำให้เธอประหลาดใจแต่ก็ร

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 423

    และเพราะว่าเธอฟังเข้าใจ จู่ ๆ เธอก็ยิ่งรู้สึกอายสุดท้ายอี้จิ่นหลีก็ตอบว่า “เธอนั่นแหละ”“โอ้ จิน คุณเป็นอะไรกับเธอเหรอ? เป็นคนรักกันไหม?” คนต่างชาติมักจะชอบถามอะไรตรง ๆหากว่าเป็นพนักงานชาติเดียวกัน ไม่มีใครกล้าถามอี้จิ่นหลีตรง ๆ แบบนี้แน่จากนั้นหลิงอี้หรานก็ได้ยินอี้จิ่นหลีตอบเป็นภาษาอังกฤษ “เธอเป็นคนโปรดของฉัน”ฉับพลันหลิงอี้หรานก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบรัดไว้ แม้แต่จังหวะการเต้นของหัวใจก็เหมือนจะสะดุดหลังจากที่การประชุมทางวิดีโอจบลง อี้จิ่นหลีก็เดินเข้ามาหาเธอและถามว่า “เป็นอะไรไป? ทำไมหน้าแดงแบบนั้น?”“เปล่า…ไม่มีอะไรค่ะ” เธอรีบตอบแต่เขาก็เอามือมาจับหน้าเธอไว้แล้วพิจารณาหน้าแดงก่ำของเธอ “นี่เพราะว่าเรื่องที่พวกนั้นพูดเมื่อกี้เหรอ?”เธอไม่ได้ตอบอะไร แต่เธอก็ใช้ความเงียบเป็นการยอมรับ“ไว้อนาคตมีโอกาส ฉันจะแนะนำเธอกับพวกเขา” เขาบอก“แนะนำเหรอคะ?” เธอร้องเขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “ทำไม เธอไม่อยากเหรอ?”เอ่อ… เธออึ้งไป ตอนนั้นดวงตาสีดอกท้อคู่นั้นฉายแววบีบคั้น เหมือนว่าหากเธอตอบว่าไม่อยาก เธอก็คงเหมือนเป็นตัวจุดประกายให้ไฟโทสะเขาลุกท่วมเธอคิดอยู่พั

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 422

    “แต่ถึงกู้ลี่เฉินอยากจะแย่งเธอไปจริง ๆ เขาก็ทำไม่ได้ใช่ไหม? เพราะว่าคนที่เธอชอบก็คือฉัน และคนที่เธอมีชะตาต้องตกหลุมรักในอนาคตก็คือฉันใช่ไหม?”เสียงของเขาพึมพำและลมหายใจอุ่นร้อนก็เป่ารดใบหน้า เมื่อพูดจบเขาก็จูบเธอที่ริมฝีปากเขาไม่มีทางยกเธอให้ใคร เธอจะเป็นของเขาเท่านั้น……ตอนที่หลิงอี้หรานตื่นขึ้นมาให้วันต่อมา อี้จิ่นหลีก็ไปทำงานแล้ว หลังจากที่กินอาหารเช้าเสร็จเธอก็เตรียมอาหารกลางวันให้อี้จิ่นหลีที่คฤหาสน์อี้มีกล่องอาหารกลางวันและวัตถุดิบ และก็มีพ่อครัวอยู่ใกล้ ๆ เห็นชัดว่าพ่อครัวก็ได้รับคำสั่งมา หากว่าหลิงอี้หรานมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ พ่อครัวก็พร้อมช่วยถึงขนาดที่ว่าหลังจากทำกล่องอาหารกลางวันแล้ว หลิงอี้หรานรู้สึกว่าฝีมือของตัวเองนั้นพัฒนาสูงขึ้นเลยทีเดียวเธอนำกล่องอาหารมาที่อี้กรุ๊ป แต่เพราะว่าวันนี้คนขับรถของตระกูลอี้เป็นคนพาเธอมา ยามที่หน้าประตูก็ตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นเธอลงมาจากรถแม้ว่าพนักงานหลายคนในบริษัทเริ่มที่จะลือกันว่าพนักงานส่งอาหารลึกลับคนนี้น่าจะไม่ใช่คนธรรมดา แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าพนักงานคนนี้จะเปลี่ยนจากรถไฟฟ้าเล็ก ๆ มาเป็นรถส่วนตัวเร็วแบบนี้โดยเฉพาะรถ

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 421

    ช่วงนี้เขามักจะมาค้างในห้องของเธอ นอนร่วมเตียงกับเธอ แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะไม่ได้ทำอะไรกัน แต่มันก็เหมือนว่าการนอนร่วมเตียงเดียวกันนั้นกลายเป็นนิสัยไปโดยไม่รู้ตัวแล้วเพราะว่าเธอต้องเปิดไฟนอน เธอก็พูดเสียงอ่อนว่า “คุณจะชินกับการเปิดไฟนอนตลอดเวลาไปแล้ว ทำไมคุณไม่กลับไปนอนห้องคุณล่ะคะ”สุดท้ายเขาก็บอกว่า “ฉันอยากนอนกับเธอนี่ พี่สาว ถึงจะเปิดไฟไว้ก็ไม่เป็นไรหรอก”ดังนั้นคำพูดที่เหลือของเธอจึงโดนกลืนกลับลงไป“เธอจะนอนแล้วเหรอ?” อี้จิ่นหลีถามขณะที่มองหลิงอี้หรานเดินไปที่เตียง“ใช่” หลิงอี้หรานพูดพร้อมหน้าแดงเรื่อหลิงอี้หรานเลิกผ้าห่มและเข้าไปนอนเตียง มือของอี้จิ่นหลีก็มาโอบรอบเอวเธอ เขากอดเธอแนบแน่นและฝังใบหน้าซุกกายเธอราวเก็บเด็กที่อยากจะออดอ้อนเขาดูราวกับเด็กเล็กน้อยซึ่งต่างไปจากท่าทางปกติของเขา แต่ด้วยเหตุผลบางประการ หลิงอี้หรานรู้สึกว่าชอบอี้จิ่นหลีที่มีท่าทางเป็นเด็ก ๆ แบบนี้“ว่าแต่กู้ลี่เฉินหมายความว่าอะไรตอนที่คุยกับคุณวันนี้? พวกคุณทะเลาะกันเหรอ?”จู่ ๆ หลิงอี้หรานก็คิดขึ้นมาได้“ประโยคไหนล่ะ?” อี้จิ่นหลีถาม พลางรู้สึกว่าการกอดเธอมันชวนให้เสพติดมาก เมื่อเขากอดเธอแล้วก็ไม

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 420

    “ฉันเข้าใจค่ะ ฉันจะไม่พูดอะไรกับเธอ” จัวเชียนอวิ๋นลังเลและบอกว่า “ถึงตอนนี้ฉันจะรู้ว่าเธอเป็นแฟนของคุณ ฉันไม่เคยบอกอะไรเธอมาตั้งแต่แรก และฉันก็ไม่คิดว่าจะบอกอะไร ไม่คิดจะหาประโยชน์จากเธอ แน่นอนว่าในอนาคตฉันก็ไม่คิดจะทำแบบนั้น ที่ตอนแรกฉันจ้างเธอก็เพราะว่าฉันรู้สึกว่าเธอเหมือนกับฉัน เคยติดคุกมาก่อน และรู้สึกว่าเราลงเรือลำเดียวกัน ฉันก็เลยอยากให้โอกาสเธอได้ทำงาน”ความเย็นชาในตาของอี้จิ่นหลีหายไป “ผมไม่สนหรอกว่าระหว่างคุณกับเย่เหวินหมิงมีเรื่องอะไร แต่ตราบใดที่เธอยังทำงานที่นี่กับคุณ เธอก็จะทำงานอย่างปลอดภัย หากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ ไม่ว่าจะอะไร คุณโทรหาผมได้ตลอด”เมื่อพูดจบ เขาก็เอาเบอร์มือถือให้จัวเชียนอวิ๋นจัวเชียนอวิ๋นรีบจดลงไป เธอเกรงว่าคงมีไม่กี่คนที่สามารถมีเบอร์นี้ได้ในเมืองเสิ่น แต่ตอนนี้เธอได้มาภายใต้เงื่อนไขแต่ที่อี้จิ่นหลีบอกว่าเขาไม่สนว่าระหว่างเธอกับเย่เหวินหมิงมีเรื่องอะไร ก็แปลว่าเขาคงไม่บอกเย่เหวินหมิงว่าเธออยู่ที่ไหน ซึ่งนี่ก็ทำให้จัวเชียนอวิ่นหายใจได้อย่างโล่งอกอี้จิ่นหลียังอยู่ในร้านและกินมื้อเย็นกับหลิงอี้หรานดังนัั้นเมื่อเลิกงาน เพื่อนร่วมงานทุกคนเลยได้รู

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 419

    จัวเชียนอวิ๋นจำได้ว่าตอนที่เธอดึงหลิงอี้หรานมาถาม อีกฝ่ายก็ให้คำตอบที่ชัดเจนหนักแน่นกับเธอ“ก็พี่จัว คนที่ว่าก็คืออี้จิ่นหลีของอี้กรุ๊ป” โอเค ก็ถือว่าเป็นคำตอบแล้วกันจัวเชียนอวิ๋นรู้สึกว่าเหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางหัวเธอ ซึ่งทำให้เธอมึนไม่หายพนักงานส่งอาหารให้ร้านของเธอเป็นแฟนกับอี้จิ่นหลีจริงเหรอ? ถ้าบอกไปแล้วใครจะเชื่อ?โดยเฉพาะหลิงอี้หรานบอกว่ายังมีอาหารที่ต้องออกไปส่งอีก อี้จิ่นหลีก็บอกว่า “ถ้างั้นฉันจะรอเธอที่นี่ วันนี้ยังไงก็ว่าง”ดังนั้นคนหนึ่งก็ออกไปส่งอาหาร ส่วนอีกคนก็… เอ่อ อ่านหนังสือจัวเชียนอวิ๋นรู้สึกว่าเธอประสบคลื่นลมโหมกระหน่ำ แต่ตอนนี้เธอสับสนมากทำไมอี้หรานถึงได้ยังมาทำงานที่ร้านของเธอหากว่ามีแฟนแบบนี้? แล้วอี้จิ่นหลีจริงจังกับอี้หรานเหรอ?แต่เมื่อมองเหตุการณ์ก่อนหน้าระหว่างทั้งสอง ก็ไม่ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องหลอกลวง อย่างน้อยท่าทีของอี้จิ่นหลีที่มีต่ออี้หรานด้วยสายตาคนนอกอย่างเธอก็เห็นได้ว่าเขารักอี้หรานมากเมื่อเห็นว่าอี้จิ่นหลีกินกาแฟหมดแล้ว จัวเชียนอวิ๋นก็เดินเข้าไปหาและถามว่า “คุณอี้ ต้องการอะไรเพิ่มไหมคะ?”“ขอน้ำให้ผมแก้วหนึ่งพอครับ” อี้จิ่นหลีบอกดังนั้น

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 418

    หลิงอี้หรานอดหน้าแดงไม่ได้ เธอกัดปากเล็กน้อยและบอกกับจัวเชียนอวิ๋น “เขาเป็นแฟนฉันค่ะ”“แฟนเธอเหรอ?” จัวเชียนอวิ๋นตาเบิกกว้างทันที แม้เธอจะรู้สึกได้ว่าระหว่างทั้งสองคนมีบรรยากาศแปลก ๆ ขณะที่พูดคุยกันก็ตามแต่… แฟนเหรอ? อี้หรานมีแฟนเหรอ? แถมยังเป็นผู้ชายที่ดูลึกล้ำยากจะหยั่งถึงนี่คือสิ่งที่จัวเชียนอวิ๋นรู้สึก ตอนนั้นเองแม้ว่าชายคนนั้นจะมีรอยยิ้มบนใบหน้าและดูไม่มีพิษภัย แต่เธอไม่คิดว่าชายคนนี้จะไร้พิษภัยจริง ๆ ตรงกันข้ามสัญชาตญาณบอกเธอว่าชายคนนี้อันตรายมากทั้งร่างของเขาแผ่กลิ่นอายของคนที่สูงส่งออกมา“ค่ะ แฟนฉัน” หลิงอี้หรานตอบ“สวัสดีค่ะ… ฉันเป็นเจ้าของร้านที่นี่ จัวเชียนอวิ๋น” จัวเชียนอวิ๋นแนะนำตัวเอง“สวัสดีครับ ผมอี้จิ่นหลี” อี้จิ่นหลีบอกสีหน้าจัวเชียนอวิ๋นตะลึงอีกครั้ง จากนั้นแววตาประหลาดใจของเธอก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆอี้จิ่นหลี… คงไม่ใช่… คงไม่ใช่คนที่เธอคิดหรอกนะ ตอนนี้จัวเชียนอวิ๋นรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาร้านของเธอมีกู้ลี่เฉินมา แล้วก็มีอี้จิ่นหลีมาอีก ผู้ชายทั้งสองคนต่างก็มาหาอี้หรานแล้ว… ตัวตนที่แท้จริงของเธอมันยังไงกันแน่? ใช่แบบที่เขียนในใบสมัครงานจริงเหรอ?ตอน

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 417

    อี้จิ่นหลียังคงดื่มกาแฟในมือสบาย ๆ เหมือนกับว่าเขากำลังเพลิดเพลินกับเวลาน้ำชา และเขาก็แค่มาพูดคุยเล่นกับกู้ลี่เฉินไม่ได้คุยเรื่องที่สามารถเขย่าเมืองเสิ่นให้สั่นสะเทือนได้กู้ลี่เฉินค่อย ๆ สงบความคุกรุ่นในแววตาลงและก็หยิบกาแฟขึ้นมาจิบอีกครั้งทั้งสองต่างก็ไม่มีบรรยากาศน่าตึงเครียดเหมือนก่อนหน้าแล้ว และตอนนี้ก็เหมือนเป็นการกินข้าวกันระหว่างเพื่อนเท่านั้นจัวเชียนอวิ๋นรู้สึกทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะลูกค้าคนอื่น ๆ ในร้านโดยเฉพาะลูกค้าสาว ๆ ต่างก็มองทั้งสองเป็นระยะ อย่างไรพวกเขาคนหนึ่งก็ดูเหมือนดารา ไม่ต้องนับพวกลูกค้าสาวหรอก ขนาดจัวเชียนอวิ๋นเองยังอยากหยิบมือถือมาถ่ายเลยตอนที่ลูกค้าสาวยกมือถือส่องไปทางอี้จิ่นหลีและกู้ลี่เฉิน ก่อนที่เธอจะทันได้กดปุ่มถ่ายรูปก็มีมือใหญ่มาขวางเอาไว้เขาก็คือบอดี้การ์ดของอี้จิ่นหลี เขาพูดกับลูกค้าสาวว่า “ท่านประธานไม่ชอบโดนถ่ายรูปครับ ถ้าคุณยืนกรานจะถ่ายให้ได้ ผมก็คงทำได้แค่ต้องเชิญคุณออกไป”ลูกค้าสาวอึ้งงันไป นี่มัน…ขู่กันเหรอ? แต่เมื่อเธอเห็นสีหน้าไร้อารมณ์ของบอดี้การ์ดและ… ร่างกายกำยำของเขา คำพูดที่เธอเตรียมจะเอ่ยประท้วงก็โดนกลืนกลับลงท้องไปจิตสำนึกบอก

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 416

    นิ้วมือของกู้ลี่เฉินที่จับแก้วกาแฟอยู่บีบแน่นเล็กน้อย “แล้วถ้าฉันเสียใจล่ะ?” ตอนนั้นเขาประเมินน้ำหนักของหลิงอี้หรานที่มีในใจตัวเองต่ำไปเขาคิดว่าหลิงอี้หรานเหมือนคนที่เขาตามหา ดังนั้นเขาก็เลยสนใจเธอแค่นั้นแต่ต่อมาเขาก็พบว่ามันมากกว่านั้น เมื่อเขาเห็นคนอื่นทำร้ายเธอ ทำอันตรายเธอ เขาก็รู้สึกหัวใจบีบรัดและรีบเข้าไปช่วยโดยไม่รู้ตัวเหมือนว่าแค่เห็นเธอบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขาใจสลายได้ และตอนที่เธอจะจากไป เขาก็คิดเรื่องเธอมาก เหมือนว่าเขาอยากให้เธอมองเขานานอีกหน่อยแค่เพียงนิดเดียวก็ยังดีนานแค่ไหนแล้วที่เขาสนใจผู้หญิงสักคนมากขนาดนี้? ยกเว้นเด็กผู้หญิงที่เคยช่วยเขาตอนนั้น เธอเป็นแค่คนเดียวเท่านั้นเขาถึงกับคิดว่า บางทีเขาไม่น่ายอมปล่อยเธอให้อี้จิ่นหลีง่ายเกินไปเลย หากว่าเธออยู่ข้างกายเขา จะทำให้เขาคิดถึงคนที่ตามหาอยู่น้อยลงไหม? แล้วจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากการไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการมาบ้างไหม?แววตาอี้จิ่นหลีมืดครึ้มทันที เขาจ้องกู้ลี่เฉินเย็นชา “นายไม่มีโอกาสแน่ และฉันก็จะไม่ให้นายมีโอกาสด้วย”“งั้นเหรอ?” กู้ลี่เฉินสบตาอีกฝ่าย “งั้นฉันคงต้องขอลองดูและดูว่าทำไมฉันถึงได้ไม่มีโอ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status