เจียงจิ่นหนิงเดินกะเผลกเข้ามาในห้องของฮูหยินใหญ่เจียง"ท่านย่า มีคนมารังแกหลานรักของย่า ท่านต้องทวงความยุติธรรมให้ข้านะ!"ฮูหยินใหญ่เจียงมองไปแล้วก็ตกใจเจียงจิ่นหนิงใบหน้าซีกหนึ่งเขียวซีกหนึ่งม่วง แถมยังเดินกะเผลกหลิ่วซู่มองที่เจียงจิ่นหนิง เดินขึ้นหน้าไปโดยไม่รู้ตัวเจียงจิ่นหนิงไม่สนใจการมีตัวตนอยู่ของหลิ่วซู่ วิ่งไปร้องไห้ต่อหน้าของฮูหยินใหญ่เจียงฮูหยินใหญ่เจียงรู้สึกสงสารเป็นอย่างมาก"หลานรักของย่า ใครมันทำหลานย่าเป็นแบบนี้!"เจียงจิ่นหนิงชี้ไปที่รอยแผลบนใบหน้า พูดออกมาอย่างน่าสงสาร"ท่านย่า เจียงหวานหว่านเป็นคนตี นางไม่เพียงตีข้า แถมยังตีท่านแม่อีกด้วย!"เมื่อหลิ่วซู่ได้ยินเจียงจิ่นหนิงเรียกเฉาหยูเฟิ่งว่าท่านแม่ สองมือกำหมัดแน่นสายตาของฮูหยินใหญ่เจียงเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ "เจ้าบอกว่าน้องสาวเจ้าตีเจ้าจนมีสภาพเช่นนี้เหรอ!"เจียงจิ่นหนิงพยักหน้าอย่างแรง"คนในจวนต่างก็เห็นกันหมด"ฮูหยินใหญ่เจียงโมโห เดิมคิดว่าเจียงหวานหว่านกลับมาโกรธแค้นนางเฉา จึงลงมือทำร้ายคิดไม่ถึงว่านางจะลงมือโหดร้ายกับพี่ชายตัวเองได้ขนาดนี้เจียงจิ่นหนิงเป็นน้องชายคนเล็กสุดของบ้าน นางรักดั่
การที่หนิงเกอเออร์ถูกทำร้าย นางเองก็ปวดใจ แต่การที่เขาเรียกคนอื่นว่าแม่ ก็เหมือนกับการเอามีดมาแทงเข้าที่กลางใจของนาง เจ็บปวดจนไม่อาจหายใจได้ฮูหยินใหญ่เจียงโมโหจนควันแทบจะออกหู มีแม่ยังไงก็มีลูกสาวอย่างนั้นจริงๆ"ดูท่านิสัยของหวานเจี่ยเออร์ล้วนเป็นเจ้าที่คอยให้ท้ายจึงเป็นเช่นนี้!"หลิ่วซู่ไม่ตอบอะไรมุมปากเจียงหวานหว่านยกขึ้นเป็นยิ้มน้อยๆ พูดอย่างขำขันว่า "ท่านย่า นางเฉาขัดขวางการกลับจวนของนายหญิงของบ้าน ไม่สมควรถูกตบหรือ พี่ห้าอกตัญญู ทำให้วงศ์ตระกูลต้องขายหน้า ไม่สมควรโดนตีหรือ!""เจ้าพูดเหลวไหลอะไร นังเด็ก..."เจียงจิ่นหนิงเตรียมจะอ้าปากต่อว่าแต่สายตาที่ดุร้ายของเจียงหวานหว่าน ทำให้เขาไม่กล้าพูดออกไป จนถึงตอนนี้เขายังเจ็บอยู่เลย"หวานเจี่ยเออร์ เจ้าตบตีคนในครอบครัวที่หน้าประตูจวนเจียง คนภายนอกจะนินทาจวนเจียงว่าอย่างไร ขายหน้าทั้งตระกูลนะ!"เจียงหวานหว่านมองไปที่เจียงจิ่นหนิงอย่างเหยียดหยาม"ท่านย่าคะ ทำตามคำยุยงของนางเฉากีดกันไม่ให้แม่แท้ๆ กลับจวน ถือเป็นการอกตัญญู ไม่เคารพแม่แท้ๆ ด่าว่าแม่แท้ๆ ยิ่งอกตัญญู! ขอถามหน่อย คนสารเลวเช่นนี้ไม่ควรโดนตีหรือ!"ฮูหยินใหญ่เจียงพยายา
หลิ่วซู่อยากที่จะลุยขึ้นไปเจรจา แต่ก็ถูกเจียงหวานหว่านดึงห้ามไว้ก่อนเจียงหวานหว่านพูดกับหลิ่วซู่ด้วยเสียงเบาๆ ว่า "ท่านแม่ ไม่เป็นไร ท่านไม่ต้องเป็นห่วง!"ให้นางไปคุกเข่าที่ศาลบรรพชน ฝันไปเถอะ แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องชนกับยายแก่นี่โดยตรงเจียงจิ่นหนิงร้องคร่ำครวญตลอดทาง ถึงปากจะร้องว่าเจ็บ แต่ในใจก็แอบซะใจ ในที่สุดก็จัดการนังเด็กบ้าเจียงหวานหว่านได้สักทีหลิ่วซู่กลับเรือนเหมยพร้อมกับสือหลิ่วด้วยความกังวล แต่เจียงหวานหว่านกลับถูกจับไปขังที่ศาลบรรพชนเจียงหวานหว่านเพิ่งจะก้าวเข้าไปในศาลบรรพชน ประตูข้างหลังนางก็ปิดลงในทันทีมองไปรอบๆ แล้วเจียงหวานหว่านก็นั่งลงบนเบาะที่ใช้สำหรับคุกเข่า"คุณหนูหกเจ้าคะ ฮูหยินใหญ่บอกให้ท่านคุกเข่า ไม่ใช่นั่งลงเจ้าค่ะ"เสียงเนิบๆ ดังขึ้นมาจากหน้าประตู เจียงหวานหว่านยิ้มเย็น ดูท่าจะยังมีคนจับตาดูนางอยู่สินะราวกับไม่ได้ยิน เจียงหวานหว่านเอาเบาะสามอันมาวางชิดกันจากนั้นก็นอนลงด้านนอกประตูได้ยินเสียงคนพูดคุยกันลอยมา"ช่างสมแล้วที่มาจากบ้านนอก โทรมแค่ไหนก็ไม่หวั่น!""ก็ใช่น่ะสิ บังอาจมีเรื่องกับฮูหยินใหญ่ สมน้ำหน้าแล้ว!""ช่างเถอะๆ คนก็ถูกขังอยู่ข้าง
เจียงอวิ้นได้รับรู้เรื่องที่ศาลบรรพชนเกิดไฟไหม้ ก็รีบออกไปหาฮูหยินใหญ่เจียงทันที"ท่านย่า อวิ้นเออร์ตกใจหมดเลย ทำไมอยู่ดีๆ ศาลบรรพชนถึงเกิดไฟไหม้ได้ล่ะคะ!"เจียงอวิ้นแสดงสีหน้าหวาดกลัว หางตาก็แอบชำเลืองไปมองปฏิกริยาของฮูหยินใหญ่เจียงฮูหยินใหญ่เจียงสีหน้าเย็นเยียบ ไม่พูดอะไรเจียงอวิ้นพูดขึ้นอีกว่า "พี่หว่านโชคดีเหลือเกิน ไฟไหม้ใหญ่โตแบบนี้แต่ไม่เป็นอะไรเลย!""นังตัวซวย!"ฮูหยินใหญ่เจียงกัดฟันพูดออกมาสามคำเมื่อเจียงอวิ้นเห็นว่าฮูหยินใหญ่เจียงมีปฏิกริยาตอบกลับแล้ว ดวงตาก็ปรากฏแสงวาววับ"แต่จะว่าไป พี่หว่านก็โชคร้ายเหลือเกิน ดันมาเจอกับเหตุการณ์ไฟไหม้ศาลบรรพชนซะได้!"เจียงอวิ้นโทษเรื่องที่เกิดไฟไหม้ให้เป็นความผิดของเจียงหวานหว่านฮูหยินใหญ่เจียงก็ดูเหมือนจะเกิดสงสัยอะไรบางอย่าง"อวิ้นเออร์ เจ้าว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ เจียงหวานหว่านจะเป็นคนทำหรือเปล่า"เจียงอวิ้นรีบโบกไม้โบกมือ "ท่านย่า ไม่หรอกค่ะ หากว่าพี่หว่านวางเพลิงจริง ทำไมจะต้องทำให้ตัวเองเกือบจะโดนไฟครอกด้วยล่ะคะ!"ฮูหยินใหญ่เจียงรู้สึกปวดหัวจัด บอกให้เจียงอวิ้นกลับไปก่อนเมื่อเจียงอวิ้นกลับไป ฮูหยินใหญ่เจียงก็เรี
เจียงอวิ้นก็กำลังประเมินเจียงหวานหว่าน เจียงหวานหว่านสวยกว่านางอีกเหรอเนี่ยดวงตาสดใส ฟันขาวสะอาด ผิวพรรณเนียนละเอียด ขาวดุจหิมะ มีคนสวยงามขนาดนี้เชียวหรือ แววตาเจียงอวิ้นฉายประกายความอิจฉาแต่ความแค้นที่ฉายอยู่ในดวงตาของเจียงหวานหว่าน ทำให้เจียงอวิ้นอดสงสัยในใจไม่ได้"คารวะท่านพี่ ข้าคือเจียงอวิ้นน้องสาวของท่าน"เจียงหวานหว่านยิ้มเย็น"แม่ของข้ามีข้าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว ไม่ต้องมานับเรียกพี่สาวไปเรื่อย!"เจียงอวิ้นก็ไม่ได้โกรธอะไร "ท่านพี่ แม่ของข้าคือนางเฉาค่ะ!""ที่เจ้ามาที่นี่เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ท่านแม่ของเจ้าเหรอ"เจียงหวานหว่านพยายามข่มอารมณ์แค้นเคืองในใจของนางเจียงอวิ้นถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนพูดอย่างจนใจ"ท่านพี่ เจ้าเข้าใจท่านแม่ของข้าผิดแล้ว ต่อไปทุกคนก็คือครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวเดียวกันไม่มีความแค้นข้ามคืน ข้าเอาของบำรุงมาให้ ให้ฮูหยินได้บำรุงร่างกาย!"ชิวจวี๋ยกเอาสมุนไพรซึ่งมีฤทธิ์บำรุงร่างกายออกมา"ไม่จำเป็น เอากลับไป" เจียงหวานหว่านปฏิเสธเจียงอวิ้นทำสัญญาณให้ชิวจวี๋วางของลง"ท่านพี่ ข้ายังมียาบำรุงอีกมาก เดือนๆ หนึ่งพี่สามจะส่งมาให้ข้าเยอะมาก กิ
เจียงหวานหว่านมองสังเกตอยู่ครู่หนึ่ง ก็ยกมือขึ้นมาชี้ไปที่สาวใช้สองคนแม่นมหลี่ก็เรียกชื่อพวกนางให้ออกมายืนข้างนอก"มู่เซียง อวี้จู๋"ซึ่งเป็นคนที่เจียงหวานหว่านเลือกไว้เมื่อครู่"อวี้จู๋ สือหลิ่ว พวกเจ้าสองคนคอยรับใช้ท่านแม่นะ มู่เซียงอยู่กับข้า สาวใช้สามคนก็เพียงพอแล้ว ท่านแม่รักความสงบ เรือนเหมยก็ไม่ใหญ่ คนที่เหลือไม่จำเป็นหรอก!"แม่นมหลี่ขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาหรี่เล็ก"ฮูหยิน คุณหนู สาวใช้สำหรับปัดกวาดเช็ดถูไม่อาจไม่มีได้นะเจ้าคะ เรือนเหมยดูเหมือนจะเล็ก แต่ถ้าต้องทำความสะอาดขึ้นมาทีก็ไม่ง่าย ไม่สู้เก็บสาวใช้ไว้อีกสักหลายคนเพื่อช่วยงานดีกว่า พอเรือนเหมยจัดการลงตัวดีแล้ว ค่อยให้พวกเขากลับไป คุณหนูว่าแบบนี้ดีหรือไม่เจ้าคะ"แม่นมหลี่คนนี้ไม่ธรรมดา แสร้งถอยเพื่อรุก เชิญเจ้ามาง่ายส่งกลับยากน่ะสิ"ก็ได้"เจียงหวานหว่านยกยิ้มน้อยๆ เลือกสาวใช้มาอีกสี่คน"ชุนฮว๋า ชิวเยว่ ชิวซิน ไห่ถัง"แม่นมหลี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก คนที่เจียงหวานหว่านเลือกไปเป็นคนที่นางอยากให้เลือกพอดีสาวใช้หกคนยืนเรียงเป็นแถวเดียวกัน"พวกเจ้าคอยรับใช้ฮูหยินกับคุณหนูให้ดีล่ะ อย่าทำให้ฮูหยินใหญ่ผิดหวัง""เจ้าค่ะ" สา
มู่เซียงเพิ่งเดินออกไป ชุนฮว๋าก็ยกน้ำชาเดินเข้ามา"คุณหนู อีกไม่กี่วัน ก็จะถึงวันเกิดครบรอบหกสิบปีของฮูหยินใหญ่แล้ว คุณหนูรบกวนเตรียมของขวัญด้วย!"ชุนฮว๋าคิดเพื่อเจียงหวานหว่านด้วยใบหน้าจริงใจเจียงหวานหว่านยิ้มอย่างสงบ "เจ้านี่ช่างมีน้ำใจเสียจริง!"ชุนฮว๋าก้มหน้าค้อมรับ"ข้าน้อยตินนี้ติดตามคุณหนูอยู่ แน่นอนว่าต้องคิดเพื่อคุณหนู"เจียงหวานหว่านเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม"เจ้านี่ฉลาดเสียจริง"มุมปากชุนฮว๋ายกขึ้นเย้ยหยัน แต่เพียงไม่นานก็ถูกพรางลงไปด้วยรอยยิ้มจริงใจของนาง"คุณหนู คนในจวนล้วนรู้กันว่า ฮูหยินใหญ่ชอบเสื้อผ้าเครื่องประดับจากหอหนีซางที่สุด"เจียงหวานหว่านร้องเชอะเย็นชาในใจ ชุนฮว๋าเห็นนางเป็นคนบ้านนอกไปแล้วจริงๆ สินะเสื้อผ้าเครื่องประดับของหอหนีซาง เป็นสัญลักษณ์ของตัวตนฐานะ เลื่องชื่อเรื่องความดี และเลื่องชื่อเรื่องความแพงด้วยและทุกคนที่สามารถสวมเสื้อผ้าของหอหนีซาง ต้องเป็นผู้ที่สูงส่งสุงศักดิ์จุดที่สำคัญที่สุด เสื้อผ้าของหอหนีซางต้องสั่งล่วงหน้าถึงหนึ่งเดือนวันเกิดของท่านย่าก็อีกแค่ไม่กี่วันแล้ว เจตนาไม่ดีชัดๆแค่คนใช้คนหนึ่งกลับคิดจะเล่นตุกติกกับนาง เหลือจะเชื่อเส
เจียงหวานหว่านวุ่นในห้องครัวเล็กอยู่นาน มู่เซียงก็คอยเป็นลูกมือให้น้ำแกงบำรุงสองหม้อร้อนๆ ตุ๋นเสร็จแล้ว เพิ่มขนมก้อนรูปปลา กับขนมสมปรารถนาเข้าไปเจียงหวานหว่านยิ่งดูก็ยิ่งพอใจ"คุณหนู ไม่คิดเลยว่าฝีมือทำอาหารของท่านจะดีขนาดนี้!"มู่เซียวเอ่ยชมขึ้นมาเจียงหวานหว่านชิมรสชาติ "นำน้ำแกงกับขนมสมปรารถนานี้ส่งไปให้ฮูหยิน"ร่างกายของท่านแม่ต้องการการบำรุง พวกยาของบำรุงในจวนเจียงก็มีอยู่ไม่น้อยเลย เอามาบำรุงท่านแม่ได้พอดีจากนั้นจึงหยิบกล่องอาหารออกมา เจียงหวานหว่านนำน้ำแกงอีกส่วนและขนมก้อนรูปปลาใส่ไว้อย่างดี ปิดฝาลง"สือหลิ่ว"เจียงหวานหว่านตะโกนเข้าไปในเรือนสือหลิ่วพอได้ยินก็ออกมา"เอากล่องอาหารนี้ส่งไปที่จวนอ๋อง"เจียงหวานหว่านนำกล่องอาหารส่งให้สือหลิ่วสือหลิ่วเบ้ปาก "คุณหนู หลายวันนี้ ท่านเอาแต่ส่งของไปที่จวนอ๋อง ถุงหอมบ้าง ยาลูกกลอนบ้าง ขนมบ้าง น้ำแกงบ้าง...ท่านไม่เหนื่อยหรือไรกัน!"เจียงหวานหว่านใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากสือหลิ่ว "ถ้าไม่ใช่ท่านอ๋องมาช่วยเหลือ พวกเราจะเข้ามาในจวนตระกูลเจียงคงต้องลงแรงอีกมาก ส่งน้ำใจไปบ้างมันก็แน่นอนอยู่แล้วนี่!""คุณหนู ทุกครั้งที่ข้าออกจ
เจียงหวานหว่านตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองชาติก่อน หรงมู่หานขังนางเอาไว้ในห้องลับ ยังมีสตรีอีกนางหนึ่งอยู่ด้วยตอนที่นางถูกจับเข้าไป สตรีนางนั้นก็ถูกนำตัวออกไปสตรีนางนั้นหายใจโรยรินตอนที่หิ้วสตรีนางนั้นออกไป นางได้เห็นใบหน้าสตรีนางนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจตอนนั้นคิดว่าสตรีนางนั้นหน้าตาคุ้นตามากเมื่อรวมกับใบหน้าของหรงซี สตรีนางนั้นและหรงซีมีความคล้ายกันอยู่แปดส่วนคงเป็นเสด็จแม่ของหรงซีซ่างกวนเสวี่ยเจียงหวานหว่านมองหรงซีด้วยสายตาสับสนนางรู้แล้ว เป็นความลับที่ชาติก่อนนางกับหรงซีไม่ล่วงรู้นางคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับหรงซีเช่นไรหรงซีเห็นสีหน้าเจียงหวานหว่านก็คิดว่านางต้องรู้เรื่องบางอย่าง“เจ้ารู้จักเสด็จแม่ข้า?”หรงซีกล่าวประโยคนี้ออกมาสัญชาตญาณเขาบอกเขาว่าเจียงหวานหว่านเคยพบเสด็จแม่ของเขาเจียงหวานหว่านสับสนในใจห้องลับอยู่ในห้องอักษรของฝ่าบาทหากสตรีนางนั้นเป็นเสด็จแม่ของหรงซีจริงเช่นนั้นใครเป็นผู้บงการเรื่องการหายตัวของเสด็จแม่หรงซี ก็ไม่ต้องคาดเดาแล้วเป็นฝ่าบาทองค์ปัจจุบันฝ่าบาทมีประสงค์ใดจึงได้กักขังเสด็จแม่ของหรงซีเอาไว้ในห้องลับหรือเพื่อควบคุมอำนาจทหารในมือหรง
“เจียงหวานหว่าน เจ้าเคยทำอาหารให้เซียวหวายกินหรือไม่?”เจียงหวานหว่านยิ้ม “นอกจากท่านแม่และสือหลิ่วแล้ว ข้าเคยทำอาหารให้ท่านอ๋องแค่คนเดียว”หรงซีพอใจกับคำตอบของเจียงหวานหว่านมาก“ต่อไปทำอาหารให้ข้ากินได้คนเดียวเท่านั้น”เจียงหวานหว่านคิดสักพัก “ได้”หรงซีพอใจมากเมื่อเห็นคราบโจ๊กที่มุมปากนางหรงซีใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดให้ ทำเอาเจียงหวานหว่านเขินจนหน้าแดง“ท่านอ๋อง มือท่านไม่มีแรงไม่ใช่หรือ?”เจียงหวานหว่านถามอย่างรู้ทัน“อืม”หรงซีหน้าไม่แดง ใจไม่เต้นเร็วเจียงหวานหว่านเบะปาก หรงซีกำลังโกหกชัดๆแต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่หรงซีถูกพิษเพราะขนมของนาง นางก็ยอมให้ความร่วมมือกับเขา“ท่านอ๋องต้องกินให้มากหน่อย ไม่แน่พรุ่งนี้ก็อาจลุกจากเตียงได้แล้ว”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยความหงุดหงิด“ยาพิษกลืนวิญญาณ จะหายเร็วเพียงนั้นได้เช่นไร”“ตุบ”ชามในมือเจียงหวานหว่านร่วงลงพื้น“ท่านถูกยาพิษกลืนวิญญาณ?”ผู้ถูกยาพิษกลืนวิญญาณจะต้องตายภายในสามวันนางจับมือของหรงซีแล้ววางนิ้วมือตัวเองทาบลงไปหรงซีเห็นท่าทางร้อนใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นในใจ“ชีพจรท่านอ๋องได้รับความเสียหาย ยังดีที่ยายใบ้อยู่ด้วย
เจียงหวานหว่านส่ายหน้า นางไม่ได้วางยาหรงซี“ปล่อยนาง”หรงซีได้ยินเสียงจึงเอ่ยปาก“ท่านอ๋อง พิษถอนหมดแล้ว พักผ่อนมากๆ”หญิงชรานั่งอยู่ข้างเตียงหรงซีกล่าวเสียงทุ้มต่ำ“ขอบคุณมากยายเฒ่า”หรงซีกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรงหญิงชราลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปตอนที่เจียงหวานหว่านได้เห็นใบหน้าหญิงชราก็ใจกระตุกหญิงชราก็คือยายใบ้ อาจารย์ของซิ่วกู่“เทียนซู เจ้าก็ออกไปด้วย”“ท่านอ๋อง แต่ว่า...”เทียนซูไม่ไว้ใจกลัวว่าเจียงหวานหว่านจะคิดร้ายต่อท่านอ๋อง“ออกไป...”แม้เสียงของหรงซีจะอ่อนแรง แต่น้ำเสียงนั้นก็เกินพอแล้วเทียนซูมองเจียงหวานหว่านด้วยสายตาเตือน จากนั้นก็ออกจากห้องไปเจียงหวานหว่านเห็นหรงซีใบหน้าซีดขาว นางไม่กล้าเข้าไปหานางนึกถึงฉากที่หรงซีตายเพื่อนางในชาติที่แล้วขึ้นมา“เข้ามา”หรงซีขมวดคิ้วเจียงหวานหว่านน้ำตาตก เดินเข้าไปหาหรงซี“เจียงหวานหว่าน เป็นโชคดีของเจ้าที่ข้ายังไม่ตาย”หรงซีมองเจียงหวานหว่านที่กำลังตื่นตระหนกทำสิ่งใดไม่ถูกเขาถูกพิษหลังจากที่กินขนมของเจียงหวานหว่านแต่เขาไม่สงสัยในตัวเจียงหวานหว่านสักนิด“ท่านอ๋อง ข้าไม่รู้เหตุใด...”“เจ้าไม่ใช่คนวางยา ข้ารู้”
“ไอ้หยา”เจียงจิ่นเซวียนแกล้งทำเงินตกพื้นอย่างไม่ตั้งใจสือหลิ่วเห็นดังนั้นก็วางกล่องอาหารลงและวิ่งไปเก็บเศษเงินที่ตกกระจายอยู่ทั่วพื้นเจียงจิ่นเซวียนค่อยๆ ขยับและเปิดกล่องอาหารอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โรยผงบางอย่างลงไปสือหลิ่วเก็บเศษเงินกลับมาหมดแล้ว เจียงจิ่นเซวียนกล่าวขอโทษ “แม่นางสือหลิ่วลำบากแล้ว”“ไม่เป็นไร คุณชายสี่ ข้าไปก่อนเจ้าค่ะ”สือหลิ่วหยิบกล่องอาหารขึ้นมาแล้วบอกลาเจียงจิ่นเซวียนเจียงจิ่งเซวียนกล่าวอย่างนุ่มนวล “แม่นางสือหลิ่วเดินทางระวังด้วย”“เจ้าค่ะ”สือหลิ่วรู้สึกเขินอายหลังจากพยักหน้าให้เจียงจิ่นเซวียนแล้ว นางก็เดินทางไปจวนอ๋องในมุมที่สือหลิ่วมองไม่เห็น เจียงจิ่นเซวียนยิ้มเยาะเย็นชานี่คือบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาให้เจียงหวานหว่านสือหลิ่วไม่สงสัยสักนิด นางเดินถือกล่องอาหารมาถึงจวนอ๋องหลังส่งกล่องอาหารเรียบร้อย นางไปร้านหนังสือเพื่อซื้อกระดาษให้เจียงจิ่นเซวียนซื้อกระดาษเสร็จแล้ว สือหลิ่วกลับถึงจวนและนำกระดาษไปส่งให้เจียงจิ่นเซวียน“แม่นางสือหลิ่ว เรื่องซื้อกระดาษในวันนี้ ไม่ต้องบอกน้องหก นางไม่ชอบให้ข้าเข้าใกล้คนเรือนเหมย หากนางรู้ว่าข้าเรียกใช้คนข
เจียงหวานหว่านมองดูรถม้าจวนอ๋องจากไปรถม้าจวนอ๋องไปไกลแล้ว เจียงหวานหว่านเก็บสายตากลับมาและเดินเข้าจวนไป“น้องหก รอก่อน”เจียงจิ่นเซวียนเรียกเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหยุดเดินแล้วถามเสียงเย็น “มีเรื่องใด?”“น้องหก ได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋อง เป็นวาสนาของเจ้านัก ต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าทำให้ท่านอ๋องโกรธจนลากคนในจวนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”เจียงจิ่นเซวียนเดินมาข้างกายเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหงุดหงิด เจียงจิ่นเซวียนไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปจริงด้วย คอยแต่จะหาโอกาสถากถางนางน้ำเสียงดูแคลนหาว่านางไม่คู่ควรกับท่านอ๋อง ช่างเป็นพี่ชายแท้ๆ ของนางจริงๆ“พี่สี่คอยปรนนิบัติรัชทายาทมาตั้งหลายปี การประจบสอพลอคงเป็นสิ่งที่พี่สี่ถนัดนัก หน้าไหว้หลังหลอกเป็นความสามารถโดดเด่นของพี่สี่ พี่สี่ใช้ชีวิตได้อย่างหน้าซื่อใจคดจริงๆ”รอยยิ้มจอมปลอมของเจียงจิ่นเซวียนเลือนหายไปเขานึกไม่ถึงว่าเจียงหวานหว่านจะด่าเขาไม่ไว้หน้าสักนิดเจียงหวานหว่านไม่มองเจียงจิ่นเซวียนแม้แต่น้อย นางเดินเข้าไปในประตูจวนหากอยู่นานกว่านี้หน่อยนางยิ่งรู้สึกขยะแขยง เจียงจิ่นเซวียนน่ารังเกียจกว่าเจียงจิ่นหนิงเสียอีกเจียงจิ่น
นางเปิดผ้าม่านเตรียมตัวลงรถม้าทันใดก็ถูกแรงกระชากนางกลับเข้ามาในรถม้าเจียงหวานหว่านจมเข้าสู่อ้อมกอดหรงซีกลิ่นหอมอำพันทะเลลอยเข้าจมูกนางหรงซีกุ้มหน้ามองเจียงหวานหว่านไม่พูดไม่จาเจียงหวานหว่านคิดจะลุกขึ้นกลับถูกหรงซีกอดเอาไว้แน่นคนสองคนจ้องตากันและกัน ไม่มีใครพูดจา“เหตุใดรถม้าจวนอ๋องถึงจอดอยู่ตรงนี้?”เจียงจิ่นเซวียนกลับมาถึงจวนพอดีและเห็นรถม้าจวนอ๋องจอดอยู่หน้าบ้านของตนเจียงหวานหว่านได้ยินเสียงเจียงจิ่นเซวียน ดวงตาก็กลับมาแจ่งชัดอีกครั้ง“ท่านอ๋อง พี่สี่ข้าอยู่ข้างนอก รีบปล่อยข้า”หรงซียิ้มเย็น “ข้าต้องกลัวเขาด้วย?”เจียงหวานหว่านกัดฟัน “ท่านอ๋องไม่กลัว แต่ชื่อเสียงข้าไม่เหลือแล้ว วันหน้าหากแต่งงานก็จะถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์เอาได้”“เจ้าคิดจะแต่งกับใคร? กู้ฉางชิง? หรือเซียวหวาย?”เจียงหวานหว่านประหลาดใจ นางแต่งงานเกี่ยวข้องอันใดกับพวกเขาฝีเท้าของเจียงจิ่นเซวียนเดินเข้ามาใกล้เจียงหวานหว่านกดร่างต่ำลงแล้วกล่าวอย่างออดอ้อน “ท่านอ๋อง ขอร้องท่านล่ะ”หรงซีได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเจียงหวานหว่าน ความโมโหในใจลดไปไม่น้อย“เจียงหวานหว่าน เจ้าติดค้างข้า ครั้งหน้าข้าไม่ปล่อ
เจียงหวานหว่านได้ฟังคำพูดของหรงซีก็หันไปยิ้มให้เซียวหวายอย่างจนปัญญา“เซียวหวาย ขอโทษด้วย พรุ่งนี้ข้าจะไปพบเจ้า”เซียวหวายยิ้มแย้ม “แม่นางเจียง พรุ่งนี้ข้ามารับเจ้า”“ก็ดี...”ยังไม่ทันได้กล่าวจบประโยค เจียงหวานหว่านรู้สึกว่าตัวเองถูกจับข้อมือเอาไว้ไม่รู้ว่าหรงซีลงมาจากรถม้าตั้งแต่เมื่อใดเขาสีหน้าบึ้งตึง ดึงข้อมือเจียงหวานหว่าน ลากนางขึ้นรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง โปรดปล่อยแม่นางเจียงด้วย”เซียวหวายเห็นเจียงหวานหว่านถูกหรงซีผลักขึ้นรถม้า เขาจึงตามไปขวางแต่ถูกเทียนซูขวางเอาไว้ เซียวหวายผลักเทียนซู ทว่าเทียนซูไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยหรงซีทำเหมือนไม่ได้ยินเซียวหวายโกรธเจียงหวานหว่านหันหน้ามากล่าวกลับเซียวหวายที่อยู่ด้านหลัง“คุณชายเซียว ข้าไปก่อนนะ”มือของหรงซีดึงศีรษะเจียงหวานหว่านเข้าไปในรถม้าเซียวหวายนั่งอยู่บนรถม้าสกุลเซียว กำลังตามท้ายรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง รถม้าของคุณชายเซียวตามอยู่ด้านหลัง”เทียนซูที่อยู่ด้านนอกกล่าวรายงานหรงซี“สะกดรอยตามราชวงศ์ มีเจตนาไม่ดี เทียนซู ส่งคุณชายเซียวไปยังสถานที่ที่เขาควรไป”เทียนซูลังเล“ท่านอ๋อง คุณชายเซียวเป็นน้องชายเซียวกุ้ย
เซียวกุ้ยเฟยยิ้มอย่างอบอุ่น“ฝีมือของอ้ายเฟย ข้าชอบยิ่งนัก”ฝ่าบาทตรัสด้วยถ้อยคำสองแง่สองง่ามเซียวกุ้ยเฟยหุบตาลงด้วยความเขินอาย จากนั้นก็พยุงฝ่าบาทเดินไปด้วยกันรอจนกระทั่งไม่เห็นเงาฝ่าบาทแล้วหรงซีสีหน้าเย็นชา ดวงตาเย็นชายิ่งกว่า จับจ้องมองหรงมู่หานหรงมู่หานรับรู้ถึงความโกรธท่วมท้นของหรงซี“เสด็จอา หลานขอตัวก่อน”ระหว่างที่กล่าว สายตาเขาเหล่มองเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านกรอกตาบนใส่หรงมู่หานนัยน์ตาหรงซีใกล้ระเบิดแล้วเขาขยับข้อมือก้อนเงินถูกดีดออกไปดีดโดนบริเวณกระดูกขาของหรงมู่หาน“เอื้อ...”หรงมู่หานรู้สึกถึงกระแทกที่ขาความเจ็บปวดจู่โจมกะทันหัน ทำให้เขาทรุดเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเจียงหวานหว่าน”“องค์ชายรอง รู้ว่าผิดรู้จักแก้ไข เป็นสิ่งที่ดียิ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองเช่นนี้”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยท่าทางใจกว้าง“เจ้า พวกเจ้า...”หรงซีและเจียงหวานหว่านเดินเคียงข้างกันจากไปโดยไม่สนใจหรงมู่หานหรงมู่หานรู้ว่าเป็นฝีมือหรงซีความรู้สึกอัปยศอดสูพุ่งเข้าสู่หน้าอกใบหน้าของเขาถูกหรงซีกับเจียงหวานหว่านทำลายจนป่นปี้หรงมู่หานมองแผ่นหลังทั้งสองคนแล้วสาบานกับตัวเอง
วิชาการแพทย์ของเจียงหวานหวานล้ำเลิศ พิษในร่างกายของน้องชายจะกำจัดไปได้เมื่อใดก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว เขาต้องวางแผนเอาไว้“น้องชาย ช่วงนี้สุขภาพเจ้าดีหรือไม่ เจ้าไม่ได้ไปให้หมอหลวงตรวจนานแล้ว”หรงซีหุบสายตาลง จากนั้นก็ประสานมือ “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงนึกถึง ช่วงนี้น้องชายสุขภาพไม่ดี วันนี้จะไปให้หมอหลวงตรวจอาการ”ฝ่าบาทเมื่อได้รับฟังก็เบาพระทัยลงมากพิษในตัวน้องชายถูกถอนไปแล้วหรือไม่ ถามหมอหลวงก็รู้แล้วฝ่าบาทหรี่พระเนตร มีแผนการในพระทัยแค่หมอหลวงจับชีพจรก็จะรู้ว่าหรงซีถอนพิษไปแล้วหรือไม่“แม่นางเจียง โรคของหรงซี เจ้ามีวิธีรักษาหรือไม่?”ฝ่าบาททอดพระเนตรเจียงหวานหว่าน“ฝ่าบาท แม่นางเจียงก็รักษาโรคของข้าไม่หายเช่นกัน”หรงซีกล่าวประโยคหนึ่งเจียงหวานหว่านรู้สึกว่าหรงซีประหลาดมาก เหตุใดกล่าวเช่นนั้นทว่าเมื่อเห็นสายพระเนตรฝ่าบาท นางเข้าใจทันทีฝ่าบาทต้องการให้หรงซีประคองความมั่นคงของแคว้น เขาไม่มีทางเปิดโอกาสให้หรงซีได้ครองบัลลังก์ในสมองเจียงหวานหว่านผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาพิษหนอนกู่ในร่างกายหรงซีเป็นของฝ่าบาทจังหวะหัวใจนางเต้นเร็วขึ้น หากเป็นเช่นนี้ หรงซีก็จะถูกฝ่าบาทควบคุม