"ระวัง!"หวังหยวนดึงหูเมิ่งอิ๋งเข้าไปในรถม้าหยิบ หน้าไม้ขงเบ้งออกมาและยืนขวางหน้านางด้วยสีหน้าเคร่งขรึม!แววตาของหูเมิ่งอิ๋งตื่นตระหนก!อึ้งงงเป็นไก่ตาแตกข้างนอกรถม้า!ชายสวมหน้ากากสิบเอ็ดคนพุ่งออกไป ทุกคนล้วนแข็งแกร่งและทรงพลัง!“รถคันข้างหน้าไม่ต้องสน ฆ่าผู้ชายที่อยู่รถคันหลังซะ!”ผู้นำชายสวมหน้ากากตะโกน ชี้ไปที่ต้าหู่และเอ้อหู่ มองไปทางชายสวมหน้ากากที่มีสายตาไร้อารมณ์ "เจ้าไปหยุดสองคนนี้ซะ ที่เหลือไม่ต้องสน!"ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ เขาสามารถบอกได้ทันทีว่าต้าหู่และเอ้อหู่นั้นอันตรายสำหรับกัวเหลียงและกัวเฉียง ฝีมือพอ ๆ กับพวกเขา ไม่คุ้มค่าที่จะจริงจังด้วยชายสวมหน้ากากที่มีสายตาเย็นชาพูดเสียงดัง "เด็กสองคนนั้นไม่ธรรมดาเลย ถ้าข้าไม่ใช้กำลังทั้งหมดเกรงว่าคงหยุดพวกเขาไว้ไม่ได้ ถ้าข้าใช้กำลังเต็มที่จนบาดเจ็บ หรือฆ่าพวกมันแบบไม่ได้ตั้งใจ เจ้าต้องจ่ายเพิ่มให้ข้า!""ได้!"ผู้นำชายสวมหน้ากากกัดฟันข้าไม่กลัวเขาลงมือทำร้ายหรือฆ่าใคร ที่ผ่านมามีการต่อสู้ประมือกันมากมาย แต่ข้าไม่เคยเห็นไอ้สารเลวนี้ทำร้าย หรือฆ่าใครมาก่อนเลย!ฟิ้ว!ชายวัยกลางคนที่มีสายตาเย็นชาพุ่งออกมาราวกับลูกธนูที่ถ
“อย่าเพิ่งใช้หน้าไม้!”ในรถม้า แววตาของหวังหยวนเย็นชาและจริงจัง "นี่ไม่ใช่การก่อกวน พวกเขามาที่นี่เพื่อฆ่าพวกเรา ต้าหู่คิดว่าจะเจ้าจับหัวหน้ามันมาแบบเป็น ๆ ได้ไหม"หากใช้หน้าไม้ ฆ่าพวกมันให้หมด สุดท้ายคงต้องปลอมตัวเพื่อตามสืบเบาะแสพวกมันในภายหลัง!หากเจ้าจับหัวหน้าได้ ก็สามารถติดตามเบาะแสค้นหาได้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง!ต้าหู่ยกดาบแล้วลงจากหลังม้า"พวกเขาล้วนเป็นผู้มีวรยุทธ์เก่งไม่น้อยไปกว่ากัวเหลียงและกัวเฉียงเลย แต่ข้าจะลองดูก่อน ปกป้องพี่หยวนและคุณชายวัง!"คนกลุ่มหนึ่งล้อมขวางรถม้าของหวังหยวนและวังฉงโหลวไว้!“เด็กคนนี้มันบ้าไปแล้ว อันที่จริง เขาอยากจะมาสู้กับพวกเราสิบคนจริง ๆ เขาแค่มารนหาที่ตาย!”หัวหน้าชายสวมหน้ากากหัวเราะเยาะ โบกมือ ทั้งสี่คนถือดาบรีบเข้ามาล้อมขนาบเขาทั้งสองด้าน!ตึง!กึก เคร้ง!ต้าหู่ฟันดาบลงไป ชายสวมหน้ากากที่อยู่ด้านหน้าก็ยกดาบสกัดดาบไว้ ดาบนั้นถูกดาบยาวตัดฝ่ากลางเข้าให้ทะลุหัวเขาแยกออกเป็นสองซีก!"อ๊าก!"เมื่อเห็นว่าดาบยาวแข็งแกร่งแค่ไหน ชายสวมหน้ากากทั้งสามก็ตกใจหันหลังวิ่งหนีไป!ตู้ม! ตู้ม!ต้าหู่ไล่ตามไปแทงตายไปอีกสองคน ที่เหลือก็วิ่งหนีไป!ชายสว
“พี่หานซานบอกข้าก่อนหน้านี้ว่าเขามีลูกชายสองคน ลูกชายคนโตหนักแน่นมั่นคง ลูกชายคนเล็กบุ่มบ่ามมุทะลุ ถ้าอย่างนั้นเจ้าคือต้าหู่ และเจ้าก็คือเอ้อหู่!”ชายวัยกลางคนที่มีแววตาเย็นชานั้นก็ลุกขึ้นชี้ไปที่ต้าหู่และเอ้อหู่ จากนั้นชี้ไปที่หวังหยวนแล้วพูดว่า "เขาเป็นใคร!"หวังหยวนมองชายวัยกลางคนขึ้น ๆ ลง ๆ "ข้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของพวกเขา ท่านคือนักรบกองทัพเกราะทมิฬ?"กองทัพชุดเกราะทมิฬ เจ้าของร่างเดิมเคยได้เรียนมาก่อน และได้รับการกล่าวขายหลายครั้งว่าเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในต้าเย่จากนั้นถึงได้รู้ว่าหวังหานซานและเฮยซินหู่ทั้งคู่มาจากกองทัพเกราะทมิฬ!ไม่นานมานี้ ในจวนตระกูลวัง วังไห่เทียนเมาเหล้าพูดออกมาเขาบอกว่ากองทัพเกราะทมิฬที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นได้ถูกทำลายลงไปแล้ว และเขาบอกว่าไม่อยากให้เขาเป็นอู๋มู่คนที่สอง!ชายวัยกลางคนเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "ข้าคือองค์รักษ์ส่วนตัวคนที่เก้าของท่านแม่ทัพมู่!"เอ้อหู่อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ท่านแม่ทัพมู่คือใคร?”เขาถามถึงกองทัพเกราะทมิฬ และท่านแม่ทัพมู่หลายครั้ง แต่พ่อของเขาปฏิเสธที่จะบอก และตีเขาเพื่อไม่ให้เขาถามอีก!“ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่จะไม่ได้บอ
เอ้อหูลูบหัวตัวเองอย่างเขินอาย "อาสิบสาม ก็เมื่อครู่ข้าไม่รู้จักท่านหนิขอรับ?""เอาเถอะ!"ชายวัยกลางคนโบกมือแล้วหันกลับมา "กลับไปบอกพ่อของเจ้าว่าแม่ทัพหนุ่มยังมีชีวิตอยู่ และได้รับการช่วยเหลือแล้ว เขาอยู่ในจิ่วซานด้วย หากเขาอยากเจอแม่ทัพหนุ่ม ให้ไปทางซีเฉิง ถนนทางตอนใต้ของอู๋เป่ยที่บ้านหลังที่สาม”เอ้อหูสับสน "อาสิบสาม แม่ทัพหนุ่มคือใคร!"ชายวัยกลางคนวิ่งเข้าไปในป่า และมีเสียงดังกลับมา "พ่อเจ้ารู้จัก!"เอ้อหูพูดอีกครั้ง "อาสิบสาม ข้ายังไม่รู้ชื่อท่านเลย!"“ติงซือซาน!”ร่างนั้นหายลับไปแล้ว และทั้งสามก็กลับมาที่ขบวนรถวังฉงโหลวมีสีหน้าเป็นกังวล "ลุงหยวน เราจะทำอย่างไรต่อไปดี? หากให้ทางการไปที่ไปจวนผู้ว่า หาอาจารย์น้อง อย่างมากก็ฆ่าคนแซ่หลิวให้ตาย คงสาวไปถึงตระกูลหยางที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ยาก! ส่วนตัวตระกูลหยางนั้นทำให้ชดใช้เงินให้มากที่สุด ใช้เงินโสโครกนั้นซะ!"ท่าทางของหวังหยวนเย็นชาและเข้มงวด "ในเมื่อรู้สึกไม่สบายใจ ทำไมไม่ระบายมันออกไปก็จบแล้ว!"“จะระบายออกไปอย่างไร?”ดวงตาของวังฉงโหลวเป็นประกาย "ลุงหยวน ท่านมีความคิดอะไรบ้างไหม?"หวังหยวนโบกมือ "ครึ่งหนึ่งกลับไปที่เฟยชางพ
หลิวจื้อผิง ยิ้มอย่างขอโทษ "ทั้งหมดล้วนเป็นนายน้อยสามที่ส่งเสริม!"พวกเขาทั้งสองหัวเราะอย่างมีชัย!“แย่แล้ว นายน้อยสาม!”สีหน้าซีดเผือดของคนรับใช้ที่เข้ามา "ผู้ตรวจการมาที่นี่บอกว่าผู้จัดการหลิวจากเมืองฝูเป็นผู้จ้างวานฆ่า มือสังหารสิบคนจากสิบสองคนถูกฆ่าตาย หนึ่งคนถูกจับและอีกหนึ่งคนหลบหนีไปแล้ว คนที่ถูกจับได้เป็นหัวหน้า ได้ให้การว่าไปพบผู้บงการเป็นการส่วนตัว ตอนนี้ทั้งพยานและหลักฐานล้วนครบถ้วนแล้ว จึงต้องการจับกุมผู้จัดการหลิว และนำตัวเขาเข้าสู่กระบวนการของศาล นอกจากนี้ยังให้นายน้อยสามไปขึ้นศาลกับเขาด้วย เขาบอกว่านายน้อยสามอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังผู้บงการการลอบสังหารครั้งนี้ และกำลังบุกเข้ามาขอรับ!”กึก เพล้งร่างอ้วนท้วนของหยางซั่วสั่นเทิ้ม ถ้วยกระเบื้องชั้นเลิศก็ตกลงมาแตกเป็นชิ้น ๆ!ฟุบตุ้บ!หลิวจื้อผิงหน้าซีดและทรุดตัวลงกับพื้น "เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ยังไง? ข้าตรวจสอบอย่างละเอียดดีแล้ว ในบรรดาชายหนุ่มทั้งสิบเอ็ดคนนั้น มีสี่คนเป็นผู้มีวรยุทธ์ พวกเขาจะจัดการกับผู้มีวรยุทธ์ทั้งสิบสองคน และกองทัพชุดเกราะทมิฬได้อย่างไร! เป็นไปไม่ได้ ไม่จริง!"ผั้วะ!หยางซั่วเตะเขาและด่าสาป "ไอคน
หยางซั่วตะโกน “จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก?”การลอบสังหารล้มเหลว จ้าวหู้กบฏ จะมีเรื่องอะไรใหญ่กว่านี้อีก!คนรับใช้กระซิบว่า “มีประกาศใหญ่ทั่วเมือง ว่าเราซื้อใบอนุญาตค้าเกลือห้าอีแปะ ดอกเกลือห้าอีแปะ เกลือราคาสี่อีแปะ รวมเป็นสิบสี่อีแปะ แล้วนำมาขายให้กับประชาชนในราคาสามสิบห้าอีแปะ ทำให้เราได้กำไรยี่สิบเอ็ดอีแปะต่อจิน!”“คนที่เขียนประกาศนี้ ต้องเป็นเด็กสกุลหวังที่สร้างปัญหาอยู่เบื้องหลังแน่ขอรับ!”หยางซั่วกัดฟัน “แม้ว่าตระกูลหยางจะได้ยี่สิบเอ็ดอีแปะต่อจิน แล้วเขาจะทำอะไรได้ เขาคิดว่าการจุดเชื้อไฟเช่นนี้ จะสามารถสั่นคลอนตำแหน่งของตระกูลหยางได้หรือ!”นอกจากการซื้อดอกเกลือ เกลือ และใบอนุญาตค้าเกลือแล้ว ตระกูลหยางยังต้องจัดการเรื่องผู้จัดจำหน่าย ที่จะแบ่งกำไรอีกส่วนหนึ่งด้วย พวกเขาไม่อาจหากำไรยี่สิบเอ็ดอีแปะต่อจินได้ ได้เพียงสิบอีแปะเท่านั้นแต่แม้ว่าตระกูลหยางจะได้รับยี่สิบเอ็ดอีแปะต่อจิน แล้วเจ้าเด็กสกุลหวังจะทำอะไรได้!คนรับใช้กล่าวด้วยความกังวล “ในประกาศยังบอกด้วยว่าเมืองจิ่วซานขายเกลือได้สามสิบล้านจินต่อปี หากมีรายได้ยี่สิบเอ็ดอีแปะต่อจิน แสดงว่าตระกูลหยางทำรายได้ประมาณหกแสนสามหมื่นต
มีขอทานมากมายในเมือง!เมื่อได้ยินว่าคนตระกูลหยางสามารถชำระหนี้ของบรรพบุรุษได้ด้วยเงินเพียงสิบตำลึง ใครจะไม่อยากมาลอง!ตอนนี้เขาเสียใจแล้ว เขาไม่ควรทำให้เด็กที่สกุลหวังลำบาก เพื่อเห็นแก่ตระกูลหลิว“นายน้อยสาม!”คนรับใช้ตะโกนด้วยความกังวล “มาเร็วเข้า นายน้อยสามโกรธมากจนกระอักเลือด รีบตามหมอมาเร็วเข้า!”ก่อนที่คนในคฤหาสน์สกุลหยางจะทันได้ออกไป ก็มีขอทานกลุ่มหนึ่งมาขวางประตูไว้“คนในตระกูลของข้ามียี่สิบคน เป็นเวลาหนึ่งร้อยปีก็สองร้อยตำลึง ข้าไม่ต้องการหนึ่งร้อยตำลึงจากตระกูลหยาง จะลดให้แปดสิบตำลึงจากหนึ่งร้อย แค่จ่ายมายี่สิบตำลึงก็พอ!”“คนในตระกูลของข้ามีสามสิบคน... ขอแค่สามสิบตำลึง!”“ตระกูลหยางให้ข้าสิบตำลึง แล้วข้าจะออกไป ไม่เช่นนั้นเราจะเฝ้าอยู่ตรงนี้ ไม่จากไปไหน!”...“เจ้าสารเลว!”ณ จวนวัง วังไห่เทียนถือใบประกาศขนาดใหญ่ แล้วชี้ไปที่หน้าผากของหลานชายก่อนพูดว่า “ข้าบอกให้เจ้าไปช่วยพี่ชายหมิงถันที่นั่น แต่ข้าไม่ได้บอกให้เจ้าช่วยเขาหาปรมาจารย์แกะสลัก ใบประกาศขนาดใหญ่ติดไปทั่วเมืองแล้ว นี่คือสิ่งที่จะทำให้ตระกูลหยางล่มจม หากตระกูลหยางรู้เข้า พวกเขาจะปล่อยเจ้าไปหรือไม่!”“ข้าไม่
ประกาศแบ่งออกเป็นสามส่วน!“พ่อค้าเอาเปรียบ นักปราชญ์จัดประเภท 'บัณฑิตชนชั้นนำ กสิกร กรรมกร และพ่อค้าวาณิชย์' และพ่อค้าก็จัดอยู่ในกลุ่มที่ต่ำที่สุด ทั้งหมดเป็นเพราะพ่อค้าไม่ยุติธรรม และละโมบโลภมาก เห็นแก่ผลกำไร เฟ่ยชางเป็นดินแดนที่ผลิตเกลือ อยู่ห่างจากเมืองจิ่วซานไปสามสิบลี้ แต่ผู้คนในเมืองซื้อเกลือสามสิบห้าอีแปะต่อหนึ่งจิน จ้าวหู้ขายสี่อีแปะ ใบอนุญาตค้าเกลือของราชสำนักมีราคาห้าอีแปะ ใบเสนอราคาค้าเกลือของฝ่ายราชการมีราคาห้าอีแปะ และที่เหลืออีกยี่สิบเอ็ดอีแปะตกเป็นของตระกูลหยาง…”“เฟ่ยชางผลิตเกลือได้สามสิบล้านจินต่อปี ด้วยราคายี่สิบเอ็ดอีแปะต่อจิน ตระกูลหยางสามารถหารายได้ได้หกแสนสามหมื่นตำลึงต่อปี ตระกูลหยางควบคุมธุรกิจค้าเกลือมาเป็นเวลาร้อยปี คิดเป็นเงินหกสิบสามล้านตำลึง... หากราชสำนักหรือฝ่ายราชการประสบปัญหาทางการเงิน ก็ควรยึดทรัพย์สมบัติที่คนไร้ความปรานี ปล้นมาจากประชาชนไปใช้เพื่อประชาชน!”“ตระกูลหยางทำธุรกิจนี้มาหลายชั่วอายุคน แต่ละตระกูลต้องได้รับเงินอย่างน้อยหนึ่งร้อยตำลึง คนที่รวยและใจกว้างจึงไม่จำเป็นต้องสนใจ ส่วนคนยากจนก็สามารถไปขอได้... หนึ่งคนไม่เท่าสิบคน สิบคนไม่เท่าร้อยคน