อู๋หยวนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าเกรงขาม "ยิงหน้าไม้และหน้าไม้ยักษ์ซะ อย่าปล่อยให้พวกมันบุกเข้ามา!"ทหารพ่ายศึกหลายหมื่นคนรีบวิ่งพุ่งเข้ามา พวกเขามีแค่พันคนเท่านั้น จำนวนขนาดนี้พวกเขาถูกข่มกลับได้ทันที!ทหารพ่ายศึกนวนมากในค่ายล่าถอยกลับไปใครก็ตามที่รีบออกไปก่อนจะต้องเผชิญหน้ากับการกระหน่ำยิงเครื่องยิงหน้าไม้ยักษ์และหน้าไม้จนต้องตายหมดเป็นแน่!"หยุดซะ!"หวังหยวนตะโกนด้วยเสียงทุ้ม ทหารจำนวนมากก็หยุดลงทันที เขาหันกลับแล้วพูดต่อไปว่า "อู๋หยวนเจ้าพาทหารไปเสริมกำลังการป้องกันที่ประตูเมือง ที่นี่ไว้ให้เป็นหน้าที่ข้าเอง!"อู๋หยวนขมวดคิ้วไม่พูดอะไร!หากเป็นก่อนหน้านั้นเขาเคยฟังคำสั่งของหวังหยวนมาก่อน แต่ตอนนี้เสวี่ยผานและหลินเจาเอินเป็นคนกุมอำนาจไว้ในขณะนั้นผู้ส่งสารของเจิ้งฝาเป่ยรีบวิ่งเข้ามาและตะโกนว่า "แม่ทัพอู๋ ขันทีหลินหนีไปพร้อมกับแม่ทัพเว่ยแล้ว แม่ทัพเจิ้งไปที่ประจำประตูเมืองแล้ว เขาให้ข้าบอกแม่ทัพหนุ่มและท่านเสนาธิการทหารว่าเขาจะสู้ตาย ให้พวกท่านก็อย่ายอมแพ้ด้วยเช่นกัน!”"ว่าไงนะ!"อู๋หยวนอึ้งจนทำตัวไม่ถูกชาวหวงเข้ามาในเมือง ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ หลินเจาเอินกับเว่ยชิงซา
ทหารพ่ายศึกหลายคนมีสายตาที่แข็งกร้าว แต่ส่วนใหญ่กลับดูยังสนิทสนมและเป็นกังวล!“ข้ารู้ว่าตอนนี้พวกเจ้าโกรธ ข้าเองก็โกรธเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน!”เมื่อมองไปรอบ ๆ หวังหยวนก็ด่าเสียงดัง "เราต่อสู้อย่างสุดชีวิตเพื่อราชสำนัก แต่ขุนนางและขันทีเหล่านั้นกลับทำกับเราเช่นนี้ ข้าล่ะแค้นจนอยากจะไปฆ่าไอเวรตะไลพวกนั้นให้หมดไปซะ!"ทหารพ่ายศึกหลายคนพยักหน้าทั้งน้ำตา เป็นคำพูดที่ยิงตรงเข้ามาในใจของพวกเขาหากไม่ถูกสถานการณ์บังคับ ใครจะยอมจำนนต่อชาวหวงที่น่าชิงชังเหล่านี้ได้?หวังหยวนกัดฟันแล้วพูดว่า "แต่ข้าจะยังคงต่อสู้ในศึกครั้งนี้ต่อไป!"“ราชสำนักไม่ยอมปล่อยเราไป แล้วทำไมเราต้องช่วยสู้ให้พวกมันด้วย!”"ไม่สู้ก็พูดได้สิ แต่ถ้าชนะก็ตายอยู่ดี!"“พวกเราไม่ได้โง่นะ!”ทหารพ่ายศึกหลายคนตะโกน!หวังหยวนกัดฟันตะโกนออกมา "ข้าไม่ได้ต่อสู้ในศึกนี้เพื่อราชสำนัก เพื่อเกียรติยศ หรือเพื่อเลื่อนยศใด ๆ ทั้งนั้น ข้ากำลังต่อสู้เพื่อภรรยา ลูก ๆ พ่อแม่ของข้า เพื่อดินแดนที่บรรพบุรุษของเราทิ้งไว้ให้เรา เพื่อคนรุ่นหลังของเราไม่ต้องเป็นทาสใคร เพื่อให้ใต้หล้านี้อยู่อย่างสงบสุข!"ทหารพ่ายศึกทั้งหมดดูดิ้นรนสับสนท่านเสน
ไม่มีใครคาดคิดว่าหวังหยวนจะสามารถชักชวนทหารพ่ายศึกกือบหมื่นคนได้ด้วยฝีปากอันเฉียบคมของเขาหวังหานซานยิ้มเล็กน้อย เขาเชื่อในตัวหวังหยวนอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งนั้น!หวังหยวนก้าวไปข้างหน้าด้วยสายตาที่ซับซ้อน!หลังจากพยายามเกลี้ยกล่อมพวกเขาอย่างต่อเนื่องมานานกว่าครึ่งเดือน ในที่สุดทหารพ่ายศึกเหล่านี้ก็เชื่อในตัวเขา!ที่เขากล้าเข้าค่ายตามลำพัง เพราะเขาเข้าใจความต้องการของผู้คนที่อยู่เบื้องล่างการมาในครั้งนี้มันยากที่จะจินตนาการว่าทหารเกือบหนึ่งหมื่นคนจะได้กลับมากี่คน!แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก!หลังจากที่พวกเขาออกไป ทหารพ่ายศึกที่เหลืออีกพันคนก็รีบออกจากค่ายและหนีไปที่ประตูทิศใต้พวกเขาไม่เชื่อราชสำนักและไม่เชื่อว่าหวังหยวนจะชนะศึกนี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะหนีทัพกลายเป็นโจร...เมื่อสิบห้านาทีที่แล้ว ในค่ายทหารอู๋หลิงที่นั่งอยู่ในกระโจม เขาขมวดคิ้วแน่น!ตอนนี้เขากำลังเจ็บปวดขมขื่นหัวใจ!ตระกูลอู๋จงรักภักดีต่อราชสำนักมาโดยตลอด กล่าวได้ว่าพวกเขาหลั่งเลือดสละชีวิตถวายให้ได้แต่ราชสำนักปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร!พ่อของเขาถูกตัดหัว ส่วนแม่ น้องชายและน้องสาวของเขาถูกจำคุกท
กุบกับ กุบกับ…เหมือนม้าศึกเหยียบย่ำพื้นด้วยเกือกเหล็ก!เมื่อทั้งสามหันกลับมา พวกเขาเห็นอู๋หลิงเป็นผู้นำตามมาด้วยทหารราบสวมชุดเกราะหนา!“ทหารชุดเกราะ แม่ทัพหนุ่มได้นำทหารชุดเกราะมาที่นี่ด้วย เราสามารถหยุดชาวหวงได้แล้ว!”หวางห่าว, อู๋หยวนและ เจิ้งฝาเป่ยมีใจจะสู้ต่ออย่างเต็มเปี่ยม และขวัญกำลังใจของทุกคนก็เพิ่มขึ้นมาทันที!ทหารชุดเกราะหรือทหารราบเกราะหนักของต้าเย่ ล้วนเป็นทหารชั้นยอด พวกเขาสวมชุดเกราะหนักเจ็ดสิบกิโลกรัม สามารถปกป้องได้ทั้งร่างกาย พวกเขาใช้ทั้งดาบ ขวาน และค้อน แข็งแกร่งไร้เทียมทานมากในการต่อสู้ระยะประชิด!ช่างฝีมือของต้าเย่ฝีมือเหนือกว่าชาวหวง อุปกรณ์เกราะผ้าก็แข็งแกร่งกว่าของทหารราบหนักของชาวหวง"ฆ่ามัน!"อู๋หลิงเป็นผู้นำ พุ่งไปข้างหน้าวาดดาบออกไป ทุกที่ที่ดาบวาดไปหัวก็หลุดตามดาบที่ผ่านไปทุกที่!ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง…ทหารหุ้มเกราะสองพันคนเดินตามไปติด ๆ ทหารราบหนักชาวหวงฟันและแทงร่างกายของพวกเขาด้วยดาบและหอก ทำให้เกิดประกายไฟออกมาหลายจุด!เคร้ง เคร้ง เคร้ง...ต่อมา ค้อนและขวานก็พุ่งกระเด็นเข้าใส่ทหารราบชาวหวง!ทหารราบหนักชาวหวงนับไม่ถ้วนล้มลงกับพื้น!ไม่มีใครใช้หอก
อู๋หลิงก้าวไปข้างหน้าทักถามเขา "เจ้ามาที่นี่ทำไม"เอ้อหู่พูดอย่างฮึกเฮิม "พวกชาวหวงบุกมา แน่นอนว่าเราต้องมาอยู่แล้ว!"“วิกฤตใหญ่หลวง ล้วนมิมีใครหนีพ้น!”วังไห่เทียนหายใจหอบ "ให้เราทำหน้าที่ของเราเพื่อปกป้องเมืองด้วย!"อู๋หลิงพยักหน้า "เอาล่ะ ท่านลุง มีหินก้อนใหญ่อยู่ในบ้านทั้งสองฝั่งของถนน สั่งให้คนย้ายพวกมันออกไปปิดถนนไว้ เหลือทางเข้าด้านข้างไว้ให้เราถอย!""ได้!"วังไห่เทียนและวังฉงโหลวให้คนรับใช้และพวกจ้าวหู้ขนย้ายก้อนหินขนาดใหญ่ไปปิดทางเข้าถนน!เมื่อมองดูทหารราบของพวกชาวหวงที่แห่กันเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน ดวงตาของเอ้อหู่ก็เป็นประกายและพูดว่า "แม่ทัพหนุ่ม ข้าไม่อยากขนหิน ให้ข้าไปฆ่าพวกมันเถอะ!"“นี่คือทหารราบเกราะหนัก จุดอ่อนอยู่ที่ช่วงว่างเกราะคอและใบหน้า ส่วนอื่น ๆ โจมตีเพียงครั้งเดียวไม่อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้!”รู้ว่าเป็นหนุ่มเลือดร้อนบ้าการต่อสู้ อู๋หลิงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเตือนเขาเอาไว้เอ้อหู้ตะโกนและรีบเข้าไปในสนามรบ!ต้าหู่กำลังจะตามมา แต่ถูกอู๋หลิงหยุดไว้ก่อน "รีบไปที่ฝั่งเหนือ ท่านเสนาธิการทหารอยู่ที่นั่นเพื่อโน้มน้าวกองทหารพ่ายศึกให้ยอมจำนน ข้าเป็นห่วงความ
เมื่อมองดูประตูเมืองที่ถูกตีแตก ได้ยินเสียงการต่อสู้ในเมือง อากู่ฉาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยสีหน้าเย็นชาและโศกเศร้า แต่ยังแฝงได้ถึงความตื่นเต้น “เสด็จพ่อ ท่านอยู่บนฟ้าท่านเห็นนั่นไหม? ข้ายึดจิ่วซานได้แล้ว เราจะเริ่มแก้แค้นเดี๋ยวนี้!”โจวไป่ตวนกล่าวว่า "อ๋องน้อย ก่อนที่ท่านอ๋องตาย เขาสั่งให้ท่านเก็บหวังหยวนไว้ ให้ทุกสิ่งที่เขาอยากได้ เอาชนะใจเขาให้ได้ ทำไมท่านไม่เก็บเขาไว้ล่ะ"“ความแค้นที่ฆ่าเสด็จพ่อไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้ ถ้าข้าเก็บเขาไว้ เหล่าพี่น้องชาวหวงจะคิดอย่างไรกับข้า!”อากู่ฉาจิ้ปากอย่างเย็นชา "หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ข้ารู้สึกว่าสติปัญญาของเขาก็แค่เท่านั้นงั้น เขาใช้หน้าไม้ยักษ์ยิงใส่เสด็จพ่อเท่านั้น ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรมากนัก นอกจากนี้ข้ายังมีท่านช่วยข้าอยู่ จะเอาเขามาทำอะไรอีก!”“ขอบพระทัยอ๋องน้อยที่ชมเชย!”โจวไป่ตวนดูมั่นใจ "ตราบใดที่อ๋องน้อยฟังแผนการของข้า ข้ารับประกันว่าท่านจะตีเฉิงโจวแตกได้ภายในสามเดือนและบุกเมืองหลวงต้าเย่ได้ในครึ่งปี กลายเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของเหล่าชาวหวง!""ฮ่า ฮ่า ฮ่า !"อากู่ฉาพูดอย่างภาคภูมิใจ "ท่านเป็นคนมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม ข้าม
ฟู่ว ฟู่ว...ทหารชาวหวงจำนวนมากที่ถูกไฟคลอกทนความเจ็บปวดไม่ไหว พวกเขาจึงใช้ดาบฆ่าตัวตาย!บางคนถูกไฟคลอกจนควบคุมตัวไม่ได้ และเริ่มใช้ดาบฟันใส่สหายศึก!ในไฟที่โหมกระหน่ำ ร่างหลายพันร่างดิ้นทุรนทุรายค่อย ๆ ล้มลงและแน่นิ่งไป!ที่สี่แยกถนนด้านซ้ายและขวา หวางห่าว, อู๋หยวน, เจิ้งฝาเป่ย และกองทหารต่างก็โล่งใจในที่สุดทหารราบหนักชาวหวงก็ถูกปราบรามไว้ได้ มณฑลจิ่วซานปกป้องไว้ได้แล้ว พวกเขารอดแล้ว!ถูกต้องแล้วที่ทำตามท่านเสนาธิการทหาร เขามีวิธีที่จะเอาชนะได้จริง ๆหลังทางแยกถนน ทหารพ่ายศึกกลุ่มหนึ่งได้ยินเสียงกรีดร้องของพวกชาวหวง จนหนาวสันหลังวาบไปหมด!หากศึกก่อนหน้านี้เขาให้ชาวหวงเข้าไปในเมือง พวกเขาก็อยู่ในกองไฟแล้ว!ที่สี่แยกหวังหยวนยืนอยู่ด้านหน้าเมื่อมองไปที่ร่างที่กำลังดิ้นรนในเปลวไฟ ฟังเสียงกรีดร้องดังแทบขาดใจ เขาก็เริ่มแสบตาขึ้นมาชาติที่แล้ว เขาอาศัยอยู่ในโลกที่สงบสุข การฆ่าคนตายถือเป็นความผิดร้ายแรง จะใช้มีดแทงกันยังแทบไม่มีเลย!ตอนนี้เขาวางแผนและเผาคนตายสองหมื่นถึงสามหมื่นคน!ตอนที่คิดแผน เขาคิดแค่การสู้กับพวกชาวหวงเท่านั้น จึงไม่ได้รู้สึกผิดอะไรในใจ!ตอนนี้ความรู้สึกเห
"ฆ่า ฆ่าให้ได้สักคนพอแล้ว ฆ่าสักสองคนก็นับว่ากำไร!"ชาวหวงทหารพ่ายศึกหลายคนโกรธและรู้สึกเสียใจมากจนชักดาบออกมาโจมตี!พวกเขาทรยศต่อต้าเย่ พวกชาวหวงก็ไม่เชื่อใจพวกเขา พวกเขาน่าจะฟังสิ่งที่ท่านเสนาธิการทหารพูด!แต่มาเสียใจตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!"ฆ่ามัน!"บนกำแพงเมือง ทหารราบหนักของชาวหวงและกองทัพต้าเย่ทั้งสองฝ่ายก็เริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง!แต่การต่อสู้อยู่ฝ่ายเดียว!เนื่องจากความห่างชั้นของอุปกรณ์และเครื่องมือ ทหารราบหนักชาวหวงส่วนใหญ่จึงสังหารได้อย่างง่ายดายแม้แต่ขุนพลทรยศอย่างหนิวเวยก็ถูกทหารราบหนักของชาวหวงรุมจนตายอย่างตอบโต้ไม่ได้ด้วยซ้ำ!ทหารต้าเย่บางคนโหดเหี้ยมมาก ถึงขนาดกอดทหารราบหนักชาวหวงแล้วลากตกลงมาจากกำแพงเมือง!ปึงปัง ปึงปัง...ในตอนนั้น กองทหารต้าเย่ก็โยนทหารราบหนักของชาวหวงทิ้งเหมือนโยนเกี๊ยวลงหม้อต้มการเปลี่ยนแปลงกะทันหันนี้ทำให้ทหารต้าเย่ที่อยู่ข้างนอกสับสน: เกิดอะไรขึ้นกันแน่?หวังหยวนเองก็สับสนเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้เช่นกัน และโบกมือขึ้น "ฉวยโอกาสนี้และยึดกำแพงเมืองกลับคืนมา!"อู๋หลิงนำทหารผ่านศึกชุดเกราะทมิฬและทหารราบเกราะหนักทั้งสองกลุ่มบุกขึ้นไปยึด
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห