แชร์

บทที่ 337

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
เพียงแต่ว่าการฟื้นฟูบาดแผลของเขาครั้งนี้ใช้เวลายาวนานกว่าปกติเท่านั้น

หลังจากที่ไป๋จื้อเซียนลักพาตัวซือเจ๋อเยว่ไป เยียนเซียวหรานก็เร่งรุดติดตามมาทันที

แม้ว่าไป๋จื้อเซียนจะพานางหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่เพราะในยามนี้เยียนเซียวหรานกับซือเจ๋อเยว่มีสายสัมพันธ์ชีวิตต่อกัน เขาจึงสามารถรับรู้ถึงที่อยู่ของนางได้

ด้วยเหตุนี้เขาจึงเร่งฝีเท้าไปยังทิศที่ตั้งของเขาเชียนจั้ง ทว่าทันทีที่มาถึงสถานที่แห่งนี้ เขากลับพบว่าจะใช้วิธีใดก็ไม่อาจทะลวงผ่านม่านพลังที่ปิดกั้นทางเข้าไปได้

เยียนเซียวหรานไม่มีความรู้เกี่ยวกับวิชาเต๋า ไม่อาจฝ่าค่ายกลที่ไป๋จื้อเซียนสร้างขึ้นมาได้

ในใจเขากระวนกระวายอย่างยิ่ง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจทำอันใดได้

เขาลองใช้กระบี่ฟันใส่ม่านพลังนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่ากลับไม่มีประโยชน์ใดแม้แต่น้อย

เขาเดินวนเวียนอยู่รอบค่ายกลใหญ่หลายรอบ ความรู้สึกที่รู้ว่านางอยู่ข้างใน แต่ตนกลับไม่สามารถช่วยเหลืออันใดได้นั้นช่างทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง

เยียนเซียวหรานถูกความรู้สึกไร้หนทางปกคลุม เจ็บปวดรวดร้าวอย่างยิ่ง

เขารู้ดีว่าไป๋จื้อเซียนบำเพ็ญเพียรมานาน ส่วนซือเจ๋อเยว่นั้นยังไม่ฟื้นฟูพลังกลับมาเต็มที่ หากนา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 338

    เยียนเซียวหรานกระชับกระบี่ไม้ท้อในมือแน่นขึ้น โอบร่างของซือเจ๋อเยว่ไว้แน่น ราวกับเกรงว่าไป๋จื้อเซียนจะทำร้ายนางไป๋จื้อเซียนมองภาพที่เยียนเซียวหรานกอดซือเจ๋อเยว่ ดวงตาแดงก่ำ ปลายนิ้วเปลี่ยนเป็นคมราวกับมีดแต่เมื่อเขาหันไปมองซือเจ๋อเยว่ที่ใบหน้าซีดเผือด ปลายเล็บที่แหลมคมก็ถูกหดกลับไปอีกครั้งยามนี้ซือเจ๋อเยว่ยังคงรอให้เยียนเซียวหรานช่วยเหลืออยู่ เขาจะอดทน!ตั้งแต่เยียนเซียวหรานก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้ ก็คิดว่านี่เป็นกับดักของไป๋จื้อเซียน แต่เพราะต้องช่วยซือเจ๋อเยว่ ต่อให้เป็นกับดักเขาก็ต้องยอมเสี่ยงเข้าไปบัดนี้เขารับรู้ได้ถึงจิตสังหารของไป๋จื้อเซียน แต่ไป๋จื้อเซียนกลับไม่ลงมือเสียที ทำให้เยียนเซียวหรานรู้สึกผิดคาด และสงสัยว่าไป๋จื้อเซียนอาจมีแผนการอื่นซ่อนเร้นอยู่เขาประคองซือเจ๋อเยว่ไว้ในอ้อมแขนรออยู่ชั่วครู่ แต่ไป๋จื้อเซียนกลับยังคงไม่เผยตัวออกมา จึงทำให้เยียนเซียวหรานรู้สึกถึงความผิดปกติเขาคาดเดาว่าซือเจ๋อเยว่คงเดิมพันด้วยชีวิตของตนเอง เพื่อลงมือทำร้ายไป๋จื้อเซียนจนสาหัส แม้ไป๋จื้อเซียนอยากจะลงมือ แต่กลับไร้ซึ่งกำลังจะทำได้เยียนเซียวหรานมีความคิดจะฉวยโอกาสนี้สังหารไป๋จื้อเซี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 339

    เยียนเซียวหรานจูบซือเจ๋อเยว่เบา ๆ อีกครั้ง ก่อนจะมองดูมือของนาง ทว่าครั้งนี้ผลลัพธ์กลับไม่อาจเทียบกับก่อนหน้านี้ได้แม้แต่น้อย เส้นสีแดงที่ข้อมือของนางแทบไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ เขาโอบกอดนางแน่นพลางเอ่ยขึ้น “องค์หญิง ท่านจะต้องไม่เป็นอันใด”  “หากท่านเป็นอันใดไป แล้วข้าจะทำอย่างไร?”  เขากอดนางไว้แนบแน่น จูบนางไม่หยุดจวบจนรุ่งสาง เส้นสีแดงที่ข้อมือของนางจึงค่อย ๆ ยืดยาวขึ้นเพียงเล็กน้อย  เมื่อเห็นเส้นแดงขยับขึ้นได้ในที่สุด เยียนเซียวหรานก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก  ตราบใดที่เส้นสีแดงยังอยู่ ย่อมหมายความว่านางยังคงมีชีวิตอยู่ หมายความว่าการจูบของเขายังได้ผล เท่านี้ก็พอแล้ว  เยียนเซียวหรานโอบกอดซือเจ๋อเยว่เอาไว้แน่น ยังจูบนางอยู่เช่นนั้น  ในตอนต้นเมื่อชื่อปาเลี่ยเห็นเขาทำเช่นนี้ก็รู้สึกว่าเขาเสียสติไปแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็อดรู้สึกสงสารเขาไม่ได้  ในใจของเขา เยียนเซียวหรานเป็นคนที่แข็งแกร่งเสมอมา ไม่เคยรับรู้ว่าความรักคือสิ่งใด  บัดนี้เมื่อเห็นเยียนเซียวหรานเสียใจเพราะซือเจ๋อเยว่ถึงเพียงนี้ ก็คงเป็นเพราะเขารักนางมากเป็นแน่เขาคิดอยากจะกล่าวเตือนสติเขาสักสองสามคำ แต่เมื่อเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 340

    ซือเจ๋อเยว่ยังเอ่ยไม่ทันจบ เยียนเซียวหรานก็คว้ากระบี่ไม้ท้อขึ้นมา ก้าวไปยืนขวางหน้านางโดยสัญชาตญาณไป๋จื้อเซียนรู้ดีว่าเขาย่อมไม่อาจปกปิดซือเจ๋อเยว่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดจะปิดบังตั้งแต่ต้นร่างของเขาปรากฏขึ้นมาให้เด่นชัดอย่างช้า ๆ ที่หน้าประตูศาลเจ้า อาภรณ์สีแดงฉานดั่งโลหิต ยังคงอหังการไม่เคยเปลี่ยนแปลง แววตาของเขามองเยียนเซียวหรานด้วยความท้าทาย สายตาเต็มไปด้วยความดูแคลนเยียนเซียวหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย แม้จะเผชิญหน้ากับการท้าทายของไป๋จื้อเซียน เขากลับนิ่งสงบอย่างยิ่ง ในสมองของเขากำลังคิดหาวิธีรับมืออย่างรวดเร็วในครั้งก่อนไป๋จื้อเซียนยังไม่อาจรวบรวมร่างกายให้เป็นรูปเป็นร่างได้ แต่บัดนี้เมื่อเวลาผ่านไปเพียงเจ็ดวัน เขากลับสามารถทำได้แล้วการฟื้นตัวของไป๋จื้อเซียนเร็วกว่าที่เขาคาดไว้มากนัก วันนี้ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต เขาก็จะไม่ยอมให้ไป๋จื้อเซียนแตะต้องซือเจ๋อเยว่อีก!แต่สิ่งที่ทำให้เยียนเซียวหรานประหลาดใจก็คือ วันนี้ไป๋จื้อเซียนไม่ได้ลงมือทันทีอย่างทุกครั้งที่ผ่านมาชื่อปาเลี่ยเพียงเห็นเงาของไป๋จื้อเซียน ก็รีบหลบเข้าไปอยู่หลังรูปปั้นเทพเจ้าภูเขาที่แตกหักอย่างขี้ขลาดซือเจ๋อเยว่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 341

    หากไม่ใช่เพราะเยียนเซียวหรานเป็นคนเพียงคนเดียวบนโลกใบนี้ที่สามารถช่วยนางได้ เขาก็คงสังหารเยียนเซียวหรานไปตั้งนานแล้วตอนนี้ต่อให้เขาแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็ช่วยชีวิตนางไม่ได้แล้วซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วเล็กน้อย หลังจากจ้องมองเขาตั้งแต่ตัวจรดปลายเท้าก็กล่าวขึ้น “จริงหรือ? เมื่อหนึ่งพันปีก่อนเจ้ากับข้าคงจะไม่ได้รักกันปานจะกลืนกินอยู่ช่วงหนึ่งหรอกใช่หรือไม่?”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนลำบากใจยิ่งกว่าเดิม เขากล่าวเสียงจริงจัง “ไม่ใช่!”ซือเจ๋อเยว่ส่งสัญญาณให้เยียนเซียวหรานเก็บกระบี่ลงไป ถึงอย่างไรตอนนี้พวกเขาทั้งหมดรวมกันก็ไม่แน่ว่าจะเอาชนะไป๋จื้อเซียนได้นางกระแอมเบา ๆ อีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นข้าก็วางใจแล้ว หากเมื่อหนึ่งพันปีก่อนข้าเคยชอบเจ้า ถ้าอย่างนั้นตาของข้าก็คงจะแย่มากเกินไปแล้ว”ไป๋จื้อเซียน “...”ไป๋จื้อเซียน “!!!!!!”เขาแย่ขนาดนั้นเชียวหรือ?เขาจำได้ว่าตอนที่เขามีชีวิตอยู่ก็เป็นคุณชายผู้มีฐานะร่ำรวยเช่นกัน แล้วก็เคยเป็นผู้มีความสามารถไม่เป็นรองใครมือทั้งสองข้างของซือเจ๋อเยว่กอดอก หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าว “เจ้าไม่โมโหหรือ?”ไป๋จื้อเซียนกล่าวเสียงขรึม “โมโหมากเชียวล่ะ อยากจะฆ่าคน แต่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 342

    ตอนนี้นางจำเรื่องราวสมัยก่อนไม่ได้ ย่อมไม่มีทางเกรงใจเขาในใจของเขากลัดกลุ้ม พ่นลมหายใจออกมาทีหนึ่งแล้วโยนโสมสีม่วงลงไปบนพื้น หันหลังแล้วก็เดินจากไป ร่างหายไปอย่างไร้ร่องรอยด้วยความรวดเร็วซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ทีหนึ่ง หว่างคิ้วของเยียนเซียวหรานขมวดเข้าหากัน “ตกลงวันนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”ซือเจ๋อเยว่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ฟังอย่างคร่าว ๆ สุดท้ายสรุปว่า “เหมือนว่าตอนนั้นจะสัมผัสความทรงจำในดวงวิญญาณของข้าได้”“ข้ามีความทรงจำบางอย่าง แต่จำได้ไม่ค่อยแม่นเท่าใดนัก”ที่นางพูดคือเรื่องจริง ความทรงจำในวันนั้นถูกไป๋จื้อเซียนตัดขาดไปหมดแล้ว ถึงแม้นางจะมองเห็นแล้ว แต่เพราะร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงมองได้ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ทว่าความทรงจำที่ตัดขาด เพราะวันนั้นไป๋จื้อเซียนพยายามทำลายดินแดนแห่งความฝันจนสลายหายไปจนสิ้นซากดังนั้นนางไม่ได้เจตนาจะยั่วโมโหไป๋จื้อเซียน ทว่านางจำไม่ได้จริง ๆเพียงแต่วันนี้นางได้เจอกับไป๋จื้อเซียนอีกครั้ง อาจจะเป็นเพราะสาเหตุของความทรงจำช่วงนั้น จึงอาจจะทำให้ท่าทีของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไป ความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างพวกเขาจึงลดลงไปมากชื

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 343

    ไป๋จื้อเซียนมองเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาจึงกล่าวด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย “หากข้าอยากจะสังหารพวกเจ้า ก็คงลงมือไปนานแล้ว”“ไม่ใช่ว่าข้าดูถูกพวกเจ้าหรอกนะ ความสามารถอันน้อยนิดของพวกเจ้า ไม่พอสู้กับข้าเลยเสียด้วยซ้ำ”ซือเจ๋อเยว่รู้สึกว่าคำพูดของเขามีเหตุผล จึงกล่าว “โสมสีม่วงที่เจ้าโยนให้ที่ศาลเจ้าภูเขาเมื่อวานนี้ ข้าจะจ่ายเงินซื้อกับเจ้า เจ้าบอกราคามาเลย!”ไป๋จื้อเซียนหันหน้ามองเขา นางเสริมขึ้นอีกประโยค “หลังจากที่ข้ารักษาตัวหายดีแล้ว จะต้องคิดหาหนทางจับตัวเจ้าให้ได้แน่นอน”“ข้าคิด ๆ ดูแล้วว่าไม่ควรเอาเปรียบเจ้า จึงตัดสินใจว่าจะซื้อกับเจ้า”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ “อยากเอาก็เอา ไม่เอาก็โยนทิ้งไป”ซือเจ๋อเยว่ “...”ไม่คิดเลยว่านางจะได้เห็นท่าทางแง่งอนของไป๋จื้อเซียน รู้สึกประหลาดใจมากตอนนี้ไป๋จื้อเซียนไม่เหมือนจะมีทีท่าว่าจะลงมือ นางก็คร้านจะสนใจเขา หันหน้าไปให้ชื่อปาเลี่ยขุดดินถึงแม้ชื่อปาเลี่ยจะกลัวไป๋จื้อเซียนอยู่บ้าง แต่เพราะซือเจ๋อเยว่ออกคำสั่ง เขาจึงไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังในใจของเขา ซือเจ๋อเยว่เป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าไป๋จื้อเซียนเสียอีกเขาหยิบเสียมออกมาแล้วออก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 344

    ซือเจ๋อเยว่ถามด้วยใบหน้างุนงง “ข้าเคยพูดจาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”ไป๋จื้อเซียนตอบ “หนึ่งพันปีก่อน!”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางจ้องเขาด้วยดวงตากลมโตพร้อมกล่าว “ขออภัยจริง ๆ เรื่องเมื่อพันปีก่อนข้าจำไม่ได้เลยแม้แต่น้อย”ในใจของไป๋จื้อเซียนรู้สึกน้อยใจจนทนไม่ไหว “เจ้าลืมจนหมดสิ้นได้อย่างไร?”ซือเจ๋อเยว่ยิ้ม “เจ้าพูดจามีเหตุผลหน่อยได้หรือไม่ คนบนโลกใบนี้ จะมีใครจำเรื่องราวเมื่อหนึ่งพันปีก่อนได้บ้าง?”ไป๋จื้อเซียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไปเมื่อซือเจ๋อเยว่เห็นว่าเขาไม่ได้ลงมือ ก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอกทีหนึ่งหลังจากเขาไป ซือเจ๋อเยว่ให้ชื่อปาเลี่ยขุดต่อไป ด้านล่างล้วนเป็นผงละเอียดทั้งหมดนางยื่นมือออกไปร่ายคาถา หลับตาลงเพื่อสัมผัสอารมณ์ที่เหลืออยู่บริเวณรอบ ๆ อารมณ์ที่นี่ ส่วนมากเต็มไปด้วยความเกลียดแค้นที่รุนแรง ยังแฝงไปด้วยความทุกข์ทรมานที่ถูกจองจำและถูกสังหาร ไม่ได้มีข่าวสารที่มีประโยชน์อะไรอารมณ์พวกนั้นแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของนาง แล้วก็ส่งอิทธิพลต่ออารมณ์ของนางด้วยเช่นกันนางทนรับไม่ได้เล็กน้อย จึงถอนคาถานี้เยียนเซียวหรานยื่นมือไปประคองนางกล่าว “ท่านไม่เป็น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 435

    “อย่างน้อยเดรัจฉานก็ไม่ทำร้ายพวกเดียวกันเอง แต่คนบางคนกลับไม่ใช่”หลังจากชื่อปาเลี่ยลังเลครู่หนึ่งก็กล่าวกับเยียนเซียวหราน “คุณชายสาม ข้ามีเรื่องหนึ่งที่ลืมบอกท่านไป”เยียนเซียวหรานหันหน้าไปมองเขา เขากล่าวเสียงจริงจัง “ตอนที่ข้าเป็นผู้ลั่นระฆังในกองทัพ อันที่จริงได้ยินมาเรื่องหนึ่ง”“ตอนนั้นที่เยียนอ๋องกำลังวางแผน ที่จริงตั้งใจว่าจะใช้กองทัพหย่งอันห้าหมื่นนายเป็นเหยื่อล่อ จากนั้นให้กองทัพติ้งอันเป็นกำลังหนุนให้ เพื่อกวาดล้างชาวเผ่าต๋าต๋าที่อ่าวจันทร์กระจ่าง”“เพียงแต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด กองทัพติ้งอันถึงไม่ได้ส่งกำลังหนุนมา”“แต่ชาวเผ่าต๋าต๋ากลับซุ่มโจมตีอยู่ที่อ่าวจันทร์กระจ่าง จากนั้นกองทัพหย่งอันห้าหมื่นนายถึงได้พินาศย่อยยับ”สีหน้าของเยียนเซียวหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อย “นี่เป็นรายงานลับของหน่วยข่าวกรองทางทหาร เจ้าเป็นเพียงผู้ลั่นระฆัง รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”ชื่อปาเลี่ยตอบ “คืนวันหนึ่งข้ารีบร้อนไปปลดเบา จึงได้ยินเข้าโดยบังเอิญ”ซือเจ๋อเยว่กลับสนใจอีกเรื่อง “อ่าวจันทร์กระจ่าง? อ่าวจันทร์กระจ่างอยู่ที่ไหน?”ถึงแม้เยียนเซียวหรานจะเคยมาที่ด่านชายแดนมาก่อน แต่กลับไม่เคยได้ย

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 354  

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่อากาศโดยรอบเริ่มบางเบาจนผิดปกติ  พวกเขาเพียงแค่เดินตามปกติ แต่กลับรู้สึกหายใจติดขัด  ชื่อปาเลี่ยอ้าปากหอบหายใจ พลางเอ่ยด้วยความตระหนก “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดข้าหายใจไม่ออก?”  ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเสียงเบา “เราก้าวเข้าสู่ค่ายกลของผู้อื่นแล้ว”  ชื่อปาเลี่ยเอ่ยด้วยความสงสัย “แต่เมื่อครู่ยามที่เข้ามา ท่านได้ทำลายค่ายกลไปแล้วไม่ใช่หรือ?”  ซือเจ๋อเยว่ตอบไป “นี่คือค่ายกลซ้อนค่ายกล ผู้วางค่ายกลนี้ร้ายกาจอย่างยิ่ง ฝีมือในด้านค่ายกลไม่ได้ด้อยกว่าข้าเลย” “แม้แต่ยามที่ก้าวเข้ามาครั้งแรก ข้าเองก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ” “ในเมื่อเราตกเข้ามาแล้ว ยามนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาทางทำลายค่ายกลนี้”  ชื่อปาเลี่ยรีบถาม “ทำอย่างไรจึงจะทำลายได้?”  ซือเจ๋อเยว่กวาดตามองโดยรอบแล้วเอ่ยขึ้น “หากต้องการทำลายต้องหาแกนกลางค่ายกลให้พบ ขอเพียงหามันเจอ การทำลายค่ายกลนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง”  “ส่วนเรื่องที่ว่ามันอยู่ที่ใด ยามนี้ข้าเองก็ยังไม่แน่ชัด เราต้องหาต่อไป”  ยิ่งพวกเขาก้าวไปข้างหน้าเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกว่าการหายใจยากลำบากเท่านั้น พื้นดินรอบตัวกลายเป็นสีดำไหม้ ฟ้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 353  

    ราชครูมองเห็นโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกงกระจัดกระจาย ก่อนที่มันจะรวมตัวขึ้นอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  เขายกนิ้วขึ้นคำนวณบางสิ่ง แต่เมื่อได้ผลลัพธ์ เขากลับแย้มยกริมฝีปากแล้วเอ่ยด้วยความไม่พอใจ “นี่มันตัวอันใด!”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายเอ่ยถาม “ท่านราชครู เป็นอันใดไปหรือขอรับ?”  ทว่าราชครูกลับตอบไม่ตรงคำถาม “ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีเหตุและผลของมัน”  “มีบางเรื่องที่ข้าสามารถแทรกแซงได้ แต่บางเรื่องต้องปล่อยให้นางเป็นผู้จัดการเอง”  “นางคนนั้นมีชะตาชีวิตที่แตกต่างจากผู้อื่น เมื่อยามทุกข์ก็ทุกข์อย่างแท้จริง” “แม้ข้าจะสงสารนางเพียงใด แต่เรื่องบางเรื่องก็มีแต่นางที่ต้องเผชิญด้วยตนเอง”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวเอ่ยถาม “ท่านกำลังเอ่ยถึงชะตากรรมใดกัน? หรือว่าท่านกำลังเป็นห่วงศิษย์พี่หญิง?”  ราชครูหยิบไม้ขนไก่ข้างตัวขึ้นมาแล้วหวดลงไปที่หลังของเด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวทันที “ผู้ใดสนใจนางกัน?!”  “ชะตาชีวิตของนางเป็นชะตาที่ต้องตาย แม้แต่มหาเทพเซียนมาเองก็ไม่อาจช่วยนางได้!”  “ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะนาง ข้าแก่ขึ้นไปตั้งเท่าใด ข้าจะไปสนใจนางเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 352  

    ดังที่ซือเจ๋อเยว่คาดการณ์ไว้ อดีตหนิงกั๋วกงพลันกระอักเลือดออกมา  เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเคียดแค้น “ซือเจ๋อเยว่!”  ตลอดหลายวันผ่านมานี้ เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรักษาโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกง  สมบัติวิเศษล้ำค่าที่เขาเสาะหามานานหลายปีล้วนถูกใช้ไปจนหมดสิ้น จึงจะประคับประคองไว้ได้อย่างยากลำบาก ครั้งก่อนที่ไป๋จื้อเซียนบุกเข้าไปยังห้องลับ และกลืนกินดวงวิญญาณของบรรพบุรุษคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ทำให้อดีตหนิงกั๋วกงเริ่มรู้สึกถึงความสั่นคลอนของพลัง  แม้เวลานั้นสถานการณ์จะอันตราย แต่ค่ายกลใหญ่แห่งชายแดนยังไม่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์  หากสามารถจัดการพลังที่หลงเหลือได้อย่างเหมาะสม ก็ยังสามารถต่อเวลาของโชคชะตาในจวนหนิงกั๋วกงออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เมื่อรู้ว่าซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานออกจากเมืองหลวง เขาจึงเร่งวางแผนเพื่อกำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก เดิมทีเขาคิดว่าหากสามารถสกัดซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานเอาไว้ที่ด่านอวิ๋นหลิ่งได้ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา  ทว่าเมื่อครู่ เขาได้รับสารลับจากนกพิราบส่งข่าวจากด่านอวิ๋นหลิ่ง  ข้อความในจดหมายบอกเอาไว้ว่าที่ด่านอวิ๋นหลิ่งนั้น เกิดหิมะตกหนัก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 351  

    ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนจากบุรุษผู้ซื่อสัตย์ กลายเป็นคนหยาบกระด้างและไม่สนใจเหตุผลใด ๆ อีกต่อไป  เขาชินเสียแล้วกับสายตาของผู้คนที่มองเขาปานสิ่งสกปรก เขาใช้ชีวิตอย่างเมามายไร้จุดหมายไปวัน ๆ  แต่เมื่อวาน ยามที่ไป๋จื้อเซียนคิดจะสังหารเขา ซือเจ๋อเยว่กลับทุ่มเทสุดกำลังเพื่อช่วยชีวิตเขา  ยิ่งไปกว่านั้นแววตาที่นางใช้มองเขา ก็หาได้แตกต่างไปจากการมองคนอื่นไม่ ไม่มีแม้เพียงเศษเสี้ยวของความดูแคลน  เขาจึงรู้สึกว่าสตรีในโลกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นมารดาหรือสตรีที่เขาเคยหมายปองในอดีต  เขากระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณชายสาม หลังจากเรื่องนี้จบแล้ว ท่านพอจะพาข้าไปเมืองหลวงได้หรือไม่?”  เยียนเซียวหรานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เจ้าคิดจะไปเมืองหลวง?”  ชื่อปาเลี่ยตอบไป “ใช่ขอรับ ข้าไม่อยากอยู่ที่ชายแดนอีกต่อไปแล้ว ที่นี่ทุกคนล้วนรู้เรื่องของข้า หากข้าไม่เลือกเป็นอันธพาลก็ต้องเป็นเพียงคนไร้ค่า” “แต่ข้าไม่อยากเป็นอันธพาลและไม่อยากเป็นคนไร้ค่า ข้าเพียงแค่อยากเป็นคนธรรมดา”  “ข้าต้องการพึ่งพาความสามารถของตนเอง มีชีวิตที่ดี และแต่งงานกับสตรีดี ๆ สักคน เพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุข”  เยียนเซียวหรานเอ่ย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 350

    คำพูดประโยคนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบรับอย่างไรเพียงแต่เขายังจับใจความสำคัญได้อย่างหนึ่ง “วันแต่งงานวันนั้นท่านก็อยากจะลูบคลำข้าแล้ว?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวแก้ไข “ไม่ใช่ว่าอยากลูบคลำเจ้า เพียงแค่คิดว่าขาของเจ้าทั้งยาวทั้งตรง น่าดูจริง ๆ จึงอยากจะลูบสักครั้ง”เยียนเซียวหราน “...เขาคิดว่านางเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่คิดเลยว่าจะมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวอีกครั้ง “ตอนหลังจำเจ้าได้ กลัวว่าเจ้าจะเอามีดฟันข้า ต่อให้ในใจมีความคิดมากกว่านี้ ก็ทำได้เพียงข่มเอาไว้เท่านั้น”เยียนเซียวหรานกล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ท่านทำเรื่องแบบนั้นออกมาแล้ว ไม่คิดเลยว่ายังจะกลัวข้าลงมืออีก”“ต่อให้ข้าลงมือ ก็ทำอะไรท่านไม่ได้หรอกกระมัง? เรื่องแบบนั้นอย่างไรเสียก็น่าอาย ข้าไม่สามารถบอกใครได้ ก็เหลือแค่อดทนไว้เท่านั้น”ซือเจ๋อเยว่เม้มริมฝีปากยิ้มบาง ๆ ทีหนึ่ง “พูดถูกต้อง แต่หลังจากเกิดเรื่องครั้งนั้นขึ้นเจ้าก็ดุจริง ๆ นี่นา!”เยียนเซียวหรานค้อนนางทีหนึ่ง “หากมีคนฉวยโอกาสตอนท่านไม่ระวังตัว ทำเรื่องแบบนั้นกับท่าน ท่านจะไม่โมโหหรือ?”ซือเจ๋อเยว่หดคอ “โมโหนั่นเป็นเรื่องแน่อยู่แล้ว ข้า...

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 349

    “สิ่งชั่วร้ายนั่นไม่มายังพอไหว ทันทีที่มาก็จะเอาชีวิตของพวกมันเสีย”นางมีความมั่นใจต่อค่ายกลที่ตนเองวาดมาก โดยเฉพาะในเวลานี้ พวกเขายิ่งต้องเก็บสะสมพลังงานเอาไว้เยียนเซียวหรานพยักหน้าเบา ๆ ทีหนึ่ง นอนลงไปแล้วกอดนางเอาไว้ในอ้อมกอดหลวม ๆนางเงยหน้าขึ้นหันหน้ามองเขา เขากล่าวเสียงอ่อนโยน “ท่านนอนให้สบายเถอะ รักษาสุขภาพให้ดีขึ้น เรื่องพวกนี้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่างก็ต้องพึ่งพาท่าน”นับตั้งแต่เขาสารภาพรักกับนางครั้งก่อน ตอนที่ซือเจ๋อเยว่อยู่ตามลำพังกับเขาก็มักจะมีความไม่สบายใจเกิดขึ้นบัดนี้นางคิดว่าเขาได้ช่วยชีวิตนางมาหลายครั้งแล้ว ทั้งสองคนเคยมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยามาก่อนเช่นกัน หากนางเขินอายจนเกินไปก็จะยากที่จะพูดนางคิดว่าไม่สู้ถือโอกาสในคืนนี้คุยเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยนางจึงกล่าว “คือว่า...ชีวิตของข้าในตอนนี้ผูกไว้กับเจ้า หากพูดว่าชอบเจ้าในเวลานี้ เหมือนว่ากำลังพยายามประจบเอาใจเจ้า”“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยชอบใครมาก่อน ไม่รู้ว่าการชอบเป็นความรู้สึกแบบใด”“แต่ว่ามีข้อหนึ่งที่ข้าสามารถแน่ใจได้ ข้าไม่ได้รังเกียจที่ใกล้ชิดกับเจ้า บางทีนี่อาจจะเป็นความชอบก็ได้”“สุขภาพของข้าเป็

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status