นางอยากจะจัดระเบียบใหม่ให้หมด แต่นางต้องมีความสามารถพอจึงจะทำได้!ดังนั้น เมื่อนางคิดถึงเรื่องเหล่านี้นางก็ปวดหัว!“ฮองเฮา ท่านทรงงานหนักมาหลายวันแล้ว ดูเหนื่อยล้ายิ่งนัก ไม่เช่นนั้นก็พักผ่อนก่อน แล้วค่อยอ่านสาส์นกราบทูลต่อก่อนหรือไม่เพคะ”ไป๋หลิงยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วรีบแนะนำอย่างนอบน้อมไป๋เหยียนเฟยถอนหายใจ หลังจากได้ฟังคำพูดของไป๋หลิงนางจะพักผ่อนอย่างสงบในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร?“ไป๋หลิง เดิมทีข้ารู้เพียงว่าฝ่าบาททรงงานหนัก เพื่อรับผิดชอบราชสำนัก ตอนนี้ข้าเริ่มรับผิดชอบราชสำนักแล้ว ข้าตระหนักได้ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้เลย!”ไป๋เหยียนเฟยถอนหายใจ หลังจากพูดเช่นนี้ ไป๋หลิงก็คลี่ยิ้ม“แน่นอนว่าต้องเป็นเช่นนั้น คนเพียงคนเดียวต้องดูแลแผ่นดินอันใหญ่โตถึงเพียงนี้ จะง่ายดายได้อย่างไรเล่าเพคะ!”“เพียงแต่... ความโกลาหลได้เกิดขึ้นแล้ว แม้ว่าตระกูลไป๋จะไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ในตอนนี้ แต่ตระกูลเซิ่งได้เริ่มลงมือแล้ว ฮองเฮา ท่านต้องระวังให้มากขึ้นนะเพคะ!”ไป๋หลิงเตือน ไป๋เหยียนเฟยก็เข้าใจเช่นกันแต่ความกดดันในใจนางนั้นท่วมท้นยิ่งนัก!วิธีการของตระกูลเซิ่งเป็นเรื่องที่นางไม่เคยคิดมาก่อ
หลังจากที่ไป๋หลิงถาม ไป๋เหยียนเฟยก็หรี่ตาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า“ไม่ว่าจะอย่างไร เราต้องพยายามทำให้ได้ตัวหวังหยวนผู้นี้มา ข้าจะออกราชโองการ เรียกตัวหวังหยวนมาที่เมืองหลวง!”“ใช่แล้ว ต้องเป็นราชโองการลับ! อย่าให้คนตระกูลไป๋รู้เรื่องนี้!”หลังจากที่ฮองเฮาพูดจบ ไป๋หลิงก็ย่อมเข้าใจความหมายที่นางจะสื่อ แล้วไปเตรียมการโดยไม่รีรอ!ในไม่ช้า ร่างหนึ่งก็ออกเดินทางจากวังหลวง มุ่งหน้าตรงไปยังหมู่บ้านต้าหวังหวังหยวนไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้ ยังคงฝึกฝนเสริมสร้างความแข็งแกร่งของฝ่ายตนเองต่อไปแผ่นดินกำลังจะตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เขาต้องแข็งแกร่งมากพอที่จะปกป้องตัวเอง!แต่ตอนนี้นอกจากเรื่องคนแล้ว ยังมีเรื่องอุปกรณ์ที่ประณีตอีกด้วย!หวังหยวนคิดอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจใช้ฝีมือสร้างอาวุธอื่น นอกจากดาบราชวงศ์ถัง!ดาบ สามง่าม กระบี่ ทวน!ตราบใดที่พวกมันแข็งแกร่งเพียงพอ ก็จะได้เปรียบเมื่อต้องเผชิญกับสรรพอาวุธของผู้อื่น!ในเวลาเดียวกัน หวังหยวนก็ต้องการสร้างชุดเกราะให้กับทุกคนด้วย!เพียงแต่ว่าเกราะชนิดนี้ต้องมีน้ำหนักเบา แต่มีคุณสมบัติในการป้องกันที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
หากวัสดุที่ใช้ทำไม่แข็งแรงพอ อาจเกิดอุบัติเหตุจากการกระแทกเบา ๆ ได้แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือไม่มีปัญหาอะไรเลย เมื่อมันถูกโยนลงพื้นก็ไม่ได้ระเบิดออก!“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่มีปัญหา!”หวังหยวนดีใจมาก หยิบมันกลับขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม“ต่อไปก็ถึงเวลาทดสอบจริงแล้ว!”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ดึงสลักออก แล้วโยนมันออกไป!ทันใดนั้นเมื่อระเบิดตกลงบนพื้น ไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นน่าตกใจ!สิ้นเสียงดังตูม หลุมขนาดใหญ่ก็ปรากฏบนพื้น!หลายคนที่เดินเข้าไปดูต่างตกตะลึง!อานุภาพทำลายล้างรุนแรงเกินไปแล้ว!หากมีคนหลายสิบคนอยู่ใกล้บริเวณที่กลายเป็นหลุมใหญ่ ทุกคนคงร่างระเบิดตายหมด!“นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว!”“สามี นี่มันอะไรกัน!”“พี่หยวน สิ่งนี้มีพลังแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”ทุกคนต่างอุทาน หวังหยวนยกยิ้มก่อนที่จะพูดชื่ออย่างเป็นทางการ“สิ่งนี้เรียกว่าระเบิดมือ!”เมื่อเห็นอานุภาพทำลายล้างรุนแรงเช่นนี้ หวังหยวนก็พอใจมาก!เมื่อถึงเวลาที่ต้องต่อสู้จริง ๆ ต่อให้มีคนไม่กี่คน ก็ต้องชนะแบบชวนอึ้งได้แน่นอน!“ท่านลุง จู่ปัน ยิ่งเราทำสิ่งนี้ได้เยอะเพียงใดก็ยิ่งดี แต่จำไว้ว่าต้องระวังให้มาก!”
หวังหยวนไปเยือนเมืองหลวงมาครั้งหนึ่ง และตอนนั้นเขาเกือบจะไม่ได้กลับมาอีกเลย!ดังนั้นเมื่อได้ยินคำว่า “เมืองหลวง” ทั้งต้าหู่และคนอื่น ๆ รวมถึงพวกหลี่ซื่อหานสามคนก็เป็นกังวล!โดยเฉพาะหลี่ซือหาน บัดนี้นัยน์ตาฉายแววกังวลชัดเจน ตั้งแต่ก่อนจะถามคำถามนี้หวังหยวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ฮองเฮาเรียกหาข้าอาจเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลเซิ่ง ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ นางไม่คิดจะจัดการกับข้าหรอก”“ให้ข้าไปเถอะ เกรงว่าข้าจะต้องเสนอแนะนาง!”หลังจากพูดเช่นนี้ ทุกคนก็พยักหน้าฮ่องเต้ซิงหลงมีเหตุผลที่จะสังหารหวังหยวน แต่ฮองเฮานั้นไม่มีเหตุผล!ยิ่งไปกว่านั้น ดังที่หวังหยวนพูด ราชสำนักกำลังสับสนวุ่นวาย ฮองเฮาไม่น่าจะมีเวลาจัดการกับหวังหยวน!ดังนั้น ครั้งนี้จึงสามารถรับประกันความปลอดภัยของหวังหยวนได้!ทว่า...แม้ว่าพวกเขาจะคิดเรื่องเช่นนี้ได้ แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังไม่ต้องการให้หวังหยวนไปเมืองหลวง!“สามี เราจะขัดขืนราชโองการได้หรือ?”หลี่ซือหานสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดถ้อยคำอุกอาจเช่นนี้!พูดตามตรง ถ้าไม่ใช่เพราะหวังหยวน ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่กล้าพูดเช่นนั้นออกมา!เพราะตามความค
ในขณะนี้ ไป๋เหยียนเฟยกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ หลังจากเห็นหวังหยวนเข้ามา นางจึงเงยหน้าขึ้นมองนี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เจอหวังหยวน!มองเพียงปราดเดียว นางก็สามารถบอกได้ว่าหวังหยวนนั้นไม่ธรรมดา!“ได้ยินชื่อท่านหมิงถันมานานแล้ว เพิ่งได้เจอในวันนี้ ช่างไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ”ไป๋เหยียนเฟยรีบลุกขึ้นพูดด้วยรอยยิ้ม“ถวายบังคมฮองเฮา”หวังหยวนโค้งคำนับ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม“ไม่จำเป็น ท่านหมิงถัน กรุณานั่งลงเถิด!”ฮองเฮาขอให้หวังหยวนนั่งลงทันที นางเตรียมน้ำชาไว้แล้ว และส่งให้หวังหยวน“ขอบพระทัยฮองเฮา”หวังหยวนยิ้ม จากนั้นมองไป๋เหยียนเฟยแล้วพูดอีกครั้ง “ฮองเฮา ท่านแอบให้ข้าเข้ามาในวังหลวง ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ไป๋เหยียนเฟยหัวเราะ “ท่านหมิงถัน ท่านมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม เหตุใดท่านจะไม่รู้ว่าข้าขอให้ท่านมาเพราะเหตุใด?”หวังหยวนดื่มชาหมดในอึกเดียว แล้วพูดว่า “เพราะเรื่องขององค์ชายใหญ่และเสียนกุ้ยเฟยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ไป๋เหยียนเฟยพยักหน้าทันที “ท่านคิดได้เร็วมาก คาดเดาได้ถูกต้องทันที”“ฮ่าฮ่า ฮองเฮายกย่องเกินไปแล้ว ทุกวันนี้เรื่องนี้ถูกพูดถึงมากที่สุดในแผ่นดิน ตระกูลเซิ่งนั้นทั้งใ
ฮองเฮาทั้งตกใจกลัวและโกรธมาก!คำพูดของหวังหยวนทำให้นางรู้สึกหนาวไปถึงสันหลัง!ตระกูลเซิ่งน่าขยะแขยงมาก!ถ้าองค์ชายใหญ่กระโดดออกมาพูดเช่นนั้นจริง ฮองเฮาเช่นนางจะไม่ถูกทั้งแผ่นดินสาปแช่งหรือ?“ตระกูลเซิ่ง! ตระกูลเซิ่งช่างร้ายกาจนัก!”“ท่านหมิงถัน ท่านมีทางแก้ไขหรือไม่?”ฮองเฮารีบมองหวังหยวน ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหวังหวังหยวนถอนหายใจทันที เรื่องนี้ยากพอ ๆ กับการหาทางไปสวรรค์!“ท่านหมิงถัน ถ้าท่านสามารถช่วยข้าได้ ท่านต้องการสิ่งใดขอเพียงบอกมา ข้ายอมทั้งสิ้น!”ฮองเฮาไป๋เหยียนเฟยยอมลงทุนมหาศาล นางรีบพูดเช่นนั้นหวังหยวนชำเลืองมองไป๋เหยียนเฟยแล้วยกยิ้ม “ฮองเฮา หัวใจของท่านช่างไม่ธรรมดา หากท่านเป็นผู้ชาย ท่านจะต้องเป็นฮ่องเต้ที่ดีเป็นแน่”ไป๋เหยียนเฟยไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะพูดเช่นนี้ นางตกตะลึงไปครู่หนึ่งจากนั้นถอนหายใจ และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “จะเป็นฮ่องเต้ที่ดีได้หรือไม่ ข้าไม่คิดฝันเช่นนั้นอีกต่อไป ตราบใดที่ต้าเย่แห่งนี้ยังคงอยู่ได้ด้วยดี!”“แต่ว่า... การที่ตระกูลเซิ่งใช้วิธีการดังกล่าวนั้นช่างน่าโมโหจริง ๆ หากไม่สามารถแก้ไขได้ ตระกูลเซิ่งจะต้องทำให้เกิดความวุ่นวายในราชสำนัก
“ฮองเฮาโปรดไตร่ตรองให้รอบคอบ หากท่านประกาศทั่วแผ่นดินว่าท่านจะแต่งตั้งองค์ชายใหญ่เป็นเจ้าผู้ครองแคว้น มอบดินแดนแคว้นกู่ให้เขา และสัญญากับเขาว่าจะมีเกียรติและความรุ่งโรจน์ตลอดชีวิต เหล่าราษฎรในแผ่นดินนี้จะคิดอย่างไร?”หวังหยวนมองฮองเฮาที่กำลังคิดอยู่นาน ก่อนที่นางจะพูด“ตามเหตุการณ์ปัจจุบัน เหล่าราษฎรในแผ่นดินจะยังคงคิดว่าข้ากำจัดผู้เห็นต่าง และปูทางให้โอรสของตนเอง!”คำพูดของฮองเฮาถูกต้อง หวังหยวนพยักหน้าเห็นด้วย“ถูกต้อง! แต่ฮองเฮา ไม่ว่าท่านจะทำอะไร ข้าเกรงว่าทุกคนในแผ่นดินจะพูดเช่นนี้ ดังนั้นมันจะดีกว่าหากท่านยอมรับ แล้วทำตามวิธีนั้น!”“ท่านสามารถอธิบายได้ว่า ท่านกังวลเรื่องความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในอนาคต และองค์ชายใหญ่จะมีความเจริญรุ่งเรืองตลอดชีวิต ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าใครจะวิพากษ์วิจารณ์ท่าน แล้วจะพูดในเชิงลบอีกได้อย่างไร?”“การให้องค์ชายเป็นเจ้าผู้ครองแคว้น และประทานตำแหน่งศักดินาให้นั้น นับเป็นเพราะความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ และทุกคนในแผ่นดินจะได้เห็น!”“ยิ่งกว่านั้น ต่อให้ท่านไม่แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ แคว้นกู่ก็จะยังเป็นของตระกูลเซิ่งอยู่ดีใช่หรือไม่?”“เหตุใดไม่มอบสิ่งที
ฮองเฮาไป๋เหยียนเฟยตกใจมาก สายตาของนางเปลี่ยนไปเมื่อมองหวังหยวน!ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเก่งกาจถึงเพียงนี้!วิธีนี้มหัศจรรย์มาก!“ท่านหวังหยวน ท่านยอดเยี่ยมมาก! ฉลาดปราดเปรื่องยิ่งนัก!”“วิธีการเช่นนี้ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ!”ไป๋เหยียนเฟยพูดความจริง ในสถานการณ์นี้ ไม่มีทั้งข้าราชการพลเรือนและทหารคนใดสามารถทำอะไรได้เลย ทั้งเสนาบดีฝ่ายซ้ายและเสนาบดีฝ่ายขวา ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และนางก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน!แต่หวังหยวน...คิดวิธีแก้ไขเช่นนั้นได้แล้วจริง ๆ!ประหนึ่งว่าเขาเปลี่ยนทิศทางของหัวหอก โยนความผิดกลับคืนใส่ตระกูลเซิ่ง!วิธีนี้น่าทึ่งและเหลือเชื่อยิ่งนัก!“ว่าแต่... ท่านหวังหยวน ตอนนี้เราได้ประกาศไปทั่วแผ่นดินแล้ว ว่าองค์ชายใหญ่และเสียนกุ้ยเฟยหายตัวไป แล้วกฤษฎีกานี้จะประกาศใช้อย่างไร?”ทันใดนั้นฮองเฮาก็นึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ จึงอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อได้ฟังเช่นนั้น หวังหยวนจึงยกยิ้ม“เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาเลย แค่ออกกฤษฎีกาใหม่ก็เรียบร้อยแล้ว!”“ไม่ต้องพูดถึงการหายตัวไปหรือไม่หายตัวไป มันเป็นการหยุดคนทั้งแผ่นดินไม่ให้พูดเช่นเดิม คนที่เข้าใจย่อมเข้าใจได้ ส่วนคนที่ไม่เข้าใจก็ย
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห