แชร์

บทที่ 1201

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
อู๋หลิงก้าวเข้ามาพร้อมราชโองการในมือ

“เซิ่งตงฉยง รับราชโองการ!”

อู๋หลิงกล่าวกับเซิ่งตงฉยงทันที

เซิ่งตงฉยงเหลือบมองอู๋หลิงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก แม้ว่าเขาจะปลอบใจตัวเองมากมายเพียงใด แต่เมื่อได้เห็นเหตุการณ์นี้ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจนัก!

“ว่าอย่างไร เซิ่งตงฉยง เจ้าคิดจะยืนรับพระราชโองการหรืออย่างไร?”

อู๋หลิงเหลือบมองเซิ่งตงฉยงอย่างเย็นชา เขาเข้าใจดีว่าเซิ่งตงฉยงคิดอย่างไร!

ชายผู้นี้เปรียบเสมือนเทพสงครามของตระกูลเซิ่งผู้ที่หวังจะพิชิตโลกในอนาคต!

แต่บัดนี้กาลเวลาทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยนไปแล้ว!

เมื่อเซิ่งตงฉยงได้ฟังดังนั้นก็ยกยิ้ม

“ไม่บังอาจ เพียงแต่ตกใจเท่านั้น!”

“กระหม่อมรับราชโองการ!”

เมื่อเซิ่งตงฉยงกล่าวจบก็คุกเข่าลง!

แต่การคุกเข่าครั้งนี้ ศีรษะของเขาก้มต่ำแต่ใบหน้าไร้ซึ่งความรู้สึก!

“เซิ่งตงฉยง ข้าจะไม่พูดมาก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะเป็นขุนพลประจำชายแดน ส่วนหยางเซ่อจะเป็นแม่ทัพ ต่อไปนี้การจัดการเมืองชายแดนจะขึ้นอยู่กับหยางเซ่อ”

อู๋หลิงกล่าวจบก็ส่งราชโองการให้เขา จากนั้นจึงไปนั่งบนที่นั่งประธาน

เซิ่งตงฉยงรับราชโองการมาถือไว้โดยไม่เอ่ยคำใด

“เซิ่งตงฉยง บิดาของเจ้าในเมืองหลวงยั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Bualee Sertsri
ข้ามวันข้ามคืนละยังไม่ปลดล๊อกอิกเชี้ยะ
goodnovel comment avatar
Bualee Sertsri
อ่านไปอ่านมาก็นําเน่าเนอะวนไปวนมาหาบทสรุปไม่ได้
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1202

    เมื่อเซิ่งตงฉยงได้ฟังคำพูดนี้ก็สูดลมหายใจเข้าลึกแม้ว่าเขาจะเกลียดหวังหยวนมาก แต่เซิ่งตงฉยงก็รู้ดีว่าสิ่งที่อู๋หลิงพูดนั้นเป็นความจริง!ความสามารถของหวังหยวนนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเทียบได้!และสิ่งที่ทำให้เซิ่งตงฉยงสงสัยมากที่สุดก็คือเหตุใดเขาจึงไม่มีความคิดที่จะครอบครองแผ่นดิน!ไม่เช่นนั้นตระกูลไป๋คงจะถูกกำจัดไปนานแล้ว!ทั้งสองร่ำสุราด้วยกันเป็นเวลานานและพูดคุยกันมากมายหากไม่นับเรื่องสถานะและปัญหาอื่น ๆ อู๋หลิงและเซิ่งตงฉยงก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน!ทั้งสองเป็นวีรบุรุษในยุคนี้ เมื่อเทียบกับหวังหยวนแล้ว พวกเขาอาจจะหาจุดร่วมกันได้มากกว่า!เพราะพวกเขากับหวังหยวนนั้นแตกต่างกันมาก!แม้แต่ตอนที่อู๋หลิงเผชิญหน้ากับหวังหยวน เขาก็ยังไม่สามารถหาจุดร่วมได้เลย!เพราะในใจของเขา เขาได้มองหวังหยวนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเทียบได้แล้ว แล้วเขาจะเกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจได้อย่างไร?ตระกูลไป๋ย่อมรับรู้การเปลี่ยนแปลงในต้าเย่แล้ว!ไป๋เจิ้นถังสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วมองไปยังไส้ศึกด้วยสายตาเย็นชา!“เป็นไปตามคาด ต้าเย่ได้พิชิตตระกูลเซิ่งสำเร็จแล้ว!”“จากนี้ไปตระกูลไป๋ของเราไม่เพียงแค่ต้องเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1203

    “แต่ว่าเมื่อสิ้นตระกูลเซิ่งแล้ว ต้าเย่ก็จะกลายเป็นอาณาจักรที่แข็งแกร่งที่สุด!”“แม้ว่าจะมีเพียงสามดินแดน แต่ก็ยังคงเป็นหนามยอกอกสำหรับตระกูลไป๋อยู่และการจะดึงหนามนี้ออกก็ยากเหลือเกิน!”หลายคนต่างก็พูดขึ้นมาทีละคนด้วยความชื่นชมในสายตา!“การกระทำของหวังหยวนครั้งนี้ได้ทำให้สถานการณ์ของต้าเย่กลับมาสมดุลอีกครั้ง ข้าคิดว่าที่เขาทำเช่นนี้ก็เพราะว่าตระกูลเซิ่งนั้นอยู่อย่างไม่สงบ ความจริงแล้วการที่สามอาณาจักรเผชิญหน้ากันสามฝ่ายนั้นเป็นสถานการณ์ที่สมดุลมากที่สุด!”“แต่ตระกูลเซิ่งล่ะ? พวกเขาก่อเรื่องอยู่ตลอดเวลา หวังหยวนจึงวางแผนกำจัดตระกูลเซิ่งเพื่อให้ไปรวมเข้ากับต้าเย่!”“เมื่อมองเช่นนี้ต้าเย่คงจะล่มสลายได้ยากเสียแล้ว!”อ๋องหลงซีหัวเราะออกมา โดยมีความชื่นชมฉายแววในดวงตาของเขาเช่นกัน!“หวังหยวนผู้นี้ช่างเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถจริงๆ ครั้งนี้ตระกูลไป๋คงโกรธมากเป็นแน่ ที่ไม่เพียงแต่จะไปทำให้หวังหยวนขุ่นเคืองเท่านั้น แต่ยังได้ส่งตระกูลเซิ่งซึ่งเป็นเสือบาดเจ็บให้กับคู่แข่งอีกด้วย!”“โดยที่ฝ่ายพวกเขาทำมาทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ได้มาเพียงแค่หนึ่งดินแดน!”“ดูเหมือนฝ่ายพวกเขาจะเป็นอาณาจักรที่แข

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1204

    ทุกคนที่กำลังยืนอยู่ณ ที่นี้กำลังมองหวังหยวนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น!แม้ว่าดินแดนเดียวจะไม่กว้างใหญ่นัก แต่ก็ดีที่ตั้งแต่นี้ไปจะเป็นแผ่นดินของพวกเขาเอง!หวังหยวนมองทุกคนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม“เราได้ครอบครองเมืองหลิงอย่างสมบูรณ์แล้ว ตั้งแต่นี้ไปเราไม่ต้องสนใจใครหน้าไหนอีกต่อไปแล้ว”“แน่นอนว่า... ย่อมไม่มีใครกล้าดูถูกเราอยู่แล้ว”หวังหยวนพูดประโยคแรกจบก็แสดงให้เห็นถึงทัศนคติของเขาอย่างชัดเจน!เป็นอิสระ!มีอิสรภาพ!ทุกคนรอบกายต่างก็ระงับความตื่นเต้นของตัวเองไว้จึงไม่ได้พูดอะไร เพราะรู้ว่าหวังหยวนยังมีอะไรจะพูดอีก!“ครั้งหนึ่งข้าไม่เคยคิดที่จะครอบครองแผ่นดินแม้แต่แห่งเดียว แต่มีคำกล่าวที่ว่าเสือยิ่งแข็งแกร่ง เขี้ยวก็ยิ่งแหลมคม หลายคนจึงกังวลและหวาดกลัวพวกเรา!”“แม้ว่าพวกเราจะเป็นเสือที่เชื่องแต่ก็ยังมีบางคนที่หวาดกลัวอยู่!”“ดังนั้นแทนที่จะปล่อยให้พวกเขาลงมือจัดการเรา เราก็ควรเป็นเสือดุร้ายที่ครอบครองดินแดนสักแห่งหนึ่ง แม้ว่าจะไม่กว้างใหญ่นักแต่ก็เพียงพอให้พวกเราอยู่รอด!”“เพียงแต่ว่าดินแดนของเรานั้นค่อนข้างแห้งแล้ง!”“และในเวลานี้ สิ่งแรกที่เราต้องทำคือพัฒนาด้านการค้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1205

    “คุณชายหวัง ข้าจะทำให้ดีที่สุด!”หลังจากนั้นหวังหยวนก็มองวังไห่เทียน!“พี่วัง เรื่องจัดตั้งโรงเรียนเอกชนในเมืองหลิงที่ทั้งชายและหญิงสามารถเรียนหนังสือได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ขอให้ท่านและวังฉงโหลวรับผิดชอบร่วมกันได้หรือไม่?”หลังจากที่หวังหยวนพูดประโยคนี้จบ วังไห่เทียนก็ตอบรับโดยไม่ลังเล!นอกจากวังไห่เทียนแล้วยังมีอาจารย์อาวุโสคนอื่น ๆ ที่มีความสุขมากอีกด้วย!สิ่งที่พวกเขาเต็มใจทำมากที่สุดก็คือการสอนหนังสือและให้ความรู้ผู้คน!“ไม่มีปัญหา!”“พี่หยวน ท่านวางใจได้เลย!”วังไห่เทียนและวังฉงโหลวหัวเราะอย่างร่าเริงแล้วพยักหน้าทันที“เกาเล่อ องค์กรเครือข่ายผีเสื้อต้องยังคงดำเนินต่อไป และภายในเมืองหลิงก็ต้องจัดวางสายลับของเราด้วย การเคลื่อนไหวทุกอย่างต้องรายงานทั้งหมด!”เมื่อได้ยินคำพูดของหวังหยวน เกาเล่อก็พยักหน้าเช่นกันโดยไม่ลังเล!“และให้แจ้งว่าภาษีของเมืองหลิงนั้นเราคิดเพียงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น ส่วนอีกเก้าส่วนให้เป็นของราษฎรไป!”“ทุกคนจะได้รับการสนับสนุนด้านการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ หากมีประโยชน์ก็ย่อมมีกำลังใจในการทำต่อ!”สิ่งที่หวังหยวนทำนี้เรียกได้ว่าสร้างความตกใจให้กั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1206

    เพราะเศรษฐกิจต้องพัฒนา!แต่พลังการต่อสู้ก็ต้องพัฒนาเช่นกัน!ตอนนี้เขาต้องการสร้างรถถัง ไม่จำเป็นต้องวิ่งได้ แค่ต้องการรถเหล็กขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับคนได้เจ็ดแปดคนก็พอ!เพียงแค่การจัดวางทหารในการเฝ้ารักษาเมืองด้วยคนเจ็ดแปดคนที่ถือปืนคาบศิลา ก็เพียงพอที่จะทำให้หลายคนหมดหนทางเอาชนะแล้ว!ซึ่งแน่นอนว่าหวังหยวนได้พิจารณาถึงปัญหาเรื่องการมองเห็นแล้ว!ต้องใช้กระจก!กระจกหนาด้วย!ชั้นเดียวไม่พอก็ต้องสองชั้น!สองชั้นไม่พอก็ต้องสามชั้นหรือห้าชั้นไปเลย!โดยสรุปแล้วคือให้หนาจนใช้หินก้อนใหญ่ทุบไม่แตกก็พอ!และไม่จำเป็นต้องใช้กระจกมากนัก เพราะหากขยายขนาดหัวของศัตรูได้ก็สามารถเล็งเป้าได้แล้วส่วนการเล็งและการยิงให้แม่นนั้น ตราบใดที่ขยายจนขนาดเท่ากำปั้นก็สามารถใช้ปืนพกยิงออกไปได้!ด้วยวิธีนี้คนเจ็ดแปดคนจะมาพร้อมกับกระสุนนับพันนัด!เมื่อถึงเวลานั้น รถสิบคันพร้อมกับทหารหมื่นนายก็จะสามารถต้านทานกองทัพห้าหกหมื่นนายได้!ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระเบิดมืออีกด้วย!และหวังหยวนยังสร้างบอลลูนลมร้อนหลายลูกไว้บนกำแพงเมือง โดยผูกไว้กับกำแพงเมือง เมื่อใช้กล้องส่องทางไกลส่องจากบนนั้นจะสามารถมองเห็นสถานที่ที่อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1207

    สำหรับอาหารบางอย่าง ไป๋ชิงชางเคยกินหม้อไฟและปิ้งย่างมาก่อนจึงไม่แปลกใจอะไร แต่สำหรับเครื่องเทศปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับหม้อไฟนั้นแปลกใหม่มาก เมื่อรู้ว่าสิ่งนี้ใช้เป็นเครื่องเทศปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับหม้อไฟได้ เขาก็เกิดความคิดที่จะรับซื้อไปขาย! นอกจากเครื่องเทศปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับหม้อไฟแล้วยังมีเค้กอีกด้วย!เมื่อพวกเขาได้ลองชิมก็ต้องตะลึง! มีขนมอบเนื้อนุ่มขนาดนี้ด้วย! ครีมที่อยู่ด้านบนนั้นละลายในปากได้อย่างง่ายดาย! ลูกชิ้นหลากหลายชนิดทั้งลูกชิ้นเนื้อ ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นไก่ก็อร่อยจนเขาตะลึง!นอกจากอาหารเหล่านี้แล้ว หวังหยวนยังพาพวกเขาไปดูจักรยาน รถเข็นและของใช้อีกมากมาย พร้อมสาธิตวิธีใช้ให้ดูด้วยตัวเอง!“จักรยานคันนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาหารเหมือนม้า แม้ว่าจะช้าแต่ก็สามารถเดินทางได้หลายร้อยลี้ต่อวัน ช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางของผู้คนได้มาก!”หวังหยวนสาธิตให้ดูด้วยตัวเอง เมื่อเห็นหวังหยวนขี่จักรยานด้วยความเร็วสูง ไป๋ชิงชางก็ยิ่งประหลาดใจแม้ว่าการขี่จักรยานเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ แต่ไป๋ชิงชางเป็นผู้ฝึกยุทธ์อยู่แล้ว เขาจึงเรียนรู้ได้ภายในครึ่งชั่วยาม!เขาจึงตกใจมาก!

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1208

    หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ไป๋ชิงชางก็ถอนหายใจเพราะความจริงเป็นเช่นนั้นจริงพ่อของเขาไม่พอใจมาก แต่เรื่องนี้จะพูดอย่างไรได้? มันผ่านไปแล้ว! สิ่งที่ต้องพิจารณาในขณะนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น!แต่ควรเป็นเรื่องใหญ่อย่างเรื่องการพัฒนาของอาณาจักรต้าเป่ยหรือแม้แต่การฟื้นฟูความสัมพันธ์กับหวังหยวน! เพราะท้ายที่สุดพ่อของเขาก็ทำให้หวังหยวนขุ่นเคืองอย่างมาก! แม้ว่าหวังหยวนจะไม่ได้พูดอะไร แต่ไป๋ชิงชางก็ยังเข้าใจได้ว่า แม้ว่าเขาจงใจทดสอบด้วยการใช้ธรรมชาติของมนุษย์แต่ตระกูลไป๋ของพวกเขาไม่ผ่านการทดสอบ! หวังหยวนเริ่มช่วยเหลือตระกูลไป๋ครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยการแนะนำมาตั้งแต่สมัยฮ่องเต้ซิงหลง จนอาจกล่าวได้ว่าหากไม่มีหวังหยวน สถานการณ์ของตระกูลไป๋คงจะไม่ราบรื่นเช่นนี้ ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ตระกูลเซิ่งและเมืองหวงไม่ได้เกรงกลัวตระกูลไป๋แต่เกรงกลัวหวังหยวน! ไม่เช่นนั้นตระกูลเซิ่งคงจะไม่ใช้กลอุบายหว่านความขัดแย้งเช่นนี้! ตระกูลเซิ่งและเมืองหวงต่างก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของหวังหยวนดี จึงเริ่มใช้กลอุบายยุแยงให้แตกสามัคคี เพราะกังวลว่าหวังหยวนและตระกูลไป๋จะสนิทสนมกันมากเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1209

    สงครามจึงเป็นเรื่องปกติมาก! หากไม่มีสงครามจึงจะถือว่าผิดปกติ! สำหรับเรื่องเช่นนี้หวังหยวนไม่ได้คิดถึงมากนักและไม่มีเวลาคิดด้วย สรุปได้เพียงแค่เดินหน้าไปทีละก้าวก็แล้วกัน!“อย่าวิตกกังวลไปเลย อยู่กับปัจจุบันก็เพียงพอแล้ว”หวังหยวนประสานมือยกขึ้นคารวะพลางยกยิ้มจาง“พี่หวังช่างใจกว้างนัก ข้าขอคารวะ!”ไป๋ชิงชางพูดจบก็คิดจะกลับไปแล้ว“พี่หวัง หากสักวันหนึ่งตระกูลไป๋ของเราจะยึดครองทั้งแผ่นดิน ไป๋ชิงชางขอสาบานต่อหน้าฟ้าว่าจะไม่ลงมือทำร้ายท่าน และเมืองหลิงจะเป็นของท่านตลอดไป!”ไป๋ชิงชางพูดจบก็จากไปทันทีคำพูดนี้มีความหมายว่ารู้สึกผิดแต่ทำอะไรไม่ได้! ซึ่งความรู้สึกผิดนั้นมาจากวิธีการของพ่อของเขาที่มีต่อหวังหยวน ส่วนความรู้สึกว่าทำอะไรไม่ได้นั้นเป็นเพราะความสามารถของหวังหยวน! ดังนั้นไม่ว่าเขาจะพูดประโยคนี้หรือไม่ เมืองหลิงนี้ก็ไม่ใช่เมืองที่เขาจะสามารถยึดครองได้หากคิดจะทำอยู่แล้ว! แต่ไม่ว่าอย่างไรหวังหยวนก็รู้สึกขอบคุณอย่างมากที่ไป๋ชิงชางพูดออกมาเช่นนี้“ข้าก็สัญญาเช่นกันว่าหากสักวันหนึ่งตระกูลไป๋ลงมือกับข้า ข้าก็จะไว้ชีวิตพวกเจ้าเช่นกัน”คำสัญญาของหวังหยวนนั้นตรงไปตรงมามากก

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2246

    ตอนนี้หวังหยวนกลับพูดจาเยาะเย้ยเช่นนี้ นางจะไม่โกรธได้อย่างไร?“ดีนัก!”“พวกเราเพิ่งจะอยู่ร่วมกันไม่ถึงครึ่งปี ท่านก็เริ่มรังเกียจข้าแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ให้ข้าไปตอนนี้เลยแล้วกัน!”“ถือเสียว่าพวกเราไม่เคยรู้จักกัน!”หลิ่วหรูเยียนยังคงแข็งกร้าวเช่นเดิม พูดจบนางก็ลุกขึ้น เตรียมจะกระโดดลงจากรถม้าหวังหยวนรีบคว้าแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้ พลางเอ่ยขอโทษอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าพูดผิดไป เจ้าเป็นคนใจกว้าง อย่าได้ถือสาข้าเลย!”“อีกอย่าง ต่อให้ร่างกายของเจ้าจะมีรอยแผลเป็น แล้วจะเป็นอย่างไร? ใจของข้าก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง!”“ข้ารู้ดีว่ารอยแผลเป็นบนร่างกายของเจ้าเกิดขึ้นเพราะข้า หากไม่มีรอยแผลเป็นนี้ บางทีข้าอาจจะลืมเลือนความดีของเจ้าที่มีต่อข้า แต่หากรอยแผลเป็นนี้ยังคงอยู่ ย่อมทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้น!”“อย่างน้อยก็ทำให้ข้าจดจำความดีของเจ้าได้ตลอดไป!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ แต่ในใจกลับรู้สึกยินดีนางรู้ดีว่าหวังหยวนไม่ใช่คนอกตัญญู ไม่เช่นนั้นในคืนนั้นนางคงไม่ยืนหยัดต่อสู้เต็มที่อยู่เคียงข้างหวังหยวน!ความทุ่มเทถือว่าได้รับผลตอบแทน!หลายวันผ่านไป หวังหยวนและพรรคพวกได้เดินทางมาถึงเชิงเขา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2245

    ครึ่งเดือนผ่านไป เนื่องจากเกาเล่อได้รวบรวมช่างฝีมือมามากมาย การก่อสร้างหอไร้เทียมทานจึงคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วยามนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วคาดว่าอีกครึ่งเดือน หอไร้เทียมทานก็จะสร้างเสร็จสมบูรณ์!และในช่วงเวลานี้ อาการของหลิ่วหรูเยียนค่อย ๆ ดีขึ้น หวังหยวนได้ติดต่อกับคนของหมู่บ้านต้าหวัง เพื่อทำให้ทุกคนสบายใจตั้งแต่หลิ่วหรูเยียนล้มป่วย หวังหยวนนั้นไม่มีแก่ใจจะทำสิ่งใด ไม่ได้ติดต่อกับคนของหมู่บ้านต้าหวัง ซึ่งทำให้ต้าหู่และเอ้อหู่สองพี่น้องร้อนใจยิ่งนัก!ยามนี้เมืองหลิงอยู่ภายใต้การปกครองของพวกเขาทั้งสอง แม้ว่าจะมีถงจื่อเจี้ยนและคนอื่นช่วยเหลือ แต่ทั้งสองนั้นเป็นห่วงความปลอดภัยของหวังหยวนมากกว่าแม้ว่าพวกเขาทั้งหลายจะไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด แต่ก็รักใคร่กันยิ่งกว่าพี่น้อง!แม้ว่ายามนี้จะมีอำนาจอยู่ในมือ แต่สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญ!ขอเพียงพี่น้องได้อยู่ร่วมกัน ต่อให้ต้องสูญเสียแผ่นดินไป แล้วจะมีความหมายอะไร?เวลาผ่านไปครึ่งเดือน ทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง และในช่วงครึ่งเดือนนี้ หอไร้เทียมทานสร้างเสร็จสมบูรณ์ หวังหยวนออกจากเผ่าแล้ว ยามนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังเม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2244

    หากจะกล่าวให้ยิ่งใหญ่ขึ้นก็เพื่อปวงประชา!ดินแดนทั้งเก้าได้กลับคืนสู่ความสงบสุขได้ก็เพราะเขา เขาจึงต้องการให้ความสงบสุขนี้คงอยู่สืบไป ปวงประชาจะได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดกาล!“ไม่ทราบว่าท่านหมอเทวดาอันมีความคิดเห็นเช่นไร?”หวังหยวนเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาของเขา อันจูหมิงจึงรีบโบกมือเอ่ยว่า “ในเมื่อมีเรื่องดีเช่นนี้ มีหรือที่ข้าจะไม่เข้าร่วม? ข้าจะต้องมีที่นั่งในหอไร้เทียมทานนี้อย่างแน่นอน! ถือว่าเป็นการพิสูจน์ความสามารถของข้าด้วยก็แล้วกัน!”“อีกอย่าง ข้ารู้ว่าท่านมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า ปวงประชาต่างเคารพท่านราวกับเป็นฮ่องเต้ แม้แต่คนของอาณาจักรต้าเป่ยก็คิดเช่นนั้น!”“หอไร้เทียมทานย่อมต้องเจริญรุ่งเรืองภายใต้การดูแลของท่าน แล้วชื่อเสียงของข้าก็จะยิ่งโด่งดัง!”“เรื่องดีเช่นนี้ มีหรือที่ข้าจะพลาด?”คิดไม่ถึงว่าอันจูหมิงจะตอบรับอย่างง่ายดาย!หวังหยวนยินดียิ่งนัก “เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านหมอเทวดาอันที่ให้เกียรติ!”เมื่อได้หมอเทวดาอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าเข้าร่วม คาดว่าอีกไม่นานหอไร้เทียมทานนี้ก็จะสามารถรวบรวมผู้มีความสามารถไว้ได้มากมายแน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2243

    “รับความไว้วางใจจากผู้อื่น ต้องรักภักดีต่องานของผู้อื่น”อันจูหมิงหยิบขวดยาออกมาจากอกเสื้อ พลางเอ่ยขึ้นว่า “นี่คือยาเม็ดที่ข้าปรุงให้ฮูหยิน ทานวันละหนึ่งเม็ด หลังอาหารเย็น ในนี้มียาสามสิบเม็ด หนึ่งเดือนต่อมา ฮูหยินก็จะหายดี!”หลังจากที่หวังหยวนและคนอื่น ๆ กลับมาเมื่อวาน ก็ให้เกาเล่อนำดอกหน้าผาชันมามอบให้อันจูหมิงเขาทำได้เพียงนำดอกหน้าผาชันกลับมา ส่วนการนำมาใช้เป็นยานั้นต้องอาศัยความสามารถของอันจูหมิงอีกทั้งอันจูหมิงก็ไม่ดื่มสุราเลย เพียงคืนเดียว ยาเม็ดนี้ก็ปรุงเสร็จ!“ยังต้องกินยาอีกหรือ?”หลิ่วหรูเยียนเดินมาด้วยสีหน้าจนใจ เมื่อเห็นขวดยาอันสวยงามประณีตก็ไม่รู้สึกสนใจแม้แต่น้อยเนื่องจากนางยังมีบาดแผล ทุกวันนี้จึงต้องดื่มยามากมาย ทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายคิดไม่ถึงเลยว่าอาการป่วยของนางยังไม่หายดี แต่ปริมาณยากลับเพิ่มขึ้น ช่างน่าเจ็บใจนัก!หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือสิ่งที่พวกเราแลกมาด้วยชีวิต เจ้าต้องกินให้ดี ไม่เช่นนั้นทั้งข้า เกาเล่อ และเฉินอวิ่นจะเสียแรงเปล่า”“เกิดอะไรขึ้น?”หลิ่วหรูเยียนเอ่ยถามด้วยความสงสัยส่วนอันจูหมิงที่อยู่ด้านข้างโบกมือ เมื่อคิดอะไรบางอย่างขึ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2242

    หวังหยวนใช้นิ้วเคาะเบา ๆ ที่หน้าผากของตน จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นส่วนเกาเล่อยกยิ้ม แล้วเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “นี่ก็เป็นเรื่องง่าย หากต้องการจะได้รับฉายาไร้เทียมทานย่อมต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดของด้านนั้นๆ ต่อให้มีผู้เชี่ยวชาญมาสองคน พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องรับไว้ทั้งหมด สู้ให้พวกเขาทั้งสองประลองฝีมือกัน ผู้ใดแข็งแกร่งกว่า ผู้อ่อนแอกว่า ย่อมรู้ได้ในพริบตา!”“ท่านผู้นำคิดเห็นเช่นไรขอรับ?”หวังหยวนตบมือ เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร?เขาก็คิดเช่นนี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?หากสามารถรวบรวมผู้ที่ไร้เทียมทานเหล่านี้มาอยู่เคียงข้างได้ เขาสามารถจินตนาการถึงภาพนั้นได้แล้ว!ต่อให้ภายภาคหน้าเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าผู้ครองเมืองหลิงอีกต่อไป เพียงแค่หอไร้เทียมทานก็สามารถทำให้ผู้คนทั่วหล้ายังคงเคารพเขา และปกป้องแผ่นดินให้สงบสุขได้ด้วย!“ดื่มสุรา! ดื่มสุรา!”หวังหยวนอารมณ์ดียิ่งนัก เขายกจอกสุราขึ้น พลางโบกมือให้กับทุกคน ทุกคนจึงดื่มสุราตามเฉินอวิ่นไม่ได้ทำตัวเป็นคนนอก ในไม่ช้าก็สามารถเข้ากับทุกคนได้ดี ผู้ที่มีความสัมพันธ์อันดีที่สุดกับเขาคือไฉจวิ้นแม้ว่าไฉจวิ้นจะอายุน้อยกว่าเขามาก แต่ไฉจวิ้นมีนิสัยห้าวหาญ อีกทั้งยังไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2241

    “ถ้าอย่างนั้นก็ได้”“อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ดื่มสุรากับท่านสักสองจอกที่นี่ก็ถือว่าได้สหายเพิ่มอีกคน”“แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ดูจากความร่ำรวยของท่านแล้ว ภายภาคหน้าหากต้องการเงินทอง ท่านคงเป็นผู้ช่วยที่ดี”ชายคนนั้นไม่เกรงใจ เขากล่าวอย่างไม่ใส่ใจหวังหยวนรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเนื่องจากไท่สื่อลี่ได้เตรียมงานเลี้ยงไว้แล้ว ทุกคนจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านของไท่สื่อลี่อย่างไรเสีย หวังหยวนก็ไม่อยากดื่มสุรากับคนทั้งเผ่า ประสบการณ์ครั้งก่อนยังคงแจ่มชัด เขาไม่อยากจะประสบพบเจออีก...อีกอย่าง ครั้งนี้ที่ต้องการจะดื่มสุราก็เพราะชายตรงหน้าคนนี้คนผู้นี้ช่างลึกลับยิ่งนัก แต่มีความสามารถที่แท้จริง หวังหยวนเป็นคนชอบคนเก่ง หากสามารถทำให้คนผู้นี้มาทำงานให้ตนได้ ภายภาคหน้าย่อมเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาของเขา!“ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่าอะไรหรือ?”ขณะที่ทุกคนกำลังเดินไปยังบ้านของไท่สื่อลี่ สายตาของหวังหยวนก็จับจ้องไปที่ชายคนนั้น“ท่านไม่ต้องสุภาพมากนักหรอก เรียกข้าว่าเฉินอวิ่นก็พอ”เฉินอวิ่นเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ เห็นได้ชัดตั้งแต่แรกว่าเขาเป็นคนคนพเนจร ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์เฉินอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2240

    หวังหยวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นแน่ เขามีวรยุทธ์ล้ำเลิศ แต่กลับแต่งกายเรียบง่าย นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าเขาใช้เงินเท่าที่จำเป็น คาดว่าเงินทองส่วนเกินคงจะมอบให้ผู้อื่นไปหมดแล้ว”“นี่อาจจะเป็นความหมายของคำว่าคุณธรรมก็เป็นได้”“แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สำคัญ หากต้องการจะพิชิตใจคนผู้นี้ ดูท่าแล้วคงต้องใช้ความคิดมากกว่านี้”เกาเล่อพยักหน้าเห็นด้วย เป็นเช่นนั้นจริงๆครึ่งชั่วยามผ่านไป ชายคนนั้นกระโดดลงมาจากที่สูงเพียงไม่กี่ครั้งก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกหวังหยวน ในมือของเขาถือเกสรดอกไม้ที่ส่องประกาย“นี่คือเกสรของดอกหน้าผาชันหรือ?”ดวงตาของหวังหยวนก็เป็นประกาย เขากำลังจะยื่นมือไปรับ แต่ชายคนนั้นหดมือกลับ“สหาย ท่านสัญญากับข้าว่าจะให้หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทอง จ่ายเงินแล้วค่อยรับของ เช่นนี้ถึงจะถูกต้อง”“หากข้าไม่เห็นเงิน ข้าก็ไม่อาจมอบสิ่งนี้ให้ท่านได้”ชายคนนั้นมีท่าทีที่หนักแน่นหวังหยวนจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทองนั้นมากมายยิ่งนัก แต่สำหรับข้าแล้วนั้นไม่นับว่ามากมาย เพียงแต่ว่าข้าไม่ได้พกทองติดตัวมามากมายเพียงนั้น หรือว่าท่านจะติดตามข้าไปยังเผ่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2239

    ดังเช่นที่ชายคนนั้นได้กล่าวไว้ บนหน้าผาสูงตระหง่านแห่งนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!แม้ว่าเกาเล่อจะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศและฝึกฝนอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่อาจปีนป่ายหน้าผาได้!เมื่อครู่นี้เขาตั้งใจจะเสี่ยงอันตราย หากสามารถนำดอกหน้าผาชันกลับมาได้ย่อมเป็นเรื่องดีแต่หากไม่สำเร็จ คงต้องสูญเสียชีวิตไป...ในขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหวผ่านจุดที่ยากลำบากที่สุด ก็เห็นชายคนนั้นมาถึงข้างกาย ใช้เถาวัลย์พันรอบเอวของเขา แล้วพาเขากลับลงสู่พื้นดินทุกอย่างราวกับความฝัน ทำให้เกาเล่อไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น!หลังจากที่ชายคนนั้นช่วยเหลือเกาเล่อแล้ว ก็ไม่ได้เสียเวลาพูดคุยกับพวกหวังหยวนอีก แต่กลับมุ่งหน้าไปยังหน้าผาอีกครั้ง!การเคลื่อนไหวนั้นช่างชำนาญยิ่ง ราวกับเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือ!ทั้งสองคนที่ยืนอยู่บนหน้าผารู้สึกราวกับกำลังชมการร่ายรำ เพียงแต่ว่าท่วงท่าอันงดงามนี้ หากเกิดความผิดพลาดเพียงครึ่งก้าวย่อมต้องแลกมาด้วยชีวิต!ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นร้ายแรงยิ่งนัก!หวังหยวนและเกาเล่อสบตากัน เกาเล่อเอ่ยขึ้นว่า “ชาติที่แล้วเจ้านี่คงเกิดเป็นลิง ทักษะของเขาจะดีเยี่ยมปานนี้ได้อย่างไร? หรือว่าจะเป็นผู้มีวิชาที่เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2238

    น่าเสียดาย หากต้องการเก็บเกสรดอกหน้าผาชันก็จำเป็นต้องมีทักษะอย่างแท้จริง!“ท่านรู้จักดอกหน้าผาชันด้วยหรือ?”หวังหยวนเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว“ย่อมต้องรู้จักสิ”“ท่านไม่อยากรู้หรือว่าข้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”“ง่ายมาก! ข้าเองก็มาเพื่อดอกหน้าผาชันนี้เช่นกัน!”ชายคนนั้นกอดอกพูดคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ท่านต้องการดอกหน้าผาชันไปทำอะไร?”หวังหยวนรีบถาม“แน่นอนว่าต้องนำไปแลกเงิน”“ดอกหน้าผาชันนับว่าเป็นสมุนไพรล้ำค่า ข้าต้องพึ่งพามันเพื่อหาทางอยู่รอด!”“ดอกหน้าผาชันหนึ่งดอกสามารถขายได้สิบตำลึงเงิน เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของข้า!”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เพียงแค่สิบตำลึงเงินเองหรือ?“เหตุใดจึงมีราคาแต่ไม่มีคนขาย?”หากสามารถใช้เงินซื้อดอกหน้าผาชันในตอนนั้นได้ เขาจะลำบากเดินทางมาที่นี่เพื่ออะไร?บ่ายวันนี้ หวังหยวนได้แอบสอบถามมาแล้ว ปรากฏว่าในเผ่าไม่มีดอกหน้าผาชันแม้แต่ดอกเดียว!เขามีบารมีสูงส่งในเผ่า ผู้คนในเผ่าย่อมไม่หลอกลวงเขาหรือว่า...ชายตรงหน้าเขากำลังโกหก?“เหตุใดท่านมองข้าเช่นนี้?”“แน่นอนว่าดอกหน้าผาชันไม่ได้มีไว้ขายให้กับคนในเผ่า เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการสิ่งนี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status