หญิงสาวหน้าตาดียิ้มอย่างขมขื่น "นายท่าน สำหรับท่านการสูญเสียพรหมจรรย์เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การสูญเสียความซื่อสัตย์เป็นเรื่องใหญ่ เมื่อพวกเราตกสภาพเช่นนี้แล้ว ครอบครัวของข้าคงยอมให้ข้าตายดีกว่ากลับไปอับอายเช่นนั้น!""ฮือ ๆ..."ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งร้องไห้เสียใจออกมาไม่ใช่ว่าพวกนางไม่มีบ้าน แต่มีบ้านแล้วกลับไปไม่ได้มากกว่า หากกลับไปก็มีแต่จะนำความอับอายมาสู่พ่อแม่"..."หวังหยวนตกใจยุคนี้ผู้หญิงให้ความสำคัญกับชื่อเสียงเป็นอย่างมากนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลี่ซื่อหานทั้งๆที่ถูกเจ้าของร่างคนก่อนทุบตีอย่างรุนแรง แต่ไม่ยอมจากไปไหนถ้าผู้หญิงพวกนี้กลับบ้าน อาจมีเรื่องซุบซิบลับหลังตามมามากมาย!พวกนางอยู่ที่นี่ยังพออยู่ได้ แต่ถ้าพวกนางกลับบ้าน เกรงว่าได้จมน้ำลายตายแน่!ในตอนนี้ เขารู้สึกได้ถึงความชั่วช้าของพวกโจรเหล่านี้ได้อย่างแท้จริง!“พี่หยวน!”เมื่อมองเหล่าหญิงสาวพวกนี้แล้ว หวังซื่อไห่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า "แล้วถ้าพาพวกนางกลับไปที่หมู่บ้านต้าหวังล่ะ? ตอนนี้มีคนกินข้าวกันมากขึ้น ทั้งห้าคนที่ทำงานในโรงอาหารก็ยุ่งเกินไป ให้พวกนางมาช่วยได้นะ ""ก็ดี!"หวังหยวนพยักหน้า "ถ้าเจ้าอ
หวังหยวนพูดอย่างจริงจังหลังจากเห็นผู้หญิงเหล่านั้น เขาก็โกรธมากและอยากจะสับพวกโจรเป็นชิ้น ๆแต่คนอย่างเซี่ยซานหู่ถ้าปล่อยตัวเขานั้นมีค่ามากกว่าถูกฆ่าอย่างเปล่าประโยชน์!“นายท่านขอรับ ข้าไม่สนใจผู้หญิง พวกนั้นถูกพี่ใหญ่และพี่รองฉุดมาทั้งนั้น แต่อย่างที่ท่านว่า ข้าจะตั้งกฎเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีกในอนาคต!”เซี่ยซานหู่คารวะเขาออกจากห้อง ถอยออกจากบ้านไป ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าของเขาก็หยุดลง!หวังหานซานเดินเข้าไปในค่ายซานหู่พร้อมเฮยซินหู่ที่ถูกมัดมือไว้!“พี่ใหญ่ของข้าถูกจับมัดมือเช่นนี้ นายท่านมีลูกน้องที่มีความสามารถยอดเยี่ยมจริง ๆ!”เซี่ยซานหู่ออกไปเตร็ดเตร่นอกค่าย เจอเงินที่ฝังไว้จึงหยิบออกมาวิ่งลงจากเขา“เจ้าคือหวังหยวนสินะ ข้าคิดว่าเจ้าจะเก่งกาจไร้เทียมทาน แต่เจ้ากลับเป็นแค่บัณทิตหน้าอ่อนเนี้ยนะ!”เมื่อเขาได้เห็นหวังหยวน เซี่ยซานหู่มองเขาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าไปมาด้วยสีหน้าดูถูก!นอกจากหน้าตาดีแล้ว เด็กคนนี้ไม่มีความน่าเกรงขามอะไรเลย จะไปเทียบกับแม่ทัพมู่ได้ยังไง!นอกจากฉลาดเป็นกรดแล้ว เขาไม่รู้จริงๆว่าทำไมพี่ใหญ่ถึงยอมติดตามเขา!"หุบปาก!"หวังหานซานดุและพูดกับหวังหยวน "ผู
ทันใดนั้นก็มีคนตะโกนขึ้นมา "ดูสิ รีบมาดูเร็ว หวังหยวนและคนอื่น ๆ กลับมาแล้ว!"ภายใต้แสงแดดยามเช้า คนกลุ่มหนึ่งค่อย ๆ เข้าไปในหมู่บ้านต้าหวัง!หวังหยวนขี่ม้าเลว สวมชุดเกราะสีดำห้อมล้อมไปด้วยแสงอาทิตย์ ดูเหมือนเทพเจ้าแห่งสงคราม!ต้าหู่และเอ้อหู่ กัวฉาง, กัวเหลียง, กัวเฉียง, หวังซื่อไห่, หวังเอ้อโกว, หวังชิงซาน, หวังเสี่ยวซาน, และหานอู่หยา พ่อค้าปลาอายุน้อยยี่สิบสามคนเงยหน้าขึ้น และยืดอกขึ้นราวกับว่าพวกเขาเป็นแม่ทัพที่ชนะศึกมา!ในตอนนี้ ไม่เหลือร่องรอยของความขี้ขลาดบนใบหน้า พวกเขาเต็มไปด้วยความกล้าหาญอันไร้ขอบเขตชนิดที่สามารถทลายภูเขา ฝ่าทะเลและปีนขึ้นไปสู่ท้องฟ้า พวกเขาไม่กลัวความยากลำบากใด ๆ อีกต่อไป!กลุ่มข้างหลังมีรถสามคัน!เกวียนคันหนึ่งมีผู้หญิงมากกว่าสิบคนนั่งมา เฮยซินหู่ที่มีหน้าตาดุร้ายถูกมัดไว้ และเกวียนนั้นเต็มไปด้วยศพของพวกโจรหวังหยวนกลับมาแล้ว และเขาก็พาคนมากมายมาด้วย พวกเขาทั้งหมดกลับมาแล้ว!นอกจากนี้เขายังนำเฮยซินหู่และศพโจรภูเขาจำนวนมากกลับมาพร้อมชัยชนะอันยิ่งใหญ่!ชาวบ้านดีใจมีความสุขมากจนลืมแม้แต่จะกระทืบหวังต้าจวินและวิ่งไปพร้อมกับตะโกนโห่ร้อง!"ท่านพี่!"หล
น่าอายมากที่กอดสามี และทำตัวรุ่มรามต่อหน้าคนมากมาย!"ฮ่า ฮ่า ฮ่า!"ชาวบ้านถึงกับหัวเราะ!“เอาล่ะ เรามาเริ่มเรื่องกันดีกว่า!”หวังหยวนโบกมือ ที่นี้ก็เงียบลง เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ค่ายซานหู่พ่ายแพ้แล้ว นับจากนี้ไปเราจะปลอดภัยอย่างแน่นอน! ทางการได้มอบรางวัลค่าหัวของเฮยซินหู่ และหวงปิ้งหู่รวมเป็นหนึ่งพันแปดร้อยตำลึง ในการต่อสู้ครั้งนี้ลุงหานซานมีบทบาทมากที่สุด เขารับไปห้าร้อยตำลึง"ชาวบ้านตกใจตัวเลขนี้!หวังหยวนกล่าวต่อ "ต้าหู่, เอ้อหู่ กัวฉาง, กัวเหลียง, กัวเฉียง ไล่ล่ากลุ่มโจรลำพังเมื่อคืนนี้ เป็นงานที่อันตรายมาก แต่ละคนรับไปหนึ่งร้อยตำลึง!"ต้าหู่และเอ้อหู่ดูตื่นเต้น แต่ก็ยังสามารถควบคุมตัวเองได้ เพราะพ่อของพวกเขาได้รับตั้งห้าร้อยตำลึงยืนอยู่ตรงหน้าสามพี่น้อง กัวฉาง, กัวเหลียง, กัวเฉียง หายใจไม่ออก นี่เป็นเงินจำนวนมหาศาลที่พวกเขาไม่เคยจินตนาการมาก่อนชาวบ้านมองดูทั้งห้าคนด้วยความอิจฉาหวังหยวน กล่าวเสริม "หวังซื่อไห่, หวังเอ้อโกว, หวังชิงซานและ หวังเสี่ยวซานต่างก็พยายามอย่างมาก พวกเขาเผชิญหน้ากับกลุ่มโจรที่แข็งแกร่งของหวงปิ้งหู่ และฆ่าเซี่ยซานหู่ได้ต่อ แต่ละคนจะได้รับ
ค่ายซานหู่ถูกรื้อถอนแล้ว ทว่าผู้บงการเบื้องหลังที่เทศบาลอย่างตระกูลหลิวยังคงลอยนวล กลุ่มประมงและกลุ่มจัดซื้อต่างก็เร่งเตรียมรถ “นี่มันโหดเหี้ยมมาก!” “แววตาน่ากลัวยิ่งกว่าหมาป่าเสียอีก!” “โหดแค่ไหนแล้วยังไงหล่ะ ยังไงก็โดนพี่หยวนโค่นล้มอยู่ดี!” ชาวบ้านจำนวนมากล้อมรอบเฮยซินหู่ที่ถูกมัดไว้ และพูดคุยนินทากันจากระยะไกล! “ไปยุ่งเรื่องของพวกเจ้าซะ เลิกมุงกันได้แล้ว!” หลังจากขับไล่ชาวบ้านออกไปแล้ว หวังหานซานก็อุ้มเพื่อนเก่าของเขาที่ถูกทรยศ “ผู้เฒ่าสิบเจ็ด ข้าขอโทษสำหรับสิ่งที่ข้าทำกับท่าน!"เขารู้ดีว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขา สหายเก่าคนนี้ยอมตายดีกว่าถูกมองเป็นตัวตลก! “พี่ใหญ่ ระหว่างข้าและท่านจะไปสนใจเรื่องพวกนี้ทำไมกัน? ถึงตายข้าก็ไม่สนใจด้วยซ้ำ ยังสนใจเรื่องนี้ทำไมอีก!” เฮยซินหู่ยิ้มเศร้า “แต่ข้าคิดว่าเด็กคนนี้มีท่าทางของมู่ซ่วยอยู่นิดหน่อย เขารู้วิธีสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น และทำให้ผู้อื่นยอมทำงานให้เขา! เขายังฉลาดกว่ามู่ซ่วยอีกด้วย ข้าวางใจแล้ว ถ้าหากท่านติดตามเขาไปตลอดชีวิต! เพราะยังไงในโลกนี้คนดีมักจะอายุสั้นเสมอ!” ... หมู่บ้านกัวพาน เมื่อกัวฉางกลับถึงบ้าน ภรรยาของเขาก็
“ไป!” กัวเหลียงและกัวฉางพูดพร้อมกัน “แม้ว่าเราจะตายเพื่อนายน้อย เราก็จะไม่เสียใจ!” ... ณ เทศบาล ตระกูลหลิว! หลิวเจี้ยนเย่ ลูกชายคนโตของหลิวจื้อเกา หัวหน้าตระกูลหลิวนั่งตรงข้ามกัน โดยมีผู้คนมากมายกำลังเข้าแถวซื้อลูกชิ้นปลากลับบ้านอยู่ข้างหน้าพวกเขา! หลิวเจี้ยนเย่กินลูกชิ้นปลาแล้วขมวดคิ้ว “ท่านพ่อ ถึงเวลาแล้วที่ค่ายซานหู่จะต้องลงมือ และคนเสเพลนั่นคงจะออกเดินทางแล้ว แต่ทำไมยังไม่มีข่าวคราวอะไรเลย!” หลังจากดื่มน้ำแกงลูกชิ้นปลาจนหมด หลิวจื้อเกาก็วางชามลงแล้วพูดหน้านิ่ง “เจี้ยนเย่ ข้าเคยบอกเจ้าไปกี่ครั้งแล้วว่าในฐานะคุณชายผู้สูงส่งของตระกูลหลิวอย่างเจ้า ไม่ควรเอ่ยถึงเรื่องสกปรกเช่นนี้ ครอบครัวจะเป็นผู้จัดการทุกอย่าง! บัณฑิตตัวเล็ก ๆ เช่นนั้น ค่ายซานหู่สามารถฆ่าเขาเหมือนสุนัข เจ้าจะไปกังวลอะไร!” หลิวเจี้ยนเย่ตกตะลึงและพยักหน้า “ก็ถูก ท้ายที่สุดแล้วเสือทั้งสามตัวนั้นโหดเหี้ยมจนไม่มีใครเทียบ แม้แต่ผู้มีอำนาจในเทศบาลก็ยังกลัวเขา ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็นเด็กบ้านนอก!” พ่อและลูกชายต่างมองหน้ากัน และพยักหน้าสบาย ๆ! ทันใดนั้น คนรับใช้ก็ตะโกนมาจากนอกประตู “นายท่าน แย่แล้ว เกิดเรื่องแล
ในห้องโถงของที่ว่าการอำเภอ คนกลุ่มหนึ่งกำลังคุกเข่า มีทั้งพวกอันธพาล ผู้มีอำนาจ ผู้ตรวจราชการผู้เฒ่า และชาวบ้าน นายอำเภอจ้าวเว่ยหมินกำลังนั่งอยู่ในห้องโถงพร้อมมองดูหลักฐานทุกประเภท หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณชายไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังมีความเชี่ยวชาญในการปกครองประเทศด้วย! หนำซ้ำยังเก่งในการสั่งการ และนำชาวบ้านกลุ่มหนึ่งทำลายล้างค่ายซานหู่ หลังจากเข้ารับตำแหน่งมานานกว่าหนึ่งเดือน เขาก็รู้ว่าค่ายซานหู่นั้นชั่วร้าย และโหดเหี้ยมเพียงใด! นายอำเภอซุนใช้เงินหลายพันตำลึงทุกปี แต่ล้มเหลวในการปราบปรามพวกโจรหลายครั้ง! คุณชายผู้นี้นำชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเข้าโจมตีและทำลายพวกเขาในตอนกลางคืน เขาเหมือนกับเทพเจ้าแห่งสงครามไม่มีผิด! คนที่มีความสามารถเช่นนี้ เกิดมาเพื่อการกุศลจริง ๆ แล้วยังเป็นพรแก่ประชาชนและเป็นพรแก่ศาล! ไม่ได้การแล้ว ต้องเขียนจดหมายถึงเสนาบดีฝ่ายซ้ายฉบับหนึ่ง และขอให้ราชสำนักเชิญคุณชายออกมา ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้ ถึงเวลาแล้วที่คุณชายจะต้องแสดงผลงานอันยิ่งใหญ่ของเขา ตระกูลหลิวน่ารังเกียจจริง ๆ ที่ต้องการสังหาร
เพี๊ยะ! จ้าวเว่ยหมินทิ้งไม้ปลุกสติ “ตะคอกในศาล อ้าปากสิบไม้!” ผัวะ ผัวะ ผัวะ... นักการในศาลสองคนทุบตีเขาสิบไม้ ปากของหลิวจื้อเกาเต็มไปด้วยเลือดและคร่ำครวญ “คำพิพากษาในคดีนี้...” จ้าวเว่ยหมินยกค้อนขึ้น ในขณะที่เขากำลังจะประกาศอีกครั้ง ก็มีเรื่องเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สาม! ชายวัยกลางคนเดินเข้าไปในศาล! เขาตัวสูง มีมีดยาวห้อยอยู่ที่เอว สวมชุดเกราะหนัง และมีดวงตาที่เฉียบคม! ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากผู้บัญชาการเจ้าหน้าที่ซุนไป๋ชวนจากเมืองฝู! ผู้บัญชาการเจ้าหน้าที่เป็นผู้ช่วยทูตทหารประจำเมือง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของเมือง โดยสั่งการค่ายทหาร เจ้าหน้าที่ตรวจการ ทหารในชนบท ผู้เฒ่า และนักธนูอันเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในเมือง การจับหัวขโมย และกำจัดอันธพาลล้วนเป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการเจ้าหน้าที่! ทันทีที่เข้าไปศาล ซุนไป๋ชวนก็กำหมัดแน่นและตะโกน “ท่านใต้เท้า คดีนี้มีปัญหา!” ฟู่! หลิวจื้อเกาถอนหายใจยาว พร้อมกับแววตาแห่งความหวังครั้งสุดท้าย! นี่คือผู้ช่วยชีวิตคนสุดท้ายที่ลูกชายของเขาขอได้! หากผู้บัญชาการเจ้าหน้าที่ซุนไม่สามารถช่วยเขาได้ เช่นนั้นเขาก็ไม่มีจุดจ
เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น
หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง
แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้
ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม
ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย
“มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญ ถือว่าเป็นแขกผู้มาเยือนได้หรือ?” ตงฟางฮั่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “ในเมื่อเจ้าชอบสถานที่นี้ ก็จงดื่มสุราอยู่ที่นี่คนเดียวเถิด” “ลาก่อน”เพียงชั่วพริบตา ตงฟางฮั่นก็ลุกขึ้นยืน ขณะที่เขากำลังจะเดินสวนกับชายคนนั้น ก็ได้ยินเสียงชายคนนั้นเอ่ยขึ้นว่า “ท่านตงฟาง ท่านพร้อมจะวางเดิมพันไว้ที่หวังหยวน แต่กลับไม่คิดจะพบกับท่านประมุขของข้าหรือ?”“ฮึ” “พวกเจ้าก็เป็นเพียงพวกหนูที่อาศัยอยู่ในความมืดมิด” “ใครเล่าจะอยากร่วมมือกับพวกเจ้า?” ตงฟางฮั่นเย้ยหยัน ไม่ได้สนใจชายผู้อยู่เบื้องหลังอีกต่อไปสีหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไป มือหนึ่งคว้ามีดสั้นจากอกเสื้อ แล้วแทงเข้าที่หลังของตงฟางฮั่นอย่างรวดเร็ว! ว่องไวราวกับสายฟ้าแลบ!“ถ้าไม่เป็นมิตร ก็ต้องเป็นศัตรู!” “ไปลงนรกซะ!”สีหน้าของตงฟางฮั่นเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้การหลบหลีกนั้นสายเกินไปแล้ว เพราะเขาไม่ได้ฝึกวิทยายุทธใด ๆ เลย!ในขณะที่เขาเตรียมใจยอมรับชะตากรรม ก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน ปรากฏว่าเกาเล่อผู้ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และข้างกายเขายังมีสมาชิกขององค์กรเครือข่ายผีเสื้ออีกหลายคนมีกำลังคนม
“ท่านทั้งหลายไปที่นั่นแล้วจะได้ลงทะเบียนทันที!”เมื่อทราบว่าหวังหยวนไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทุกคนจึงรีบขอลา แล้วมุ่งหน้าสู่ตลาดตะวันออกด้วยความเร่งรีบ การลงทะเบียนโดยเร็วจะช่วยคลายกังวลในใจได้!เมื่อเห็นเหล่าชาวบ้านมาเร็วไปเร็วเช่นนั้น ฉุนอวี๋อันจึงบ่นหลังถอนหายใจว่า “ประชาชนพวกนี้ช่างร้อนรนนัก!”“หากมีสิ่งใดขัดขวางความประสงค์ของพวกเขา พวกเขาก็จะก่อความวุ่นวายไม่หยุด!”“โชคดีที่ข้าไม่ใช่ผู้ว่าราชการเมืองเมืองนี้แล้ว จึงบรรเทาความกดดันลงได้บ้าง…”แต่หารู้ไม่ว่าหวังหยวนยังคงยืนอยู่ข้างกายฉุนอวี๋อันหันกลับไปเห็นหวังหยวนกำลังมองตนอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ตัวสั่นเทา ตกใจกลัวจนถอยหลังไปสองก้าว และถึงกับหายใจติดขัด“ท่านผู้นำ…”“ข้าไม่ใช่หมายความเช่นนั้น”หวังหยวนเห็นท่าทีขลาดกลัวของเขาจึงส่ายหน้าแล้วยกยิ้มดูเหมือนการตัดสินใจของเขาจะถูกต้อง คนเช่นนี้จะสามารถเป็นใหญ่ในเมืองได้อย่างไร?หากปล่อยให้ฉุนอวี๋อันดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองต่อไป แม้การก่อสร้างระบบชลประทานจะแล้วเสร็จก็คงหาผลกำไรไม่ได้มากนักผลลัพธ์สุดท้ายก็คงเดาได้ไม่ยากไม่ช้าหวังหยวนและคณะก็เดินทางกลับระหว่างทางกลับ เ
“หืม?” หวังหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจทันที คงเป็นเพราะเรื่องเกณฑ์แรงงานจึงทำให้ประชาชนไม่พอใจ“ทุกคน!”“เรื่องนี้คงเกิดจากความเข้าใจผิดใช่หรือไม่?”“ข้าต้องการแรงงานมาช่วยทำงาน แต่ก็เพื่อการพัฒนาเมืองอู่เจียง!”“เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ ในฤดูฝน พวกเราก็ไม่ต้องกังวลว่าแม่น้ำจะเอ่อล้นอีกต่อไป และที่สำคัญที่สุด เวลาในการเดินทางระหว่างเมืองอู่เจียงกับเมืองต่าง ๆ ก็จะใกล้เคียงลงมาก!”“นับเป็นเรื่องที่ดีต่อแผ่นดินและประชาชน!”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่ได้ใช้แรงงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง ข้าจะจ่ายค่าจ้างให้เดือนละหนึ่งตำลึง!” หวังหยวนอธิบายสถานการณ์โดยย่อความจริงเป็นเช่นนั้น เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ เมืองอู่เจียงจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง! ในอนาคต แม้แต่เมืองหลวงก็อาจจะพัฒนาไม่ดีเท่าเมืองอู่เจียง! แต่ทั้งหมดนี้นั้นเป็นเพราะเมืองอู่เจียงมีแม่น้ำห้าสายไหลผ่าน หากไม่เป็นเช่นนี้จะมีโอกาสสร้างระบบชลประทานได้อย่างไร?“จ่ายค่าจ้างด้วยหรือ?”“ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเช่นนั้นเลยไม่ใช่รึ?”“พวกเราคงจำผิดไปกระมัง?”“ใช่แล้ว! ข้าได้ยินมาว่าท่านผู้นำเ
“การเตรียมการต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง?”หวังหยวนยกถ้วยชาขึ้น สายตาจับจ้องไปยังเกาเล่อขณะเอ่ยถามเกาเล่อส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ข้าได้ค้นหาคนผู้มีความสามารถอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ราบรื่นดังที่คาดหวังไว้ขอรับ” “บางคนก็มีความรู้ความสามารถ บางคนก็ไม่อาจคาดเดาเจตนาได้ โดยสรุปแล้วก็ยังไม่พบผู้ใดที่เหมาะสมนัก”หวังหยวนพยักหน้า แท้จริงแล้ว การค้นหาคนที่ไว้ใจได้และมีความรู้ความสามารถนั้นจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร? เวลาเพียงสองวันนั้นย่อมไม่เพียงพอ“เช่นนั้นเจ้าจงค้นหาต่อไป” “อย่างไรเสียข้าก็ต้องอยู่ที่เมืองอู่เจียงต่อไปอีกนาน” “เรื่องต่าง ๆ ในที่นี้ ข้าจะรับผิดชอบเอง” “แต่ก่อนหน้านั้นเจ้ายังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือการจัดหาแรงงานเพื่อช่วยข้าขุดคลอง” หวังหยวนสั่งการเพิ่มเติมเกาเล่อรับคำแล้วก็จากไปหลังจากอยู่ในห้องมาสองวัน แผนที่ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว หวังหยวนจึงสั่งให้คนจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จแม้ว่าฉุนอวี๋อันจะพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่เคียงข้างหวังหยวน เกาเล่อควบคุมข่าวสารต่าง ๆ แต่เรื่องราวภายในเมืองอู่เจียงนั้น ฉุนอวี๋อันย่อมรู้ดีกว่า