“เดี๋ยวก่อนเหยาเอ๋อร์ เรื่องจริงหรือ ที่เจ้ากำลังรักษาดวงตาของคุณชายหยวน” “โอ๊ะ ท่านแม่มีพัฒนาการแล้วนี่ ท่านรู้แล้วหรือ ว่าข้าทำอะไรอยู่” นางแสร้งยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ ก่อนหมุนตัวเดินจากไป เฉาซูหลิ่งไม่เข้าใจในการกระทำของนาง รีบหันไปทางป้าหลูแล้วเอ่ยถาม “นางกำลังด่าข้าอยู
25 : เฮอะ เจ้านายของเจ้าหลอกได้กระทั่งเด็ก ซ่งหลินต๋ารีบไปนำกระดาษกับพู่กันมาให้นาง ไม่ช้าเขาก็มอบเทียบยาให้ฉีห้าวตง นำออกไปซื้อยาที่โรงหมอ หลี่เมิ่งเหยารู้ว่ายามนี้ นางควรขอตัวออกไปก่อน ปล่อยให้สองแม่ลูกได้พูดคุยกันตามลำพัง อีกอย่างนางควรนำข่าวดีเรื่องนี้ ไปบอกน้องชายจอมป่วนคนนั้นด้วย
“ข้ายังไม่ได้ขอโทษคุณหนูหลี่เลย ที่ก่อนหน้าทำกิริยาไม่ดีต่อท่าน” หลี่เมิ่งเหยาถึงกับเลิกคิ้วสูงมองเขา “ไม่เป็นไรข้าก็เหมือนหมอเถื่อนจริง ๆ นั่นแหละ ไม่ใช่สิ แม้แต่คำว่าหมอข้าก็ไม่ใช่ เจ้าไม่ผิดหรอก” นางเอ่ยคล้ายไม่ใส่ใจ สายตามองไปยังน้องชาย ที่วิ่งเล่นรอบ ๆ ตัวของหยวนเหวินเซี
26 : สัตว์เนรคุณกับน้องชายเนรคุณ เหมาะสมกันแล้วล่ะ ระหว่างที่หลี่เมิ่งเยากำลังกลัดกลุ้ม เรื่องที่ไม่มีสัตว์มาให้ทดลองเชื่อมกระดูก นางไม่อยากจ้างขอทานหรือชาวบ้านทั่วไป ให้หาสัตว์กระดูกขาหักมาให้ เพราะนางเกรงว่าพวกเขา จะไปทำร้ายพวกมันเพื่อเอาเงินค่าจ้าง จึงได้แต่ออกตามหาสัตว์เห
“พี่เหวินเซียวนอนเอนหลังลงไปเลยเจ้าค่ะ หลินต๋าเจ้ามาม้วนขากางเกงของเขาขึ้นเหนือหัวเข่า ข้าจะต้องฝังเข็มตั้งแต่ต้นขาลงมาด้านล่าง” นางเอ่ยกับคนด้านข้างเตียง แล้วหันไปค้นหาเข็มเงินเพื่อใช้ในการฝังเข็ม ปากก็เอ่ยอธิบายขั้นตอนการรักษาไปด้วย “การฝังเข็มทำเพื่อเปิดเส้นเลือดลม ให้หมุน
27 : อุปกรณ์ฝึกเดิน ? กว่าหลี่เมิ่งเหยาจะเชื่อมกระดูกให้เข้าที่ได้ นางต้องสูญเสียพลังไปไม่น้อย เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก แต่นางก็ยังไม่นำมือออกจากขาของหยวนเหวินเซียว เพราะพลังต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นจะสูญเปล่า ราวครึ่งชั่วยามนางถึงปล่อยมือออก ร่างของนางเซไปด้านห
เมื่อมาถึงเรือนของหยวนเหวินเซียว นางเห็นซ่งหลินต๋าทำท่าเหมือนสุนัขตัวโต หูตั้งส่ายหางไปมา ทำให้หวนนึกถึงวันแรก ๆ ที่เขาต่อต้านการรักษาจากตนเองไม่ได้ มาถึงยามนี้กลับดีใจทุกครั้งที่เห็นนางมาที่นี่ หากเอ่ยได้คงเอ่ยไปแล้ว ว่าเจ้าน่ะ เก็บหางให้ดี ๆ หน่อย “คุณหนูหลี่ท่านมาแล้ว รีบมาดูคุณชายเร็
28 : ไอหยา ! เดินได้หนึ่งก้าวแล้ว เมื่อได้ยินคำอธิบายง่าย ๆ ของหลี่เมิ่งเหยา ซ่งหลินต๋าก็พยุงผู้เป็นนายลงจากรถเข็น หยวนเหวินเซียวใช้แขนทั้งสองข้าง จับราวไม้เอาไว้แน่น เกร็งกล้ามเนื้อแขน ยกร่างกายของตนให้ยืดตรง วางน้ำหนักลงบนเท้าด้านที่ปกติ ส่วนอีกข้างเขายังไม่กล้า วางลงเต็มฝ่าเท้า
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว