“โง่เขลา! เจ้ายังมีหน้ามาบอกว่าทำเพื่อข้าอีกหรือ?”“เจ้ารู้หรือไม่ว่าการกระทำของพวกเจ้าได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับข้า มันอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองอาณาจักรด้วยซ้ำ?”หานเทามีสีหน้าบึ้งตึง ดุด่าบุรุษตรงหน้าอย่างต่อเนื่องเดิมทีเขาวางแผนทุกวิถีทางเพื่อเปิดศึกกับหวังหยวน แต่ยามนี้กลับเปลี่ยนความคิดแล้วไม่ใช่เพราะว่าราชวงศ์ต้าเป่ยไม่อาจต่อกรกับหวังหยวนได้ แต่เป็นเพราะการก่อสร้างเส้นทางน้ำ ทำให้หานเทาและคนอื่น ๆ ได้ประจักษ์ถึงประโยชน์ของเส้นทางน้ำนี้ จึงไม่อยากเปิดศึกในยามนี้พัฒนาบ้านเมืองไปเงียบ ๆ ก่อนจะดีกว่า แล้วภายภาคหน้าย่อมต้องเหนือกว่าหวังหยวนอย่างแน่นอน!เพราะว่าดินแดนของต้าเป่ยนั้นกว้างใหญ่กว่าดินแดนของหวังหยวนมากนัก หากพัฒนาอย่างสงบสุข ผู้ที่เสียเปรียบย่อมต้องเป็นหวังหยวน!อีกประการหนึ่ง ยามนี้หวังหยวนก็ยังร่วมมือกับไป๋อวิ๋นเฟยด้วยหากเปิดศึกอย่างผลีผลาม ย่อมจะถูกทั้งสองอาณาจักรรุมโจมตี ผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมเลวร้าย เกรงว่าจะเกิดปัญหาใหญ่!“จริงสิ หวังหยวนไม่ได้ล่วงรู้ถึงตัวตนของพวกเจ้าใช่หรือไม่?”หานเทาเปลี่ยนท่าทีในฉับพลัน เขาเอ่ยถามขึ้น“ข้ายืนยันได้ว่าไม่มีทา
“หวังหยวน ระหว่างเจ้ากับข้ายังมีความอาฆาตแค้นที่ต้องสะสาง ภายภาคหน้าข้าจะต้องคิดบัญชีกับเจ้าให้สิ้นซาก เจ้าจงรอก่อนเถิด!”...อีกด้านหนึ่ง ภายในป่าลึกหวังหยวนและพรรคพวกกำลังเร่งรุดเดินทางผ่านป่าภายในรถม้า หวังหยวนโอบกอดหลิ่วหรูเยียนไว้ตลอดเวลา เพราะว่ารถม้านั้นสั่นสะเทือนยิ่งนัก เพื่อรักษาความเร็ว จึงไม่อาจสั่งให้คนด้านนอกชะลอความเร็วลงได้ ยามนี้สิ่งที่ทำได้ก็คือโอบกอดหลิ่วหรูเยียนไว้ให้มั่น เพื่อให้นางรู้สึกดีขึ้นบ้าง“พี่ใหญ่! พี่สะใภ้เป็นคนดี สวรรค์ย่อมคุ้มครอง คาดว่าอีกไม่นานจะต้องหายดีแน่นอน ท่านอย่าได้กังวลไปเลยขอรับ”ไฉจวิ้นที่นั่งอยู่ด้านข้างปลอบโยนหวังหยวนตลอดการเดินทางนี้ ผ่านไปหลายชั่วยามแล้ว หวังหยวนไม่ได้แตะต้องน้ำแม้สักหยด อีกทั้งยังไม่ได้กินสิ่งใดเลยยิ่งไปกว่านั้น ทั้งคืนก็ไม่ได้หลับใหลแม้แต่น้อย สภาพของเขาจึงดูอิดโรยยิ่งนักแม้ว่าทั้งสองจะเป็นพี่น้องร่วมสาบาน แต่ไฉจวิ้นก็ยังคงรู้สึกเป็นห่วงยิ่งนักหวังหยวนถอนหายใจ กล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะข้า หากไม่ใช่เพราะหรูเยียนยืนกรานที่จะอยู่กับข้า เรื่องราวมากมายเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?”
“ส่วนท่าน ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ท่านคงยังไม่ได้นอนเลยใช่หรือไม่?”“ดูสีหน้าของท่านสิว่าซีดเซียวเพียงใด?”“เชื่อข้าเถิด รีบไปนอนพักสักครู่ ให้ไฉจวิ้นดูแลข้าไปพลางก่อน”“เมื่อท่านตื่นแล้วค่อยสลับเปลี่ยนกับไฉจวิ้น เช่นนี้ไม่ดีกว่าหรือ?”หลิ่วหรูเยียนเอ่ยเสียงแผ่วเบา น้ำเสียงอ่อนแรงยิ่งนักหวังหยวนส่ายหน้า ฝืนยิ้มขมขื่น “เจ้าเป็นเช่นนี้ คิดว่าข้าจะนอนหลับลงหรือ?”“ตอนนี้ข้าเพียงต้องการให้เจ้าหายดีโดยเร็ว ส่วนเรื่องอื่น ข้าไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น...”หวังหยวนเอ่ยความในใจออกมา เขาไม่เพียงปฏิบัติต่อหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ แต่กับภรรยาคนอื่น ๆ รอบกาย เขาก็ปฏิบัติเช่นเดียวกันไม่เช่นนั้นในครอบครัวจะมีหญิงงามมากมายเพียงนี้ได้อย่างไร?“ท่านนี่...”หลิ่วหรูเยียนส่ายหน้าอย่างจนใจ จากนั้นเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนั้นข้าจะพักผ่อนอีกสักครู่ ข้ารู้สึกเหนื่อยล้าจริง ๆ”“ดี!”หวังหยวนรีบตอบรับ พลางโอบกอดหลิ่วหรูเยียนอีกครั้ง เขามองสตรีในอ้อมแขนด้วยความเจ็บปวดส่วนไฉจวิ้นที่อยู่ด้านข้างพลันรู้สึกไม่สบายใจ“หากเจ้าเหนื่อยก็พักผ่อนเถิด พี่สะใภ้ก็บอกแล้วว่านางไม่เป็นอะไร อีกทั้งยังมีข้าคอยดูแลนาง
“ในที่สุดพวกท่านก็มาถึง!”แม้ว่าหวังหยวนจะยังไม่เห็นตัวผู้พูด แต่เพียงแค่ได้ยินเสียง เขาก็จำได้ทันทีว่าเจ้าของเสียงนี้เป็นผู้ใดจะเป็นใครไปได้อีก ถ้าไม่ใช่ไท่สื่อลี่?สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปที่ไท่สื่อลี่ จากนั้นรีบลงจากรถม้า แล้วกล่าวว่า “ท่านไท่สื่อ ยามนี้ไม่ใช่เวลามาย้อนความหลังกัน ได้ยินว่าท่านหาหมอเทวดาพบแล้ว เช่นนั้นพวกเรารีบไปที่เผ่ากันเลยดีหรือไม่?”“ดีขอรับ ดีขอรับ!”“ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ท่านหวังตามข้ามาก็พอ!”ในไม่ช้าคณะเดินทางก็ออกเดินทางอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังทิศทางของเผ่าอย่างโอ่อ่าในช่วงเวลาที่หวังหยวนกลับไปยังต้าเย่ ไท่สื่อลี่ใช้ความสามารถอันล้ำเลิศของตน ประกอบกับความช่วยเหลือจากหวังหยวนเข้าควบคุมชนเผ่าอื่นได้สำเร็จ!ยามนี้เผ่าทางเหนือทั้งหมดตกอยู่ในมือของเขา และเขาก็กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนเหนือ!ทว่าทั้งหมดนี้ล้วนต้องขอบคุณหวังหยวนอีกทั้งเขารู้ดีแก่ใจว่าหากเป็นศัตรูกับหวังหยวน รากฐานที่ตนอุตส่าห์สร้างขึ้นมาก็จะพังทลายลงในชั่วพริบตาในคืนนั้น เมื่อพลบค่ำมาเยือน ขบวนรถม้าก็เดินทางมาถึงเผ่าเมื่อมองออกไปจะเห็นคนในเผ่ายืนรออยู่สองข้างทาง ทุกคนล้วนรอคอยก
“ข้าน้อยอันจูหมิง คำนับท่านหวัง!”ชายชราผู้มีผมขาวแต่ใบหน้าเยาว์วัยเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหวังหยวน แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ท่านอย่าได้เกรงใจ รีบมาดูอาการภรรยาของข้าก่อนเถิด!”“แม้แต่หมอหลวงแห่งราชวงศ์ต้าเย่ยังจนปัญญา ข้าต้องขอฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ท่านแล้ว”ขณะที่พูด เกาเล่อและไฉจวิ้นก็อุ้มร่างของหลิ่วหรูเยียนออกมาเมื่อมองดูแล้ว สภาพของหลิ่วหรูเยียนยิ่งแย่ลง ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด ร่างกายซูบผอมอย่างเห็นได้ชัดแม้ว่าหวังหยวนจะเจ็บปวดใจยิ่งนัก แต่ก็ไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงรอคอยการวินิจฉัยของอันจูหมิงในไม่ช้า หวังหยวนและคนอื่น ๆ ต่างช่วยกันนำร่างของหลิ่วหรูเยียนเข้าไปในห้อง ภายในห้องเหลือเพียงหวังหยวนและอันจูหมิงส่วนคนอื่นรอคอยอยู่ด้านนอกอย่างอดทนเวลาผ่านไปเท่ากับหนึ่งก้านธูปไหม้หมด อันจูหมิงยังคงจับชีพจรของหลิ่วหรูเยียน สีหน้าแปรเปลี่ยนไปมายากจะคาดเดาความคิดในใจเขาหวังหยวนรู้สึกกดดันยิ่งนัก แต่ก็ไม่กล้าเร่งเร้าอันจูหมิง ทำได้เพียงกำหมัดแน่น รอคอยผลลัพธ์อย่างอดทนความหวังสุดท้ายอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่หากแม้แต่อันจูหมิงก็จนปัญญา เช่นนั้นจะทำเช่นไร?หรือว่า...เขาจะต้องพลัดพรากจ
หวังหยวนไม่เอ่ยคำใด ดวงตาจับจ้องไปที่อันจูหมิง รอคอยคำพูดต่อไป อันจูหมิงเอ่ยต่อว่า “เกรงว่าภายภาคหน้า ฮูหยินของท่านจะไม่อาจมีบุตรได้อีก”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้าพลางยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ข้านึกว่าเรื่องใหญ่อะไร ที่แท้ก็เพียงแค่ไม่อาจมีบุตรได้!”“เรื่องนี้ สำหรับข้าแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร!”“เพียงแค่ให้หรูเยียนหายดีก็เพียงพอแล้ว!”“ในสายตาของข้า สตรีไม่ใช่เครื่องมือในการสืบสกุล แต่เป็นคู่ชีวิตที่จะอยู่เคียงข้างกันไปจนแก่เฒ่า!”อันจูหมิงอดไม่ได้ที่จะมองหน้าหวังหยวนรักษาผู้คนมาครึ่งชีวิต เขาได้พบเจอโรคภัยไข้เจ็บอันแปลกประหลาดมากมาย อีกทั้งยังได้พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตาคนที่มีจิตใจเป็นอิสระและง่ายดายอย่างหวังหยวนนั้น ช่างหาได้ยากยิ่ง!ในโลกนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนมากมายเพียงใดที่เมื่อรู้ว่าภรรยาของตนไม่อาจตั้งครรภ์ได้ ก็จะเปลี่ยนท่าทีไปในทันที แม้กระทั่งขับไล่ภรรยาออกจากบ้าน แต่ฐานะของหวังหยวนก็สูงส่ง กลับไม่ถือสาเรื่องเล็กน้อย ทั้งยังเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาได้ ช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก!อันจูหมิงกล่าวต่อว่า “ในเมื่อท่านหวังเอ่ยเช่นนี้ ข้าก็ไม่ต้องกังวลแล้ว ข้าจะฝังเข็ม
ไท่สื่อลี่ก็เอ่ยเสริมขึ้นบ้าง “ถูกต้อง ถูกต้อง ท่านเกาไม่ต้องเป็นกังวล ข้าเห็นท่านเองก็เหนื่อยล้าไม่น้อย รีบกลับไปพักผ่อนเถิด”“ส่วนท่านหวัง ให้ข้าดูแลเองเถิด”พวกเขาทั้งสองล้วนรู้ดีแก่ใจ เกาเล่อเพียงแค่ไม่วางใจเท่านั้นเพิ่งจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น ซ้ำร้ายหลิ่วหรูเยียนยังบาดเจ็บสาหัส เขาเป็นมือขวาของหวังหยวน ย่อมต้องรู้สึกว่าตนมีความผิดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง“ช่างเถิด หากข้ากลับไปตอนนี้ก็เกรงว่าจะพักผ่อนไม่เต็มที่”“รอฮูหยินหายดีแล้ว ข้าค่อยพักผ่อนให้เต็มที่”เกาเล่อยิ้มพลางโบกมือหวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ มีพี่น้องเช่นนี้อยู่เคียงข้างจะต้องการสิ่งใดอีกเล่า?เขาไม่ได้บังคับเกาเล่ออีกแต่ไม่ได้หมายความว่าไฉจวิ้นไม่ดี เพียงแต่จิตใจของไฉจวิ้นไม่ละเอียดอ่อนเท่าเกาเล่อ จึงไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้เพียงชั่วครู่ ทั้งสามก็มุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่งในอีกหลายชั่วยามต่อมา อันจูหมิงและหลิ่วหรูเยียนก็ยังคงอยู่ในห้องเห็นได้ชัดว่าอันจูหมิงเหนื่อยล้าไม่น้อย เพราะการฝังเข็มต้องใช้ความพยายามไม่น้อยเช่นกันหวังหยวนและคนอื่น ๆ ได้เตรียมตัวยาสมุนไพรไว้พร้อมแล้ว ยามนี้การฝังเข็มได้เสร็จสิ้นลง ประ
“นี่คือคำสั่ง!”เกาเล่อถอนหายใจอย่างจนใจ ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อ แต่หันหลังเดินไปยังทิศทางหนึ่งในไม่ช้า หวังหยวนก็กลับเข้าไปในห้องทันทีที่เข้าประตูไป เขาเห็นหลิ่วหรูเยียนลืมตาตื่นและกำลังจะลุกขึ้นหวังหยวนรีบวิ่งไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วกล่าวว่า “ฝีมือของท่านหมอเทวดาอันช่างล้ำเลิศยิ่งนัก เพียงเวลาสั้น ๆ เจ้าก็ฟื้นคืนสติแล้วหรือ?”“อีกทั้งดูเหมือนว่า เจ้าจะดูมีเรี่ยวแรงขึ้นมาก”หลิ่วหรูเยียนรู้สึกว่าสภาพร่างกายของตนดีขึ้น แม้ว่าบริเวณหน้าท้องจะยังเจ็บอยู่บ้าง อีกทั้งร่างกายก็ยังอ่อนแรง แต่ก็ดีกว่าก่อนหน้านี้มากยามนี้ก็ไม่ต้องแสร้งทำเป็นว่าอาการดีขึ้น ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามธรรมชาติหวังหยวนประคองนางนั่งลงที่โต๊ะ จากนั้นนางก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของข้าแข็งแรง ท่านไม่เห็นสตรีด้านนอกเหล่านั้นหรือไร แต่ละคนล้วนดูอ่อนแอ จะนำมาเปรียบเทียบกับข้าได้อย่างไร?”“ร่างกายของข้าแข็งแรงดั่งวัว ประกอบกับฝีมืออันล้ำเลิศของท่านหมอเทวดาอัน การรักษาให้หายดีก็เป็นเพียงเรื่องของเวลา”“น่าเสียดาย ร่างกายอันงดงามของข้ากลับมีรอยแผลเป็น นี่ช่างดูไม่น่ามองเอาเสียเลย”“ไม่ได้! เมื่อข้าหาย
“นี่คือคำสั่ง!”เกาเล่อถอนหายใจอย่างจนใจ ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อ แต่หันหลังเดินไปยังทิศทางหนึ่งในไม่ช้า หวังหยวนก็กลับเข้าไปในห้องทันทีที่เข้าประตูไป เขาเห็นหลิ่วหรูเยียนลืมตาตื่นและกำลังจะลุกขึ้นหวังหยวนรีบวิ่งไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วกล่าวว่า “ฝีมือของท่านหมอเทวดาอันช่างล้ำเลิศยิ่งนัก เพียงเวลาสั้น ๆ เจ้าก็ฟื้นคืนสติแล้วหรือ?”“อีกทั้งดูเหมือนว่า เจ้าจะดูมีเรี่ยวแรงขึ้นมาก”หลิ่วหรูเยียนรู้สึกว่าสภาพร่างกายของตนดีขึ้น แม้ว่าบริเวณหน้าท้องจะยังเจ็บอยู่บ้าง อีกทั้งร่างกายก็ยังอ่อนแรง แต่ก็ดีกว่าก่อนหน้านี้มากยามนี้ก็ไม่ต้องแสร้งทำเป็นว่าอาการดีขึ้น ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามธรรมชาติหวังหยวนประคองนางนั่งลงที่โต๊ะ จากนั้นนางก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของข้าแข็งแรง ท่านไม่เห็นสตรีด้านนอกเหล่านั้นหรือไร แต่ละคนล้วนดูอ่อนแอ จะนำมาเปรียบเทียบกับข้าได้อย่างไร?”“ร่างกายของข้าแข็งแรงดั่งวัว ประกอบกับฝีมืออันล้ำเลิศของท่านหมอเทวดาอัน การรักษาให้หายดีก็เป็นเพียงเรื่องของเวลา”“น่าเสียดาย ร่างกายอันงดงามของข้ากลับมีรอยแผลเป็น นี่ช่างดูไม่น่ามองเอาเสียเลย”“ไม่ได้! เมื่อข้าหาย
ไท่สื่อลี่ก็เอ่ยเสริมขึ้นบ้าง “ถูกต้อง ถูกต้อง ท่านเกาไม่ต้องเป็นกังวล ข้าเห็นท่านเองก็เหนื่อยล้าไม่น้อย รีบกลับไปพักผ่อนเถิด”“ส่วนท่านหวัง ให้ข้าดูแลเองเถิด”พวกเขาทั้งสองล้วนรู้ดีแก่ใจ เกาเล่อเพียงแค่ไม่วางใจเท่านั้นเพิ่งจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น ซ้ำร้ายหลิ่วหรูเยียนยังบาดเจ็บสาหัส เขาเป็นมือขวาของหวังหยวน ย่อมต้องรู้สึกว่าตนมีความผิดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง“ช่างเถิด หากข้ากลับไปตอนนี้ก็เกรงว่าจะพักผ่อนไม่เต็มที่”“รอฮูหยินหายดีแล้ว ข้าค่อยพักผ่อนให้เต็มที่”เกาเล่อยิ้มพลางโบกมือหวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ มีพี่น้องเช่นนี้อยู่เคียงข้างจะต้องการสิ่งใดอีกเล่า?เขาไม่ได้บังคับเกาเล่ออีกแต่ไม่ได้หมายความว่าไฉจวิ้นไม่ดี เพียงแต่จิตใจของไฉจวิ้นไม่ละเอียดอ่อนเท่าเกาเล่อ จึงไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้เพียงชั่วครู่ ทั้งสามก็มุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่งในอีกหลายชั่วยามต่อมา อันจูหมิงและหลิ่วหรูเยียนก็ยังคงอยู่ในห้องเห็นได้ชัดว่าอันจูหมิงเหนื่อยล้าไม่น้อย เพราะการฝังเข็มต้องใช้ความพยายามไม่น้อยเช่นกันหวังหยวนและคนอื่น ๆ ได้เตรียมตัวยาสมุนไพรไว้พร้อมแล้ว ยามนี้การฝังเข็มได้เสร็จสิ้นลง ประ
หวังหยวนไม่เอ่ยคำใด ดวงตาจับจ้องไปที่อันจูหมิง รอคอยคำพูดต่อไป อันจูหมิงเอ่ยต่อว่า “เกรงว่าภายภาคหน้า ฮูหยินของท่านจะไม่อาจมีบุตรได้อีก”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้าพลางยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ข้านึกว่าเรื่องใหญ่อะไร ที่แท้ก็เพียงแค่ไม่อาจมีบุตรได้!”“เรื่องนี้ สำหรับข้าแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร!”“เพียงแค่ให้หรูเยียนหายดีก็เพียงพอแล้ว!”“ในสายตาของข้า สตรีไม่ใช่เครื่องมือในการสืบสกุล แต่เป็นคู่ชีวิตที่จะอยู่เคียงข้างกันไปจนแก่เฒ่า!”อันจูหมิงอดไม่ได้ที่จะมองหน้าหวังหยวนรักษาผู้คนมาครึ่งชีวิต เขาได้พบเจอโรคภัยไข้เจ็บอันแปลกประหลาดมากมาย อีกทั้งยังได้พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตาคนที่มีจิตใจเป็นอิสระและง่ายดายอย่างหวังหยวนนั้น ช่างหาได้ยากยิ่ง!ในโลกนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนมากมายเพียงใดที่เมื่อรู้ว่าภรรยาของตนไม่อาจตั้งครรภ์ได้ ก็จะเปลี่ยนท่าทีไปในทันที แม้กระทั่งขับไล่ภรรยาออกจากบ้าน แต่ฐานะของหวังหยวนก็สูงส่ง กลับไม่ถือสาเรื่องเล็กน้อย ทั้งยังเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาได้ ช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก!อันจูหมิงกล่าวต่อว่า “ในเมื่อท่านหวังเอ่ยเช่นนี้ ข้าก็ไม่ต้องกังวลแล้ว ข้าจะฝังเข็ม
“ข้าน้อยอันจูหมิง คำนับท่านหวัง!”ชายชราผู้มีผมขาวแต่ใบหน้าเยาว์วัยเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหวังหยวน แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ท่านอย่าได้เกรงใจ รีบมาดูอาการภรรยาของข้าก่อนเถิด!”“แม้แต่หมอหลวงแห่งราชวงศ์ต้าเย่ยังจนปัญญา ข้าต้องขอฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ท่านแล้ว”ขณะที่พูด เกาเล่อและไฉจวิ้นก็อุ้มร่างของหลิ่วหรูเยียนออกมาเมื่อมองดูแล้ว สภาพของหลิ่วหรูเยียนยิ่งแย่ลง ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด ร่างกายซูบผอมอย่างเห็นได้ชัดแม้ว่าหวังหยวนจะเจ็บปวดใจยิ่งนัก แต่ก็ไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงรอคอยการวินิจฉัยของอันจูหมิงในไม่ช้า หวังหยวนและคนอื่น ๆ ต่างช่วยกันนำร่างของหลิ่วหรูเยียนเข้าไปในห้อง ภายในห้องเหลือเพียงหวังหยวนและอันจูหมิงส่วนคนอื่นรอคอยอยู่ด้านนอกอย่างอดทนเวลาผ่านไปเท่ากับหนึ่งก้านธูปไหม้หมด อันจูหมิงยังคงจับชีพจรของหลิ่วหรูเยียน สีหน้าแปรเปลี่ยนไปมายากจะคาดเดาความคิดในใจเขาหวังหยวนรู้สึกกดดันยิ่งนัก แต่ก็ไม่กล้าเร่งเร้าอันจูหมิง ทำได้เพียงกำหมัดแน่น รอคอยผลลัพธ์อย่างอดทนความหวังสุดท้ายอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่หากแม้แต่อันจูหมิงก็จนปัญญา เช่นนั้นจะทำเช่นไร?หรือว่า...เขาจะต้องพลัดพรากจ
“ในที่สุดพวกท่านก็มาถึง!”แม้ว่าหวังหยวนจะยังไม่เห็นตัวผู้พูด แต่เพียงแค่ได้ยินเสียง เขาก็จำได้ทันทีว่าเจ้าของเสียงนี้เป็นผู้ใดจะเป็นใครไปได้อีก ถ้าไม่ใช่ไท่สื่อลี่?สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปที่ไท่สื่อลี่ จากนั้นรีบลงจากรถม้า แล้วกล่าวว่า “ท่านไท่สื่อ ยามนี้ไม่ใช่เวลามาย้อนความหลังกัน ได้ยินว่าท่านหาหมอเทวดาพบแล้ว เช่นนั้นพวกเรารีบไปที่เผ่ากันเลยดีหรือไม่?”“ดีขอรับ ดีขอรับ!”“ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ท่านหวังตามข้ามาก็พอ!”ในไม่ช้าคณะเดินทางก็ออกเดินทางอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังทิศทางของเผ่าอย่างโอ่อ่าในช่วงเวลาที่หวังหยวนกลับไปยังต้าเย่ ไท่สื่อลี่ใช้ความสามารถอันล้ำเลิศของตน ประกอบกับความช่วยเหลือจากหวังหยวนเข้าควบคุมชนเผ่าอื่นได้สำเร็จ!ยามนี้เผ่าทางเหนือทั้งหมดตกอยู่ในมือของเขา และเขาก็กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนเหนือ!ทว่าทั้งหมดนี้ล้วนต้องขอบคุณหวังหยวนอีกทั้งเขารู้ดีแก่ใจว่าหากเป็นศัตรูกับหวังหยวน รากฐานที่ตนอุตส่าห์สร้างขึ้นมาก็จะพังทลายลงในชั่วพริบตาในคืนนั้น เมื่อพลบค่ำมาเยือน ขบวนรถม้าก็เดินทางมาถึงเผ่าเมื่อมองออกไปจะเห็นคนในเผ่ายืนรออยู่สองข้างทาง ทุกคนล้วนรอคอยก
“ส่วนท่าน ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ท่านคงยังไม่ได้นอนเลยใช่หรือไม่?”“ดูสีหน้าของท่านสิว่าซีดเซียวเพียงใด?”“เชื่อข้าเถิด รีบไปนอนพักสักครู่ ให้ไฉจวิ้นดูแลข้าไปพลางก่อน”“เมื่อท่านตื่นแล้วค่อยสลับเปลี่ยนกับไฉจวิ้น เช่นนี้ไม่ดีกว่าหรือ?”หลิ่วหรูเยียนเอ่ยเสียงแผ่วเบา น้ำเสียงอ่อนแรงยิ่งนักหวังหยวนส่ายหน้า ฝืนยิ้มขมขื่น “เจ้าเป็นเช่นนี้ คิดว่าข้าจะนอนหลับลงหรือ?”“ตอนนี้ข้าเพียงต้องการให้เจ้าหายดีโดยเร็ว ส่วนเรื่องอื่น ข้าไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น...”หวังหยวนเอ่ยความในใจออกมา เขาไม่เพียงปฏิบัติต่อหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ แต่กับภรรยาคนอื่น ๆ รอบกาย เขาก็ปฏิบัติเช่นเดียวกันไม่เช่นนั้นในครอบครัวจะมีหญิงงามมากมายเพียงนี้ได้อย่างไร?“ท่านนี่...”หลิ่วหรูเยียนส่ายหน้าอย่างจนใจ จากนั้นเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนั้นข้าจะพักผ่อนอีกสักครู่ ข้ารู้สึกเหนื่อยล้าจริง ๆ”“ดี!”หวังหยวนรีบตอบรับ พลางโอบกอดหลิ่วหรูเยียนอีกครั้ง เขามองสตรีในอ้อมแขนด้วยความเจ็บปวดส่วนไฉจวิ้นที่อยู่ด้านข้างพลันรู้สึกไม่สบายใจ“หากเจ้าเหนื่อยก็พักผ่อนเถิด พี่สะใภ้ก็บอกแล้วว่านางไม่เป็นอะไร อีกทั้งยังมีข้าคอยดูแลนาง
“หวังหยวน ระหว่างเจ้ากับข้ายังมีความอาฆาตแค้นที่ต้องสะสาง ภายภาคหน้าข้าจะต้องคิดบัญชีกับเจ้าให้สิ้นซาก เจ้าจงรอก่อนเถิด!”...อีกด้านหนึ่ง ภายในป่าลึกหวังหยวนและพรรคพวกกำลังเร่งรุดเดินทางผ่านป่าภายในรถม้า หวังหยวนโอบกอดหลิ่วหรูเยียนไว้ตลอดเวลา เพราะว่ารถม้านั้นสั่นสะเทือนยิ่งนัก เพื่อรักษาความเร็ว จึงไม่อาจสั่งให้คนด้านนอกชะลอความเร็วลงได้ ยามนี้สิ่งที่ทำได้ก็คือโอบกอดหลิ่วหรูเยียนไว้ให้มั่น เพื่อให้นางรู้สึกดีขึ้นบ้าง“พี่ใหญ่! พี่สะใภ้เป็นคนดี สวรรค์ย่อมคุ้มครอง คาดว่าอีกไม่นานจะต้องหายดีแน่นอน ท่านอย่าได้กังวลไปเลยขอรับ”ไฉจวิ้นที่นั่งอยู่ด้านข้างปลอบโยนหวังหยวนตลอดการเดินทางนี้ ผ่านไปหลายชั่วยามแล้ว หวังหยวนไม่ได้แตะต้องน้ำแม้สักหยด อีกทั้งยังไม่ได้กินสิ่งใดเลยยิ่งไปกว่านั้น ทั้งคืนก็ไม่ได้หลับใหลแม้แต่น้อย สภาพของเขาจึงดูอิดโรยยิ่งนักแม้ว่าทั้งสองจะเป็นพี่น้องร่วมสาบาน แต่ไฉจวิ้นก็ยังคงรู้สึกเป็นห่วงยิ่งนักหวังหยวนถอนหายใจ กล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะข้า หากไม่ใช่เพราะหรูเยียนยืนกรานที่จะอยู่กับข้า เรื่องราวมากมายเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?”
“โง่เขลา! เจ้ายังมีหน้ามาบอกว่าทำเพื่อข้าอีกหรือ?”“เจ้ารู้หรือไม่ว่าการกระทำของพวกเจ้าได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับข้า มันอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองอาณาจักรด้วยซ้ำ?”หานเทามีสีหน้าบึ้งตึง ดุด่าบุรุษตรงหน้าอย่างต่อเนื่องเดิมทีเขาวางแผนทุกวิถีทางเพื่อเปิดศึกกับหวังหยวน แต่ยามนี้กลับเปลี่ยนความคิดแล้วไม่ใช่เพราะว่าราชวงศ์ต้าเป่ยไม่อาจต่อกรกับหวังหยวนได้ แต่เป็นเพราะการก่อสร้างเส้นทางน้ำ ทำให้หานเทาและคนอื่น ๆ ได้ประจักษ์ถึงประโยชน์ของเส้นทางน้ำนี้ จึงไม่อยากเปิดศึกในยามนี้พัฒนาบ้านเมืองไปเงียบ ๆ ก่อนจะดีกว่า แล้วภายภาคหน้าย่อมต้องเหนือกว่าหวังหยวนอย่างแน่นอน!เพราะว่าดินแดนของต้าเป่ยนั้นกว้างใหญ่กว่าดินแดนของหวังหยวนมากนัก หากพัฒนาอย่างสงบสุข ผู้ที่เสียเปรียบย่อมต้องเป็นหวังหยวน!อีกประการหนึ่ง ยามนี้หวังหยวนก็ยังร่วมมือกับไป๋อวิ๋นเฟยด้วยหากเปิดศึกอย่างผลีผลาม ย่อมจะถูกทั้งสองอาณาจักรรุมโจมตี ผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมเลวร้าย เกรงว่าจะเกิดปัญหาใหญ่!“จริงสิ หวังหยวนไม่ได้ล่วงรู้ถึงตัวตนของพวกเจ้าใช่หรือไม่?”หานเทาเปลี่ยนท่าทีในฉับพลัน เขาเอ่ยถามขึ้น“ข้ายืนยันได้ว่าไม่มีทา
“ฝ่าบาท ท่านคิดว่าท่านหวังจะไม่สงสัยพวกเราใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เมื่อเห็นขบวนรถม้าของหวังหยวนและคนอื่น ๆ ออกเดินทางไปแล้ว เฉินซานเตาพลันกอดอกเอ่ยถาม ใบหน้าซีดเผือดเล็กน้อยแม้ว่าเฉินซานเตาจะเป็นเพียงขุนศึกผู้หนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น ไม่เช่นนั้นในอดีตคงไม่เลือกที่จะยืนอยู่ข้างกายไป๋อวิ๋นเฟย!ไป๋อวิ๋นเฟยเอ่ยว่า “ข้าคิดว่าพี่หวังคงไม่คิดเช่นนั้น อย่างไรเสีย ยามนี้ราชวงศ์ต้าเย่กำลังเผชิญกับปัญหามากมาย ผู้ที่ข้าต้องการพึ่งพามากที่สุดก็คือพี่หวัง แต่ผู้ที่ลงมือในครั้งนี้เป็นใครกันแน่ ช่างยากที่จะคาดเดา...”“คนของซือฟางในอดีตล้วนถูกพวกเราจับกุมตัวไปหมดแล้ว ส่วนคนที่เหลือที่เคยมีความสัมพันธ์กับเขาก็หายสาบสูญไปนานแล้ว ไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าพวกเรา ไม่กล้าปรากฏตัวในเมืองหลวง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะกล้าลงมือสังหาร”“อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามก็เตรียมการมาอย่างดี หากพวกเขาต้องการจะล้างแค้น เช่นนั้นเป้าหมายก็ไม่น่าจะพุ่งตรงมาที่หวังหยวน...”ไป๋อวิ๋นเฟยก็ตกอยู่ในห้วงแห่งความสับสนยามนี้หลิ่วหรูเยียนบาดเจ็บสาหัส จิตใจของหวังหยวนต้องจดจ่ออยู่กับอาการของหลิ่วหรูเยียน แต่ความเคียดแค้นในครั้งนี้ย่อ