“เช่นนั้นหม่อมฉันคิดว่าสมควรไปเพคะ ตั้งแต่พระองค์ย้ายมาอยู่ในจวนองค์หญิง ยังไม่เคยไปร่วมงานเลี้ยงจวนอื่นเลย หากไม่แสดงตัวตนให้ผู้คนพบเห็นบ้าง เกรงว่าจะถูกลืมเลือนไปเพคะ” นางแนะด้วยความหวังดี เอ่ยต่อ “หากองค์หญิงไม่อยากไป สามารถมอบหมายให้เสี้ยนจู่ กับคุณชายน้อยไปแทนได้เพคะ” “เ
63 : ข้าไม่ได้ชนพระชายาเสียหน่อย นางลื่นล้มลงไปเอง เขารีบเข้ามาประสานฝ่ามือ “ทูลเสี้ยนจู่ นางเป็นฮูหยินเอกของท่านเสนาบดีกลาโหมพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งฉีโหย่งจงใจแสดงความนอบน้อมมากกว่าปกติ “อ้อ” หลี่เมิ่งเหยาเอ่ยเพียงเท่านั้นก็ไม่สนใจนางอีกเลย อยากเมินข้าก่อน ข้าก็จะเมินเจ้า
“ช้าก่อน” หลี่เมิ่งเหยาขัดจังหวะการไต่สวน “ท่านเสนาบดีข้าขอถามคนของข้าสักคำสองคำ” “เชิญเสี้ยนจู่” เสนาบดีหานผายมือให้นาง “แม่บ้านหลิว” “เพคะเสี้ยนจู่” “ข้าแค่สงสัยว่าตอนที่ท่านแม่ของข้าไปเจอฝูฮูหยิน ท่านไม่ได้อยู่ด้วยหรืออย่างไร เหตุใดนางถึงไม่ใช้ท่านไ
64 : คุณหนูฮู่เห็นกับตารึ ทุกคนฮือฮาทันทีหลังได้ยิน ฝูฮูหยินผู้นี้รนหาที่ตายหรืออย่างไรกัน เซี่ยโหวหานเฟิงไม่คิดว่าตนเอง จะกลายเป็นต้นเหตุของเรื่อง ยิ่งได้ยินเสียงบิดากับเสิ่นอ๋องหัวเราะเบา ๆ เขายิ่งอยากวิ่งหนีไปให้ไกล “ขะข้าไม่ได้พูดเช่นนั้น” ฝูฮูหยินกลอกตาไปมาไม่มีความจริงใ
“เอ่อตอนนั้น อ้อ คุณหนูฮู่กับมารดาเพคะ พวกนางบอกว่าจะพาพระชายาไปชมดอกเหมย แต่พอมาถึงตรงนี้ ก็เกิดเหตุชนกันลื่นล้มขึ้น” “ท่านเห็นกับตาไหมว่าองค์หญิงหนิงเหอ ชนกับพระชายาของข้า” องค์ชายหกถามพร้อมสายตาย้ำเตือนให้คิดให้ดี “แม่นมโปรดคิดให้ดี ๆ ก่อนตอบ” หลี่เมิ่งเหยาเอ่ยบ้าง
65 : ยานี่ราคาแพงมากเลยนะเพคะ “เป็นหลิ่งเหอเสี้ยนจู่มอบให้เป็นการขอโทษ” องค์ชายหกไม่คิดว่ายาขวดนี้ จะมีสรรพคุณดีอย่างที่นางเอ่ยมาจริง หากยามีราคาเม็ดละหนึ่งพันตำลึง ยาในขวดหยกนี้มิตกราคาหนึ่งหมื่นตำลึงเลยรึ ความโกรธเคืองในใจได้รับการเยียวยาบ้างแล้ว “องค์ชายรีบให้พ
“ยานี่ราคาแพงมากเลยนะเพคะ” “จะแพงอันใดกัน ก็ยาทาทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ เหยาเอ๋อร์นางเอามาให้ข้ากับเสี่ยวหยวนทาบ่อย ๆ ท่านก็มาทาด้วยกันมา” หลิวอี๋เฉิน “...” นางฟังผิดไปหรือไม่ นี่มันยาที่พระสนมในวังทรงใช้กัน ราคาก็ไม่ใช่ว่าจะถูก ตลับหนึ่งห้าร้อยตำลึงเป็นอย่างต่ำ
66 : เจ้าสุนัขชั่วพวกนี้ น่าจะสับพวกมันให้เป็นหมื่น ๆ ชิ้น เสี่ยวหยวนเห็นสีหน้าลังเลใจของพี่หญิงใหญ่ เขาก็ไม่เข้าใจ “พี่หญิงใหญ่” ลุกจากเก้าอี้ไปสะกิดต้นแขนนางเบา ๆ “เป็นอันใดไป หรือว่าเกิดเรื่องกับป้าหลู” เฉาซูหลิ่งเอ่ย “ไม่ใช่เจ้าค่ะ ลุงจงเล่าว่าน้องชายอีกคนของข
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว