Share

บทที่ 672

Author: ชวินเป่ยอี๋
เจิ้งไท่ชิงที่สงสัยใคร่รู้อยู่ ในตอนนั้น มีห่าลูกธนูพุ่งตรงไปยังค่าย

ลูกธนูแต่ละดอกมีจดหมายผูกมาด้วยหนึ่งฉบับ รวมเป็นนับพันฉบับ!

ในขณะนั้น ทหารชิงชวนทั้งหมดได้รับมันไว้แล้ว!

เจิ้งไท่ชิงก็เห็นมันเช่นกัน เขาถือมันไว้ในมือแล้วยิ้มเล็กน้อย

“ลูกไม้เล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้คนแตกแยก กลยุทธ์ยุแยงนี้... ช่างน่าสนใจจริง ๆ แต่เขาคงไม่รู้ว่ากองทหารชิงชวนเหล่านี้อยู่ภายใต้คำสั่งของข้าทั้งหมด พวกเขาเป็นมือขวาของข้ามาหลายปีแล้ว เขาพูดไม่กี่คำจะปลุกปั่นคนของข้าได้อย่างไร”

เจิ้งไท่ชิงไม่ได้นำมาใส่ใจ แต่หลายคนในกองทัพชิงชวนก็ได้เห็นแล้ว

แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นจดหมายเหล่านี้ ถือเป็นกบฏอย่างแท้จริง หลังจากนี้ไป พวกเขามีแค่สองทางเท่านั้น!

จะตาย!

หรือจะติดตามเจิ้งไท่ชิงต่อไป!

พวกเขาทั้งหมดเป็นทหารที่ได้รับการฝึกฝนจากเจิ้งไท่ชิง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สงสัยในตัวเขา พวกเขาทุกคนรู้ว่าเจิ้งไท่ชิงก่อกบฏ แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนี้

แต่…

พวกเขายังคงติดตามความตาย

แววตามีร่องรอยของความกังวล และความสงสัยปรากฏขึ้นมา!

...

ในขณะนี้ ในเมืองหลวง มีจดหมายสองฉบับส่งมาที่โต๊ะจักรพรรดิซิงหลงด้ว
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
เสนาธิการคือคนที่ปรึกษาในกองทัพรึป่าว เหมือนเขียนตำแหน่งผิดนะวันนี้ จริงๆควรเป็นเสนาบดีฝ่ายขวาหรือซ้ายรึป่าว
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 673

    ดังนั้นความตั้งใจแต่เดิมของเขา คือเขาไม่เต็มใจอย่างยิ่งที่จะให้อู๋หลิงไป!“ฝ่าบาท โปรดให้อู๋หลิงเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพด้วย!”ในเวลานี้ เจ้ากระทรวงกรมขุนนาง หยวนกวนหลวนลุกขึ้น เขาไม่ใช่ทั้งฝ่ายเสนาซ้ายหรือเสนาขวา แต่เขาเป็นคนที่เป็นกลางที่สุดในราชสำนัก ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของสถานการณ์โดยรวมแม้ว่าเขาจะรู้ว่าฝ่าบาทอาจจะไม่อยากได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ แต่เขาก็ยังพูดต่อไปหลังจากได้ยินเช่นนั้น จักรพรรดิซิงหลงก็หายใจเข้าลึก ๆ และพยักหน้า“ข้าจะพิจารณาคำขอของเจ้า เอาล่ะ เลิกประชุมเถอะ”หลังจากพูดจบ จักรพรรดิซิงหลงก็ตรงกลับไปที่ห้องทรงพระอักษรทันที หลังจากเข้ามา สิ่งแรกที่เขาพูดคือ ให้คนเรียกอู๋หลิงมา!ในขณะนี้อู๋หลิงก็ได้รู้ข่าวว่าเฉิงโจวติดอยู่สถานการณ์วิกฤต แม้ว่าเขาจะกังวล แต่เขาเชื่อมั่นในความสามารถของหวังหยวนมาก!ทหารของอ๋องถูหนานจำนวนมากที่พ่ายแพ้ไปในวันนั้น ทหารแค่สามหมื่นนายของเจิ้งไท่ชิงไม่น่าจะเพียงพอที่จะทำร้ายท่านเสนาธิการทหารได้!ตอนนั้นเขาถูกจักรพรรดิซิงหลงเรียกตัวไปเข้าเฝ้า เขาจึงทำได้แค่เดินทางไปยังห้องทรงพระอักษรเท่านั้นเมื่อได้พบจักรพรรดิซิงหลง อู๋หลิงก็ถวายบังค

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 674

    อู๋หลิงที่ได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกเศร้ามากยิ่งขึ้นไปอีก!แต่เขาไม่ได้พูดอะไรมาก เขาแค่รับคำสั่งแล้วออกไป!แม้ว่าเขาจะกังวลเกี่ยวกับเฉิงโจว แต่เขา...เขาทำได้เพียงเลือกที่จะเชื่อหวังหยวน หลังจากนั้นเขาออกเดินทางรวบรวมกองทัพ หากเขาไปที่เฉิงโจวเพื่อช่วยเหลือหวังหยวน น่าจะใช้เวลาอย่างน้อยเจ็ดวัน!หากหวังหยวนสามารถอดทนยืนหยัดได้ ภายในเจ็ดวันก็น่าจะพอไหว!หากทนไม่ไหว ต่อให้เขาไปด้วยตัวเองก็สายเกินไปแล้ว!ทางที่ดีที่สุดที่เขาจะช่วยหวังหยวนได้ คือทำให้สถานการณ์ชายแดนยุติลงโดยเร็วที่สุด!หากสถานการณ์ชายแดนยุติลงได้ เจิ้งไท่ชิงก็หนีไปไหนไม่รอด!แม้แต่...เขาหนีศึกนี้ก็ไม่ได้!“ท่านที่ปรึกษา รอข้าก่อน ข้าจบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดเพื่อให้ท่านปลอดภัยให้ได้!”อู๋หลิงพูดแล้วเรียกรวมพลออกจากเมืองหลวงพร้อมกับเอ้อหู่ มุ่งหน้าสู่ชายแดน!ราชสำนักหวงย่อมรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ไทเฮาหัวเราะเบา ๆ การต่อสู้ของนางไม่ใช่เพื่อผลลัพธ์ แต่เพื่อให้ได้หวังหยวนมา!“เจ็ดวัน ข้าจะให้เวลาหวังหยวนเจ็ดวัน เมื่อเจ็ดวันผ่านไป ถ้าหวังหยวนยังอยู่ที่นั่น เขาเป็นของข้า ถ้าเจ็ดวันเขายั้งไว้ไม่ได้ ข้าคง...รู้สึกเสียใจ แต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 675

    “ไม่เป็นไร การต่อสู้ครั้งนี้ เดิมทีต้องเสียคนไปหลายหมื่นคนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้แค่ไม่กี่พันคนเท่านั้น มันไม่เป็นเรื่องใหญ่”“ข้าอยากรู้ว่าหวังหยวนยังมีวิธีอื่นอะไรอยู่อีก!”เจิ้งไท่ชิงไม่สนใจ ในความคิดของเขาเมื่อตีเมือง ก็ต้องมีคนตายมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเจิ้งเซิงพยักหน้าและตั้งใจมองกำแพงไฟนี้กำลังค่อย ๆ มอดลง มองดูแล้วอย่างน้อยไม่น่าจะมีภัยคุกคามใหญ่อะไร“โจมตีเข้าไปอีก!”การโจมตีระลอกที่สอง ทหารหลายพันนายเริ่มโจมตีเมืองในตอนนั้นหวังหยวนก็พูดว่า "ตอนนี้เป็นเวลาสำหรับสมรภูมิเลือดแล้ว ถ้าเราอดทนต้านไว้ได้ เราก็จะชนะ!"หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ต้าหู่และทหารเกราะทมิฬก็รีบขึ้นไปบนกำแพง พวกเขาทั้งหมดถือหน้าไม้ แม้ว่าพวกมันจะไม่ทรงพลังเท่ากับคันธนูเจาะเกราะ แต่พวกมันก็ยังคงมีประสิทธิภาพไม่ธรรมดาอยู่ดี!คนเหล่านี้เริ่มพังประตูเมือง และในเวลาเดียวกันก็เริ่มใช้บันไดปีนขึ้นมาโจมตีเมืองทั้งการกลิ้งหิน น้ำมันตะเกียง หอกปลายแหลม การต่อสู้นองเลือดที่แท้จริงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!หวังหยวนนั่งอยู่ที่นี่ มองไปไกล ๆ ตอนนี้น่าจะได้เวลาแล้ว!ใช้ลูกไม้กลอุบายสกปรกมากมาย การต่อสู้นองเลือดที่แ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 676

    บนกำแพงเมืองเฉิงโจว ทุกคนกำลังต่อสู้ในศึกนองเลือด แต่เมื่อเสียงสัญญาณถอยทัพดังขึ้น ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก!เสียงสัญญาณถอยทัพดังขึ้น!กองทัพชิงชวนส่งสัญญาณถอยทัพขึ้นจริง!นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาคิดไม่ถึง!หลังจากที่เห็นพวกเขาถอนทหารออกไป ทั้งเฉิงเหลียว เซี่ยเฟิง และพวกทหารต่างตกตะลึงกันไปหมด!พวกเขาอดทนต้านไว้ได้จริง ๆ!นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยหวังหยวนยิ้มพยักหน้า และหันหลังเดินลงจากป้อมกำแพงเมืองพวกขุนพลให้ความเคารพเป็นอย่างยิ่งและมองส่งหวังหยวนจากไป!พวกเขารู้ดีว่าถ้าไม่ใช่เพราะหวังหยวน พวกเขาคงไม่อาจปกป้องเมืองไว้ได้ในวันนี้!แม้ว่าพวกเขาจะมีข้อสงสัยมากมาย แต่ผลลัพธ์สุดท้ายออกมาก็คือดี!หวังหยวนกลับบ้าน ก่อนที่เขาจะเข้าประตูบ้าน เขาเห็นไป่เฟยเฟยยิ้มคารวะทักทายเขา“พี่หวังไม่ธรรมดาจริง ๆ สถานการณ์ที่น่าสิ้นหวังเช่นนี้ยังพลิกกลับขึ้นมาได้…”ทันทีที่พูด หวังหยวนก็ถอนหายใจและยิ้มออกมา “เจ้ามองเรื่องซับซ้อนในเรื่องนี้ไม่ออกหรอกหรือ?”ไป๋เฟยเฟยอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "เหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจ มีบางอย่างที่ข้าไม่เข้าใจ พี่หวังชี้แนะข้าด้วย"หลังจากพูดจบ หว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 677

    “ไม่ได้ยกย่องเจ้า แต่ที่จริงมีเหตุผลสองอย่าง คือเจ้าอยากเกลี้ยกล่อมข้า ดังนั้นถ้าเจ้ายอมรับเงื่อนไขที่ข้าเสนอไป เจ้าก็ย่อมต้องยอมรับเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ไป่เฟยเฟยก็รู้สึกตื่นเต้น “พี่หวังกำลังวางแผนที่จะเข้าร่วมตระกูลไป๋ของข้าแล้วใช่ไหม?”คำพูดเหล่านี้ทำให้หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ “การเข้าร่วมตระกูลไป๋ของเจ้าไม่ใช่ไม่ดี แต่... ต้องรอให้ข้ารอดชีวิตกลับมาได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”ทันทีที่พูดออกมา ทั้งไป๋เฟยเฟยและผู้หญิงชุดม่วงต่างก็ตกตะลึง!“รอดชีวิตกลับมา? อะไร... หมายความว่าไง?”ไป๋เฟยเฟยมีสีหน้าตกใจนางไม่เข้าใจเลย“เรื่องนี้…ข้าเล่าให้เจ้าฟัง เจ้าจะเข้าใจเอง”หวังหยวนวางถ้วยชาลงแล้วพูดอย่างใจเย็น "ข้าคาดว่าในอีกไม่กี่วันข้าจะต้องไปที่ราชสำนักหวง!""อะไรนะ!"ดวงตาของไป๋เฟยเฟยเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ!“ไปนอกด่าน…หมายความว่าอย่างไร?”นางตกใจมากไม่ได้คิดเรื่องนี้ให้ละเอียด นางแค่ตกใจเท่านั้น“หรือว่า...เฉิงโจวจะพลาดไปแล้ว? ราชสำนักหวงจะพาท่านไป...ฆ่า?”ไป๋เฟยเฟยคิดถูกแล้ว แต่หวังหยวนหัวเราะออกมา“ผิดแล้ว เขาไม่ได้จะฆ่าข้า แต่... กำลังพยายามเกลี้ยกล่อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 678

    ไป๋เฟยเฟยพยักหน้าและคิดอยู่ครู่หนึ่ง“น่าจะเป็น... ไทเฮาแห่งราชสำนักหวง หากข่าวของข้าไม่ผิด นางคือคนที่คุมเกมนี้อยู่!”ไป๋เฟยเฟยมองไปที่หวังหยวนด้วยสีหน้ากังวล“ไทเฮา? ยัยเฒ่านี่เก่งจริง ๆ”หวังหยวนขำ แต่ไป่เฟยเฟยที่ได้ยินกลับส่ายหน้า“ผิดแล้ว... ไทเฮาผู้นี้ไม่ใช่หญิงชรา แต่เป็นวัยรุ่นสาวสวย หากข้อมูลถูกต้อง ปีนี้นางน่าจะอายุยี่สิบเจ็ดเอง!”ทันทีที่ไป๋เฟยเฟยพูดออกมา หวังหยวนก็ตกใจตาแทบถลน!“อะไรนะ ยี่สิบเจ็ด! ได้เป็นไทเฮาแล้ว? ไม่ใช่กระมั้ง!”หวังหยวนไม่ค่อยเข้าใจ ผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งเกินไป นางเหมือนบูเช็กเทียนในยุคปัจจุบัน!“ถูกแล้ว เมื่อแปดปีที่แล้วนางเข้ามาวังและกลายเป็นฮองเฮา สามปีต่อมาจักรพรรดิก็สิ้นพระชนม์ไป องค์รัชทายาทมีอายุแค่ห้าขวบ นาง... จึงกลายเป็นไทเฮาไปโดยปริยาย! "“เดิมคิดว่าราชสำนักหวงจะตกอยู่ในความวุ่นวายจากการสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิ นอกเหนือจากเชื้อพระวงศ์แล้ว ยังมีอ๋องและพระญาติอีกมากมายในราชสำนักหวงที่สามารถต่อสู้แก่งแย่งชิงดีได้!”“แต่... ผู้หญิงคนนี้ใช้เวลาแค่สามปี ทำให้เชื้อพระวงศ์ทั้งหมดก้มหัวให้นาง แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะมีความทะเยอทะยาน แต่พวกเขาก็ยังค

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 679

    หากอยากจะปกป้องครอบครัวและปกป้องตัวเองให้ได้ ก็ต้องยิ่งทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!เรื่องแบบนี้เขาเข้าใจมานานมาแล้ว แต่เดิมทีเขาเองก็ไม่คิดอยากจะมีชื่อเสียงมากนัก และไม่มีใครสนใจเขาหลังจากการสังหารอ๋องถูหนาน หวังหยวนก็มีชื่อเสียง แม้ว่าหลายคนจะไม่เชื่อ แต่คนอื่น ๆ ก็ย่อมรู้ว่าหวังหยวนนั้นไม่ธรรมดาจะซ่อนเรื่องซุ่มซ่ามของตัวเองดูท่าคงยากแล้ว!ตอนนี้หวังหยวนต้องเริ่มลงมือแล้วเท่านั้นหลังจากได้ยิน ไป๋เฟยเฟยก็หัวเราะและรู้สึกตื่นเต้นมาก!“พี่หวัง ข้าจะไปเตรียมการ และท่าน...อาจมีอะไรให้ทำอีกมาก ข้าไม่รบกวนแล้ว”ไป๋เฟยเฟยกล่าวและกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มหลังจากที่ไป๋เฟยเฟยกลับไปแล้ว หวังหยวนก็เขียนจดหมายสองสามฉบับและวางลงบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็เรียกหาต้าหู่ หลี่ซือหาน วังฉงโหลว หลี่จ้าวหลิน และพวกถังหม่างเข้ามาด้วยพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหวังหยวน แต่พวกเขาทั้งหมดก็ทำตัวเรียบร้อยและไม่พูดอะไร เพราะพวกเขาเห็นว่าท่าทางของหวังหยวนดูจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย“ข้ามีเรื่องอยากจะบอก พวกเจ้าต้องจำเอาไว้ และทำตามที่ข้าได้บอกเอาไว้นะ”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ทุกคนก็รีบพยักหน้าทันที“เรื

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 680

    หวังหยวนตัดสินใจบอกความจริงทุกอย่างกับพวกเขาอย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกเขาได้ฟังแล้ว ก็ยิ่งกังวลมากขึ้นไปอีก!“พี่หยวน ถ้าต้าเย่จะทำเช่นนี้จริง เรา... เราจะขัดขืน!”“ถูกต้อง ให้ตายเถอะ พวกเขาถึงได้คิดรังแกผู้คนอยู่ได้!”“หมู่บ้านต้าหวังของเราแข็งแกร่งมาก แม้ว่าเราจะมีคนไม่กี่หมื่นคน ก็มาบุกโจมตีไม่ได้ง่าย ๆ ภูเขาสูง และจักรพรรดิอยู่ห่างไกล ข้าสงสัยว่าฝ่าบาทจะทำอะไรได้!”พวกเขาหงุดหงิดงุ่นง่านกันไปหมด หวังหยวนที่ได้เห็นท่าทางเขาแบบนั้นก็รู้สึกตื้นตันใจมาก“ช่างเถอะ เจ้าทำไปก็ไม่มีประโยชน์ ข้าทำแบบนี้ก็เพื่อพวกเจ้าเช่นกัน”“ข้าไม่อยากให้พวกเจ้าต้องมาพลอยเดือดร้อนไปกับข้า และ...ข้าไปแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก ทำตามที่ข้าบอกก็พอแล้ว”“ไม่ต้องห่วง ข้าสัญญาว่าข้าจะรอดกลับมาให้ได้”หวังหยวนยิ้มปลอบใจทุกคนแม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจ แต่พวกเขาก็ยังเชื่อฟังหวังหยวนหลังจากให้พวกเขาออกไปแล้ว มีแค่หลี่ซือหานที่อยู่ในบ้านนางไม่ได้พูดอะไร แต่ขอบตาของนางแดงก่ำ นางนั่งข้างหวังหยวนและชงชาให้เขา“เป็นอะไรไปหรือ ภรรยาที่รักของข้า เป็นห่วงข้างั้นหรือ?” หวังหยวนหัวเราะหลี่ซือหานพยักหน้า "ท

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2242

    หวังหยวนใช้นิ้วเคาะเบา ๆ ที่หน้าผากของตน จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นส่วนเกาเล่อยกยิ้ม แล้วเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “นี่ก็เป็นเรื่องง่าย หากต้องการจะได้รับฉายาไร้เทียมทานย่อมต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดของด้านนั้นๆ ต่อให้มีผู้เชี่ยวชาญมาสองคน พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องรับไว้ทั้งหมด สู้ให้พวกเขาทั้งสองประลองฝีมือกัน ผู้ใดแข็งแกร่งกว่า ผู้อ่อนแอกว่า ย่อมรู้ได้ในพริบตา!”“ท่านผู้นำคิดเห็นเช่นไรขอรับ?”หวังหยวนตบมือ เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร?เขาก็คิดเช่นนี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?หากสามารถรวบรวมผู้ที่ไร้เทียมทานเหล่านี้มาอยู่เคียงข้างได้ เขาสามารถจินตนาการถึงภาพนั้นได้แล้ว!ต่อให้ภายภาคหน้าเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าผู้ครองเมืองหลิงอีกต่อไป เพียงแค่หอไร้เทียมทานก็สามารถทำให้ผู้คนทั่วหล้ายังคงเคารพเขา และปกป้องแผ่นดินให้สงบสุขได้ด้วย!“ดื่มสุรา! ดื่มสุรา!”หวังหยวนอารมณ์ดียิ่งนัก เขายกจอกสุราขึ้น พลางโบกมือให้กับทุกคน ทุกคนจึงดื่มสุราตามเฉินอวิ่นไม่ได้ทำตัวเป็นคนนอก ในไม่ช้าก็สามารถเข้ากับทุกคนได้ดี ผู้ที่มีความสัมพันธ์อันดีที่สุดกับเขาคือไฉจวิ้นแม้ว่าไฉจวิ้นจะอายุน้อยกว่าเขามาก แต่ไฉจวิ้นมีนิสัยห้าวหาญ อีกทั้งยังไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2241

    “ถ้าอย่างนั้นก็ได้”“อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ดื่มสุรากับท่านสักสองจอกที่นี่ก็ถือว่าได้สหายเพิ่มอีกคน”“แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ดูจากความร่ำรวยของท่านแล้ว ภายภาคหน้าหากต้องการเงินทอง ท่านคงเป็นผู้ช่วยที่ดี”ชายคนนั้นไม่เกรงใจ เขากล่าวอย่างไม่ใส่ใจหวังหยวนรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเนื่องจากไท่สื่อลี่ได้เตรียมงานเลี้ยงไว้แล้ว ทุกคนจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านของไท่สื่อลี่อย่างไรเสีย หวังหยวนก็ไม่อยากดื่มสุรากับคนทั้งเผ่า ประสบการณ์ครั้งก่อนยังคงแจ่มชัด เขาไม่อยากจะประสบพบเจออีก...อีกอย่าง ครั้งนี้ที่ต้องการจะดื่มสุราก็เพราะชายตรงหน้าคนนี้คนผู้นี้ช่างลึกลับยิ่งนัก แต่มีความสามารถที่แท้จริง หวังหยวนเป็นคนชอบคนเก่ง หากสามารถทำให้คนผู้นี้มาทำงานให้ตนได้ ภายภาคหน้าย่อมเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาของเขา!“ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่าอะไรหรือ?”ขณะที่ทุกคนกำลังเดินไปยังบ้านของไท่สื่อลี่ สายตาของหวังหยวนก็จับจ้องไปที่ชายคนนั้น“ท่านไม่ต้องสุภาพมากนักหรอก เรียกข้าว่าเฉินอวิ่นก็พอ”เฉินอวิ่นเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ เห็นได้ชัดตั้งแต่แรกว่าเขาเป็นคนคนพเนจร ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์เฉินอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2240

    หวังหยวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นแน่ เขามีวรยุทธ์ล้ำเลิศ แต่กลับแต่งกายเรียบง่าย นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าเขาใช้เงินเท่าที่จำเป็น คาดว่าเงินทองส่วนเกินคงจะมอบให้ผู้อื่นไปหมดแล้ว”“นี่อาจจะเป็นความหมายของคำว่าคุณธรรมก็เป็นได้”“แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สำคัญ หากต้องการจะพิชิตใจคนผู้นี้ ดูท่าแล้วคงต้องใช้ความคิดมากกว่านี้”เกาเล่อพยักหน้าเห็นด้วย เป็นเช่นนั้นจริงๆครึ่งชั่วยามผ่านไป ชายคนนั้นกระโดดลงมาจากที่สูงเพียงไม่กี่ครั้งก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกหวังหยวน ในมือของเขาถือเกสรดอกไม้ที่ส่องประกาย“นี่คือเกสรของดอกหน้าผาชันหรือ?”ดวงตาของหวังหยวนก็เป็นประกาย เขากำลังจะยื่นมือไปรับ แต่ชายคนนั้นหดมือกลับ“สหาย ท่านสัญญากับข้าว่าจะให้หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทอง จ่ายเงินแล้วค่อยรับของ เช่นนี้ถึงจะถูกต้อง”“หากข้าไม่เห็นเงิน ข้าก็ไม่อาจมอบสิ่งนี้ให้ท่านได้”ชายคนนั้นมีท่าทีที่หนักแน่นหวังหยวนจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทองนั้นมากมายยิ่งนัก แต่สำหรับข้าแล้วนั้นไม่นับว่ามากมาย เพียงแต่ว่าข้าไม่ได้พกทองติดตัวมามากมายเพียงนั้น หรือว่าท่านจะติดตามข้าไปยังเผ่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2239

    ดังเช่นที่ชายคนนั้นได้กล่าวไว้ บนหน้าผาสูงตระหง่านแห่งนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!แม้ว่าเกาเล่อจะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศและฝึกฝนอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่อาจปีนป่ายหน้าผาได้!เมื่อครู่นี้เขาตั้งใจจะเสี่ยงอันตราย หากสามารถนำดอกหน้าผาชันกลับมาได้ย่อมเป็นเรื่องดีแต่หากไม่สำเร็จ คงต้องสูญเสียชีวิตไป...ในขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหวผ่านจุดที่ยากลำบากที่สุด ก็เห็นชายคนนั้นมาถึงข้างกาย ใช้เถาวัลย์พันรอบเอวของเขา แล้วพาเขากลับลงสู่พื้นดินทุกอย่างราวกับความฝัน ทำให้เกาเล่อไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น!หลังจากที่ชายคนนั้นช่วยเหลือเกาเล่อแล้ว ก็ไม่ได้เสียเวลาพูดคุยกับพวกหวังหยวนอีก แต่กลับมุ่งหน้าไปยังหน้าผาอีกครั้ง!การเคลื่อนไหวนั้นช่างชำนาญยิ่ง ราวกับเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือ!ทั้งสองคนที่ยืนอยู่บนหน้าผารู้สึกราวกับกำลังชมการร่ายรำ เพียงแต่ว่าท่วงท่าอันงดงามนี้ หากเกิดความผิดพลาดเพียงครึ่งก้าวย่อมต้องแลกมาด้วยชีวิต!ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นร้ายแรงยิ่งนัก!หวังหยวนและเกาเล่อสบตากัน เกาเล่อเอ่ยขึ้นว่า “ชาติที่แล้วเจ้านี่คงเกิดเป็นลิง ทักษะของเขาจะดีเยี่ยมปานนี้ได้อย่างไร? หรือว่าจะเป็นผู้มีวิชาที่เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2238

    น่าเสียดาย หากต้องการเก็บเกสรดอกหน้าผาชันก็จำเป็นต้องมีทักษะอย่างแท้จริง!“ท่านรู้จักดอกหน้าผาชันด้วยหรือ?”หวังหยวนเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว“ย่อมต้องรู้จักสิ”“ท่านไม่อยากรู้หรือว่าข้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”“ง่ายมาก! ข้าเองก็มาเพื่อดอกหน้าผาชันนี้เช่นกัน!”ชายคนนั้นกอดอกพูดคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ท่านต้องการดอกหน้าผาชันไปทำอะไร?”หวังหยวนรีบถาม“แน่นอนว่าต้องนำไปแลกเงิน”“ดอกหน้าผาชันนับว่าเป็นสมุนไพรล้ำค่า ข้าต้องพึ่งพามันเพื่อหาทางอยู่รอด!”“ดอกหน้าผาชันหนึ่งดอกสามารถขายได้สิบตำลึงเงิน เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของข้า!”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เพียงแค่สิบตำลึงเงินเองหรือ?“เหตุใดจึงมีราคาแต่ไม่มีคนขาย?”หากสามารถใช้เงินซื้อดอกหน้าผาชันในตอนนั้นได้ เขาจะลำบากเดินทางมาที่นี่เพื่ออะไร?บ่ายวันนี้ หวังหยวนได้แอบสอบถามมาแล้ว ปรากฏว่าในเผ่าไม่มีดอกหน้าผาชันแม้แต่ดอกเดียว!เขามีบารมีสูงส่งในเผ่า ผู้คนในเผ่าย่อมไม่หลอกลวงเขาหรือว่า...ชายตรงหน้าเขากำลังโกหก?“เหตุใดท่านมองข้าเช่นนี้?”“แน่นอนว่าดอกหน้าผาชันไม่ได้มีไว้ขายให้กับคนในเผ่า เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการสิ่งนี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2237

    ในขณะที่หวังหยวนกับเกาเล่อกำลังพูดคุยกัน พลันได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น“เขาพูดถูก หากตกลงมาจากยอดเขานี้ ต่อให้เจ้ามีสามเศียรหกกรก็จะต้องแหลกเป็นชิ้นแน่นอน!”“ถึงตอนนั้น สภาพย่อมดูไม่จืด!”หวังหยวนกับเกาเล่ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตึงเครียด รีบหันไปมองตามต้นเสียงเมื่อสักครู่นี้พวกเขาทั้งสองคนกลับไม่ทันสังเกตว่าในความมืดมิดนั้นยังมีผู้อื่นซ่อนอยู่ด้วย!“พวกท่านไม่ต้องเครียด! ข้าไม่มีเจตนาร้ายต่อพวกท่าน!”ชายคนนั้นค่อย ๆ เดินออกมาจากความมืด เขาแต่งกายด้วยชุดผ้าป่าน อายุใกล้เคียงกับหวังหยวน ใบหน้าใต้แสงจันทร์ ของเขาเปื้อนรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา“ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร?”“เหตุใดจึงมาที่นี่ในยามนี้?”ภูเขาทางเหนือตั้งอยู่ในที่ห่างไกล รอบด้านไม่มีบ้านเรือนผู้คน แม้แต่หมู่บ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ยังอยู่ห่างออกไปหลายร้อยลี้!ไม่เช่นนั้น หวังหยวนคงไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาหลายชั่วยาม!แต่ในสถานที่เช่นนี้กลับมีคนแปลกหน้าปรากฏตัว จะไม่ให้สงสัยได้อย่างไร?ชายคนนั้นยิ้มพลางโบกมือเอ่ยว่า “ข้าก็เพียงแค่เดินทางผ่านมาที่นี่ เห็นพวกท่านทั้งสองกำลังเตรียมปีนหน้าผา จึงคิดจะดูความสนุกสักหน่อย”“แต่ข

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2236

    ในใจนางก็รู้เรื่องราวเหล่านี้ดี และที่พูดเช่นนี้กับไฉจวิ้นก็เพราะว่านางมองว่าไฉจวิ้นเป็นน้องชายแท้ ๆ ของนางเองไม่ใช่หรือ?หากปฏิบัติต่อคนนอกย่อมไม่ใช่ท่าทีเช่นนี้หยอกล้อกันอยู่ครู่หนึ่ง หลิ่วหรูเยียนอาจจะรู้สึกเหนื่อยจึงหลับไปอย่างรวดเร็วในคืนนั้น หลังจากที่หวังหยวนกินอาหารเสร็จก็ได้ออกไปอย่างเงียบเชียบหลายชั่วยามต่อมาก็เป็นเวลาเที่ยงคืน หวังหยวนมายืนอยู่ตรงหน้าผาของภูเขาทางเหนือเมื่อมองออกไป อาจเป็นเพราะความมืดมิด จึงมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของหน้าผา ให้ความรู้สึกกดดันอย่างอธิบายไม่ถูก!หวังหยวนกอดอกยืนอยู่ด้านข้าง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มจางที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและสง่างาม“พายุใหญ่คลื่นยักษ์แบบไหนที่ไม่เคยพบเจอ?”“สถานการณ์แบบไหนที่ไม่เคยประสบ?”“เพียงแค่หน้าผา คิดจะขวางทางข้าได้หรือ?”“ช่างน่าขันนัก!”ขณะที่พูด หวังหยวนก็ลุกขึ้นเตรียมที่จะปีนขึ้นหน้าผาด้วยมือเปล่า ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงเคลื่อนไหวมาจากด้านหลังเขาหันกลับไปโดยสัญชาตญาณ สายตาจับจ้องไปที่ผู้มาเยือน ผู้ที่มานั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเกาเล่อ!ท่ามกลางความมืดมิด ชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังหวัง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2235

    “เช่นนั้นก็ได้ขอรับ...”เมื่อเห็นท่าทีที่แข็งกร้าวของหวังหยวน ไท่สื่อลี่ก็ไม่ได้กล่าวต่ออีก สุดท้ายก็จำต้องจากไปส่วนหวังหยวนนั่งลงศึกษาแผนที่อย่างละเอียดภายในห้องเมื่อไฉจวิ้นกลับมา หลิ่วหรูเยียนก็รีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหาไฉจวิ้นอย่างรวดเร็ว พลิกดูห่อผ้าในมือเขาอย่างตื่นเต้น“ครั้งนี้เจ้าทำได้ดีมาก!”“ซื้อของดี ๆ มาฝากข้ามากมายเพียงนี้เลยหรือ?”“ต่อไปต้องมอบเรื่องเช่นนี้ให้เจ้าจัดการแล้ว!”หลิ่วหรูเยียนลูบศีรษะของไฉจวิ้น พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มไฉจวิ้นรู้สึกอึดอัด นี่นางเห็นเขาเป็นเด็กน้อยชัด ๆ แต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งแล้ว อายุอานามก็ไม่น้อย กลับถูกปฏิบัติเหมือนเด็กงั้นหรือ?ช่างน่าเจ็บใจนัก!แต่พี่สะใภ้ผู้นี้ก็เป็นคนที่เขาไม่อาจล่วงเกิน จึงทำได้เพียงอดทนหากเป็นผู้อื่นที่กล้าลูบศีรษะของเขา นี่ถือว่าเป็นการหาเรื่องตายชัดๆ!“จริงสิ พี่ใหญ่ของเจ้าอยู่ไหน?”“เมื่อครู่เขาออกไปกับไท่สื่อลี่ นี่ก็ผ่านมานานแล้ว ยังไม่กลับมาอีก หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หลิ่วหรูเยียนกินขนมพลางเอ่ยถามไฉจวิ้นชี้ไปที่นอกประตู แล้วตอบว่า “พี่ใหญ่อยู่ในลานบ้านขอรับ เมื่อครู่ตอนที่ข้าเข้ามา เขากำลั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2234

    ครึ่งชั่วยามต่อมา ไท่สื่อลี่นำแผนที่มาให้ด้วยตนเอง ทางด้านหวังหยวนเฝ้ารออยู่ที่ลานบ้านเมื่อรับแผนที่มาก็ตรวจดูอย่างละเอียด คิ้วของหวังหยวนขมวดแน่นช่างอันตรายยิ่งนัก!แม้ว่าภูเขาทางเหนือจะเป็นภูเขาโดดเดี่ยว แต่ด้านข้างเป็นหน้าผาทั้งสิ้น หากต้องการเก็บเกสรของดอกหน้าผาชันก็ต้องปีนขึ้นไปบนหน้าผา ไม่มีเส้นทางอื่นให้เลือกเดินนี่ช่างเป็นเรื่องที่ยุ่งยากยิ่งนัก!หากไม่มีวิชาตัวเบา การปีนขึ้นหน้าผาด้วยมือเปล่านั้นยากราวกับปีนขึ้นสวรรค์!หวังหยวนตกอยู่ในห้วงความคิด ครุ่นคิดหาวิธีเก็บเกสรดอกหน้าผาชันส่วนไท่สื่อลี่ไม่ได้เอ่ยคำใด ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเวลาผ่านไปทีละน้อย ไม่นานไฉจวิ้นก็กลับมาพร้อมกับห่อผ้าห่อใหญ่ ในมือไม่เพียงแต่มีของกิน ยังมีของเล่นน่าสนใจอีกมากมายด้วยทั้งหมดนี้ก็เพื่อเอาใจหลิ่วหรูเยียนเป็นเพราะเขาเอง หลิ่วหรูเยียนจึงไม่อาจออกไปเที่ยวเล่นได้ สตรีนั้นอารมณ์แปรปรวน เขากลัวว่าหลิ่วหรูเยียนจะเก็บเรื่องนี้มาคิดเล็กคิดน้อย“กลับมาแล้ว”หวังหยวนเอ่ยอย่างเรียบเฉยไฉจวิ้นพยักหน้า เขามองหวังหยวนก่อนเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ใหญ่อารมณ์ไม่ดี หรือว่าเมื่อครู่นี้ทะเลาะกับพี่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status