65 : ยานี่ราคาแพงมากเลยนะเพคะ “เป็นหลิ่งเหอเสี้ยนจู่มอบให้เป็นการขอโทษ” องค์ชายหกไม่คิดว่ายาขวดนี้ จะมีสรรพคุณดีอย่างที่นางเอ่ยมาจริง หากยามีราคาเม็ดละหนึ่งพันตำลึง ยาในขวดหยกนี้มิตกราคาหนึ่งหมื่นตำลึงเลยรึ ความโกรธเคืองในใจได้รับการเยียวยาบ้างแล้ว “องค์ชายรีบให้พ
“ยานี่ราคาแพงมากเลยนะเพคะ” “จะแพงอันใดกัน ก็ยาทาทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ เหยาเอ๋อร์นางเอามาให้ข้ากับเสี่ยวหยวนทาบ่อย ๆ ท่านก็มาทาด้วยกันมา” หลิวอี๋เฉิน “...” นางฟังผิดไปหรือไม่ นี่มันยาที่พระสนมในวังทรงใช้กัน ราคาก็ไม่ใช่ว่าจะถูก ตลับหนึ่งห้าร้อยตำลึงเป็นอย่างต่ำ
66 : เจ้าสุนัขชั่วพวกนี้ น่าจะสับพวกมันให้เป็นหมื่น ๆ ชิ้น เสี่ยวหยวนเห็นสีหน้าลังเลใจของพี่หญิงใหญ่ เขาก็ไม่เข้าใจ “พี่หญิงใหญ่” ลุกจากเก้าอี้ไปสะกิดต้นแขนนางเบา ๆ “เป็นอันใดไป หรือว่าเกิดเรื่องกับป้าหลู” เฉาซูหลิ่งเอ่ย “ไม่ใช่เจ้าค่ะ ลุงจงเล่าว่าน้องชายอีกคนของข
“อ้อ นี่เสี่ยวหยวนน้องชายข้าเอง” นางหันไปมองเสี่ยวหยวนแล้วยิ้มเต็มใบหน้า ยิ่งหมวกขนกระต่ายฟูฟ่อง มีหูตาหนวดแมวน่ารัก ๆ ยิ่งทำให้นางอดที่จะยื่นมือออกไปจับดูไม่ได้ “หมวกของเจ้าน่ารักมากเลย โอ๊ะ ขะข้าไม่ได้พกของขวัญพบหน้าติดตัวมาด้วย” นางยกมือขึ้นจับพบปิ่นปักผม เกรงว่าจะไม่เหมาะ
67 : พี่จือจือแอบอ่านของข้ารึ ภัตตาคารโถงบุปผาเข้าใจหาจุดขาย ใช้กระถางดอกเหมยเรียกแขกในร้าน เขียนคำขอพรนำไปผูกบนต้นเหมย หนุ่มสาวคู่ไหนอยากทำกิจกรรมด้วยกัน ก็เข้ามาใช้บริการในร้านแห่งนี้ ฤดูหนาวเช่นนี้ยอดขายย่อมตก คงต้องสรรหาวิธีมาดึงดูดลูกค้ากัน เสี่ยวหยวนกับเซี่ยโหวหลิ่งจือน
สามคนที่เหลือไม่อาจกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ได้ พอดีกับที่อาหารทยอยมาวางอยู่บนโต๊ะ ล้วนหน้าตาน่ากินทั้งนั้น หลี่เมิ่งเหยาขอจานสำหรับเสี่ยวไฉด้วย บอกทางร้านว่าขอซื้อจานใบนี้เลย ใช้แล้วนางจะเก็บไปทิ้งเอง จะได้ไม่รวมกับของในร้าน อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ นางตักใส่จานไปวางให้เสี่ยวไฉกินบนพื้น
68 : เสี่ยวหยวนยังหน้าเอามุดหิมะเลย “เดิมทีจือจือตั้งใจมาดูเป็ดน้ำที่นี่ ของพวกนี้ต้องพกมาเผื่อนางได้ใช้ เว้นแต่เตาอุ่นใหญ่สองอันนั้น คนของข้าคงหาซื้อร้านแถวนี้” เขาเอ่ยเมื่อเห็นสีหน้าทึ่งปนข้องใจของนาง “พี่หญิงใหญ่ข้ากับพี่จือจือแล้วก็เสี่ยวไฉ ขอไปดูเป็ดน้ำตรงนั้นได้หรือไม่”
หันกลับมาเห็นแก้มน้อยของน้องสาวแดงระเรื่อขึ้น ไม่แคล้วคงถูกความหนาวเย็นเล่นงานเข้าให้ เขาปัดเศษหิมะที่ยังอยู่บนขนเสื้อคลุมของนางออกให้ ไม่วายบ่น “หน้าเจ้าเป็นแบบนี้ กลับไปท่านแม่ต้องตำหนิข้าแน่” “เสี่ยวหยวนยังหน้าเอามุดหิมะเลย” นางรีบหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เสี่ยวหย
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว