แชร์

Chapter 103. แทบขาดใจ   

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 02:07:51

เขากระซิบถาม เนื้อตัวเปียกราวกับตากฝน แต่เป็นเหงื่อร้อนจากการปรนเปรอทรมานนาง ไม่ใช่เพียงแค่นางหรอก ตัวเขาเองก็เช่นกัน แต่เพราะอยากได้ยินเสียงวิงวอน เขาจึงต้องสู้รบกับนาง แม้จะเป็นการสู้รบบนเตียงนอนเล็กๆนี่ ก็เถอะ

“จิ่นสือ...” นางแทบขาดใจอยู่แล้ว “ข้า....”

“ขอร้องข้าสิ” เขากระซิบ มือหนึ่งบีบเคล้นทรวงอกของนาง อีกมือก็ไล้วนจุดอ่อนไหวเล็กๆ ที่กึ่งกลางอิสตรี แต่นางก็ยังปากแข็งไม่ยอมพูดออกมา เบือนหน้าหลบ มีแต่ทรวงอกที่สะท้อนขึ้นลงอย่างรุนแรง เขาถอนนิ้วเรียวออกแล้วขยับสะโพกบดเบียดนางอย่างเย้ายวน แท่งศิลาร้อนปัดผ่านกลีบดอกไม้ที่ฉ่ำน้ำหวาน

ทำไมเขาไม่ฆ่านางเสีย! ทรมานนางเช่นนี้เท่ากับตายทั้งเป็นอยู่แล้ว!

“ข้า...”

“ว่าอย่างไร” เขาพูดเสียงพร่า แทบจะกลั้นใจไม่ไหวอยู่แล้ว

“ข้า... ต้องการท่าน ข้าขอร้องท่าน”

นางพูดเสียงเบาหวิว แต่กลับแจ่มชัด ทำให้อีกฝ่ายแทรกแก่นกายลงไปอย่างรวดเร็ว นางหวีดร้อง แต่เขาก้มลงมาประกบริมฝีปาก ดูดกลืนเสียงนางจนสิ้น นางต้องการเขา ต้องการชายผู้นี้ เรียวลิ้นนุ่มแลกกันอย่างดุเดือด มือใหญ่จับเอวนางเพื่อรองการสอดใส่รวดเร็ว ใบหน้าของหญิงสาวแดงก่ำด้วยความซ่านเสียว แผ่นหลังกว้างราวก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  104.  เจ้าจะอยากรู้ไปทำไมกัน

    แม้แพทย์ทหารจะมากันหลายสิบคน ทว่าแต่ละคนก็มีคนเจ็บคนป่วยต้องดูแลงานล้นมือ “ไม่ต้อง ข้าทนได้ ท่านหมอจัดการได้เลย” นายทหารคนเจ็บร้องบอก ทั้งที่ตัวเองก็เจ็บจนหน้าซีดแล้ว เด็กหนุ่มสูดลมหายใจลึก แล้วยื่นผ้าขาวให้เขากัด“อย่างไรก็ป้องกันไว้ก่อน ข้าจำเป็นต้องบิดกระดูกคืนรูปเดิมซึ่งจะเจ็บมาก เกรงว่าท่านจะเผลอกัดลิ้นตัวเอง” เขาบังคับกลายๆ ทำให้อีกฝ่ายยอมกัดผ้าที่เขาส่งให้ เจียเจี้ยนเลยเข้ามาช่วยจับขาให้“ให้ข้าจับอย่างไร”เด็กหนุ่มแปลกใจเล็กน้อย แต่ไม่เอ่ยปากถามไป เป็นหมอทหารอย่างไรกัน แค่นี้กลับถามออกมาได้ แต่เขาก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียหน้า อีกฝ่ายอาจจะแค่ตื่นตระหนกจนลืมวิธีการไปก็ได้ “ท่านจับเหนือแผล ใช้สองมือประคอง ข้าจะจับท่อนล่าง” เขาเห็นเจียเจี้ยนทำตามที่บอกได้แล้ว ก็หันไปบอกคนเจ็บ “ข้าจะนับถึงสาม เอาละนะ หนึ่ง สอง สาม!”รวดเร็วจนคนเจ็บไม่ทันตั้งตัว กระดูกก็ถูกดึงกลับเข้ามาตามเดิม เด็กหนุ่มถอนหายใจโล่งอก หยิบตลับยามาทาบริเวณที่บวมแดง ก่อนจะใช้ไม้ที่เตรียมไว้ประกบขาของเขาแล้วพันผ้าเอาไว้“พยายามอย่าลงน้ำหนักขาข้างที่เจ็บมากนัก หาไม้พยุงช่วยเดินไปก่อน บาดแผลท่านไม่สาหัส ไม่เกินสิบห้าวันจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  105.  เจ้าคิดเจ้าแค้น

    เอาเถอะ เดินไปดูหน่อยก็แล้วกัน อาฟางหรือมู่ฟางเหนียงเดินไปทิศทางที่ตนเองคาดเดาว่าเป็นกระโจมของคนผู้นั้น หลังจากคืนนั้นที่เขาเคี่ยวกรำนาง หวังให้นางหมดเรี่ยวแรง เขากำชับนางนักหนา ทั้งขู่ทั้งปลอบไม่ให้นางติดตามมาด้วย นางก็แสร้งทำเป็นเออออไปอย่างนั้น พอเขาออกไปจากห้องแล้ว นางก็ดีดตัวลุกขึ้นจัดเตรียมเสื้อผ้าที่จะปลอมตัวเป็น ‘อาฟาง’ หนุ่มน้อยหน้าหวานเดินไปถึงกระโจมของรองแม่ทัพ แต่นางยังไม่ทันเดินไปถึงก็เห็นร่างสูงเดินออกมาก่อน ทหารทำความเคารพเขาแล้ว เขาก็ก้าวยาวๆ เดินออกไป “จะไปไหนล่ะ” นางบ่นแล้วแอบเดินตามไป หลายวันมานี้ แม้จะเห็นเขาอยู่ไกลๆ แต่ก็รู้ว่าเขาทำงานหนักมากแค่ไหน เขาไม่ใช่ประเภทที่เอาแต่ชี้นิ้วสั่ง แต่กระโจนลงไปทำด้วยตนเอง และแม้นางจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ก็ได้ยินเสียงผู้คนกล่าวขานถึงเขาอย่างชื่นชม และนางก็เผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัวทุกครั้งไป ขายาวของเขาพาตัวเองเดินออกไปพ้นเขตหมู่บ้าน เหมือนจะเดินเข้าไปในชายป่า หญิงสาวยกมือยันต้นไม้แล้วหอบหายใจแรง จะเรียกเขาก็ไม่กล้า ตอนนี้เหงื่อนางออกท่วมตัวแล้ว นางร้องก่นด่าเขาในใจ ยกมือขึ้นโบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  106 .  ประคอง

    เขาพูดแล้วส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม ประคองมือนางให้เดินตามเขามา พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับเหลี่ยมเขา เขาพานางเดินไปที่ชะง่อนหินผาที่สามารถมองเห็นหมู่บ้านเบื้องล่างได้ชัดเจน เมื่ออยู่บนที่สูงก็ทำให้มองเห็นความเสียหายด้านล่างได้ชัดเจน นางไม่เคยมาซูโจว แต่จากที่เห็น เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยงามไม่น้อย“ตอนนี้ข้าเร่งแก้ไขเรื่องสะพานที่ชำรุดเสียหาย เพื่อจะได้ลำเลียงเสบียงอาหารเข้าเมืองได้โดยสะดวก” จ้าวจิ่นสือวางมือบนไหล่มนของนาง “ครั้งนี้ถือว่าเสียหายไม่มาก ทั้งทหารของข้าและกับที่ทางเมืองหลวงส่งมา ระดมแรงคนอย่างเร็วก็ยี่สิบวัน”“แต่กว่าจะฟื้นฟูได้เช่นเดิมคงต้องใช้เวลามากกว่านั้น” มู่ฟางเหนียงพยักหน้ารับ “แล้วท่านพ่อข้าจะมาถึงเมื่อใดกัน”“น่าจะพรุ่งนี้” เขายิ้มแล้วยกมือขึ้นบีบจมูกของนาง “อย่าคิดว่าพ่อเจ้ามาแล้วข้าจะไม่ทำอะไรเจ้านะ”“ท่านกล้าเรอะ!” นางเชิดหน้าท้าทาย เพียงพริบตาเขาก็ฉกจูบนางไปเร็วๆ ทำเอาหญิงสาวได้แต่ทำตาปริบๆ พอรู้สึกตัวก็กำหมัดทำท่าจะทุบเขา แต่พอนึกถึงแผงอกแข็งแกร่งนั้นแล้ว ทุบไปก็เจ็บมือเปล่า จึงทำได้เพียงกัดริมฝีปากอย่างโมโห “ไหนๆ เจ้าก็เปิดตัวเป็นฝ่ายมาหาข้าก่อนแบบนี้แล้ว คืนน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 107. นี่เป็นคำสั่งรึ

    นางแปลกใจที่เขาไม่ห้ามปราม นั่นนับว่าเป็นเรื่องดี นางจึงพยักหน้ารับ ไม่นานอาหารก็ถูกยกเข้ามา เขายังคงกินอาหารเรียบง่าย ดูไม่ยุ่งยาก มือนางเองก็ไม่เจ็บอะไรนัก เขาไม่จำเป็นต้องช่วยป้อนข้าวให้นางอีก เพียงแต่ยังคีบกับข้าววางในชามของนางให้เหมือนที่เคยเป็นมา “เจ้าว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร” นางเงยหน้ามองเขาเล็กน้อย กลืนอาหารในปากลงคอไปแล้วจึงเอ่ยขึ้น “ในส่วนที่ข้าทำอยู่ก็เห็นว่ายังไม่น่าหวาดวิตกอันใด คนเจ็บส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุ คนป่วยก็เจ็บป่วยด้วยโรคหวัด ยังไม่มีวี่แววจะเกิดโรคระบาด แต่กระนั้นเราก็ยังวางใจมิได้ เรื่องแบบนี้ป้องกันได้ก็ควรป้องกัน อากาศเย็นชื้น ผู้คนจะป่วยง่าย อาหารการกินควรสะอาด สุกใหม่ ให้ร่างกายอบอุ่น” “หัวหน้าแพทย์ทหารก็พูดคล้ายๆกับเจ้า” เขายกน้ำชาขึ้นดื่ม “ทหารจากวังหลวงรายงานมา อีกสองวันขบวนขององค์ชายไท่หยางจะเสด็จมาถึง ข้าจำเป็นต้องย้ายเข้าไปอยู่ในจวนผู้ว่า ต้องรับผิดชอบความปลอดภัยขององค์ชาย เจ้าก็ติดตามข้าไปด้วย” “นี่คำสั่งรึ” นางเอียงคอมองหน้าเขา “อยู่ที่นี่เจ้าเป็นอาฟาง เพราะฉะนั้นคำพูด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  108. สะพานถล่ม

    กว่าหมอมู่หยางซัวจะมาถึงก็บ่ายคล้อย ต้าซื่อมาส่งด้วยตนเองถึงจวนผู้ว่าอิ่น ผู้ว่าอิ่นพอรู้ว่าเป็นองครักษ์ประจำองค์ชายไท่หยางมาถึง ก็รีบออกมาต้อนรับ “ร่างกายขององค์ชายไท่หยางทรงอ่อนแอ เดินทางช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย ข้ามาตรวจดูความปลอดภัยล่วงหน้าก่อน” ต้าซื่อเอ่ยบอกกับผู้ว่าอิ่นง่ายๆ “ข้าน้อยเตรียมห้องหับรับรองแล้ว แต่ด้วยสภาพบ้านเมืองเช่นนี้ อาจทำการต้อนรับได้ไม่เต็มที่” “เรื่องนั้นอย่าได้ใส่ใจ ไม่ทราบว่ารองแม่ทัพจ้าวจิ่นสืออยู่ที่ใด” “รองแม่ทัพจ้าวคุมทหารซ่อมสะพานอยู่ขอรับ” ต้าซื่อเพียงพยักหน้ารับแล้วหันไปทางหมอมู่หยางซัว “ท่านอยากพักผ่อนก่อนหรือไม่” “ไม่เป็นไร ตอนนี้ข้าอยากเจอลูกสาวก่อน” ต้าซื่อพยักหน้ารับ หันไปถามผู้ว่าเรื่องจุดที่แพทย์ทหารทำการตั้งกระโจมรักษาคนเจ็บป่วย แล้วจึงพาท่านหมอเดินไปพร้อมกัน เขาไม่ขัดความต้องการของท่านหมอมู่ แต่ไหนแต่ไรก็รู้อยู่แล้วว่าคนผู้นี้รักและหวงลูกสาวคนเดียวมากเพียงใด ระหว่างทางได้พูดคุยกันเขา จึงเพิ่งทราบเรื่องที่มู่ฟางเหนียงกับท่านหมอมู่ถูกลอบทำร้ายจนกระทั่งพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  109. นางไม่เหมือนผู้ใด

    มู่ฟางเหนียงตรวจดูคนเจ็บคร่าวๆ แล้วหันไปสั่งผู้อื่นให้ทำแบบเดียวกันกับคนเจ็บที่กำลังถูกลำเลียงขึ้นมา นางมองเลยไปยังจ้าวจิ่นสือ เห็นเจียเจี้ยนเข้าไปช่วยดันคานไม้นั้นแล้วก็จริง แต่หัวใจของนางก็เต้นแรงด้วยความกังวล จนคนเจ็บคนสุดท้ายถูกดึงออกมาแล้ว จ้าวจิ่นสือให้สัญญาณแล้วกระโจนออกมา ปล่อยให้คานไม้นั้นถล่มลง หญิงสาวถอนหายใจโล่งอกที่เขาไม่เป็นอะไร แล้วก็หันมาสนใจคนเจ็บที่นางเผลอละสายตาไป แพทย์ทหารที่เพิ่งมาถึง กรูเข้ามาช่วยอาฟางหรือมู่ฟางเหนียง นางจึงขอให้รีบพาคนเจ็บไปที่กระโจมจะดีกว่ามู่หยางซัวยืนมองลูกสาวที่ทำงานอย่างคล่องแคล่ว ไม่ใช่เพราะนางสวมเสื้อผ้าปลอมตัวเป็นบุรุษ แต่เป็นการควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ให้ตื่นตระหนกตกใจ ซ้ำยังออกคำสั่งกับผู้อื่นไม่มีติดขัด มือเรียวเล็กนั้นก็เคลื่อนไหวรวดเร็ว แม้เขาจะรู้ดีว่าลูกสาวคนนี้เก่งกาจเพียงใด แต่ครั้งนี้ประจักษ์แก่ใจว่านางนั้นไม่ธรรมดาเอาเสียเลย มู่ฟางเหนียงเงยหน้าจากคนเจ็บ เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าของนางก็ปรากฏรอยยิ้มดีใจออกมา“ท่านพ่อ ท่านมาแล้ว” “ไม่ต้องสนใจพ่อ ดูคนเจ็บก่อน” มู่หยางซัวพยักพเยิดไปทางคนเจ็บ มีคนกระดูกหักหลายคน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   110. ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

    เดิมทีจ้าวจิ่นสือคิดว่าตนรู้สึกไปเอง แต่สองวันมานี้เขามั่นใจแล้วว่า หมอมู่หยางซัวพยายามกันไม่ให้เขาได้มีโอกาสเข้าใกล้ชิดมู่ฟางเหนียงเหมือนที่เคยเป็นมา แม้กระทั่งห้องนอนของนางก็อยู่ใกล้ห้องนอนของหมอมู่หยางซัว จากเดิมที่เคยแอบย่องไปหาได้ เขากลับเห็นท่านหมอเดินวนไปวนมาเหมือนรู้ว่าเขาจะไปหานาง จะไปไหนหรือทำอะไรคนผู้นั้นก็ไม่ให้ลูกสาวได้อยู่ห่างกายเลยสักนิด ทั้งที่นางก็อยู่ตรงหน้าเขา แต่กลับเหมือนห่างไกลหลายพันลี้ แม้มู่ฟางเหนียงจะได้รับการแนะนำตัวจากผู้เป็นบิดากับบรรดาแพทย์ทหารแล้วว่า ‘อาฟาง’ ที่ทุกคนรู้จักคือ ‘มู่ฟางเหนียง’ บุตรสาวเพียงคนเดียวของหมอเทวดาไร้เงา แต่กระนั้นนางก็ยังแต่งกายเป็นชายติดตามบิดารักษาคนเจ็บป่วยเช่นเดิม มีทั้งสายตาชื่นชมและริษยาจ้องมองนาง นางอายุยังน้อยแต่ความรู้ความสามารถไม่ได้ด้อยกว่าผู้ใด ใครต่อใครได้ยินมาว่า หมอมู่หยางซัวไม่เคยรับผู้ใดเป็นศิษย์ ไม่ว่าคนผู้นั้นจะกองเงินทองมากเป็นภูเขา หรือเป็นผู้มียศศักดิ์สูงส่ง ทว่าตอนนี้รู้แล้วว่า ความรู้ทั้งหมดของหมอมู่หยางซัวมีมู่ฟางเหนียงเป็นผู้สืบทอดอย่างแน่นอน ขบวนเสด็จขององค์ชายไท่หยางมาถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 111. เก้อเขิน

    คราวนี้มู่ฟางเหนียงขมวดคิ้ว พอหันไปก็เห็นคนตัวสูงเดินออกมาจากหลังต้นไม้ พร้อมยื่นกล่องขนมส่งให้เด็กหญิงคนนั้น เด็กหญิงรีบยื่นมือไปรับแล้ววิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว “ท่านไม่มีอะไรทำแล้วหรือไร ต้องใช้เด็กตัวเล็กๆ เรียกข้าออกมาแบบนี้” นางไม่รู้จะหัวเราะหรือโกรธเขาดี “ก็ข้าหาโอกาสพบเจ้าตามลำพังไม่ได้เสียที จึงต้องจ้างเด็กน้อยด้วยขนมหนึ่งกล่องเช่นนี้” จ้าวจิ่นสือทำหน้าหงุดหงิด แล้วดึงนางเข้ามาในอ้อมกอดด้วยความคะนึงหา “ท่านพูดอะไรกัน ก็เห็นหน้ากันทุกวัน วันละหลายครั้งด้วยซ้ำไป” นางซุกหน้ากับแผ่นอกของเขา ได้กลิ่นเหงื่อจางๆ ที่ทำให้นางแทบเข่าอ่อนทุกที “นี่เจ้าพูดล้อข้าเล่นหรือไร ก็พ่อของเจ้าทำหน้าบึ้งตึงใส่ข้าเช่นนั้น ข้าเข้าใกล้เจ้าไม่ได้เลย” เขากดปลายจมูกกับเรือนผมหอมกรุ่นของนาง “เอ๋? มีเรื่องแบบนั้นด้วยรึ” นางแหงนหน้าขึ้นมองเขา แววตาใสซื่อทำให้เขาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วง “เป็นข้าที่ควรถามเจ้า ข้าทำอะไรให้พ่อของเจ้าไม่พอใจหรือไม่” ก่อนหน้านี้เขาเคยป้อนข้าวให้นางต่อหน้า ก็ยังไม่เคยเห็นท่านหมอมู่จะมีอาการอะไรออกมาเช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15

บทล่าสุด

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 120. ได้ยินชัดแล้ว

    เหวินเฮ่าหลันคลี่พัดโบกไปมาเชื่องช้าคล้ายเกียจคร้าน แต่ในใจแฝงความกังวลอยู่หลายส่วนนัก สหายรักอย่างจ้าวจิ่นสือมาเมืองหลวงคราใดก็มักมาพักที่คฤหาสน์ตระกูลเหวิน จ้าวจิ่นสือเป็นคนไม่ถือยศศักดิ์ทำให้คบหากันสนิทใจ และเมื่อเขาเดินทางไปชายแดนก็มักจะแวะเวียนเยี่ยมเยือนจ้าวจิ่นสืออยู่เสมอ จะว่าไปบุรุษทั้งสองคนนี้เมื่ออยู่ด้วยกันแล้วย่อมเป็นจุดเด่น ผู้หนึ่งบุคลิกองอาจสมเป็นบุตรชายทหารผู้แกล้วกล้า ส่วนอีกคนดูเป็นหนุ่มเจ้าสำราญผู้กุมการค้าในเมืองหลวง หากเห็นเหวินเฮ่าหลันตามหอนางโลมก็มิใช่เรื่องแปลก แต่กับจ้าวจิ่นสือนี่สิ สะดุดตาผู้คนเสียยิ่งกว่า “มาเที่ยวหอนางโลมก็เป็นธรรมดาของบุรุษ แต่ตอนนี้เจ้าไม่เหมือนก่อน พี่สาวเจ้าก็เป็นพระชายาไปแล้ว ฐานะเจ้าก็เป็นเครือญาติกับ...” ยังพูดไม่ทันจบประโยค จ้าวจิ่นสือก็โบกมือห้ามไว้ก่อน เขายกจอกสุราขึ้นดื่มแต่สีหน้าไร้แววรื่นเริง ทั้งสองอยู่ในหอนางโลมก็จริงแต่ไม่ได้เรียกนางคณิกาเข้ามาปรนนิบัติ เพียงนั่งดื่มสุราและสนทนากันเรื่องทั่วไป แต่เหวินเฮ่าหลันเป็นคนมีความอดทนน้อยนัก แม้จะรักสนุกชอบเรื่องบันเทิงและดูเกียจคร้านไ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  119.  ไม่คิดว่า

    มู่หยางซัวเอ่ยตอบ ไม่คิดว่าตัวเองไม่ได้ติดต่อกับคนที่นี่ แต่คนที่นี่กลับรู้ความเคลื่อนไหวเป็นไปของเขา แสดงว่า... พวกเขารอให้สองพ่อลูกกลับมานานแล้วจริงๆ “ว่าแต่เจ้าสองคนพ่อลูกพักที่ใดกัน” ท่านยายถามแล้วยื่นมือไปลูบเนื้อตัวมู่ฟางเหนียงอย่างเอ็นดู พอพิศดูใกล้ๆ แล้วก็เห็นว่า แท้จริงแล้วมู่ฟางเหนียงไม่ได้เหมือนอี้เฟยนัก แต่มีเค้าโครงหน้าอ่อนหวานเหมือนกัน ดวงตาเป็นประกายสดใสดุจแสงตะวันกระทบผิวน้ำยามเย็น แต่มีท่าทางเฉลียวฉลาดสุขุมเหมือนผู้เป็นพ่อ “โรงเตี๊ยมไม่ไกลที่นี่นักเจ้าค่ะ” นางเอ่ยชื่อโรงเตี๊ยมออกไป “ไอ้โรงเตี๊ยมนั่นมันเล็กนิดเดียว อาหารก็ไม่อร่อย ไปพักได้อย่างไรกัน หึ!” ท่านตาทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจ “ไปเก็บข้าวของมาพักด้วยกันที่นี่” มู่ฟางเหนียงหันไปทางบิดา เห็นท่าทีอ้ำอึ้งก็เข้าใจ พ่อของนางเป็นเด็กกำพร้า ไม่คุ้นชินกับการอยู่แบบครอบครัวใหญ่ ที่ผ่านมาก็มีกันแค่สองคนพ่อลูก และไม่ได้เผื่อใจว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างดี ดูท่าท่านพ่อที่ได้ฉายาหมอเทวดาไร้เงาผู้แสนจะสุขุมและไม่หวาดกลัวต่อสิ่งใด จะพ่ายแพ้แก่พ่อตาแม่ยายเสียแล้ว “ท่านพ่อกับห

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   118. ห้ามถอยเด็ดขาด

    เคอหลิ่งหลินบังเอิญได้พบคุณชายเฉินและแอบหลงรักเขา ส่วนนางกับพ่อรู้จักคุณชายเฉินเพราะเป็นคนป่วยที่ตามหาท่านหมอเทวดาไร้เงามาถึงชายแดนที่นางกับพ่ออยู่เคอหลิ่งหลินนิสัยโลดโผน เปิดเผย และจริงใจ นางชอบคุณชายเฉินก็แสดงออกว่าตนชอบ ไม่ปิดบัง ทำให้บิดาของนางต้องส่ายหน้าทุกที เคอหลิ่งหลินอาศัยติดตามบิดาของนางไปพบคุณชายเฉินบ่อยๆ และนางช่วยสอนเป่าขลุ่ยเพราะเห็นคุณชายเฉินบรรเลงเพลงขลุ่ยแสนไพเราะ นางรู้ว่าพี่สาวที่แสนดีผู้นี้อุทิศตนเองเพื่อความรักที่มีต่อคุณชายเฉินมากเพียงใด เมื่อรู้ข่าวว่าเคอหลิ่งหลินได้เคียงข้างครองคู่กับคนที่นางรักและรักนาง มู่ฟางเหนียงก็รู้สึกยินดีและดีใจด้วยอย่างจริงใจส่วนนางนั้น พยายามไม่คิดเรื่องของตนเอง นางรู้ว่าสิ่งที่นางทำ ผิดจารีตประเพณีที่สตรีพึงกระทำ แต่นางก็ไม่นึกเสียใจ อย่างน้อยนางก็รู้ใจตัวเองว่ารักเขามาก และอาจมากเกินกว่าที่จะยอมแบ่งปันเขาให้หญิงอื่น มิอาจทำใจใช้สามีร่วมกับผู้ใด มู่หยางซัวพาลูกสาวเดินมาตามเส้นทางที่คุ้นเคยในอดีต จนมาหยุดที่หน้าร้านขายยาใหญ่โตร้านหนึ่ง สิบกว่าปีที่ผ่านมา จากร้านขายยาเล็กๆ กลายเป็นร้านใหญ่โตไปแล้ว ลูกสาวเห็นสีหน้าเคร่งเ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   117.  ข้าจะแบกเจ้าเอง

    “เป็นท่านพ่อที่ต้องการเตรียมตัวเตรียมใจมากกว่าลูกกระมัง” นางอดหยอกล้อบิดาไม่ได้ “เจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งเป็นผู้หญิงเถิด พ่อเกรงว่าตากับยายของเจ้าจะตำหนิพ่อเอาเสียเปล่าๆ” พูดแล้วก็ถอนหายใจหนักหน่วง “ตั้งแต่พาแม่ของเจ้าออกเดินทางมาจนเจ้าตัวโตขนาดนี้ ก็มิรู้ทั้งสองจะยังอยู่หรือไม่” “ลูกไม่เคยได้ยินท่านพ่อพูดถึงท่านตากับท่านยาย เลยไม่รู้ว่าพวกท่านเป็นคนอย่างไร” นางถามระหว่างรับประทานอาหารกลางวันที่โรงเตี๊ยมที่เข้าพักอยู่ “แม่ของเจ้าเป็นลูกสาวพ่อค้าร้านขายยา” “เอ๋? ท่านพ่อก็เป็นหมอ ท่านแม่เป็นลูกสาวร้านขายยา ไยถึงหนีตามกันเล่า” นางอดประหลาดใจไม่ได้ ตั้งแต่จำความได้ ก็รู้เพียงแค่ว่าท่านพ่อกับท่านแม่รักใคร่ชอบพอกัน แต่ท่านตากับท่านยายไม่ยอมรับในตัวลูกเขยที่ไร้ชาติตระกูล ซ้ำยังยากจนนัก ท่านพ่อจึงพาท่านแม่หนีออกมาและใช้ชีวิตเดินทางรักษาคนทั่วไป มีความสุขตามอัตภาพ “ตอนนั้นท่านตาของเจ้าหวังทำการค้ามากกว่าจะรักษาคน พ่อซึ่งตอนนั้นก็ทระนงตน ไม่ฟังผู้ใด ท่านตาอยากให้พ่อไปนั่งตรวจคนเจ็บป่วยที่ร้านขายยาของท่านตา ทีแรกพ่อก็ไปตาม

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   116.  ท่านรักข้าบ้างหรือเปล่า

    “ท่านพ่อของเจ้าบอกข้าแล้วว่าจะเดินทางไปเมืองหลวง”มู่ฟางเหนียงนิ่งงันไป พ่อเพิ่งคุยกับนางเมื่อครู่แต่บอกกับคนผู้นี้ไปก่อนแล้ว แสดงว่าท่านตัดสินใจแล้ว คงไม่มีเหตุผลให้นางยื้อเวลาที่จะอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว‘ท่านจะให้เราสองคนห่างกันอย่างนั้นหรือ?’เสียงของหมอมู่หยางซัวแทรกเข้ามาในหัวสมองของเขา จ้าวจิ่นสือกอดนางแน่นขึ้น กลัวว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้กอดนางไว้แนบอกเช่นนี้ ยศถาบรรดาศักดิ์หรือแม้แต่ตำแหน่งรองแม่ทัพที่มีอยู่ไม่ได้ทำให้เขามีความสุขได้มากเท่ากับที่มีนางอยู่เคียงข้าง“จากนี้เดินทางไปเมืองหลวงจะสะดวกกว่า ข้าจะเตรียมรถม้าพร้อมผู้ติดตามไปส่งเจ้ากับพ่อให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย”ทำไม... ทำไมเขาพูดเหมือนอยากให้นางไปไกลห่างเช่นนี้ด้วยเล่า“สิ่งของของเจ้าที่อยู่ที่บ้านข้า ข้าจะให้คนเก็บรักษาไว้อย่างดี หรือเจ้าต้องการสิ่งใดก็ขอให้บอก ข้าจะให้คนส่งตามไปให้เจ้า”ถ้อยคำแห่งความหวังดีกลับกลายเป็นโบยตีหัวใจนางให้เจ็บปวด นี่เขาคิดแทนนางถึงเพียงเชียวหรือ? กลัวว่านางจะไปไม่พ้นหน้าเขาหรืออย่างไรกันจะติดตามนางไปด้วยก็ไม่ได้ แค่นี้เขาก็หงุดหงิดเต็มประดาแล้ว“ท่านไม่ต้องกังวลเกินกว่าเหตุไป ครา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   115. ทรมาน

    “ฟางเหนียง พ่อเห็นว่างานที่นี่ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแล้ว พ่อคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องเดินทางกันเสียที”“อะไรนะเจ้าคะ” นางตื่นตกใจอย่างเก็บอาการไม่อยู่ เร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ?“เจ้าไม่อยากไปกับพ่อแล้วหรือ?”“มิได้ ลูกแค่... เรายังไม่ได้เตรียมตัว”“เตรียมตัว?” มู่หยางซัวทวนคำแล้วหัวเราะในลำคอ “พวกเราเคยเตรียมตัวกันด้วยรึ ถ้าไม่นับที่เราอยู่ชายแดนมาสองปี ที่ผ่านมาเราก็แทบไม่เคยเตรียมตัวก่อนออกเดินทางสักครั้ง”“แต่ว่า เรามีข้าวของอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าว”“เจ้าใส่ใจของพวกนั้นด้วยรึ พ่อไม่เคยนึกถึงเรื่องพวกนั้น” รอยยิ้มกึ่งล้อทำให้มู่ฟางเหนียงแอบค้อนเข้าให้“ข้ามีของที่ได้รับมาจากมิตรสหายเผ่าเอ้อหลุนชุน ถึงมันอาจไม่ได้มีราคาค่างวดมากมาย แต่มีค่ากับจิตใจของข้ามากนัก”“จากที่นี่เดินทางไปเมืองหลวงจะใกล้กว่า ถ้าเจ้าอยากย้อนกลับไปก็จะเสียเวลามาก”“แต่ว่า...” นางนึกถึงเครื่องประดับที่ทำจากหินหรือกระดูกสัตว์ที่นางได้มา คิดถึงเสื้อคลุมหนังหมาป่าที่จินปู๋กับนางลู่อู๋มอบให้ คิดถึงบันทึกการรักษาที่ท่านหมอผู้เฒ่ามอบให้ สิ่งเหล่านั้นมีภาพของชายผู้นั้นปรากฏขึ้นมาด้วย“ฟางเหนียง บางสิ่งที่เจ้าเผชิญอยู่มัน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  114. ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร

    “ท่านหมอมู่” จ้าวจิ่นสือพยายามคุมสติและปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ “ท่านอาจไม่ทราบ ข้ากับฟางเหนียง...” มู่หยางซัวยกมือขึ้นห้ามไม่ให้อีกฝ่ายพูดออกมา “ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร” มือของเขาเคยแต่จับมีดช่วยคน เพิ่งเคยรู้สึกอยากจับมีดฆ่าคนก็คราวนี้ “ข้าจริงใจกับนาง หวังให้ท่านเข้าใจ” “เจ้าหวังให้ผู้อื่นเข้าใจเจ้า แล้วเจ้าเข้าใจผู้อื่นรึ” “ข้าตั้งใจว่ากลับจากซูโจวจะให้ท่านพ่อสู่ขอฟางเหนียงกับท่าน” “แล้วอย่างไร?” ปกติมู่หยางซัวเป็นคนใจเย็น จะเห็นสีหน้าเคืองโกรธก็น้อยครั้งเหลือเกิน “เจ้าตบแต่งนางเข้าตระกูลเจ้าแล้ว ก็ใช่ว่าเจ้าจะรับหญิงอื่นเข้ามาไม่ได้อีก ตอนนี้เจ้าก็พูดได้ แต่อนาคตเจ้าจะไม่รับใครเข้ามาอีกรึ เจ้าไม่ใช่คนธรรมดา ฐานะชาติกำเนิดของเจ้า เจ้าย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ” “ความหมายของท่านคือไม่ยินดียกนางให้ข้า” แม้จะข่มน้ำเสียงตัวเองให้ราบเรียบ แต่กรุ่นไอโทสะแผ่กระจายออกมาจนอีกฝ่ายยังรู้สึกได้ “ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้น” มู่หยางซัวทำน้ำเสียงเยาะในลำคอ แค่นี้ก็โกรธจนไอโท

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 113. ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร

    “พ่อไม่พูดใช่ว่าไม่รู้” มู่หยางซัวจับไหล่ของลูกสาวให้ก้าวเข้าไปนั่งบนเตียง ส่วนตนนั้นก็เลื่อนเก้าอี้กลมมานั่งใกล้ๆ “เจ้ารู้ว่าพ่อพูดถึงเรื่องจ้าวจิ่นสืออยู่” “ท่านพ่อ” นางหลุบตาลง เป็นฝ่ายไม่กล้าสบตาเสียเอง แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าสักวันเรื่องนี้พ่อต้องเอ่ยปากกับนาง “เจ้ารักคนผู้นั้นมากเลยหรือ” น้ำเสียงที่ถามเป็นน้ำเสียงตัดพ้อมากกว่าต้องการคำตอบ “พ่อรู้ อย่างไรก็ต้องมีวันนี้... อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องแต่งงานมีครอบครัวของตัวเอง เจ้าจะทำตัวติดกับพ่อตลอดไปไม่ได้หรอก” “ท่านพ่ออย่าพูดเช่นนั้น ท่านพ่อตัวคนเดียว ลูกไม่ยอมทิ้งท่านพ่อเด็ดขาด หากลูกจะแต่งงานกับผู้ใด คนผู้นั้นก็ต้องยอมรับท่านพ่อได้ด้วยเช่นกัน” “เราผ่านอะไรกันมามากมายเหลือเกิน เจ้าอาจได้เห็นโลกกว้างมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน” มู่หยางซัวตบหลังมือของลูกสาวเบาๆ “เจ้าก็เห็นแล้ว ทั้งเศรษฐี ทั้งขุนนาง ทั้งยาจก ทั้งคนยากไร้ เจ้าย่อมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยิ่งสูงศักดิ์มากเพียงใด ก็ยิ่งแก่งแย่งแข่งขันกันมากเพียงนั้น แล้วเจ้าจะรับมือเรื่องราวเหล่านั้นได้ไหวหรือไม่ เมื่อกลายเป็นคนของเขาไปแล้ว เจ้า

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  112. หายดี

    มู่ฟางเหนียงเดินเคียงข้างจ้าวจิ่นสือไปถึงศาลาหกเหลี่ยมที่องค์ชายไท่หยางประทับอยู่ องค์ชายไท่หยางเชื้อเชิญให้ทั้งสองนั่ง รอจนบ่าวรับใช้รินน้ำชาเรียบร้อยแล้ว จึงโบกมือไล่ให้ผู้อื่นออกไปให้หมด แม้จะไม่เห็นเงาร่างแต่ก็รู้ว่าต้าซื่อองครักษ์ขององค์ชายเฝ้าอารักขาอยู่“ข้าต้องยอมรับความสามารถในการจัดการของรองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือ ต่อให้ข้ามิได้มา เจ้าก็คงจัดการที่นี่ได้อย่างราบรื่นด้วยดี”“เป็นเพราะพระบารมีขององค์ฮ่องเต้และองค์ชาย ทำให้การงานครั้งนี้ลุล่วงด้วยดีพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าเองสุขภาพไม่ค่อยดีนัก ครั้นจะให้องค์รัชทายาทเสด็จมาเองก็เกรงว่าจะมีคนลอบเอาชีวิต คราวที่แล้วยังหาตัวผู้บงการมิได้ ครั้งนี้ข้าเลยต้องมาเอง ข้าอาจจะทำอะไรได้ไม่เต็มที่นัก อย่างไรก็ต้องฝากเจ้าดูแลต่อด้วย”“ข้าน้อยรับพระบัญชา”มู่ฟางเหนียงนั่งฟังนิ่งๆ แล้วลอบมองคุณชายเฉิน ไม่สิ ตอนนี้คนผู้นี้คือองค์ชายไท่หยางที่มักพูดออกตัวว่าตนเองสุขภาพไม่แข็งแรง แต่เท่าที่นางเห็นตอนนี้ ช่างเป็นองค์ชายที่สุขภาพแข็งแรงดีเหลือเกิน“ความจริงที่เรียกเจ้าทั้งสองมาดื่มน้ำชาที่นี่ไม่ใช่เพราะเรื่องงาน ข้าอยากคุยเรื่องเคอหลิ่งหลิน”จ้าวจิ่นสือเงยหน้าสบด

DMCA.com Protection Status