“ฟึ่บ!”ทันใดนั้นหวังหยวนรู้สึกเสียวสันหลัง สัมผัสได้ถึงอันตรายจนขนทั่วร่างลุกชัน!หวังหยวนรีบโอบคอไป๋ลั่วหลีและหลิ่วหรูเยียนพุ่งตัวล้มลงกับพื้น!ลูกธนูมากมายพุ่งผ่านศีรษะพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว!หากหวังหยวนไม่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ตอนนี้พวกเขาคงกลายเป็นเม่นไปแล้ว!ส่วนไฉจวิ้นดูเหมือนจะไม่โชคดีนัก ตอนนี้ไม่เพียงแต่ถูกธนูยิงเข้าที่หน้าอกเท่านั้น แขนก็ยังโดนอีกดอก!ดูท่าทางน่าเวทนายิ่งนัก!“ไฉจวิ้น! เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”หวังหยวนรีบตะโกนถามไฉจวิ้นยกยิ้ม แล้วส่ายหน้ากล่าวว่า “ไม่เป็นอะไรขอรับ! แค่บาดเจ็บนิดหน่อย! เทียบกับสัตว์ร้ายที่ข้าเคยเจอ นี่ยังแค่คัน ๆ ขอรับ!”ว่าแล้วไฉจวิ้นก็ดึงลูกธนูทั้งสองดอกที่ปักอยู่บนตัวออก!ครั้งหนึ่งตอนที่เขาติดตามปู่ไป สองปู่หลานมักจะเข้าไปในป่าและพบเจอสัตว์ร้ายมากมาย!แม้แต่หมีสีน้ำตาลก็เคยสู้ด้วยมา!ไฉจวิ้นมีความดุร้ายอยู่ในตัว!“พวกเจ้าสองคนเป็นอย่างไรบ้าง?”หวังหยวนมองไป๋ลั่วหลีและหลิ่วหรูเยียนที่อยู่ในอ้อมกอด แล้วถามด้วยความเป็นห่วง“พวกข้าไม่เป็นอะไร!”ทั้งสองตอบพร้อมกัน“หวังหยวน!”ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงคุ้นเคยดังมาจากด้านหลังหวังหยวน
ไฉจวิ้นรีบหลบหลังต้นไม้ จึงรอดพ้นจากอันตรายไปได้อย่างฉิวเฉียด!แม้เขาจะไม่กลัวความเจ็บปวด แต่หากโดนธนูมากมายเช่นนี้ เลือดคงไหลหมดตัวตายในที่สุด!“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”ขณะที่หวังหยวนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรู พลันมีเสียงแหวกอากาศดังขึ้นอีกครั้ง!ยอดฝีมือยี่สิบคนที่ซ่อนตัวอยู่ปรากฏตัวขึ้น ไม่ช้าก็เข้าโรมรันกันอย่างดุเดือด!“ท่านผู้นำรีบไปก่อนขอรับ! ที่นี่พวกข้าจัดการเอง!”หนึ่งในนั้นตะโกนบอกหวังหยวนหวังหยวนรู้สึกซาบซึ้งใจ กัดฟันแน่น ไม่เอ่ยคำใดและไม่ยอมจากไปด้วยหากทิ้งคนยี่สิบคนนี้ไว้ พวกเขาคงไม่รอด!ถึงแม้เขาจะต้องเอาชีวิตรอด แต่ก็ไม่ใช่การเสียสละชีวิตพี่น้อง!“พวกเจ้าไปก่อน! ข้าจะอยู่ช่วยพวกเขา!”หวังหยวนรีบบอกหลิ่วหรูเยียนและคนอื่น ๆ“พี่ใหญ่! ท่านพูดอะไรเช่นนั้น?”“บัดนี้พวกเราเป็นพี่น้องกันแล้ว! ก่อนท่านปู่ของข้าตายยังกำชับให้ข้าดูแลท่านเสมือนพี่ชายแท้ ๆ อยู่เลย! ยามคับขันเช่นนี้ หากต้องมีคนอยู่ที่นี่ คนผู้นั้นก็ต้องเป็นข้า!”“พี่ใหญ่! รีบพาพี่สะใภ้ออกไป! ข้าจะช่วยพี่น้องยี่สิบคนนี้จัดการกับพวกสารเลวเหล่านี้เองขอรับ!”“นั่นสินะ! ข้าล่าสัตว์ในป่ามาตลอด เคยสู้กับแต่สัตว์ร้าย
ในคืนนั้น พวกหวังหยวนออกจากป่ามุ่งหน้าไปยังชนเผ่าทางเหนือ!ชนเผ่าทางเหนือตั้งอยู่ในดินแดนอันห่างไกลที่ทุรกันดาร!หวังหยวนหยิบแผนที่ที่ไท่สื่อลี่มอบให้มาดูทิศทางคร่าวๆ แล้วชี้ไปทางทิศเหนือ ก่อนจะกล่าวว่า “ตามแผนที่ ชนเผ่าของไท่สื่อลี่น่าจะอยู่ข้างหน้า!”“ห่างจากพวกเราเพียงร้อยกว่าลี้! หากพวกเราเร่งฝีเท้า อีกไม่นานก็ถึงแล้ว!”“เมื่อเข้าไปในเผ่าได้ก็จะปลอดภัย!”ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยแม้ร้อยกว่าลี้จะไม่ใกล้ แต่เพื่อเอาชีวิตรอด ต่อให้เหนื่อยล้าก็ต้องอดทน!เพียงแค่เข้าไปในชนเผ่าได้จึงจะปลอดภัยไร้กังวล!ขณะที่พวกหวังหยวนกำลังจะเดินทางต่อ พลันมีเสียงหัวเราะเยาะดังมาจากด้านหลัง ทำให้ทุกคนขนลุก!ไม่นึกเลยว่า...คนพวกนั้นจะตามมาทันแล้ว!ช่างดื้อด้านยิ่งนัก!“หวังหยวน!”“น่าเสียดายที่พวกเจ้าไม่มีโอกาสไปถึงชนเผ่าแล้ว”หัวหน้ามือสังหารยืนอยู่บนต้นไม้ มองลงมาที่หวังหยวนและพรรคพวก เขาถอดหน้ากากออกชักดาบยาวออกมา ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร!“ลูกน้องของเจ้าตายหมดแล้ว!”“การอยู่กับเจ้าช่างน่าเวทนา ต้องมาตายอนาถเช่นนี้!”“เมื่อลงไปยมโลก เจ้าก็ไปปลอบใจพวกมันเสีย แล้วบอกพวกมันด้วยว่าต่อไปอย่าไ
แต่ศัตรูมีจำนวนมากเกินไป แม้หวังหยวนและพรรคพวกทั้งสี่จะมีฝีมือ แต่ไม่นานก็เริ่มอ่อนล้า!ด้วยกลยุทธ์การรุมกินโต๊ะ คนสี่คนจะสู้กับคนร้อยกว่าคนได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น คนพวกนี้ไม่ใช่ธรรมดา ล้วนเป็นยอดฝีมือที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดี!เพียงแค่คนเดียวก็สามารถจัดการคนธรรมดาได้หลายคนแล้ว!ครั้งนี้ซือฟางลงทุนมากทีเดียว!“หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ข้าคงไม่พาพวกเจ้าสามคนมาด้วย...”หวังหยวนและพรรคพวกรวมตัวกัน ยืนหันหลังชนกัน คอยสังเกตสถานการณ์จากทุกทิศทุกทางในเวลาเดียวกัน!ศัตรูล้อมพวกเขาไว้หลายชั้น พร้อมจะลงมือได้ทุกเมื่อ!พวกหวังหยวนใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว หากถูกโจมตีอีกครั้งคงจะต้านทานไม่ไหวอย่างแน่นอน...สุดท้ายคงมีแต่ทางตัน!“พวกมันใกล้จะหมดแรงแล้ว!”“ทุกคนร่วมกันออกแรงอีกครั้ง! ฆ่าคนสี่คนนี้ให้ได้ แล้วพวกเราจะได้กลับไปรับรางวัล!”หัวหน้ามือสังหารกล่าวอย่างตื่นเต้น!นี่ถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์!ในดินแดนทั้งเก้า หวังหยวนมีชื่อเสียงโด่งดัง ผู้คนต่างยกย่องชื่นชมและนับถือราวกับเทพเจ้า!แต่ตอนนี้หวังหยวนกำลังจะตายด้วยน้ำมือของเขา!แล้วเขาจะไม่ดีใจได้อย่างไร?เมื่อกลับไปยังต้า
“ไม่เป็นอะไร!”“หากท่านไม่มา พวกข้าคงตายกันหมดแล้ว!”“ท่านไม่ได้ทำผิด กลับมีคุณูปการด้วยซ้ำ!”หวังหยวนปัดฝุ่นบนตัวไท่สื่อลี่ เมื่อเห็นสภาพของเขาก็รู้ว่าคงจะลำบากมากระหว่างทางแต่ยังมาถึงได้ทันเวลา!แม้สถานการณ์ของเขาจะยากลำบาก แต่โทษไท่สื่อลี่ไม่ได้“ข้าจะรีบให้คนไปตามล่าคนพวกนั้น! จะปล่อยให้พวกมันหนีไปไม่ได้!”ไท่สื่อลี่กล่าว จากนั้นกำลังจะสั่งการให้ลูกน้องออกตามล่าหวังหยวนคว้ามือเขาไว้ ก่อนส่ายหน้ากล่าวว่า “ข้าว่าอย่าเลย พวกมันเข้าไปในป่าแล้ว ถึงแม้พวกเราจะมีคนมากกว่า แต่เมื่อเข้าไปในป่า พวกเราจะเสียเปรียบได้...”“อีกอย่าง คนที่ตามล่าข้าล้วนเป็นยอดฝีมือ ปล่อยพวกมันไปก่อนเถิด”“ข้าเชื่อว่าพวกมันคงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ!”“เมื่อพวกเรากลับไปถึงเผ่าก็แค่ต้องสร้างกับดัก แล้วพวกมันจะติดกับดักเอง!”“เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราก็ไม่ต้องเสียกำลังพล แต่ยังสามารถกำจัดพวกมันได้ เหตุใดจึงไม่ทำเล่า?”ไท่สื่อลี่ฟังแล้วยกนิ้วให้หวังหยวนช่างเป็นแผนการที่แยบยล!แต่ก็โหดเหี้ยมนัก!ที่ว่าใจต้องเหี้ยมจึงจะยิ่งใหญ่ได้ คงเป็นเช่นนี้กระมัง!“ไปกันเถิด!”“พวกเรากลับเผ่ากัน!”ไท่สื่อลี่หัวเราะ แล้วพา
“มนุษย์เราเกิดมาใต้อำนาจฟ้าดินย่อมต้องยึดมั่นในสัจจะ!”“ทุกคนวางใจได้ บัดนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อไปข้าจะช่วยให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้แน่นอน!”“ให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เช่นเดียวกับผู้คนในดินแดนทั้งเก้า!”ชาวบ้านคุกเข่าลงอีกครั้งเพื่อแสดงความขอบคุณ!ไท่สื่อลี่รู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนักการได้รับความช่วยเหลือจากหวังหยวน ช่างเป็นบุญวาสนาของพวกเขา!“ท่านหวัง!”“เดิมทีข้าตั้งใจจะเชิญท่านไปพักที่บ้านข้า แต่ชาวบ้านต่างก็อยากพบปะท่าน อยากร่วมรับประทานอาหารกับท่าน ดังนั้น แต่ละครัวเรือนจึงเตรียมอาหารมาอย่างละหนึ่งชนิด ซึ่งก็วางเรียงรายเต็มท้องถนนพอดีขอรับ!”ไท่สื่อลี่กล่าวด้วยรอยยิ้มหวังหยวนพยักหน้า เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดจึงมีโต๊ะยาววางเรียงรายอยู่กลางถนนปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!ช่างเป็นเรื่องน่าสนใจ“ได้!”“ในเมื่อทุกคนตั้งใจมาต้อนรับ เช่นนั้นวันนี้ก็มาทานอาหารที่นี่กันเถิด!”“แต่ขออย่าให้ฝนตกเลย หากทานอาหารอยู่ดี ๆ แล้วฝนเกิดตก ทุกคนคงเปียกปอนกันหมด”หวังหยวนพูดคุยเล็กน้อย แล้วจึงนั่งลง ชาวบ้านต่างกลับบ้านไปเตรียมอาหารมาร่วมงานเลี้ยงครึ่งชั่วยามผ่านไป บนโต
“ยังไม่ต้องหรอก...”หวังหยวนเผยรอยยิ้มมุมปาก ยกจอกสุราขึ้นหมุนเบา ๆ ราวกับมั่นใจในแผนการ“สองคนนั้นมีความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้า ยิ่งกว่านั้น คนในราชสำนักล้วนเป็นพวกของเขา สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก หากลงมือตอนนี้ พวกเราคงเสียเปรียบ สิ่งที่ต้องทำคือรอคอยจังหวะ!”“อีกอย่าง เท่าที่ข้ารู้มา เรื่องในเผ่ายังไม่สงบเรียบร้อยใช่หรือไม่?”เมื่อหวังหยวนพูดเช่นนี้ ไท่สื่อลี่ก็มีสีหน้าลำบากใจดังที่หวังหยวนกล่าว แม้เขาจะกลับมาที่เผ่าแล้ว แต่ก่อนหน้านี้เผ่าอยู่ในความวุ่นวาย แต่ละเผ่ามีหัวหน้าของตนเอง แม้เขาจะพยายามเจรจา แต่ก็ยังมีอุปสรรคเพียงแต่เพื่อให้หวังหยวนเชื่อใจและแสดงให้เห็นถึงความสามารถ เขาจึงไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ ทำตัวร่าเริงอยู่เสมอเพื่อไม่ให้หวังหยวนกังวลหวังหยวนตบบ่าเขา ก่อนกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า “ท่านไม่ต้องปิดบังข้า ข้าถือว่าท่านเป็นพวกเดียวกันแล้ว อีกอย่าง ข้ามีหน่วยข่าวกรอง เรื่องราวต่าง ๆ ในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดปิดบังข้าได้ รวมถึงเรื่องในเผ่าด้วย!”“บอกข้ามาเถิด ยังมีเผ่าใดบ้างที่ไม่ยอมเชื่อฟังท่าน?”ดินแดนทางเหนือกว้างใหญ่นัก ใหญ่กว่าที่หวังหยวนคิดไว้มากการที่ไท่สื่อลี่จะคว
เพื่อไม่ให้ใครต้องเดือดร้อน!แต่น่าเสียดาย ฉือสยงกลับขัดขวางเขาอยู่ตลอด!ทำให้ไท่สื่อลี่ลำบากใจ!หวังหยวนใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะพูดอะไร ไฉจวิ้นก็เดินเข้ามาตบหน้าอกกล่าวว่า “พี่ใหญ่!”“ก่อนหน้านี้ในป่า ท่านก็เห็นฝีมือข้าแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?”“ตอนนี้ให้ท่านไท่สื่อมอบกำลังพลให้ข้าได้เลยขอรับ ข้าจะไปกำจัดฉือสยงเอง!”“ข้าไม่สนว่ามันจะเก่งกาจแค่ไหน มีลูกน้องเยอะเท่าไหร่! หากมันกล้าขัดขวางท่าน ข้าจะทำให้มันตายอย่างน่าอนาถ!”ต้องยอมรับว่าไท่สื่อลี่เป็นห่วงหวังหยวนมากถึงแม้จะต้องสละชีวิตก็ไม่ลังเล!เพื่อตอบแทนมิตรภาพความเป็นพี่น้องระหว่างเขาและหวังหยวน!หวังหยวนมองหลอกตากล่าวอย่างไม่พอใจ “ไปดื่มสุราต่อเถิด! อย่ามาอาละวาดที่นี่! หากเจ้าเมาแล้ว ข้าจะให้ท่านไท่สื่อหาห้องให้เจ้า รีบไปนอนเสีย!”“อย่ามาพูดจาเหลวไหล!”หวังหยวนเป็นคนฉลาดและเป็นถึงผู้นำ เขาย่อมรู้ว่าไท่สื่อลี่คิดอะไรอยู่คนผู้นี้ห่วงใยชาวบ้านในเผ่า เรียกได้ว่าเป็นผู้นำที่แท้จริง!หากจะยกทัพไปปราบฉือสยง ไท่สื่อลี่ก็ทำได้ เพราะมีหวังหยวนคอยสนับสนุน ไท่สื่อลี่มีทั้งกำลังพลและทรัพยากร!แต่ดังที่ไท่สื่อลี่
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห