เมิ่งเหยียนเป็นยาพิษที่มีเมตตาที่สุดของยายใบ้แล้วจากคำบอกเล่าของเจียงหู ยายใบ้ทำยาพิษพิเศษนี้ขึ้นมาเพื่อทดสอบความรู้สึกของคนรักที่มีต่อนางรอให้นางช่วยท่านแม่ออกมาได้แล้ว ค่อยจัดการเจียงอวิ้นทีหลังเจียงหวานหว่านออกจากห้องของเจียงอวิ้นเงียบๆ จากนั้นก็รุดออกไปที่ประตูจวนสกุลเจียงเพิ่งจะถึงปากประตูจวน เจียงหวานหว่านเห็นสือหลิ่ววิ่งมาหานางด้วยท่าทางรีบร้อน“คุณหนู แม่นมหวังแอบขึ้นรถม้าออกไปเงียบๆ แล้ว”คุณหนูสั่งให้นางจับตาแม่นมหวัง นางพบว่าแม่นมหวังแอบออกไปข้างนอกตอนดึกๆ “คุณหนู ไม่มีรถม้า เกรงว่าพวกเราจะตามแม่นมหวังไม่ทัน”เสิ้นเสียงคำของสือหลิ่ว ด้านหลังทั้งสองคนก็มีเสียงเกือกม้าดังขึ้นเจียงหวานหว่านเดินตามเสียงเกือกมาไป แล้วก็เห็นหรงซีถนนที่เงียบสงัด เสียงเกือกมาของหรงซีทำให้เจียงหวานหว่านเบาใจหรงซีหันมาก็เห็นเจียงหวานหว่านที่ยืนอยู่หน้าประตูจวนสกุลเจียงเขาส่งสัญญานให้คนอื่นตามรถม้าของแม่นมหวังไป ส่วนตัวเขามาหยุดอยู่หน้าเจียงหวานหว่าน“ท่านแม่ข้า...อยู่ที่ภูเขาเทียนหู่”เจียงหวานหว่านเมื่อเห็นหรงซีก็รู้สึกคัดจมูก กล่าวสะอึกสะอื้นหรงซีที่นั่งอยู่บนหลังมายื่นมือมา
“ท่านแม่ข้าอยู่ที่ใด?”เจียงหวานหว่านก้าวฉับๆ วิ่งมาถึงโถงกลางหมู่บ้าน“คุณหนู ยังหาฮูหยินไม่พบเจ้าค่ะ”หงเหลียนกล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิดเจียงหวานหว่านกวาดสายตามองไปรอบๆ จากนั้นก็มุ่งเป้าไปที่หัวหน้าโจร นางเดินอย่างเยือกเย็นไปอยู่ตรงหน้าหัวหน้าโจร“คนที่จางวั่งไฉพามาอยู่ที่ใด?”หัวหน้าโจนจางเทียนอ้ำอึ้ง “พวกท่านพูดสิ่งใด ข้าไม่เข้าใจ”“รีบบอกมา ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า”หงเหลียนกล่าวอย่างเร่งรีบ นางพลิกทั้งหมูบ้านหาแล้วก็ยังหาฮูหยินไม่พบ“จางวั่งไฉอยู่ที่ใด?”สายตาดุจคบเพลิงของเจียงหวานหว่านจับจ้องจางเทียน“ข้าไม่รู้จักจางวั่งไฉ”เห็นว่าจางเทียนไม่บอกความจริง นัยน์ตาเจียงหวานหว่านมีแววอาฆาตเข้มข้นสาดออกมานางยกมือขึ้นมาดึงดาบบริเวณเอวของหงเหลียน จากนั้นก็ตวัดข้อมือ ปลายดาบทิ่มลงไป แทงเข้าไปกลางต้นขาขวาของจางเทียน“พรวด”เลือดสดไหลนอง!“อ๊าก...”จางเทียนเจ็บจนร้องตะโกนออกมา ความเจ็บปวดรุนแรงวิ่งพล่านไปทั่วร่างเจียงหวานหว่านดึงดาบออกมา จากนั้นก็แทงไปที่กลางต้นขาซ้ายของจางเทียนอีกครั้งดวงตาทั้งสองข้างของเจียงหวานหว่านเป็นสีแดงเข้ม นางถามเน้นทีละคำ “เจ้าและลูกพี่จางวั่ง
หลิ่วซู่กล่าวด้วยสีหน้าผิดหวัง “ชุนฮว๋า เจ้าเข้าร่วมกับพวกโจรภูเขา ทั้งยังกล้าทำเรื่องผิดต่อฟ้าดินร้ายแรง ย่อมไม่มีจุดจบที่ดีเป็นแน่ เจ้าหยุดซะเถอะ”“ฮ่าๆๆ”ชุนฮว๋าหัวเราะอย่างมีความสุขราวกับกำลังฟังเรื่องตลก “เจ้านายบอกแล้วว่าให้ตัดอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายเจ้าส่งให้ลูกสาวเจ้าทุกวัน แค่คิดก็สนุกแล้ว!”เห็นท่าทางเสียสติของชุนฮว๋า หลิ่วซู่ถอยหลังเงียบๆสายตาชุนฮว๋าจับจ้องหลิ่วซู่เสมือนงูพิษเห็นท่าทางหวาดกลัวของหลิ่วซู่แล้ว ชุนฮว๋าหัวเราะอย่างวิกลจริตนางชี้ไปยังอักษรที่สลักไว้บนใบหน้าตัวเอง นัยน์ตามืดมัว กรีดร้องตะโกนจนเสียงแหบแห้ง “ต้องขอบคุณทุกความเมตตาจากพวกเจ้าสองแม่ลูก ทำให้ข้ากลายเป็นคนก็ไม่ใช่ ผีก็ไม่เชิง พวกเจ้าสมควรตาย!”ชุนฮว๋าระบายความเจ็บปวดของตนเองออกมา อารมณ์ผันผวนไม่ปกติ สายตาว่างเปล่า“เพื่อหนีออกมา ข้าต้องมอบความบริสุทธิ์ของตัวเองให้กับผู้คุมนักโทษ ฉวยโอกาสช่วงโกลาหลวิ่งหนีออกมา เดิมทีคิดว่าหนีออกมาเริ่มต้นใหม่ได้แล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าจะพบโจรภูเขา ฮ่าๆๆ หนีออกจากถ้ำเสือเจอรังหมาป่าจริงๆ ข้าถูกทรมานให้อยู่ไม่สู้ตายตลอดสามวันเต็มๆ”หลิ่วซู่ฟังสิ่งที่ชุ
เจียงหวานหว่านกำหมัดไว้แน่นจึงควบคุมอารมณ์พลุ่งพล่านภายในอกของตนเองได้เจียงหวานหว่านมองดูใบหน้าบวมแดงของหลิ่วซู่ ความโมโหทะลักออกมาจากใจเสื้อผ้าของหลิ่วซู่ไม่เรียบร้อย ใบหน้ามีรอยแผล หงเหลียนรู้สึกผิดมากหงเหลียนนำเสื้อคลุมในมือคลุมบนตัวหลิ่วซู่เจียงหวานหว่านพยุงหลิ่วซู่ขึ้นมาแล้วเดินออกไปจากถ้ำภายนอกถ้ำ เจียงหวานหว่านสั่งให้หงเหลียนดูแลหลิ่วซู่ให้ดี“ท่าน ข้าจะไปขอบคุณท่านอ๋อง”หลิ่วซู่พยักหน้า หงเหลียนพยุงหลิ่วซู่ยืนรออยู่นอกถ้ำซีหรงเห็นเจียงหวานหว่านวกกลับมาก็กล่าวด้วยสีหน้าไม่สะทกสะท้าน“ไปเถอะ ข้าจะรับผิดชอบส่วนที่เหลือเอง”เจียงหวานหว่านเมื่อได้ฟังก็รู้สึกแสบจมูกชาติก่อน หรงซีเคยพูดเช่นนี้ ไม่ว่านางจะทำสิ่งใด เขาจะช่วยนางโดยไร้เงื่อนไขสายตาเจียงหวานหว่านมองปราดชุนฮว๋าที่ถูกปิดปากอยู่ ความโกรธแค้นในใจมากมายจนไม่อาจบรรยายออกมาได้หากนางมาช้าอีกนิดเดียว เกรงว่าท่านแม่คงไม่รอดแล้วชุนฮว๋าที่อยู่ตรงหน้าไม่ควรได้รับการอภัยคนที่พยายามทำร้ายท่านแม่ นางไม่ปล่อยไว้เด็ดขาด “จางวั่งไฉอยู่ที่ใด?”ชุนฮว๋าไม่ตอบคำถามเจียงหวานหว่าน นางแค้นตัวนางเองที่ไม่ฆ
จี้ฉวนจงดึงผ้าห่มห่อตัวแน่นหนา ไม่สนใจ“ใต้เท้า คนที่มาแจ้งความคือคนของจวนอ๋อง”จี้ฉวนจงเมื่อได้ยินคำว่าจวนอ๋องก็รีบเปิดผ้าห่มลุกขึ้นนั่งคนของจวนอ๋องมาแจ้งความต้องไม่ใช่เรื่องเล็ก ตัวเขาชักช้าไม่ได้เด็ดขาดเขาลนลานใส่ถึงเท้ารองเท้า สวมเสื้อผ้าแล้วเดินออกไปข้างนอก“เร็วเข้า เปิดศาลาว่าการ”เหล่าเจ้าหน้าที่สะลึมสะลือ พากันยืนเกียจคร้านอยู่ตามห้องโถงใหญ่หรงซีนำหน้าเจียงหวานหว่านและหลิ่วซู่เดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่เหล่าเจ้าหน้าที่เมื่อเห็นหรงซีก็ตาสว่าง ยืนตัวตรง ไม่มีความง่วงนอนแม้แต่น้อยจี้ฉวนจงรีบเดินไปหาหรงซี “คารวะท่านอ๋อง”“อืม”หรงซีขานรับอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเทียนซูนำชุนฮว๋าและโจรภูเขายกรังโยนเข้ามากลางห้องโถงใหญ่ จากนั้นก็เล่าว่าเกิดเรื่องใดขึ้น“ใต้เท้าจี้ ตัวการหลักจางวั่งไฉหนีไปได้ ผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่นๆ ล้วนอยู่ที่นี่แล้ว”จี้ฉวนจงเบิกตาโพลงฟัง กลางคืนดึกดื่น ท่านอ๋องกลับจับพวกโจรภูเขายกรังมาถึงที่แล้วฮูหยินเจียงโชคดีเสียจริง นึกไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะผ่านมาช่วยชีวิตพอดีจี้ฉวนจงเงยหน้ามองหรงซีและสองแม่ลูกที่อยู่ข้างหลังหรงซี รู้สึกใจกระตุกบอกเล่ากันว่าท่านอ
เพียงแต่ชาตินี้เขาค่อนข้างต่อต้านนาง วันเวลาอีกยาวไกล นางมั่นใจว่าจะทำให้หรงซีรักนางได้โดยเร็วหงเหลียนไปเคาะประตู พบว่าไม่มีคนเปิดประตู นางเลยข้ามกำแพงไปดึงสลักหลังประตูเจียงหวานหว่านพยุงหลิ่วซู่เดินเข้าไปประตูเรือนเหมยมีดวงไฟสลัวไหวไปมาฉางเกอชูโคมไฟในมือ จากนั้นก็กล่าวกับสือหลิ่วที่อยู่ข้างกายด้วยความดีใจ“ฮูหยินและพี่สาวกลับมาแล้ว!”ทั้งสองคนรีบไปต้อนรับ เมื่อเห็นว่าหลิ่วซู่ปลอดภัยกลับมา สือหลิ่วก็ร้องได้ด้วยความดีใจหลิ่วซู่ลูบศีรษะของฉางเกอ“กลับห้องไปเถอะ ด้านนอกอากาศหนาว”ฉางเกอและเจียงหวานหว่านพยุงหลิ่วซู่ข้างซ้ายและข้างขวาหลังจากหลิ่วซู่และคนอื่นๆ กลับเข้าเรือนแล้ว เงาหนึ่งแอบออกไปจากเรือนเหมยเจียงหวานหว่านสั่งให้สือหลิ่วไปเอากล่องยามา จากนั้นก็ทำแผลให้ท่านแม่ตอนที่เจียงหวานหว่านได้เห็นบาดแผลน้อยใหญ่ตามร่างกายหลิ่วซู่ นางมือสั่นหลังจากจัดการกับบาดแผลแล้ว ความแค้นในใจเจียงหวานหว่านยิ่งมากขึ้นตอนที่หลิ่วซู่ชำระล้างร่างกายโดยมีสือหลิ่วคอยปรนนิบัติ เจียงหวานหว่านก็ออกมาจากห้องของหลิ่วซู่หงเหลียนเดินมาอยู่ตรงหน้าเจียงหวานหว่าน นางคุกเข่าสองข้าง สองมือชูมีดสั
แม่นมหวังรีบปลอบใจเฉาหยูเฟิ่ง จากนั้นก็ส่งคนไปเรือนนายท่านเพื่อแจ้งนายท่าน“แม่นมหวัง เด็กหน้าประตูนำจดหมายมา”สาวใช้กระซิบกับแม่นมหวังแม่นมหวังรับจดหมายมาดู ทันใดนั้นก็ตื่นตระหนก“ฮูหยิน เกิดเรื่องแล้ว”เฉาหยูเฟิ่งน้ำตานองหน้าหันมองที่แม่นมหวัง “ตอนนี้ยังมีเรื่องใดสำคัญกว่าอวิ้นเออร์อีก”แม่นมหวังกล่าวอย่างร้อนใจ “ฮูหยิน นายท่านพี่ส่งคนส่งจดหมายมา”สายป่านนี้แล้ว ท่านพี่ยังส่งคนมาส่งจดหมาย ต้องเป็นเรื่องเร่งด่วนแน่นางรับจดหมายจากแม่นมหวัง เมื่อได้อ่านเนื้อหาข้างในจดหมาย เฉาหยูเฟิ่งสบสนจนใจรู้สึกชาแม่นมหวังร้อนใจเช่นกัน สามีนางตอนนี้ไม่รู้เป็นเช่นไรบ้างความคิดของเฉาหยูเฟิ่งเปลี่ยนไป สายตานางมองไปยังแม่นมหวัง“แม่นมหวัง หากเรื่องไม่อาจทำให้ทั้งสองฝ่ายพอใจได้ เจ้ารู้ใช่ไหมว่าควรทำเช่นไร?”แม่นมหวังกำหมัดแน่น “ฮูหยินโปรดวางใจ”เฉาหยูเฟิ่งกุมมือแม่นมหวังแน่น “แม่นมหวัง ข้าจะดูแลลูกสาวเจ้าให้ดี หาครอบครัวดีๆ คุ้มครองนาง”แม่นมหวังพยักหน้า ลูกสาวมีสกุลเฉาดูแล นางก็วางใจแล้ว“ฮูหยิน คุณหนูป่วยอย่างมีลับลมคมใน ได้ยินว่าเจียงหวานหว่านเป็นวิชาแพทย์ เกรงว่าอาการป่วยของคุณหนูต้อ
“เจ้าไม่ต้องแก้ตัวให้เจียงหวานหว่านเลย นับตั้งแต่นางกับสกุลหลิ่วกลับจวน สกุลเจียงของพวกเราก็โชคร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากอาการป่วยของอวิ้นเออร์เกี่ยวข้องกับนาง ข้าจะขับไล่นางออกไปจากจวนสกุลเจียงเป็นแน่”เจียงป๋อเหนียนไม่เพียงแต่ไม่พอใจเจียงหวานหว่านมากเท่านั้น แต่ยังดูถูกเหยียดหยามสกุลหลิ่วอีกด้วย ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งฐานะของเขาในตอนนี้เลยยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธเกรี้ยว ดังนั้นเจียงป๋อเหนียนจึงหันหลังเดินไปจะคิดบัญชีกับเจียงหวานหว่านและเมื่อเขามาถึงเรือนเหมย ประตูเรือนเหมยปิดสนิทอยู่เจียงป๋อเหนียนเดินไปเคาะประตูประตูเรือนเหมยถูกเปิดออก และใบหน้าของสือหลิ่วก็ปรากฏขึ้นเจียงป๋อเหนียนยกเท้าก้าวเดินเข้าไป แต่สือหลิ่วขวางเขาไว้“คาราวะนายท่าน”เจียงป๋อเหนียนไม่ได้ชายตามองสือหลิ่วเลยแม้แต่น้อยเขาย่ำเท้าจะเดินเข้าไปข้างใน“นายท่าน ฮูหยินกับคุณหนูยังไม่ตื่น นายท่านไปนั่งพักที่ห้องโถงก่อนเถอะขอรับ”สือหลิ่วสงสารฮูหยินและคุณหนูที่ทรมานมาทั้งคืน จึงอยากให้พวกนางได้นอนพักอีกสักหน่อยเจียงป๋อเหนียนกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่งว่า “ไปตามเจียงหวานหว่านมาเดี๋ยวนี้”สือหลิ่วยังไม
เจียงหวานหว่านตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองชาติก่อน หรงมู่หานขังนางเอาไว้ในห้องลับ ยังมีสตรีอีกนางหนึ่งอยู่ด้วยตอนที่นางถูกจับเข้าไป สตรีนางนั้นก็ถูกนำตัวออกไปสตรีนางนั้นหายใจโรยรินตอนที่หิ้วสตรีนางนั้นออกไป นางได้เห็นใบหน้าสตรีนางนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจตอนนั้นคิดว่าสตรีนางนั้นหน้าตาคุ้นตามากเมื่อรวมกับใบหน้าของหรงซี สตรีนางนั้นและหรงซีมีความคล้ายกันอยู่แปดส่วนคงเป็นเสด็จแม่ของหรงซีซ่างกวนเสวี่ยเจียงหวานหว่านมองหรงซีด้วยสายตาสับสนนางรู้แล้ว เป็นความลับที่ชาติก่อนนางกับหรงซีไม่ล่วงรู้นางคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับหรงซีเช่นไรหรงซีเห็นสีหน้าเจียงหวานหว่านก็คิดว่านางต้องรู้เรื่องบางอย่าง“เจ้ารู้จักเสด็จแม่ข้า?”หรงซีกล่าวประโยคนี้ออกมาสัญชาตญาณเขาบอกเขาว่าเจียงหวานหว่านเคยพบเสด็จแม่ของเขาเจียงหวานหว่านสับสนในใจห้องลับอยู่ในห้องอักษรของฝ่าบาทหากสตรีนางนั้นเป็นเสด็จแม่ของหรงซีจริงเช่นนั้นใครเป็นผู้บงการเรื่องการหายตัวของเสด็จแม่หรงซี ก็ไม่ต้องคาดเดาแล้วเป็นฝ่าบาทองค์ปัจจุบันฝ่าบาทมีประสงค์ใดจึงได้กักขังเสด็จแม่ของหรงซีเอาไว้ในห้องลับหรือเพื่อควบคุมอำนาจทหารในมือหรง
“เจียงหวานหว่าน เจ้าเคยทำอาหารให้เซียวหวายกินหรือไม่?”เจียงหวานหว่านยิ้ม “นอกจากท่านแม่และสือหลิ่วแล้ว ข้าเคยทำอาหารให้ท่านอ๋องแค่คนเดียว”หรงซีพอใจกับคำตอบของเจียงหวานหว่านมาก“ต่อไปทำอาหารให้ข้ากินได้คนเดียวเท่านั้น”เจียงหวานหว่านคิดสักพัก “ได้”หรงซีพอใจมากเมื่อเห็นคราบโจ๊กที่มุมปากนางหรงซีใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดให้ ทำเอาเจียงหวานหว่านเขินจนหน้าแดง“ท่านอ๋อง มือท่านไม่มีแรงไม่ใช่หรือ?”เจียงหวานหว่านถามอย่างรู้ทัน“อืม”หรงซีหน้าไม่แดง ใจไม่เต้นเร็วเจียงหวานหว่านเบะปาก หรงซีกำลังโกหกชัดๆแต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่หรงซีถูกพิษเพราะขนมของนาง นางก็ยอมให้ความร่วมมือกับเขา“ท่านอ๋องต้องกินให้มากหน่อย ไม่แน่พรุ่งนี้ก็อาจลุกจากเตียงได้แล้ว”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยความหงุดหงิด“ยาพิษกลืนวิญญาณ จะหายเร็วเพียงนั้นได้เช่นไร”“ตุบ”ชามในมือเจียงหวานหว่านร่วงลงพื้น“ท่านถูกยาพิษกลืนวิญญาณ?”ผู้ถูกยาพิษกลืนวิญญาณจะต้องตายภายในสามวันนางจับมือของหรงซีแล้ววางนิ้วมือตัวเองทาบลงไปหรงซีเห็นท่าทางร้อนใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นในใจ“ชีพจรท่านอ๋องได้รับความเสียหาย ยังดีที่ยายใบ้อยู่ด้วย
เจียงหวานหว่านส่ายหน้า นางไม่ได้วางยาหรงซี“ปล่อยนาง”หรงซีได้ยินเสียงจึงเอ่ยปาก“ท่านอ๋อง พิษถอนหมดแล้ว พักผ่อนมากๆ”หญิงชรานั่งอยู่ข้างเตียงหรงซีกล่าวเสียงทุ้มต่ำ“ขอบคุณมากยายเฒ่า”หรงซีกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรงหญิงชราลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปตอนที่เจียงหวานหว่านได้เห็นใบหน้าหญิงชราก็ใจกระตุกหญิงชราก็คือยายใบ้ อาจารย์ของซิ่วกู่“เทียนซู เจ้าก็ออกไปด้วย”“ท่านอ๋อง แต่ว่า...”เทียนซูไม่ไว้ใจกลัวว่าเจียงหวานหว่านจะคิดร้ายต่อท่านอ๋อง“ออกไป...”แม้เสียงของหรงซีจะอ่อนแรง แต่น้ำเสียงนั้นก็เกินพอแล้วเทียนซูมองเจียงหวานหว่านด้วยสายตาเตือน จากนั้นก็ออกจากห้องไปเจียงหวานหว่านเห็นหรงซีใบหน้าซีดขาว นางไม่กล้าเข้าไปหานางนึกถึงฉากที่หรงซีตายเพื่อนางในชาติที่แล้วขึ้นมา“เข้ามา”หรงซีขมวดคิ้วเจียงหวานหว่านน้ำตาตก เดินเข้าไปหาหรงซี“เจียงหวานหว่าน เป็นโชคดีของเจ้าที่ข้ายังไม่ตาย”หรงซีมองเจียงหวานหว่านที่กำลังตื่นตระหนกทำสิ่งใดไม่ถูกเขาถูกพิษหลังจากที่กินขนมของเจียงหวานหว่านแต่เขาไม่สงสัยในตัวเจียงหวานหว่านสักนิด“ท่านอ๋อง ข้าไม่รู้เหตุใด...”“เจ้าไม่ใช่คนวางยา ข้ารู้”
“ไอ้หยา”เจียงจิ่นเซวียนแกล้งทำเงินตกพื้นอย่างไม่ตั้งใจสือหลิ่วเห็นดังนั้นก็วางกล่องอาหารลงและวิ่งไปเก็บเศษเงินที่ตกกระจายอยู่ทั่วพื้นเจียงจิ่นเซวียนค่อยๆ ขยับและเปิดกล่องอาหารอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โรยผงบางอย่างลงไปสือหลิ่วเก็บเศษเงินกลับมาหมดแล้ว เจียงจิ่นเซวียนกล่าวขอโทษ “แม่นางสือหลิ่วลำบากแล้ว”“ไม่เป็นไร คุณชายสี่ ข้าไปก่อนเจ้าค่ะ”สือหลิ่วหยิบกล่องอาหารขึ้นมาแล้วบอกลาเจียงจิ่นเซวียนเจียงจิ่งเซวียนกล่าวอย่างนุ่มนวล “แม่นางสือหลิ่วเดินทางระวังด้วย”“เจ้าค่ะ”สือหลิ่วรู้สึกเขินอายหลังจากพยักหน้าให้เจียงจิ่นเซวียนแล้ว นางก็เดินทางไปจวนอ๋องในมุมที่สือหลิ่วมองไม่เห็น เจียงจิ่นเซวียนยิ้มเยาะเย็นชานี่คือบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาให้เจียงหวานหว่านสือหลิ่วไม่สงสัยสักนิด นางเดินถือกล่องอาหารมาถึงจวนอ๋องหลังส่งกล่องอาหารเรียบร้อย นางไปร้านหนังสือเพื่อซื้อกระดาษให้เจียงจิ่นเซวียนซื้อกระดาษเสร็จแล้ว สือหลิ่วกลับถึงจวนและนำกระดาษไปส่งให้เจียงจิ่นเซวียน“แม่นางสือหลิ่ว เรื่องซื้อกระดาษในวันนี้ ไม่ต้องบอกน้องหก นางไม่ชอบให้ข้าเข้าใกล้คนเรือนเหมย หากนางรู้ว่าข้าเรียกใช้คนข
เจียงหวานหว่านมองดูรถม้าจวนอ๋องจากไปรถม้าจวนอ๋องไปไกลแล้ว เจียงหวานหว่านเก็บสายตากลับมาและเดินเข้าจวนไป“น้องหก รอก่อน”เจียงจิ่นเซวียนเรียกเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหยุดเดินแล้วถามเสียงเย็น “มีเรื่องใด?”“น้องหก ได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋อง เป็นวาสนาของเจ้านัก ต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าทำให้ท่านอ๋องโกรธจนลากคนในจวนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”เจียงจิ่นเซวียนเดินมาข้างกายเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหงุดหงิด เจียงจิ่นเซวียนไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปจริงด้วย คอยแต่จะหาโอกาสถากถางนางน้ำเสียงดูแคลนหาว่านางไม่คู่ควรกับท่านอ๋อง ช่างเป็นพี่ชายแท้ๆ ของนางจริงๆ“พี่สี่คอยปรนนิบัติรัชทายาทมาตั้งหลายปี การประจบสอพลอคงเป็นสิ่งที่พี่สี่ถนัดนัก หน้าไหว้หลังหลอกเป็นความสามารถโดดเด่นของพี่สี่ พี่สี่ใช้ชีวิตได้อย่างหน้าซื่อใจคดจริงๆ”รอยยิ้มจอมปลอมของเจียงจิ่นเซวียนเลือนหายไปเขานึกไม่ถึงว่าเจียงหวานหว่านจะด่าเขาไม่ไว้หน้าสักนิดเจียงหวานหว่านไม่มองเจียงจิ่นเซวียนแม้แต่น้อย นางเดินเข้าไปในประตูจวนหากอยู่นานกว่านี้หน่อยนางยิ่งรู้สึกขยะแขยง เจียงจิ่นเซวียนน่ารังเกียจกว่าเจียงจิ่นหนิงเสียอีกเจียงจิ่น
นางเปิดผ้าม่านเตรียมตัวลงรถม้าทันใดก็ถูกแรงกระชากนางกลับเข้ามาในรถม้าเจียงหวานหว่านจมเข้าสู่อ้อมกอดหรงซีกลิ่นหอมอำพันทะเลลอยเข้าจมูกนางหรงซีกุ้มหน้ามองเจียงหวานหว่านไม่พูดไม่จาเจียงหวานหว่านคิดจะลุกขึ้นกลับถูกหรงซีกอดเอาไว้แน่นคนสองคนจ้องตากันและกัน ไม่มีใครพูดจา“เหตุใดรถม้าจวนอ๋องถึงจอดอยู่ตรงนี้?”เจียงจิ่นเซวียนกลับมาถึงจวนพอดีและเห็นรถม้าจวนอ๋องจอดอยู่หน้าบ้านของตนเจียงหวานหว่านได้ยินเสียงเจียงจิ่นเซวียน ดวงตาก็กลับมาแจ่งชัดอีกครั้ง“ท่านอ๋อง พี่สี่ข้าอยู่ข้างนอก รีบปล่อยข้า”หรงซียิ้มเย็น “ข้าต้องกลัวเขาด้วย?”เจียงหวานหว่านกัดฟัน “ท่านอ๋องไม่กลัว แต่ชื่อเสียงข้าไม่เหลือแล้ว วันหน้าหากแต่งงานก็จะถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์เอาได้”“เจ้าคิดจะแต่งกับใคร? กู้ฉางชิง? หรือเซียวหวาย?”เจียงหวานหว่านประหลาดใจ นางแต่งงานเกี่ยวข้องอันใดกับพวกเขาฝีเท้าของเจียงจิ่นเซวียนเดินเข้ามาใกล้เจียงหวานหว่านกดร่างต่ำลงแล้วกล่าวอย่างออดอ้อน “ท่านอ๋อง ขอร้องท่านล่ะ”หรงซีได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเจียงหวานหว่าน ความโมโหในใจลดไปไม่น้อย“เจียงหวานหว่าน เจ้าติดค้างข้า ครั้งหน้าข้าไม่ปล่อ
เจียงหวานหว่านได้ฟังคำพูดของหรงซีก็หันไปยิ้มให้เซียวหวายอย่างจนปัญญา“เซียวหวาย ขอโทษด้วย พรุ่งนี้ข้าจะไปพบเจ้า”เซียวหวายยิ้มแย้ม “แม่นางเจียง พรุ่งนี้ข้ามารับเจ้า”“ก็ดี...”ยังไม่ทันได้กล่าวจบประโยค เจียงหวานหว่านรู้สึกว่าตัวเองถูกจับข้อมือเอาไว้ไม่รู้ว่าหรงซีลงมาจากรถม้าตั้งแต่เมื่อใดเขาสีหน้าบึ้งตึง ดึงข้อมือเจียงหวานหว่าน ลากนางขึ้นรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง โปรดปล่อยแม่นางเจียงด้วย”เซียวหวายเห็นเจียงหวานหว่านถูกหรงซีผลักขึ้นรถม้า เขาจึงตามไปขวางแต่ถูกเทียนซูขวางเอาไว้ เซียวหวายผลักเทียนซู ทว่าเทียนซูไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยหรงซีทำเหมือนไม่ได้ยินเซียวหวายโกรธเจียงหวานหว่านหันหน้ามากล่าวกลับเซียวหวายที่อยู่ด้านหลัง“คุณชายเซียว ข้าไปก่อนนะ”มือของหรงซีดึงศีรษะเจียงหวานหว่านเข้าไปในรถม้าเซียวหวายนั่งอยู่บนรถม้าสกุลเซียว กำลังตามท้ายรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง รถม้าของคุณชายเซียวตามอยู่ด้านหลัง”เทียนซูที่อยู่ด้านนอกกล่าวรายงานหรงซี“สะกดรอยตามราชวงศ์ มีเจตนาไม่ดี เทียนซู ส่งคุณชายเซียวไปยังสถานที่ที่เขาควรไป”เทียนซูลังเล“ท่านอ๋อง คุณชายเซียวเป็นน้องชายเซียวกุ้ย
เซียวกุ้ยเฟยยิ้มอย่างอบอุ่น“ฝีมือของอ้ายเฟย ข้าชอบยิ่งนัก”ฝ่าบาทตรัสด้วยถ้อยคำสองแง่สองง่ามเซียวกุ้ยเฟยหุบตาลงด้วยความเขินอาย จากนั้นก็พยุงฝ่าบาทเดินไปด้วยกันรอจนกระทั่งไม่เห็นเงาฝ่าบาทแล้วหรงซีสีหน้าเย็นชา ดวงตาเย็นชายิ่งกว่า จับจ้องมองหรงมู่หานหรงมู่หานรับรู้ถึงความโกรธท่วมท้นของหรงซี“เสด็จอา หลานขอตัวก่อน”ระหว่างที่กล่าว สายตาเขาเหล่มองเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านกรอกตาบนใส่หรงมู่หานนัยน์ตาหรงซีใกล้ระเบิดแล้วเขาขยับข้อมือก้อนเงินถูกดีดออกไปดีดโดนบริเวณกระดูกขาของหรงมู่หาน“เอื้อ...”หรงมู่หานรู้สึกถึงกระแทกที่ขาความเจ็บปวดจู่โจมกะทันหัน ทำให้เขาทรุดเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเจียงหวานหว่าน”“องค์ชายรอง รู้ว่าผิดรู้จักแก้ไข เป็นสิ่งที่ดียิ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองเช่นนี้”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยท่าทางใจกว้าง“เจ้า พวกเจ้า...”หรงซีและเจียงหวานหว่านเดินเคียงข้างกันจากไปโดยไม่สนใจหรงมู่หานหรงมู่หานรู้ว่าเป็นฝีมือหรงซีความรู้สึกอัปยศอดสูพุ่งเข้าสู่หน้าอกใบหน้าของเขาถูกหรงซีกับเจียงหวานหว่านทำลายจนป่นปี้หรงมู่หานมองแผ่นหลังทั้งสองคนแล้วสาบานกับตัวเอง
วิชาการแพทย์ของเจียงหวานหวานล้ำเลิศ พิษในร่างกายของน้องชายจะกำจัดไปได้เมื่อใดก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว เขาต้องวางแผนเอาไว้“น้องชาย ช่วงนี้สุขภาพเจ้าดีหรือไม่ เจ้าไม่ได้ไปให้หมอหลวงตรวจนานแล้ว”หรงซีหุบสายตาลง จากนั้นก็ประสานมือ “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงนึกถึง ช่วงนี้น้องชายสุขภาพไม่ดี วันนี้จะไปให้หมอหลวงตรวจอาการ”ฝ่าบาทเมื่อได้รับฟังก็เบาพระทัยลงมากพิษในตัวน้องชายถูกถอนไปแล้วหรือไม่ ถามหมอหลวงก็รู้แล้วฝ่าบาทหรี่พระเนตร มีแผนการในพระทัยแค่หมอหลวงจับชีพจรก็จะรู้ว่าหรงซีถอนพิษไปแล้วหรือไม่“แม่นางเจียง โรคของหรงซี เจ้ามีวิธีรักษาหรือไม่?”ฝ่าบาททอดพระเนตรเจียงหวานหว่าน“ฝ่าบาท แม่นางเจียงก็รักษาโรคของข้าไม่หายเช่นกัน”หรงซีกล่าวประโยคหนึ่งเจียงหวานหว่านรู้สึกว่าหรงซีประหลาดมาก เหตุใดกล่าวเช่นนั้นทว่าเมื่อเห็นสายพระเนตรฝ่าบาท นางเข้าใจทันทีฝ่าบาทต้องการให้หรงซีประคองความมั่นคงของแคว้น เขาไม่มีทางเปิดโอกาสให้หรงซีได้ครองบัลลังก์ในสมองเจียงหวานหว่านผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาพิษหนอนกู่ในร่างกายหรงซีเป็นของฝ่าบาทจังหวะหัวใจนางเต้นเร็วขึ้น หากเป็นเช่นนี้ หรงซีก็จะถูกฝ่าบาทควบคุม