แชร์

บทที่ 407

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ฟู่ชิงหัวเราะเบา ๆ “มีเหมืองหยกน้ำอย่างน้อยหลายสิบแห่งทั่วแผ่นดิน เหมืองที่อยู่ใกล้ท่านที่สุดอยู่ในเขตหลงหนาน สันเขาเชียนเฮ่อในเมืองเฮ่อ ทว่าหยกน้ำนั้นไร้ค่าและไร้ประโยชน์ เหตุใดคุณชายถึงสนใจสิ่งนี้กันเล่า!”

“เขตหลงหนาน เมืองเฮ่อ!”

เมืองนี้อยู่ห่างออกไปกว่าร้อยกิโล ดวงตาของหวังหยวนเป็นประกายแล้วกำหมัด “ข้าก็แค่สนใจชั่วคราวเท่านั้น ขอบคุณสำหรับข่าวของท่าน ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำ ท่านตามสบายเถอะ!”

“เอ๊ะ!”

หลังจากสอบถามข้อมูลเสร็จ หวังหยวนก็ไม่สนใจเขาแล้ว ฟู่ชิงพูดไม่ออกและรีบไล่ตามเขาไป “คุณชาย ท่านสนใจหยกน้ำ และต้องการไปที่เมืองเฮ่อเพื่อเอาหยกน้ำใช่หรือไม่ ข้าขอเตือนท่าน ท่านห้ามไปเป็นอันขาดนะขอรับ!”

หวังหยวนหยุดเดินชั่วคราว “เหตุใดเล่า!”

ฟู่ชิงลดเสียงลงและพูดว่า “มีกลุ่มกบฏในเมืองเฮ่อ และทั้งเมืองเฮ่อถูกพวกเขายึดครองไปทั้งหมด!”

หวังหยวนประหลาดใจ “อะไรนะ?”

“ก่อนหน้านี้อ๋องถูหนานโจมตีชายแดน และผู้พิพากษาของเมืองเฮ่อก็ถือโอกาสเรียกเก็บภาษีระลอกหนึ่ง!”

ฟู่ชิงยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ชาวบ้านไม่สามารถจ่ายภาษีได้ และมีหลายคนบ้านแตกสาแหรกขาด”

หวังหยวนขมวดคิ้ว!

การจัดเก็บ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 408

    "ไม่ทำ!" หงเยี่ยปฏิเสธอย่างไม่ลังเล! เจ้าโจรตัวน้อยไร้ยางอายผู้นี้เจ้าเล่ห์มาก การทำข้อแลกเปลี่ยนกับเขามีแต่ถูกโกงเท่านั้น! หวังหยวนก็ไม่โกรธเช่นกัน “เจ้าไปที่เมืองเฮ่อเพื่อข้าหน่อย ไปสืบให้กระจ่างว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วข้าจะปล่อยเจ้ากลับไปที่อีเซี่ยนเทียนเมื่อเจ้ากลับมา” “สืบสถานการณ์ในเมืองเฮ่อ!” หงเยี่ยขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ “เจ้าคิดจะทำอะไร? เจ้าคิดจะทำร้ายพี่ชิงเมี่ยนหลางเหรอ!” “เขาก่อกบฏเป็นเรื่องของเขา ไม่ได้ยั่วโมโหข้าเสียหน่อย ข้าจะไปแตะต้องเขาทำไมเล่า?” หวังหยวนเปลี่ยนเรื่อง “หากเจ้าไม่ตกลงก็ช่างมันเถอะ ปีใหม่ก็อยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังไปเถอะ!” เหตุผลที่เขาต้องการทราบสถานการณ์ในเมืองเฮ่อ ประการแรกคือมีเหมืองหินแก้วสำหรับทำแก้วอยู่ที่นั่น และประการที่สองคือหากต้องการไปที่เมืองโจว เพื่อรับซื่อหานก็ต้องผ่านเมืองเฮ่อเช่นกัน ไม่เช่นนั้นก็ต้องเดินทางอ้อมประมาณสองร้อยกิโล! สถานการณ์ในเมืองเฮ่อค่อนข้างแปลก การสังหารเจ้าหน้าที่และการกบฏเหตุการณ์ใหญ่เช่นนี้ แต่ข่าวกลับมาไม่ถึงเมืองฝู การปล่อยให้หงเยี่ยไปสืบข่าวคราวประการแรกคือเป็นเรื่องง่าย ประการที่สองคือป้องกันตัวเอง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 409

    หูเทียนทรุดตัวลงแล้วคุกเข่า “ข้าขอคำนับท่านแทนคุณหนูด้วยขอรับ” หวังหยวนดึงหูเทียนขึ้น แล้วส่งเขาออกจากประตู เขาขมวดคิ้ว! ประธานที่เขาจับตามองมานานไม่สามารถมาได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องมองหาผู้ที่มีความสามารถทางกิจการคนอื่นแล้ว ยุคสมัยนี้มีบัณฑิตอยู่มากมาย แต่ผู้มีความสามารถทางกิจการกลับมีน้อยมาก คนประเภทหูเมิ่งอิ๋งที่กล้าเสี่ยงโชคยามที่ชาวหวงกำลังเข้าใกล้เมือง ช่างเป็นคนประเภทที่ล้ำค่าและหายากนัก คนที่เหมาะสมในการทำกิจการให้เขาในตอนนี้มีเพียงหวังซื่อไห่ และลูกพี่ลูกน้องชิงเหอเท่านั้น! อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์ของพวกเขาทั้งสองคนมีจำกัดและต้องใช้เวลาในการปลูกฝัง จึงเป็นเรื่องยากที่จะเป็นผู้นำในเวลาอันสั้น! อนิจจา เงินทองนั้นได้มาง่าย แต่ความสามารถนั้นหายากนัก! ... “พี่สาว พี่เหม่ออะไรอีกแล้ว พี่กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ!” ในสวนหลังบ้านของตระกูลหู อาเป่าดึงมุมเสื้อผ้าของหูเมิ่งอิ๋งแล้วเงยหน้าขึ้นมองนาง! “พี่กำลังคิดว่าคืนนี้ให้ห้องครัวทำอาหารอร่อย ๆ ให้อาเป่ากิน!” หูเมิ่งอิ๋งลูบหัวน้องชายของนางพร้อมยิ้มหวาน แต่ในใจกลับรู้สึกยากลำบาก ไม่รู้ว่าหลังจากคุณชายได้รับจดหมา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 410

    “คุณหนู อย่าโกหกข้าเลย ท่านไม่เหมือนกับคุณหนูของใต้เท้าพวกนั้นที่ร้องไห้จมปลักอยู่กับความทุกข์!” เหลิ่งอวิ๋นส่ายหัวและหรี่ตาลง “หูซานเต๋อทำร้ายท่านกับอาเป่าอีกแล้วใช่ไหม ท่านไม่ควรหยุดข้าตั้งแต่แรก ฆ่าเขาแล้วก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น!” “ไม่ได้!” สีหน้าของหูเมิ่งอิ๋งเปลี่ยนไป “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขายังคงเป็นลุงของข้า ข้าปล่อยให้เจ้าฆ่าเขาไม่ได้!” “...ก็ได้!” เหลิ่งอวิ๋นขมวดคิ้วและพูดว่า “คุณหนู หากอยู่ตระกูลหูแล้วไม่มีความสุข ท่านสามารถพาอาเป่าย้ายออกไปได้ ข้าจะพาท่านไปยังที่ที่จะไม่ทำให้ท่านเสียใจ!” หูเมิ่งอิ๋งประหลาดใจ “ที่ไหน?” เหลิ่งอวิ๋นพูดอย่างคาดหวัง “เมืองเฮ่อ!” หูเมิ่งอิ๋งขมวดคิ้วเล็กน้อย “เหลิ่งอวิ๋น ด้วยทักษะศิลปะการต่อสู้และความกล้าหาญของเจ้า เจ้าจะโดดเด่นได้อย่างแน่นอนในอนาคต เจ้าหาสตรีจากครอบครัวที่ดีเถอะ ข้าเป็นสตรีที่แต่งงานมาแล้วสามครั้ง และจะไม่แต่งงานเป็นครั้งที่สี่อีก ในชีวิตนี้ข้าจะดูแลอาเป่าไปตลอดชีวิต!” นางรู้มาตลอดว่าเหลิ่งอวิ๋นคิดอย่างไรกับนาง! เขาปรากฏตัวในยามวิกฤติครั้งแล้วครั้งเล่า และนางก็รู้สึกประทับใจจริง ๆ แต่หลังจากครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนแ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 411

    หัวใจของหูเมิ่งอิ๋งสั่นไหว “ท่านมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” หูซานเต๋อพูดกึ่งยิ้ม “เร็วกว่าขอทานตัวน้อยนั่นนิดหน่อย!” ดวงตาที่สวยงามของหูเมิ่งอิ๋งจมลง “ลุงรอง ท่านดื่มมากไปแล้ว ที่นี่ไม่มีขอทานสักหน่อย!” ในอดีตลุงรองใช้กำลังเพื่อยึดทรัพย์สินของตระกูล เหลิ่งอวิ๋นเกือบจะทุบตีลุงรองจนตาย เป็นบ่าวทำร้ายเจ้านายเป็นความผิดมหันต์ ดังนั้นเพื่อให้เหลิ่งอวิ๋นมีชีวิตรอด นางจึงขอให้เขาจากไป หูซานเต๋อเยาะเย้ย “เจ้าเสแสร้งไปก็ไร้ประโยชน์ ข้าได้ยินทุกสิ่งที่เจ้าทั้งรองคุยกันเมื่อครู่นี้!” หูเมิ่งอิ๋งขมวดคิ้วเล็กน้อย! หูซานเต๋อกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “เจ้าว่าหากข้าจะไปรายงานเจ้าหน้าที่ที่ศาลาว่าการตอนนี้ แล้วบอกว่าเจ้ายุยงให้ขอทานตัวน้อยนั่นฆ่าสามีทั้งสามคน เจ้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าล่ะ?” “ไม่ใช่ว่าท่านไม่เคยฟ้องร้องมาก่อน!” หูเมิ่งอิ๋งเงียบไปสักพักและกัดฟัน “ข้าไม่ได้ยุยงให้พี่เหลิ่งอวิ๋นทำร้ายใคร!” ในปีนั้น สามีสามคนเสียชีวิตกะทันหัน และบ้านสามีก็รับเงินไปและเงียบไว้! แต่ปรากฏว่าลุงคนที่รองใช้เงินเพื่อไปที่ศาลาว่าการแล้วขอให้ขุนนางผู้ชันสูตรศพไปชันสูตรพลิกศพ และคิดจะส่งนางเข้าคุก น่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 412

    “เจ้าจะหาเงินมาได้เท่าไหร่กัน? ข้าอยากได้แค่สูตรลับรองสูตรนั้น!” หูซานเต๋อเยาะเย้ยและพูดด้วยใบหน้าเย็นชา “หากเจ้าไม่สามารถเอาสูตรลับรองสูตรนั้นได้ภายในสามวัน ข้าก็จะไปรายงานเจ้าหน้าที่ เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าและอาเป่าเด็กโง่นั่นก็รอความตายเถอะ!” “ลุงรอง ท่าน!” เมื่อมองดูแผ่นหลังที่ไร้เยื่อใย หูเมิ่งอิ๋งก็รู้สึกเหมือนมีมีดแทงหัวใจ และดวงตาที่สวยงามก็ดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ลุงรองผู้นี้ไม่สนใจในสายสัมพันธ์ของตระกูล ซ้ำยังขับไล่พวกนางรองพี่น้องไปสู่ความตาย เหตุใดถึงบังคับนางอย่างไร้ความปรานีเช่นนี้! ... บนหลังคาไม่ไกลนัก เหลิ่งอวิ๋นนอนอยู่บนสันเขา พลางมองดูทุกอย่างอย่างเย็นชา เมื่อตกกลางคืนเขาก็จากไปอย่างเงียบ ๆ และมาถึงบ้านส่วนตัว “นายท่าน ท่านกลับมาแล้ว!” คนห้าคนเข้ามาล้อมรอบตัวเขา ชายหนุ่มสี่คนมีใบหน้าหยาบกร้านและดวงตาที่เฉียบคม พร้อมชายชราคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมยาว หลังโก่ง มีเครา และผมสีขาวยาว ดวงตาของเหลิ่งอวิ๋นมืดลง “เรียกท่านแม่ทัพ!” เมื่อห้าปีก่อน เขาถูกบังคับให้ออกจากตระกูลหู เขาจึงหลบหนีไปเป็นโจรที่เมืองเฮ่อ! ด้วยทักษะศิลปะการต่อสู้ของเขา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 413

    ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญเช่นนี้ นายท่านจะตามหาคนชื่อ 'หวังหยวน' นั่นไปทำไม? ... วันรุ่งขึ้น ขบวนขนส่งเกลือยาวแล่นเข้าสู่หมู่บ้านต้าหวัง! เอ้อหู่ลักษะณะท่าทางสง่างามกำลังขี่ม้าศึก ด้านหลังตามมาด้วยทหารผ่านศึกชุดเกราะทมิฬพร้อมครอบครัวและทหารผ่านศึกขนส่งเกลือ! “เอ้อหู่กลับมาแล้ว!” “เกลือของเรากลับมาแล้ว!” “อี๋ ทำไมเกลือนี้ถึงขาวกว่าเดิมล่ะ ไม่มีทรายผสมเลย!” รอบ ๆ ขบวนรถ ชาวบ้านจำนวนมากเปิดถุงเกลือ เมื่อเห็นก็อดไม่ได้ที่จะตะโกน “ข้าก็ไม่รู้แน่ชัดเหมือนกัน ตอนนี้เกลือที่เฟ่ยชางต้มล้วนเป็นแบบนี้!” เอ้อหู่ที่ได้รับบัพติศมาในสนามรบ ตอนนี้เขาสูงขึ้นและมีพลังเปี่ยยมล้นพร้อมดวงตาที่สดใส “พ่อข้าบอกว่าพี่หยวนเป็นคนเปลี่ยนวิธีการต้มเกลือในเฟ่ยชาง ตอนนี้เกลือที่ต้มจึงมีสิ่งสกปรกน้อยลง! พี่หยวนมาแล้ว พวกเจ้าถามเขาสิ!” ไม่ไกลนัก หวังหยวนมาพร้อมกับใครบางคน ชาวบ้านก็รีบเข้าไปล้อมเขาไว้ทันที “ใช้ได้!” เมื่อเปิดถุงเกลือและเห็นเกลือสีขาวสะอาด หวังหยวนก็ลิ้มรสและพยักหน้า นี่เป็นสิ่งที่เขาขอให้ครัวเรือนเฟ่ยชางสร้างถังกรองสามขั้นตอน โดยใช้ทราย ถ่าน และสำลี น้ำเกลือที่นำมาจากบ่อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 414

    หวังหยวนไม่เคยเห็นเอ้อหู่เป็นแบบนี้มาก่อน เขาดูเขินอายเหมือนสะใภ้คนเล็ก หวังหยวนถามอย่างสงสัย “มีเรื่องอะไรเหรอ?” เอ้อหู่เปิดหนังสือแต่งตั้ง “ข้าอยากไปเมืองหลวง ท่านแม่ทัพหนุ่มรายงานทักษะทางการทหารของข้า และกรมกลาโหมก็ตัดสินใจมอบตำแหน่งนายพลเฉียนจ๋งให้ข้าขอรับ!” ในศึกครั้งแรกรบอยู่นอกเมือง เขาได้เอาชนะเชลยหลู่เฉิงเย่ และสังหารทหารม้าของชาวหวงไปเกือบร้อยคน ในศึกครั้งที่สองรบอยู่ในเมือง เขาได้สังหารทหารม้าราบติดอาวุธหนัก และทหารม้าเหล็กไปเกือบร้อยคน! ในศึกครั้งที่สามรบ ชนะค่ายทหารชาวหวงได้ และในศึกครั้งที่สี่ก็ยึดด่านหัวมังกรคืนมาได้! ในศึกทั้งสี่ครั้งเขาได้สังหารทหารติดอาวุธพรั่งพร้อมของชาวหวงไปเกือบสี่ร้อยคน และจำนวนศัตรูที่เขาฆ่านั้นเป็นอันดับสองรองจากแม่ทัพอู๋หลิงเท่านั้น ดังนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นคนไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์ ทว่ากลมกลาโหมก็เตรียมที่จะละเว้นและเลื่อนตำแหน่งให้เขาเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ระดับหก-เฉียนจ๋ง! หวังหยวนรับหนังสือแต่งตั้งมาแล้วมองดูและพูดว่า “ไปกับแม่ทัพหนุ่มหรือ?” “อืม!” เอ้อหู่กล่าวอย่างตื่นเต้น “ราชสำนักได้ออกฎีกาว่าให้แม่ทัพหนุ่มกลับไปยังเมืองห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 415

    อย่างไรก็ตาม หากว่าเขาไปเมืองจิงตูด้วย ใครจะมาเสี่ยงชีวิตปกป้องพี่หยวนกัน! ทั้งเขาและพ่อของเขาไม่สามารถไว้วางใจคนนอกได้! “ไม่ต้องรีบร้อน เมื่อมีคนเพียงพอแล้ว เจ้าก็สามารถออกไปเรียนรู้เพิ่มเติมในภายหลังได้!” หวังหยวนตบไหล่ต้าหู่แล้วเปลี่ยนเรื่อง “ให้ทุกคนเข้านอนเร็ว ๆ หน่อย เราจะขนส่งเกลือไปที่เทศบาลในเช้าวันพรุ่งนี้ ได้เวลาซื้อร้านค้าแล้ว” เดิมทีเรื่องเหล่านี้มีการวางแผนว่าจะส่งมอบให้กับหูเมิ่งอิ๋งดูแล แต่ตอนนี้พวกเขาต้องทำด้วยตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หวังหยวนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย มีคนมากมายภายใต้คำสั่งของเขา แต่ไม่มีสักคนที่รู้วิธีการทำกิจการเลย! ชุดเกราะทมิฬและทหารผ่านศึก ขอให้พวกเขาสังหารองครักษ์ศัตรู พวกเขามีฝีมือที่ดีอย่างแน่นอน! แต่ขอให้พวกเขาทำกิจการ พวกเขาต่างมืดบอด ตอนนี้คนเดียวที่รู้วิธีการซื้อและขาย คือลูกพี่ลูกน้องชิงเหอ และกัวฉางก็มีความรู้อยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนยุ่งกับเรื่องในหมู่บ้านมากเกินไป จนปลีกตัวมาไม่ได้ ก่อนรุ่งสางของวันรุ่งขึ้น รถม้าและม้ากลุ่มหนึ่งเดินทางไปยังเมืองฝู และพวกเขาเข้ามาในเมืองตอนรุ่งสาง! ทั้งกลุ่มไปที่ร้านลูกชิ้นปลา

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

DMCA.com Protection Status