แชร์

บทที่ 678

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ไป๋เฟยเฟยพยักหน้าและคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“น่าจะเป็น... ไทเฮาแห่งราชสำนักหวง หากข่าวของข้าไม่ผิด นางคือคนที่คุมเกมนี้อยู่!”

ไป๋เฟยเฟยมองไปที่หวังหยวนด้วยสีหน้ากังวล

“ไทเฮา? ยัยเฒ่านี่เก่งจริง ๆ”

หวังหยวนขำ แต่ไป่เฟยเฟยที่ได้ยินกลับส่ายหน้า

“ผิดแล้ว... ไทเฮาผู้นี้ไม่ใช่หญิงชรา แต่เป็นวัยรุ่นสาวสวย หากข้อมูลถูกต้อง ปีนี้นางน่าจะอายุยี่สิบเจ็ดเอง!”

ทันทีที่ไป๋เฟยเฟยพูดออกมา หวังหยวนก็ตกใจตาแทบถลน!

“อะไรนะ ยี่สิบเจ็ด! ได้เป็นไทเฮาแล้ว? ไม่ใช่กระมั้ง!”

หวังหยวนไม่ค่อยเข้าใจ ผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งเกินไป นางเหมือนบูเช็กเทียนในยุคปัจจุบัน!

“ถูกแล้ว เมื่อแปดปีที่แล้วนางเข้ามาวังและกลายเป็นฮองเฮา สามปีต่อมาจักรพรรดิก็สิ้นพระชนม์ไป องค์รัชทายาทมีอายุแค่ห้าขวบ นาง... จึงกลายเป็นไทเฮาไปโดยปริยาย! "

“เดิมคิดว่าราชสำนักหวงจะตกอยู่ในความวุ่นวายจากการสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิ นอกเหนือจากเชื้อพระวงศ์แล้ว ยังมีอ๋องและพระญาติอีกมากมายในราชสำนักหวงที่สามารถต่อสู้แก่งแย่งชิงดีได้!”

“แต่... ผู้หญิงคนนี้ใช้เวลาแค่สามปี ทำให้เชื้อพระวงศ์ทั้งหมดก้มหัวให้นาง แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะมีความทะเยอทะยาน แต่พวกเขาก็ยังค
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
พระเอกกว่าจะคิดได้ก็เกือบ700ตอน ถ้าคิดได้เร็วกว่านี้เหตุการณ์น่าจะไม่เป็นแบบนี้ คิดจะเป็นคนรวยธรรมดาๆช่างเพ้อฝัน ถ้าไม่มีอำนาจอย่าหวังจะใช้ชีวิตสงบๆได้
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 679

    หากอยากจะปกป้องครอบครัวและปกป้องตัวเองให้ได้ ก็ต้องยิ่งทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!เรื่องแบบนี้เขาเข้าใจมานานมาแล้ว แต่เดิมทีเขาเองก็ไม่คิดอยากจะมีชื่อเสียงมากนัก และไม่มีใครสนใจเขาหลังจากการสังหารอ๋องถูหนาน หวังหยวนก็มีชื่อเสียง แม้ว่าหลายคนจะไม่เชื่อ แต่คนอื่น ๆ ก็ย่อมรู้ว่าหวังหยวนนั้นไม่ธรรมดาจะซ่อนเรื่องซุ่มซ่ามของตัวเองดูท่าคงยากแล้ว!ตอนนี้หวังหยวนต้องเริ่มลงมือแล้วเท่านั้นหลังจากได้ยิน ไป๋เฟยเฟยก็หัวเราะและรู้สึกตื่นเต้นมาก!“พี่หวัง ข้าจะไปเตรียมการ และท่าน...อาจมีอะไรให้ทำอีกมาก ข้าไม่รบกวนแล้ว”ไป๋เฟยเฟยกล่าวและกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มหลังจากที่ไป๋เฟยเฟยกลับไปแล้ว หวังหยวนก็เขียนจดหมายสองสามฉบับและวางลงบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็เรียกหาต้าหู่ หลี่ซือหาน วังฉงโหลว หลี่จ้าวหลิน และพวกถังหม่างเข้ามาด้วยพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหวังหยวน แต่พวกเขาทั้งหมดก็ทำตัวเรียบร้อยและไม่พูดอะไร เพราะพวกเขาเห็นว่าท่าทางของหวังหยวนดูจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย“ข้ามีเรื่องอยากจะบอก พวกเจ้าต้องจำเอาไว้ และทำตามที่ข้าได้บอกเอาไว้นะ”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ทุกคนก็รีบพยักหน้าทันที“เรื

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 680

    หวังหยวนตัดสินใจบอกความจริงทุกอย่างกับพวกเขาอย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกเขาได้ฟังแล้ว ก็ยิ่งกังวลมากขึ้นไปอีก!“พี่หยวน ถ้าต้าเย่จะทำเช่นนี้จริง เรา... เราจะขัดขืน!”“ถูกต้อง ให้ตายเถอะ พวกเขาถึงได้คิดรังแกผู้คนอยู่ได้!”“หมู่บ้านต้าหวังของเราแข็งแกร่งมาก แม้ว่าเราจะมีคนไม่กี่หมื่นคน ก็มาบุกโจมตีไม่ได้ง่าย ๆ ภูเขาสูง และจักรพรรดิอยู่ห่างไกล ข้าสงสัยว่าฝ่าบาทจะทำอะไรได้!”พวกเขาหงุดหงิดงุ่นง่านกันไปหมด หวังหยวนที่ได้เห็นท่าทางเขาแบบนั้นก็รู้สึกตื้นตันใจมาก“ช่างเถอะ เจ้าทำไปก็ไม่มีประโยชน์ ข้าทำแบบนี้ก็เพื่อพวกเจ้าเช่นกัน”“ข้าไม่อยากให้พวกเจ้าต้องมาพลอยเดือดร้อนไปกับข้า และ...ข้าไปแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก ทำตามที่ข้าบอกก็พอแล้ว”“ไม่ต้องห่วง ข้าสัญญาว่าข้าจะรอดกลับมาให้ได้”หวังหยวนยิ้มปลอบใจทุกคนแม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจ แต่พวกเขาก็ยังเชื่อฟังหวังหยวนหลังจากให้พวกเขาออกไปแล้ว มีแค่หลี่ซือหานที่อยู่ในบ้านนางไม่ได้พูดอะไร แต่ขอบตาของนางแดงก่ำ นางนั่งข้างหวังหยวนและชงชาให้เขา“เป็นอะไรไปหรือ ภรรยาที่รักของข้า เป็นห่วงข้างั้นหรือ?” หวังหยวนหัวเราะหลี่ซือหานพยักหน้า "ท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 681

    อากู่ฉานั้นย่อมโหดร้าย!และอู๋หลิงก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน แม้ว่าไพร่พลในกองทัพจะต่างกันนับหมื่น แต่เขาก็ยังคงยืนหยัดสู้ต่อไป!“อากู่ฉา ถอยทัพออกไปเถอะ หากยังต่อสู้เช่นนี้ต่อไป เจ้าก็ไม่อาจชนะได้!”ต่อหน้ากองทัพทั้งสอง อู๋หลิงสวมชุดเกราะสีเงิน เขามีท่าทางไม่ธรรมดา คิ้วคมราวกับดาบ รัศมีอำมหิตอันดุร้ายแผ่ซ่าน!แม้ว่าเขาต้องการทำลายกองทัพหวงเหยียนของอากู่ฉาจริง ๆ แต่เขาก็เป็นห่วงหวังหยวน!เขาต้องการแก้ปัญหาสงครามที่นี่ และช่วยเหลือหวังหยวน!แต่เขาไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้ อยู่ภายใต้การควบคุมของหวงเหยียนขณะนี้อากู่ฉายิ้มขณะพูดอย่างสงบ “อู๋หลิง พวกเจ้าไม่ธรรมดาเลย แต่การต่อสู้ครั้งนี้ การต้องต่อสู้กับกองทหารชั้นยอดของข้าในเมืองหวงนั้น ทหารต้าเย่ของเจ้ายังไม่อาจเทียบเคียงได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในต้าเย่ของเจ้า ยังมีทหารสามหมื่นนายของเมืองหวงอยู่ในเมืองชิงชวนด้วย เพียงข้าแค่ออกคำสั่งให้ทั้งสองฝ่ายเริ่มโจมตี พวกเจ้าก็จะพ่ายแพ้และถูกสังหาร!”หลังจากที่อากู่ฉาพูดจบ อู๋หลิงก็สีหน้าเคร่งเครียด แต่ยังคงไม่ถอดใจ เขาพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “เจ้าก็ลองดูสิ!”“ฮ่าฮ่าฮ่า อู๋หลิง ข้ารู้ว่าเจ้าไม่กลัว แต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 682

    เสียงที่ดังและทรงพลังของเป้าชิงสื่อดังก้องไปทั่วห้องตำราหลวง!ในขณะนี้ สีหน้าของทุกคนมืดมนลงหลังจากได้ยินคำพูดของเขา!นี่คือจุดอ่อนของราชวงศ์ต้าเย่ ทุกครั้งที่เกิดสงคราม ทุกคนจะกังวลเรื่องนี้!เพราะนอกจากหวงเหยียนแล้ว ยังมีพวกคนเถื่อน คนนอกเผ่า และอีกหลายฝ่ายที่กำลังจับตาดูอยู่!ดังนั้น แม้ว่าต้าเย่จะมีพลังมากพอที่จะต่อสู้กับหวงเหยียน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะยังมีร่องรอยของความไม่สบายใจอยู่ในใจอยู่เสมอ!ความกังวลนี้มาจากคนต่างเผ่าอื่น ๆ!เป้าชิงสื่อเข้าใจหลักการนี้ หยางเฟิ่งกั๋วก็เข้าใจ และอีกหกคน...ก็เข้าใจเหมือนกัน!ดังนั้น...ในฐานะฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ ฮ่องเต้ซิงหลงย่อมเข้าใจ!เขาเหลือบมองเป้าชิงสื่อที่มีสีหน้าจริงจัง และหยางเฟิ่งกั๋วที่หน้าตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความโกรธ จากนั้นเขาก็เห็นสีหน้าหลากหลาย บนใบหน้าของทุกคนในหกกรม แล้วเขาก็มีข้อสรุปในใจแล้ว!หวังหยวนคนนี้...เขาไม่ชอบที่คนที่คอยจุดไฟอยู่เบื้องหลังอย่างวังไห่เทียน แต่ก็ทำได้เพียงหารือกันในราชสำนักและตอนนี้ โอกาสนี้ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่จะกำจัดเขาให้สิ้นซาก!สำหรับฮ่องเต้ซิงหลง ย่อมไม่พลาด!ดังนั้น...สิ่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 683

    เมื่อกล่าวเช่นนี้จบ ฮ่องเต้ซิงหลงก็มองทุกคน ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงค่อย ๆ พูดว่า “ท่านทั้งหลายเป็นผู้อุทิศตนในต้าเย่ ดังนั้น... พวกท่านคิดว่าเรื่องนี้ควรได้รับการแก้ไข หรือประนีประนอมอย่างไร?”หลังจากพูดคำเหล่านี้ หยางเฟิ่งกั๋วก็รู้สึกจุกอยู่ในใจ เพราะเขาเดาได้แล้ว!สำหรับคนอื่น ๆ ก็ย่อมรู้แล้วว่าจะตัดสินใจอย่างไร!สือเหยาเฉียน เจ้ากรมกรมโยธาธิการลุกขึ้นยืนทันที แล้วกล่าวด้วยความเคารพ “ฝ่าบาท กระหม่อมมีวิธีประนีประนอม แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้หรือไม่”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ฮ่องเต้ซิงหลงก็ดีใจมาก รีบพยักหน้าทันที “พูดมาสิ ท่านสือ”สือเหยาเฉียนจึงกล่าวว่า “ฝ่าบาท สิ่งที่หวงเหยียนต้องการคือหวังหยวน แต่เราไม่สามารถส่งตัวเขาออกไปเลย ตามที่พวกเขาต้องการเช่นนั้นได้ กระหม่อมขอแนะนำว่าควรให้หวังหยวน ไปหาหวงเหยียนในฐานะทูตพ่ะย่ะค่ะ!”“ด้วยวิธีนี้ ก็จะทราบว่าหวงเหยียนต้องการอะไร ตั้งแต่สมัยโบราณจะไม่มีการสังหารทูต ข้าคิดว่าเนื่องจากต้าเย่ของเรา หวงเหยียนจะไม่กล้าทำร้ายหวังหยวน จึงสามารถช่วยให้เขารอดชีวิตได้! เพื่อแลกกับความปลอดภัยของชายแดนพ่ะย่ะค่ะ”ฟังดูดี แต่ทุกคนรู้ดีว่ามันไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 684

    คนเช่นนี้จะถูกส่งไปยังหวงเหยียน โดยไม่รู้ว่าจะอยู่หรือตาย แน่นอนว่าเขากังวลมาก!ในขณะนี้ หวังหยวนกำลังนั่งอยู่ในห้อง และส่ายหน้าเมื่อเห็นราชโองการแต่งตั้งเป็นทูต น่าสนใจมาก หากไม่ใช่เพราะศักดิ์ศรีแห่งต้าเย่ เกรงว่าเขาคงจะเป็นทูตไม่ได้“แต่โชคดี… ข้ามีตำแหน่งเป็นทูต เรื่องนี้… ถือได้ว่าเป็นกำไรที่ไม่คาดคิด”“ท่านหมิงถัน คำสั่งบอกให้ท่านไปปฏิบัติภารกิจที่หวงเหยียนในอีกไม่กี่วัน ท่านอยากไปจริงหรือ?”เฉิงเหลียวมองหวังหยวน แล้วรู้สึกกังวลเล็กน้อย ในขณะนี้ แม้ว่าในใจของเขาจะยังคงอยู่ฝ่ายเสนาบดีฝ่ายขวา แต่ที่สำคัญกว่านั้น เขายังคงรู้สึกว่าหวังหยวน เป็นคนที่คู่ควรกับมิตรภาพที่ใกล้ชิด และยินดีที่จะทำงานให้เขาด้วยเห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ฝ่ายเสนาบดีฝ่ายขวา แต่ในใจเขา เขาได้กำหนดไว้แล้วว่าเขาอยู่ฝ่ายหวังหยวน!หวังหยวนย่อมไม่อยากไป แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หากเขาไม่ยอมไป ฮ่องเต้ต้าเย่ก็คงไม่ใจดีกับเขา!ดังนั้นจึงมีทางเดียว ก็คือต้องไป!หลังจากที่เฉิงเหลียวออกไปแล้ว หวังหยวนก็มองต้าหู่ แล้วพูดว่า “ส่งจดหมายเหล่านี้ให้ถึงมือพวกเขาแต่ละคน...”มีจดหมายสำหรับอู๋หลิง พี่วัง หงเยี่ยและท่านลุงหวังหยวนส่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 685

    เมื่อวางจดหมายลง หวังหยวนก็ถอนหายใจ ทันใดนั้น ต้าหู่ก็นำจดหมายอีกฉบับมาให้ด้วย!จดหมายนี้เขียนอย่างเรียบง่าย ด้วยถ้อยคำเพียงไม่กี่คำ‘พูดคุยกันนอกเมือง’จดหมายฉบับนี้ ไม่จำเป็นต้องมองลายมือก็รู้ว่าเป็นของใคร มันย่อมเป็นของเจิ้งไท่ชิงหวังหยวนยกยิ้ม แล้วพูดว่า “มาเถอะ ไปพบกับขุนพลเจิ้งคนนี้กับข้า”พูดจบ หวังหยวนก็เดินทางออกจากเมืองไปทันที แม้ว่าในสายตาของทุกคน สงครามยังไม่หยุด แต่บางคนก็รู้ว่าสงครามหยุดแล้ว!กองทัพชิงชวนจะไม่รุกคืบอย่างหุนหันพลันแล่นอีกต่อไป!บัดนี้มีเพียงสองคนนั่งอยู่ในศาลานอกเมือง ขณะกำลังชงชา“ท่านพ่อ เขาจะมาจริงหรือขอรับ?”เจิ้งเซิ่งถามด้วยความสงสัยในเวลานี้“เซิ่งเอ๋อร์ เจ้าว่าอย่างไร?” เจิ้งไท่ชิงถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าคิดว่าเขา... เขาน่าจะมา แต่ข้าไม่คิดว่าเขาจะฉลาดเท่าที่ท่านพ่อคิดขอรับ”เจิ้งเซิ่งกล่าวว่าตอนนี้สถานการณ์ชัดเจนแล้ว หวังหยวนย่อมรู้ดีแล้วว่าไม่มีอันตราย ดังนั้นเขาย่อมมาแต่เขารู้สึกว่าหวังหยวนไม่ได้ฉลาดเท่าที่พ่อของเขาบอกไว้“ฮ่าฮ่า เช่นนั้นเจ้าก็แค่รอดู”เจิ้งไท่ชิงส่ายหน้าและยิ้ม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากในเวลานี้ มีม้าสูงสองตัวกำลังวิ่ง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 686

    เจิ้งเซิ่งเหลือบมองหวังหยวน ยกมือขึ้นแล้วพูดว่า “ท่านหวัง ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าเหตุใดเจ้าถึงเดาความคิดของพ่อข้าได้”จากการกบฏของกองทัพชิงชวน ไปจนถึงการพูดคุยยามค่ำคืนที่นี่ มีเพียงการแลกเปลี่ยนทางจดหมาย และการเผชิญหน้ากันในค่ายเสบียงหนัก เหตุใดชายคนนี้ถึงสามารถมองทะลุผ่าน และถ่ายทอดสิ่งที่เขาต้องการแสดงให้พ่อของเขาฟังได้เหตุใดกัน ทั้งที่ไม่ได้เห็นเรื่องนี้ด้วยตัวเองหวังหยวนเหลือบมองเจิ้งเซิ่ง ก่อนจะยิ้มแล้วอธิบาย“มันไม่ใช่การเดา แต่เป็นความเข้าใจตามเหตุผล นับตั้งแต่ที่พ่อของเจ้ามาที่เฉิงโจว ข้าก็รู้ว่าเขาคิดอะไรเมื่อออกคำสั่งครั้งแรก และเขาก็เตือนข้าด้วย”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เจิ้งเซิ่งก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็คิดอะไรบางอย่าง แล้วอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พ่อของข้าบอกว่า... ทำลายเมืองหรือ?”เจิ้งเซิ่งตกตะลึง เพราะเมืองถูกทำลาย เขาจึงมั่นใจได้ว่าพวกเขาไม่มีเจตนาจะฆ่าจริง ๆ งั้นหรือ“แล้วจดหมายฉบับที่สอง เป็นการทดสอบหรือ?”เจิ้งเซิ่งถามด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ได้ฉลาดถึงเพียงนั้น แต่เมื่อกองทัพชิงชวนยึดชายแดน คนของหวงเหยียนก็ยื่นไมตรีมาให้

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1884

    สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปยังตงฟางฮั่นพลางเอ่ยถามขึ้นแม้เขาจะได้รับฟังเรื่องราวของเมืองอู่เจียงจากเกาเล่อมาบ้าง แต่ก็รู้เพียงผิวเผินเท่านั้นในเมืองอู่เจียงมีสี่ตระกูลใหญ่ ทั้งตระกูลเฉินและตระกูลซูล้วนรวมอยู่ในนั้น!แม้ทั้งสองตระกูลไม่ใช่ตระกูลที่รุ่งเรืองที่สุด แต่ก็มีบทบาทสำคัญในเมืองอู่เจียง!“ท่านหวังทราบหรือไม่ว่าตระกูลซูทำธุรกิจด้านใด?”ตงฟางฮั่นเอ่ยถามอย่างเชื่องช้า“ข้าได้ยินเกาเล่อรายงานว่าตระกูลซูทำธุรกิจขนส่งทางบก”“ว่ากันว่าในอดีต ซูหนานอัน หัวหน้าตระกูลซู เริ่มต้นจากการใช้รถเข็นสามล้อ แล้วค่อย ๆ สร้างฐานะขึ้นมา”“ต่อมาตระกูลซูก็เจริญรุ่งเรืองจนมีอำนาจดังเช่นทุกวันนี้”ทันใดนั้นหวังหยวนก็ตบหน้าผากตนเองอย่างแรง ราวกับนึกอะไรบางอย่างออกธุรกิจขนส่งทางบก!หากมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ ผลประโยชน์ของตระกูลซูย่อมเสียหาย พวกเขาจึงเป็นผู้ที่ต้องการขัดขวางโครงการนี้มากที่สุด!“ท่านตงฟางช่างเฉียบแหลมนัก!”หวังหยวนเอ่ยชมตงฟางฮั่นส่ายหน้ากล่าวว่า “บัดนี้ยังไม่อาจยืนยันได้ว่าสิ่งที่ข้าคิดนั้นถูกต้องหรือไม่”“แต่ก็ควรไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง”“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเป็นถึงเจ้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1883

    “ข้าคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เราควรพิจารณาว่าการสร้างเขื่อนกั้นน้ำไปขัดผลประโยชน์ของผู้ใด”“หากไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ อีกฝ่ายคงไม่ลงมือเช่นนี้”“เช่นนั้นพวกเราก็จะพบเป้าหมายได้โดยเร็ว”สมแล้วที่ตงฟางฮั่นเป็นบุคลากรที่ใคร ๆ ก็ต้องการ คำพูดของเขาทำให้หวังหยวนรู้สึกกระจ่าง!“เช่นนั้นเอง”“ตอนนี้พวกเราแบ่งเป็นสองกลุ่ม!”“กลุ่มแรกให้ฉุนอวี๋อันไปสืบหาตัวคนที่แอบเข้าใกล้บ่อน้ำเมื่อคืน!”“เพื่อตามหาตัวคนวางยา แล้วเค้นถามข้อมูลจากมันให้ได้!”“อีกกลุ่มหนึ่งต้องไปสืบในเมือง ดูว่าใครได้รับผลกระทบ ก็จะทำให้เรามุ่งเป้าหมายได้ถูกต้อง!”“ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องปลอบขวัญชาวบ้าน หากไม่สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจแก่พวกเขา พวกเขาก็คงจะอ้างเรื่องศาลเจ้ามังกรแล้วหยุดการทำงาน!”“เช่นนั้นจะทำให้การก่อสร้างล่าช้า!”ความคิดของหวังหยวนตรงกับคนอื่น ๆเพราะแท้จริงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างเส้นทางคมนาคมทางน้ำเพื่อให้เมืองอู่เจียงพัฒนาจากนั้นก็จะสามารถพัฒนาเมืองหลิงได้!“ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้นหรอก!”“ที่จริงข้าพอจะเดาออกแล้วว่าเป็นใคร”“ไม่ทราบว่าท่านหวังจะไปกับข้าหรือไม่?”ตงฟางฮั่นมองหวั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1882

    ช่างเป็นเรื่องเหลวไหล!สิ่งที่เรียกว่าศรัทธาและเทพเจ้าก็เป็นเพียงที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อก็มี ไม่เชื่อก็ไม่มีสรรพสิ่งล้วนมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ มีที่มาที่ไป หากมีเทพเจ้าและศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นจริง เหตุใดจึงมีผู้คนอดอยากยากไร้อยู่ทั่วทุกหนแห่ง?“ไร้สาระ!”หวังหยวนตำหนิ ฉุนอวี๋อันจึงไม่กล้าพูดต่อ“เรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเป็นแน่”“หรือไม่ทุกคนติดโรคระบาดจึงเป็นเช่นนี้!”“รอข้าไปถึงแล้วค่อยว่ากัน!”หวังหยวนหลับตา ไม่พูดกับฉุนอวี๋อันอีกเพื่อไม่ให้ตนเองโมโหฉุนอวี๋อันงุนงง เขาเคยได้ยินชื่อโรคมากมาย แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องโรคระบาดมาก่อน!หรือจะเป็นโรคประหลาด?เมื่อเห็นหวังหยวนไม่สนใจ เขาก็เช็ดเหงื่อ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่นั่งเงียบไม่นานพวกหวังหยวนก็มาถึงเขตก่อสร้าง ชาวบ้านที่ได้ยินข่าวต่างมามุงดู สถานที่แห่งนี้ช่างคึกคักทางด้านตงฟางฮั่นอยู่ท่ามกลางฝูงชน กำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างตงฟางฮั่นเห็นหวังหยวนเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นเดินไปหาหวังหยวน“ท่านตงฟาง ข้าได้ยินเรื่องที่นี่แล้วจึงรีบมา”“ท่านมาก่อน พบเบาะแสอะไรหรือไม่?”ตงฟางฮั่นส่ายหน้า พลางขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ข้าให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1881

    ยามตะวันโด่งฟ้า หวังหยวนกับภรรยายังคงนอนหลับอยู่บนเตียง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบ“ท่าน!”“เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”“ท่านรีบออกมาเถิดขอรับ!”เสียงของฉุนอวี๋อันเต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเคาะประตูไม่หยุดปกติฉุนอวี๋อันเป็นคนรอบคอบ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียก่อนเสมอด้วยเหตุนี้ฉุนอวี๋อันจึงถูกมองว่าอ่อนแอ ไร้ความสามารถ เมืองอู่เจียงไม่เคยได้รับการจัดการอย่างดี และสี่ตระกูลใหญ่ก็มีอำนาจอยู่เหนือเขา!วันนี้เขากลับกล้ามาหาหวังหยวนถึงห้อง ทั้งยังมารบกวนการนอนของพวกเขา แสดงว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริง ๆ!หวังหยวนค่อย ๆ ยืดตัวบิดขี้เกียจ จากนั้นสวมเสื้อผ้าแล้วเปิดประตูมองไปที่ฉุนอวี๋อันเมื่อเห็นเขามีสีหน้าร้อนรนก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ฟ้าถล่มหรืออย่างไร?”อย่างไรเสียฉุนอวี๋อันก็เคยเป็นผู้ว่าราชการเมือง จึงจำเป็นต้องสงบนิ่ง ไม่หวั่นไหว แม้ภูผาจะถล่มก็ตามไม่เช่นนั้นหากเกิดเรื่องใดขึ้นมา ฉุนอวี๋อันจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้!แต่น่าเสียดายที่ฉุนอวี๋อันไม่ได้รับการฝึกฝน!โชคดีที่เขาเห็นข้อนี้ จึงให้ฉุนอวี๋อันลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1880

    “ต้องระมัดระวังทุกย่างก้าว”เกาเล่อรีบพยักหน้า“อีกอย่าง”“เจ้าไปเมืองผีครั้งนี้ต้องระวังตัวด้วย”“คำพูดของหลิ่วหรูเยียนเชื่อได้ แต่ก็ไม่ควรเชื่อทั้งหมด”“เมืองผีอาจไม่ใช่สถานที่ที่เราจะอยู่ได้ง่าย ๆ...”“หากพบเจอเรื่องยุ่งยากก็ปรึกษาข้าได้ตลอด อย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม!”หวังหยวนกำชับอีกสองสามประโยคเกาเล่อเป็นมือขวาของเขา เขาย่อมไม่อยากให้เกาเล่อเป็นอันตราย ไม่เช่นนั้นหวังหยวนจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากบ่ายวันนั้น เกาเล่อเดินทางไปเมืองผีด้วยตัวเองส่วนหวังหยวนก็กลับไปที่พักหลี่ซื่อหานรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นหวังหยวนเดินเข้ามา นางก็ยิ้มหวานเดินเข้ามาหา แล้วควงแขนหวังหยวนขณะกล่าวว่า “ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านกำลังทำอยู่ในช่วงนี้”“จะรับอนุภรรยาอีกแล้วหรือ?”หวังหยวนถึงกับหน้าเสียใครปากมาก เอาเรื่องนี้ไปบอกหลี่ซื่อหาน?ที่เขาไปหอนางโลมนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อสถานการณ์บ้านเมืองต่างหาก!“ในสายตาเจ้า ข้าเป็นผู้ชายที่เห็นผู้หญิงแล้วอดใจไม่ได้หรือ?”หวังหยวนจิบชา และกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์หลี่ซื่อหานยิ้มก่อนกล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน แต่คนอื่นไม่รู้จักนิสัยของท่าน อาจทำให้เกิด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1879

    “ข้าบอกก็ได้...”“เหตุใดต้องโหดเหี้ยมกับข้าด้วย?”“ข้าเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เจ้าไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”หลิ่วหรูเยียนมองหวังหยวน ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงหวานมีเสน่ห์ “เจ้ารู้จักสถานที่แห่งหนึ่งทางตะวันตกที่ชื่อว่าเมืองผี หรือไม่?”“เมืองผี?”หวังหยวนส่ายหน้า ไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แต่สายตาของเขามองไปที่เกาเล่อเกาเล่อเป็นหัวหน้าองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ ข้อมูลทั่วหล้าล้วนอยู่ในมือเขา หากแม้แต่เกาเล่อยังไม่รู้จัก แสดงว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ลับจริง ๆ!แต่ก็มีความเป็นไปได้อีกอย่าง คือหลิ่วหรูเยียนกำลังหลอกลวง!ทั้งหมดเป็นเพียงกลลวงของนาง!เกาเล่อเดินไปข้าง ๆ หวังหยวนแล้วกระซิบ “ข้ารู้จักเมืองผี...”“เดิมทีมันไม่ได้ชื่อเมืองผี ปัจจุบันมีชื่ออื่นแล้ว แต่เพราะเมื่อก่อนมีคนอดตายที่นั่นมากมาย มีข่าวลือว่ากลางดึกมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ จึงเรียกที่นั่นว่าเมืองผี”“แต่ที่จริงแล้วก็แค่เรื่องเล่าลือขอรับ”ฟังคำอธิบายของเกาเล่อแล้วหวังหยวนก็พยักหน้าจากนั้น ฃเขาก็มองไปที่หลิ่วหรูเยียนอีกครั้ง ก่อนกล่าวอย่างใจเย็น “เช่นนั้นเจ้าหมายความว่าฐานทัพใหญ่ของพรรคทมิฬอยู่ในเมืองผีหรือ?”หลิ่วหรู

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1878

    ทันใดนั้นหวังหยวนก็ให้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อถอยไป ส่วนเขามานั่งยอง ๆ ตรงหน้าหลิ่วหรูเยียนมุมปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์ต่อรองกับข้าหรือ?”“ตอนนี้เจ้าอยู่ในมือข้า ตราบใดที่เจ้าทำตามที่ข้าต้องการ ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า ไม่ให้ใครมารังแกเจ้าได้”“แต่ถ้าเจ้ายังกล้าต่อรอง เจ้าก็ลองดู ว่าข้าจะทำเรื่องโหดร้ายอะไร”“แต่อย่าหาว่าข้าไม่เตือน หากเจ้าท้าทายข้า ทำให้ข้าหมดความอดทน ผลลัพธ์สุดท้ายคงคาดเดาได้...”“เจ้าจะต้องเสียใจแน่นอน”เมื่อเห็นแววตาจริงจังของหวังหยวน หลิ่วหรูเยียนก็อยากจะฆ่าเขานักเหตุใดนางจึงต้องมาเจอกับปีศาจตนนี้ด้วย?ช่างโชคร้ายเสียจริง!“ตกลง!”“เช่นนั้นเจ้าต้องปล่อยข้าก่อน”“เจ้าจับข้าไว้ด้วยตาข่ายเช่นนี้ ข้าอึดอัดจะตายแล้ว!”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วพูดหวังหยวนรับมีดสั้นจากสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อมาตัดตาข่ายใหญ่ตรงหน้าออก หลิ่วหรูเยียนจึงเป็นอิสระหวังหยวนกล่าวต่อ “ตอนนี้ข้าทำตามที่เจ้าต้องการแล้ว เจ้าควรจะบอกสิ่งที่ข้าอยากรู้ได้แล้วกระมัง?”เขาเองก็ใจกว้างพอหากไม่ใช่เพราะเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นผู้หญิง คงลงมือกับนางไปแล้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1877

    “เจ้าช่างเป็นคนต่ำทรามชั่วช้าเหลือเกิน!” หลิ่วหรูเยียนจะไม่เข้าใจสิ่งที่หวังหยวนจะสื่อได้อย่างไร ใบหน้านางซีดเผือดราวกับกระดาษ นัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจกลัวขณะตวาด!หญิงงามผู้มีชื่อเสียงในสถานเริงรมย์ แม้จะอยู่ในที่เช่นนั้น แต่ก็รักษาความบริสุทธิ์ไว้เสมอ ไม่เคยยอมให้ชายใดแตะต้องเรือนร่างอันงดงามของตน!แต่บัดนี้บุรุษผู้มีนามว่าหวังหยวนกลับใช้เรื่องนี้มาข่มขู่นาง เป็นการกระทำที่ชั่วช้าที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา!เหตุใดไม่รู้มาก่อนเลยว่าหวังหยวนน่ารังเกียจถึงเพียงนี้?“เจ้าไม่สมควรเป็นใหญ่ในแผ่นดิน!” “เจ้าเป็นแค่คนเลวทรามต่ำช้า!”“เช่นนั้นก็สังหารข้าเสีย การที่เจ้ามาล่วงละเมิดสตรีเช่นนี้ เจ้ายังถือว่าตนเป็นบุรุษผู้กล้าหาญได้อยู่หรือ?” “หากเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป ชื่อเสียงของเจ้าจะต้องเสื่อมเสียอย่างแน่นอนใช่หรือไม่?”นางพยายามอย่างตะโกนเพื่อที่จะเปลี่ยนใจหวังหยวนให้ได้ ทว่าใบหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกใด เขายืนกอดอกเอ่ยเสียงเรียบเฉย “เป็นเรื่องปกติที่จะใช้วิธีการที่แตกต่างกันเพื่อปฏิบัติต่อผู้คนที่แตกต่างกัน”“หากเจ้าไม่ดื้อดึง ข้าก็คงไม่ต้องทำรุนแรงเช่นนี้ ข้าจะทำเช่นนี้กับ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1876

    “ข้าอยากรู้ว่าปากของนางกับมือของข้า อะไรจะแข็งกว่ากัน!”แม้จะเป็นเด็กกำพร้าก็ต้องหาวิธีง้างปากนางให้ได้!ไม่บรรลุเป้าหมายย่อมไม่หยุดยั้ง!ไม่นานหวังหยวนกับเกาเล่อก็มุ่งหน้าออกนอกเมืองที่หน้าศาลเจ้าเฉิงหวงหลิ่วหรูเยียนนั่งผิงไฟ ครุ่นคิดถึงแผนการต่อไปที่นางมาเมืองอู่เจียงนั้นเป็นเพราะคำสั่งของผู้นำระดับสูงในพรรคทมิฬ!เพื่อแทรกซึมเข้ามาในดินแดนศัตรู แล้วค่อย ๆ แผ่ขยายอำนาจไปยังเมืองหลิง!สาเหตุที่สาวกพรรคทมิฬแทรกซึมเข้ามาในดินแดนของหวังหยวน ไม่ใช่เพียงเพราะดินแดนของหวังหยวนเล็ก แต่เป็นเพราะหวังหยวนผู้นี้เป็นคนชาญฉลาดและรอบคอบ!หากเขาพบเบาะแสใดๆ ก็จะตามสืบจนเจอ และอาจนำพาหายนะมาสู่พวกเขา!แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!หวังหยวนเพิ่งจะสังเกตเห็นร่องรอยของสาวกพรรคทมิฬ ไม่คิดเลยว่าจะพบตัวหลิ่วหรูเยียน!จากนั้นค่อยสืบหาความลับของพรรคทมิฬ!เรื่องนี้ต้องระวังให้ดี!“เหตุใดนกพิราบสื่อสารยังไม่กลับมาอีกนะ?”“หรือว่าจะเกิดเรื่อง...”หลิ่วหรูเยียนที่นั่งอยู่หน้ากองไฟ สำรวจสถานการณ์นอกประตูด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักแม้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อจะซ่อนตัวอยู่ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของนาง!แต

DMCA.com Protection Status