Share

บทที่ 678

Author: ชวินเป่ยอี๋
ไป๋เฟยเฟยพยักหน้าและคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“น่าจะเป็น... ไทเฮาแห่งราชสำนักหวง หากข่าวของข้าไม่ผิด นางคือคนที่คุมเกมนี้อยู่!”

ไป๋เฟยเฟยมองไปที่หวังหยวนด้วยสีหน้ากังวล

“ไทเฮา? ยัยเฒ่านี่เก่งจริง ๆ”

หวังหยวนขำ แต่ไป่เฟยเฟยที่ได้ยินกลับส่ายหน้า

“ผิดแล้ว... ไทเฮาผู้นี้ไม่ใช่หญิงชรา แต่เป็นวัยรุ่นสาวสวย หากข้อมูลถูกต้อง ปีนี้นางน่าจะอายุยี่สิบเจ็ดเอง!”

ทันทีที่ไป๋เฟยเฟยพูดออกมา หวังหยวนก็ตกใจตาแทบถลน!

“อะไรนะ ยี่สิบเจ็ด! ได้เป็นไทเฮาแล้ว? ไม่ใช่กระมั้ง!”

หวังหยวนไม่ค่อยเข้าใจ ผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งเกินไป นางเหมือนบูเช็กเทียนในยุคปัจจุบัน!

“ถูกแล้ว เมื่อแปดปีที่แล้วนางเข้ามาวังและกลายเป็นฮองเฮา สามปีต่อมาจักรพรรดิก็สิ้นพระชนม์ไป องค์รัชทายาทมีอายุแค่ห้าขวบ นาง... จึงกลายเป็นไทเฮาไปโดยปริยาย! "

“เดิมคิดว่าราชสำนักหวงจะตกอยู่ในความวุ่นวายจากการสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิ นอกเหนือจากเชื้อพระวงศ์แล้ว ยังมีอ๋องและพระญาติอีกมากมายในราชสำนักหวงที่สามารถต่อสู้แก่งแย่งชิงดีได้!”

“แต่... ผู้หญิงคนนี้ใช้เวลาแค่สามปี ทำให้เชื้อพระวงศ์ทั้งหมดก้มหัวให้นาง แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะมีความทะเยอทะยาน แต่พวกเขาก็ยังค
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
พระเอกกว่าจะคิดได้ก็เกือบ700ตอน ถ้าคิดได้เร็วกว่านี้เหตุการณ์น่าจะไม่เป็นแบบนี้ คิดจะเป็นคนรวยธรรมดาๆช่างเพ้อฝัน ถ้าไม่มีอำนาจอย่าหวังจะใช้ชีวิตสงบๆได้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 679

    หากอยากจะปกป้องครอบครัวและปกป้องตัวเองให้ได้ ก็ต้องยิ่งทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!เรื่องแบบนี้เขาเข้าใจมานานมาแล้ว แต่เดิมทีเขาเองก็ไม่คิดอยากจะมีชื่อเสียงมากนัก และไม่มีใครสนใจเขาหลังจากการสังหารอ๋องถูหนาน หวังหยวนก็มีชื่อเสียง แม้ว่าหลายคนจะไม่เชื่อ แต่คนอื่น ๆ ก็ย่อมรู้ว่าหวังหยวนนั้นไม่ธรรมดาจะซ่อนเรื่องซุ่มซ่ามของตัวเองดูท่าคงยากแล้ว!ตอนนี้หวังหยวนต้องเริ่มลงมือแล้วเท่านั้นหลังจากได้ยิน ไป๋เฟยเฟยก็หัวเราะและรู้สึกตื่นเต้นมาก!“พี่หวัง ข้าจะไปเตรียมการ และท่าน...อาจมีอะไรให้ทำอีกมาก ข้าไม่รบกวนแล้ว”ไป๋เฟยเฟยกล่าวและกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มหลังจากที่ไป๋เฟยเฟยกลับไปแล้ว หวังหยวนก็เขียนจดหมายสองสามฉบับและวางลงบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็เรียกหาต้าหู่ หลี่ซือหาน วังฉงโหลว หลี่จ้าวหลิน และพวกถังหม่างเข้ามาด้วยพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหวังหยวน แต่พวกเขาทั้งหมดก็ทำตัวเรียบร้อยและไม่พูดอะไร เพราะพวกเขาเห็นว่าท่าทางของหวังหยวนดูจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย“ข้ามีเรื่องอยากจะบอก พวกเจ้าต้องจำเอาไว้ และทำตามที่ข้าได้บอกเอาไว้นะ”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ทุกคนก็รีบพยักหน้าทันที“เรื

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 680

    หวังหยวนตัดสินใจบอกความจริงทุกอย่างกับพวกเขาอย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกเขาได้ฟังแล้ว ก็ยิ่งกังวลมากขึ้นไปอีก!“พี่หยวน ถ้าต้าเย่จะทำเช่นนี้จริง เรา... เราจะขัดขืน!”“ถูกต้อง ให้ตายเถอะ พวกเขาถึงได้คิดรังแกผู้คนอยู่ได้!”“หมู่บ้านต้าหวังของเราแข็งแกร่งมาก แม้ว่าเราจะมีคนไม่กี่หมื่นคน ก็มาบุกโจมตีไม่ได้ง่าย ๆ ภูเขาสูง และจักรพรรดิอยู่ห่างไกล ข้าสงสัยว่าฝ่าบาทจะทำอะไรได้!”พวกเขาหงุดหงิดงุ่นง่านกันไปหมด หวังหยวนที่ได้เห็นท่าทางเขาแบบนั้นก็รู้สึกตื้นตันใจมาก“ช่างเถอะ เจ้าทำไปก็ไม่มีประโยชน์ ข้าทำแบบนี้ก็เพื่อพวกเจ้าเช่นกัน”“ข้าไม่อยากให้พวกเจ้าต้องมาพลอยเดือดร้อนไปกับข้า และ...ข้าไปแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก ทำตามที่ข้าบอกก็พอแล้ว”“ไม่ต้องห่วง ข้าสัญญาว่าข้าจะรอดกลับมาให้ได้”หวังหยวนยิ้มปลอบใจทุกคนแม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจ แต่พวกเขาก็ยังเชื่อฟังหวังหยวนหลังจากให้พวกเขาออกไปแล้ว มีแค่หลี่ซือหานที่อยู่ในบ้านนางไม่ได้พูดอะไร แต่ขอบตาของนางแดงก่ำ นางนั่งข้างหวังหยวนและชงชาให้เขา“เป็นอะไรไปหรือ ภรรยาที่รักของข้า เป็นห่วงข้างั้นหรือ?” หวังหยวนหัวเราะหลี่ซือหานพยักหน้า "ท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 681

    อากู่ฉานั้นย่อมโหดร้าย!และอู๋หลิงก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน แม้ว่าไพร่พลในกองทัพจะต่างกันนับหมื่น แต่เขาก็ยังคงยืนหยัดสู้ต่อไป!“อากู่ฉา ถอยทัพออกไปเถอะ หากยังต่อสู้เช่นนี้ต่อไป เจ้าก็ไม่อาจชนะได้!”ต่อหน้ากองทัพทั้งสอง อู๋หลิงสวมชุดเกราะสีเงิน เขามีท่าทางไม่ธรรมดา คิ้วคมราวกับดาบ รัศมีอำมหิตอันดุร้ายแผ่ซ่าน!แม้ว่าเขาต้องการทำลายกองทัพหวงเหยียนของอากู่ฉาจริง ๆ แต่เขาก็เป็นห่วงหวังหยวน!เขาต้องการแก้ปัญหาสงครามที่นี่ และช่วยเหลือหวังหยวน!แต่เขาไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้ อยู่ภายใต้การควบคุมของหวงเหยียนขณะนี้อากู่ฉายิ้มขณะพูดอย่างสงบ “อู๋หลิง พวกเจ้าไม่ธรรมดาเลย แต่การต่อสู้ครั้งนี้ การต้องต่อสู้กับกองทหารชั้นยอดของข้าในเมืองหวงนั้น ทหารต้าเย่ของเจ้ายังไม่อาจเทียบเคียงได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในต้าเย่ของเจ้า ยังมีทหารสามหมื่นนายของเมืองหวงอยู่ในเมืองชิงชวนด้วย เพียงข้าแค่ออกคำสั่งให้ทั้งสองฝ่ายเริ่มโจมตี พวกเจ้าก็จะพ่ายแพ้และถูกสังหาร!”หลังจากที่อากู่ฉาพูดจบ อู๋หลิงก็สีหน้าเคร่งเครียด แต่ยังคงไม่ถอดใจ เขาพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “เจ้าก็ลองดูสิ!”“ฮ่าฮ่าฮ่า อู๋หลิง ข้ารู้ว่าเจ้าไม่กลัว แต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 682

    เสียงที่ดังและทรงพลังของเป้าชิงสื่อดังก้องไปทั่วห้องตำราหลวง!ในขณะนี้ สีหน้าของทุกคนมืดมนลงหลังจากได้ยินคำพูดของเขา!นี่คือจุดอ่อนของราชวงศ์ต้าเย่ ทุกครั้งที่เกิดสงคราม ทุกคนจะกังวลเรื่องนี้!เพราะนอกจากหวงเหยียนแล้ว ยังมีพวกคนเถื่อน คนนอกเผ่า และอีกหลายฝ่ายที่กำลังจับตาดูอยู่!ดังนั้น แม้ว่าต้าเย่จะมีพลังมากพอที่จะต่อสู้กับหวงเหยียน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะยังมีร่องรอยของความไม่สบายใจอยู่ในใจอยู่เสมอ!ความกังวลนี้มาจากคนต่างเผ่าอื่น ๆ!เป้าชิงสื่อเข้าใจหลักการนี้ หยางเฟิ่งกั๋วก็เข้าใจ และอีกหกคน...ก็เข้าใจเหมือนกัน!ดังนั้น...ในฐานะฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ ฮ่องเต้ซิงหลงย่อมเข้าใจ!เขาเหลือบมองเป้าชิงสื่อที่มีสีหน้าจริงจัง และหยางเฟิ่งกั๋วที่หน้าตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความโกรธ จากนั้นเขาก็เห็นสีหน้าหลากหลาย บนใบหน้าของทุกคนในหกกรม แล้วเขาก็มีข้อสรุปในใจแล้ว!หวังหยวนคนนี้...เขาไม่ชอบที่คนที่คอยจุดไฟอยู่เบื้องหลังอย่างวังไห่เทียน แต่ก็ทำได้เพียงหารือกันในราชสำนักและตอนนี้ โอกาสนี้ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่จะกำจัดเขาให้สิ้นซาก!สำหรับฮ่องเต้ซิงหลง ย่อมไม่พลาด!ดังนั้น...สิ่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 683

    เมื่อกล่าวเช่นนี้จบ ฮ่องเต้ซิงหลงก็มองทุกคน ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงค่อย ๆ พูดว่า “ท่านทั้งหลายเป็นผู้อุทิศตนในต้าเย่ ดังนั้น... พวกท่านคิดว่าเรื่องนี้ควรได้รับการแก้ไข หรือประนีประนอมอย่างไร?”หลังจากพูดคำเหล่านี้ หยางเฟิ่งกั๋วก็รู้สึกจุกอยู่ในใจ เพราะเขาเดาได้แล้ว!สำหรับคนอื่น ๆ ก็ย่อมรู้แล้วว่าจะตัดสินใจอย่างไร!สือเหยาเฉียน เจ้ากรมกรมโยธาธิการลุกขึ้นยืนทันที แล้วกล่าวด้วยความเคารพ “ฝ่าบาท กระหม่อมมีวิธีประนีประนอม แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้หรือไม่”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ฮ่องเต้ซิงหลงก็ดีใจมาก รีบพยักหน้าทันที “พูดมาสิ ท่านสือ”สือเหยาเฉียนจึงกล่าวว่า “ฝ่าบาท สิ่งที่หวงเหยียนต้องการคือหวังหยวน แต่เราไม่สามารถส่งตัวเขาออกไปเลย ตามที่พวกเขาต้องการเช่นนั้นได้ กระหม่อมขอแนะนำว่าควรให้หวังหยวน ไปหาหวงเหยียนในฐานะทูตพ่ะย่ะค่ะ!”“ด้วยวิธีนี้ ก็จะทราบว่าหวงเหยียนต้องการอะไร ตั้งแต่สมัยโบราณจะไม่มีการสังหารทูต ข้าคิดว่าเนื่องจากต้าเย่ของเรา หวงเหยียนจะไม่กล้าทำร้ายหวังหยวน จึงสามารถช่วยให้เขารอดชีวิตได้! เพื่อแลกกับความปลอดภัยของชายแดนพ่ะย่ะค่ะ”ฟังดูดี แต่ทุกคนรู้ดีว่ามันไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 684

    คนเช่นนี้จะถูกส่งไปยังหวงเหยียน โดยไม่รู้ว่าจะอยู่หรือตาย แน่นอนว่าเขากังวลมาก!ในขณะนี้ หวังหยวนกำลังนั่งอยู่ในห้อง และส่ายหน้าเมื่อเห็นราชโองการแต่งตั้งเป็นทูต น่าสนใจมาก หากไม่ใช่เพราะศักดิ์ศรีแห่งต้าเย่ เกรงว่าเขาคงจะเป็นทูตไม่ได้“แต่โชคดี… ข้ามีตำแหน่งเป็นทูต เรื่องนี้… ถือได้ว่าเป็นกำไรที่ไม่คาดคิด”“ท่านหมิงถัน คำสั่งบอกให้ท่านไปปฏิบัติภารกิจที่หวงเหยียนในอีกไม่กี่วัน ท่านอยากไปจริงหรือ?”เฉิงเหลียวมองหวังหยวน แล้วรู้สึกกังวลเล็กน้อย ในขณะนี้ แม้ว่าในใจของเขาจะยังคงอยู่ฝ่ายเสนาบดีฝ่ายขวา แต่ที่สำคัญกว่านั้น เขายังคงรู้สึกว่าหวังหยวน เป็นคนที่คู่ควรกับมิตรภาพที่ใกล้ชิด และยินดีที่จะทำงานให้เขาด้วยเห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ฝ่ายเสนาบดีฝ่ายขวา แต่ในใจเขา เขาได้กำหนดไว้แล้วว่าเขาอยู่ฝ่ายหวังหยวน!หวังหยวนย่อมไม่อยากไป แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หากเขาไม่ยอมไป ฮ่องเต้ต้าเย่ก็คงไม่ใจดีกับเขา!ดังนั้นจึงมีทางเดียว ก็คือต้องไป!หลังจากที่เฉิงเหลียวออกไปแล้ว หวังหยวนก็มองต้าหู่ แล้วพูดว่า “ส่งจดหมายเหล่านี้ให้ถึงมือพวกเขาแต่ละคน...”มีจดหมายสำหรับอู๋หลิง พี่วัง หงเยี่ยและท่านลุงหวังหยวนส่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 685

    เมื่อวางจดหมายลง หวังหยวนก็ถอนหายใจ ทันใดนั้น ต้าหู่ก็นำจดหมายอีกฉบับมาให้ด้วย!จดหมายนี้เขียนอย่างเรียบง่าย ด้วยถ้อยคำเพียงไม่กี่คำ‘พูดคุยกันนอกเมือง’จดหมายฉบับนี้ ไม่จำเป็นต้องมองลายมือก็รู้ว่าเป็นของใคร มันย่อมเป็นของเจิ้งไท่ชิงหวังหยวนยกยิ้ม แล้วพูดว่า “มาเถอะ ไปพบกับขุนพลเจิ้งคนนี้กับข้า”พูดจบ หวังหยวนก็เดินทางออกจากเมืองไปทันที แม้ว่าในสายตาของทุกคน สงครามยังไม่หยุด แต่บางคนก็รู้ว่าสงครามหยุดแล้ว!กองทัพชิงชวนจะไม่รุกคืบอย่างหุนหันพลันแล่นอีกต่อไป!บัดนี้มีเพียงสองคนนั่งอยู่ในศาลานอกเมือง ขณะกำลังชงชา“ท่านพ่อ เขาจะมาจริงหรือขอรับ?”เจิ้งเซิ่งถามด้วยความสงสัยในเวลานี้“เซิ่งเอ๋อร์ เจ้าว่าอย่างไร?” เจิ้งไท่ชิงถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าคิดว่าเขา... เขาน่าจะมา แต่ข้าไม่คิดว่าเขาจะฉลาดเท่าที่ท่านพ่อคิดขอรับ”เจิ้งเซิ่งกล่าวว่าตอนนี้สถานการณ์ชัดเจนแล้ว หวังหยวนย่อมรู้ดีแล้วว่าไม่มีอันตราย ดังนั้นเขาย่อมมาแต่เขารู้สึกว่าหวังหยวนไม่ได้ฉลาดเท่าที่พ่อของเขาบอกไว้“ฮ่าฮ่า เช่นนั้นเจ้าก็แค่รอดู”เจิ้งไท่ชิงส่ายหน้าและยิ้ม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากในเวลานี้ มีม้าสูงสองตัวกำลังวิ่ง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 686

    เจิ้งเซิ่งเหลือบมองหวังหยวน ยกมือขึ้นแล้วพูดว่า “ท่านหวัง ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าเหตุใดเจ้าถึงเดาความคิดของพ่อข้าได้”จากการกบฏของกองทัพชิงชวน ไปจนถึงการพูดคุยยามค่ำคืนที่นี่ มีเพียงการแลกเปลี่ยนทางจดหมาย และการเผชิญหน้ากันในค่ายเสบียงหนัก เหตุใดชายคนนี้ถึงสามารถมองทะลุผ่าน และถ่ายทอดสิ่งที่เขาต้องการแสดงให้พ่อของเขาฟังได้เหตุใดกัน ทั้งที่ไม่ได้เห็นเรื่องนี้ด้วยตัวเองหวังหยวนเหลือบมองเจิ้งเซิ่ง ก่อนจะยิ้มแล้วอธิบาย“มันไม่ใช่การเดา แต่เป็นความเข้าใจตามเหตุผล นับตั้งแต่ที่พ่อของเจ้ามาที่เฉิงโจว ข้าก็รู้ว่าเขาคิดอะไรเมื่อออกคำสั่งครั้งแรก และเขาก็เตือนข้าด้วย”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เจิ้งเซิ่งก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็คิดอะไรบางอย่าง แล้วอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พ่อของข้าบอกว่า... ทำลายเมืองหรือ?”เจิ้งเซิ่งตกตะลึง เพราะเมืองถูกทำลาย เขาจึงมั่นใจได้ว่าพวกเขาไม่มีเจตนาจะฆ่าจริง ๆ งั้นหรือ“แล้วจดหมายฉบับที่สอง เป็นการทดสอบหรือ?”เจิ้งเซิ่งถามด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ได้ฉลาดถึงเพียงนั้น แต่เมื่อกองทัพชิงชวนยึดชายแดน คนของหวงเหยียนก็ยื่นไมตรีมาให้

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status