แชร์

บทที่ 1903

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
“ฟึ่บ!”

เดิมทีหวังหยวนเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นสตรีจึงคิดจะเป็นสุภาพบุรุษ กล่าวขอโทษแล้วก็จากไป

แต่ไม่นึกเลยว่านางจะพูดจาอวดดี หยิ่งยโสและไร้เหตุผลถึงเพียงนี้เลยหรือ?

“เมื่อเจ้าถามข้าเช่นนี้ แสดงว่าเจ้าก็ตาบอดเช่นกัน”

“หรือว่าเจ้าไม่เห็นดวงตาบนใบหน้าของข้าเล่า?”

หวังหยวนตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์

“เจ้า...”

สตรีผู้นั้นขบฟันแน่นด้วยความโกรธ ชี้หน้าหวังหยวนและกล่าวว่า “ช่างปากคอเราะรายนัก!”

“ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าจะขอโทษหรือไม่?”

หวังหยวนไม่สนใจนางและกำลังจะผลักนางออก แต่นางกลับคว้ามือเขาไว้ก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว นางเอามือเขาไปแตะหน้าอกตัวเอง

หวังหยวนตกใจกับการกระทำของนาง

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

จงใจให้เขาลวนลามนางหรือ?

ต้องยอมรับว่านางมีรูปโฉมงดงาม ใบหน้ารูปไข่ ผิวพรรณขาวผ่องดุจหยก ดวงตากลมโตสดใส รูปร่างงามสมส่วน

แม้จะไม่ถึงขั้นงามล่มเมือง แต่สวยเด่นกว่าหญิงสาวทั่วไป!

คงไม่ใช่สตรีธรรมดาเป็นแน่

“ลวนลาม!”

ขณะที่หวังหยวนกำลังคิดก็มีเสียงดังขึ้นข้างหู

ผู้คนมากมายต่างมามุงดู ในพริบตาถนนต่างเต็มไปด้วยผู้คน

สตรีผู้นั้นยังคงจับมือหวังหยวน แล้วตะโกนบอกทุกคน

“ทุกคนเห็นหรือไม่?”

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1904

    เจียงเสี่ยวอวี๋ ลูกสาวคนเล็กของเจียงเซี่ยวอวิ๋น ผู้เป็นหัวหน้าตระกูลเจียงเจียงเสี่ยวอวี๋เป็นเด็กสาวเอาแต่ใจ ไม่มีใครในเมืองอู่เจียงกล้าขัดใจนางอย่างไรก็ตาม แม้นางจะชอบรังแกคนอื่นในบางครั้งแต่กลับแตกต่างจากคุณชายในตระกูลใหญ่ทั้งสี่เพราะนางไม่เคยกลั่นแกล้งผู้ยากไร้ และยิ่งไม่เคยทำเรื่องข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่ากล่าวได้ว่านางชอบช่วยเหลือผู้คนเพื่อรักษาความเป็นธรรมเสียมากกว่าเป็นดั่งวีรสตรีคนหนึ่งแน่นอนว่านางมักจะเรียกตนเองว่าวีรสตรี เพียงแต่อารมณ์แปรปรวน จึงไม่ค่อยเป็นที่รักใคร่ประกอบกับฐานะอันสูงส่งย่อมมีคนอิจฉาริษยา ทำให้ชื่อเสียงของนางไม่ค่อยดีนัก“คนตระกูลเจียงหรือ?”หวังหยวนสนใจขึ้นมาทันทีตั้งแต่มาถึงเมืองอู่เจียง เขาได้พบกับสองตระกูลใหญ่แล้ว ทั้งยังกำจัดตระกูลซูไปแล้วอย่างง่ายดายส่วนอีกสองตระกูลที่เหลือคือตระกูลซูกับตระกูลเซียวเจียงเสี่ยวอวี๋ตรงหน้าเป็นคนของตระกูลเจียง ช่างเป็นโชคชะตากำหนดมาดวงตาของหวังหยวนเป็นประกาย ก่อนจะเดินไปหาเจียงเสี่ยวอวี๋ด้วยรอยยิ้ม “ที่แท้ก็เป็นคุณหนูตระกูลเจียง ขออภัยที่เสียมารยาท”“บังเอิญข้าเป็นสหายกับพ่อของเจ้า เจ้าช่วยพาข้าไปพบเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1905

    ทั้งสองเดินมาถึงหน้าคฤหาสน์ตระกูลเจียง“คุณหนูใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว!”“ท่านหัวหน้าตระกูลตามหาท่านจนแทบบ้า โชคดีที่ท่านปลอดภัย ไม่เช่นนั้นพวกข้าคงต้องหัวหลุดจากบ่าเป็นแน่...”องครักษ์สองคนที่เฝ้าประตูรีบเข้ามากล่าว พร้อมกับแอบโล่งใจคุณหนูเอาแต่ใจผู้นี้ช่างเป็นคุณหนูที่น่ากลัวยิ่งนักปกตินางมักจะแอบหนีออกจากคฤหาสน์ ทำให้พวกเขาลำบากใจ ทุกครั้งที่นางออกไปมักจะนำความเดือดร้อนมาให้เสมอ สุดท้ายก็ต้องเป็นพวกเขาที่ต้องรับผิดชอบ...พวกองครักษ์ย่อมไม่มีความสุขแต่ทว่าไม่มีใครกล้ากล่าววาจาล่วงเกินเจียงเสี่ยวอวี๋ เพราะกลัวจะเดือดร้อน!มันไม่คุ้มเลย“พ่อข้าอยู่ที่ใด?”“ระหว่างทางข้าพบคนไร้มารยาทอยากมาพบพ่อข้า ข้าจึงพาเขามาด้วย”“ข้าอยากรู้ว่าที่เขาพูดเป็นความจริงหรือไม่ เขารู้จักพ่อข้าจริงหรือเปล่า!”เจียงเสี่ยวอวี๋บ่นพึมพำด้วยความโกรธ สายตาเหลือบมองหวังหยวนเป็นระยะองครักษ์ทั้งสองต่างเป็นห่วงหวังหยวน การล่วงเกินคุณหนูผู้นี้คงไม่ใช่เรื่องน่าสนุก...ทางด้านหวังหยวนกลับมีสีหน้าเรียบเฉย ดูไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย“ท่านหัวหน้าตระกูลกำลังโกรธอยู่ในห้องโถง คุณหนูใหญ่ เชิญท่านเข้าไปเถิดขอรับ...”“

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1906

    พ่อบ้านเป็นคนแรกที่ตั้งสติได้ เขามองหวังหยวนด้วยความสงสัยแล้วเอ่ยถามขึ้นแม้เจียงเสี่ยวอวี๋จะออกไปข้างนอกบ่อยครั้ง แต่ไม่เคยพาสหายกลับบ้าน“ท่านพ่อ!”“คนผู้นี้บอกว่ารู้จักท่าน อยากมาพบกับท่านเจ้าค่ะ!”“ข้าอยากรู้ว่าเขาเป็นสหายของท่านจริงหรือไม่!”เจียงเสี่ยวอวี๋เพิ่งนึกขึ้นได้ นางเกือบลืมเรื่องหวังหยวนไป จากนั้นจึงรีบกล่าวขึ้นพร้อมกับเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นบนถนนให้เจียงเซี่ยวอวิ๋นฟัง หนำซ้ำยังเติมแต่งเล็กน้อย“น้องชายเอ๋ย ขออภัยที่ข้าตาไม่ถึง พวกเราเคยพบกันมาก่อนหรือ?”“ไม่ทราบว่าเจ้าเป็นคุณชายตระกูลใดกัน?”หวังหยวนอายุมากกว่าเจียงเสี่ยวอวี๋เล็กน้อย แต่ในสายตาของเจียงเซี่ยวอวิ๋นที่อายุมากกว่าห้าสิบปี เขาก็เป็นเพียงเด็กคนหนึ่งหวังหยวนทำตัวราวกับอยู่บ้านของตัวเอง เขานั่งลงบนเก้าอี้แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “ท่านจำข้าไม่ได้จริงหรือ?”“อืม...”เจียงเซี่ยวอวิ๋นครุ่นคิด สุดท้ายก็ส่ายหน้า เขาจำไม่ได้จริง ๆแต่เขาก็ไม่ได้แสดงความไม่เคารพ เพราะในเมืองอู่เจียง สี่ตระกูลใหญ่มีอำนาจเท่าเทียมกัน นี่เป็นเรื่องที่รู้กันทั่วปกติไม่มีใครกล้าล่วงเกินคนของสี่ตระกูลใหญ่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการมาหลอกล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1907

    “เดินไม่เปลี่ยนชื่อ นั่งไม่เปลี่ยนแซ่”หวังหยวนมองเจียงเสี่ยวอวี๋ด้วยรอยยิ้ม ก่อนหน้านี้ตอนที่เขายังไม่มาถึง เขาตั้งใจจะสั่งสอนเจียงเสี่ยวอวี๋ไม่ว่าหญิงหรือชาย หากทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ ยิ่งเจียงเสี่ยวอวี๋มีฐานะสูงส่ง ย่อมมีนิสัยเสียแบบลูกคนรวยแต่เมื่อเห็นเจียงเซี่ยวอวิ๋น หวังหยวนก็เข้าใจ ที่แท้เขาเข้าใจเจียงเสี่ยวอวี๋ผิดไป...นางเป็นเพียงเด็กสาวที่ชอบเล่นซุกซน ไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใดด้วยเหตุนี้ เขาจึงเปลี่ยนใจ“ลูกเอ๋ย รีบขอขมาท่านหวังเดี๋ยวนี้!”“ไม่ว่าเจ้าจะทำสิ่งใดลงไป พ่อรู้จักเจ้าดี เจ้าคงไปล่วงเกินท่านหวังเข้าเป็นแน่!”“ไม่เช่นนั้นท่านหวังคงไม่ตามเจ้ามาที่นี่!”เจียงเซี่ยวอวิ๋นตั้งสติได้แล้วรีบกล่าวขึ้นแม้เขาจะรู้จักหวังหยวนอยู่บ้างจากคำเล่าลือ แต่สิ่งที่เขารับรู้ก็เป็นเพียงข้อมูลผิวเผิน ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลซูเพิ่งล่มสลาย ท่านหวังจึงไม่อยากให้ตระกูลเจียงต้องพบจุดจบเช่นเดียวกัน…เจียงเสี่ยวอวี๋กัดริมฝีปากแน่น ไม่พูดไม่จาอยู่นาน สีหน้าของนางเหมือนจะร้องไห้“อะแฮ่ม...”หวังหยวนกระแอม ก่อนจะโบกมือให้สองพ่อลูกด้วยรอยยิ้ม “ไม่รู้ก็ไม่ผิด ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่เก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1908

    “ถึงเวลานั้นข้าจะแบ่งสันปันส่วนธุรกิจให้พวกท่าน”“ต่อไปพวกท่านจะได้ไม่ต้องแก่งแย่งกันจนต้องต่อสู้กันทั้งเปิดเผยและลับหลังอีก”หวังหยวนไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับความขุ่นเคืองส่วนตัว แต่นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากสามตระกูลใหญ่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ทำธุรกิจที่ไม่ขัดแย้งกันก็ย่อมประหยัดเงินทองได้มากเงินทองเหล่านี้ย่อมตกเป็นของเขาเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการทำศึกสงครามในอนาคต!หวังหยวนวางแผนไว้อย่างดีเจียงเซี่ยวอวิ๋นรู้สึกตื่นเต้น เขารู้เรื่องของตระกูลเฉินแล้ว หลังจากตระกูลซูล่มสลาย ตระกูลเฉินก็ยิ่งใหญ่ขึ้น!ในชั่วข้ามคืนก็ได้รับช่วงกิจการทั้งหมดของตระกูลซูจนมีอำนาจเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น!เดิมทีเขาคิดว่าหวังหยวนจะสนับสนุนตระกูลเฉิน ให้ตระกูลเฉินขึ้นเป็นใหญ่ จากนั้นจึงค่อยกำจัดอีกสองตระกูลแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิด ยังพอมีทางรอดอยู่ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนก็ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว ที่สนใจเพียงผลกำไรเท่านั้นดังนั้นทุกอย่างต้องพิสูจน์ด้วยตาตนเอง!ข่าวลืออาจไม่ใช่เรื่องจริง...เมื่อหวังหยวนออกจากคฤหาสน์ตระกูลเจียง เจียงเสี่ยวอวี๋ก็เดินออกมาจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1909

    คุกใต้ดินมืดมิด ไม่เพียงแต่ไม่มีแสงสว่าง ซ้ำยังมีหนูสกปรกวิ่งพล่านอยู่ทุกหนทุกแห่ง!นางยังถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่ แม้แต่กินข้าวก็ต้องให้คนอื่นป้อน นางรู้สึกเหมือนศักดิ์ศรีของตนถูกจับโยนลงกับพื้นแล้วถูกเหยียบย่ำหลิ่วหรูเยียนผู้สูงศักดิ์จะทนได้อย่างไร?“ฆ่าเจ้าหรือ?”“ทำเช่นนั้นได้อย่างไร?”“คนของข้าไปที่เมืองผีแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะกลับมา ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าแม้แต่น้อย”“อย่าว่าแต่ฆ่าเจ้าเลย ต่อให้เจ้าอยากฆ่าตัวตายก็คงไม่มีโอกาส...”หวังหยวนแสยะยิ้ม แล้วกล่าวต่อว่า “แต่ข้าขอเตือนเจ้า หากคนของข้ากลับจากเมืองผีไม่ได้ ข้าจะทำให้การมีชีวิตของเจ้าเลวร้ายยิ่งกว่าตาย”“เจ้าจะต้องเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี้...”หลิ่วหรูเยียนตวาดลั่น“ไอ้สารเลว!”“เจ้ามันเลวที่สุด!”“ต่อไปต่อให้ข้ากลายเป็นผี ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป!”“ข้าจะสาปแช่งเจ้าในนรก เจ้าต้องมีจุดจบที่เลวร้าย!”เห็นหลิ่วหรูเยียนโกรธแค้น หวังหยวนก็เผยรอยยิ้มพอใจดูท่าอีกไม่นานหลิ่วหรูเยียนคงสติแตกถึงเวลานั้นนางก็คงสารภาพทุกอย่าง การค้นหาพรรคทมิฬคงไม่ไกลเกินเอื้อมหลังจากออกจากคุก หวังหยวนรีบติดต่อสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ“ยังไม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1910

    “เขาจะเลือกทางใดก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง...”หลี่ซื่อหานพยักหน้าเบา ๆ“ว่าแต่คืนนี้เจ้ามีแผนการอะไรหรือไม่?”หวังหยวนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา“ไม่มีเจ้าค่ะ”“พวกน้องสาวไม่ได้มาด้วย ข้าไม่มีคนรู้จักในเมืองอู่เจียง”“นอกจากอยู่กับท่าน ข้าก็ไม่รู้จะทำสิ่งใด”หลี่ซื่อหานตอบอย่างจนใจหากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ นางขออยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังดีกว่า อย่างน้อยก็ยังมีหวงเจียวเจียวและคนอื่น ๆ ให้พูดคุยแถมยังคุ้นเคยกับหมู่บ้านต้าหวัง คงไม่น่าเบื่อเช่นนี้แต่น่าเสียดาย โลกนี้ไม่อาจย้อนเวลาได้ ในเมื่อเลือกมาที่นี่แล้วคงต้องทน...“เช่นนั้นก็ดี”“คืนนี้ข้าจะพาเจ้าไปรื่นรมย์”หวังหยวนยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วกวักมือเรียกคนที่อยู่นอกห้อง“เจ้าไปติดต่อคนของสามตระกูลใหญ่ แล้วจองโต๊ะที่ร้านอาหารให้ด้วย ข้ามีเรื่องจะปรึกษากับพวกเขา”แม้หวังหยวนจะไม่เคยพบกับคนของตระกูลเซียว แต่พวกเขาก็คงไม่กล้าขัดคำสั่งเขาเมื่อคนผู้นั้นออกไปแล้ว หลี่ซื่อหานจึงเอ่ยถาม “ท่านจะไปพบกับคนของสามตระกูลใหญ่หรือเจ้าคะ?”“ใช่”หวังหยวนกอดอก กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “หากต้องการให้เมืองอู่เจียงพัฒนา การปฏิรูปอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องอาศัย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1911

    กล่าวจบเกาเล่อก็คว้าโต๊ะขึ้นมาบังตัวเอง!ฝ่ายตรงข้ามโจมตีอย่างรุนแรง หากฝ่าออกไปคงมีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก!ได้แต่รอให้การโจมตีสงบลง จึงค่อยหาโอกาสหนี!สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อคนอื่น ๆ ต่างพากันหลบตามมุมห้อง ไม่กล้าปะทะโดยตรง!ห่าฝนธนูยังคงกราดใส่อยู่นาน ในที่สุดก็เงียบลง จากนั้นก็มีกลุ่มคนบุกเข้ามาทางประตู!“ใครคือเกาเล่อ?”“ออกมาเดี๋ยวนี้!”“ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าทุกคนในนี้!”ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าสวมหน้ากากกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา สายตาจ้องมองทุกคนเกาเล่อยืดคอขึ้นเพื่อคลายความตึง ก่อนจะก้าวออกมา ฝ่ายตรงข้ามมีกำลังคนมากกว่า คาดว่าข้างนอกคงมีคนล้อมไว้ ไม่มีทางหนีพ้นสู้เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อรักษาชีวิตคนอื่นจะดีกว่า!“ข้าคือเกาเล่อ พวกเจ้าเป็นใคร?”“เหตุใดจึงกล้าโจมตีพวกข้า?”“รู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังพวกข้าคือใคร?”แม้จะเสียเปรียบ แต่เกาเล่อก็ยังมีสีหน้าเรียบเฉยขณะกล่าวทีละคำชายสวมหน้ากากยกยิ้ม “พวกข้าไม่ได้อยากทำร้ายเจ้า เพียงแต่อยากให้เจ้าไปกับพวกข้า นายท่านของพวกข้าอยากพบเจ้า”“หากเจ้ายอมไปกับพวกข้า พวกข้าจะรักษาสัญญา ปล่อยคนของเจ้าไปทุกคน”“อย่างไรเสียพวกเ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status