Share

บทที่ 225

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ในรถม้า หวังหยวนลืมตาขึ้น "ถ้ามองข้าอีก ข้าจะเก็บเงินนะ!"

"อ๊าย!"

ใบหน้างดงามของหูเมิ่งอิ๋งที่ถูกจับได้ว่าแอบมองตกใจจนทำอะไรไม่ถูก "คุณชายข้า ข้า ... "

หวังหยวนเม้มปาก "ล้อเล่น!"

ผู้หญิงยุคนี้ขี้อาย ถ้าแกล้งเล่นแบบนี้ต้องตกใจอยู่แล้ว!

หากในยุคของเขา ผู้หญิงอาจตบไปสักฉาด หรือขับรถทับไปแล้ว

หูเมิ่งอิ๋งหน้าแดงและพูดว่า "คุณชายคะ ข้าแพ้เดิมพันเมื่อสามวันก่อน ท่านอยากให้ข้าทำเรื่องลำบากใจอะไรรึเจ้าคะ!"

หวังหยวนรู้สึกเกรงใจเล็กน้อยและพูดว่า "เรื่องนั้น ข้าพูดไปคงไม่เหมาะสม! คำขอนี้มันออกจะไร้เหตุผลและไร้ศีลธรรมไปสักหน่อย ดังนั้น ข้าจึงไม่อยากบังคับให้เจ้าตกลง เพียงเพราะว่าเราได้เดิมพันกันแล้ว!"

"อื้อ..."

หูเมิ่งอิ๋งหน้าแดงด้วยความเขินอาย "ค่ะ คุณชาย ช่วยกลับเมืองก่อนได้ไหม ที่นี่ไม่สะดวกนัก!

พูดไม่ออก!

คำขอไร้เหตุผล!

คำขอไร้ศีลธรรม!

นอกเหนือจากเรื่องแบบนั้นแล้ว ยังจะมีเรื่องอะไรอีก ไม่คิดเลยว่าคุณชายจะเป็นคนแบบนั้นด้วย!

แต่ก็เข้าใจได้ คุณชายแต่งงานแล้ว และเขายังหนุ่มแน่นเลือดร้อน

มันก็ไม่แปลกที่จะมีความคิดเช่นนี้ หลังจากอยู่คนเดียวมาหลายวัน และมีผู้หญิงคนเดียวอยู่ข้าง ๆ!

คุณช
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 226

    "ระวัง!"หวังหยวนดึงหูเมิ่งอิ๋งเข้าไปในรถม้าหยิบ หน้าไม้ขงเบ้งออกมาและยืนขวางหน้านางด้วยสีหน้าเคร่งขรึม!แววตาของหูเมิ่งอิ๋งตื่นตระหนก!อึ้งงงเป็นไก่ตาแตกข้างนอกรถม้า!ชายสวมหน้ากากสิบเอ็ดคนพุ่งออกไป ทุกคนล้วนแข็งแกร่งและทรงพลัง!“รถคันข้างหน้าไม่ต้องสน ฆ่าผู้ชายที่อยู่รถคันหลังซะ!”ผู้นำชายสวมหน้ากากตะโกน ชี้ไปที่ต้าหู่และเอ้อหู่ มองไปทางชายสวมหน้ากากที่มีสายตาไร้อารมณ์ "เจ้าไปหยุดสองคนนี้ซะ ที่เหลือไม่ต้องสน!"ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ เขาสามารถบอกได้ทันทีว่าต้าหู่และเอ้อหู่นั้นอันตรายสำหรับกัวเหลียงและกัวเฉียง ฝีมือพอ ๆ กับพวกเขา ไม่คุ้มค่าที่จะจริงจังด้วยชายสวมหน้ากากที่มีสายตาเย็นชาพูดเสียงดัง "เด็กสองคนนั้นไม่ธรรมดาเลย ถ้าข้าไม่ใช้กำลังทั้งหมดเกรงว่าคงหยุดพวกเขาไว้ไม่ได้ ถ้าข้าใช้กำลังเต็มที่จนบาดเจ็บ หรือฆ่าพวกมันแบบไม่ได้ตั้งใจ เจ้าต้องจ่ายเพิ่มให้ข้า!""ได้!"ผู้นำชายสวมหน้ากากกัดฟันข้าไม่กลัวเขาลงมือทำร้ายหรือฆ่าใคร ที่ผ่านมามีการต่อสู้ประมือกันมากมาย แต่ข้าไม่เคยเห็นไอ้สารเลวนี้ทำร้าย หรือฆ่าใครมาก่อนเลย!ฟิ้ว!ชายวัยกลางคนที่มีสายตาเย็นชาพุ่งออกมาราวกับลูกธนูที่ถ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 227

    “อย่าเพิ่งใช้หน้าไม้!”ในรถม้า แววตาของหวังหยวนเย็นชาและจริงจัง "นี่ไม่ใช่การก่อกวน พวกเขามาที่นี่เพื่อฆ่าพวกเรา ต้าหู่คิดว่าจะเจ้าจับหัวหน้ามันมาแบบเป็น ๆ ได้ไหม"หากใช้หน้าไม้ ฆ่าพวกมันให้หมด สุดท้ายคงต้องปลอมตัวเพื่อตามสืบเบาะแสพวกมันในภายหลัง!หากเจ้าจับหัวหน้าได้ ก็สามารถติดตามเบาะแสค้นหาได้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง!ต้าหู่ยกดาบแล้วลงจากหลังม้า"พวกเขาล้วนเป็นผู้มีวรยุทธ์เก่งไม่น้อยไปกว่ากัวเหลียงและกัวเฉียงเลย แต่ข้าจะลองดูก่อน ปกป้องพี่หยวนและคุณชายวัง!"คนกลุ่มหนึ่งล้อมขวางรถม้าของหวังหยวนและวังฉงโหลวไว้!“เด็กคนนี้มันบ้าไปแล้ว อันที่จริง เขาอยากจะมาสู้กับพวกเราสิบคนจริง ๆ เขาแค่มารนหาที่ตาย!”หัวหน้าชายสวมหน้ากากหัวเราะเยาะ โบกมือ ทั้งสี่คนถือดาบรีบเข้ามาล้อมขนาบเขาทั้งสองด้าน!ตึง!กึก เคร้ง!ต้าหู่ฟันดาบลงไป ชายสวมหน้ากากที่อยู่ด้านหน้าก็ยกดาบสกัดดาบไว้ ดาบนั้นถูกดาบยาวตัดฝ่ากลางเข้าให้ทะลุหัวเขาแยกออกเป็นสองซีก!"อ๊าก!"เมื่อเห็นว่าดาบยาวแข็งแกร่งแค่ไหน ชายสวมหน้ากากทั้งสามก็ตกใจหันหลังวิ่งหนีไป!ตู้ม! ตู้ม!ต้าหู่ไล่ตามไปแทงตายไปอีกสองคน ที่เหลือก็วิ่งหนีไป!ชายสว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 228

    “พี่หานซานบอกข้าก่อนหน้านี้ว่าเขามีลูกชายสองคน ลูกชายคนโตหนักแน่นมั่นคง ลูกชายคนเล็กบุ่มบ่ามมุทะลุ ถ้าอย่างนั้นเจ้าคือต้าหู่ และเจ้าก็คือเอ้อหู่!”ชายวัยกลางคนที่มีแววตาเย็นชานั้นก็ลุกขึ้นชี้ไปที่ต้าหู่และเอ้อหู่ จากนั้นชี้ไปที่หวังหยวนแล้วพูดว่า "เขาเป็นใคร!"หวังหยวนมองชายวัยกลางคนขึ้น ๆ ลง ๆ "ข้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของพวกเขา ท่านคือนักรบกองทัพเกราะทมิฬ?"กองทัพชุดเกราะทมิฬ เจ้าของร่างเดิมเคยได้เรียนมาก่อน และได้รับการกล่าวขายหลายครั้งว่าเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในต้าเย่จากนั้นถึงได้รู้ว่าหวังหานซานและเฮยซินหู่ทั้งคู่มาจากกองทัพเกราะทมิฬ!ไม่นานมานี้ ในจวนตระกูลวัง วังไห่เทียนเมาเหล้าพูดออกมาเขาบอกว่ากองทัพเกราะทมิฬที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นได้ถูกทำลายลงไปแล้ว และเขาบอกว่าไม่อยากให้เขาเป็นอู๋มู่คนที่สอง!ชายวัยกลางคนเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "ข้าคือองค์รักษ์ส่วนตัวคนที่เก้าของท่านแม่ทัพมู่!"เอ้อหู่อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ท่านแม่ทัพมู่คือใคร?”เขาถามถึงกองทัพเกราะทมิฬ และท่านแม่ทัพมู่หลายครั้ง แต่พ่อของเขาปฏิเสธที่จะบอก และตีเขาเพื่อไม่ให้เขาถามอีก!“ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่จะไม่ได้บอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 229

    เอ้อหูลูบหัวตัวเองอย่างเขินอาย "อาสิบสาม ก็เมื่อครู่ข้าไม่รู้จักท่านหนิขอรับ?""เอาเถอะ!"ชายวัยกลางคนโบกมือแล้วหันกลับมา "กลับไปบอกพ่อของเจ้าว่าแม่ทัพหนุ่มยังมีชีวิตอยู่ และได้รับการช่วยเหลือแล้ว เขาอยู่ในจิ่วซานด้วย หากเขาอยากเจอแม่ทัพหนุ่ม ให้ไปทางซีเฉิง ถนนทางตอนใต้ของอู๋เป่ยที่บ้านหลังที่สาม”เอ้อหูสับสน "อาสิบสาม แม่ทัพหนุ่มคือใคร!"ชายวัยกลางคนวิ่งเข้าไปในป่า และมีเสียงดังกลับมา "พ่อเจ้ารู้จัก!"เอ้อหูพูดอีกครั้ง "อาสิบสาม ข้ายังไม่รู้ชื่อท่านเลย!"“ติงซือซาน!”ร่างนั้นหายลับไปแล้ว และทั้งสามก็กลับมาที่ขบวนรถวังฉงโหลวมีสีหน้าเป็นกังวล "ลุงหยวน เราจะทำอย่างไรต่อไปดี? หากให้ทางการไปที่ไปจวนผู้ว่า หาอาจารย์น้อง อย่างมากก็ฆ่าคนแซ่หลิวให้ตาย คงสาวไปถึงตระกูลหยางที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ยาก! ส่วนตัวตระกูลหยางนั้นทำให้ชดใช้เงินให้มากที่สุด ใช้เงินโสโครกนั้นซะ!"ท่าทางของหวังหยวนเย็นชาและเข้มงวด "ในเมื่อรู้สึกไม่สบายใจ ทำไมไม่ระบายมันออกไปก็จบแล้ว!"“จะระบายออกไปอย่างไร?”ดวงตาของวังฉงโหลวเป็นประกาย "ลุงหยวน ท่านมีความคิดอะไรบ้างไหม?"หวังหยวนโบกมือ "ครึ่งหนึ่งกลับไปที่เฟยชางพ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 230

    หลิวจื้อผิง ยิ้มอย่างขอโทษ "ทั้งหมดล้วนเป็นนายน้อยสามที่ส่งเสริม!"พวกเขาทั้งสองหัวเราะอย่างมีชัย!“แย่แล้ว นายน้อยสาม!”สีหน้าซีดเผือดของคนรับใช้ที่เข้ามา "ผู้ตรวจการมาที่นี่บอกว่าผู้จัดการหลิวจากเมืองฝูเป็นผู้จ้างวานฆ่า มือสังหารสิบคนจากสิบสองคนถูกฆ่าตาย หนึ่งคนถูกจับและอีกหนึ่งคนหลบหนีไปแล้ว คนที่ถูกจับได้เป็นหัวหน้า ได้ให้การว่าไปพบผู้บงการเป็นการส่วนตัว ตอนนี้ทั้งพยานและหลักฐานล้วนครบถ้วนแล้ว จึงต้องการจับกุมผู้จัดการหลิว และนำตัวเขาเข้าสู่กระบวนการของศาล นอกจากนี้ยังให้นายน้อยสามไปขึ้นศาลกับเขาด้วย เขาบอกว่านายน้อยสามอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังผู้บงการการลอบสังหารครั้งนี้ และกำลังบุกเข้ามาขอรับ!”กึก เพล้งร่างอ้วนท้วนของหยางซั่วสั่นเทิ้ม ถ้วยกระเบื้องชั้นเลิศก็ตกลงมาแตกเป็นชิ้น ๆ!ฟุบตุ้บ!หลิวจื้อผิงหน้าซีดและทรุดตัวลงกับพื้น "เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ยังไง? ข้าตรวจสอบอย่างละเอียดดีแล้ว ในบรรดาชายหนุ่มทั้งสิบเอ็ดคนนั้น มีสี่คนเป็นผู้มีวรยุทธ์ พวกเขาจะจัดการกับผู้มีวรยุทธ์ทั้งสิบสองคน และกองทัพชุดเกราะทมิฬได้อย่างไร! เป็นไปไม่ได้ ไม่จริง!"ผั้วะ!หยางซั่วเตะเขาและด่าสาป "ไอคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 231

    หยางซั่วตะโกน “จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก?”การลอบสังหารล้มเหลว จ้าวหู้กบฏ จะมีเรื่องอะไรใหญ่กว่านี้อีก!คนรับใช้กระซิบว่า “มีประกาศใหญ่ทั่วเมือง ว่าเราซื้อใบอนุญาตค้าเกลือห้าอีแปะ ดอกเกลือห้าอีแปะ เกลือราคาสี่อีแปะ รวมเป็นสิบสี่อีแปะ แล้วนำมาขายให้กับประชาชนในราคาสามสิบห้าอีแปะ ทำให้เราได้กำไรยี่สิบเอ็ดอีแปะต่อจิน!”“คนที่เขียนประกาศนี้ ต้องเป็นเด็กสกุลหวังที่สร้างปัญหาอยู่เบื้องหลังแน่ขอรับ!”หยางซั่วกัดฟัน “แม้ว่าตระกูลหยางจะได้ยี่สิบเอ็ดอีแปะต่อจิน แล้วเขาจะทำอะไรได้ เขาคิดว่าการจุดเชื้อไฟเช่นนี้ จะสามารถสั่นคลอนตำแหน่งของตระกูลหยางได้หรือ!”นอกจากการซื้อดอกเกลือ เกลือ และใบอนุญาตค้าเกลือแล้ว ตระกูลหยางยังต้องจัดการเรื่องผู้จัดจำหน่าย ที่จะแบ่งกำไรอีกส่วนหนึ่งด้วย พวกเขาไม่อาจหากำไรยี่สิบเอ็ดอีแปะต่อจินได้ ได้เพียงสิบอีแปะเท่านั้นแต่แม้ว่าตระกูลหยางจะได้รับยี่สิบเอ็ดอีแปะต่อจิน แล้วเจ้าเด็กสกุลหวังจะทำอะไรได้!คนรับใช้กล่าวด้วยความกังวล “ในประกาศยังบอกด้วยว่าเมืองจิ่วซานขายเกลือได้สามสิบล้านจินต่อปี หากมีรายได้ยี่สิบเอ็ดอีแปะต่อจิน แสดงว่าตระกูลหยางทำรายได้ประมาณหกแสนสามหมื่นต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 232

    มีขอทานมากมายในเมือง!เมื่อได้ยินว่าคนตระกูลหยางสามารถชำระหนี้ของบรรพบุรุษได้ด้วยเงินเพียงสิบตำลึง ใครจะไม่อยากมาลอง!ตอนนี้เขาเสียใจแล้ว เขาไม่ควรทำให้เด็กที่สกุลหวังลำบาก เพื่อเห็นแก่ตระกูลหลิว“นายน้อยสาม!”คนรับใช้ตะโกนด้วยความกังวล “มาเร็วเข้า นายน้อยสามโกรธมากจนกระอักเลือด รีบตามหมอมาเร็วเข้า!”ก่อนที่คนในคฤหาสน์สกุลหยางจะทันได้ออกไป ก็มีขอทานกลุ่มหนึ่งมาขวางประตูไว้“คนในตระกูลของข้ามียี่สิบคน เป็นเวลาหนึ่งร้อยปีก็สองร้อยตำลึง ข้าไม่ต้องการหนึ่งร้อยตำลึงจากตระกูลหยาง จะลดให้แปดสิบตำลึงจากหนึ่งร้อย แค่จ่ายมายี่สิบตำลึงก็พอ!”“คนในตระกูลของข้ามีสามสิบคน... ขอแค่สามสิบตำลึง!”“ตระกูลหยางให้ข้าสิบตำลึง แล้วข้าจะออกไป ไม่เช่นนั้นเราจะเฝ้าอยู่ตรงนี้ ไม่จากไปไหน!”...“เจ้าสารเลว!”ณ จวนวัง วังไห่เทียนถือใบประกาศขนาดใหญ่ แล้วชี้ไปที่หน้าผากของหลานชายก่อนพูดว่า “ข้าบอกให้เจ้าไปช่วยพี่ชายหมิงถันที่นั่น แต่ข้าไม่ได้บอกให้เจ้าช่วยเขาหาปรมาจารย์แกะสลัก ใบประกาศขนาดใหญ่ติดไปทั่วเมืองแล้ว นี่คือสิ่งที่จะทำให้ตระกูลหยางล่มจม หากตระกูลหยางรู้เข้า พวกเขาจะปล่อยเจ้าไปหรือไม่!”“ข้าไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 233

    ประกาศแบ่งออกเป็นสามส่วน!“พ่อค้าเอาเปรียบ นักปราชญ์จัดประเภท 'บัณฑิตชนชั้นนำ กสิกร กรรมกร และพ่อค้าวาณิชย์' และพ่อค้าก็จัดอยู่ในกลุ่มที่ต่ำที่สุด ทั้งหมดเป็นเพราะพ่อค้าไม่ยุติธรรม และละโมบโลภมาก เห็นแก่ผลกำไร เฟ่ยชางเป็นดินแดนที่ผลิตเกลือ อยู่ห่างจากเมืองจิ่วซานไปสามสิบลี้ แต่ผู้คนในเมืองซื้อเกลือสามสิบห้าอีแปะต่อหนึ่งจิน จ้าวหู้ขายสี่อีแปะ ใบอนุญาตค้าเกลือของราชสำนักมีราคาห้าอีแปะ ใบเสนอราคาค้าเกลือของฝ่ายราชการมีราคาห้าอีแปะ และที่เหลืออีกยี่สิบเอ็ดอีแปะตกเป็นของตระกูลหยาง…”“เฟ่ยชางผลิตเกลือได้สามสิบล้านจินต่อปี ด้วยราคายี่สิบเอ็ดอีแปะต่อจิน ตระกูลหยางสามารถหารายได้ได้หกแสนสามหมื่นตำลึงต่อปี ตระกูลหยางควบคุมธุรกิจค้าเกลือมาเป็นเวลาร้อยปี คิดเป็นเงินหกสิบสามล้านตำลึง... หากราชสำนักหรือฝ่ายราชการประสบปัญหาทางการเงิน ก็ควรยึดทรัพย์สมบัติที่คนไร้ความปรานี ปล้นมาจากประชาชนไปใช้เพื่อประชาชน!”“ตระกูลหยางทำธุรกิจนี้มาหลายชั่วอายุคน แต่ละตระกูลต้องได้รับเงินอย่างน้อยหนึ่งร้อยตำลึง คนที่รวยและใจกว้างจึงไม่จำเป็นต้องสนใจ ส่วนคนยากจนก็สามารถไปขอได้... หนึ่งคนไม่เท่าสิบคน สิบคนไม่เท่าร้อยคน

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status