แชร์

บทที่ 1285

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หงหยิ่งก้าวออกจากร้านขายธัญพืช แล้วมุ่งหน้าไปยังตรอกแคบ ๆ!

เกาเล่อเดินตามหลังไปอย่างกระชั้นชิด นัยน์ตาฉายแววเย็นชา!

ปกติแล้วหงหยิ่งมักจะไปซื้อของใช้จำเป็นอื่น ๆ แต่ในวันนี้นางตรงไปยังสถานที่ห่างไกล ซึ่งทำให้เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่เขาคิด!

เขาเดินตามนางไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองจึงเดินตามกันไปโดยเว้นระยะห่าง

หงหยิ่งรีบร้อนจนไม่รู้ว่าเกาเล่อแอบตามมาข้างหลัง นางเอาแต่คิดวนเวียนอยู่ในใจว่านางถูกจับได้แล้วหรือเปล่า?

หากถูกจับได้แล้วจริง ๆ จะทำอย่างไรดี!

หรือว่านางทำผิดพลาดไป?

แท้จริงแล้วนางไม่รู้ว่าทุกสิ่งที่นางกระทำอย่างระมัดระวังนั้นยังคงเป็นความลับอยู่ แต่ในยามคับขัน นางกลับไม่สามารถตัดสินใจได้!

เกาเล่อเป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่า ส่วนหวังหยวนก็สามารถควบคุมจิตใจคนได้ ผู้หญิงคนเดียวอย่างนางย่อมสู้ทั้งสองคนนี้ไม่ได้

ดังนั้นทุกครั้งที่นางมีความคิดบางอย่างในใจ ก็จะเกิดความลนลาน!

เรื่องนี้จึงนำไปสู่ความล้มเหลวของนางครั้งแล้วครั้งเล่า!

และครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่กำลังจะจบลงด้วยความล้มเหลว!

ไม่เพียงเท่านั้น มันยังจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของนางอีกด้วย!

หงหยิ่งมาถึงบ้านร้างแห่งหนึ่ง

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1286

    เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของหงหยิ่งก็ยิ่งดูแย่ลง“หากเป็นเช่นนั้นจริง ไม่ใช่ว่า...”หงหยิ่งขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ!หากเป็นเช่นนั้น นางก็ไม่สามารถลงมือจัดการหวังหยวนได้แล้ว!“ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอย่างไร แผนการที่จะจัดการกับหวังหยวนต้องถูกระงับ... บัดซบ! ชายผู้นี้ช่างรับมือยากเสียจริง!”หงซาถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด!“ท่านพี่ ไม่เช่นนั้น... เรามาลงมือกันเลยดีกว่า! ด้วยการร่วมมือกัน เราน่าจะสามารถจัดการกับหวังหยวนได้!”หงหยิ่งพูดออกมาทันที เมื่อได้ยินดังนั้น หงซาก็ครุ่นคิด“เรื่องนี้... ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อน หากทำเช่นนั้นก็มีความเสี่ยงสูง!”“หากสำเร็จก็คงดี แต่หากล้มเหลว เจ้าก็จะต้องซ่อนตัวอีกเป็นเวลานาน!”หงซาเองก็ลังเล!เพราะหงหยิ่งอยู่เคียงข้างเฉินอวิ๋นจื้อมาเป็นเวลานาน จึงถือว่าเป็นคนที่เข้าใกล้หวังหยวนได้มากที่สุด!หากครั้งนี้ล้มเหลว แผนการของหงหยิ่งในอนาคตก็คงจะไม่สำเร็จ และการที่จะส่งใครไปอยู่ใกล้หวังหยวนก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก!หลังจากถอนหายใจ หงซาก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า“เรื่องนี้ข้าจะต้องไปปรึกษาคุณชาย เจ้าพยายามยืดเวลาออกไปก่อน รอจนกว่าคุณชายจะตอบกลับมา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1287

    การที่หวังหยวนจะสังหารหงหยิ่งนั้นมันช่างง่ายดายเสียเหลือเกิน!หากพวกนางคิดจะมาจัดการเขาก็เชิญมาได้เลย!เพราะหวังหยวนก็อยากรู้เหมือนกันว่าพวกนางจะมีหนทางใดที่จะจัดการกับเขาได้!“แต่ว่า... พี่หวัง เรื่องนี้อาจจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเฉินอวิ๋นจื้อ!”ในเวลานี้เกาเล่อกล่าวขึ้น สีหน้าแฝงไปด้วยความกังวล!หวังหยวนได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมา เขาเองก็เข้าใจดี!“เจ้าพูดถูก แม้ว่าเราจะไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อสตรีผู้นี้ แต่สำหรับเฉินอวิ๋นจื้อแล้ว นางก็ยังคงเป็นคนที่เขารัก!”หวังหยวนก็กำลังคิดอยู่ว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี!ฆ่าทิ้งหรือ?วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้ว!แต่หากฆ่าทิ้งไปแล้ว สำหรับเฉินอวิ๋นจื้อ มันก็คงจะเป็นบาดแผลที่รุนแรงอย่างมาก!ทั้งหวังหยวนและเกาเล่อเองก็ไม่เคยเชื่อใจสตรีของเฉินอวิ๋นจื้อมาตั้งแต่แรก!แม้แต่เรื่องนี้ก็ยังปิดบังเขาไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ!ความรู้สึกเช่นนี้ก็เหมือนกับว่ามีเพื่อนที่ดีที่สุดอยู่ แต่แล้ววันหนึ่งกลับพบว่าพวกเขากลับมีความสงสัยในตัวคนที่ใกล้ชิดที่สุดมาตลอด เรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะยอมรับได้!แม้ว่าหงหยิ่งจะมีปัญหาจริง แต่หากเฉิน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1288

    ในเวลานี้หากลงมืออีกครั้ง ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะสูญเปล่าไปทั้งหมด ไม่เพียงเท่านั้น ยังอาจจะทำให้ชีวิตของตนเองตกอยู่ในอันตรายด้วย!“น้องสาว คุณชายใหญ่คิดที่จะสังหารหวังหยวน แต่ว่า...หากหวังหยวนเตรียมตัวมาแล้ว เห็นทีพวกเราต้องตายแน่ ครั้งนี้เจ้าคิดจะเลือกอย่างไร?”หงซาถามขึ้น เขามีชีวิตอยู่เคียงข้างเซิ่งตงฉยงมาตลอดหลายปี ย่อมรู้จักนิสัยใจคอของผู้เป็นนายดี!แต่เพราะรู้จักดีจึงยิ่งกังวลใจมากขึ้น!เพราะว่า...ความโหดเหี้ยมของคนผู้นี้อยู่เหนือจินตนาการของพวกเขา!ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนผู้นี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับชีวิตของพวกเขาเลย!หงซารู้ความจริงข้อนี้มานานแล้ว เพียงแต่ไม่เคยพูดออกมาเท่านั้น!แต่คราวนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาด!ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ก็ต้องฆ่าหวังหยวนให้ได้!นั่นก็หมายความว่าต้องใช้ชีวิตของพวกเขาสองคนเข้าแลกเพื่อฆ่าหวังหยวน!ต้องบอกว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของเซิ่งตงฉยงทำให้เขาเสียใจอยู่ไม่น้อยหงหยิ่งมองไปที่หงซาด้วยนัยน์ตาหมองเศร้า นางจะไม่รู้ว่าพี่ชายต้องการจะสื่ออะไรได้อย่างไร?เพียงแต่...นี่คือคำสั่งของคุณชายใหญ่ แล้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1289

    เมื่อหงหยิ่งจากไปจากที่นี่แล้ว ก็ได้ไปซื้อของอร่อย ๆ มากมายที่ตลาด เพื่อกลับไปทำอาหารมื้อสุดท้ายให้กับเฉินอวิ๋นจื้อไม่ว่านางจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม นี่จะเป็นมื้อสุดท้ายแล้ว!นางได้ใช้ประโยชน์จากเฉินอวิ๋นจื้อมานานแสนนาน แต่ในใจกลับรู้สึกไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย!สิ่งที่นางทำได้ในตอนนี้ ก็คือการกินอาหารมื้อสุดท้ายกับเขาให้ดีที่สุดแท้จริงแล้วในใจของหงหยิ่งก็เคยหวั่นไหวมาหลายครั้ง เพราะคิดว่าการใช้ชีวิตเช่นนี้ก็ดีไม่น้อยแต่ว่า...นางยังคงตัดใจจากตระกูลเซิ่งไม่ได้!บางทีความคิดที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กนั้นอาจจะฝังรากลึก ยากที่จะถอนออกได้อย่างสิ้นเชิง!ดังนั้นทุกครั้งที่นางคิดจะยอมแพ้ นางก็จะหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีแต่ว่า...จนถึงตอนนี้นางได้เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วทันทีที่ได้ยินหงซาพูดประโยคที่ว่า “ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม” นางก็ได้สติขึ้นมาตัวนางเอง...เป็นเพียงแค่เครื่องมือชิ้นหนึ่งเท่านั้น!ไม่มีความสำคัญเลย!ไม่เพียงแต่ไม่สำคัญเท่านั้น แต่ยังเป็นเพียงเครื่องมือที่แทบไม่มีค่าด้วยซ้ำ!ดังนั้น...หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของเรื่องนี้ก็ไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1290

    เฉินอวิ๋นจื้อนึกขึ้นได้จึงรีบพูดออกมา!หมู่บ้านต้าหวังช่างเหมือนกับหมู่บ้านในฝัน!มีทั้งภูเขาและแม่น้ำ ผู้คนก็ซื่อสัตย์ ใจดี นั่นคือสวรรค์บนดินอย่างแท้จริง!เพียงแต่เขาไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของหงหยิ่ง!นางไม่ได้พูดถึงฉากในฝันว่ามีอยู่จริงหรือไม่!แต่ว่า...นางจะบอกว่านางไม่อาจมีชีวิตในฝันอันแสนสุขนี้ได้ต่างหาก!ในขณะเดียวกัน สำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ หวังหยวนไม่ได้สนใจมากนัก แต่ทั้งจวนอ๋องเป่ยหลิงได้เตรียมพร้อมรับมือแล้วทุกมุมล้วนมีคนของหวังหยวน!ไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีวิทยายุทธ์ที่สูงส่งเท่านั้น แม้แต่ปืนคาบศิลาพวกเขาก็ยังมี!วิธีการเช่นนี้ทำให้คนธรรมดาไม่อาจเข้ามาได้!ขณะนี้หวังหยวนกำลังนั่งขัดสมาธิทำสมาธิบนเตียง สูดลมหายใจยาวนานครบรอบที่กำหนด!เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นพร้อมรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นกำหมัดแน่น!“สิบสองรอบใหญ่ เจ็ดสิบสองรอบเล็ก ตำราเคล็ดวิชาลมปราณที่ว่านี้ช่างน่าทึ่งจริง ๆ!”“ทุกครั้งที่ผ่อนลมปราณ ข้ารู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ!”“ตอนนี้ความแข็งแกร่งของข้า ถึงแม้จะยังเทียบไม่ได้กับพวกต้าหู่ แต่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือแล้วใช่หรือไม่?”หวังหยวนคิดเช่นน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1291

    รุ่งอรุณของวันต่อมา ดวงตะวันยังคงขึ้นเหมือนเดิม แต่ทว่าวันนี้คงจะแตกต่างออกไป!เมื่อคืนหวังหยวนและหวงเจียวเจียวหลับสบาย เมื่อหวังหยวนตื่นแต่เช้าก็ฝึกฝนวิชาเล็กน้อยในลานบ้าน!การฝึกฝนยามเช้าได้ผลดีเป็นทวีคูณ!หลังจากฝึกฝนเรียบร้อยแล้ว หวังหยวนก็รีบไปที่ราชสำนักแต่เช้าเมื่อเซียวฉู่ฉู่จากไป นางก็ยังคงกำหนดเวลาสำหรับประชุมราชสำนักไว้ หวังหยวนยิ้มให้กับงานในตอนเช้าเช่นนี้ เพราะรู้สึกชื่นชอบเป็นอย่างมากเพราะความรู้สึกเช่นนี้ดีกว่าการทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็นในสังคมสมัยใหม่เสียอีก!ในราชสำนัก เหล่าขุนนางผู้ช่วยไท่จื่อทั้งสี่ ซึ่งก็คือเหล่าอ๋องทั้งสี่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด เรื่องราวสำคัญต่าง ๆ ในราชสำนักนั้น ย่อมต้องเป็นเหล่าอ๋องทั้งสี่นี้ที่เป็นผู้ตัดสินส่วนไท่จื่อนั้นจะได้เรียนรู้มากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง“กราบทูลฝ่าบาท ฤดูเก็บเกี่ยวปีนี้ของเมืองหวงไม่ค่อยดีนัก เขตหลิงหนานเกิดภัยแล้ง ดังนั้น... จำเป็นต้องให้ราชสำนักจัดสรรเสบียงบรรเทาทุกข์ เพื่อช่วยเหลือราษฎรให้ผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากนี้พ่ะย่ะค่ะ!”ขณะนั้นเจ้ากรมกรมโยธาธิการก็เอ่ยขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวลการบรรเทา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1292

    อ๋องหลงซีรู้สึกอับอายทันทีเมื่อรู้ตัวว่าถูกมองความคิดออก แต่ก็ยังกัดฟันพูดว่า“เอ่อ... หวังหยวน ความจริงแล้วเรื่องนี้ควรให้ท่านอ๋องเจิ้นตงไปจัดการเสียมากกว่า จะได้ย้ายเขาออกจากเมืองหลวง เพื่อให้เขาได้ละทิ้งความทะเยอทะยานในใจเสีย!”“แต่... อ๋องเจิ้นตงผู้นี้ สำหรับเรื่องการบรรเทาทุกข์นั้น กลัวว่าจะทำได้ไม่ดี เขาโหดเหี้ยมไร้ความปรานี เกรงว่าจะจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดีนัก เขาอาจจะสังหารประชาชนกลุ่มหนึ่งให้จบเรื่องไปก็เป็นได้!”ความกังวลของอ๋องหลงซีนั้นสมเหตุสมผลแล้ว เพราะว่าอ๋องเจิ้นตงผู้นี้โหดเหี้ยมเกินไปจริง ๆ!และอีกอย่างหนึ่ง คือจิตใจเขาพะวงกับเรื่องราวของราชสำนักเมืองหวง หากไปที่หลิงหนานแล้ว เขาก็คงจะไม่สามารถตั้งใจจัดการเรื่องการบรรเทาทุกข์นี้ได้อย่างดีเกรงว่าเขาจะรีบทำให้จบเรื่อง แล้วทำให้เกิดความอดอยากไปทั่วหลิงหนานเช่นเดิม ซึ่งไม่มีผลดีอะไรเลยหรือแม้กระทั่งอาจจะยักยอกเงินของอาณาจักรก็ได้ หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็คงจะรับไม่ได้!ส่วนอ๋องหลงซี แม้ว่าเขาจะอยากไป แต่ว่าองครักษ์เงาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของเมืองหวง หน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือการปกป้องเมืองหวงไม่ให้เกิดความวุ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1293

    หลังจากกล่าวจบอ๋องหลงซีก็เดินจากไป!ทันใดนั้นเกาเล่อก็รีบรุดเข้ามาพลางอดรนทนไม่ไหวที่จะกล่าวว่า “พี่หยวน เราจะต้องไปบรรเทาทุกข์จริงหรือ?”หวังหยวนถอนหายใจอย่างหมดหนทาง“ในเมืองหวงแห่งนี้ล้วนมีแต่ผู้ที่ไม่อาจรับผิดชอบต่อเรื่องใหญ่ได้ ทั้งยังเป็นเรื่องบรรเทาทุกข์ภัยนี้อีก ซึ่งยากยิ่งกว่ายาก!”“ดังนั้น... อาจเป็นไปได้ว่าข้าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดจริง ๆ”เมื่อหวังหยวนกล่าวจบ เกาเล่อก็อดรนทนไม่ไหวที่จะกล่าวว่า “เรื่องบรรเทาทุกข์ภัยของเมืองหวงในแต่ละปี ข้าทราบดีว่าไม่เคยเป็นไปด้วยดีเลยสักครั้ง!”“อ๋องเจิ้นตงและอ๋องเซ่อเป่ยผู้ล่วงลับต่างก็แย่งกันรับผิดชอบเรื่องนี้มาโดยตลอด”“เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่เกิดภัยพิบัติ ราชสำนักจะจัดสรรเงินจำนวนมาก พวกเขาทั้งสองจะแบ่งใส่กระเป๋าตัวเองไปถึงห้าส่วน ที่เหลือสองส่วนใช้จ่ายไปกับการเตรียมการบรรเทาทุกข์ และสามส่วนที่เหลือใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย!”เมื่อหวังหยวนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย“สามส่วนหรือ? น้อยเกินไปหรือไม่?”เมื่อหวังหยวนกล่าวจบ เกาเล่อก็ถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง“นี่ถือว่าไม่น้อยแล้ว เพราะพวกเขาไม่เคยคิดจะจัดการเรื่องนี้อย

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1870

    “ขอเพียงท่านไว้ชีวิตข้า เงินเหล่านี้ล้วนเป็นของท่าน!”“ถือเสียว่าข้าขอขมาลาโทษ!”หวังหยวนเย้ยหยัน หรือว่าเจ้าผู้นี้คิดว่าเงินทองซื้อได้ทุกอย่าง?หวังหยวนเตะเข้าที่ข้อมือของเขา ตั๋วเงินปลิวว่อน ผู้คนที่มุงดูต่างกรูกันเข้ามาแย่งชิง!สถานการณ์ช่างอลหม่าน!เฉินเทียนรู้สึกราวกับหัวใจถูกบีบ!เงินจำนวนมากถูกคนอื่นแย่งชิงไปหมดแล้วหรือ?ในใจเขาจะรู้สึกดีได้อย่างไร?“ท่านผู้นำ จะจัดการกับมันอย่างไรดีขอรับ?”เกาเล่อที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้ว“พาตัวเขาไปหาตระกูลเฉิน ข้าอยากรู้ว่าเฉินเจิ้นหนานผู้นี้มีความสามารถมากเพียงใด!”“ถึงกล้าปล่อยให้ลูกชายอาละวาดในเมืองอู่เจียง!”หวังหยวนกล่าวอย่างเย็นชาหากเขามาไม่ถึงที่นี่คงไม่ยุ่งเรื่องวุ่นวายของชาวบ้านเช่นนี้ แต่ในเมื่อเขามาถึงเมืองอู่เจียงแล้ว ที่นี่ก็เป็นเขตของเขา เมื่อพบเจอคนพาล ย่อมไม่อาจปล่อยไปได้ง่าย ๆ!เหงื่อเม็ดโตหยดลงมาจากหน้าผากของเฉินเทียนไม่หยุดขอเพียงไม่เอาชีวิตเขาก็ยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์ไม่ว่าหวังหยวนจะมีความสามารถล้นฟ้าหรือไม่ เมื่อไปถึงตระกูลเฉิน หวังหยวนย่อมไม่สามารถทำอะไรได้แน่นอน!ในเมืองอู่เจียง ไม่มีใครไม่ให้เกียรติ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1869

    เฉินเทียนที่เพิ่งถูกหวังหยวนสั่งสอนวิ่งนำหน้าคนกลุ่มหนึ่งมา ปรากฏว่าเขาพาบ่าวไพร่มาล้อมพวกหวังหยวนไว้เกาเล่อมองไปที่หวังหยวน ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยเท่าที่เขาจำได้ เขาไม่เคยเห็นเฉินเทียนมาก่อน จู่ ๆ อีกฝ่ายก็มาหาเรื่องพวกเขาหรือว่าเป็นเพราะหวังหยวน?แต่หวังหยวนเพิ่งมาถึงเมืองอู่เจียง จะสร้างศัตรูเร็วเช่นนี้เลยหรือ?หวังหยวนไม่ได้อธิบาย เพียงแต่จ้องมองไปที่เฉินเทียนแล้วกล่าวอย่างเย็นชา “ไม่มีเวลาสนใจเจ้า รีบไสหัวไปซะ!”“ไม่เช่นนั้นก็จงรับผิดชอบผลที่ตามมาเอง!”ได้ยินเช่นนั้น เฉินเทียนไม่เพียงไม่กลัว กลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา!เขาชี้หน้าหวังหยวนแล้วกล่าวเยาะเย้ย “สมองเจ้าโดนลาเตะมาหรือ?”“เจ้าดูสิว่าที่นี่คือที่ใด!”“ดูฐานะของข้าด้วย!”“ข้าเป็นคนของตระกูลเฉิน!”“ในเมืองอู่เจียง นอกจากสามตระกูลใหญ่แล้ว แม้แต่ผู้ว่าราชการเมือง เมื่อเจอข้าก็ยังต้องพูดจาด้วยความเคารพ!”“เจ้าเป็นใครไม่ทราบ?”สีหน้าของเกาเล่อพลันเปลี่ยนไปทั่วทั้งใต้หล้ามีสักกี่คนที่กล้าพูดกับหวังหยวนเช่นนี้ ช่างบังอาจนัก!ในพริบตาก็เห็นเขาวิ่งไปหาเฉินเทียนอย่างรวดเร็ว และเตะเข้าที่หน้าอกของเฉินเทียน!เฉินเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1868

    แม้แต่หวังหยวนก็ไม่กล้ากระโดดลงมาจากชั้นสามโดยง่าย !แต่เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะประเมินแม่นางหรูเยียนต่ำเกินไป นางกลับเหาะหนีไปต่อหน้าต่อตา!ช่างน่าเจ็บใจยิ่งนัก!“ดูท่าต้องหาวิธีอื่นแล้ว!”หวังหยวนพึมพำกับตัวเอง จากนั้นก็เตรียมลงไปชั้นล่างอย่างไรเสีย ตอนนี้ก็จำใบหน้าของแม่นางหรูเยียนได้แล้ว แค่บอกกล่าวกับเกาเล่อ ต่อไปก็ยังสามารถตามหาตัวนางได้นางคิดหนี มีหรือจะง่ายดาย?ไม่มีทางหนีรอดพ้นฝ่ามือของเขาไปได้!หวังหยวนตัดสินใจแน่วแน่ จากนั้นก็เดินลงไปชั้นล่างในขณะนี้แม่นางหรูเยียนกระโดดลงมาจากชั้นสาม และกำลังหลบอยู่ในตรอกแห่งหนึ่งโชคดีที่นางเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาและใบหน้ายังคลุมด้วยผ้าขาว ไม่มีใครจำนางได้ จึงไม่เกิดความวุ่นวายใด ๆ“ข้าจำเจ้าได้ หวังหยวนใช่หรือไม่?”“เจ้ารอข้าก่อนเถิด!”“ฟ้ายังมีตา วันหน้าข้าจะกลับมาแก้แค้นเจ้า!”“ถึงตอนนั้นข้าจะให้เจ้าคุกเข่าต่อหน้าข้าแล้วก้มหัวขอขมาข้า!”“เพื่อให้เจ้ารู้ว่า การบังอาจรุกรานข้ามีผลเช่นไร!”แม่นางหรูเยียนพูดต่ออีกสองสามประโยค จากนั้นไม่เอ่ยคำใดอีก เดินลึกเข้าไปในตรอกอย่างรวดเร็ว!ในเมืองอู่เจียง หวังหยวนมีอำนาจล้นฟ้า หากเขาต้อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1867

    “เจ้าช่างสมควรตายจริง ๆ...” แม่นางหรูเยียนกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของหวังหยวนที่ดูจริงจังไร้ซึ่งการล้อเล่น นางก็ทำได้เพียงสะกดกลั้นความโกรธไว้นางครุ่นคิดด้วยความลังเลชั่วครู่ ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ว่ามาเถิด ท่านปรารถนาจะรู้เรื่องใดจากข้า?”หวังหยวนเผยยิ้มมุมปาก “ไม่ยากเลย ข้าเพียงต้องการรู้ที่ตั้งของพรรคทมิฬเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ ข้าไม่จำเป็นต้องรู้อะไรทั้งสิ้น”“เจ้าเชื่อมั่นศรัทธาในพรรคทมิฬมากและเชื่อมั่นในความสามารถของสาวกพรรคทมิฬ ต่อให้เจ้าจะบอกที่ตั้งแก่ข้า เจ้าก็คงมั่นใจว่าเบื้องบนย่อมรับมือได้ ดังนั้นการเปิดเผยเรื่องนี้ก็ไม่มีผลอะไรไม่ใช่หรือ?” แม่นางหรูเยียนมีสีหน้าเคร่งเครียด นางไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะวางแผนโจมตีพรรคทมิฬ! หากเขารู้ที่ตั้งฐานทัพของพรรคทมิฬ พรรคทมิฬคงไม่รอดพ้นเงื้อมมือเขาเป็นแน่! ยิ่งช่วงนี้สาวกพรรคทมิฬได้ออกอาละวาดทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้าด้วย ไม่ใช่แค่หวังหยวน แม้แต่ราชวงศ์ต้าเย่และต้าเป่ยต่างก็ต้องการกำจัดพรรคทมิฬให้สิ้นซาก!หวังหยวนและคนเหล่านั้นต่างยืนอยู่ฝ่ายเดียวกันหากพวกเขาร่วมมือกัน พรรคทมิฬคงถึงคราวต้องลำบาก...

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

DMCA.com Protection Status