Share

บ่วงรักนักโทษสาว
บ่วงรักนักโทษสาว
Penulis: ต้นไผ่น้อย

บทที่ 1

Penulis: ต้นไผ่น้อย
เล็บมือของเธอนั้นกำลังถูกถอดออก มือของเธอเต็มไปด้วยเลือดและร่างของเธอก็โดนกดตรึงไว้กับพื้นอย่างไรปราณี

“ทนายสาวมีอนาคตสดใส ตอนนี้ก็กลายสภาพมาเป็นแค่กองขี้โคลน” เสียงเย็นชาโหดเหี้ยมดังขึ้นเหนือศีรษะของหลิงอี้หราน

เธอเงยหน้าขึ้นมาด้วยความสิ้นหวังและมองใบหน้าที่สวยและทรงเสน่ห์ตรงหน้าของเธอ ใครจะคิดว่าดาราซึ่งเป็นที่นิยมทั้งทางด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่ดูไร้เดียงสาราวดอกบัวขาวในสายตาคนอื่นจะเลวทรามได้ขนาดนี้

“ห่าวอี้เหมิง ทำไมกัน?” เธอถามด้วยเสียงอันสั่นเทา

“เธอฆ่าน้องสาวของฉัน ยังจะกล้าถามว่าทำไมอีกเหรอ?” ห่าวอี้เหมิงพูดอย่างดูถูกด้วยสายตาอันชั่วร้ายขั้นสุด ริมฝีปากของเธอยกยิ้มเย็นเสียดแทงเข้ากระดูก

“ไม่ใช่ฉัน… ฉันบริสุทธิ์!” เธอพูดด้วยความยากลำบากและส่ายหน้าไม่หยุด พยายามยืดตัวขึ้น ดวงตาดำขลับของเธอจ้องเขม็งไปยังชายที่ยืนอยู่ข้างกายห่าวอี้เหมิง

นั่นคือ… อดีตแฟนเก่าของเธอ ชายผู้ซึ่งเคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลปกป้องเธอไปตลอดทั้งชีวิตที่เหลือของเธอ

ในอดีตแม้ว่านิ้วมือของเธอจะเคยถูกเข็มทิ่มแทงโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาก็จะรู้สึกทุกข์ใจไปครึ่งค่อนวัน แต่ตอนนี้เขาเพียงแค่เฝ้าดูเธอถูกทรมานโดยไม่กะพริบตา

“จื่อ...จื่อฉี…” เธอร้องสุดแรง “ขอร้อง… ขอร้องเถอะนะ เชื่อฉันเถอะ…”

เขายังคงสวมสูทเนี๊ยบเหมือนดั่งเคย เเต่เมื่อเขามองเธอด้วยดวงตาดำเข้มของเขานั้น มันมีแต่ความมืดครึ้มและเฉยเมย

“จื่อฉี คุณคงไม่ได้เห็นใจผู้หญิงคนนี้หรอก ใช่ไหม? เธอพรากชีวิตพี่สาวของฉัน ฉันทำแบบนี้เพื่อให้พี่ได้นอนตายตาหลับ” ห่าวอี้เหมิงพูดขณะควงแขนของชายผู้นี้ไว้อย่างรักใคร่ ท่าทางชั่วร้ายของเธอกลับดูน่าสงสารเห็นใจเมื่อเธออยู่กับเขา

“ที่เธอโดนอยู่นั้นสมควรแล้ว ไม่มีจำเป็นจะต้องสงสารเธอ “เซียวจื่อฉี ลูบผมของห่าวอี้เหมิงที่จัดทรงมาอย่างดีด้วยความอ่อนโยน “ทำตามที่คุณต้องการเลยครับ”

หลิงอี้หรานเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ

สมควรเหรอ?

ฮะ!

ชายคนนี้ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยรักและหวงแหนเธอราวกับดั่งแก้วตาดวงใจ และตอนนี้ทิ้งไว้เพียงประโยคเดียวให้กับเธอ — เธอสมควรได้รับมัน

ด้วยพละกำลังที่ไม่รู้มาจากไหน เธอผละออกจากคนที่กำลังกดตัวเธอไว้และพยายามดิ้นรนที่จะคลานไปข้างหน้าเพื่อพยายามเข้าไปใกล้ ๆ ชายคนนั้น

“จื่อฉี ฉันไม่รู้เรื่องอุบัติเหตุนั่น วันนั้นฉันไม่ได้เมาแล้วขับจริง ๆ เป็นรถของห่าวเหมยยวี่… ที่ชนฉัน…”

ตึก

มีเท้าเหยียบกดลงบนมือเธอทันที ทำให้เจ็บปวดจนเกินบรรยาย

อย่างไรก็ตามทั้งหมดยังคงเจ็บไม่เท่ากับความเจ็บปวดหัวใจของหลิงอี้หรานในตอนนี้

เธอเงยหน้าอย่างยากลำบากเเล้วมองไปที่เซียวจื่อฉีที่เหยียบย่ำมือของเธอด้วยรองเท้าหนังของเขา เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะใจร้ายได้ถึงเพียงนี้

เธอหายใจเข้าลึก ๆ และถามด้วยเสียงที่แหบพร่า “คุณเคยรักฉันบ้างไหม?”

“สิ่งที่ผมเสียใจที่สุดในชีวิตของผมคือการมีคุณเป็นแฟน” เซียวจื่อฉีกล่าวด้วยเสียงที่เย็นชา

“จื่อฉี ทำให้มือเธอพิการซะ มือคู่นี้ขับรถที่ชนและพรากชีวิตพี่สาวของฉัน” เสียงของห่าวอี้เหมิง ดังขึ้น

วินาทีต่อมา เธอได้ยินเขาพูดว่า "โอเค!"

“อ๊า!” หลิงอี้หรานลืมตาขึ้นทันทีจากนั้นเธอจึงตระหนักได้ว่าเธอฝันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคุกเมื่อหลายปีก่อน

เธอก้มลงมองไปยังมือที่เต็มไปด้วยแผลเป็นของเธอ หลังจากถูกจำคุกสามปีมือของเธอก็ไม่นุ่มนวลและบอบบางเหมือนในอดีตอีกต่อไป แม้ว่าเล็บทั้ง 10 นิ้วของเธอจะงอกกลับมา แต่มือของเธอก็ยังเต็มไปด้วยแผลเป็นจากการบาดเจ็บ กระดูกนิ้วของเธอรักษาจนหายแต่ว่าข้อต่อของนิ้วดูบิดเบี้ยวไปเล็กน้อยและเธอไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวหรือขยับนิ้วของเธอได้ดีในหลาย ๆ การเคลื่อนไหว นิ้วของเธอจะเจ็บปวดเมื่ออากาศหนาวเย็นและเปียกชื้น บางครั้งความเจ็บปวดทวีคูณยิ่งขึ้น จนเธออยากตัดมือออกไปให้สิ้นซากเพื่อยุติความเจ็บปวดนั้น

มันเริ่มขึ้นเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน เธอนั้นถูกกล่าวหาว่าเป็นเมาแล้วขับซึ่งทำให้ห่าวเหมยยวี่ถูกชนเสียชีวิต ห่าวเหมยยวี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทายาทตระกูลห่าว แต่ยังเป็นคู่หมั้นของอี้จินหลี ซึ่งเป็นชายที่มีอำนาจมากที่สุดแห่งเมืองเฉิน

หลังจากอุบัติเหตุเธอก็ถูกทั้งครอบครัวเเละเพื่อน ๆ ของเธอหักหลังและสุดท้ายเธอก็ถูกตัดสินจำคุกสามปี

หลิงอี้หรานยืนขึ้น เธอหยิบเครื่องมือทำความสะอาดข้างตัวเธอ

เธอสวมชุดทำงานสีสดใสของพนักงานสุขาภิบาลกับผมยาวที่มัดรวบเป็นหางม้า ใบหน้าอันบอบบางของเธอแดงก่ำขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ภายใต้ดวงตาอัลมอนด์คือจมูกงดงามและริมฝีปากบางสีชมพูอ่อน

ถ้าเพียงแค่มองใบหน้าของเธอ อาจคิดว่าเธอเพิ่งจะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ถึงกระนั้นดวงตาของเธอก็ไม่ได้มีชีวิตชีวาของความเยาว์วัย แต่กลับเป็นความมัวหมองของวัยผู้ใหญ่

วันนี้เธอเข้ากะกลางคืน เมื่อกี้นี้เธองีบหลับอยู่ในศูนย์บริการสุขาภิบาลและเกือบจะพลาดเวลาไปทำงาน เมื่อเธอกำลังจะออกไปเธอก็ได้ยินพื่อนร่วมงานกำลังอ่านข่าวทางโทรศัพท์มือถือ

“นี่ได้ยินเรื่องนี้ไหม? เซียวจื่อฉีกำลังจะหมั้นกับห่าวอี้เหมิง ห่าวอี้เหมิงช่างเป็นสาวที่โชคดีอะไรเยี่ยงนี้ ไม่ใช่เป็นแค่ดาราซุปเปอร์สตาร์แต่ยังเป็นทายาทตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจ และตอนนี้เธอก็กำลังจะแต่งงานกับตระกูลเซียวผู้มั่งคั่งอีก”

หลิงอี้หรานร่างเกร็งเขม็งและรีบออกไปจากศูนย์บริการสุขาภิบาลทันที เซียวจื่อฉี ห่าวอี้เหมิง… สองชื่อนี้เป็นความเจ็บปวดที่ฝังอยู่ลึกลงไปในกระดูกของเธอ

คืนนี้เป็นคืนอันหนาวเหน็บในเดือนมกราคม หลิงอี้หรานกำลังถือไม้กวาดทำความสะอาดถนน ความหนาวเย็นทำให้มือเธอเจ็บปวด หลิงอี้หรานบอกกับตัวเองในใจว่าให้อดทนเข้าไว้แล้วทุกอย่างจะดีเอง การทานยาแก้ปวดในฐานะเจ้าหน้าที่สุขาภิบาลเป็นอะไรที่เกินเอื้อม

ขณะที่หลิงอี้หรานกำลังกวาดถนนอยู่ จู่ ๆ รถเฟอร์รารีคันหนึ่งก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ชายและหญิงลงมาจากรถ หลิงอี้หรานหน้าซีด เธอจำชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอได้

เขาเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลร่ำรวย ตอนที่เธอคบยังเซียวจื่อฉี เขาก็มาทำตัวรุ่มร่ามกับเธอซึ่งทำให้เธอปฏิเสธเขาไปอย่างแข็งกร้าว

“นี่มันทนายหลิงไม่ใช่เหรอ? ทำไมคุณถึงกำลังกวาดถนนอยู่ล่ะ?” ซุนเถิงหยางถามพร้อมยิ้มรู้ทัน

หญิงที่อยู่ข้างเขาหัวเราะเเละพูดว่า “เธอเคยเป็นทนายเหรอ? น่าแปลกใจจัง”

“อย่าไปสบประมาททนายหลิงเชียวนะ” ซุนเถิงหยางพูด “เธอเคยเป็นแฟนของเซียวจื่อฉี”

หลิงอี้หรานจับไม้กวาดแน่นพยายามจะหลบเลี่ยงพวกเขา แต่ซุนเถิงหยางจับแขนเธอไว้และดันเธอเข้าไปติดกับกำแพง

เมื่อเห็นเจตนาของเขา อี้หรานก็ยกเท้าขึ้นเตะเขา ทำให้เขาต้องปล่อยเธอ แต่ซุนเถิงหยางก็ไม่ยอมรามือและขับรถเฟอร์รารี่ไล่ตามเธอไป

ในตอนนี้หลิงอี้หรานวิ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งของถนน แต่ก็แปลกเพราะว่าโดยปกติเเล้วถนนนี้มีรถพลุกพล่านในตอนกลางคืน ตอนนี้มันเปลี่ยวมากจนไม่มีคนหรือรถเเม้เเต่คันเดียว

ที่นี่มัน… ช่างว่างเปล่าเหมือนเมืองร้าง

หลิงอี้หรานโดนซุนเถิงหยางไล่มาจนมุม หมดทางหนี ซุนเถิงหยางนั้นกำลังจะลงมือเมื่อมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาในค่ำคืนที่เงียบสงัดนี้

เสียงฝีเท้านั้นดังหนักแน่นชัดเจน

จากนั้นเธอก็เห็นชายร่างสูงมีผมหน้าม้าเกือบปิดตาเขา เธอมองไม่เห็นใบหน้าของเขาชัดเจน เขาใส่ชุดสูทเชย ๆ และดูเก่า

“ไปให้พ้นซะ อย่ามาขวางทางฉัน!” ซุนเถิงหยางแค่นเสียงใส่

ชายคนนั้นมองไปที่ซุนเถิงหยางอย่างเฉื่อยชา ซุนเถิงหยางเสียวสันหลังด้วยความกลัว

แววตาของชายคนนี้เย็นชาไร้ชีวิต เขามองซุนเถิงหยางเหมือนเป็นศพไร้ชีวิต ซุนเถิงหยางถ่มน้ำลายและยกหมัดขึ้นง้างใส่ชายคนนั้น แต่อึดใจต่อมาเขาก็พบว่าตัวเองลงไปนอนกองกับพื้น ใบหน้าแนบกับทางเท้าและไร้ทางสู้

เหตุการณ์ต่อมานั้นเป็นการลงมือฝ่ายเดียวหรือเหมือนการซ้อมซะมากกว่า ที่หัวมุมสี่แยกไม่ไกลออกไปมีรถคันหนึ่งจอดอยู่ ภายในรถเกาฉงหมิงนั่งมองเหตุการณ์และพูดกับตัวเอง “หวังว่านายน้อยอี้จะไม่สติแตกนะ”

หากว่านายน้อยอี้ระเบิดอารมณ์ ก็ไม่มีใครสามารถเดาผลที่ตามมาได้ มันอาจจะถึงขั้นมีคนต้องเสียชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เกาฉงหมิงเคยเห็นความคลุ้มคลั่งของนายน้อยอี้มาก่อน และเขาก็ไม่อยากจะเห็นอีกแล้ว

คืนนี้ถนนถูกปิด และไม่มีใครคิดว่าจะมีคนและรถเฟอร์รารี่โผล่เข้ามารบกวนความสงบของนายน้อยอี้ วันนี้ของทุกปีนายน้อยอี้จะปิดถนน ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ และนั่งอยู่คนเดียวเงียบ ๆ ไม่มีใครกล้าถามว่าทำไม มันเป็นเหมือนเรื่องต้องห้าม

แม้ว่าเกาฉงหมิงจะอยู่กับอี้จิ่นหลีมาหลายปี แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมนายของเขาถึงทำแบบนี้ ตอนนี้เขานั่งมองเจ้านายยกร่างชายร่างท้วมขึ้นและซ้อมเขาต่อไป เกาฉงหมิงไม่แน่ใจว่าควรเขาไปแทรกไหม

ตอนนั้นเองเขาก็ได้เห็นว่าผู้หญิงที่เกือบโดนข่มเหงอ้าปากพูดบางอย่าง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 2

    หลิงอี้หรานกล่าวว่า "ถ้าคุณชกเขาอีกเขาจะตายนะคะ"“เเล้วยังไง?” อี้จิ่นหลีกล่าวพลางก้มศีรษะลงมองอย่างเยือกเย็นไปที่หลิงอี้หรานผู้ซึ่งพยายามยืนขึ้นด้วยความยากลำบากหลิงอี้หรานถึงกับชะงัก ตอนนี้เธอสามารถเห็นชายคนนี้ได้อย่างชัดเจนเเจ่มเเจ้ง เขาหล่อและมีจมูกที่โด่งตรงเป็นสันขึ้นรูป ริมฝีปากของเขาบางและดูดี แม้ว่าเขาจะดูมีรูปลักษณ์ที่ดี แต่เขายังซ่อนอารมณ์สีหน้าไว้ไม่ให้ใครรับรู้ดวงตาดอกท้อภายใต้ผมหน้าม้าเต็มไปด้วยความขุ่นมัวและความเฉยเมย ราวกับว่าชีวิตของผู้คนนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับเขาเลยทั้งสิ้น เขาไม่สนใจชีวิตของคนอื่นหรือแม้เเต่ชีวิตของเขาเองหลิงอี้หรานสูดหายใจเข้าลึกเเละพูดว่า “มันไม่คุ้มค่าที่จะต้องมีปัญหาเพราะคนห่วย ๆ แบบนี้”เขาจ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ ในไม่กี่วินาที อี้จิ่นหลีก็คลายนิ้วมือของเขาออก ซุนเถิงหยางรู้สึกราวกับว่ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง เขาไม่สนใจว่าจะมีเลือดอยู่บนใบหน้าของเขาหรือไม่ ซุนเถิงหยาง รีบวิ่งไปที่รถพร้อมผู้หญิงจากนั้นก็หนีไปซุนเถิงหยางกัดฟันกรอดและพูดว่า “ฉันจะพาพวกมามากกว่านี้และซัดไอ้คนนั้นให้สาสม”หญิงสาวที่เงียบอยู่ ม่านตาของเธอหดตัวลงเมื่อรู้ว

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 3

    ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง หลิงอี้หรานจ้องมองเขาอยู่เงียบ ๆ ในตอนนั้นความเหงาที่เธอเคยรู้สึกเมื่อใดก็ตามที่เธอเพิ่งกลับมาที่อะพาร์ตเมนต์ดูเหมือนจะหายไป อาจเป็นเพราะมีคนอื่นอยู่ในห้องกระมัง?หลังจากที่เขากินเสร็จ หลิงอี้หรานก็ทำความสะอาดจาน “ฉันมักจะนอนโดยเปิดไฟฉันหวังว่าคุณจะไม่รังเกียจนะคะ” เธอกล่าว นับตั้งแต่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเธอก็ติดนิสัยชอบเปิดไฟขณะนอนหลับ“ไม่เป็นไร”หลิงอี้หรานนอนลงบนเตียงในขณะที่เขานอนบนฟูกที่เธอปูไว้ที่พื้นเธอหลับตาลงและพยายามอย่างมากที่จะหลับ เธอไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นเมื่อใด แต่ในบางช่วงเวลาเธอเริ่มพบว่ามันน่ากลัวจริง ๆ ที่จะข่มตาให้หลับลงเพราะเมื่อเธอหลับลงคราใด เธอมักจะฝันถึงช่วงเวลาที่อยู่ในคุก เธอจะถูกทุบตีทำให้อับอายและถูกทารุณกรรม... และทุกนิ้วยังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากการถูกหักและเล็บที่ถูกถอด …หลายครั้งที่เธอคิดว่าเธอจะตายในคุกอย่างไรก็ตามช่างน่าแปลกที่เธอนอนหลับจนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้นในคืนนั้น และฝันร้ายประจำของเธอก็ไม่มาเยือนหลิงอี้หรานมองร่างที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความงุนงงมันเป็นเพราะเขางั้นเหรอ? เป็นเพราะเธอไม่ได้อยู่คนเดียวในห้อง

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 4

    หลิงลั่วอินหน้าซีดเผือดและหลิงกว๋อจื้อก็ตบหน้าหลิงอี้หรานฉาดใหญ่ "แกกำลังพูดเรื่องอะไร? แกขับรถชนคนตายแล้วติดคุก เพราะเรื่องนี้ทั้งครอบครัวของเราต้องอับอายเพราะแก แกมันไร้อนาคตไปแล้ว แกต้องการทำลายอนาคตของน้องสาวด้วยหรือไง?” หลิงกว๋อจื้อด่าแววตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจลูกสาว เมื่อเขานึกย้อนไปถึงช่วงเวลาที่ครอบครัวของเขาอยู่ในระดับเดียวกับตระกูลเซียว เขามีหน้ามีตามาก แต่ตอนนี้เขาเสียความนับถือพวกนั้นไปหมดแล้วแก้มของหลิงอี้หรานเจ็บมากและเหมือนถูกไฟเผา แต่การแสดงออกของเธอยังคงสงบราวกับว่าเธอไม่สนใจเลย“เดิมทีฉันแค่อยากจะมาจุดธูปให้แม่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันไม่จำเป็นต้องมาจุดที่นี่แล้ว ฉันจะไม่เหยียบเท้าเข้ามาในบ้านหลังนี้อีกแล้ว” หลิงอี้หรานบอกหลังจากพูดจบหลิงอี้หรานก็หันกลับและเดินออกจากที่ที่เคยเป็นบ้านของเธอ ที่นี่ไม่ใช่ ‘บ้าน’ ของเธออีกต่อไปแล้ว—เมื่อหลิงอี้หรานกลับมาถึงอะพาร์ตเมนต์ของเธอ สถานที่นั้นช่างมืดมิดและไม่มีไฟเปิดใด ๆ เมื่อเธอเปิดไฟเธอก็ได้รับการต้อนรับด้วยความเงียบงันห้องขนาดสิบตารางเมตรนี้ เเค่เพียงมองแวบเดียวเธอก็สามารถบอกได้ทันทีว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 5

    “เพราะว่า…” เธอกลืนหมั่นโถวที่เหลือ รสชาติของหมั่นโถวเหล่านี้ไม่ได้ดีมากนัก เมื่อก่อนเธออาจจะไม่ชอบมัน แต่ตอนนี้รสชาติเป็นรอง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอคือการทำให้อิ่มท้อง"เราเป็นคนประเภทเดียวกันใช่ไหม? เราทั้งคู่ถูกสังคมทอดทิ้ง ดิ้นรนอยู่อย่างชนชั้นล่าง ไม่มีใครต้องการคนอย่างเราและไม่มีใครเห็นค่า แต่อย่างน้อยเราก็ต่างทำให้อีกฝ่ายอบอุ่นใจได้ ฉันเป็นห่วงคุณและคุณก็เป็นห่วงฉันได้ด้วยใช่ไหม? " เธอยิ้มอ่อนโยนให้เขา รอยยิ้มนั้นปนเปทั้งความหวัง ความปรารถนาและความกระวนกระวาย“อย่างนั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าเราจะเป็นคนประเภทเดียวกันจริง ๆ แหละนะ...” เขาพึมพำ สายตาของเขาดุจดั่งนักล่าที่กำลังจ้องมองสัตว์ตัวเล็ก ๆ ซึ่งตกหลุมพรางของเขา บางทีชีวิตอาจน่าเบื่อเกินไปสำหรับเขาเพราะเขาสามารถคว้าทุกสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ดีดนิ้ว แต่ตอนนี้การละเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้เริ่มทำให้เขาสนใจขึ้นมาแล้ว"พี่สาว" เขาพูดคำที่เธอหวังจะได้ยินออกมาเบา ๆในชั่วพริบตานั้นรอยยิ้มของเธอก็สดใสเหมือนดั่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว…หลังอาหารค่ำหลิงอี้หรานพาอี้จิ่นหลีไปตลาดกลางคืนกับเธอเพื่อที่จะซื้อเสื้อผ้าชุด

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 6

    หลิงอี้หรานตอบ “ฉันไม่ต้องการให้คุณมายกย่อง”ภายใต้ฤทธิ์ของเหล้า ผู้ช่วยผู้กำกับเหอพุ่งเข้าใส่หลิงอี้หรานและตบหน้าของเธออย่างจัง “ถ้าฉันอยากให้ดื่ม เธอก็ต้องดื่ม เธอก็แค่คนไร้ค่ายังจะมีอะไรมาอวดเบ่งอีก”เขาหยิบขวดไวน์แน่นและกรอกเข้าปากของเธอ หลิงอี้หรานพยายามผลักเขาออกไป แต่ชายคนนี้แรงมากกว่าเธอ แถมหลิงลั่วอินก็ยังช่วยเขาด้วยผู้ช่วยผู้กำกับเหอพอใจที่หลิงลั่วอินเข้ามาช่วยและกล่าวว่า "ลั่วอิน คุณยังฉลาดนะ ผมจะคุยกับผู้กำกับและให้คุณได้บทมากขึ้น"หลิงลั่วอินเล่นตามน้ำ “ขอบคุณผู้ช่วยผู้กำกับเหอค่ะ พี่สาวของฉันไม่ฉลาดไปหน่อย ดังนั้นโปรดเข้าใจด้วยนะคะ”หลิงอี้หรานไม่รู้ว่าเธอถูกบังคับให้ดื่มไวน์ไปมากแค่ไหน เธอคอไม่แข็งดังนั้นเธอเริ่มรู้สึกเมามากขึ้นเรื่อย ๆ เธอพยายามดิ้นรนควบคุมสติ “ฉัน… ฉันอยากกลับ…”“ได้สิ ฉันจะพาเธอกลับเดี๋ยวนี้ล่ะ” ผู้ช่วยผู้กำกับเหอประคองหลิงอี้หราน ผู้หญิงตรงหน้าของเขานั้นอาจจะไม่ได้สวยตราตรึงมากเเต่เมื่อเขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นเเฟนกับเซียวจื่อฉีเขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นและไม่อยากพลาดโอกาสทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของผู้ช่วยผู้กำกับเหอก็ดังขึ้น

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 7

    "เปล่า ไม่ได้ทำอะไร" เขาพูด นึกถึงว่าหลังจากที่เขาอุ้มเธอกลับไปที่อะพาร์ตเมนต์ ตอนที่เขาจะวางเธอลงบนเตียงทันใดนั้นเธอก็ผลักเขาลงบนเตียง ในขณะนั้นเขารู้สึกแปลกใจว่าทำไมเขาถึงประมาทขนาดนี้ ถ้าเป็นคนที่ต้องการฆ่าเขา เขาก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เขาระวังตัวมาตลอด เขาเผลอตัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ?แต่ก่อนที่เขาจะทันทำอะไร เธอก็เอามือแตะใบหน้าของเขาและปัดผมม้าหนา ๆ บนหน้าผากของเขาออกไปและสัมผัสดวงตาของเขาด้วยปลายนิ้วของเธอ“ดวงตาของนายสวยมากเลย… ฉันชอบ… มันดูใสมาก…” เธอพึมพำพูดกับตัวเอง"ใสเหรอ?" เขาหัวเราะเบา ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนใช้คำว่า ‘ใส’ มาอธิบายตาของเขา “หมายถึงว่ามันดูใสบริสุทธิ์เหรอ?”"มันเหมือนกับว่า... มันไม่เคยแปดเปื้อนจากบาปใด ๆ... มันใสบริสุทธิ์มาก... " เธอพูดอย่างเมามาย “ จินไม่ต้องกลัว... ฉันจะ... ปกป้องนายเอง...”หลังจากพูดอย่างนั้นเธอก็ฟุบลงบนหน้าอกของเขาและหลับไปเขาพูดว่า "พี่สาว พี่ไม่ได้ทำอะไรเลย พี่แค่หลับไป"เมื่อได้ยินเช่นนี้เธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกสายตาของเขามองตรงส่วนที่บวมแดงบนแก้มของเธอ “หน้าเจ็บหรือเปล่า?”เธอชะงักแล้วพูดว่า "ไม่เป็นไร" นี่ค

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 8

    จนถึงตอนนี้เวลา 3 ทุ่มกว่าก็ยังไม่เห็นกลับมา หลิงอี้หรานเริ่มกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่เขาไม่มีโทรศัพท์มือถือเธอจึงไม่สามารถโทรติดต่อเขาได้เธอออกจากห้องแล้วไปที่ทางเข้าเขตที่พัก เธอมองไปรอบ ๆ เพื่อหวังว่าจะได้พบร่างสูงที่เธอรอหลังจากที่รู้สิกว่านานเหลือเกิน ในที่สุดเธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคยเดินมาหาเธอ“จิน!” เธอเรียกและรู้สึกโล่งใจอย่างเห็นได้ชัดอี้จิ่นหลีมองเธอที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเขาและอดไม่ได้ที่จะสะดุ้งตกใจเล็กน้อย เธอหายใจหอบและแก้มก็แดงก่ำจากความหนาว แต่ดวงตารูปอัลมอนด์ของเธอกระจ่างสดใส“ดีจัง ในที่สุดนายก็กลับมาแล้ว” เธอกล่าว“พี่สาว พี่... รออยู่เหรอ?” เขาถามและสัมผัสแก้มของเธอเบา ๆ และความเย็นจากแก้มเธอทำให้ปลายนิ้วของเขาจั๊กจี้ ดูเหมือนว่าเธอจะรออยู่ข้างนอกมานานแล้ว"ใช่ ฉันกังวลมากเพราะดึกแล้วนายยังไม่กลับมา นายกลับมาอย่างปลอดภัยฉันก็โล่งใจแล้ว" เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มเขาตากระตุก เธอเป็นห่วงจินไม่ใช่อี้จิ่นหลีทายาทของอี้กรุ๊ป หากเธอรู้ว่าเขาคืออี้จิ่นหลีในอนาคตเธอจะยังคงเป็นห่วงเขาอยู่ไหมนะเขายกมุมปากขึ้นพร้อมพูดว่า "ฉันแจกใบปลิวเสร็จช้าไปหน่อย มือของพี่เย็นแล้วฉันจ

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 10

    "ถ้านายไม่ได้ทำเรื่องผิดกฎหมาย ทำไมฉันจะต้องผิดหวังล่ะ?" เธอถามขณะใส่ถุงเท้าและรองเท้าอีกครั้ง จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะสี่เหลี่ยมเล็ก ๆเขายิ้มและมองเธอเดินไป ดวงตาของเขาหม่นลงและเขากระซิบกับตัวเองว่า "ก็ดีพี่สาว ฉันหวังว่าเธอจะไม่ผิดหวังในอนาคต"—ตั้งแต่คืนนั้นที่คลับ หลิงลั่วอินก็รู้สึกวิตกกังวลอยู่ตลอด เพราะท่าทางของผู้ช่วยผู้กำกับเหอในวันนั้นแปลกชอบกลและในวันต่อมาผู้ช่วยผู้กำกับเหอก็ไม่ปรากฏตัวที่กองถ่ายอีกเลย สองวันต่อมาขนาดผู้กำกับยังโดนเปลี่ยนตัวสำหรับเหตุผลของการเปลี่ยนผู้กำกับดูเหมือนไม่มีใครในทีมงานภาพยนตร์ที่สามารถอธิบายได้ แต่หลิงลั่วอินรู้สึกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยผู้กำกับ หรืออาจจะเกี่ยวข้องกับหลิงอี้หรานไม่กี่วันต่อมาเมื่อเธอได้ยินว่าผู้ช่วยผู้กำกับเหอบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาลและดูเหมือนว่ามือขวาของเขาจะบาดเจ็บจนไม่สามารถใช้การได้ไปตลอดชีวิต เธอก็ตกตะลึงงัน มือขวาของเขา... ถ้าเธอจำไม่ผิดนั่นคือมือที่เขาใช้ตบหลิงอี้หรานคืนนั้น หลิงลั่วอินตื่นตระหนก นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?ท่าทางแปลก ๆ หลังจากผู้ช่วยผู้กำกับเหอรับสายโทรศัพท์ในคืนนั้น

Bab terbaru

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 424

    เสียงจัวเชียนอวิ๋นดังมาจากปลายสาย “นี่ การผ่าตัดของเสี่ยวเหยียนเป็นไปด้วยดีนะ หมอบอกว่าเสี่ยวเหยียน หลังจากผ่านไปสองสามวันเสี่ยวเหยียนปรับตัวได้ เขาก็จะเริ่มการฝึกเรื่องของการแยกแยะเสียงแล้ว”“ดีมากเลยค่ะ” หลิงอี้หรานดีใจที่ได้ยิน “ถ้างั้นตอนบ่ายฉันจะแวะไปเยี่ยมเสี่ยวเหยียนนะคะ”จากนั้นหลิงอี้หรานก็ถามอีกครั้งถึงเลขห้องผู้ป่วยของเสี่ยวเหยียนในโรงพยาบาลก่อนจะวางสายไป“นี่เรื่องของเด็กที่หูหนวกนั่นเหรอ?” อี้จิ่นหลีมองหลิงอี้หรานก่อนถาม“การผ่าตัดของเสี่ยวเหยียนเป็นไปด้วยดี ยังไงตอนบ่ายฉันก็มีเวลาว่าง ฉันเลยจะไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล” หลิงอี้หรานบอก“ให้ฉันไปกับเธอแล้วกัน” อี้จิ่นหลีพูด“คุณจะไปกับฉันเหรอคะ?” หลิงอี้หรานเบิกตาโตอย่างประหลาดใจ “แต่… คุณไม่มีงานต้องทำเหรอ?”“ฉันก็แค่บอกให้เลขาเลื่อนงานตอนบ่ายออกไป ยังไงก็ไม่ได้มีอะไรเร่งด่วน” อี้จิ่นหลีพูดเรียบ ๆแต่หลิงอี้หรานรู้ดีว่าในบริษัทใหญ่แบบนี้ สำหรับคนเป็นประธานไม่มีอะไรที่ “เร่งด่วน” สำหรับเขา“ทำไม เธอไม่อยากให้ฉันไปด้วยเหรอ?” เขาถาม“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น” พูดตามตรงการที่เขาเต็มใจจะไปเป็นเพื่อนเธอ ทำให้เธอประหลาดใจแต่ก็ร

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 423

    และเพราะว่าเธอฟังเข้าใจ จู่ ๆ เธอก็ยิ่งรู้สึกอายสุดท้ายอี้จิ่นหลีก็ตอบว่า “เธอนั่นแหละ”“โอ้ จิน คุณเป็นอะไรกับเธอเหรอ? เป็นคนรักกันไหม?” คนต่างชาติมักจะชอบถามอะไรตรง ๆหากว่าเป็นพนักงานชาติเดียวกัน ไม่มีใครกล้าถามอี้จิ่นหลีตรง ๆ แบบนี้แน่จากนั้นหลิงอี้หรานก็ได้ยินอี้จิ่นหลีตอบเป็นภาษาอังกฤษ “เธอเป็นคนโปรดของฉัน”ฉับพลันหลิงอี้หรานก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบรัดไว้ แม้แต่จังหวะการเต้นของหัวใจก็เหมือนจะสะดุดหลังจากที่การประชุมทางวิดีโอจบลง อี้จิ่นหลีก็เดินเข้ามาหาเธอและถามว่า “เป็นอะไรไป? ทำไมหน้าแดงแบบนั้น?”“เปล่า…ไม่มีอะไรค่ะ” เธอรีบตอบแต่เขาก็เอามือมาจับหน้าเธอไว้แล้วพิจารณาหน้าแดงก่ำของเธอ “นี่เพราะว่าเรื่องที่พวกนั้นพูดเมื่อกี้เหรอ?”เธอไม่ได้ตอบอะไร แต่เธอก็ใช้ความเงียบเป็นการยอมรับ“ไว้อนาคตมีโอกาส ฉันจะแนะนำเธอกับพวกเขา” เขาบอก“แนะนำเหรอคะ?” เธอร้องเขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “ทำไม เธอไม่อยากเหรอ?”เอ่อ… เธออึ้งไป ตอนนั้นดวงตาสีดอกท้อคู่นั้นฉายแววบีบคั้น เหมือนว่าหากเธอตอบว่าไม่อยาก เธอก็คงเหมือนเป็นตัวจุดประกายให้ไฟโทสะเขาลุกท่วมเธอคิดอยู่พั

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 422

    “แต่ถึงกู้ลี่เฉินอยากจะแย่งเธอไปจริง ๆ เขาก็ทำไม่ได้ใช่ไหม? เพราะว่าคนที่เธอชอบก็คือฉัน และคนที่เธอมีชะตาต้องตกหลุมรักในอนาคตก็คือฉันใช่ไหม?”เสียงของเขาพึมพำและลมหายใจอุ่นร้อนก็เป่ารดใบหน้า เมื่อพูดจบเขาก็จูบเธอที่ริมฝีปากเขาไม่มีทางยกเธอให้ใคร เธอจะเป็นของเขาเท่านั้น……ตอนที่หลิงอี้หรานตื่นขึ้นมาให้วันต่อมา อี้จิ่นหลีก็ไปทำงานแล้ว หลังจากที่กินอาหารเช้าเสร็จเธอก็เตรียมอาหารกลางวันให้อี้จิ่นหลีที่คฤหาสน์อี้มีกล่องอาหารกลางวันและวัตถุดิบ และก็มีพ่อครัวอยู่ใกล้ ๆ เห็นชัดว่าพ่อครัวก็ได้รับคำสั่งมา หากว่าหลิงอี้หรานมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ พ่อครัวก็พร้อมช่วยถึงขนาดที่ว่าหลังจากทำกล่องอาหารกลางวันแล้ว หลิงอี้หรานรู้สึกว่าฝีมือของตัวเองนั้นพัฒนาสูงขึ้นเลยทีเดียวเธอนำกล่องอาหารมาที่อี้กรุ๊ป แต่เพราะว่าวันนี้คนขับรถของตระกูลอี้เป็นคนพาเธอมา ยามที่หน้าประตูก็ตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นเธอลงมาจากรถแม้ว่าพนักงานหลายคนในบริษัทเริ่มที่จะลือกันว่าพนักงานส่งอาหารลึกลับคนนี้น่าจะไม่ใช่คนธรรมดา แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าพนักงานคนนี้จะเปลี่ยนจากรถไฟฟ้าเล็ก ๆ มาเป็นรถส่วนตัวเร็วแบบนี้โดยเฉพาะรถ

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 421

    ช่วงนี้เขามักจะมาค้างในห้องของเธอ นอนร่วมเตียงกับเธอ แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะไม่ได้ทำอะไรกัน แต่มันก็เหมือนว่าการนอนร่วมเตียงเดียวกันนั้นกลายเป็นนิสัยไปโดยไม่รู้ตัวแล้วเพราะว่าเธอต้องเปิดไฟนอน เธอก็พูดเสียงอ่อนว่า “คุณจะชินกับการเปิดไฟนอนตลอดเวลาไปแล้ว ทำไมคุณไม่กลับไปนอนห้องคุณล่ะคะ”สุดท้ายเขาก็บอกว่า “ฉันอยากนอนกับเธอนี่ พี่สาว ถึงจะเปิดไฟไว้ก็ไม่เป็นไรหรอก”ดังนั้นคำพูดที่เหลือของเธอจึงโดนกลืนกลับลงไป“เธอจะนอนแล้วเหรอ?” อี้จิ่นหลีถามขณะที่มองหลิงอี้หรานเดินไปที่เตียง“ใช่” หลิงอี้หรานพูดพร้อมหน้าแดงเรื่อหลิงอี้หรานเลิกผ้าห่มและเข้าไปนอนเตียง มือของอี้จิ่นหลีก็มาโอบรอบเอวเธอ เขากอดเธอแนบแน่นและฝังใบหน้าซุกกายเธอราวเก็บเด็กที่อยากจะออดอ้อนเขาดูราวกับเด็กเล็กน้อยซึ่งต่างไปจากท่าทางปกติของเขา แต่ด้วยเหตุผลบางประการ หลิงอี้หรานรู้สึกว่าชอบอี้จิ่นหลีที่มีท่าทางเป็นเด็ก ๆ แบบนี้“ว่าแต่กู้ลี่เฉินหมายความว่าอะไรตอนที่คุยกับคุณวันนี้? พวกคุณทะเลาะกันเหรอ?”จู่ ๆ หลิงอี้หรานก็คิดขึ้นมาได้“ประโยคไหนล่ะ?” อี้จิ่นหลีถาม พลางรู้สึกว่าการกอดเธอมันชวนให้เสพติดมาก เมื่อเขากอดเธอแล้วก็ไม

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 420

    “ฉันเข้าใจค่ะ ฉันจะไม่พูดอะไรกับเธอ” จัวเชียนอวิ๋นลังเลและบอกว่า “ถึงตอนนี้ฉันจะรู้ว่าเธอเป็นแฟนของคุณ ฉันไม่เคยบอกอะไรเธอมาตั้งแต่แรก และฉันก็ไม่คิดว่าจะบอกอะไร ไม่คิดจะหาประโยชน์จากเธอ แน่นอนว่าในอนาคตฉันก็ไม่คิดจะทำแบบนั้น ที่ตอนแรกฉันจ้างเธอก็เพราะว่าฉันรู้สึกว่าเธอเหมือนกับฉัน เคยติดคุกมาก่อน และรู้สึกว่าเราลงเรือลำเดียวกัน ฉันก็เลยอยากให้โอกาสเธอได้ทำงาน”ความเย็นชาในตาของอี้จิ่นหลีหายไป “ผมไม่สนหรอกว่าระหว่างคุณกับเย่เหวินหมิงมีเรื่องอะไร แต่ตราบใดที่เธอยังทำงานที่นี่กับคุณ เธอก็จะทำงานอย่างปลอดภัย หากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ ไม่ว่าจะอะไร คุณโทรหาผมได้ตลอด”เมื่อพูดจบ เขาก็เอาเบอร์มือถือให้จัวเชียนอวิ๋นจัวเชียนอวิ๋นรีบจดลงไป เธอเกรงว่าคงมีไม่กี่คนที่สามารถมีเบอร์นี้ได้ในเมืองเสิ่น แต่ตอนนี้เธอได้มาภายใต้เงื่อนไขแต่ที่อี้จิ่นหลีบอกว่าเขาไม่สนว่าระหว่างเธอกับเย่เหวินหมิงมีเรื่องอะไร ก็แปลว่าเขาคงไม่บอกเย่เหวินหมิงว่าเธออยู่ที่ไหน ซึ่งนี่ก็ทำให้จัวเชียนอวิ่นหายใจได้อย่างโล่งอกอี้จิ่นหลียังอยู่ในร้านและกินมื้อเย็นกับหลิงอี้หรานดังนัั้นเมื่อเลิกงาน เพื่อนร่วมงานทุกคนเลยได้รู

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 419

    จัวเชียนอวิ๋นจำได้ว่าตอนที่เธอดึงหลิงอี้หรานมาถาม อีกฝ่ายก็ให้คำตอบที่ชัดเจนหนักแน่นกับเธอ“ก็พี่จัว คนที่ว่าก็คืออี้จิ่นหลีของอี้กรุ๊ป” โอเค ก็ถือว่าเป็นคำตอบแล้วกันจัวเชียนอวิ๋นรู้สึกว่าเหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางหัวเธอ ซึ่งทำให้เธอมึนไม่หายพนักงานส่งอาหารให้ร้านของเธอเป็นแฟนกับอี้จิ่นหลีจริงเหรอ? ถ้าบอกไปแล้วใครจะเชื่อ?โดยเฉพาะหลิงอี้หรานบอกว่ายังมีอาหารที่ต้องออกไปส่งอีก อี้จิ่นหลีก็บอกว่า “ถ้างั้นฉันจะรอเธอที่นี่ วันนี้ยังไงก็ว่าง”ดังนั้นคนหนึ่งก็ออกไปส่งอาหาร ส่วนอีกคนก็… เอ่อ อ่านหนังสือจัวเชียนอวิ๋นรู้สึกว่าเธอประสบคลื่นลมโหมกระหน่ำ แต่ตอนนี้เธอสับสนมากทำไมอี้หรานถึงได้ยังมาทำงานที่ร้านของเธอหากว่ามีแฟนแบบนี้? แล้วอี้จิ่นหลีจริงจังกับอี้หรานเหรอ?แต่เมื่อมองเหตุการณ์ก่อนหน้าระหว่างทั้งสอง ก็ไม่ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องหลอกลวง อย่างน้อยท่าทีของอี้จิ่นหลีที่มีต่ออี้หรานด้วยสายตาคนนอกอย่างเธอก็เห็นได้ว่าเขารักอี้หรานมากเมื่อเห็นว่าอี้จิ่นหลีกินกาแฟหมดแล้ว จัวเชียนอวิ๋นก็เดินเข้าไปหาและถามว่า “คุณอี้ ต้องการอะไรเพิ่มไหมคะ?”“ขอน้ำให้ผมแก้วหนึ่งพอครับ” อี้จิ่นหลีบอกดังนั้น

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 418

    หลิงอี้หรานอดหน้าแดงไม่ได้ เธอกัดปากเล็กน้อยและบอกกับจัวเชียนอวิ๋น “เขาเป็นแฟนฉันค่ะ”“แฟนเธอเหรอ?” จัวเชียนอวิ๋นตาเบิกกว้างทันที แม้เธอจะรู้สึกได้ว่าระหว่างทั้งสองคนมีบรรยากาศแปลก ๆ ขณะที่พูดคุยกันก็ตามแต่… แฟนเหรอ? อี้หรานมีแฟนเหรอ? แถมยังเป็นผู้ชายที่ดูลึกล้ำยากจะหยั่งถึงนี่คือสิ่งที่จัวเชียนอวิ๋นรู้สึก ตอนนั้นเองแม้ว่าชายคนนั้นจะมีรอยยิ้มบนใบหน้าและดูไม่มีพิษภัย แต่เธอไม่คิดว่าชายคนนี้จะไร้พิษภัยจริง ๆ ตรงกันข้ามสัญชาตญาณบอกเธอว่าชายคนนี้อันตรายมากทั้งร่างของเขาแผ่กลิ่นอายของคนที่สูงส่งออกมา“ค่ะ แฟนฉัน” หลิงอี้หรานตอบ“สวัสดีค่ะ… ฉันเป็นเจ้าของร้านที่นี่ จัวเชียนอวิ๋น” จัวเชียนอวิ๋นแนะนำตัวเอง“สวัสดีครับ ผมอี้จิ่นหลี” อี้จิ่นหลีบอกสีหน้าจัวเชียนอวิ๋นตะลึงอีกครั้ง จากนั้นแววตาประหลาดใจของเธอก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆอี้จิ่นหลี… คงไม่ใช่… คงไม่ใช่คนที่เธอคิดหรอกนะ ตอนนี้จัวเชียนอวิ๋นรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาร้านของเธอมีกู้ลี่เฉินมา แล้วก็มีอี้จิ่นหลีมาอีก ผู้ชายทั้งสองคนต่างก็มาหาอี้หรานแล้ว… ตัวตนที่แท้จริงของเธอมันยังไงกันแน่? ใช่แบบที่เขียนในใบสมัครงานจริงเหรอ?ตอน

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 417

    อี้จิ่นหลียังคงดื่มกาแฟในมือสบาย ๆ เหมือนกับว่าเขากำลังเพลิดเพลินกับเวลาน้ำชา และเขาก็แค่มาพูดคุยเล่นกับกู้ลี่เฉินไม่ได้คุยเรื่องที่สามารถเขย่าเมืองเสิ่นให้สั่นสะเทือนได้กู้ลี่เฉินค่อย ๆ สงบความคุกรุ่นในแววตาลงและก็หยิบกาแฟขึ้นมาจิบอีกครั้งทั้งสองต่างก็ไม่มีบรรยากาศน่าตึงเครียดเหมือนก่อนหน้าแล้ว และตอนนี้ก็เหมือนเป็นการกินข้าวกันระหว่างเพื่อนเท่านั้นจัวเชียนอวิ๋นรู้สึกทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะลูกค้าคนอื่น ๆ ในร้านโดยเฉพาะลูกค้าสาว ๆ ต่างก็มองทั้งสองเป็นระยะ อย่างไรพวกเขาคนหนึ่งก็ดูเหมือนดารา ไม่ต้องนับพวกลูกค้าสาวหรอก ขนาดจัวเชียนอวิ๋นเองยังอยากหยิบมือถือมาถ่ายเลยตอนที่ลูกค้าสาวยกมือถือส่องไปทางอี้จิ่นหลีและกู้ลี่เฉิน ก่อนที่เธอจะทันได้กดปุ่มถ่ายรูปก็มีมือใหญ่มาขวางเอาไว้เขาก็คือบอดี้การ์ดของอี้จิ่นหลี เขาพูดกับลูกค้าสาวว่า “ท่านประธานไม่ชอบโดนถ่ายรูปครับ ถ้าคุณยืนกรานจะถ่ายให้ได้ ผมก็คงทำได้แค่ต้องเชิญคุณออกไป”ลูกค้าสาวอึ้งงันไป นี่มัน…ขู่กันเหรอ? แต่เมื่อเธอเห็นสีหน้าไร้อารมณ์ของบอดี้การ์ดและ… ร่างกายกำยำของเขา คำพูดที่เธอเตรียมจะเอ่ยประท้วงก็โดนกลืนกลับลงท้องไปจิตสำนึกบอก

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 416

    นิ้วมือของกู้ลี่เฉินที่จับแก้วกาแฟอยู่บีบแน่นเล็กน้อย “แล้วถ้าฉันเสียใจล่ะ?” ตอนนั้นเขาประเมินน้ำหนักของหลิงอี้หรานที่มีในใจตัวเองต่ำไปเขาคิดว่าหลิงอี้หรานเหมือนคนที่เขาตามหา ดังนั้นเขาก็เลยสนใจเธอแค่นั้นแต่ต่อมาเขาก็พบว่ามันมากกว่านั้น เมื่อเขาเห็นคนอื่นทำร้ายเธอ ทำอันตรายเธอ เขาก็รู้สึกหัวใจบีบรัดและรีบเข้าไปช่วยโดยไม่รู้ตัวเหมือนว่าแค่เห็นเธอบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขาใจสลายได้ และตอนที่เธอจะจากไป เขาก็คิดเรื่องเธอมาก เหมือนว่าเขาอยากให้เธอมองเขานานอีกหน่อยแค่เพียงนิดเดียวก็ยังดีนานแค่ไหนแล้วที่เขาสนใจผู้หญิงสักคนมากขนาดนี้? ยกเว้นเด็กผู้หญิงที่เคยช่วยเขาตอนนั้น เธอเป็นแค่คนเดียวเท่านั้นเขาถึงกับคิดว่า บางทีเขาไม่น่ายอมปล่อยเธอให้อี้จิ่นหลีง่ายเกินไปเลย หากว่าเธออยู่ข้างกายเขา จะทำให้เขาคิดถึงคนที่ตามหาอยู่น้อยลงไหม? แล้วจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากการไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการมาบ้างไหม?แววตาอี้จิ่นหลีมืดครึ้มทันที เขาจ้องกู้ลี่เฉินเย็นชา “นายไม่มีโอกาสแน่ และฉันก็จะไม่ให้นายมีโอกาสด้วย”“งั้นเหรอ?” กู้ลี่เฉินสบตาอีกฝ่าย “งั้นฉันคงต้องขอลองดูและดูว่าทำไมฉันถึงได้ไม่มีโอ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status