หน้าหลัก / โรแมนติก / บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น / ตอนที่ 9 เจ้าสั่งให้ผู้ใดหุบปาก

แชร์

ตอนที่ 9 เจ้าสั่งให้ผู้ใดหุบปาก

ผู้เขียน: ชาไทยเย็น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-25 02:03:12

 

เรือนพักอันถง

“นังหลินเฟยอัน แค้นนี้ข้าต้องเอาคืนเป็นสิบเท่า”

“พี่อันถง ไท่เฟยให้คนนำยานี่มาให้ท่านเจ้าค่ะ”

“หึ ขนาดข้าถูกสั่งโบย นางยังแกล้งเป็นลมเพื่อหนีเหตุการณ์ ช่างเป็นผู้ที่มีความกรุณาเสียจริง”

“พี่อันถง แต่ว่าไท่เฟย”

“ข้ารู้ เจ้า..รีบ ๆ ทาให้ข้า นัง…พระชายา….นาง พักอยู่ที่ใด…”

“พระชายาสั่งให้คนจัดห้องในตำหนักกลาง…”

“เจ้าว่า…อย่างไรนะ ตำหนักกลาง…นั่นเป็น ตำหนักท่านอ๋อง นางกล้าดีเช่นไร…”

“นะ..นางเอ่อ พระนางสั่งให้คนไปจัดห้องและสั่งทำความสะอาดตำหนักเจ้าค่ะ”

“รอข้าหายเสียก่อนเถอะ หลินเฟยลี่ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าอยู่ตำหนัก..นั้นกับ…ท่านอ๋องของข้า…แน่”

คำสั่งขายสาวใช้สองคนออกจากตำหนักทำให้ชื่อเสียงความโหดร้ายของพระชายาหลินเป็นที่เลื่องลือในตำหนัก แม้แต่สาวใช้ที่เป็นลูกน้องของอันถงเองก็เริ่มเกรงกลัวและไม่กล้าที่จะแสดงกิริยาไม่เคารพต่อพระชายา

เพราะแม้แต่อันถง สาวใช้ที่เหมือนกับคนสนิทที่โตมากับท่านอ๋องและอยู่กับไท่เฟยตั้งแต่เด็กก็ยังถูกพระชายาหลินสั่งโบยโดยที่ไท่เฟยโกรธจนเป็นลมแต่กลับช่วยนางไม่ได้

 วันถัดมา

“พระชายา ตื่นจากบรรทมแล้วหรือเพคะ”

“เจ้าไปถามมาแล้วใช่หรือไม่”

“เพคะ หอบรรพชนของสกุลเว่ยอ๋องอยู่ด้านหลัง ติดกับสระบัวเพคะ”

“ดี งั้นรีบแต่งตัวให้ข้าเถอะ”

“เพคะ”

สามวันถัดมา / ตำหนักไท่เฟย

“ซ่งฟางหรูถวายบังคมไท่เฟยเพคะ”

“เด็กดีลุกขึ้นเถอะ มา ๆ มานั่งนี่ ดูสิมาแต่เช้าเช่นนี้ มีเรื่องอะไรงั้นหรือ”

“ได้ข่าวว่าพระชายาเสด็จกลับมาที่ตำหนักแล้ว”

หยงไท่เฟยหุบยิ้มไปเล็กน้อยพร้อมกับหันไปมองอันถงที่ยืนหน้าซีดอยู่ด้านหลัง ซ่งฟางหรูเห็นว่าพวกนางทำสีหน้าแปลก ๆ จึงได้เอ่ยถาม

“เกิดอะไรขึ้นหรือเพคะ แล้วเหตุใดเวลานี้แล้ว พระชายายังไม่เข้ามาถวายคำนับท่านอีกเพคะ”

“นั่นสิ หากว่าเจ้าไม่ได้เอ่ยทักข้าก็หลงลืมไปแล้ว เด็ก ๆ”

“เพคะไท่เฟย”

“ให้คนไปตามพระชายามา ข้าอยากรู้ว่าเหตุใดนางถึงได้ไร้มารยาทถึงเพียงนี้ นี่มันเวลาใดแล้วเหตุใดจึงไม่มาถวายความเคารพตอนเช้า”

“เพคะไท่เฟย ….ถวายบังคมพระชายา”

ไม่ทันที่สาวใช้ทั้งสองจะเดินไปตามหลินเฟยลี่ นางก็เดินเข้ามาเสียก่อนพร้อมกับกวาดสายตาไปมองยังผู้ที่เป็นแขกที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้

ดูแล้วคงจะเป็นแม่นางซ่ง….ที่พี่สาวนางเคยเขียนบอกไว้ว่าเป็นหลานสาวของไท่เฟยที่นางหมายจะให้แต่งเข้ามาเป็นพระสนมของท่านอ๋อง

“พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา”

เฟยเย่หันไปมองผู้พูดที่ยังนั่งจิบชาอยู่ที่เก้าอี้ดังเดิม ไม่มีแม้แต่คำทักทาย

“ถวายบังคมไท่เฟย”

“พระชายา เจ้ากลับจวนไปนานจนลืมพิธีการถวายความเคารพผู้ใหญ่ไปสิ้นแล้วงั้นหรือ เหตุใดจึงได้พึ่งมาเอาป่านนี้ เจ้าดูฟางหรูเป็นแบบอย่างสินางเป็นแขกแต่กลับมาคารวะข้าแต่เช้า ไม่เหมือนเจ้าเป็นถึงพระชายา หึ น่าอับอาย คงเป็นเพราะ…”

“เป็นเพราะว่าหม่อมฉันเสียเวลาสั่งบ่าวไพร่ให้ไปทำความสะอาดที่หอบรรพชนสกุลเว่ยอ๋องตั้งแต่เช้า ดูเหมือนว่าที่นั่นจะขาดการดูแลเอาใจใส่มานาน ทั้ง ๆ ที่เป็นที่เก็บป้ายวิญญาณของ “อดีตท่านอ๋องและพระชายาเอกพระมารดาของท่านอ๋อง” หม่อมฉันเลยสั่งให้คนไปทำความสะอาดใหม่ทั้งหมดเพคะ”

“เจ้า…นั่นมันกงการอันใด…”

“เพราะว่านาง….คือพระมารดาของพระสวามีหม่อมฉัน หากจะนับแล้วหม่อมฉันไปคารวะนาง ถึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง พระองค์มิได้นับเป็นแม่พระสวามีของหม่อมฉันนะเพคะ

ที่มาที่นี่ช้าก็เพราะเหตุนี้ และมาบอกกล่าวว่าพระองค์ละเลยหน้าที่ดูแลตำหนัก “อีกแล้ว” หม่อมฉันนึกไม่ถึงเลยว่าเบี้ยหวัดที่จ่ายให้สาวใช้เหล่านี้ จ่ายเพื่อให้มาเดินเล่นหรืออย่างไร”

“เจ้ากล้าดีเช่นไรถึงได้กล่าวหาท่านป้าข้าเช่นนี้ บังอาจ”

“หุบปาก!!”

หลินเฟยเย่หันไปตวาดและมองผู้ที่ลุกขึ้นชี้หน้าด่าว่านาง ซ่งฟางหรูเองก็ดูตกใจกับท่าทีนี้ หยงไท่เฟยนั้นหน้าซีดจนพูดไม่ออกตั้งแต่นางพูดถึงเรื่องหอบรรพชนแล้ว เพราะที่นั่นคือที่ที่นางเกลียดมากที่สุด ต่อให้นางยังมีตำแหน่งไท่เฟย แต่เมื่อตายไปก็มิอาจจะอยู่ร่วมหอบรรพชนสกุลอ๋องนั้นได้ นางจึงไม่นึกสนใจที่นั่นแม้แต่น้อย

“เจ้าสั่งให้ผู้ใดหุบปาก”

“ข้าสั่งเจ้านั่นแหละแม่นางซ่ง เจ้าเป็นผู้ใดกันมาที่นี่เพราะเหตุใด เจ้าเป็นแค่บุตรขุนนางระดับสองแต่กลับใช้วาจาเช่นนี้กับข้าซึ่งเป็นพระชายา อ่อ….ดูแล้ววงศ์ตระกูลพวกเจ้าคงสั่งสอนกันมาพอกัน”

“นี่เจ้า นังสารเลว..”

“ว่าอย่างไรนะ เจ้าบอกว่าข้าสารเลวงั้นหรือ ทหาร!!”

“พ่ะย่ะค่ะพระชายา”

“หยุดนะพระชายาหลิน พวกเจ้าออกไปก่อน”

ไท่เฟยตะโกนขึ้นสั่ง ทหารอารักขาหันมามองพระพักตร์พระชายา เมื่อนางพยักหน้าพวกเขาจึงคำนับและเดินออกไปในทันที ไท่เฟยหันไปปรามให้ซ่งฟางหรูนั่งลงซึ่งท่าทีเช่นนี้ทำให้ฟางหรูไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย

“ฟางหรู คือ…”

“ซ่งฟางหรู ข้าเป็นเจ้าบ้านเจ้าเป็นแขกแต่ด้วยฐานะของข้าในตอนนี้คือพระชายาเว่ยอ๋อง แต่เจ้าเป็นบุตรขุนนางผู้ใดต้องถวายความเคารพข้าคงไม่ต้องสอนเจ้าใช่หรือไม่”

“ข้า เจ้ากล้าดีเช่นไร”

“ฟางหรู….นาง…พูดถูกแล้ว เจ้า…ถวายความเคารพพระชายาเถอะ”

“ไท่เฟยเพคะ”

“เร็วเข้า ข้าสั่ง!!”

ฟางหรูแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อหยงไท่เฟยเอ่ยขึ้นมาให้นางยอมคุกเข่าถวายความเคารพ แต่นางกลับทำอย่างลวก ๆ โดยย่อตัวลงเล็กน้อยเร็ว ๆ และพูดแบบไม่ใส่ใจเหมือนกับสาวใช้เมื่อวันก่อนไม่มีผิด

 ไท่เฟยถึงกับจะท้วงแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว และครั้งนี้ก็คงไม่ต่างจากเมื่อวันก่อนที่นางสั่งโบยสาวใช้

“ถวายบังคมพระชายา”

“หืม…สกุลซ่งของเจ้าสั่งสอนให้ถวายความเคารพแบบขอไปทีกันเช่นนี้งั้นหรือแม่นางซ่ง”

“ให้ทำก็ทำแล้ว เจ้าจะ..”

“เพี๊ยะ!!”

“เจ้าตบข้า นังไพร่”

“เพี๊ยะ!!”

“ทหาร!!”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“จับนางเอาไว้” 

“พ่ะย่ะค่ะ”

“นั่นเจ้าจะทำอะไร หยุดนะไท่เฟยเพคะ”

ทหารองครักษ์เดินเข้ามาจับแขนซ่งฟางหรูตามคำสั่งของพระชายา สายตาที่มองนั้นทำให้นางเริ่มรู้ว่านางท้าทายผิดคนผิดที่และผิดเวลา

นางหันไปมองเพื่อขอความช่วยเหลือจากไท่เฟยแต่ก็ดูราวกับว่าไท่เฟยเองจะไม่สามารถพูดอะไรได้เลย แม้แต่อันถงเองก็ยืนหน้าซีดราวกับไร้ชีวิต

 นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ ไม่นานนางที่ตั้งคำถามในใจอยู่ก็ถูกพระชายาหลินเตะที่เข่าจนนางต้องคุกเข่าลงเพราะความเจ็บปวด ทหารปล่อยตัวนางแล้วเดินออกไป

“ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้าคุกเข่าให้ แต่เจ้าเป็นถึงบุตรีขุนนางแต่กลับถวายความเคารพไม่เป็น ข้าซึ่งเป็นบุตรคหบดีคงต้องสอนเจ้าหน่อย

 พูดสิแม่นางซ่งหรือแม้แต่คำพูดเจ้าก็พูดไม่เป็น เสียทีที่เกิดเป็นบุตรขุนนางและเป็นหลานสาวหยงไท่เฟยเสียจริง”

ตัวนางสั่นไปทั้งตัวแต่นางขยับไม่ได้เพราะแรงที่เตะมาที่เข่านั้นทำเอานางลุกไม่ขึ้น ซ่งฟางหรูโกรธจนหน้าแดง แต่สายตาของพระชายาหลินที่มองมานั้นทำให้นางกลัว ไม่รู้ว่าความรู้สึกใดที่มากกว่ากันในตอนนี้ แต่ดูแล้วน่าจะอย่างหลังมากกว่า

“ถะ ถวายบังคม…พระชายาหลิน”

“เอาเถอะ แค่นี้ก็พอแล้ว อย่าลืมว่าครั้งต่อไปก็ทำให้ถูกต้อง อย่าได้ให้ผู้อื่นเอาไปพูดลับหลังได้ว่าเป็นถึงหลานสาวหยงไท่เฟย แค่ถวายความเคารพก็ยังทำไม่เป็นเสียชื่อสกุลซ่งเจ้าเสียหมด”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 10 แสร้งถอยเพื่อรุก

    “พระ…พระชายากล่าวได้ถูกต้อง หม่อมฉัน จะจดจำไว้เพคะ”หลินเฟยเย่ยิ้มนิดหน่อยก่อนจะหันมามองที่หยงไท่เฟยที่นั่งนิ่งราวรูปปั้นแกะสลัก อีกทั้งสาวใช้คนสนิทที่ยอมลุกมาปรนนิบัติอย่างไม่บกพร่องอย่างอันถงด้วย“หม่อมฉันให้คนไปทำความสะอาดตัดหญ้ารอบ ๆ หอบรรพชนและให้ทำความสะอาดสระบัวทั้งหมดเพื่อปรับภูมิทัศน์โดยรอบ หวังว่าไท่เฟยจะไม่ทรงขัดข้อง”“ข้าจะไปขัดข้องอย่างไรได้เล่า เจ้าอยากทำสิ่งใดก็ทำไปเถอะ”“ยังมีธุระที่ต้องสะสางอีกมาก หม่อมฉันขอทูลลา”“นี่เจ้าคิดจะทำสิ่งใดอีก”หลินเฟยเย่หันมามองใบหน้าไท่เฟยที่เริ่มหวั่นวิตกอย่างปกปิดไม่มิด นางยิ้มออกมาเล็กน้อยและถามกลับไป“หน้าที่พระชายาท่านอ๋อง มีมากมายนะเพคะ ตำหนักนี้กว้างขวางแต่สาวใช้บ่าวไพร่ที่ดูแลโดย….(มองไปที่อันถง) คนของไท่เฟยดูเหมือนว่าจะทำหน้าที่ได้ไม่ดีนักบกพร่อง สะเพร่าอยู่หลายอย่างอีกทั้งบางคนยังเกียจคร้านไม่เอาการเอางานวัน ๆ คอยตามแต่พวกไร้ประโยชน์เพื่อทำสิ่งไร้ประโยชน์ คิดว่าน่าจะได้เวลาเก็บกวาดแล้ว ขอตัวเพคะ”พระชายาปรายตามามองซ่งฟางหรูที่พึ่งพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้นได้และนั่งที่เก้าอี้ แต่เมื่อนางหันมามองอีกครั้ง ซ่งฟางหรูจึงต้องพยายามลุกข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 11 เจ้าหมีน้อย

    หนึ่งวันก่อนท่านอ๋องกลับ“พระชายาเพคะ ทุกอย่างจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วเพคะ”“อืม ดีแล้ว ห้องของข้าเล่า”“คือว่า หากว่าพระองค์ย้ายในตอนนี้จะไม่เท่ากับว่า…เอ่อ…”“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นก็รอท่านอ๋องกลับมาก่อนก็แล้วกัน เจ้าจัดเตรียมห้องสำรองเอาไว้ อย่างไรข้าก็ไม่มีทางอยู่ร่วมห้องกับเขาได้หรอก”“เพคะ”“เจ้าบอกว่าทุกคนต่างล้วนรอคอยให้ท่านอ๋องผู้นี้กลับมา”“พระชายาเพคะ หม่อมฉันได้ข่าวว่าแม่นางอันถงแม้ว่าจะเป็นสาวใช้ข้างกายไท่เฟยแต่ที่จริงแล้วนางเองก็เติบโตมาพร้อมกับท่านอ๋องและยัง…”“ข้าเข้าใจแล้ว นางชื่นชอบท่านอ๋องสินะ”“เพคะ พระชายาทรงปราดเปรื่อง”“ดูไม่ยากสักนิด ท่าทางของนางที่ปฏิบัติต่อไท่เฟย แม้ว่าจะดูภักดีแต่ลับหลังนางกลับสร้างบารมีกับสาวใช้ในตำหนัก นั่นก็เท่ากับหาพวกให้ตนเอง” “แม้ว่าต่อหน้าจะเอาใจไท่เฟยแต่ลับหลังนางเองก็ถือมีดเช่นกันอีกทั้งนิสัยของไท่เฟยความชอบและพฤติกรรมล้วนแต่อยู่ในสายตานาง เช่นนี้การจัดการไท่เฟยได้คนหนึ่งก็เท่ากับนางไม่ต่างกับนายหญิงของที่นี่ และยิ่งไปกว่านั้นนางยังมีอำนาจมากกว่าพระชายาอย่างท่านพี่เสียอีก นี่เป็นเหตุผลที่ท่านพี่ไม่อาจอยู่ที่นี่ได้”“เป็นเช่นนี้เอง ดั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26
  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 12 เหตุเข้าใจผิด

    เฟยเย่พลิกตัวและจับเขาและเอามือของท่านอ๋องไพล่หลังเอาไว้ได้ เขาสลัดนางหลุดได้ในทันทีพร้อมกับดึงตัวนางเข้ามา แต่เฟยเย่ยังไม่ยอมแพ้ นางใช้ขาเตะไปที่หลังของเขาหมายจะใช้ศีรษะกระแทกเขา ท่านอ๋องจับได้และกดนางลงที่เตียง“อยู่เฉย ๆ เจ้าคิดว่าวิธีนี้จะจัดการข้าได้งั้นหรือ”“ออกไปนะเจ้าคนชั้นต่ำ เจ้าเป็นคนของใครนึกไม่ถึงว่าจะกล้าใช้วิธีชั้นต่ำเช่นนี้จัดการกับข้า”เขาไม่เข้าใจที่นางพูดเลยสักนิด นี่นางกำลังหมายถึงสิ่งใด ที่นี่มีผู้ใดที่คิดจะทำร้ายนางกันแน่ ระหว่างที่เขาไม่อยู่เกิดสิ่งใดขึ้น เหตุใดสตรีที่ดูอ่อนแอและไม่สู้คนในวันนั้นถึงได้เปลี่ยนราวกับคนละคนเช่นนี้“หลังจากนี้ค่อยคุยเถอะ อยู่นิ่ง ๆ”เขาไม่อยากเสียเวลา ยิ่งนางดิ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งปลุกสัญชาตญาณดิบของเขาออกมามากเท่านั้น เขาเริ่มล้วงลงไปด้านล่างแม้นางจะดิ้นแต่ก็น้อยลงกว่าเดิม“ออกไปนะเจ้าคนชั่ว ข้าไม่มีทางยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้ซ้ำสอง”“ซ้ำสองงั้นหรือ”เขาไม่ทันถามจบศีรษะของนางก็กระแทกมาที่หน้าผากเขาเต็มแรงจนเขามึนงง นางจับเขาได้ในที่สุดเพราะเขาประมาท หลินเฟยเย่คว้าสายม่านที่เตียงมารัดเขาเอาไว้และสกัดจุดไม่ให้เขาขยับตัวพร้อมกับดึงชุดมาสวม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26
  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 13 แผนยั่วยวนขั้นที่ 1

    เฟยเย่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความระแวง นางรู้สึกว่านอนหลับไปได้เพียงไม่นอนเมื่อหันไปมองข้าง ๆ กลับพบแค่ความว่างเปล่า ท่านอ๋องออกไปแล้วซึ่งไม่รู้ว่าเขาไปที่ใดแน่ แต่เขาคงออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง“ไปไหนกันนะ”หอบรรพชนสกุลเว่ยอ๋องเว่ยจื่อหานเดินเข้ามาที่หอบรรพชนหลังจากที่ตื่นนอนมา เขาไม่ค่อยคุ้นชินกับการที่มีผู้อื่นนอนร่วมเตียง แต่เมื่อตื่นขึ้นมาพบพระชายาของเขานอนซบอยู่ที่หน้าอกของเขาและขาของนางก็พาดกอดเขาราวกับเขาเป็นหมอนข้างของนางกลับทำให้หัวใจเขาอบอุ่นขึ้นได้อย่างน่าประหลาด “นางเป็นคนแปลกหน้าสำหรับข้าแท้ ๆ เหตุใดจึง….ช่างเถอะ”เขาค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียงด้วยเสียงที่เบาที่สุดเกรงว่านางจะตื่น หากว่านางตื่นขึ้นมาพบเขากลัวว่านางจะทำอะไรไม่ถูก และเขาก็ยังไม่อยากถูกทำร้ายร่างกายเพิ่มหากว่านางตื่นมาแล้วจำไม่ได้ว่าเขาคือผู้ใด รอยยิ้มนึกขำผุดขึ้นมาบนใบหน้าพร้อมกับขาที่ก้าวเข้ามาในหอบรรพชนสกุลเว่ย เมื่อเข้ามาถึงกลับแปลกตาไม่น้อยที่สถานที่ที่เกือบถูกลืมนี้สะอาดกว่าที่คิดเอาไว้มากนัก“สะอาดถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ”“ทูลท่านอ๋อง แม่นมลี่บอกว่าช่วงเวลาที่พระชายาอยู่ที่นี่พระนางเป็นคนสั่งสาวใช้ให้มาท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 14 ไหลตามเหตุการณ์

    “เอาละ พระชายาเราไปกันเถอะ อันถงเจ้ารีบกลับไปแจ้งไท่เฟยว่าข้ากับพระชายาจะไปเข้าเฝ้า”อันถงลุกขึ้นด้วยความรู้สึกคับแค้นใจ นางไม่เคยถูกท่านอ๋องต่อว่าตรง ๆ เช่นนี้มาก่อนเลย พระชายาหลินใช้มารยาเพียงนิดหน่อยก็แย่งความโปรดปรานไป นางไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้น“เพคะท่านอ๋อง”อันถงและสาวใช้เดินกลับไปแล้ว เฟยเย่ยืดตัวขึ้นลงเพื่อดูว่านางไปแล้วแน่ ๆ ท่านอ๋องหันมามองท่าทีของนาง เมื่อเห็นว่าอันถงไปพ้นสายตาแล้วนางจึงรีบปล่อยมือจากแขนของเขาทันที“เฮ้อ ไปได้เสียที”“นี่เจ้าคิดจะทำสิ่งใดพระชายาหลิน”“เอ่อ…เปล่านะเพคะเมื่อครู่นี้หม่อมฉันรู้สึกเจ็บที่แผลจริง ๆ แล้วก็..”“พอแล้ว เดินตามข้ามาดี ๆ ในเมื่อเจ้าเล่นละครไปแล้วว่าเดินไม่ไหว เช่นนั้นเจ้าก็เล่นให้จบ!!”“แต่ว่า…ท่านอ๋องเพคะ!!”“เรียกข้าว่าเสด็จพี่สิ เจ้าลืมบทบาทของตัวเองไปแล้วงั้นหรือ”“เมื่อครู่นี้เพียงแค่…”“มือ แขน เกาะที่เดิม หรือจะให้ข้าอุ้มเจ้าไป”“กอดแล้ว ๆ แบบนี้พอพระทัยหรือยัง ไปสิ เดินไปสิเพคะ”“กอดแน่น ๆ เจ้าไม่กลัวว่าผู้อื่นจะจับได้หรืออย่างไรว่าเจ้าแสร้งทำ”เฟยเย่กระชับแขนของนางกอดพลางซบไปที่แขนของเขาจนแนบสนิทเมื่อเขาพานางเดินออกมาจากหอบรร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 1 Impossible

    เมืองฉางอันเสียงประทัดมงคลดังขึ้นหน้าจวนคหบดีหลิน ต่อเนื่องยาวทั้งตรอกลั่วจินเนื่องจากงานมงคลใหญ่ บุตรีของคหบดีหลินเต๋อ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระชายาท่านอ๋อง “เว่ยจื่อหาน” อ๋องผู้ปกครองแคว้นเฉินโจว“เจ้าสาวเรียบร้อยหรือยัง มาเร็ว ๆ เกี้ยวมารอรับอยู่หน้าจวนแล้ว”“เสร็จแล้วเจ้าค่ะ”“คุณหนู”“อาจิงฝากดูแลเฟยเย่ด้วย”“คุณหนูเจ้าคะ”“ข้าไปนะ”คำนั้นน่าจะเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ "หลินเฟยลี่" บุตรสาวคนโตของคหบดีเลื่องชื่อบอกกับสาวใช้ที่ดูแลพวกนางและเติบโตมาพร้อมกัน แคว้นเฉินโจวที่ปกครองโดยเว่ยอ๋องผู้เป็นบุตรของท่านอ๋องเว่ยเสวี่ยที่สิ้นไปเมื่อสี่ปีก่อน แม้ว่าจะปกครองด้วยคุณธรรม แต่บ้านเมืองในยามนี้มีศึกสงครามรอบด้านหลายแคว้นทำศึกต่อเนื่อง ทั้งทรัพยากรและเงินทองต่างก็เริ่มหมดจากท้องพระคลัง ราชสำนักไม่มีเงินมากพอที่จะแจกจ่ายไปตามแคว้นต่าง ๆดังนั้นท่านอ๋อง“เว่ยจื่อหาน” จึงตัดสินใจรับข้อเสนอของคหบดีผู้มั่งคั่งที่สุดในเฉินโจว โดยการอภิเษกและแต่งตั้งบุตรสาวของหลินเต๋อเป็นพระชายา“ส่งตัวเจ้าสาว”ตำหนักท่านอ๋อง“นางก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาแล้วงั้นหรือ”“ทูลไท่เฟย เกี้ยวออกมาจากจวนคหบดีหลินแล้วเพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21
  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 2  ลอบเข้าตำหนักท่านอ๋อง

    “ท่านหมอ!!”“ขะ…ขอรับ”“เอ่อ ข้าขอยืมเข็มเงินท่านหน่อยสิ”“เอ่อ..คุณหนู ท่าน จะเอาเข็มเงินไปทำอะไรหรือขอรับ”“รีดพิษ”""หา""ท่านหมอกับสาวใช้ที่เหลือถึงกับงงกับพฤติกรรมของคุณหนูรองที่เปลี่ยนไป แต่เขาก็ยอมยื่นเข็มเงินไปให้นางตามคำสั่ง เฟยเย่รับเข็มเงินจากท่านหมอและจับข้อมือตัวเองเอาไว้และทำสิ่งที่ไม่มีผู้ใดคาดคิด นางจิ้มเข็มเงินไปที่เส้นเลือดที่ปูดขึ้นเพราะแรงบีบจนมีเลือดสีดำพวยพุ่งออกมา“คุณหนู นั่นท่านทำอะไรเจ้าคะ”“เงียบหน่อย หยุดโวยวายแล้วหาผ้ามาให้ข้าเร็วเข้า”“หน็อย คิดฆ่าคนด้วยวิธีนี้เหรอ กระจอกชะมัดพิษล้างตับนี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก มันมียาแก้นานแล้ว”“เอ่อ คุณหนู นี่ท่าน….”“ข้ารู้ได้อย่างไรนะหรือท่านหมอ เอาไว้ข้าจัดการพิษนี่เสร็จแล้วจะเหลา เอ๊ย เล่าให้ท่านฟัง”“ฮ้อ ๆ เอ่อ ขอรับ”ท่านหมอนั่งมองดูเฟยเย่ที่ใช้เข็มจิ้มตามเส้นเลือดเพื่อขับเลือดพิษสีดำออกตามจุดชีพจรทั้งสี่ออกมาด้วยนึกเลื่อมใสเพราะเขาไม่เคยทราบมาก่อนว่าวิธีนี้สามารถขับพิษออกมาจากร่างกายได้ แต่สำหรับหลินเฟยเย่ที่มีจ้าวเฟยเฟย “แพทย์ทหาร” ที่ประจำอยู่สนามรบกลับคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี วิวัฒนาการแพทย์แผนปัจจุบันจากยุคที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21
  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 3 แผนกลับบ้าน

    “ตำหนักท่านอ๋องคุ้มกันแน่นหนา เราคงกลับไม่ได้หรอก”“ทำตามที่ข้าบอก ข้าจัดการวางแผนมาแล้ว”“เย่เอ๋อร์เจ้าคิดจะทำสิ่งใด”“ท่านยินยอมหรือไม่พี่ใหญ่”“ข้า….แต่ว่าแล้วหลังจากที่ข้ากลับไปแล้ว...”“ข้าเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย ขอเพียงท่านไว้ใจข้า พี่ใหญ่ข้าผิดเองที่ทำให้ท่านต้อง…..”“เย่เอ๋อร์อย่าพูดเช่นนั้น เราเป็นพี่น้องกัน ข้า…อุ๊บ…อุ๊…”“พี่ใหญ่ ท่านเป็นอะไร”หลินเฟยลี่อาเจียนออกมา เฟยเย่พยายามหายามาให้นางตามที่นางบอก นางเป็นเช่นนี้มาร่วมเดือนแล้ว เฟยเย่นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น นางจับชีพจรพี่สาวและต้องตกใจ“พี่ใหญ่ ท่าน!!….มีครรภ์กับท่านอ๋องงั้นหรือ”“เย่เอ๋อร์ อย่าพูดไปนะ ข้า…ยังไม่อยากให้ผู้ใดล่วงรู้ ข้า..”“ท่านต้องรีบกลับไปที่จวน พี่ใหญ่ท่านทำตามที่ข้าบอก พวกเขายอมให้ท่านกลับไปแน่ อีกสองวันข้าจะส่งคนมารับท่าน”“ข้า…ต้องทำเช่นไรงั้นหรือ”“ท่านฟังข้านะ ทำตามที่ข้าบอก”สองวันถัดมา“คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ”“อาจิง มาปลุกอะไรแต่เช้าฟ้าจะถล่มหรือหิมะในฤดูสารทหรืออย่างไรเกิดอะไรขึ้น ข้าพึ่งได้นอนไม่กี่ชั่วยามเองนะ”“เร็วเข้าเจ้าค่ะ เห็นองครักษ์ที่จวนอ๋องส่งจดหมายมาบอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21

บทล่าสุด

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 14 ไหลตามเหตุการณ์

    “เอาละ พระชายาเราไปกันเถอะ อันถงเจ้ารีบกลับไปแจ้งไท่เฟยว่าข้ากับพระชายาจะไปเข้าเฝ้า”อันถงลุกขึ้นด้วยความรู้สึกคับแค้นใจ นางไม่เคยถูกท่านอ๋องต่อว่าตรง ๆ เช่นนี้มาก่อนเลย พระชายาหลินใช้มารยาเพียงนิดหน่อยก็แย่งความโปรดปรานไป นางไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้น“เพคะท่านอ๋อง”อันถงและสาวใช้เดินกลับไปแล้ว เฟยเย่ยืดตัวขึ้นลงเพื่อดูว่านางไปแล้วแน่ ๆ ท่านอ๋องหันมามองท่าทีของนาง เมื่อเห็นว่าอันถงไปพ้นสายตาแล้วนางจึงรีบปล่อยมือจากแขนของเขาทันที“เฮ้อ ไปได้เสียที”“นี่เจ้าคิดจะทำสิ่งใดพระชายาหลิน”“เอ่อ…เปล่านะเพคะเมื่อครู่นี้หม่อมฉันรู้สึกเจ็บที่แผลจริง ๆ แล้วก็..”“พอแล้ว เดินตามข้ามาดี ๆ ในเมื่อเจ้าเล่นละครไปแล้วว่าเดินไม่ไหว เช่นนั้นเจ้าก็เล่นให้จบ!!”“แต่ว่า…ท่านอ๋องเพคะ!!”“เรียกข้าว่าเสด็จพี่สิ เจ้าลืมบทบาทของตัวเองไปแล้วงั้นหรือ”“เมื่อครู่นี้เพียงแค่…”“มือ แขน เกาะที่เดิม หรือจะให้ข้าอุ้มเจ้าไป”“กอดแล้ว ๆ แบบนี้พอพระทัยหรือยัง ไปสิ เดินไปสิเพคะ”“กอดแน่น ๆ เจ้าไม่กลัวว่าผู้อื่นจะจับได้หรืออย่างไรว่าเจ้าแสร้งทำ”เฟยเย่กระชับแขนของนางกอดพลางซบไปที่แขนของเขาจนแนบสนิทเมื่อเขาพานางเดินออกมาจากหอบรร

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 13 แผนยั่วยวนขั้นที่ 1

    เฟยเย่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความระแวง นางรู้สึกว่านอนหลับไปได้เพียงไม่นอนเมื่อหันไปมองข้าง ๆ กลับพบแค่ความว่างเปล่า ท่านอ๋องออกไปแล้วซึ่งไม่รู้ว่าเขาไปที่ใดแน่ แต่เขาคงออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง“ไปไหนกันนะ”หอบรรพชนสกุลเว่ยอ๋องเว่ยจื่อหานเดินเข้ามาที่หอบรรพชนหลังจากที่ตื่นนอนมา เขาไม่ค่อยคุ้นชินกับการที่มีผู้อื่นนอนร่วมเตียง แต่เมื่อตื่นขึ้นมาพบพระชายาของเขานอนซบอยู่ที่หน้าอกของเขาและขาของนางก็พาดกอดเขาราวกับเขาเป็นหมอนข้างของนางกลับทำให้หัวใจเขาอบอุ่นขึ้นได้อย่างน่าประหลาด “นางเป็นคนแปลกหน้าสำหรับข้าแท้ ๆ เหตุใดจึง….ช่างเถอะ”เขาค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียงด้วยเสียงที่เบาที่สุดเกรงว่านางจะตื่น หากว่านางตื่นขึ้นมาพบเขากลัวว่านางจะทำอะไรไม่ถูก และเขาก็ยังไม่อยากถูกทำร้ายร่างกายเพิ่มหากว่านางตื่นมาแล้วจำไม่ได้ว่าเขาคือผู้ใด รอยยิ้มนึกขำผุดขึ้นมาบนใบหน้าพร้อมกับขาที่ก้าวเข้ามาในหอบรรพชนสกุลเว่ย เมื่อเข้ามาถึงกลับแปลกตาไม่น้อยที่สถานที่ที่เกือบถูกลืมนี้สะอาดกว่าที่คิดเอาไว้มากนัก“สะอาดถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ”“ทูลท่านอ๋อง แม่นมลี่บอกว่าช่วงเวลาที่พระชายาอยู่ที่นี่พระนางเป็นคนสั่งสาวใช้ให้มาท

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 12 เหตุเข้าใจผิด

    เฟยเย่พลิกตัวและจับเขาและเอามือของท่านอ๋องไพล่หลังเอาไว้ได้ เขาสลัดนางหลุดได้ในทันทีพร้อมกับดึงตัวนางเข้ามา แต่เฟยเย่ยังไม่ยอมแพ้ นางใช้ขาเตะไปที่หลังของเขาหมายจะใช้ศีรษะกระแทกเขา ท่านอ๋องจับได้และกดนางลงที่เตียง“อยู่เฉย ๆ เจ้าคิดว่าวิธีนี้จะจัดการข้าได้งั้นหรือ”“ออกไปนะเจ้าคนชั้นต่ำ เจ้าเป็นคนของใครนึกไม่ถึงว่าจะกล้าใช้วิธีชั้นต่ำเช่นนี้จัดการกับข้า”เขาไม่เข้าใจที่นางพูดเลยสักนิด นี่นางกำลังหมายถึงสิ่งใด ที่นี่มีผู้ใดที่คิดจะทำร้ายนางกันแน่ ระหว่างที่เขาไม่อยู่เกิดสิ่งใดขึ้น เหตุใดสตรีที่ดูอ่อนแอและไม่สู้คนในวันนั้นถึงได้เปลี่ยนราวกับคนละคนเช่นนี้“หลังจากนี้ค่อยคุยเถอะ อยู่นิ่ง ๆ”เขาไม่อยากเสียเวลา ยิ่งนางดิ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งปลุกสัญชาตญาณดิบของเขาออกมามากเท่านั้น เขาเริ่มล้วงลงไปด้านล่างแม้นางจะดิ้นแต่ก็น้อยลงกว่าเดิม“ออกไปนะเจ้าคนชั่ว ข้าไม่มีทางยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้ซ้ำสอง”“ซ้ำสองงั้นหรือ”เขาไม่ทันถามจบศีรษะของนางก็กระแทกมาที่หน้าผากเขาเต็มแรงจนเขามึนงง นางจับเขาได้ในที่สุดเพราะเขาประมาท หลินเฟยเย่คว้าสายม่านที่เตียงมารัดเขาเอาไว้และสกัดจุดไม่ให้เขาขยับตัวพร้อมกับดึงชุดมาสวม

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 11 เจ้าหมีน้อย

    หนึ่งวันก่อนท่านอ๋องกลับ“พระชายาเพคะ ทุกอย่างจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วเพคะ”“อืม ดีแล้ว ห้องของข้าเล่า”“คือว่า หากว่าพระองค์ย้ายในตอนนี้จะไม่เท่ากับว่า…เอ่อ…”“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นก็รอท่านอ๋องกลับมาก่อนก็แล้วกัน เจ้าจัดเตรียมห้องสำรองเอาไว้ อย่างไรข้าก็ไม่มีทางอยู่ร่วมห้องกับเขาได้หรอก”“เพคะ”“เจ้าบอกว่าทุกคนต่างล้วนรอคอยให้ท่านอ๋องผู้นี้กลับมา”“พระชายาเพคะ หม่อมฉันได้ข่าวว่าแม่นางอันถงแม้ว่าจะเป็นสาวใช้ข้างกายไท่เฟยแต่ที่จริงแล้วนางเองก็เติบโตมาพร้อมกับท่านอ๋องและยัง…”“ข้าเข้าใจแล้ว นางชื่นชอบท่านอ๋องสินะ”“เพคะ พระชายาทรงปราดเปรื่อง”“ดูไม่ยากสักนิด ท่าทางของนางที่ปฏิบัติต่อไท่เฟย แม้ว่าจะดูภักดีแต่ลับหลังนางกลับสร้างบารมีกับสาวใช้ในตำหนัก นั่นก็เท่ากับหาพวกให้ตนเอง” “แม้ว่าต่อหน้าจะเอาใจไท่เฟยแต่ลับหลังนางเองก็ถือมีดเช่นกันอีกทั้งนิสัยของไท่เฟยความชอบและพฤติกรรมล้วนแต่อยู่ในสายตานาง เช่นนี้การจัดการไท่เฟยได้คนหนึ่งก็เท่ากับนางไม่ต่างกับนายหญิงของที่นี่ และยิ่งไปกว่านั้นนางยังมีอำนาจมากกว่าพระชายาอย่างท่านพี่เสียอีก นี่เป็นเหตุผลที่ท่านพี่ไม่อาจอยู่ที่นี่ได้”“เป็นเช่นนี้เอง ดั

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 10 แสร้งถอยเพื่อรุก

    “พระ…พระชายากล่าวได้ถูกต้อง หม่อมฉัน จะจดจำไว้เพคะ”หลินเฟยเย่ยิ้มนิดหน่อยก่อนจะหันมามองที่หยงไท่เฟยที่นั่งนิ่งราวรูปปั้นแกะสลัก อีกทั้งสาวใช้คนสนิทที่ยอมลุกมาปรนนิบัติอย่างไม่บกพร่องอย่างอันถงด้วย“หม่อมฉันให้คนไปทำความสะอาดตัดหญ้ารอบ ๆ หอบรรพชนและให้ทำความสะอาดสระบัวทั้งหมดเพื่อปรับภูมิทัศน์โดยรอบ หวังว่าไท่เฟยจะไม่ทรงขัดข้อง”“ข้าจะไปขัดข้องอย่างไรได้เล่า เจ้าอยากทำสิ่งใดก็ทำไปเถอะ”“ยังมีธุระที่ต้องสะสางอีกมาก หม่อมฉันขอทูลลา”“นี่เจ้าคิดจะทำสิ่งใดอีก”หลินเฟยเย่หันมามองใบหน้าไท่เฟยที่เริ่มหวั่นวิตกอย่างปกปิดไม่มิด นางยิ้มออกมาเล็กน้อยและถามกลับไป“หน้าที่พระชายาท่านอ๋อง มีมากมายนะเพคะ ตำหนักนี้กว้างขวางแต่สาวใช้บ่าวไพร่ที่ดูแลโดย….(มองไปที่อันถง) คนของไท่เฟยดูเหมือนว่าจะทำหน้าที่ได้ไม่ดีนักบกพร่อง สะเพร่าอยู่หลายอย่างอีกทั้งบางคนยังเกียจคร้านไม่เอาการเอางานวัน ๆ คอยตามแต่พวกไร้ประโยชน์เพื่อทำสิ่งไร้ประโยชน์ คิดว่าน่าจะได้เวลาเก็บกวาดแล้ว ขอตัวเพคะ”พระชายาปรายตามามองซ่งฟางหรูที่พึ่งพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้นได้และนั่งที่เก้าอี้ แต่เมื่อนางหันมามองอีกครั้ง ซ่งฟางหรูจึงต้องพยายามลุกข

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 9 เจ้าสั่งให้ผู้ใดหุบปาก

    เรือนพักอันถง“นังหลินเฟยอัน แค้นนี้ข้าต้องเอาคืนเป็นสิบเท่า”“พี่อันถง ไท่เฟยให้คนนำยานี่มาให้ท่านเจ้าค่ะ”“หึ ขนาดข้าถูกสั่งโบย นางยังแกล้งเป็นลมเพื่อหนีเหตุการณ์ ช่างเป็นผู้ที่มีความกรุณาเสียจริง”“พี่อันถง แต่ว่าไท่เฟย”“ข้ารู้ เจ้า..รีบ ๆ ทาให้ข้า นัง…พระชายา….นาง พักอยู่ที่ใด…”“พระชายาสั่งให้คนจัดห้องในตำหนักกลาง…”“เจ้าว่า…อย่างไรนะ ตำหนักกลาง…นั่นเป็น ตำหนักท่านอ๋อง นางกล้าดีเช่นไร…”“นะ..นางเอ่อ พระนางสั่งให้คนไปจัดห้องและสั่งทำความสะอาดตำหนักเจ้าค่ะ”“รอข้าหายเสียก่อนเถอะ หลินเฟยลี่ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าอยู่ตำหนัก..นั้นกับ…ท่านอ๋องของข้า…แน่”คำสั่งขายสาวใช้สองคนออกจากตำหนักทำให้ชื่อเสียงความโหดร้ายของพระชายาหลินเป็นที่เลื่องลือในตำหนัก แม้แต่สาวใช้ที่เป็นลูกน้องของอันถงเองก็เริ่มเกรงกลัวและไม่กล้าที่จะแสดงกิริยาไม่เคารพต่อพระชายาเพราะแม้แต่อันถง สาวใช้ที่เหมือนกับคนสนิทที่โตมากับท่านอ๋องและอยู่กับไท่เฟยตั้งแต่เด็กก็ยังถูกพระชายาหลินสั่งโบยโดยที่ไท่เฟยโกรธจนเป็นลมแต่กลับช่วยนางไม่ได้ วันถัดมา“พระชายา ตื่นจากบรรทมแล้วหรือเพคะ”“เจ้าไปถามมาแล้วใช่หรือไม่”“เพคะ หอบรรพชนของสกุลเ

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 8 พระชายา Vs หยงไท่เฟย

    “หลินเฟยลี่ เจ้าอย่าได้บังอาจ...”“คนที่บังอาจน่าจะเป็นคนที่ไท่เฟยคอยปกป้องจนละเลยกฎระเบียบเหล่านี้มากกว่านะเพคะ ดูสิ แค่บีบน้ำตาจระเข้ไม่กี่หยดก็เรียกคะแนนสงสารจากพระองค์ได้ น่าสมเพชเสียจริง หากว่าจะอยู่กันด้วยกฎหมู่เช่นนี้ เห็นทีเรื่องนี้เมื่อท่านอ๋องเสด็จกลับมา หม่อมฉันคงต้องกราบทูล…”“เจ้า…เจ้ากล้าหรือ??”เฟยเย่รู้จุดอ่อนของนางแล้ว เช่นนี้นี่เอง นางเองก็คงเกรงกลัวอำนาจท่านอ๋องอยู่ไม่น้อย แม้ว่าเรือนหลัง สาวใช้และบ่าวไพร่จะเป็นคนของนางเกือบทั้งหมดแต่ทหารองครักษ์รอบ ๆ ตำหนักเป็นคนของท่านอ๋อง ที่ฟังเพียงคำสั่งของท่านอ๋องและพระชายาเท่านั้น นางเข้าใจแล้วว่าจะเดินเกมไปในรูปแบบใด“(ถงอิน นังดอกบัวขาว เจ้านี่น่าสนใจดีนะ)”“เจ้าคิดจะทำอะไร มีอะไรก็เข้าไปคุยกันข้างใน”“ได้เพคะ แต่ว่า…หลังจากที่ข้าสั่งลงโทษพวกนางก่อน”“พระชายาเพคะ พวกนางเป็นสาวใช้ในตำหนักขอทรงโปรดปรานี…”ถงอินเดินออกมาและคุกเข่าอีกครั้งเพื่อเรียกร้องความเห็นใจให้พระชายายอมปล่อยสาวใช้ โดยปกตินางก็มักจะใช้วิธีนี้ซื้อใจสาวใช้ระดับล่างให้เป็นพวกของนาง เฟยเย่หันมามองหน้านาง“อ้อ ข้าเกือบลืมเจ้าไปเสียสนิท เจ้าเองก็เช่นกัน เจ้ามีห

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 7 พระชายากลับตำหนัก

    จวนไท่เฟย“ว่าอย่างไรนะ นางจะกลับไปที่ตำหนักงั้นหรือ แล้วโรคที่นางเป็นเล่า”“เห็นว่าท่านหมอหลวงที่ส่งไปตรวจสอบแล้ว พระชายาหายเป็นปกติแล้วเพคะ”“เช่นนั้นก็ดี แล้วเรื่องที่ส่งจดหมายให้นางไป นางตอบกลับมาหรือยัง”“ยังเลยเพคะ”“หึ ช่างเถอะ ข้าไปรอเอาคำตอบที่ตำหนักอ๋องก็ได้ ท่านอ๋องจะกลับมาเมื่อใดนะ”“ยังไม่มีข่าวเลยเพคะ”“นั่นยิ่งดีใหญ่ ข้าจะได้หาข้ออ้างจัดการนังโง่นั่นได้ หัวอ่อนเช่นนั้นคงอีกไม่นานหรอก ทรัพย์สินเหล่านั้นนางไม่อยากให้ก็ต้องให้”“ไท่เฟยปราดเปรื่องยิ่งนักเพคะ”“อันถง เจ้านี่รู้ใจข้าเสียจริง”“มิได้เพคะ ขอเพียงได้อยู่รับใช้ไท่เฟยและท่านอ๋อง…อันถงก็พร้อมถวายชีวิตให้ทั้งสองพระองค์”“ดี งั้นพวกเราก็คงได้เวลากลับไปรอต้อนรับพระชายากันแล้วละ สั่งให้คนเตรียมตัวกลับตำหนักได้แล้ว”“เพคะไท่เฟย”สามวันถัดมา “ลี่….ลี่เอ๋อร์ เจ้าต้องระมัดระวังตัวให้มากนะเข้าใจหรือไม่”“ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องห่วงข้าจะระวังตัวเจ้าค่ะ ครบกำหนดร้อยวันพี่…น้องรองเมื่อใดข้าจะกลับมาทันทีเจ้าค่ะ”“ไปเถอะ” เฟยเย่สูดหายใจเข้าเต็มปอดพร้อมกับหันมายิ้มให้บิดาของนางก่อนจะเดินขึ้นรถม้าเพื่อกลับไปยังตำหนักท่านอ๋อ

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 6 แค้นที่ต้องสะสาง

    นางมองเท้าที่ห้อยอยู่ด้านบนศีรษะและค่อย ๆ ลุกขึ้นมา ร่างนางสั่นตั้งแต่หัวจรดเท้าและไม่อยากคิดว่าภาพตรงหน้านั้นจะเป็นเรื่องจริง “ต้องไม่ใช่ ไม่ใช่นางแน่ นางเอาตุ๊กตามาหลอกข้า นาง….”หลินเฟยเย่ก้าวขาถอยออกมาและค่อย ๆ ส่งโคมขึ้นไปมองร่างนั้นชัด ๆ ผ้าแพรสีขาว ใบหน้าซีดเผือดหลับตาไม่สนิทและ….“ไม่นะ!!! กรี๊ดดด!!!!!!………..พี่ใหญ่!!!”เสียงของนางดังพอจะทำให้คนในจวนแตกตื่นและรีบวิ่งตามหาเสียง พวกบ่าวไพร่และสาวใช้รีบวิ่งมาที่หน้าห้องคุณหนูใหญ่ในทันที หลินเฟยเย่ที่ยังช็อกอยู่กับเหตุการณ์ตรงหน้าพยายามไขว่คว้าบางอย่างที่นางมองไม่เห็น“ไม่นะ ไม่ใช่แบบนี้ ท่านจะตายได้อย่างไร ไม่นะพี่ใหญ่ ม่ายยยย!!!!!……”“คุณหนูรอง!! รีบพานางออกมาเร็วเข้า รีบไปแจ้งนายท่าน คุณหนูใหญ่!! ฮือออ…..”ผ่านไปนานเท่าใดไม่ทราบ กี่คนไม่รู้ที่เดินเข้ามาเพื่อตรวจอาการของหลินเฟยเย่ คหบดีหลินนั้นร่ำไห้จนเป็นลมไปแล้วเมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของบุตรสาวคนโตที่แขวนห้อยอยู่ในห้องทหารองครักษ์ในจวนพาร่างของหลินเฟยลี่ลงมา หลินเฟยเย่เองในตอนนี้แทบไม่ได้สติ“คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู ท่านหมอกวน นายท่านกับคุณหนูรอง…เป็นเช่นไรบ้าง”“เฮ้อ…”ท่านหมอกว

DMCA.com Protection Status