Home / โรแมนติก / บุปผาต้องมนตร์ / Chapter  105.  เจ้าคิดเจ้าแค้น

Share

Chapter  105.  เจ้าคิดเจ้าแค้น

last update Last Updated: 2024-12-12 02:08:35

เอาเถอะ เดินไปดูหน่อยก็แล้วกัน อาฟางหรือมู่ฟางเหนียงเดินไปทิศทางที่ตนเองคาดเดาว่าเป็นกระโจมของคนผู้นั้น หลังจากคืนนั้นที่เขาเคี่ยวกรำนาง หวังให้นางหมดเรี่ยวแรง เขากำชับนางนักหนา ทั้งขู่ทั้งปลอบไม่ให้นางติดตามมาด้วย นางก็แสร้งทำเป็นเออออไปอย่างนั้น พอเขาออกไปจากห้องแล้ว นางก็ดีดตัวลุกขึ้นจัดเตรียมเสื้อผ้าที่จะปลอมตัวเป็น ‘อาฟาง’

หนุ่มน้อยหน้าหวานเดินไปถึงกระโจมของรองแม่ทัพ แต่นางยังไม่ทันเดินไปถึงก็เห็นร่างสูงเดินออกมาก่อน ทหารทำความเคารพเขาแล้ว เขาก็ก้าวยาวๆ เดินออกไป

“จะไปไหนล่ะ” นางบ่นแล้วแอบเดินตามไป หลายวันมานี้ แม้จะเห็นเขาอยู่ไกลๆ แต่ก็รู้ว่าเขาทำงานหนักมากแค่ไหน เขาไม่ใช่ประเภทที่เอาแต่ชี้นิ้วสั่ง แต่กระโจนลงไปทำด้วยตนเอง และแม้นางจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ก็ได้ยินเสียงผู้คนกล่าวขานถึงเขาอย่างชื่นชม และนางก็เผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัวทุกครั้งไป

ขายาวของเขาพาตัวเองเดินออกไปพ้นเขตหมู่บ้าน เหมือนจะเดินเข้าไปในชายป่า หญิงสาวยกมือยันต้นไม้แล้วหอบหายใจแรง จะเรียกเขาก็ไม่กล้า ตอนนี้เหงื่อนางออกท่วมตัวแล้ว นางร้องก่นด่าเขาในใจ ยกมือขึ้นโบ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  106 .  ประคอง

    เขาพูดแล้วส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม ประคองมือนางให้เดินตามเขามา พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับเหลี่ยมเขา เขาพานางเดินไปที่ชะง่อนหินผาที่สามารถมองเห็นหมู่บ้านเบื้องล่างได้ชัดเจน เมื่ออยู่บนที่สูงก็ทำให้มองเห็นความเสียหายด้านล่างได้ชัดเจน นางไม่เคยมาซูโจว แต่จากที่เห็น เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยงามไม่น้อย“ตอนนี้ข้าเร่งแก้ไขเรื่องสะพานที่ชำรุดเสียหาย เพื่อจะได้ลำเลียงเสบียงอาหารเข้าเมืองได้โดยสะดวก” จ้าวจิ่นสือวางมือบนไหล่มนของนาง “ครั้งนี้ถือว่าเสียหายไม่มาก ทั้งทหารของข้าและกับที่ทางเมืองหลวงส่งมา ระดมแรงคนอย่างเร็วก็ยี่สิบวัน”“แต่กว่าจะฟื้นฟูได้เช่นเดิมคงต้องใช้เวลามากกว่านั้น” มู่ฟางเหนียงพยักหน้ารับ “แล้วท่านพ่อข้าจะมาถึงเมื่อใดกัน”“น่าจะพรุ่งนี้” เขายิ้มแล้วยกมือขึ้นบีบจมูกของนาง “อย่าคิดว่าพ่อเจ้ามาแล้วข้าจะไม่ทำอะไรเจ้านะ”“ท่านกล้าเรอะ!” นางเชิดหน้าท้าทาย เพียงพริบตาเขาก็ฉกจูบนางไปเร็วๆ ทำเอาหญิงสาวได้แต่ทำตาปริบๆ พอรู้สึกตัวก็กำหมัดทำท่าจะทุบเขา แต่พอนึกถึงแผงอกแข็งแกร่งนั้นแล้ว ทุบไปก็เจ็บมือเปล่า จึงทำได้เพียงกัดริมฝีปากอย่างโมโห “ไหนๆ เจ้าก็เปิดตัวเป็นฝ่ายมาหาข้าก่อนแบบนี้แล้ว คืนน

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 107. นี่เป็นคำสั่งรึ

    นางแปลกใจที่เขาไม่ห้ามปราม นั่นนับว่าเป็นเรื่องดี นางจึงพยักหน้ารับ ไม่นานอาหารก็ถูกยกเข้ามา เขายังคงกินอาหารเรียบง่าย ดูไม่ยุ่งยาก มือนางเองก็ไม่เจ็บอะไรนัก เขาไม่จำเป็นต้องช่วยป้อนข้าวให้นางอีก เพียงแต่ยังคีบกับข้าววางในชามของนางให้เหมือนที่เคยเป็นมา “เจ้าว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร” นางเงยหน้ามองเขาเล็กน้อย กลืนอาหารในปากลงคอไปแล้วจึงเอ่ยขึ้น “ในส่วนที่ข้าทำอยู่ก็เห็นว่ายังไม่น่าหวาดวิตกอันใด คนเจ็บส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุ คนป่วยก็เจ็บป่วยด้วยโรคหวัด ยังไม่มีวี่แววจะเกิดโรคระบาด แต่กระนั้นเราก็ยังวางใจมิได้ เรื่องแบบนี้ป้องกันได้ก็ควรป้องกัน อากาศเย็นชื้น ผู้คนจะป่วยง่าย อาหารการกินควรสะอาด สุกใหม่ ให้ร่างกายอบอุ่น” “หัวหน้าแพทย์ทหารก็พูดคล้ายๆกับเจ้า” เขายกน้ำชาขึ้นดื่ม “ทหารจากวังหลวงรายงานมา อีกสองวันขบวนขององค์ชายไท่หยางจะเสด็จมาถึง ข้าจำเป็นต้องย้ายเข้าไปอยู่ในจวนผู้ว่า ต้องรับผิดชอบความปลอดภัยขององค์ชาย เจ้าก็ติดตามข้าไปด้วย” “นี่คำสั่งรึ” นางเอียงคอมองหน้าเขา “อยู่ที่นี่เจ้าเป็นอาฟาง เพราะฉะนั้นคำพูด

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  108. สะพานถล่ม

    กว่าหมอมู่หยางซัวจะมาถึงก็บ่ายคล้อย ต้าซื่อมาส่งด้วยตนเองถึงจวนผู้ว่าอิ่น ผู้ว่าอิ่นพอรู้ว่าเป็นองครักษ์ประจำองค์ชายไท่หยางมาถึง ก็รีบออกมาต้อนรับ “ร่างกายขององค์ชายไท่หยางทรงอ่อนแอ เดินทางช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย ข้ามาตรวจดูความปลอดภัยล่วงหน้าก่อน” ต้าซื่อเอ่ยบอกกับผู้ว่าอิ่นง่ายๆ “ข้าน้อยเตรียมห้องหับรับรองแล้ว แต่ด้วยสภาพบ้านเมืองเช่นนี้ อาจทำการต้อนรับได้ไม่เต็มที่” “เรื่องนั้นอย่าได้ใส่ใจ ไม่ทราบว่ารองแม่ทัพจ้าวจิ่นสืออยู่ที่ใด” “รองแม่ทัพจ้าวคุมทหารซ่อมสะพานอยู่ขอรับ” ต้าซื่อเพียงพยักหน้ารับแล้วหันไปทางหมอมู่หยางซัว “ท่านอยากพักผ่อนก่อนหรือไม่” “ไม่เป็นไร ตอนนี้ข้าอยากเจอลูกสาวก่อน” ต้าซื่อพยักหน้ารับ หันไปถามผู้ว่าเรื่องจุดที่แพทย์ทหารทำการตั้งกระโจมรักษาคนเจ็บป่วย แล้วจึงพาท่านหมอเดินไปพร้อมกัน เขาไม่ขัดความต้องการของท่านหมอมู่ แต่ไหนแต่ไรก็รู้อยู่แล้วว่าคนผู้นี้รักและหวงลูกสาวคนเดียวมากเพียงใด ระหว่างทางได้พูดคุยกันเขา จึงเพิ่งทราบเรื่องที่มู่ฟางเหนียงกับท่านหมอมู่ถูกลอบทำร้ายจนกระทั่งพ

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  109. นางไม่เหมือนผู้ใด

    มู่ฟางเหนียงตรวจดูคนเจ็บคร่าวๆ แล้วหันไปสั่งผู้อื่นให้ทำแบบเดียวกันกับคนเจ็บที่กำลังถูกลำเลียงขึ้นมา นางมองเลยไปยังจ้าวจิ่นสือ เห็นเจียเจี้ยนเข้าไปช่วยดันคานไม้นั้นแล้วก็จริง แต่หัวใจของนางก็เต้นแรงด้วยความกังวล จนคนเจ็บคนสุดท้ายถูกดึงออกมาแล้ว จ้าวจิ่นสือให้สัญญาณแล้วกระโจนออกมา ปล่อยให้คานไม้นั้นถล่มลง หญิงสาวถอนหายใจโล่งอกที่เขาไม่เป็นอะไร แล้วก็หันมาสนใจคนเจ็บที่นางเผลอละสายตาไป แพทย์ทหารที่เพิ่งมาถึง กรูเข้ามาช่วยอาฟางหรือมู่ฟางเหนียง นางจึงขอให้รีบพาคนเจ็บไปที่กระโจมจะดีกว่ามู่หยางซัวยืนมองลูกสาวที่ทำงานอย่างคล่องแคล่ว ไม่ใช่เพราะนางสวมเสื้อผ้าปลอมตัวเป็นบุรุษ แต่เป็นการควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ให้ตื่นตระหนกตกใจ ซ้ำยังออกคำสั่งกับผู้อื่นไม่มีติดขัด มือเรียวเล็กนั้นก็เคลื่อนไหวรวดเร็ว แม้เขาจะรู้ดีว่าลูกสาวคนนี้เก่งกาจเพียงใด แต่ครั้งนี้ประจักษ์แก่ใจว่านางนั้นไม่ธรรมดาเอาเสียเลย มู่ฟางเหนียงเงยหน้าจากคนเจ็บ เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าของนางก็ปรากฏรอยยิ้มดีใจออกมา“ท่านพ่อ ท่านมาแล้ว” “ไม่ต้องสนใจพ่อ ดูคนเจ็บก่อน” มู่หยางซัวพยักพเยิดไปทางคนเจ็บ มีคนกระดูกหักหลายคน

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   110. ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

    เดิมทีจ้าวจิ่นสือคิดว่าตนรู้สึกไปเอง แต่สองวันมานี้เขามั่นใจแล้วว่า หมอมู่หยางซัวพยายามกันไม่ให้เขาได้มีโอกาสเข้าใกล้ชิดมู่ฟางเหนียงเหมือนที่เคยเป็นมา แม้กระทั่งห้องนอนของนางก็อยู่ใกล้ห้องนอนของหมอมู่หยางซัว จากเดิมที่เคยแอบย่องไปหาได้ เขากลับเห็นท่านหมอเดินวนไปวนมาเหมือนรู้ว่าเขาจะไปหานาง จะไปไหนหรือทำอะไรคนผู้นั้นก็ไม่ให้ลูกสาวได้อยู่ห่างกายเลยสักนิด ทั้งที่นางก็อยู่ตรงหน้าเขา แต่กลับเหมือนห่างไกลหลายพันลี้ แม้มู่ฟางเหนียงจะได้รับการแนะนำตัวจากผู้เป็นบิดากับบรรดาแพทย์ทหารแล้วว่า ‘อาฟาง’ ที่ทุกคนรู้จักคือ ‘มู่ฟางเหนียง’ บุตรสาวเพียงคนเดียวของหมอเทวดาไร้เงา แต่กระนั้นนางก็ยังแต่งกายเป็นชายติดตามบิดารักษาคนเจ็บป่วยเช่นเดิม มีทั้งสายตาชื่นชมและริษยาจ้องมองนาง นางอายุยังน้อยแต่ความรู้ความสามารถไม่ได้ด้อยกว่าผู้ใด ใครต่อใครได้ยินมาว่า หมอมู่หยางซัวไม่เคยรับผู้ใดเป็นศิษย์ ไม่ว่าคนผู้นั้นจะกองเงินทองมากเป็นภูเขา หรือเป็นผู้มียศศักดิ์สูงส่ง ทว่าตอนนี้รู้แล้วว่า ความรู้ทั้งหมดของหมอมู่หยางซัวมีมู่ฟางเหนียงเป็นผู้สืบทอดอย่างแน่นอน ขบวนเสด็จขององค์ชายไท่หยางมาถ

    Last Updated : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 111. เก้อเขิน

    คราวนี้มู่ฟางเหนียงขมวดคิ้ว พอหันไปก็เห็นคนตัวสูงเดินออกมาจากหลังต้นไม้ พร้อมยื่นกล่องขนมส่งให้เด็กหญิงคนนั้น เด็กหญิงรีบยื่นมือไปรับแล้ววิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว “ท่านไม่มีอะไรทำแล้วหรือไร ต้องใช้เด็กตัวเล็กๆ เรียกข้าออกมาแบบนี้” นางไม่รู้จะหัวเราะหรือโกรธเขาดี “ก็ข้าหาโอกาสพบเจ้าตามลำพังไม่ได้เสียที จึงต้องจ้างเด็กน้อยด้วยขนมหนึ่งกล่องเช่นนี้” จ้าวจิ่นสือทำหน้าหงุดหงิด แล้วดึงนางเข้ามาในอ้อมกอดด้วยความคะนึงหา “ท่านพูดอะไรกัน ก็เห็นหน้ากันทุกวัน วันละหลายครั้งด้วยซ้ำไป” นางซุกหน้ากับแผ่นอกของเขา ได้กลิ่นเหงื่อจางๆ ที่ทำให้นางแทบเข่าอ่อนทุกที “นี่เจ้าพูดล้อข้าเล่นหรือไร ก็พ่อของเจ้าทำหน้าบึ้งตึงใส่ข้าเช่นนั้น ข้าเข้าใกล้เจ้าไม่ได้เลย” เขากดปลายจมูกกับเรือนผมหอมกรุ่นของนาง “เอ๋? มีเรื่องแบบนั้นด้วยรึ” นางแหงนหน้าขึ้นมองเขา แววตาใสซื่อทำให้เขาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วง “เป็นข้าที่ควรถามเจ้า ข้าทำอะไรให้พ่อของเจ้าไม่พอใจหรือไม่” ก่อนหน้านี้เขาเคยป้อนข้าวให้นางต่อหน้า ก็ยังไม่เคยเห็นท่านหมอมู่จะมีอาการอะไรออกมาเช

    Last Updated : 2024-12-15
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  112. หายดี

    มู่ฟางเหนียงเดินเคียงข้างจ้าวจิ่นสือไปถึงศาลาหกเหลี่ยมที่องค์ชายไท่หยางประทับอยู่ องค์ชายไท่หยางเชื้อเชิญให้ทั้งสองนั่ง รอจนบ่าวรับใช้รินน้ำชาเรียบร้อยแล้ว จึงโบกมือไล่ให้ผู้อื่นออกไปให้หมด แม้จะไม่เห็นเงาร่างแต่ก็รู้ว่าต้าซื่อองครักษ์ขององค์ชายเฝ้าอารักขาอยู่“ข้าต้องยอมรับความสามารถในการจัดการของรองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือ ต่อให้ข้ามิได้มา เจ้าก็คงจัดการที่นี่ได้อย่างราบรื่นด้วยดี”“เป็นเพราะพระบารมีขององค์ฮ่องเต้และองค์ชาย ทำให้การงานครั้งนี้ลุล่วงด้วยดีพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าเองสุขภาพไม่ค่อยดีนัก ครั้นจะให้องค์รัชทายาทเสด็จมาเองก็เกรงว่าจะมีคนลอบเอาชีวิต คราวที่แล้วยังหาตัวผู้บงการมิได้ ครั้งนี้ข้าเลยต้องมาเอง ข้าอาจจะทำอะไรได้ไม่เต็มที่นัก อย่างไรก็ต้องฝากเจ้าดูแลต่อด้วย”“ข้าน้อยรับพระบัญชา”มู่ฟางเหนียงนั่งฟังนิ่งๆ แล้วลอบมองคุณชายเฉิน ไม่สิ ตอนนี้คนผู้นี้คือองค์ชายไท่หยางที่มักพูดออกตัวว่าตนเองสุขภาพไม่แข็งแรง แต่เท่าที่นางเห็นตอนนี้ ช่างเป็นองค์ชายที่สุขภาพแข็งแรงดีเหลือเกิน“ความจริงที่เรียกเจ้าทั้งสองมาดื่มน้ำชาที่นี่ไม่ใช่เพราะเรื่องงาน ข้าอยากคุยเรื่องเคอหลิ่งหลิน”จ้าวจิ่นสือเงยหน้าสบด

    Last Updated : 2024-12-15
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 113. ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร

    “พ่อไม่พูดใช่ว่าไม่รู้” มู่หยางซัวจับไหล่ของลูกสาวให้ก้าวเข้าไปนั่งบนเตียง ส่วนตนนั้นก็เลื่อนเก้าอี้กลมมานั่งใกล้ๆ “เจ้ารู้ว่าพ่อพูดถึงเรื่องจ้าวจิ่นสืออยู่” “ท่านพ่อ” นางหลุบตาลง เป็นฝ่ายไม่กล้าสบตาเสียเอง แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าสักวันเรื่องนี้พ่อต้องเอ่ยปากกับนาง “เจ้ารักคนผู้นั้นมากเลยหรือ” น้ำเสียงที่ถามเป็นน้ำเสียงตัดพ้อมากกว่าต้องการคำตอบ “พ่อรู้ อย่างไรก็ต้องมีวันนี้... อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องแต่งงานมีครอบครัวของตัวเอง เจ้าจะทำตัวติดกับพ่อตลอดไปไม่ได้หรอก” “ท่านพ่ออย่าพูดเช่นนั้น ท่านพ่อตัวคนเดียว ลูกไม่ยอมทิ้งท่านพ่อเด็ดขาด หากลูกจะแต่งงานกับผู้ใด คนผู้นั้นก็ต้องยอมรับท่านพ่อได้ด้วยเช่นกัน” “เราผ่านอะไรกันมามากมายเหลือเกิน เจ้าอาจได้เห็นโลกกว้างมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน” มู่หยางซัวตบหลังมือของลูกสาวเบาๆ “เจ้าก็เห็นแล้ว ทั้งเศรษฐี ทั้งขุนนาง ทั้งยาจก ทั้งคนยากไร้ เจ้าย่อมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยิ่งสูงศักดิ์มากเพียงใด ก็ยิ่งแก่งแย่งแข่งขันกันมากเพียงนั้น แล้วเจ้าจะรับมือเรื่องราวเหล่านั้นได้ไหวหรือไม่ เมื่อกลายเป็นคนของเขาไปแล้ว เจ้า

    Last Updated : 2024-12-15

Latest chapter

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  136.  จบ

    องค์ชายไท่หยางมักมีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าซีดเซียวเสมอ ซึ่งมองเพียงผิวเผินจะเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังใบหน้าและร่างกายอ่อนแอนี้กุมความลับที่ใช้ต่อรองกับเขาได้ดียิ่งนัก เขาเองก็ได้สัญญาการซื้อขายกับทางการหลายรายการเพราะการแนะนำของคุณชายเฉิน“แล้วนี่คุณชายเฉิน อ้อ! ไม่สิ! องค์ชายไท่หยางนึกสนุกอย่างไรถึงอยากได้หน้ากากอสูรที่ดูน่ากลัวเช่นนี้”“ก็คงไม่ต่างจากเจ้าที่เบื้องหน้าเป็นคุณชายเจ้าสำราญเช่นกัน”“พระองค์กล่าวเช่นนี้ เห็นทีว่ากระหม่อมคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงแล้วกระมัง” เหวินเฮ่าหลันกลับรู้สึกพอใจกับท่าทางเปิดเผยขององค์ชายไท่หยาง“ร่างกายของข้าไม่ค่อยแข็งแรงนัก จึงมีเรื่องที่ต้องทำให้เรียบร้อยก่อน... แต่การเคลื่อนไหวในฐานะขององค์ชายไท่หยางทำได้ลำบากนัก จึงอยากจะรบกวนเจ้าหาช่างดีๆ ทำหน้ากากอสูรนี่ให้ข้า”“พระองค์จะเอาไว้ใช้เอง?”เหวินเฮ่าหลันได้คำตอบเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นเขาหาช่างที่ไว้ใจได้สั่งทำหน้ากากอสูร แต่ไม่รู้สิ่งใดดลใจเขาให้ช่างทำสองอัน เมื่อส่งมอบหน้ากากอสูรนั่นให้องค์ชายไท่หยาง ไม่นานนักก็ได้ยินข่าวว่ามีบุรุษลึกลับภายใต้หน้ากากอสูรออกอาละวาดเล่น

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  135.  บุปผาพยศรัก

    ปีศาจน้อย! จ้าวจิ่นสือขบกรามแน่น นางเรียนรู้ที่จะหยอกล้อเขาเช่นเดียวกับที่เขาทำกับนาง เขาไม่อาจทานทนไฟปรารถนาที่เผาไหม้อยู่นี้ได้อีก ขยับร่างกายรวดเร็วรุนแรงและลึกล้ำ เป็นนางที่พาเขาให้เตลิดโบยบินไปในค่ำคืนวิวาห์ที่อุ่นร้อน ราวกับวิหคคู่ที่โบยบินในเวิ้งฟ้า หยอกล้อราวกับทั้งโลกมีเพียงแค่เขากับนางเท่านั้น ร่างสองร่างสอดประสานแทบเป็นหนึ่งเดียว ชายหนุ่มส่งเสียงคำราม ในขณะที่หญิงสาวหวีดร้องออกมาอย่างสุขสม แล้วเขาจึงผ่อนร่างนางลงนอนกอดอย่างรักใคร่นางปิดเปลือกตาหอบใจแรงแล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจตัวเองจนเกือบจะเป็นปกติจ้าวจิ่นสือมองหญิงคนในรักในวงแขน ยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมของนางให้พ้นใบหน้า หนึ่งชีวิตได้พานพบผู้คนมากมาย แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นเจ้าของเสียงในหัวใจ เขาก้มหน้าสูดกลิ่นหอมของนางให้กลิ่นกายของนางไหลเวียนในตัวเขา นางคือหญิงสาวของเขาแต่เพียงผู้เดียว“ฟางเหนียง ข้ารักเจ้า”ผ่านเรื่องราวมากมายฟันฝ่ามาด้วยกันจนมีวันนี้ แต่แท้จริงแล้วทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น นางคิดถึงกลองป๋องแป๋งอันนั้น นางจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ลูกๆ ได้ดู ของขวัญล้ำค่าที่เชื่อมโยงหัวใจของคนสองคนให้ได้มาใกล้ชิดกั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  134.  บทส่งท้าย2. 

    “ท่าน...” นางถูกดวงตาร้อนแรงของเขาจ้องมองจนลืมคำพูดตัวเองไปเสียสิ้น “อืม”เขาจ้องมองนาง ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายที่ได้มองใบหน้านี้เลยสักคราเดียว คิดไม่ออกเลยว่าหากไม่มีนางเคียงข้างแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เห็นทีเรื่องนี้คงต้องเก็บเป็นความลับไว้ให้ลึกที่สุด ไม่เช่นนั้นนางจะเอาแต่ใจตัวเองเกินไป รู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องจำนนยอมแพ้พ่ายต่อสายตาคู่นี้ของนาง “ข้า... ข้าต้องปรนนิบัติท่าน... พี่” คืนนี้นางเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องแล้ว ควรทำหน้าที่ของตนเองถึงจะถูก แต่มือเล็กก็สั่นเทา ยื่นไปหมายจะช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่อาการเงอะงะของนางเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา ทำให้นางฉุนกึกขึ้นมา แล้วเงยหน้าขึงตาใส่อย่างดุดัน “ใช่สิ! ข้าทำไม่เก่งนี้ เรื่องแบบนี้ข้าคุ้นเคยเสียเมื่อไหร่ล่ะ” นางหงุดหงิดโมโห อารมณ์นางช่วงนี้ขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนชอบกล “ไม่เป็นไร น้องหญิงอยากทำอะไรก็ตามใจเจ้าเถิด” เขากลั้นหัวเราะแต่กลายเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทน ปล่อยให้มือเล็กช่วยถอดเสื้อตัวนอก พอนางลุกขึ้นจะเอาเสื้อของเขาไปแขวน ตัวเองก็เสียหลักเพราะนั่งตัวเกร็งอยู่ตั้งนา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   133.  บทส่งท้าย 1.

    หญิงสาวนั่งก้มหน้า มองปลายเท้าที่สวมรองเท้าสีแดงสดสวยปักรูปหงส์อย่างงดงามประณีต เสียงครื้นเครงด้านนอกไม่ได้ช่วยให้นางลดอาการตื่นเต้นลงได้เลย ยามมองผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดงสดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องหอราวกับถูกย้อมด้วยสีแดง นางจึงหลุบตาลงก้มมองปลายเท้าของตนแทน เพียงหนึ่งเดือนหลังเสร็จภารกิจลับของจ้าวจิ่นสือ ด้วยความช่วยเหลือขององค์ชายไท่หยาง ทำให้ทั้งสองได้รับราชโองการพระราชทานสมรส แม้มู่ฟางเหนียงจะเป็นเพียงหญิงสาวสามัญชน แต่ด้วยความรักใคร่ที่รองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือมีให้นางนั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว นางทั้งเขินทั้งอาย แต่ก็ดีใจที่ฮูหยินอี้ซิ่วรักและเอ็นดูนางราวกับเป็นลูกสาวแท้ๆ ท่านพ่อของนางก็พลอยวางใจว่านางจะอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าวได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใจอันใด “เจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว ต่อไปนี้ทำอะไรก็เชื่อฟังพ่อแม่สามีของเจ้าให้ดี” “ท่านพ่อ” นางกลั้นน้ำตา คราวนี้ได้แยกกันอยู่แล้วจริงๆ ท่านพ่อของนางมีใจรักใคร่น้าเสี่ยวหลิว เสร็จงานแต่งงานของนางแล้วก็จะกลับไปเมืองหลวง ช่วยน้าเสี่ยวหลิวดูแลโรงเตี๊ยมหมื่นบุปผาและรักษาคนเจ็บป่วยเช่นเคย ส่วนนางเองก็ได้รั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 132. ไม่อยากเชื่อ

    “ท่าน... ระ.. รักข้า..” นางแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเขาหัวเราะเบาๆ อาศัยจังหวะที่นางไม่เป็นตัวของตัวเองลอกคราบเสื้อผ้าออกเหลือเพียงเอี๊ยมปิดบังทรวงอกที่สะท้อนหอบหายใจแรงกับกางเกงชั้นในตัวน้อย มือกร้านลูบไล้เรียวขาของนาง ไอร้อนจากกายของเขาทำให้นางแทบไม่รู้สึกว่าตัวเองเกือบจะเปลือยเปล่าอยู่แล้ว“ข้า... เข้าใจว่า... ท่าน ระ รัก พี่หลิ่งหลิน” นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพูดออกไปเขาผงกศีรษะรับแล้วกลับยิ้มให้นาง “ก่อนนั้นข้าคิดเช่นนั้น แต่เมื่อเจอเจ้า ข้าก็รู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร”หัวใจของนางแทบหยุดเต้นไป แต่กระนั้นก็ยังหวาดหวั่นอยู่ “แต่ท่านเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ท่านจะรับข้าไว้ในฐานะใดเล่า”“ข้าย่อมให้เจ้าเป็นภรรยา” มือใหญ่เลื่อนขึ้นจากต้นขาด้านในสู่กลีบบุปผาอ่อนบาง “ข้าจ้าวจิ่นสือจะมีภรรยาเพียงผู้เดียวก็คือเจ้า”“ท่านจะไม่มีหญิงอื่นอีกหรือ?” นางกะพริบตามองหน้าเขา ค้นหาความจริงใจในทุกถ้อยคำ “ข้าไม่ได้หวังตำแหน่งใด ข้าเพียงไม่อาจแบ่งสามีกับผู้อื่นได้”“เจ้าทำให้ข้ารักเจ้าจนไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่นแล้ว” แตะกลีบดอกไม้เบาๆ แล้วกระซิบเสียงพร่า แท่งศิลาใต้ตักของนางเริ่มร้อนระอุ“อย

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 131. อย่ามายุ่งกับข้า 

    “นึกแล้วเชียว” นางพึมพำ ไม่รอถามอะไรเขาทั้งนั้น ขยับเสื้อของเขาออกกว้างเพื่อจะได้จัดการล้างแผลและใส่ยาให้ใหม่ ขณะนั้นเอง เสียงเรียกชื่อนางอย่างเกรงใจก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามา เสี่ยวเอ้อที่รอพานางไปส่งที่พักก็ต้องตกใจเพราะเห็นมู่ฟางเหนียงกำลังเปลื้องผ้าชายหนุ่มอยู่ แต่เขามองไม่เห็นบาดแผลจึงคิดไปเองว่าทั้งสองกำลัง...“ข้าจะรอข้างนอก แม่นางมู่เสร็จธุระแล้วโปรดเรียก”นางเพียงหันไปพยักหน้ารับ เพราะใจจดจ่อกับบาดแผล พอเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นสายตาของเขาก้มมองนางอยู่ก่อนแล้วผู้หญิงคนนี้ วุ่นวายกับเขานัก! จ้าวจิ่นสือได้แต่บ่นในใจ แต่ก็ยอมให้นางแกะผ้าพันแผลและทำความสะอาดที่บริเวณชายโครงซ้ายของเขา“โรคทางใจรักษายากนัก” นางรำพึง“อย่ามาทำเป็นรู้ดี” เขาแค่นเสียงในลำคอ รินสุราใส่จอกให้ตนเอง แต่นางกลับยื่นมือไปคว้าแย่งไว้“ระหว่างที่รักษาแผลนี้อยู่ งดดื่มสุราทุกชนิด” นางถลึงตาสั่งเขา “ข้ารักษาให้ท่านได้เพียงบาดแผลภายนอก แต่ในใจที่เจ็บปวดของท่านนั้น ท่านคงต้องใช้เวลาเยียวยารักษาเอง”“ข้าจะดื่ม” เขาท้าทายนาง“ถือว่าข้าเตือนแล้ว ท่านอยากให้แผลเน่าอยู่ภายในก็ตามใจท่านเถิด” นางปิดบาดแผลให้เขาเรียบร้อย “ท่าน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  130. น้อยใจ

    “เจ้าจะรีบไปไหนกัน!” “ข้าหายดีแล้ว จะไปหาฟางเหนียง” เขาควรรีบไปอธิบายกับนาง เมื่อวานส่งจดหมายแจ้งให้ท่านพ่อทราบเรื่องภารกิจลับเรียบร้อยแล้ว และจะเดินทางกลับพร้อมรับมู่ฟางเหนียงไปด้วยเลย โธ่! ยังมิทันไรก็เป็นพวก ‘เกรงใจภรรยา’ เสียแล้ว เหวินเฮ่าหลันได้แต่คลี่พัดโบกไปมา ปกปิดสีหน้าระอาใจ เป็นบุรุษองอาจ ไฉนต้องมาพะวักพะวนกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ “เจ้ารออยู่นี่แหละ เดี๋ยวนางก็มาแล้ว” “เฮ่ย!” “เจ้าจะร้องอะไร” เหวินเฮ่าหลันเห็นอาการของสหายแล้วก็ได้แต่โคลงศีรษะไปมา ได้ยินมาจากเคอหลิ่งหลินว่าจ้าวจิ่นสือบาดเจ็บแต่ไม่ให้เรียกมู่ฟางเหนียงมาทำแผลเพราะเกรงใจที่เป็นเวลาพักผ่อนของนางแล้ว อย่างไรนางก็จะเป็นภรรยาอยู่แล้ว หน้าที่ภรรยาดูแลสามีก็ถูกแล้ว จะค่ำหรือสว่างจะเป็นไรไป เดือดร้อนต้องไปตามหมอผู้อื่นมารักษาให้ แม้จะไม่ใช่บาดแผลสาหัสก็เถอะ “ข้ายังไม่ได้อธิบายกับนาง นางมาเจอข้าแบบนี้...” “เจ้านี่! เป็นถึงรองแม่ทัพ! อย่ามาทำตัวกลัวเมียให้เสียชื่อหน่อยเลย!” เหวินเฮ่าหลันกดเสียงต่ำ เรื่องแบบนี้พ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 129. อย่าได้แบกความโกรธแค้นไว้เลย

    เคอหลิ่งหลินก็เห็นหญิงสาวในชุดแดงหน้าตาซีดเซียว นางมาไม่ทันจึงไม่รู้ว่าหญิงนางนี้มีเรื่องแค้นใดกับจ้าวจิ่นสือ แต่ด้วยความสงสารในท่าทีสับสนและดูเคว้งคว้างของนางจึงเดินเข้าไปใกล้ หมายจะปลอบประโลมให้สงบใจ“แม่นาง อย่างไรแล้วค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันเถิด เจ้ามีบาดแผล ให้ข้าดูหน่อยจะเป็นไร” เคอหลิ่งหลินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ทำให้ร่างของหญิงสาวในชุดแดงแข็งทื่อ กวาดตาจ้องมองคนทั้งหมด คนพวกนี้พูดคุยเหมือนเป็นญาติพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน แต่นางนั้นเล่า ไร้ผู้ใดไม่มีใครอีกแล้ว ความเศร้าหมองและหดหู่กัดกินจิตใจ มือบางกำด้ามกริชแน่นขึ้น หมายมั่นจะเอาชีวิตของจ้าวจิ่นสือให้ได้ นางพุ่งเข้าใส่อย่างไม่คิดหวาดกลัวและไม่สนใจว่านางอาจถูกฝ่ามือซัดกลับจนถึงแก่ชีวิตช่างปะไร นางจะได้ไม่ต้องเดียวดายอีกแล้ว“จิ่นสือ!” เป็นเสียงเคอหลิ่งหลินที่หวีดร้องอย่างตกใจ น้องชายนางกลับไม่หลบยืนนิ่งปล่อยให้หญิงนางนั้นแทงกริชเข้าชายโครงด้านซ้ายของเขา เพราะคิดว่าจ้าวจิ่นสือจะหลบหลีกหรือตอบโต้ได้ จึงไม่มีใครขวางหรือเข้าไปช่วย ทุกคนจึงตื่นตะลึง แม้แต่หญิงผู้นั้นก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ“เจ้า! ไยไม่หลบข้า!” หญิงสาวในชุดแดงปล

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 128. ไม่ลดความพยายาม

    แต่กระนั้นอีกฝ่ายกลับไม่ลดความพยายาม เตรียมพุ่งกริชเล่มเดิมนั้นใส่จ้าวจิ่นสืออีก นั่นหมายความว่าเขาคือคนที่นางต้องการชีวิต ร่างบางง้างมือขึ้นแต่ยังไม่ทันไร แสงวาบหนึ่งก็พุ่งผ่านเฉียดมือนางไปเล็กน้อย แต่ก็กรีดผิวเรียกเลือดสีเข้มกระเซ็นออกมา หญิงสาวหวีดร้องอย่างตกใจแต่ไม่ยอมทิ้งกริชเพียงแค่ยกมือกุมบาดแผลแล้วมองมีดสั้นที่ปักบนผนังห้องก่อนจะตวัดสายตามองไปทางหน้าต่าง ผู้มาใหม่กระโจนเข้ามา ใบหน้ามีหน้ากากอสูรปกปิดครึ่งหน้าด้านบน แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันทีที่เห็นนาง คราวนี้จ้าวจิ่นสือจับกระบี่ขึ้นมา แต่หัตถ์เทวะกลับยกมือโบกไปมาคล้ายไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ แล้วเดินวนเวียนรอบกายหญิงสาว ดวงตาคู่งามนั้นไร้แววหวาดกลัวแต่กลับวาวโรจน์ดุจแมวป่า ‘ช่างน่าสนใจนัก!’ “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” เป็นจ้าวจิ่นสือที่ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เห็นชัดว่าชายผู้นั้นไม่ได้รู้จักหญิงสาวในชุดสีแดง “เป็นข้าควรถามเจ้ามากกว่า” หัตถ์เทวะหันมาทางจ้าวจิ่นสือ “ข้านึกว่าเรามีเรื่องสนทนากันตามลำพัง” “เจ้าไม่ได้ส่งนางผู้นี้มาทำร้ายข้าหรอกหรือ” ฝีมืออย่างนาง... จ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status