ตอนที่ 7 คิดหนี
หลายวันมานี้อาชาไนยไม่ได้กลับไปที่เพ้นท์เฮ้าส์ เขาเลือกที่จะกลับไปนอนที่บ้าน พอตอนเช้าก็เข้ามาทำงานที่โรงแรม จนดาหวันเลขาสาวสวยได้แต่นึกแปลกใจ เพราะตอนแรกผู้เป็นเจ้านายบอกกับเธอว่าอาจจะไม่ได้เข้ามาที่โรงแรมอีกหลายวัน แต่เธอก็ยังเห็นเจ้านายหนุ่มสุดหล่อยังคงมาทำงานตามปกติอยู่ทุกวันเหมือนเดิม จนเธอเองได้แต่คิดว่าเจ้านายของเธอคงจะเป็นไบโพล่า นิ้วมือเรียวยาวพลิกเปิดอ่านแฟ้มเอกสารตรงหน้าไปมา และตรวจเช็ครายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบคอบ “คุณอาชาคะ คุณพลอยใสมาขอเข้าพบค่ะ” เสียงปลายสายจากเลขาสาวสวยดังขึ้น ก่อนชายหนุ่มจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างรู้สึกเบื่อหน่าย “อืม ให้เธอเข้ามาได้” น้ำเสียงทุ้มต่ำกรอกผ่านปลายสาย ก่อนหญิงสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่มีนามว่าพลอยใสจะเดินกรีดกรายเข้ามาภายในห้อง “คุณอาชาข๋า..กว่าจะให้พลอยเข้าพบได้ พลอยนี่แทบจะต้องไปดูดวงล่วงหน้าแล้วนะคะเนี่ย” เสียงหวานเย้ายวนชวนขนลุกดังมาจากประตูทางเข้า ใบหน้าคมคายละจากกองเอกสารตรงหน้า พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองทางเจ้าของต้นเสียงนั้นด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ก่อนร่างสูงเพรียวราวกับนางแบบของพลอยใสคู่ขาคนโปรดรายล่าสุดจะเดินปรี่เข้ามาหา หญิงสาวเดินกระเง้ากระงอดตรงเข้ามาหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ก่อนจะเดินไปหย่อนสะโพกกลมกลึงลงบนหน้าขาแข็งแกร่ง พร้อมกับสอดประสานแขนเรียวเล็กขึ้นไปโอบกอดลำคอหนาอย่างถือวิสาสะ “ขยับออกไปหน่อย ผมทำงานไม่ถนัด” ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำปนหงุดหงิด ก่อนจะจับแขนเรียวเล็กของหญิงสาวให้ออกจากการโอบกอด “ทำไมคะ หรือว่าคุณมีคู่ขาคนใหม่แล้ว ถึงได้มีท่าทีห่างเหินกับพลอยขนาดนี้” น้ำเสียงแหลมเล็กพูดแหวขึ้นมาทันที ก่อนจะลุกขึ้นจากหน้าตักแกร่งของชายหนุ่ม แล้วจึงเปลี่ยนมายืนข้าง ๆ เขาแทน “คุณก็เห็นว่าตอนนี้ผมยุ่งอยู่ และผมก็ไม่มีเวลาคุยด้วยหรอกนะ ถ้าคุณมีธุระอะไรสำคัญก็รีบ ๆ พูดมาเถอะ” “แหม๋..พูดซะดูห่างเหินจังเลยนะคะ นี่ถ้าพลอยไม่มีธุระสำคัญอะไร พลอยก็คงไม่มีสิทธิ์ที่จะมาหาคุณอย่างงั้นเหรอคะ!” น้ำเสียงปนน้อยใจถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากบางของหญิงสาว พร้อม ๆ กับทำหน้าง้ำหน้างอใส่อีกฝ่ายเพื่อหวังว่าจะให้อีกฝ่ายงอนง้อ “เอาไว้ถ้าผมทำงานเสร็จเมื่อไหร่ผมจะไปหา และจะจัดหนักจัดเต็มให้หนำใจ จนคุณคลานลงจากเตียงไม่ได้สักสามวันเลย โอเคไหมครับ? แต่ตอนนี้ผมไม่ว่างจริง ๆ ผมต้องรีบเคลียร์เอกสารพวกนี้ให้เสร็จก่อน หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ” “จริงนะคะ งั้นพลอยโอเคก็ได้ค่ะ ว่าแต่อย่าลืมอย่างที่พูดไว้นะคะ ว่าจะจัดหนักจัดเต็มให้พลอยน่ะ งั้นพลอยกลับก่อนนะคะ จุ๊บ!” นัยน์ตาโฉบเฉี่ยวสุดเซ็กซี่มองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างยั่วยวน ก่อนจะโน้มใบหน้าเรียวเล็กก้มลงไปหอมแก้มสากของเขาเบา ๆ เพื่อเป็นการร่ำลา “อืม ไว้ผมจะโทรหา” สายตาคมกริบทอดมองไปตามแผ่นหลังขาวเนียนของหญิงสาว เมื่อเธอได้เดินทอดกายออกไปแล้ว พร้อมกับส่ายหัวเบา ๆ อย่างเอือมระอา เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็นที่เขามัวแต่ขลุกอยู่กับกองเอกสารบนโต้ะ หลังจากจัดการเอกสารกองโตเสร็จแล้ว ชายหนุ่มก็เรียกให้ดาหวันเลขาสาวสวยมารับเอกสารไป ก่อนร่างสูงโปร่งกำยำจะลุกขึ้นจากโต้ะผู้บริหาร และตรงดิ่งลงไปที่ลานจอดรถ ซึ่งมีเมธีลูกน้องคนสนิทสแตนบายรออยู่ก่อนแล้ว “นายจะกลับบ้าน หรือว่าจะกลับไปที่เพ้นท์เฮ้าส์ครับ” เมธีลูกน้องคนสนิทถามขึ้น เมื่อผู้เป็นเจ้านายขึ้นมานั่งอยู่บนรถเรียบร้อยแล้ว “ไปผับไอ้คีย์ กูมีนัดที่นั่น” “ครับนาย” เมธีก้มหัวรับคำผู้เป็นเจ้านาย ก่อนจะขับรถมุ่งตรงไปยังจุดหมายทันที รถยนต์คันหรูขับเคลื่อนเข้ามาจอดที่ลานจอดรถส่วนตัวของผับหรูซึ่งเพื่อนสนิทของเขาเป็นเจ้าของ วันนี้เขามีนัดกับเพื่อนสนิทอย่างคีตภัทรและเจได อีกทั้งเขาเองยังต้องการที่จะดื่มเพื่อผ่อนคลายกับเพื่อน ๆ เช่นกัน ถึงแม้จะยังไม่ถึงเวลาผับเปิดก็ตาม ร่างสูงก้าวขาลงจากรถ ก่อนจะมุ่งตรงขึ้นไปยังชั้นบนสุด ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของผับแห่งนี้ และเป็นพื้นที่สำหรับเพื่อน ๆ ที่ใช้เพื่อดื่มสังสรรค์พูดคุยกัน “สวัสดีครับคุณอาชา” แรมโบ้ก้มหัวโค้งคำนับให้เพื่อนสนิทของผู้เป็นเจ้านาย ก่อนอาชาไนยจะพยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบรับ “จัดอะไรแรง ๆ มาให้กูดับกระหายด้วยนะ” “ได้ครับคุณอาชา” แรมโบ้โค้งคำนับให้อีกครั้ง ก่อนอาชาไนยจะพาร่างสูงโปร่งของตัวเองเดินเลี่ยงขึ้นไปยังชั้นบนทันที เมื่อขึ้นมาถึงชั้นเป้าหมายแล้ว มือหนาก็เปิดประตูเข้าไปด้านในโดยไม่มีการส่งสัญญานอะไรให้บุคคลที่อยู่ข้างในนั้นได้รับทราบ แกร่ก!! “หึ มาแล้วเหรอพ่อคนเถื่อน!!” คีตภัทรพูดขึ้นทักทาย เมื่ออาชาเดินเข้ามาด้านในด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง “นั่งลง แล้วก็เล่ามา กูอยากรู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้ผู้ชายใจเย็น และแสนจะอบอุ่นอย่างมึงเปลี่ยนเป็นคนป่าเถื่อนไปได้ถึงขนาดนี้” คราวนี้เจไดพูดขึ้นมาบ้าง เพราะไม่อยากจะให้เสียเวลาไปมากกว่านี้แล้ว “ใจร้อนเป็นคนแก่ไปได้นะพวกมึง” “ไอ้คีย์เล่ามันไม่ได้อรรถรสเหมือนตัวปัญหาอย่างมึงเป็นคนเล่าไงวะ” เจไดพูดขึ้นอย่างทีเล่นทีจริง ก่อนแรมโบ้ลูกน้องคนสนิทของคีตภัทร จะให้เด็กเอาเครื่องดื่มที่เพื่อนสนิทของเจ้านายตัวเองสั่งมาเสิร์ฟให้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก!! “เข้ามา” “ของที่คุณอาชาสั่งได้แล้วครับ” “อืม มึงออกไปได้” คีตภัทรพูดขึ้นก่อนจะสั่งให้ลูกน้องในปกครองของตัวเองออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ดื่มแต่หัววันขนาดนี้ กลับถึงบ้านเมียไม่เอาสากกระเบือฟาดหัวกูตายเหรอวะ ดุยิ่งกว่าหมาอยู่ด้วยเมียกู ฮ่า ๆ” คีตภัทรพูดขึ้นอย่างทีเล่นทีจริง ก่อนทั้งสามคนจะหัวเราะชอบใจ และพูดคุยสนทนากันจนเวลาล่วงเลยไปเกือบสองชั่วโมง เมื่อพอจะทราบเหตุผลจริง ๆ ที่เพื่อนอย่างอาชาได้กระทำลงไปแล้ว ทั้งคีตภัทรและเจไดก็รู้สึกเห็นใจเพื่อนอยู่มากเหมือนกัน เพราะพอจะรู้ว่าอาชารักกันตา หรือน้องกวางผู้เป็นน้องสาวเพียงคนเดียวมากแค่ไหน แต่ถึงกระนั้นเด็กผู้หญิงที่ชื่อกระต่ายเธอเองก็ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่เธอต้องมารับผลกรรมแทนพี่ชายของเธอแบบนี้ ก็รู้สึกเห็นใจแม่สาวน้อยคนนั้นไม่น้อยเช่นกัน ถึงแม้ว่าสาเหตุที่ทำให้น้องสาวของอาชาไนยต้องเสียชีวิตจะเป็นเพราะพี่ชายของเธอ ทว่าเธอเองคงจะไม่ได้รู้สึกยินดีที่เพื่อนรักต้องมาตายอย่างน่าอนาถแบบนี้หรอก เพราะจริง ๆ แล้วอุบัติเหตุมันสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมอาชาต้องโกรธแค้นเธอมากมาย ถึงขนาดต้องเอาผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มาขังไว้โดยไม่แม้แต่จะได้รับอิสรภาพแบบนี้ “กูถามจริง ๆ นะเว้ยอาชา มึงแค่ต้องการแก้แค้นไอ้ต่อ และต้องการแค่ให้น้องกระต่ายน้อยเป็นตัวหลอกล่อให้ไอ้พี่ชายชั่ว ๆ นั่นกลับมารับกรรมที่ตัวเองก่อแค่นั้นจริง ๆ เหรอวะ?” เจไดถามขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจัง และรอฟังคำตอบจากเพื่อนสนิทอย่างใจจดใจจ่อ “หรือว่าจริง ๆ แล้ว มึงชอบน้องกระต่ายกันแน่วะ เลยหาเรื่องจะเอาเขามาทำเมีย” คราวนี้คีตภัทรพูดขึ้นมาบ้างพลางจ้องหน้าเพื่อนของเขาอย่างจับผิด “แล้วมันแปลกตรงไหน ถ้ากูจะเอาเด็กนั่นมาทำเมีย เธอสมควรชดใช้ความผิดแทนไอ้ต่อศักดิ์พี่ชายของเธอ แค่นี้มันยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ กูไม่ฆ่าน้องมันให้ตายตามน้องกูไปก็บุญเท่าไหร่แล้ว” น้ำเสียงเข้มดุดันถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากหนา ประกอบกับแววตาแข็งกร้าวที่แสดงออกมาให้เห็น คีตภัทรและเจไดจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เพียงเท่านั้น เพราะพวกเขาคงไม่อาจไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเพื่อนมากไปกว่านี้ได้ เช้าวันต่อมา… แค่ก แค่ก!! กนกรดาไอแค่ก ๆ ก่อนเธอจะค่อย ๆ ก้าวขาเรียวเล็กลงจากเตียงนอน หลายวันมานี้เธอมักจะลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเธอเองอยู่ตามลำพังเพียงคนเดียว หากเป็นเวลาอาหาร เธอก็จะได้พบกับนมพรซึ่งเป็นแม่นมของผู้ชายคนนั้น นมพรใจดีคอยดูแลป้อนข้าวป้อนยาให้กับเธอ อีกทั้งยังคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ในช่วงเวลาที่เธอไข้ขึ้นสูงและกึ่งหลับกึ่งตื่น แม้แต่เรี่ยวแรงที่จะขยับเนื้อตัวก็แทบจะไม่มี จนกระทั่งตอนนี้เธอรู้สึกมีแรงลุกขึ้นนั่งได้แล้ว กนกรดาพบว่าตัวเองอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่ง และน่าจะเป็นเสื้อของผู้ชายคนนั้น แม้แต่ซับในเธอก็ไม่ได้สวมใส่ เธอมีเพียงแค่เสื้อเชิ้ตตัวนี้เพียงตัวเดียวที่ใช้ห่อหุ้มร่างกายของเธออยู่ แกร่ก!! เสียงไขกุญแจจากภายนอกดังเล็ดออกมาให้ได้ยิน ทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์ความคิด ก่อนจะหันขวับกลับไปมองอย่างตื่นตกใจและหวาดระแวง ความคิดที่อยากจะหนีออกไปจากที่นี่วาบขึ้นมาในหัว ถึงแม้ว่าหลายวันที่ผ่านมานมพรจะดูแลเธออย่างดี แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เธอจะต้องยินยอมพร้อมใจที่จะต้องถูกขังไว้ที่นี่ ทั้งที่ตัวเธอเองไม่ได้ทำผิดอะไรเลยด้วยซ้ำ มือเรียวบางยกขึ้นมากำอกเสื้อด้านซ้ายเอาไว้แน่นเพื่อหวังว่าจะลดอัตราการเต้นของก้อนเนื้อหน้าอกด้านซ้าย ที่มันเต้นกระหน่ำจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ในขณะที่ดวงตากลมโตกำลังเพ่งเล็งไปที่ประตูบานใหญ่ สองขาเรียวก้าวลงจากเตียงนอน เพื่อที่จะแอบไปอยู่ตรงหลังประตูบานใหญ่เมื่ออีกฝ่ายเปิดเข้ามาจะได้มองไม่เห็นเธอ และเมื่อได้จังหวะที่นมพรเปิดประตูเข้ามา พร้อมกับยกถาดอาหารเช้าเดินเข้ามาภายในห้อง เธอจึงรีบวิ่งพรวดพราดออกไปทันที ก่อนเสียงของนมพรจะอุทานลั่นออกมาตามหลัง “ตายแล้ว!! คุณต่ายอย่าออกไปค่ะ” กนกรดาหันไปตามเสียงนั้นเพียงนิดแต่เธอก็ไม่ได้สนใจ และตั้งหน้าตั้งตาวิ่งออกไปทันทีก่อนจะชนเข้ากับเจ้าของร่างสูงที่เดินเข้ามา ปึกกกก!! “โอ๊ยยยย!!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดถูกพ่นออกมาจากริมฝีบางทันที เมื่อเธอกระแทกเข้ากับเจ้าของร่างสูงอย่างจัง จนตัวเองต้องล้มลงไปก้นกระแทกพื้น “เธอจะไปไหน ห้ะ!! คิดว่าจะหนีไปได้ง่าย ๆ อย่างงั้นเหรอ!!” น้ำเสียงเข้มตวาดออกมา ทำให้กนกรดาสะดุ้งจนไหล่กระตุกเยือก เมื่อชายหนุ่มก้มลงไปกระชากแขนเรียวเล็กให้ลุกขึ้นมาปะทะอกแกร่งของเขาด้วยความเดือดดาล จนกระทั่งได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายราคาแพงลอยโชยเข้าจมูก กลิ่นหอมกรุ่นในแบบของบุรุษเพศ แต่เธอคงจะเกลียดกลิ่นนี้ไปจนตาย “คุณหนู อย่าทำรุนแรงแบบนั้นสิคะ เธอตัวเล็กแค่นี้เอง” นมพรพูดขึ้นเพื่อพูดปรามชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่าเขากระทำรุนแรงกับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่อาชาไนยก็หาได้สนใจในคำห้ามปรามใด ๆ ไม่ มือหนากระชากข้อแขนของเธอให้ออกห่างจากนมพรซึ่งกำลังตั้งท่าจะเข้ามาช่วย แรงกระชากของเขานั้น ทำให้เธอรู้สึกว่าเท้าของเธอได้ลอยขึ้นเหนือพื้นกว่าคืบไปชั่วขณะหนึ่งตอนที่ 8 ของฝาก “ปล่อยให้ผมจัดการเองครับนม ผู้หญิงพยศอย่างยัยนี่ ต้องกำราบให้เข็ด!!” น้ำเสียงแข็งกร้าวตวาดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะหันมารวบต้นแขนของเธอแรง ๆ ราวกับว่าจงใจจะให้กระดูกเธอหักออกมา “ปล่อยนะคะ ฉันเจ็บ!!” เสียงอุทานถูกพ่นออกมาในลำคอ เมื่อฝ่ามือหนาราวกับศิลายื่นออกมาบีบคางเรียวเล็กของเธออย่างแรง และเชยคางขึ้นให้มาสบกับดวงตาแข็งกร้าวของเขา มือเรียวบางพยายามแกะมือหนาของเขาออกจากใบหน้า แต่มันก็ไม่เป็นผล “บอกฉันมา ว่าไอ้ต่อศักดิ์พี่เธอมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน!!” น้ำเสียงแข็งกร้าวถูกพ่นออกมาอีกครั้ง กนกรดาได้แต่ส่ายศีรษะไปมา พร้อมกับน้ำตารินไหลรดหลังมือหนาที่บีบคางเธอไว้ แต่กระนั้นเขาก็ยังลงแรงบีบคางเธอแรงขึ้นอีก “ฉะ ฉันไม่รู้ ฮึก!” น้ำเสียงสั่นคลอนพูดออกมาอย่างยากลำบาก “อย่ามาตอแหล!! เธอเป็นน้องมัน เธอต้องรู้อะไรบ้าง พวกเธอมีญาติโกโหติกาอยู่ที่ไหนอีก บอกฉันมาให้หมด!!!” เขาออกแรงอีกครั้งจนใบหน้าเนียนใสแดงปื้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่กระนั้นกนกรดายังคงเม้มปากแน่น ก่อนจะหลับตาลงช้า ๆ อย่างคนหมดเรี่ยวแรง โดยไม่มีแม้แต่คำตอบใด ๆ ให้เขา เพราะเธอเองไม่รู้จริง ๆ ว่าพี่ชา
ตอนที่9 อยากให้ฉันทำอะไร อาชาไนยสบถออกมาอย่างเหลือดอด ก่อนจะปล่อยข้อมือเล็กของเธอให้เป็นอิสระอีกครั้ง กนกรดารีบดึงมือออกมาจากแผ่นหลัง และพยายามที่จะดันแผ่นอกกว้างกำยำของเขาให้ออกห่างจากตัว แต่มือหนายังคงจับข้อมือเธอเอาไว้ข้างหนึ่ง ขณะมืออีกข้างเริ่มที่จะลูบไล้แผ่นหลังเนียนนอกเสื้อเชิ้ตนั้นไปมา เขาแน่ใจว่ากนกรดาไม่ได้สวมอะไรไว้ข้างใน นอกจากเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่โคร่งของเขาเพียงตัวเดียว ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนจะก้มลงกระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าจนน่าขนลุก “เธอไม่ชอบชุดที่ฉันซื้อให้เมื่อตอนกลางวันเหรอ?” “คะ..คือ” กนกรดาได้แต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ และพยายามผลักไสเขาให้ออกจากห่างจากตัวเธอที่กำลังตัวสั่นเทาราวกับลูกนก เธอกำลังหวาดกลัวเมื่อเขายังคงลูบไล้แผ่นหลังของเธอไปมาอยู่แบบนี้ ประกอบกับรอยยิ้มอันเยือกเย็นที่ยกยิ้มมุมปากมองเธอด้วยสายตาที่คาดเดาอารมณ์เขาไม่ถูก “คุณ ยะ อย่าทำแบบนี้นะคะ” “ทำไม! ถ้าเธอไม่ชอบให้ฉันทำแบบนี้ แล้วทำไมไม่แต่งตัวให้รัดกุม และดูเรียบร้อยกว่านี้ล่ะ ทั้งที่ฉันเองก็เอาชุดชั้นในพวกนั้นให้เธอไปแล้ว” อาชาไนยลากไล้ฝ่ามือหนาต่ำลงเรื่อย ๆ จนถึงสะโพกกลมกลึง ก่อนจะกอบก
ตอนที่ 10 ง่ายเกินไปฉันไม่ตื่นเต้น “อ้ะ อื้ม…” “หึ” เสียงเค้นหัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างคนพอใจกับผลงานที่ตัวเองทำ กนกรดาหอบหายใจถี่รัวซุกใบหน้าหวานกับซอกคอของเขา ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอกำลังจะได้สติขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่มันเตลิดหนีออกไปไกลแสนไกล มือเรียวบางขยำเสื้อเขาแน่นจนตัวสั่น แต่ทว่ากลับไม่ใช่เกิดจากความสุขอันเสียวซ่านที่เขามอบให้ อาชาไนยรู้ดีว่าตอนนี้แม่กระต่ายน้อยเธอกำลังรู้สึกอับอายที่เผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขาเอาเสียง่าย ๆ แบบนี้ และคงอาจจะกลัวในสิ่งที่กำลังจะตามมาหลังจากนี้ซะมากกว่า กนกรดาถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อเขาชักมือหนาออกจากร่างกายของเธอ ก่อนจะพูดประโยคถัดมาที่ทำเอาเธอถึงกับชาไปทั้งตัวด้วยความอับอาย “หึ ง่ายเกินไป ฉันไม่ตื่นเต้น!!” อาชาไนยลุกขึ้นพรวดพราดจากเตียงนอน ก่อนจะเอื้อมไปคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างอ่อนหวานน่าปรารถนานั้นเอาไว้ โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาก้าวขายาว ๆ เดินออกจากห้องไป และปิดประตูตามหลังเสียงดังปัง! ร่างสูงโปร่งยืนเอาหลังพิงประตูก่อนจะหลับตาลงนิ่ง ๆ เป็นเวลานาน เพื่อพยายามข่มความต้องการของตัวเองเอาไว้ให้ลึกสุด แต่ความร้อนภายในกายที่แผดเผามันช
ตอนที่ 11 แค่คู่ขา หญิงสาวบิดเร้าไปมาเมื่อเธอใกล้จะถึงฝั่งฝันอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้ ต่างจากอีกคนที่ยังตะตี้ตะบันกระแทกเข้าใส่รูสวาทของเธออย่างหนักหน่วงไม่มีแผ่ว ราวกับอดอยากมานานเป็นแรมปี ชายหนุ่มยังคงขยับเข้าออกในร่องรักของเธออยู่แบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยไม่มีท่าทีว่าเจ้ามังกรยักษ์นี้จะไปถึงฝั่งฝันสักที ไม่รู้ว่าเขาไปโดนตัวไหนมาถึงได้คึกขนาดนี้ เกือบจะสามชั่วโมงที่เขาบรรเลงเพลิงสวาทเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างหนักหน่วง “อ่าส์ ใกล้แล้ว ซี้ดดดด!!” ร่างแกร่งกระแทรกเข้าใส่สุดแรงเกิดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนน้ำขาวขุ่นจะพุ่งทะลักออกมาสู่เครื่องป้องกันไซส์พิเศษ “อ๊าาาา อืมม!!” เสียงครางอย่างสุขสมดังระงมไปทั่วห้อง ก่อนเขาจะถอนแก่นกายออกจากร่องสวาทของหญิงสาวช้า ๆ มือหนาดึงถุงยางอนามัยออกจากท่อนเอ็นแข็งขึง ก่อนจะทิ้งลงในถังขยะอย่างไม่ใยดี ทั้งสองคนรีบจัดแจงตัวเองและทำความสะอาดให้เรียบร้อย แค่เพียงไม่นานชายหนุ่มก็ขอตัวกลับ และตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้อง “เดี๋ยวสิคะคุณอาชา” ร่างอวบอัดรีบเดินไปโอบกอดออดอ้อนฉอเลาะ เมื่อเขาตั้งท่าจะออกไปราวกับไม่ได้ใยดีอะไรเธอเลยสักนิด “ม
ตอนที่ 12 นางบำเรอ อาชาไนยปล่อยมือที่โอบกอดเธอไว้ออก ก่อนจะใช้มือหนาอีกข้างบีบแก้มเธอเต็มแรง เพื่อให้เธอคลายฟันที่กัดแขนเขาอยู่ แต่ก็หาจะหลุดไม่เมื่อคนตัวเล็กสู้เขาและกดแรงลงไปอีก จนตอนนี้เขาคิดว่าหนังเขาแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว “ถ้าเธอไม่ปล่อย อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะกระต่าย!!” เปรี้ยง เปรี้ยง!! กนกรดาสะดุ้งเฮือกและเผลอปล่อยเขาทันทีเมื่อจู่ ๆ ฟ้าก็ร้องดังเปรี้ยงปร้างเสียงดังติด ๆ กันหลายครั้ง ตามมาด้วยแสงฟ้าแลบแปรบปราบของสายฟ้า ราวกับจะฟาดฟันลงอยู่เบื้องหน้า “หึ! ไม่กลัวฉัน แต่ดันกลัวฟ้าร้องฟ้าผ่า เหมือนนางเอกในละครไทยเสียจริงนะแม่คุณ!!” ใบหน้าหวานแหงนมองท้องฟ้าในยามค่ำคืนนอกหน้าต่างกระจกใส แสงแปรบปราบสีส้มสอดแทรกเข้ามากระทบใบหน้า ท่ามกลางเสียงร้องคำรามของท้องฟ้า ที่ดังกระหึ่มขึ้นมาเป็นระยะ ๆ คาดว่าอีกไม่นานฝนคงจะกระหน่ำลงมาอย่างหนัก เมื่อได้จังหวะอาชาไนยไม่รอช้า เขาย่อตัวลงก่อนสองมือหนาจะสอดเข้าใต้เรียวขาขาวเนียน พร้อมกับดันร่างบอบบางขึ้นบ่าแกร่ง “อุ๊ย!! ปล่อยนะคะคุณอาชา คุณจะทำอะไร ปล่อยสิ คุณ!!” ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ!! กำปั้นน้อย ๆ ทุบลงไปบนแผ่นหลังกว้างอย่างเต็มแรง แต่เข
ตอนที่ 13 คุ้มยิ่งกว่ากินบุพเฟ่ต์ NC+ เมื่อเริ่มได้สติกลับคืนมา สองมือขาวเนียนพยายามผลักไสคนตัวโตให้เขาปล่อยตนเอง แต่อาชาไนยกลับกอดรัดและเริ่มจะเล้าโลมเธอมากขึ้น ตอนนี้เขากำลังคิดว่าสิ่งที่เขาปรนเปรอมอบให้ คือสิ่งที่ผู้หญิงอย่างเธอกำลังต้องการมัน มือใหญ่บีบขยำหน้าอกอวบอิ่มของเธอแรงขึ้น ฝ่ามือหนาของเขาที่กำลังเคลื่อนลงทาบหน้าท้องแบนราบ ทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอถึงกับกระตุกวูบ เธอรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อรสสัมผัสในยามที่มือของเขาลูบไล้ขึ้นลงไปมาทำให้การหายใจของเธอติดขัด จนความอุ่นร้อนของมือหนานั้นวางเนิบบนเนินสามเหลี่ยมอวบอูมที่ไร้ขนปกปิด “เอาล่ะ ฉันไม่อยากจะเสียเวลากับเธอไปมากกว่านี้แล้ว ฉันจะทำในสิ่งที่ไอ้พี่ชายชั่วของเธอมันได้ทำกับน้องสาวของฉัน!!” “ไม่นะคะ! ปล่อยฉันนะ ปล่อย!!” ร่างบอบบางฝืนร่างกายไม่ยอมให้ตกอยู่ในมือหนาราวกับคีบเหล็กนั้น กำปั้นน้อย ๆ ทุบอกแกร่งเขาเป็นพัลวัน แต่เขากลับไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด อาชาไนยขึ้นไปคร่อมทับร่างเล็กไว้ หญิงสาวพยายามดิ้นหนีสุดฤทธิ์ ฝ่ามือเล็กระดมตีตามร่างกายแกร่งของคนบนร่างไม่ยั้งมือ ตุบ ตุบ!! “ปล่อยฉันนะ ปล่อย! ฮึก! ช่วยด้วย
ตอนที่ 14โดนเอาไม่ถึงกับตายNC+ อาชาไนยไม่แม้แต่จะสนใจคำก่นด่าสารพัดของเธอ ตอนนี้ความเสียวซ่านมันทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ เขากระแทกกระทั้นท่อนเอ็นเข้าใส่ร่องรักของเธอไม่ยั้งพร้อม ๆ กับเลือดสีแดงสดไหลออกมาเปื้อนติดหน้าขาแกร่ง กนกรดาขบเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นเพื่อข่มไม่ให้ร้องออกมา เธอเจ็บราวกับว่าร่างกายของเธอมันกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และแทบจะแตกสลายออกเป็นผุยผง ตั่บ ตั่บ ตั่บ!! “ฮึก หยุดสักที..พอได้แล้ว ฉันเจ็บ ฮึก!!” เธอพยายามร้องขอให้เขาหยุดกระทำกับร่างกายเธอ แต่ยิ่งเธอร้องขอมากเท่าไหร่ ก็เหมือนเขายิ่งกระแทกเข้ามาในร่องรักของเธอมากขึ้นเท่านั้น เธอไม่สามารถร้องขอให้เขาหยุดกระทำแบบนี้กับเธอได้เลย “ฮือ...พอได้แล้ว ฉันเจ็บ อย่าบีบหน้าอกฉัน ฮึก! พอสักที!!” “พอได้ไง ในเมื่อยิ่งเห็นเธอเจ็บ ฉันก็ยิ่งสะใจ” มือหนาของอาชาไนยออกแรงเพิ่มขึ้น เขาบีบเคล้นหน้าอกอวบใหญ่ของเธอจนเป็นสีเขียวช้ำไปทั้งเต้า ริมฝีปากร้ายก้มลงมาขบเม้มครอบครองยอดปทุมถันของเธออย่างหมั่นเขี้ยว หญิงสาวพยายามดิ้นสุดตัว เธอทั้งขอร้องอ้อนวอนเขา แต่เขากลับไม่เห็นใจ และสิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือมีแต่ความเจ็บปวดเหมือนเด
ตอนที่ 15 ฆ่าฉันสิ สองชั่วโมงผ่านไป… “อะ อื้อ” ร่างบอบบางที่นอนขดตัวอยู่บนเตียงนอนหนานุ่มที่ยับยู่ยี่ ส่งเสียงครางอื้ออึงในลำคอออกมาเมื่อเธอเริ่มจะรู้สึกตัวหลังจากร้องไห้จนหมดแรง และเผลอหลับไปด้วยความเพลีย ความเจ็บปวดตามเนื้อตัวและตามร่างกายได้แผ่ซ่านไปทุกอณู โดยไม่มีท่าทีว่าจะลดน้อยลงเลยแม้แต่นิดโดยเฉพาะตรงบริเวณกึ่งกายสาว เธอนอนจมอยู่กับพิษไข้จากความรุนแรงป่าเถื่อนของเขา เธอฝันว่าถูกทำร้ายร่างกาย เธอเจ็บ เจ็บมาก ๆ เจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วทั้งร่าง เจ็บจนแทบจะขยับตัวไม่ได้ แต่นั่นมันกลับไม่ใช่แค่ความฝัน แต่มันคือความจริงที่เกิดจากการบอบช้ำจากการมีเพศสัมพันธ์อันป่าเถื่อนรุนแรงจากคนใจร้าย กนกรดาพยายามจะเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งออกมาได้อย่างยากลำบาก ความหนาวเย็นภายในห้องนั้นทำให้เธอพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้น เพื่อควานหาที่ปรับลดอุณหภูมิห้อง แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมาได้ และตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่แรงที่จะหายใจต่อเลยด้วยซ้ำ ร่างกายเธอตอนนี้เหมือนมันกำลังจะแตกสลายอยู่รอมร่อ เพียงแค่คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นน้ำตาเจ้ากรรมก็พลันไหลออกมาไม่ขาดสาย เขาทำร้ายเธอโดยไร้ซึ่งความปราณี
ตอนพิเศษ2 ครอบครัวอบอุ่น(จบบริบูรณ์) ~เช้าวันต่อมา~ “แง้ แง้ แง้!!” “โอ๋ ๆ อย่าร้องนะครับลูก เดี๋ยวแม่ก็มาแล้วครับ คุณแม่อาบน้ำแป๊บเดียวนะครับ” คุณพ่อมือใหม่อุ้มลูกชายตัวน้อยไว้ในอ้อมกอด ด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ เขาโอ๋และทำทุกอย่างแล้วจริง ๆ แต่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก็ยังตั้งหน้าตั้งตาแหกปากร้องลั่นไปทั่วทั้งบ้าน อีกทั้งยังไม่ยอมเอาใครอีก แม้แต่คนใช้ภายในบ้านมาช่วยโอ๋หยอกล้อแล้วแต่ก็ยังร้องไม่หยุด วันนี้คุณย่าก็ไม่อยู่ด้วยเพราะไปเป็นเจ้าภาพทอดกฐินที่ต่างจังหวัด เขาเลยต้องทำหน้าที่พ่อลูกอ่อนอย่างเต็มที่เพื่อช่วยภรรยาเลี้ยงลูก อีกทั้งยังหอบงานมาทำที่บ้านอีกตั้งแต่ภรรยาคลอด “แง้ แง้ แง้!!” “พ่อขอเถอะครับอคินหยุดร้องได้แล้วครับ โอ๋ โอ๋” “แหม๋….ไอ้คุณพ่อมือไหม่ ไปทำอีท่าไหนให้ลูกร้องไห้เสียงดังคับบ้านได้ขนาดนี้วะ” คีตภัทรพูดขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในเขตบริเวณบ้านวัชรโชติก็ได้ยินเสียงเด็กร้องดังคับบ้าน วันนี้ครอบครัวคีตภัทรและเจไดนัดกันมาเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ อีกทั้งลูก ๆ ของพวกเขายังอยากจะมาเล่นกับอคินน้องคนเล็กสุดอีกด้วย แต่ก็ต้องเจอเข้ากับคุณคุณพ่อมือใหม่ป้ายแดงที่กำลังโอ๋ลูกช
ตอนพิเศษ 1 อยากเอาเมีย เก้าเดือนผ่านไป… สายตาคมกริบจ้องมองไปยังร่างบางของผู้เป็นภรรยาที่ทำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจกใบโตหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ มือหนาตบก้นลูกชายตัวน้อยเบา ๆ ก่อนรอยยิ้มบาง ๆ จะปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าคมคาย ในขณะที่ไม่ยอมละสายตาจากภรรยาสาวสวยที่ไม่เหมือนคนที่เพิ่งผ่านการคลอดลูกมาเลยสักนิด แต่เธอกลับดูมีน้ำมีนวลมากกว่าแต่ก่อน และเขากลับชอบเธอในตอนนี้มาก ๆ “ตกลงพี่อาชาจะมองต่ายหรือว่าจะกล่อมลูกคะ” ร่างบางเดินทอดกายเข้ามาหาเขาที่นอนกล่อมลูกอยู่บนเตียง เพราะเธอเห็นสายตาคมของผู้เป็นสามีผ่านหน้ากระจกที่เอาแต่จ้องมองเธออย่างไม่วางตามาสักพักแล้ว “ก็เมียพี่สวย พี่จะมองเมียไม่ได้เลยเหรอครับ หื้ม?” “ปากหวานจังเลยนะคะ” เธอตอบพรางยิ้มอ่อนส่งให้เขา ก่อนจะก้าวขาขึ้นมาบนเตียงที่มีเขากับลูกชายตัวน้อยนอนอยู่ ในขณะที่มือหนาของผู้เป็นสามียังคงตบก้นกล่อมลูกชายตัวเล็กไปพลาง ๆ มือตบก้นลูกแต่สายตาคมยังจดจ้องใบหน้าหวานของเมียสาวไม่วางตา “นอกจากปากหวานแล้ว อย่างอื่นก็หวานนะครับ” สายตาเจ้าเล่ห์แพรวพราวมองไปที่ภรรยาพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ตลอดเวลาหลายเดือนที่เขาต้องอดกลั้นที่จะไม่แตะต
ตอนที่ 63 ฮันนีมูน2 NC+ “ว่ายังไงครับ จะแก้แค้นพี่ทั้งที เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาพี่เองทำไม หื้ม?” น้ำเสียงเรียบเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนเขาจะเลื่อนมือหนามาที่ยอดอกอีกข้างไล้วนเป็นวงกลม ก่อนจะโน้มใบหน้าคมคายลงไปจูบปลายยอดปทุมถันแผ่วเบา เขาจงใจยั่วให้เธอคลั่ง เหมือนที่เธอเพิ่งจะยั่วจนเขาแทบคลั่งตาย “ก็ถ้าพี่อาชาเป็นเด็กดี ก็จะไม่โดนลงโทษไงคะ” “จริง ๆ แล้วนี่คือบทลงโทษผัว...” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนจะเว้นวรรคไปช่วงหนึ่ง เขาก้มลงจูบซับความหวานที่ริมฝีปากนุ่มอีกครั้ง ขณะเคลื่อนฝ่ามือลงไปสู่ความอ่อนนุ่มชุ่มชื่นเบื้องล่างที่ตอนนี้ฉ่ำแฉะจนเปียกชุ่ม “หรือรางวัลใหญ่จากเมียกันแน่ หื้ม..?” มือหนาซุกซนสอดแทรกไปตามรอยแยกกลีบกุหลาบขึ้นลงไปมา พร้อมกับบดบี้ปุ่มกระสันจนขนอ่อนของเธอลุกพองไปหมดทั้งตัว “ถ้าพี่เป็นเด็กดี แล้วพี่จะได้อะไรตอบแทนบ้างล่ะ?” หากแต่เพียงริมฝีปากแตะถูกความหอมหวานอ่อนไหว เขาก็อดไม่ได้ที่จะและเล็มไล้เลียแล้วดูดกลืนเธอเอาไว้ในปาก เขาต้องหักห้ามใจอย่างหนักในการถอนริมฝีปากออก โดยเฉพาะเมื่อเธอทอดกายยินยอมไม่ขัดขืนหรือสะบัดหนีเลยสักนิดแบบนี้ กนกรดารั้งศีรษะเขาลงมาจูบคลึงอย่า
ตอนที่ 62 ฮันนีมูน1 NC+ อาชาไนยลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่แช่มชื่นกับยามเช้าที่แสนจะสดใส หลังจากเมื่อวานนี้เขาพาภรรยามาฮันนีมูนอย่างจริงจังเสียทีที่เกาะส่วนตัวของครอบครัวเขาเอง เกาะแห่งนี้มีพื้นที่เพียงราวๆ ห้าไร่ และปรับพื้นที่มากกว่าครึ่งให้เป็นบ้านพักตากอากาศสไตล์นอร์ดิก อาณาบริเวณโดยรอบถูกจัดและตกแต่งอย่างสวยงาม เขาสั่งให้คนดูแลนำกุหลาบมาปลูกหลากหลายสายพันธุ์บานสะพรั่งไปทั้งสวน กลิ่นกุหลาบหอมโชยเบา ๆ เข้ามาถึงในห้อง ชายหนุ่มกวาดมือหนาไปยังเตียงนอนที่เย็นเฉียบเพื่อควานหาคนที่นอนอยู่ข้างกาย หมายจะดึงเจ้าของร่างนุ่มนิ่มนั้นเข้ามากอดแนบอก แต่แล้วก็พบเพียงความว่างเปล่า อาชาไนยรีบลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีและรีบลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ก่อนรอยยิ้มจะปรากฏบนใบหน้าคมสัน เมื่อมองเห็นกุหลาบดอกหนึ่งวางอยู่บนหมอนของภรรยาสาว อีกทั้งยังมีการ์ดผูกไว้และเขียนใจความว่า “อรุณสวัสดิ์ค่ะที่รัก ขอให้เช้าวันนี้...เป็นวันที่พี่อาชามีความสุขที่สุดนะคะ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปม ก่อนจะยิ้มบาง ๆ ออกมาอย่างไม่เข้าใจข้อความในกระดาษนั้นสักเท่าไหร่ จริง ๆ แล้วเขาก็มีความสุขทุกวันมาตลอดตั้งแต่แต่งงานกับเ
ตอนที่ 61 คนขี้หวง @บ้านวัชรโชติ “ต่ายล่ะครับคุณแม่” อาชาไนยถามขึ้นเมื่อกลับเข้ามาภายในบ้านแต่มองหาคนตัวเล็กไม่เจอ วันนี้เขากลับบ้านเร็วเป็นพิเศษเพราะกะว่าจะพาภรรยาออกไปทานข้าวเย็นนอกบ้าน “อ่อ หนูต่ายออกไปทานข้าวกับหนูริสาน่ะลูก แต่ออกไปตั้งแต่เที่ยงแล้วนะ ป่านนี้ทำไมยังไม่กลับมาอีกก็ไม่รู้” “ต่ายไปกับใครครับคุณแม่” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นประกอบกับสีหน้าที่เริ่มมีแต่ความกังวล ที่แสดงออกมาผ่านทางใบหน้าหล่อเหลานั้น “เอ่อ…หนูต่ายขับรถไปเองน่ะลูก แม่เป็นคนอนุญาตให้น้องไปเอง อาชาอย่าดุน้องนะลูก” พูดเพียงแค่นั้นมือหนาก็รีบล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงทันที ก่อนจะกดโทรออกไปยังคนปลายสายด้วยความเป็นห่วง อาชา : (ฮัลโหล ต่ายอยู่ไหน ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับบ้านอีก) กระต่าย : (พอดีรถต่ายเสียค่ะพี่อาชา คุณหมอนัตถ์เลยมาส่งค่ะ ตอนนี้ใกล้จะถึงบ้านแล้วค่ะ) อาชา : (อะไรนะครับ รถเสีย? แล้วทำไมไอ้หมอนัตถ์ถึงมาส่งได้) น้ำเสียงทุ้มปนหงุดหงิดถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากหนา น้ำเสียงนั้นต่างแฝงไปด้วยความไม่พอใจ เพราะอาการขี้หึงขี้หวง กระต่าย : (เอ่อ พอดีหมอนัตถ์ขับรถผ่านมาเจอค่ะ เลยอ
ตอนที่ 60 เขาเกิดมาเพราะความรัก หลังจากงานฌาปนกิจศพของต่อศักดิ์เสร็จสิ้น เจ้าของร่างบางก็กลับมาพักผ่อนที่บ้านจากที่กินไม่ได้นอนไม่หลับมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว เมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเสร็จแล้วเธอก็นั่งเงียบ ๆ อยู่คนเดียวในห้องนอนส่วนตัว ก่อนผู้เป็นสามีจะเดินเข้ามาโอบกอดและหอมแก้มนุ่มนิ่มนั้น ฟอด ฟอด!! “พี่อาชา ต่ายตกใจหมดเลยค่ะ” น้ำเสียงหวานใสพูดขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อจู่ ๆ ผู้เป็นสามีก็เข้ามาหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ “คิดอะไรอยู่ครับ หื้ม?” “เปล่าหรอกค่ะ กว่างานพี่ต่อจะเสร็จพี่อาชาเหนื่อยไหมคะ?” “เหนื่อยสิครับ พี่ถึงต้องหาอะไรให้ชื่นใจ อย่างเช่นหอมแก้มหอม ๆ ของต่ายไง” “ขอบคุณนะคะ ที่เป็นธุระจัดการเรื่องงานศพของพี่ต่อทุกอย่าง ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ” น้ำเสียงหวานใสเอ่ยขึ้นมาด้วยความจริงใจ ก่อนเขาจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าคมคายลงไปแนบกับเรียวปากอวบอิ่มของเธอเบา ๆ อีกครั้ง เธอไม่มีท่าทียั่วยวนเขาเลยสักนิด แต่เขาแค่ต้องการอยากจะจูบปลุกปลอบให้เธอได้หายเศร้าบ้าง แต่ร่างกายเจ้ากรรมมันกลับไม่ฟังคำสั่งเขา เพียงแค่ร่างนุ่มอวบเฉพาะส่วนตกอยู่ในอ้อมแขน แค่ได้ลิ้มรสริมฝีปากหอมหวานเพียงแผ่วเบา เขาก็หอบหายใจกระ
ตอนที่ 59 สูญเสีย ระหว่างทางที่รถยนต์คันหรูได้ขับเคลื่อนตัวไปตามถนนอยู่นั้น อาชาไนยได้หยิบไอแพดเครื่องหรูขึ้นมาเพื่อรับไฟล์งานด่วนจากเลขาสาวสวยอย่างคุณดาหวันขึ้นมาเปิดอ่าน เขาเห็นว่าเธอแอบลอบมองมาเป็นระยะ ก่อนเขาจะเงยหน้าขึ้นมามองเธอพร้อมกับกะพริบตางง ๆ เมื่อเห็นว่าเธอแสร้งหลบตาหันมองออกไปนอกรถ อาชาไนยหันกลับมาย้ำให้เลขาจัดการเรื่องงานที่เขาสั่งให้เรียบร้อยอีกครั้ง แต่คราวนี้เมื่อเขาหันกลับไปทางร่างบางที่อยู่ทางซ้ายมือ ก็เห็นเธอหันมาเหลือบมองหน้าจอไอแพดอีกครั้งอย่างสงสัยใคร่รู้ “พี่คุยกับเลขา คุณดาหวันน่ะ” อาชาไนยรีบเอ่ยบอกทันที เพราะเขาไม่อยากจะให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าเขาคุยกับผู้หญิงคนอื่น จนบางครั้งเขาก็นึกอยากจะเปลี่ยนเลขาใหม่เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่เนื่องจากดาหวันเธอทำงานเก่งอย่างหาตัวจับยากและมีความรับผิดชอบสูง ที่สำคัญเธอรักษาความเป็นลูกน้องเจ้านายกับเขาได้ดีเลิศ ถึงแม้พอจะรู้ว่าดาหวันเองก็ชอบเขาอยู่ไม่น้อย แต่เธอก็ไม่เคยคิดหาเรื่องให้ตัวเองต้องมาตกงานเหมือนอดีตเลขาบางคนของเขา ที่คิดจะยกระดับตัวเองด้วยการจับเขาปล้ำในห้องทำงานกลางวันแสก ๆ “ค่ะ ต่ายไม่ได้ว่าอะไร” เธอตอบเพียงส
ตอนที่ 58 คลั่งรัก2 เช้าของวันใหม่… กนกรดาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดร้าวไปทั้งร่าง แต่ก็ซาบซ่านไปด้วยความสุขอย่างที่สุด เธอบิดตัวน้อย ๆ เหมือนลูกแมวขี้เชา ก่อนจะขยับตัวซุกเข้าหาร่างใหญ่หนาเปลือยเปล่าเพื่อหลบหนีไอหนาวจากเครื่องปรับอากาศ เพียงแค่เธอพลิกตัวกอดก่าย โคนขานุ่มก็กระทบเข้ากับความตื่นตัวเต็มที่ยามเช้าของเขาที่ชี้โด่ดุนดันอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา กนกรดาถึงกับชะงักนิ่งไปทันที ยิ่งเขากอดตอบพร้อมกับฝ่ามือหนาลูบไล้เรียวแขนนุ่มนิ่มแผ่วเบา ยิ่งสร้างความเสียวซ่านจนขนอ่อนลุกพองไปทั้งตัว เขาเลื่อนลูบลงไปถึงสะโพกกลมกลึงเปลือยเปล่า ยิ่งทำให้เธอสะดุดลมหายใจจนเลือดในกายปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง หากแต่ความเจ็บระบมจากการบรรเลงศึกสวาทเมื่อคืนนั้นแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เธอจึงลืมตามองเขาที่กำลังจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้วอย่างวอนขอ “พี่รู้ว่าต่ายไม่ไหว” เขากระซิบสั้น ๆ เพราะพอจะทราบดีว่าเมื่อคืนนั้นเขาใช้งานเธอหนักเกินไป และรังแกเธอไปหลายรอบ เขาจะให้เวลาเธอได้พักบ้าง อย่างน้อย…ก็คงจะแค่ช่วงกลางวัน อาชาไนยก้มลงจุมพิตเรียวปากอวบอิ่มที่ยังบวมเจ่อเบาๆ ก่อนจะชักชวนเธอเข้าไปอาบน้ำ “สายแล้ว เราไปอาบน้ำกั
ตอนที่ 57 คลั่งรัก1 NC+ เธอกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงครางของตัวเองเอาไว้ เมื่อสองมือและริมฝีปากอันร้อนฉ่าของเขาครอบลงมายังเนินทรวงอวบอิ่มทั้งสองของเธออีกครั้ง ก่อนเธอจะรีบบอกด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น เพราะความแข็งแกร่งที่เต้นตุบตุบอยู่ตรงต้นขาของเธอ ได้ขยับเข้ามาใกล้ความลึกลับที่สุดในกายสตรีเข้าทุกที “คนเลวพวกนั้นมันยังไม่ได้ทำอะไรต่ายค่ะพี่อาชา นอกจากตบตีและฉีกเสื้อผ้าต่าย เพราะมันโกรธ โกรธที่ต่ายขัดขืน แล้ว... แล้วพี่อาชาก็มาช่วยต่าย พี่มาช่วยต่ายทันค่ะ” อาชาไนยชะงักไปทันที ก่อนจะยืดตัวขึ้นมามองสบตาด้วยสายตาที่เธออ่านไม่ออกครู่หนึ่ง ก่อนใบหน้าคมคายจะคลี่รอยยิ้มออกมา เขาโน้มลงมาจุมพิตอ่อนหวาน พร้อมกระซิบบอกชิดริมฝีปากอิ่มอย่างภาคภูมิในตัวเธอ “เก่งมาก ที่รัก” เขาครางเรียกเสียงสั่นขณะเลื่อนมือสู่กลีบกุหลาบงามและซุกไซ้ปลายนิ้วเข้าไปจนเธอซาบซ่านไปทั้งร่าง เขาเพิ่มนิ้วจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม สอดแทรกเสียดสีจนเธอแทบจะครองสติไม่อยู่ “อ้ะ อ๊า..” เสียงร้องครางดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินเป็นระยะ ก่อนเธอเธอหวีดร้องเสียงหวานเมื่อถูกเขาส่งขึ้นไปแตะปลายขอบฟ้าเรืองรอง “อร๊ายยยย อื้มม