Share

บทที่ 1722

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เมืองหวงของเซียวฉู่ฉู่ครอบครองดินแดนทางเหนือของหมานอี๋และเมืองเหลียง

ส่วนไป๋เหยียนเฟยครอบครองเมืองจาง เมืองซือ และเมืองหยาง

ดินแดนทั้งเก้าแคว้นถูกแบ่งใหม่ แต่ในแง่ของภูมิประเทศแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง!

เจ็ดวันต่อมา หวังหยวนและพรรคพวกได้เดินทางกลับไปยังเมืองหลิง

เมื่อมองไปรอบๆ เมืองหลิงเป็นสถานที่สงบสุขและสามัคคีที่สุดในบรรดาเก้าดินแดน นี่เป็นเพราะความเป็นผู้นำของหวังหยวน!

หากไม่ใช่หวังหยวนรับผิดชอบ จะสร้างสวรรค์บนดินเช่นนี้ได้อย่างไร?

ภายในเจ็ดวันนี้ ทุกฝ่ายก็ถอนทัพ แผ่นดินจึงสงบสุขชั่วคราว แม้แต่คนลี้ภัยเร่ร่อนบนท้องถนนก็ลดน้อยลง

หวังหยวนกำลังนำคณะของตนไปยังที่ว่าการ ก็ได้ยินเสียงโวยวายจากริมถนน

“ข้าจะไปที่ว่าการเดี๋ยวนี้!”

“บัดนี้มีคนลี้ภัยเข้ามามากมายเช่นนี้ เราจะอยู่กันอย่างไร?”

“และพวกเขายังแย่งที่อยู่ของเราด้วย!”

“ปล่อยไว้เช่นนี้ไม่ได้!”

ผู้คนมากมายต่างก็โวยวาย

เนื่องจากหลายปีมานี้ ทั่วทุกแห่งต่างก็เกิดสงคราม ทำให้ผู้คนในเมืองหลิงเพิ่มมากขึ้น และด้วยเหตุนี้ หวังหยวนจึงนึกถึงปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย!

เนื่องจากเขาครอบครองเพียงดินแดนเดียว หากต้องการพัฒนาก็ต้องใช้ประโย
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1723

    “พวกเจ้ามารวมตัวกันที่นี่เพราะเหตุใด?”“หรือว่าเบื่อที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกันแล้วหรือ?”ขณะที่ทุกคนยังคงโต้เถียงกันอยู่ ก็เห็นหวังหยวนและคณะเดินมาอย่างช้า ๆ เอ้อหู่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าตะโกนด่าขึ้นมาทันทีผู้คนที่อยู่ที่นั่นต่างตกใจ สายตาต่างก็มองไปที่หวังหยวนและคณะมีคนตาดีคนหนึ่งจำหวังหยวนได้ทันที“นี่ท่านหวังไม่ใช่หรือ!”“ข้าเพิ่งเคยเห็นท่านหวังเป็นครั้งแรก!”“ข้าคิดว่าท่านเป็นชายชราเคร่งขรึมเสียอีก แต่กลับเป็นหนุ่มรูปงามเช่นนี้!”บรรดาหญิงสาวบางคนเริ่มคลั่งไคล้ สายตาที่มองหวังหยวนเต็มไปด้วยความเสน่หาเห็นได้ชัดว่าพวกนางพร้อมที่จะถวายตัว“อะแฮ่ม”หวังหยวนได้ยินบทสนทนาของผู้คนแล้วก็กระแอมสองสามครั้ง จากนั้นเดินไปยังกลุ่มคนเพื่อถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”“ท่านหวัง!”“ท่านอาจไม่รู้นะขอรับ!”“บัดนี้ในเมืองหลิงมีผู้คนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ด้วยการจัดการของท่าน เราจึงต้องให้ทุกคนอาศัยอยู่ในบ้านของชาวบ้านด้วย แต่บ้านพักมีจำกัด จึงทำให้เกิดความไม่พอใจ และเกิดการทะเลาะวิวาทขอรับ!”ขุนนางคนหนึ่งรีบตอบเข้าใจแล้วหวังหยวนมองไปรอบ ๆ ล้วนเห็นแต่บ้านเรือนธรรมดา ไม่มีตึกสูงเลยสักตึก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1724

    แต่ภาพร่างที่หวังหยวนวาดขึ้นนั้นกลับสูงถึงสามชั้น! แท้จริงแล้วหากไม่ใช่เพราะเงื่อนไขเอื้ออำนวย หวังหยวนปรารถนาจะสร้างตึกสูงเสียดฟ้าไปเลย! แต่โชคไม่ดีที่ในยุคสมัยนี้ การสร้างตึกสูงมากนั้นเป็นไปไม่ได้ รากฐานของการสร้างตึกคือเหล็กเส้นและปูนซีเมนต์ ปูนซีเมนต์นั้นหาได้ง่าย แต่การสร้างเหล็กเส้นนั้นไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ในยุคปัจจุบัน!แม้ว่าหวังหยวนจะคิดค้นเทคนิคการหลอมเหล็กแล้ว แต่ก็ไม่มีเครื่องจักรที่เหมาะสมในการผลิตแผ่นเหล็กและวัสดุต่าง ๆ…จึงสามารถใช้เพียงกระดานไม้และหินเพื่อสร้างบ้านสูงเพียงสามชั้นเท่านั้น!“พี่หยวน!”“ความคิดของท่านดี แต่ขออภัย หากอาศัยอยู่ชั้นบนขึ้นไป ไม่ใช่จะต้องหวาดกลัวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันหรือ?”“หากวางของหนัก ๆ ไว้ในบ้าน บ้านก็จะพังลงมาใช่หรือไม่ขอรับ?” เอ้อหู่เกาหัวแล้วกล่าวออกมานี่เป็นความคิดของทุกคนแม้แต่ถงจื่อเจี้ยนก็หรี่ตาจ้องมองภาพร่างที่หวังหยวนวาดขึ้น“ภาพร่างนี้ข้าได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว”“เรื่องน้ำหนักข้าก็ได้พิจารณาแล้ว”“เราเพียงแต่เพิ่มความหนาของพื้นแต่ละชั้น แล้วใช้หินก่อกำแพงรอบ ๆ ก็จะช่วยเสริมความมั่นคงได้!”“ข้ายังคิดจะสร้างใ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1725

    หญิงสาวทั้งสองมองหน้ากันด้วยสีหน้าสงสัย แต่ก็ตามหวังหยวนไปไม่นานทั้งสามก็มาถึงห้องของหวังหว่านเอ๋อร์เนื่องจากหวังหว่านเอ๋อร์อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมาโดยตลอด จึงไม่เคยเห็นโลกกว้าง บัดนี้ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านต้าหวัง ถึงแม้จะเป็นหมู่บ้าน แต่บ้านก็หรูหรายิ่งกว่าวังหลวงเสียอีก!เพียงแค่ห้องของนางก็ใหญ่กว่าห้องที่เคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านถึงร้อยเท่า!ขนาดของบ้านก็ใหญ่กว่ามาก“เด็กหญิงคนนี้คือ…” เมื่อเปิดประตู หลี่ซื่อหานก็มองไปที่หวังหว่านเอ๋อร์“นางชื่อหวังหว่านเอ๋อร์”“ข้า…” หวังหยวนยังพูดไม่จบ หวงเจียวเจียวก็เดินมาตรงหน้าหวังหยวนแล้วกล่าวว่า “ช่างประเสริฐนัก! ท่านแอบมีหญิงอื่น!”“ที่น่าโมโหที่สุดคือหญิงคนนั้นตั้งท้อง และยังให้กำเนิดเด็กหญิงที่น่ารักเช่นนี้ให้ท่านด้วย!”หวังหยวนและหวังหว่านเอ๋อร์ต่างก็ตกใจ ใบหน้าของหวังหว่านเอ๋อร์แดงก่ำหากตนเป็นลูกสาวของหวังหยวนจริง คงเป็นเรื่องที่ดีมากใช่หรือไม่?นี่เป็นสิ่งที่นางไม่กล้าแม้แต่จะหวัง!“อะแฮ่ม” หวังหยวนกระแอมแล้วดึงหวงเจียวเจียวไปข้างหลัง ก่อนกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าอย่าพูดเหลวไหล!”“หว่านเอ๋อร์เป็นเด็กหญิงที่ข้าพบระหว่างท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1726

    หากไม่ใช่เพราะเป็นเวลาเที่ยงวัน หวังหยวนก็อยากจะดื่มด่ำหญิงงามผู้นี้เสียแล้ว!“สิ่งใดก็ไม่อาจปิดบังสายตาของสามีได้…” เสวี่ยเชียนหลงส่ายหน้าถอนหายใจ“บรรดาปรมาจารย์ข้างกายท่านได้มาหาข้า”“พวกเขาหวังให้ข้าเกลี้ยกล่อมท่าน ให้ท่านสถาปนาตนเองเป็นฮ่องเต้ ใช้เมืองหลิงเป็นฐานที่มั่นครองแผ่นดิน”“แต่ไม่ทราบว่าท่านคิดเช่นไร?”สถาปนาตนเองเป็นฮ่องเต้?หวังหยวนตกตะลึง สีหน้าค่อย ๆ แข็งทื่อ สายตาเปลี่ยนแปลงไปมาเสวี่ยเชียนหลงมองความคิดของเขาไม่ออก แต่รู้สึกว่าหวังหยวนกำลังโกรธจึงไม่กล้าพูดต่อ“ใครมาหาเจ้า?” หวังหยวนถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย“ข้าเองขอรับ!”ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงแหบพร่าดังมาจากด้านหลังทั้งสองหวังหยวนหันไปมอง จึงเห็นชายวัยสี่สิบกว่าปีแต่งตัวมอมแมม มือถือขวดน้ำเต้าใส่สุราเดินเซไปเซมาเหมือนคนเมาข้างถนนแต่คนผู้นี้ไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นจากรูปลักษณ์ภายนอกคนผู้นี้นามว่าฟ่านจ้ง แต่ก่อนเป็นบัณฑิตชื่อดัง รอบรู้ทั้งดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ นับว่าเป็นอัจฉริยะ!แต่บุคคลผู้นี้เป็นคนรักอิสระและไม่ชอบพึ่งพาผู้อื่น จึงแทบไม่ได้ออกจากบ้านจนกระทั่งหลายปีก่อน หวังหยวนได้พบกับฟ่านจ้ง หลังจา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1727

    “เรื่องนี้สำคัญยิ่ง ขอเวลาให้ข้าได้คิดก่อน” หวังหยวนไม่ได้ตอบทันทีเขาไม่สนใจชื่อเสียง ถึงแม้จะต้องการรวมดินแดนทั้งเก้าก็เพื่อให้แผ่นดินสงบสุข ประชาชนไม่ต้องทุกข์ทรมานเท่านั้นไม่ใช่เพราะความทะเยอทะยานอยากครอบครองแผ่นดินของตนเอง!“หวังว่าท่านขุนพลจะได้คิดดู” ฟ่านจ้งกล่าวอีกครั้ง จากนั้นก็ดื่มสุราต่อไปขณะเดินเซไปไกล“ท่านฟ่าน!”“สุราเป็นพิษต่อร่างกาย!”“ต่อไปนี้ควรดื่มน้อยลงจะดีกว่า ข้าไม่อยากเสียคนเก่งอย่างท่านไป!” หวังหยวนตะโกนไปทางฟ่านจ้งฟ่านจ้งโบกมือโดยไม่หันหลังกลับมามอง ในพริบตาก็หายไปจากสายตาของหวังหยวน…สามวันต่อมาโครงการที่ถงจื่อเจี้ยนและคณะเร่งรัดอยู่นั้นกำลังดำเนินการ แต่ก็เตรียมวัสดุเรียบร้อยแล้ว ภาพร่างก็แก้ไขเสร็จแล้ว แต่กลับเกิดปัญหาบางอย่าง!“ท่านขุนพล!”“บัดนี้ท่านคิดว่าควรจะทำอย่างไรขอรับ?” ถงจื่อเจี้ยนและคณะยืนอยู่ในลานบ้านของหวังหยวนพลางพูดคุยกันหวังหยวนยืนอยู่ด้านหน้า เขาได้ฟังคำอธิบายของถงจื่อเจี้ยนและเข้าใจเรื่องราวแล้วนี่คือสิ่งที่เขาละเลยก่อนหน้านี้หากต้องการสร้างบ้านเพิ่มอีกหลายชั้นก็ต้องเริ่มจากบ้านเดิม แต่เช่นนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อผ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1728

    การจัดการในที่ดินรกร้างนั้นง่าย แต่หวังหยวนต้องการเปลี่ยนเป็นพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้รากฐานของการดำรงชีวิตคือธัญญาหารตราบใดที่ประชาชนในเมืองหลิงร่ำรวย ที่นี่จะกลายเป็นดินแดนที่ประชาชนทั่วดินแดนทั้งเก้าปรารถนาจะอาศัยอยู่!“หากทำเช่นนี้”“เราสามารถสร้างบ้านบนที่ดินรกร้าง และกระตุ้นให้ผู้คนไปสร้างเขตการค้าที่นั่น เพื่อทำให้สถานที่เหล่านั้นเจริญรุ่งเรืองได้!”“และผู้คนที่มาใหม่ในเมืองหลิงก็จะอาศัยอยู่ในบ้านของชาวบ้านชั่วคราว เมื่อสร้างบ้านเสร็จแล้วจึงย้ายไปอยู่”“จากนั้นนำบ้านที่เหลือทั้งหมดมาขาย เพื่อให้ชานเมืองเจริญรุ่งเรือง!”“เช่นนี้ผู้คนจำนวนมากก็จะไหลเข้าสู่ชานเมือง บ้านในตัวเมืองก็สามารถปรับปรุงได้ และเมื่อทุกคนรู้ถึงประโยชน์ของตึกที่ข้าสร้างแล้ว ข้าเชื่อว่าทุกคนจะชอบแน่นอน และจะไม่ขัดขวางการสร้างตึกของเราอีก!”ถงจื่อเจี้ยนยกนิ้วให้หวังหยวน ช่างชาญฉลาดยิ่งนัก“หากไม่มีข้อโต้แย้งก็ทำตามที่ข้าว่าได้เลย”“จำไว้ว่าอย่าได้เกิดความขัดแย้งกับชาวบ้าน เพราะพวกเขากำลังปกป้องสิทธิ์ของตนเอง”“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเราคิดไม่ถึงกันเอง” หวังหยวนเตือนอีกครั้ง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1729

    ในอีกไม่กี่วันต่อมา ถงจื่อเจี้ยนได้ดำเนินนโยบายที่วางแผนไว้ ทำให้ประชาชนสงบลงได้ในที่สุดแม้แต่หวังหยวนก็ไม่ได้ว่างเว้นเลย เขากำลังศึกษาสิ่งแปลก ๆ ในบ้านของตนอย่างน้อยในสายตาของเหล่าภรรยาก็เป็นเช่นนั้นหลี่ซื่อหาน หวงเจียวเจียว และคนอื่น ๆ ล้อมรอบเขา มองดูสิ่งสีดำที่อยู่ในมือของเขา“สิ่งนี้ดูเหมือนไข่ แต่ข้าไม่เคยเห็นไข่ที่มีไข่แดงสีดำมาก่อน…”“และยังส่งกลิ่นเหม็นอีก สิ่งนี้กินได้จริงหรือ?” หลี่ซื่อหานมองหวังหยวนด้วยความสงสัยแล้วถามบรรดาหญิงสาวข้างกายต่างก็พูดคุยกัน“สามีไม่ได้ต้องการวางยาพวกเราใช่หรือไม่?”“พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด สามีไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้!”“ข้าไม่อยากกิน…”หวังหยวนยังคงยิ้มเสมอ แต่ไม่ได้สนใจพวกนาง และไม่ได้อธิบายอะไรเขาถือไข่แปลกประหลาดนั่นไปทางด้านหนึ่ง แล้วก็เริ่มทำอาหารในครัว“สามี ท่านกำลังทำอะไรอยู่?” หลี่ซื่อหานเดินไปข้างหลังเขา นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นหวังหยวนทำอาหารในครัว“ข้ากำลังคิดค้นอาหารชนิดใหม่”“สิ่งนี้เรียกว่าไข่เยี่ยวม้า”“พวกเจ้าอาจไม่เคยกิน แต่เชื่อข้าเถิด หากพวกเจ้าได้ลองชิมก็จะต้องชอบแน่นอน!” หวังหยวนยิ้มอย่างมีเลศนัยบร

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1730

    “ถึงแม้หน้าตาจะไม่น่ารับประทานนัก แต่รสชาติก็ยังอร่อยใช้ได้”“ข้าคิดจะเผยแพร่สิ่งนี้ไปทั่ว เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองความอร่อยนี้”การทำให้ประชาชนในเมืองหลิงร่ำรวย ไม่ใช่เพียงแต่ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ต้องตอบสนองความต้องการทางจิตใจของพวกเขาด้วย!การกินดื่มเป็นรากฐานของการดำรงชีวิตของผู้คนเพราะในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ไม่มีสิ่งบันเทิงเหมือนในยุคสมัยของเขา ในชีวิตประจำวันก็ทำได้เพียงแต่งกลอน ดื่มสุรากันให้สนุกสนานเท่านั้น“ไข่เยี่ยวม้านี้จะต้องได้รับความนิยมอย่างมาก!”“ข้าจะไปเผยแพร่สูตรไข่เยี่ยวม้านี้ให้ทุกคน!”“เจียวเจียวไม่ได้ชิมของอร่อยเช่นนี้ คงเสียใจจนอกตรมเป็นแน่!” หลี่ซื่อหานกล่าวด้วยรอยยิ้มหวังหยวนหยิบกระดาษและพู่กันมาเขียนสูตรง่าย ๆ แล้วส่งให้หลี่ซื่อหาน “เช่นนั้นก็ช่วยข้าส่งสูตรนี้ให้กับเจ้าของร้านอาหารต่าง ๆ ด้วย”“ได้เลยเจ้าค่ะ” หลี่ซื่อหานพยักหน้าแล้วเดินออกไปหวังหยวนล้างมือ กำลังจะเริ่มศึกษาสิ่งสนุก ๆ ต่อ พลันหันไปเห็นถงจื่อเจี้ยนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าร้อนรน“ท่านขุนพล”“มีเรื่องต้องรายงานท่านขอรับ” หวังหยวนกล่าวโดยไม่หันกลับมามอง “ข้าได้มอบหมายทุกอย่า

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1853

    “มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญ ถือว่าเป็นแขกผู้มาเยือนได้หรือ?” ตงฟางฮั่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “ในเมื่อเจ้าชอบสถานที่นี้ ก็จงดื่มสุราอยู่ที่นี่คนเดียวเถิด” “ลาก่อน”เพียงชั่วพริบตา ตงฟางฮั่นก็ลุกขึ้นยืน ขณะที่เขากำลังจะเดินสวนกับชายคนนั้น ก็ได้ยินเสียงชายคนนั้นเอ่ยขึ้นว่า “ท่านตงฟาง ท่านพร้อมจะวางเดิมพันไว้ที่หวังหยวน แต่กลับไม่คิดจะพบกับท่านประมุขของข้าหรือ?”“ฮึ” “พวกเจ้าก็เป็นเพียงพวกหนูที่อาศัยอยู่ในความมืดมิด” “ใครเล่าจะอยากร่วมมือกับพวกเจ้า?” ตงฟางฮั่นเย้ยหยัน ไม่ได้สนใจชายผู้อยู่เบื้องหลังอีกต่อไปสีหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไป มือหนึ่งคว้ามีดสั้นจากอกเสื้อ แล้วแทงเข้าที่หลังของตงฟางฮั่นอย่างรวดเร็ว! ว่องไวราวกับสายฟ้าแลบ!“ถ้าไม่เป็นมิตร ก็ต้องเป็นศัตรู!” “ไปลงนรกซะ!”สีหน้าของตงฟางฮั่นเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้การหลบหลีกนั้นสายเกินไปแล้ว เพราะเขาไม่ได้ฝึกวิทยายุทธใด ๆ เลย!ในขณะที่เขาเตรียมใจยอมรับชะตากรรม ก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน ปรากฏว่าเกาเล่อผู้ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และข้างกายเขายังมีสมาชิกขององค์กรเครือข่ายผีเสื้ออีกหลายคนมีกำลังคนม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1852

    “ท่านทั้งหลายไปที่นั่นแล้วจะได้ลงทะเบียนทันที!”เมื่อทราบว่าหวังหยวนไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทุกคนจึงรีบขอลา แล้วมุ่งหน้าสู่ตลาดตะวันออกด้วยความเร่งรีบ การลงทะเบียนโดยเร็วจะช่วยคลายกังวลในใจได้!เมื่อเห็นเหล่าชาวบ้านมาเร็วไปเร็วเช่นนั้น ฉุนอวี๋อันจึงบ่นหลังถอนหายใจว่า “ประชาชนพวกนี้ช่างร้อนรนนัก!”“หากมีสิ่งใดขัดขวางความประสงค์ของพวกเขา พวกเขาก็จะก่อความวุ่นวายไม่หยุด!”“โชคดีที่ข้าไม่ใช่ผู้ว่าราชการเมืองเมืองนี้แล้ว จึงบรรเทาความกดดันลงได้บ้าง…”แต่หารู้ไม่ว่าหวังหยวนยังคงยืนอยู่ข้างกายฉุนอวี๋อันหันกลับไปเห็นหวังหยวนกำลังมองตนอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ตัวสั่นเทา ตกใจกลัวจนถอยหลังไปสองก้าว และถึงกับหายใจติดขัด“ท่านผู้นำ…”“ข้าไม่ใช่หมายความเช่นนั้น”หวังหยวนเห็นท่าทีขลาดกลัวของเขาจึงส่ายหน้าแล้วยกยิ้มดูเหมือนการตัดสินใจของเขาจะถูกต้อง คนเช่นนี้จะสามารถเป็นใหญ่ในเมืองได้อย่างไร?หากปล่อยให้ฉุนอวี๋อันดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองต่อไป แม้การก่อสร้างระบบชลประทานจะแล้วเสร็จก็คงหาผลกำไรไม่ได้มากนักผลลัพธ์สุดท้ายก็คงเดาได้ไม่ยากไม่ช้าหวังหยวนและคณะก็เดินทางกลับระหว่างทางกลับ เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1851

    “หืม?” หวังหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจทันที คงเป็นเพราะเรื่องเกณฑ์แรงงานจึงทำให้ประชาชนไม่พอใจ“ทุกคน!”“เรื่องนี้คงเกิดจากความเข้าใจผิดใช่หรือไม่?”“ข้าต้องการแรงงานมาช่วยทำงาน แต่ก็เพื่อการพัฒนาเมืองอู่เจียง!”“เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ ในฤดูฝน พวกเราก็ไม่ต้องกังวลว่าแม่น้ำจะเอ่อล้นอีกต่อไป และที่สำคัญที่สุด เวลาในการเดินทางระหว่างเมืองอู่เจียงกับเมืองต่าง ๆ ก็จะใกล้เคียงลงมาก!”“นับเป็นเรื่องที่ดีต่อแผ่นดินและประชาชน!”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่ได้ใช้แรงงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง ข้าจะจ่ายค่าจ้างให้เดือนละหนึ่งตำลึง!” หวังหยวนอธิบายสถานการณ์โดยย่อความจริงเป็นเช่นนั้น เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ เมืองอู่เจียงจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง! ในอนาคต แม้แต่เมืองหลวงก็อาจจะพัฒนาไม่ดีเท่าเมืองอู่เจียง! แต่ทั้งหมดนี้นั้นเป็นเพราะเมืองอู่เจียงมีแม่น้ำห้าสายไหลผ่าน หากไม่เป็นเช่นนี้จะมีโอกาสสร้างระบบชลประทานได้อย่างไร?“จ่ายค่าจ้างด้วยหรือ?”“ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเช่นนั้นเลยไม่ใช่รึ?”“พวกเราคงจำผิดไปกระมัง?”“ใช่แล้ว! ข้าได้ยินมาว่าท่านผู้นำเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1850

    “การเตรียมการต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง?”หวังหยวนยกถ้วยชาขึ้น สายตาจับจ้องไปยังเกาเล่อขณะเอ่ยถามเกาเล่อส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ข้าได้ค้นหาคนผู้มีความสามารถอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ราบรื่นดังที่คาดหวังไว้ขอรับ” “บางคนก็มีความรู้ความสามารถ บางคนก็ไม่อาจคาดเดาเจตนาได้ โดยสรุปแล้วก็ยังไม่พบผู้ใดที่เหมาะสมนัก”หวังหยวนพยักหน้า แท้จริงแล้ว การค้นหาคนที่ไว้ใจได้และมีความรู้ความสามารถนั้นจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร? เวลาเพียงสองวันนั้นย่อมไม่เพียงพอ“เช่นนั้นเจ้าจงค้นหาต่อไป” “อย่างไรเสียข้าก็ต้องอยู่ที่เมืองอู่เจียงต่อไปอีกนาน” “เรื่องต่าง ๆ ในที่นี้ ข้าจะรับผิดชอบเอง” “แต่ก่อนหน้านั้นเจ้ายังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือการจัดหาแรงงานเพื่อช่วยข้าขุดคลอง” หวังหยวนสั่งการเพิ่มเติมเกาเล่อรับคำแล้วก็จากไปหลังจากอยู่ในห้องมาสองวัน แผนที่ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว หวังหยวนจึงสั่งให้คนจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จแม้ว่าฉุนอวี๋อันจะพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่เคียงข้างหวังหยวน เกาเล่อควบคุมข่าวสารต่าง ๆ แต่เรื่องราวภายในเมืองอู่เจียงนั้น ฉุนอวี๋อันย่อมรู้ดีกว่า

DMCA.com Protection Status