“เรื่องนี้วางใจได้หัวหน้า คิดไปคิดมาข้าว่าอากังนี่ ดูอย่างไรก็เหมือนพวกบัณฑิตในเมือง เหตุใดถึงไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของหัวหน้ามาเลย” “เดิมทีข้าก็ไม่ใช่โจร !” เขาถีบลูกน้องไปหนึ่งที บิดาเขาเคยเป็นหลี่เจิ้ง มีความรู้ความสามารถ เป็นเขาที่แปลกแยกออกมาอยากเป็นนายพราน สงสัยบุตรชายจะได้เ
“ท่านพ่อวันนี้คนไข้น้อยลงแล้ว ท่านกลับไปพักผ่อนก่อนก็ได้ ให้ข้ากับชิงเซียนตรวจก็พอ” เถียนหลี่จวินบุตรชายวัยยี่สิบสามปีของท่านหมอเถียน เอ่ยหลังจากมองออกไปแล้ว เห็นแถวคนไข้ลดน้อยลงเรื่อย ๆ “ได้ฝากพวกเจ้าด้วยก็แล้วกัน” ท่านหมอเถียนยืดตัวลุกขึ้น บิดไปมา เพื่อคลายความขบเมื่อยของกล
127 : หากอยู่เมืองหลวง ข้าขายขวดละหนึ่งพันตำลึง ฮูหยินท่านนี้คือลูกสะใภ้ของตระกูลเจียง อดีตคนตระกูลเจียง เคยเป็นขุนนางใหญ่ในเมืองหลวงมาก่อน พอตกสู่รุ่นหลานก็ตกต่ำลงเหลือเพียงชื่อเท่านั้น ปัจจุบันพวกเขาหันมาทำการค้าขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับแทน นับว่ามีหอการค้าขนาดใหญ่ของตนเองอยู่
“ยานี้กินวันละหนึ่งเม็ดจนครบหนึ่งเดือน มดลูกก็จะแข็งแรงขึ้น ระหว่างหนึ่งเดือนนี้งดทำกิจอย่างว่าไปก่อน เมื่อครบหนึ่งเดือนแล้วให้กลับมาให้ข้าตรวจดูอีกที หรือจะไปหาท่านหมอเถียนก็ได้ บางทีข้าก็ไม่ได้ว่างมาอยู่ที่นี่” “จะดีหรือเจ้าคะ” แม่นมกุยคิดว่าการเปลี่ยนหมอไปมา อาจทำให้คนใดคนหนึ่งไม่พอใจ
128 : ลอบวางเพลิง ช่วงสองเดือนมานี้หิมะตกน้อยลงเรื่อย กระทั่งวันนี้ก็หยุดตกไปแล้ว ตามพื้นถนนจึงไม่มีกองหิมะสีขาวโพลน หรือพื้นน้ำแข็งแสนลื่นอีกต่อไป ทว่าอากาศยังหนาวเหน็บอยู่เหมือนเดิม การค้าขายของร้านอาหารเป็นไปด้วยดี ทุกคนในตระกูลเซี่ยโหว ต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มกันทุกคน ชีวิตใ
ทั้งท่านย่าทั้งภรรยา เซี่ยโหวหานเฟิงแบกออกมาพร้อม ๆ กัน เขาทำได้อย่างไร จริงสิ ท่านย่า ! “พี่หานเฟิง” เซี่ยโหวหานเฟิงลืมตาพรึ่บในทันที รีบถามไถ่อาการด้วยความเป็นห่วง “เมิ่งเหยาเจ้าฟื้นแล้วรึ เจ็บตรงไหนหรือไม่” “ข้าเจ็บไปหมดทั้งตัวเลยแหละ ว่าแต่ท่านย่าเป็นอย่างไรบ้
129 : เผามาเผากลับไม่โกง พึ่บ ๆ ๆ นกน้อยเสี่ยวไฉ กระพือปีกเข้ามาในห้องนอนของนาง ก่อนจะแปลงกายเป็นเสี่ยวหยวนน้อย ยืนอยู่ตรงข้างเตียง “เสี่ยวไฉ ใครใช้เจ้ามา” “เสี่ยว-หยวน-มา-ดู” “มาดูข้ารึ ข้าไม่เป็นไรได้แผลมาเล็กน้อย เจ้ามาก็ดีแล้วข้าอยากให้เจ้า ไปสืบที
เจ้าไม่คิดปฏิเสธเลยรึ นางถอนหายใจหนัก ๆ ออกมา “ท่านเห็นไหมว่าทั้งเรือนทั้งร้าน ถูกเผาจนเกือบวอดวาย หากรู้ว่าข้าเป็นเจ้าของหอโอสถ จะไม่ถูกคนเหล่านั้นเผาทิ้งอีกหรือ” ท่านหมอเถียนมุมปากกระตุกเบา ๆ สตรีนางนี้รู้จักเกรงกลัวจริง ๆ รึ “ได้ข่าวว่าเจ้าตบปากสองพี่น้องแซ่ฉีจ
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว