“หลายปีนี้ แม่นางที่ชอบน้องชายข้ามีไม่น้อย เจ้าเป็นคนแรกที่บอกว่าจะเป็นเพื่อนกับเขา”เซียวกุ้ยเฟยนึกถึงเรื่องเล่าภายในเมืองหลวง ความสัมพันธ์ระหว่างเจียงหวานหว่านและหรงซีไม่ธรรมดาคิดถึงตรงนี้ เซียวกุ้ยเฟยคิดว่าเจียงหวานหว่านมีเจตนาอื่น นางคงทำเพื่อแผนการของท่านอ๋อง“เจ้าไม่ชอบเซียวหวาย เป็นเพราะเจ้าชอบท่านอ๋อง?”น้ำเสียงของเซียวกุ้ยเฟยเฉียบคมเจียงหวานหว่านหัวเราะเบาๆ “เพคะ หม่อมฉันมีความรู้สึกดีให้ท่านอ๋อง แต่ไม่ได้หมายความว่าเซียวหวายสู้ท่านอ๋องไม่ได้ ในทางกลับกัน เซียวหวายในใจหม่อมฉันเทียบกับท่านอ๋องได้ อีกทั้งเขายังหาเงินเก่งมาก พวกเราเป็นเพื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน”เมื่อได้ฟังคำพูดของเจียงหวานหว่าน เซียวกุ้ยเฟยเชื่อแล้วว่าเจียงหวานหว่านไม่ชอบเซียวหวายจริงๆแล้วก็ไม่ได้สนใจทรัพย์สินของสกุลเซียว“แม่นางเจียง หากเจ้าไม่ใช่คนชอบใช้ความรู้สึกทำงาน เช่นนั้นก็เป็นคนเจ้าแผนการ”เจียงหวานหว่านกระพริบตาปริบๆ “หม่อมฉันคือผู้รู้แจ้งมีสติปัญญาเพคะ”เซียวกุ้ยเฟยกล่าวสิ่งใดต่อไม่ถูกแล้วเจียงหวานหว่านเห็นว่าเซียวกุ้ยเฟยอารมณ์ดีขึ้นแล้ว นางค่อยๆ เอ่ยถาม“พระสนมกุ้ยเฟย พระองค์ยศสูงศั
เซียวกุ้ยเฟยหยิบขวดกระเบื้องเคลือบใบหนึ่งของเจียงหวานหว่าน ไม่รู้ใช้เช่นไรเจียงหวานหว่านอธิบายอย่างใจเย็นเยอะเกินไป เซียวกุ้ยเฟยจำได้ไม่หมดจึงเรียกหรงมามาและซีหยวนเข้ามาฟังเจียงหวานหว่านอธิบายพร้อมกันเจียงหวานหว่านให้ซีหยวนมาทดลอง สาธิตให้เซียวกุ้ยเฟยดูด้วยความชำนาญของเจียงหวานหว่าน ใบหน้าใสสะอาดของซีหยวนกลายเป็นสาวงามที่ทำให้คนหวั่นไหว“เจียงหวานหว่าน เจ้ามีของสิ่งนี้เท่าไหร่ ข้าซื้อทั้งหมด”เซียวกุ้ยเฟยกล่าวอย่างอดใจไม่ไหวเจียงหวานหว่านคำนวณคร่าวๆ “ภายในบ้านมีประมาณสิบกว่าชุด”เซียวกุ้ยเฟยกล่าวด้วยความตื่นเต้น “ข้าซื้อทั้งหมด”“พระสนมกุ้ยเฟย ข้าให้ท่านแม่ ฮูหยินโจว ท่านหญิงหลิงโหรวคนละหนึ่งชุด ที่เหลือล้วนให้พระสนมกุ้ยเฟย ดีหรือไม่?”เซียวกุ้ยเฟยยินดีเซียวกุ้ยเฟยสั่งหรงมามานำตั๋วเงินมอบให้เจียงหวานหว่าน“พระสนมกุ้ยเฟย เซียวหวายเป็นหุ่นส่วน เขาร่วมลงทุนด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี่หม่อมฉันมอบให้พระสนมกุ้ยเฟย ไม่ต้องการเงินทอง”เซียวกุ้ยเฟยเหมือนจะลืมเรื่องทายาทไปแล้ว“หรงมามา เจ้าไปเปิดห้องคลังของข้า ให้แม่นางเจียงเลือกตามใจ”เซียวกุ้ยเฟยกล่าวอย่างใจกว้าง“เพคะ”เจีย
“องค์ชายรอง ชายหญิงแตกต่างกัน ย่อมต้องมีระยะห่างต่อกัน ข้าน้อยต้องหลบเลี่ยง เหตุใดองค์ชายรองคิดว่าเป็นการเสียมารยาท?”หรงมู่หานนึกไม่ถึงว่าเจียงหวานหว่านจะกล้าโต้เถียงเขา“คิดว่าแม่นางเจียงคงหลงทาง ข้ากำลังจะออกจากวังพอดี เช่นนั้นก็ไปส่งแม่นางเจียงสักครั้ง”เจียงหวานหว่านรู้สึกรังเกียจ ใครอยากให้เขาส่งกัน ยิ่งไสหัวไปไกลๆ ได้ยิ่งดีเมื่อเห็นเขา นางรู้สึกเหมือนถูกคางคกตัวหนึ่งจ้องมอง ขยะแขยงไปทั้งร่าง“ขอบคุณความหวังดีขององค์ชายรอง พวกเราไปกันคนละทาง ต่อให้ไปทางเดียวกัน ข้าก็ไม่คิดจะเดินร่วมทางกับองค์ชายรอง ต่างคนต่างเดิน ไม่รบกวนแล้ว องค์ชายรอง เชิญ!”เจียงหวานหว่านเดินถอยหลังสองก้าว เป็นการบ่งบอกให้หรงมู่หานไปก่อนหรงมู่หานจงใจส่งคนไปล่อเจียงหวานหว่านมาที่นี่ เขาจะไปง่ายๆ ได้เช่นไร“แม่นางเจียงเหมือนจะมีอคติกับข้า?”หรงมู่หานเดินเข้าใกล้เจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านก้าวถอยหลังอย่างจนปัญญา นางยืนอยู่ตรงขอบสระแล้วด้านหลังนางคือสระน้ำ ไม่อาจถอยหลังได้อีก“องค์ชายรองคิดมากไปแล้ว”หรงมู่หานเดินไปข้างหน้าอีกก้าวเจียงหวานหว่านกัดฟัน ต่อให้ตกลงไปในน้ำ นางก็ไม่คิดจะสัมผัสถูกตัวห
หรงมู่หานสั่งคนเฝ้าหน้าทางเข้าสวนดอกไม้หลวงเอาไว้แม้เขาอยากได้เจียงหวานหว่าน แต่เขาต้องการรักษาชื่อเสียงด้วยเช่นกันขณะที่หรงมู่หานและเจียงหวานหว่านฉุดกระชากกัน เจียงหวานหว่านรู้สึกว่าตัวเองถูกมือใหญ่คว้าเอาไว้และดึงไปข้างหลังส่วนหรงมู่หานถูกคนถีบตกสระน้ำจากทางด้านหลัง“ตูม”หรงมู่หานตัวลอยตกลงไปในสระน้ำเจียงหวานหว่านเข้าสู่อ้อมกอดที่คุ้นเคย“ได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”หรงซีสำรวจเจียงหวานหว่านด้วยความเป็นห่วง ดูว่านางได้รับบาดเจ็บหรือไม่เมื่อเห็นข้อมือเจียงหวานหว่านถูกหรงมู่หานกำจนช้ำหรงซีมองหรงมู่หานด้วยสายตาเยือกเย็น ดวงตาย้อมไปด้วยไฟโทสะเวลานี้หรงมู่หานว่ายหน้ามาที่ขอบสระ ตั้งใจจะปีนขึ้นฝั่งหรงซีขวางทางเขาไว้“เสด็จอา เหตุใดท่าน...”หรงมู่หานยังกล่าวไม่จบประโยคก็ถูกหรงซีจับศีรษะกดน้ำทุกครั้งที่รู้สึกว่าหรงมู่หานกำลังจะขาดอากาศหายใจ เขาดึงศีรษะหรงมู่หานขึ้นมาจากน้ำ ปล่อยให้เขาได้หายใจทำเช่นนี้วนไปเป็นสิบรอบ หรงมู่หานคิดว่าตัวเองต้องตายแล้วในตอนที่หรงมู่หานทนต่อไปไม่ไหว หรงซีดึงเขาขึ้นมา ทิ้งเอาไว้ข้างขอบสระหรงซีมองหรงมู่หานจากมุมที่สูงกว่า“องค์ชายรอง หากเจ้
ให้ตายเขาก็ไม่ยอมรับ ใครจะทำเขาได้เช่นไรหากถอยให้หนึ่งก้าว เสด็จพ่อรู้ว่าเขากับเจียงหวานหว่านมีความสัมพันธ์กัน ไม่แน่เขาอาจได้เจียงหวานหว่านมาโดยไม่ต้องเปลืองแรงมากนัก เป็นเช่นนั้นยิ่งดีหรงซีก็ต้องคิดถึงชื่อเสียงของเจียงหวานหว่านเช่นกันหลังพิจารณาแล้ว เขาคิดไว้แล้วจะอธิบายเรื่องนี้เช่นไร“ฝ่าบาท หลานชายเขา...”“ฝ่าบาท องค์ชายรองติดหนี้ชาวบ้านเมืองชิงเหออยู่หนึ่งแสนตำลึง วันนี้หม่อมฉันบังเอิญพบเขา จึงได้ทวงหนี้กับองค์ชายรองแทนชาวบ้าน นึกไม่ถึงองค์ชายรองจะลืมแล้ว หม่อมฉันไม่ยอม จึงบอกว่าจะให้พระองค์เป็นผู้ตัดสิน”เจียงหวานหว่านขัดจังหวะหรงซีฝ่าบาทขมวดคิ้ว “หนึ่งแสนตำลึง? หานเออร์ นี่มันเกิดเรื่องใดกัน?”หรงมู่หานสับสนกับคำถาม เขาจะติดหนี้เจียงหวานหว่านได้เช่นไร“ทูลฝ่าบาท หลายวันก่อนองค์ชายรองเสด็จไปเมืองชิงเหอ พบว่าชาวบ้านที่นั่นน่าสงสาร จึงได้กล่าวว่าจะนำเงินทรัพย์สินส่วนตัวหนึ่งแสนตำลึงมาช่วยชาวบ้านเมืองชิงเหอ”เจียงหวานหว่านกล่าวเหลวไหวในเมื่อหรงมู่หานกล่าวเหลวไหน นางก็จะกล่าวเหลวไหลเช่นกันหากหรงมู่หานไม่ยอมรับ นางก็มีวิธีทำให้เขายอมรับอยู่ดีฝ่าบาทเมื่อได้ฟังเจียง
วิชาการแพทย์ของเจียงหวานหวานล้ำเลิศ พิษในร่างกายของน้องชายจะกำจัดไปได้เมื่อใดก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว เขาต้องวางแผนเอาไว้“น้องชาย ช่วงนี้สุขภาพเจ้าดีหรือไม่ เจ้าไม่ได้ไปให้หมอหลวงตรวจนานแล้ว”หรงซีหุบสายตาลง จากนั้นก็ประสานมือ “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงนึกถึง ช่วงนี้น้องชายสุขภาพไม่ดี วันนี้จะไปให้หมอหลวงตรวจอาการ”ฝ่าบาทเมื่อได้รับฟังก็เบาพระทัยลงมากพิษในตัวน้องชายถูกถอนไปแล้วหรือไม่ ถามหมอหลวงก็รู้แล้วฝ่าบาทหรี่พระเนตร มีแผนการในพระทัยแค่หมอหลวงจับชีพจรก็จะรู้ว่าหรงซีถอนพิษไปแล้วหรือไม่“แม่นางเจียง โรคของหรงซี เจ้ามีวิธีรักษาหรือไม่?”ฝ่าบาททอดพระเนตรเจียงหวานหว่าน“ฝ่าบาท แม่นางเจียงก็รักษาโรคของข้าไม่หายเช่นกัน”หรงซีกล่าวประโยคหนึ่งเจียงหวานหว่านรู้สึกว่าหรงซีประหลาดมาก เหตุใดกล่าวเช่นนั้นทว่าเมื่อเห็นสายพระเนตรฝ่าบาท นางเข้าใจทันทีฝ่าบาทต้องการให้หรงซีประคองความมั่นคงของแคว้น เขาไม่มีทางเปิดโอกาสให้หรงซีได้ครองบัลลังก์ในสมองเจียงหวานหว่านผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาพิษหนอนกู่ในร่างกายหรงซีเป็นของฝ่าบาทจังหวะหัวใจนางเต้นเร็วขึ้น หากเป็นเช่นนี้ หรงซีก็จะถูกฝ่าบาทควบคุม
เซียวกุ้ยเฟยยิ้มอย่างอบอุ่น“ฝีมือของอ้ายเฟย ข้าชอบยิ่งนัก”ฝ่าบาทตรัสด้วยถ้อยคำสองแง่สองง่ามเซียวกุ้ยเฟยหุบตาลงด้วยความเขินอาย จากนั้นก็พยุงฝ่าบาทเดินไปด้วยกันรอจนกระทั่งไม่เห็นเงาฝ่าบาทแล้วหรงซีสีหน้าเย็นชา ดวงตาเย็นชายิ่งกว่า จับจ้องมองหรงมู่หานหรงมู่หานรับรู้ถึงความโกรธท่วมท้นของหรงซี“เสด็จอา หลานขอตัวก่อน”ระหว่างที่กล่าว สายตาเขาเหล่มองเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านกรอกตาบนใส่หรงมู่หานนัยน์ตาหรงซีใกล้ระเบิดแล้วเขาขยับข้อมือก้อนเงินถูกดีดออกไปดีดโดนบริเวณกระดูกขาของหรงมู่หาน“เอื้อ...”หรงมู่หานรู้สึกถึงกระแทกที่ขาความเจ็บปวดจู่โจมกะทันหัน ทำให้เขาทรุดเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเจียงหวานหว่าน”“องค์ชายรอง รู้ว่าผิดรู้จักแก้ไข เป็นสิ่งที่ดียิ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองเช่นนี้”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยท่าทางใจกว้าง“เจ้า พวกเจ้า...”หรงซีและเจียงหวานหว่านเดินเคียงข้างกันจากไปโดยไม่สนใจหรงมู่หานหรงมู่หานรู้ว่าเป็นฝีมือหรงซีความรู้สึกอัปยศอดสูพุ่งเข้าสู่หน้าอกใบหน้าของเขาถูกหรงซีกับเจียงหวานหว่านทำลายจนป่นปี้หรงมู่หานมองแผ่นหลังทั้งสองคนแล้วสาบานกับตัวเอง
เจียงหวานหว่านได้ฟังคำพูดของหรงซีก็หันไปยิ้มให้เซียวหวายอย่างจนปัญญา“เซียวหวาย ขอโทษด้วย พรุ่งนี้ข้าจะไปพบเจ้า”เซียวหวายยิ้มแย้ม “แม่นางเจียง พรุ่งนี้ข้ามารับเจ้า”“ก็ดี...”ยังไม่ทันได้กล่าวจบประโยค เจียงหวานหว่านรู้สึกว่าตัวเองถูกจับข้อมือเอาไว้ไม่รู้ว่าหรงซีลงมาจากรถม้าตั้งแต่เมื่อใดเขาสีหน้าบึ้งตึง ดึงข้อมือเจียงหวานหว่าน ลากนางขึ้นรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง โปรดปล่อยแม่นางเจียงด้วย”เซียวหวายเห็นเจียงหวานหว่านถูกหรงซีผลักขึ้นรถม้า เขาจึงตามไปขวางแต่ถูกเทียนซูขวางเอาไว้ เซียวหวายผลักเทียนซู ทว่าเทียนซูไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยหรงซีทำเหมือนไม่ได้ยินเซียวหวายโกรธเจียงหวานหว่านหันหน้ามากล่าวกลับเซียวหวายที่อยู่ด้านหลัง“คุณชายเซียว ข้าไปก่อนนะ”มือของหรงซีดึงศีรษะเจียงหวานหว่านเข้าไปในรถม้าเซียวหวายนั่งอยู่บนรถม้าสกุลเซียว กำลังตามท้ายรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง รถม้าของคุณชายเซียวตามอยู่ด้านหลัง”เทียนซูที่อยู่ด้านนอกกล่าวรายงานหรงซี“สะกดรอยตามราชวงศ์ มีเจตนาไม่ดี เทียนซู ส่งคุณชายเซียวไปยังสถานที่ที่เขาควรไป”เทียนซูลังเล“ท่านอ๋อง คุณชายเซียวเป็นน้องชายเซียวกุ้ย