“ไม่เข้าใจหรือ? ฮ่องเต้ซิงหลงมีองค์ชายคนโต แม้ว่าพระองค์อายุยังน้อย แต่ก็มีอายุสิบปีแล้ว ซ้ำยังเป็นเด็กอัจฉริยะ ราชสำนักมีเสนาบดีฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาทั้งสองคนคอยชี้แนะ ขณะเดียวกันก็ยังมีปรมาจารย์ทั้งสามท่านยังอยู่ ยิ่งกว่านั้นมีหกกระทรวงเป็นศูนย์กลาง องค์ชายรัชทายาทก็พอจะควบคุมราชสำนักได้แล้ว!” “มีอัครเสนาบดีจำนวนมากอยู่ อันที่จริงไม่สำคัญเลยว่ามีฮองเฮาหรือไม่ ทว่าเหตุใดฮองเฮาถึงสามารถปกครองราชสำนักได้เล่า?” หลังจากพูดเช่นนี้จบ ทุกคนก็ตกใจ! ถูกต้อง! เรื่องนี้มีปัญหาแน่นอน! องค์ชายใหญ่อายุสิบปีแล้ว! มีเสนาบดีและผู้ช่วยที่มีความสามารถมากมายในการชี้แนะปกครองใต้หล้าเช่นนี้ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว! “ฉะนั้น เกรงว่าทั้งหมดนี้เกิดจากฝีมือของฮองเฮา!” “หากเป็นเช่นนั้น การสิ้นพระชนม์อย่างน่าสงสัยของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันอาจเป็นเพียงฝีมือของสตรีผู้ชั่วร้ายคนนี้!” “หึ! ได้ครองบังลังก์อย่างไม่ถูกต้อง จะเกิดหายนะอย่างแน่นอน หากสตรีผู้นี้ครองบังลังก์ ต้าเย่ของเราจะต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน!” มีการถกเถียงทุกประเภท เห็นได้ว่าหลายคนไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้ฮองเฮาปกครองราชสำนัก! ไม่เพียงแต่ไม่เต็ม
ในขณะที่ไป๋เหยียนเฟยกำลังต่อสู้กับตระกูลเซิ่ง หวังหยวนก็รู้ข่าวนี้แล้ว“สามี ช่วงนี้ตระกูลเซิ่งกับฮองเฮาก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมาย เรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่?”หลี่ซื่อหานกับอีกสองคนนั่งข้างหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยฮองเฮาเป็นผู้ประกาศให้ทั่วทั้งแผ่นดินรู้เอง ว่าเสียนกุ้ยเฟยและองค์ชายใหญ่หายตัวไป และผู้คนก็แทบพลิกแผ่นดินตามหาตระกูลเซิ่งปล่อยข่าวว่าเพื่อที่จะครอบครองราชสำนัก และปูทางให้ไท่จื่อในอนาคต ฮองเฮาต้องการกำจัดปัจจัยอื่นที่จะมาขัดขวางทั้งหมด!พูดตามตรงว่าคำพูดเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าจะสู้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน!การต่อสู้ระหว่างฮองเฮาและตระกูลเซิ่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!สำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ หวังหยวนถอนหายใจด้วยความเป็นกังวลเล็กน้อยเมื่อเกิดความวุ่นวายขึ้น ทั่วทั้งต้าเย่อาจไม่มีวันสงบสุขได้!“พวกเจ้าคิดว่าฝ่ายใดพูดจริงและฝ่ายใดโกหก?”หวังหยวนมองสตรีทั้งสาม แล้วอดไม่ได้ที่จะถามหลี่ซื่อหานตอบว่า “สิ่งที่ฮองเฮาพูดเป็นความจริงร้อยละแปดสิบ ส่วนสิ่งที่คนตระกูลเซิ่งพูดนั้นเป็นเท็จ!”หวงเจียวเจียวและหูเมิ่งอิ๋งก็พยักหน้าเช่นกัน“ตระกูลเซิ่งจะไม่ยอมให้อะไรเกิดขึ้นกับเสียนกุ้ย
นางอยากจะจัดระเบียบใหม่ให้หมด แต่นางต้องมีความสามารถพอจึงจะทำได้!ดังนั้น เมื่อนางคิดถึงเรื่องเหล่านี้นางก็ปวดหัว!“ฮองเฮา ท่านทรงงานหนักมาหลายวันแล้ว ดูเหนื่อยล้ายิ่งนัก ไม่เช่นนั้นก็พักผ่อนก่อน แล้วค่อยอ่านสาส์นกราบทูลต่อก่อนหรือไม่เพคะ”ไป๋หลิงยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วรีบแนะนำอย่างนอบน้อมไป๋เหยียนเฟยถอนหายใจ หลังจากได้ฟังคำพูดของไป๋หลิงนางจะพักผ่อนอย่างสงบในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร?“ไป๋หลิง เดิมทีข้ารู้เพียงว่าฝ่าบาททรงงานหนัก เพื่อรับผิดชอบราชสำนัก ตอนนี้ข้าเริ่มรับผิดชอบราชสำนักแล้ว ข้าตระหนักได้ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้เลย!”ไป๋เหยียนเฟยถอนหายใจ หลังจากพูดเช่นนี้ ไป๋หลิงก็คลี่ยิ้ม“แน่นอนว่าต้องเป็นเช่นนั้น คนเพียงคนเดียวต้องดูแลแผ่นดินอันใหญ่โตถึงเพียงนี้ จะง่ายดายได้อย่างไรเล่าเพคะ!”“เพียงแต่... ความโกลาหลได้เกิดขึ้นแล้ว แม้ว่าตระกูลไป๋จะไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ในตอนนี้ แต่ตระกูลเซิ่งได้เริ่มลงมือแล้ว ฮองเฮา ท่านต้องระวังให้มากขึ้นนะเพคะ!”ไป๋หลิงเตือน ไป๋เหยียนเฟยก็เข้าใจเช่นกันแต่ความกดดันในใจนางนั้นท่วมท้นยิ่งนัก!วิธีการของตระกูลเซิ่งเป็นเรื่องที่นางไม่เคยคิดมาก่อ
หลังจากที่ไป๋หลิงถาม ไป๋เหยียนเฟยก็หรี่ตาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า“ไม่ว่าจะอย่างไร เราต้องพยายามทำให้ได้ตัวหวังหยวนผู้นี้มา ข้าจะออกราชโองการ เรียกตัวหวังหยวนมาที่เมืองหลวง!”“ใช่แล้ว ต้องเป็นราชโองการลับ! อย่าให้คนตระกูลไป๋รู้เรื่องนี้!”หลังจากที่ฮองเฮาพูดจบ ไป๋หลิงก็ย่อมเข้าใจความหมายที่นางจะสื่อ แล้วไปเตรียมการโดยไม่รีรอ!ในไม่ช้า ร่างหนึ่งก็ออกเดินทางจากวังหลวง มุ่งหน้าตรงไปยังหมู่บ้านต้าหวังหวังหยวนไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้ ยังคงฝึกฝนเสริมสร้างความแข็งแกร่งของฝ่ายตนเองต่อไปแผ่นดินกำลังจะตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เขาต้องแข็งแกร่งมากพอที่จะปกป้องตัวเอง!แต่ตอนนี้นอกจากเรื่องคนแล้ว ยังมีเรื่องอุปกรณ์ที่ประณีตอีกด้วย!หวังหยวนคิดอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจใช้ฝีมือสร้างอาวุธอื่น นอกจากดาบราชวงศ์ถัง!ดาบ สามง่าม กระบี่ ทวน!ตราบใดที่พวกมันแข็งแกร่งเพียงพอ ก็จะได้เปรียบเมื่อต้องเผชิญกับสรรพอาวุธของผู้อื่น!ในเวลาเดียวกัน หวังหยวนก็ต้องการสร้างชุดเกราะให้กับทุกคนด้วย!เพียงแต่ว่าเกราะชนิดนี้ต้องมีน้ำหนักเบา แต่มีคุณสมบัติในการป้องกันที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
หากวัสดุที่ใช้ทำไม่แข็งแรงพอ อาจเกิดอุบัติเหตุจากการกระแทกเบา ๆ ได้แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือไม่มีปัญหาอะไรเลย เมื่อมันถูกโยนลงพื้นก็ไม่ได้ระเบิดออก!“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่มีปัญหา!”หวังหยวนดีใจมาก หยิบมันกลับขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม“ต่อไปก็ถึงเวลาทดสอบจริงแล้ว!”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ดึงสลักออก แล้วโยนมันออกไป!ทันใดนั้นเมื่อระเบิดตกลงบนพื้น ไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นน่าตกใจ!สิ้นเสียงดังตูม หลุมขนาดใหญ่ก็ปรากฏบนพื้น!หลายคนที่เดินเข้าไปดูต่างตกตะลึง!อานุภาพทำลายล้างรุนแรงเกินไปแล้ว!หากมีคนหลายสิบคนอยู่ใกล้บริเวณที่กลายเป็นหลุมใหญ่ ทุกคนคงร่างระเบิดตายหมด!“นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว!”“สามี นี่มันอะไรกัน!”“พี่หยวน สิ่งนี้มีพลังแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”ทุกคนต่างอุทาน หวังหยวนยกยิ้มก่อนที่จะพูดชื่ออย่างเป็นทางการ“สิ่งนี้เรียกว่าระเบิดมือ!”เมื่อเห็นอานุภาพทำลายล้างรุนแรงเช่นนี้ หวังหยวนก็พอใจมาก!เมื่อถึงเวลาที่ต้องต่อสู้จริง ๆ ต่อให้มีคนไม่กี่คน ก็ต้องชนะแบบชวนอึ้งได้แน่นอน!“ท่านลุง จู่ปัน ยิ่งเราทำสิ่งนี้ได้เยอะเพียงใดก็ยิ่งดี แต่จำไว้ว่าต้องระวังให้มาก!”
หวังหยวนไปเยือนเมืองหลวงมาครั้งหนึ่ง และตอนนั้นเขาเกือบจะไม่ได้กลับมาอีกเลย!ดังนั้นเมื่อได้ยินคำว่า “เมืองหลวง” ทั้งต้าหู่และคนอื่น ๆ รวมถึงพวกหลี่ซื่อหานสามคนก็เป็นกังวล!โดยเฉพาะหลี่ซือหาน บัดนี้นัยน์ตาฉายแววกังวลชัดเจน ตั้งแต่ก่อนจะถามคำถามนี้หวังหยวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ฮองเฮาเรียกหาข้าอาจเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลเซิ่ง ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ นางไม่คิดจะจัดการกับข้าหรอก”“ให้ข้าไปเถอะ เกรงว่าข้าจะต้องเสนอแนะนาง!”หลังจากพูดเช่นนี้ ทุกคนก็พยักหน้าฮ่องเต้ซิงหลงมีเหตุผลที่จะสังหารหวังหยวน แต่ฮองเฮานั้นไม่มีเหตุผล!ยิ่งไปกว่านั้น ดังที่หวังหยวนพูด ราชสำนักกำลังสับสนวุ่นวาย ฮองเฮาไม่น่าจะมีเวลาจัดการกับหวังหยวน!ดังนั้น ครั้งนี้จึงสามารถรับประกันความปลอดภัยของหวังหยวนได้!ทว่า...แม้ว่าพวกเขาจะคิดเรื่องเช่นนี้ได้ แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังไม่ต้องการให้หวังหยวนไปเมืองหลวง!“สามี เราจะขัดขืนราชโองการได้หรือ?”หลี่ซือหานสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดถ้อยคำอุกอาจเช่นนี้!พูดตามตรง ถ้าไม่ใช่เพราะหวังหยวน ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่กล้าพูดเช่นนั้นออกมา!เพราะตามความค
ในขณะนี้ ไป๋เหยียนเฟยกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ หลังจากเห็นหวังหยวนเข้ามา นางจึงเงยหน้าขึ้นมองนี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เจอหวังหยวน!มองเพียงปราดเดียว นางก็สามารถบอกได้ว่าหวังหยวนนั้นไม่ธรรมดา!“ได้ยินชื่อท่านหมิงถันมานานแล้ว เพิ่งได้เจอในวันนี้ ช่างไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ”ไป๋เหยียนเฟยรีบลุกขึ้นพูดด้วยรอยยิ้ม“ถวายบังคมฮองเฮา”หวังหยวนโค้งคำนับ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม“ไม่จำเป็น ท่านหมิงถัน กรุณานั่งลงเถิด!”ฮองเฮาขอให้หวังหยวนนั่งลงทันที นางเตรียมน้ำชาไว้แล้ว และส่งให้หวังหยวน“ขอบพระทัยฮองเฮา”หวังหยวนยิ้ม จากนั้นมองไป๋เหยียนเฟยแล้วพูดอีกครั้ง “ฮองเฮา ท่านแอบให้ข้าเข้ามาในวังหลวง ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ไป๋เหยียนเฟยหัวเราะ “ท่านหมิงถัน ท่านมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม เหตุใดท่านจะไม่รู้ว่าข้าขอให้ท่านมาเพราะเหตุใด?”หวังหยวนดื่มชาหมดในอึกเดียว แล้วพูดว่า “เพราะเรื่องขององค์ชายใหญ่และเสียนกุ้ยเฟยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ไป๋เหยียนเฟยพยักหน้าทันที “ท่านคิดได้เร็วมาก คาดเดาได้ถูกต้องทันที”“ฮ่าฮ่า ฮองเฮายกย่องเกินไปแล้ว ทุกวันนี้เรื่องนี้ถูกพูดถึงมากที่สุดในแผ่นดิน ตระกูลเซิ่งนั้นทั้งใ
ฮองเฮาทั้งตกใจกลัวและโกรธมาก!คำพูดของหวังหยวนทำให้นางรู้สึกหนาวไปถึงสันหลัง!ตระกูลเซิ่งน่าขยะแขยงมาก!ถ้าองค์ชายใหญ่กระโดดออกมาพูดเช่นนั้นจริง ฮองเฮาเช่นนางจะไม่ถูกทั้งแผ่นดินสาปแช่งหรือ?“ตระกูลเซิ่ง! ตระกูลเซิ่งช่างร้ายกาจนัก!”“ท่านหมิงถัน ท่านมีทางแก้ไขหรือไม่?”ฮองเฮารีบมองหวังหยวน ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหวังหวังหยวนถอนหายใจทันที เรื่องนี้ยากพอ ๆ กับการหาทางไปสวรรค์!“ท่านหมิงถัน ถ้าท่านสามารถช่วยข้าได้ ท่านต้องการสิ่งใดขอเพียงบอกมา ข้ายอมทั้งสิ้น!”ฮองเฮาไป๋เหยียนเฟยยอมลงทุนมหาศาล นางรีบพูดเช่นนั้นหวังหยวนชำเลืองมองไป๋เหยียนเฟยแล้วยกยิ้ม “ฮองเฮา หัวใจของท่านช่างไม่ธรรมดา หากท่านเป็นผู้ชาย ท่านจะต้องเป็นฮ่องเต้ที่ดีเป็นแน่”ไป๋เหยียนเฟยไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะพูดเช่นนี้ นางตกตะลึงไปครู่หนึ่งจากนั้นถอนหายใจ และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “จะเป็นฮ่องเต้ที่ดีได้หรือไม่ ข้าไม่คิดฝันเช่นนั้นอีกต่อไป ตราบใดที่ต้าเย่แห่งนี้ยังคงอยู่ได้ด้วยดี!”“แต่ว่า... การที่ตระกูลเซิ่งใช้วิธีการดังกล่าวนั้นช่างน่าโมโหจริง ๆ หากไม่สามารถแก้ไขได้ ตระกูลเซิ่งจะต้องทำให้เกิดความวุ่นวายในราชสำนัก
“ยิ่งกว่านั้น พวกข้าก็เหมือนคนที่ทรยศ นำดินแดนของเผ่าตัวเองมาถวายท่าน หากกลับไปเผ่า คงไม่อาจอธิบายกับสมาชิกเผ่าได้!”“ท่านเป็นผู้ปกครอง ย่อมรู้ดีว่าหากสูญเสียใจของผู้คนไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?”ไท่สื่อลี่จ้องมองหวังหยวน ใบหน้าแสดงความกังวลว่าหวังหยวนจะโกรธอยู่เสมอหวังหยวนโบกมือด้วยรอยยิ้ม แล้วกล่าวว่า “จริงอย่างที่ท่านว่า แต่ข้าไม่ได้คิดจะปกครองเผ่า เพียงแต่ต้องการเป็นพันธมิตรกับพวกท่านเท่านั้น!”“ข้าจะคอยช่วยเหลือให้เผ่าของพวกท่านพัฒนาขึ้น ส่วนสิ่งที่ข้าต้องการก็ง่ายมาก คือหากข้าต้องการความช่วยเหลือ พวกท่านต้องช่วยเหลือข้าโดยไม่มีเงื่อนไข ตอนนี้ท่านคงเข้าใจแล้วกระมัง?”เป็นเช่นนี้เอง!ไท่สื่อลี่เข้าใจในทันที นี่ช่างเป็นข้อเสนอที่ดี!ตราบใดที่หวังหยวนไม่เข้ามายุ่งเรื่องภายใน แถมยังคอยช่วยเหลือ ใครบ้างจะไม่ยอมร่วมมือด้วย?“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนี้ ข้าจะรับหน้าที่นี้เอง ประเดี๋ยวข้าจะไปปรึกษากับพวกพ้อง บอกความคิดของท่านให้พวกเขารู้ก่อนนะขอรับ!”“พวกเขาล้วนเป็นคนมีเหตุผล คงจะให้คำตอบที่ท่านพอใจ!”“จะไม่ทำให้ท่านหวังผิดหวังขอรับ!”หวังหยวนตบบ่าไท่สื่อลี่ด้วยความพึงพอใจ เพียงแค่
“ท่านหวัง ท่านให้ข้าอยู่ที่นี่ต่อ มีเรื่องใดจะปรึกษาหรือขอรับ?”“หรือว่าข้าเผลอทำสิ่งใดผิดพลาด จนทำให้ท่านไม่พอใจ?”ไท่สื่อลี่มองหวังหยวนด้วยความหวาดหวั่น พลางเอ่ยถามตะกุกตะกักหวังหยวนมีภูมิหลังและอำนาจยิ่งใหญ่ แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าเผ่า แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหวังหยวน เขาก็ทำได้เพียงถ่อมตนเหมือนเด็กน้อยเกรงว่าจะทำให้หวังหยวนไม่พอใจ สุดท้ายตนเองก็จะไม่ได้ประโยชน์ ผลลัพธ์ย่อมเป็นไปในทางที่ไม่ดี!หวังหยวนโบกมืออย่างใจเย็น เดินไปข้างกายไท่สื่อลี่ รินสุราให้เขา แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านไท่สื่อไม่ต้องกังวลหรอก”“ที่ข้าให้ท่านอยู่ต่อ เพราะมีเรื่องอยากปรึกษาหารือด้วย แต่จะไม่ทำให้ท่านลำบากใจ”“ไม่ว่าเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ ก็จะไม่กระทบความสัมพันธ์ของเรา”หวังหยวนตบบ่าไท่สื่อลี่ พลางกล่าวไท่สื่อลี่พยักหน้า ครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “ไม่ทราบว่าท่านหวังมีเรื่องใดจะปรึกษาหรือขอรับ?”ตอนนี้เขารู้สึกกังวลใจ ไม่สามารถคาดเดาความคิดของหวังหยวนได้ครู่ต่อมา หวังหยวนก็กล่าวตามตรง “แท้จริงแล้วเป็นเรื่องง่ายมาก ที่ข้ามาที่นี่ ไม่เพียงเพื่อช่วยราชวงศ์ต้าเย่เท่านั้น แต่เพื่อช่วยเหลือตัวเองด้ว
แม้แต่ในอากาศยังคงมีกลิ่นคาวเลือด!หวังหยวนเชื่อมั่นในความสามารถของเกาเล่อ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่เคยเจอเจียงเซี่ยวมาก่อน คาดว่าเกาเล่อคงตรวจสอบแล้วว่าไม่ผิดตัว เขาจึงไม่ได้สนใจดูอีก!หวังหยวนกวาดสายตามองกลุ่มคนตรงหน้า ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขณะโบกมือให้ทุกคน แล้วชี้ไปที่ที่นั่งสองข้าง “ทุกท่านไม่ต้องเกรงใจ ข้าไม่ใช่เสือดุร้ายกินคน ไม่ต้องเกรงใจกันเกินไป นั่งลงได้เลย!”“ขอบพระคุณท่านหวัง!”ทุกคนกล่าวขอบคุณ แล้วนั่งลงหวังหยวนนั่งบนบัลลังก์ ก่อนจะถามด้วยรอยยิ้ม “ข้าสงสัยว่าพวกท่านต่อต้านราชวงศ์ต้าเย่มาตลอด ถึงขั้นจะเอาชีวิตกัน แต่พอได้ยินว่าข้ามาก็ยอมแพ้เลยหรือ?”“หรือว่าชื่อเสียงของข้าเลื่องลือมาก เมื่อรู้ว่าต้องสู้กับข้าจึงยอมสยบเลยงั้นหรือ?”หวังหยวนรู้สึกค่อนข้างภูมิใจหากเรื่องนี้เล่าลือออกไปคงเป็นเรื่องเล่าขานกันเป็นตำนาน!ทุกคนมองหน้ากัน คนที่อยู่ใกล้หวังหยวนที่สุดกล่าว “ใช่แล้ว!”“พวกข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับท่านหวัง ยิ่งกว่านั้น พวกข้ารู้ดีว่าพวกข้ากับท่านหวังต่างชั้นกัน หากเปิดศึก แม้จะใช้ภูเขาเป็นกำแพง ป้องกันทุกวิถีทาง แต่คงไม่สามารถต้านทานได้นาน!”“ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมคาดเดาได
“เมื่อครู่มีกลุ่มคนมา ข้าเข้าไปสอบถามจึงรู้ว่าเป็นหัวหน้าเผ่าใหญ่!”“ตอนนี้พวกเขาได้ฆ่าเจียงเซี่ยวผู้นำพันธมิตรแล้ว และต้องการเจรจาสงบศึกกับพวกเรา!”“ท่านผู้นำคิดเห็นว่าอย่างไรขอรับ?”เกาเล่อกล่าวด้วยรอยยิ้มศัตรูแตกคอกันเอง ช่างเป็นเรื่องดี!ไม่เพียงแต่ลดการสูญเสียเท่านั้น แต่ยังไม่ทำให้เกิดความแค้นกับชนเผ่าเหล่านี้ด้วย ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการควบคุมดินแดนในอนาคต!ดวงตาของหวังหยวนเป็นประกาย เขารีบเดินไปหาเกาเล่อ แล้วจับมือเขาไว้ด้วยความตื่นเต้น “เจ้าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วหรือ? จะมีกลอุบายอะไรซ่อนอยู่หรือไม่?”“ไม่มีแน่นอน!”เกาเล่อรีบส่ายหน้า “ก่อนมาที่นี่ ข้าได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่าต่าง ๆ ในกลุ่มพันธมิตรนี้ ย่อมรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดีขอรับ!”“ครั้งนี้พวกเขานำหัวของเจียงเซี่ยวมาให้ และเจียงเซี่ยวก็เป็นผู้นำพันธมิตรจริง ๆ!”“หากท่านไม่เชื่อ คุณหนูไป๋คงยืนยันได้ พวกนางสู้รบกับชนเผ่าทางเหนือมาตลอด คงคุ้นเคยกับศัตรูดีใช่หรือไม่?”ขณะที่กล่าว เกาเล่อก็มองไปที่ไป๋ลั่วหลีไป๋ลั่วหลีไม่ลังเล รีบพยักหน้าทันที“ถูกต้อง!”“ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดคือเจียงเซี่ยว เขาไม
“ปกติพวกเจ้าล้วนองอาจกันไม่ใช่หรือ?”“ก่อนหน้านี้ ตอนที่คิดจะโจมตีราชวงศ์ต้าเย่ พวกเจ้าต่างก็อยากจะแบ่งปันดินแดนกันไม่ใช่หรือ? แล้วตอนนี้ล่ะ? แค่ทหารที่พวกนั้นเชิญมาก็ทำให้พวกเจ้าหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้แล้วหรือ?”“พวกเจ้าอย่าลืมว่าภูมิประเทศของที่นี่อันตราย หากพวกเราไม่ยอมออกจากภูเขา แม้หวังหยวนจะเก่งกาจและมียอดฝีมือมากมายก็ทำอะไรเราไม่ได้! หรือว่าเขาจะสามารถคุกคามเราได้จริง ๆ?”ทุกคนมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดการหลบอยู่ในหุบเขา ไม่ใช่แผนการระยะยาว!“หากผู้ใดกล้าพูดจาบั่นทอนกำลังใจอีก อย่าหาว่าข้าใจร้ายแล้วกัน!”เจียงเซี่ยวตวาดอีกครั้ง ทุกคนจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก เพียงแค่พยักหน้าเห็นด้วยคนเราเมื่ออยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่นย่อมต้องยอมก้มหัว!รุ่งเช้า หวังหยวนและกองทัพเริ่มมุ่งหน้าสู่ภูเขาแห่งนี้!ชนเผ่าต่าง ๆ ล้วนได้รับข่าว บัดนี้หวาดผวาไปหมด เพียงแค่เสียงลมพัดก็คิดว่าเป็นศัตรู!ทุกคนต่างเกรงกลัวอำนาจของหวังหยวน ใครจะกล้าต่อกรกับเขา?แม้จะหลบอยู่ในภูเขา แต่หากหวังหยวนตีฝ่าแนวป้องกันมาได้จะทำเช่นไร?ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมเดาได้!เมื่อคิดได้เช่นนี้ เหล่าหัวหน้าเผ่าจึงมารวมตัวกัน“พวก
“ส่วนเรื่องของตานสยงเฟย ข้าจะจัดการภายหลัง”ตานสยงเฟยเป็นคนดื้อรั้นและแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจไต่เต้าสร้างพรรคทมิฬขึ้นมาได้!หวังหยวนเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงไม่โทษต่งอวี่“ขอบพระคุณท่านผู้นำขอรับ!”ต่งอวี่รับคำ แล้วเดินออกไปพรุ่งนี้มีศึกใหญ่ ต้องพักผ่อนให้เต็มที่ จึงจะมั่นใจได้ว่าจะไม่พลาด!แม้ว่าจะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว หวังหยวนและคนอื่น ๆ นั้นหลับสนิท แต่ในเวลานี้ ชนเผ่าต่าง ๆ ที่เป็นศัตรูกับหวังหยวนกลับยังไม่พักผ่อน เหล่าหัวหน้าเผ่ารวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้!แต่ทุกคนล้วนมีสีหน้ากังวล!“พวกท่านคงได้ยินแล้วกระมัง?”“หวังหยวนนำทัพมาเอง บัดนี้ใกล้จะเปิดศึกกับพวกเราแล้ว จะทำเช่นไรดี?”“ทุกคนคงรู้จักชื่อเสียงของหวังหยวนดี เขาไม่ใช่คนอ่อนแอเลย!”“หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แม้มีความกล้าหาญกว่านี้สิบเท่า ข้าก็ไม่กล้าไปยั่วยุราชวงศ์ต้าเย่!”ตอนนี้ทุกคนต่างเสียใจ อยากถอนตัวกลับกันทั้งนั้นช่างน่าเจ็บใจยิ่งนัก!เดิมทีคิดว่าราชวงศ์ต้าเย่ใกล้สิ้นอำนาจ แผ่นดินจะวุ่นวาย!แต่ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขายังมีแผนสำรอง ยอมทุ่มเทกำลังคนและทรัพย์สินเพื่อเชิญหวังหย
หวังหยวนโบกมือ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “กองทัพไม่ได้อยู่ที่จำนวนมาก แต่อยู่ที่ความแข็งแกร่ง พวกนั้นเป็นแค่ชนเผ่าป่าเถื่อน จะทำอะไรข้าได้?”“เพียงทหารห้าหมื่นนายของข้าก็เพียงพอแล้ว!”“ท่านขุนพลแค่ประจำการอยู่ในเมือง รอฟังข่าวดีจากข้าก็พอ!”หวังหยวนกล่าวด้วยความมั่นใจแน่นอนว่าหวังหยวนไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมรู้ดีว่าหากให้ซือฟางนำทหารออกรบพร้อมกัน เมื่อถึงเวลาแบ่งปันดินแดนจะทำเช่นไร?ช่างยุ่งยากยิ่งนัก!สู้ให้เขานำทัพไปปราบชนเผ่าต่าง ๆ เอง เมื่อสำเร็จ ดินแดนเหล่านั้นก็ตกเป็นของเขาย่อมดีกว่า!แม้มีผู้ใดคิดแย่งชิงก็คงไม่มีโอกาส!ยิ่งกว่านั้น คาดว่าซือฟางคงไม่กล้าเช่นนั้น!หากทั้งสองฝ่ายเปิดศึก ผลลัพธ์ย่อมเป็นหายนะ!ยิ่งไป๋เหยียนเฟยประชวรหนักย่อมกระทบขวัญกำลังใจ ราชวงศ์ต้าเย่จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปสู้รบ?“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนี้ ข้าก็จะรอฟังข่าวดี”“ขอให้ท่านหวังได้รับชัยชนะ!”ซือฟางประสานมือกล่าวทุกคนสนทนากันอีกสักพัก จากนั้นก็แยกย้ายกันไปซือฟางต้องดูแลการป้องกันเมืองจึงกลับไปก่อน ส่วนไป๋ลั่วหลีอยู่ที่ค่าย คอยช่วยเหลือหวังหยวนวางแผนรบ!ต้องมีคนรู้จักภูมิประเทศนำทาง หวังหยวนจึงจะ
นอกเมืองหลวงหวังหยวนเดินทางพร้อมกับไป๋ลั่วหลีกลับมายังค่ายของตนทันทีที่ทั้งสองก้าวเข้ามา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังมาจากด้านนอก ซือฟางในชุดเกราะเดินเข้ามาต้อนรับเนื่องจากไป๋ลั่วหลีได้แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันแล้ว หวังหยวนจึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้ากำลังสงสัยว่าเป็นผู้ใด ที่แท้ก็เป็นท่านขุนพลนี่เอง! เชิญเข้ามาเถิด!”“ท่านหวังเกรงใจเกินไปแล้วขอรับ!”“ท่านมาไกล แถมยังช่วยข้าปราบกบฏทางเหนือ เชิญท่านเข้าไปก่อนเถิดขอรับ!”ซือฟางกล่าวตอบอย่างสุภาพไม่นาน ทุกคนต่างเข้าไปในกระโจมใหญ่ต้าหู่และต่งอวี่ยืนขนาบข้างหวังหยวน ดูองอาจน่าเกรงขาม!ซือฟางมองไปที่ทั้งสอง แล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย “ไม่ทราบว่าสองท่านนี้คือใครหรือขอรับ?”ทั้งสองดูสง่างาม เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ คงไม่ใช่คนธรรมดาเป็นแน่!ซือฟางเป็นขุนพลมายาวนานย่อมมีสายตาที่เฉียบคม!หวังหยวนแนะนำด้วยรอยยิ้ม “ท่านที่อยู่ทางซ้ายมือข้าคือต่งอวี่ นักธนูมือหนึ่งในใต้หล้า ยิงธนูไม่เคยพลาดเป้า เป็นขุนพลเอกในกองทัพ!”“กองกำลังพลธนูที่ข้าฝึกฝนล้วนอยู่ภายใต้การบัญชาการของเขา!”ต่งอวี่พยักหน้าทักทาย“ส่วนท่านที่อยู่ทางขวาคือพี่น
“หรือว่าแผ่นดินนี้จะต้องตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น?”สิ้นคำพูด ซือฟางก็ซัดกำปั้นลงบนกำแพงเมืองอย่างเดือดดาล!เหล่าขุนพลที่ยืนอยู่ด้านหลังต่างไม่กล้าเข้าไปใกล้ หรือแม้แต่จะเอ่ยปาก!“ท่านขุนพลไม่ต้องกังวล!”ทันใดนั้น ขุนนางชราผู้หนึ่งก็เดินออกมา บนใบหน้ามีเคราสีขาวโพลน เพียงดูก็รู้ว่าไม่ใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน!คนผู้นี้คือที่ปรึกษาคนสำคัญของไป๋เหยียนเฟยนามว่า เจี๋ยงโฉ่วอี!ในราชสำนัก ผู้ที่อยู่เหนือเขามีเพียงจักรพรรดินีเท่านั้น!บัดนี้ไป๋เหยียนเฟยป่วยหนัก ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนพึ่งพาเจี๋ยงโฉ่วอี ราชกิจสำคัญล้วนตกเป็นภาระให้เขาตัดสินใจทั้งสิ้น!เห็นได้ชัดว่าเขามีอำนาจสูงส่งล้นฟ้า!“ปรากฏว่าเป็นท่านเจี๋ยงนี่เอง!”“ท่านคงได้ยินสิ่งที่ข้าพูดไปเมื่อครู่แล้วกระมัง?”ซือฟางประสานมือคารวะเจี๋ยงโฉ่วอี แล้วเอ่ยถามเจี๋ยงโฉ่วอีพยักหน้า กล่าวอย่างใจเย็นว่า “ข้ารู้ว่าท่านขุนพลจงรักภักดี ย่อมคิดถึงฝ่าบาท แต่พระองค์ก็มีเรื่องที่ต้องกังวลเช่นกัน!”“ครั้งนี้พระองค์ไม่เพียงต้องการให้หวังหยวนช่วยปราบปรามอริทางเหนือเท่านั้น แต่ยัง...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง เจี๋ยงโฉ่วอีก็หยุดพูด พร้อมกับเหลือบมองขุนพลน