136 : นี่เจ้าตีข้าทำไม ! เฉาซูหลิ่งสลบไสลไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ นางตื่นขึ้นมาอีกทีพบว่าตัวเองสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อหยาบ กำลังอยู่บนรถม้ามุ่งหน้าไปที่ไหนสักแห่ง แรงโยกคลอนรุนแรง ทำนางปวดเนื้อปวดตัวไปหมด ลองแง้มม่านรถม้าออกไป พบชายคนที่ข่มเหงนาง เป็นคนบังคับรถม้าเพียงลำพัง “เจ้า
หลี่เมิ่งเหยาพยักหน้าเห็นด้วย “ท่านมีเสื้อผ้าที่ท่านแม่ สวมใส่ก่อนหน้านี้บ้างหรือไม่” “เอาไปซักหมดแล้วเจ้าค่ะ ส่วนเสื้อผ้าชุดใหม่ก็อบน้ำหอมไว้หมดแล้ว” “เช่นนั้นท่านเอาเสื้อผ้ามาให้ข้าชุดหนึ่ง เครื่องหอมที่ใช้เมื่อวานด้วย ข้าจะนำไปให้สุนัขลองดมกลิ่น” แม
137 : คนนี้เมียหัวหน้า เสี่ยวไฉวิ่งมาไกลพอสมควร ออกนอกถนนใหญ่ไปเรื่อย ๆ หลี่เมิ่งเหยาคะเนระยะทางดูแล้ว ค่อนข้างไกลเอาเรื่อง “ซีจงเจ้าว่านี่มันไกลแค่ไหนแล้ว เจ้าว่ากี่ลี้” “ราว ๆ ยี่สิบลี้เห็นจะได้ขอรับ” สิบกิโลเมตร ขณะที่นางกำลังตึงเครียด กับ
เฉาซูหลิ่งถลึงตาใส่คนชั่วอย่างโมโห ใครเมียเจ้า หันมาอีกทีคนที่อยู่ตรงนี้ก็หายตัวกันไปหมดแล้ว “เจ้าวางแผนหนีอยู่รึ” เขาเอ่ยแล้วเลิกคิ้วคล้ายขำ “คิดว่าหมู่บ้านข้า เข้ามาแล้วจะออกไปง่าย ๆ รึ ต่อให้ออกไปได้ ระหว่างทางก็มีกับดักสัตว์ป่ามากมาย ดีไม่ดีอาจตกหลุมกับดักสัตว์
138 : แม่ข้าตาสว่างแล้วสินะ ด้านล่างภูเขาหลิ่งซาน หลี่เมิ่งเหยาสัมผัสได้ว่ามีกับดักวางไว้แทบทุกจุด นางสายตาดีมองเห็นได้เร็ว จึงหลบเลี่ยงอันตรายได้พ้น ระหว่างทางที่จะขึ้นไปด้านบนนั้น ยังมีหมู่บ้านกระจายอยู่รอบ ๆ บนภูเขา เริ่มมั่นใจแล้วว่านี่คือกองกำลังของจอมโจรถูหลิว ท่าทางพวก
“แม่เจ้าจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” เขาเอ่ยไม่ค่อยเต็มน้ำเสียง “อ้อ” หลี่เมิ่งเหยาลากเสียงยาว ๆ มองเขาคล้ายคนโง่ พิรุธชัดเจนขนาดนี้ยังกล้าปฏิเสธอีก “ใครมาเสียงดังหน้าบ้านข้าแต่เช้า !” เสียงของถูหลิวดังออกมา ก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดประตูออกมาในสภาพชุดนอนที่ไม่ค่อยเรียบร้
นางพูดจนเหนื่อย เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของหวงเหลียง ก่อนจะหันกลับไปมองถูหลิวอีกครั้ง “การไปฉุดผู้หญิงมา แล้วบอกว่านางเป็นภรรยาของตัวเองนั้น ข้าไม่นับ !” ถูหลิวค่อย ๆ ยกมุมปากขึ้น ปรบมือให้นางอย่างชอบใจ “นังหนูลูกสาวข้าถูกใจยิ่งนัก เจ้าเดินเข้ามาในรังโจรเพียงคนเดียว
139 : ทั้งหมดล้วนแต่โกหกทั้งสิ้น ! ถูหลิวไม่เคยคิดว่าวันหนึ่ง จะมีคนกล้าดูถูกเขาเหมือนในวันนี้ ที่เจ็บใจไปกว่านั้นคือ สิ่งที่พวกนางเอ่ยมานั้น ไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย เฉาซูหลิ่งมีเรือนอยู่อาศัยในเมืองหยางเป่ย บุตรสาวบุตรชายมีความรู้ความสามารถ จะมาตกระกำลำบาก อยู่บนภูเขาหลิ่งซานแห่งนี้กับเขาได
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว