หาเลือกทางนี้จะสามารถขึ้นครองแผ่นดิน และสยบกองกำลังของทุกฝ่ายได้!วิธีนี้ง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีแรก!นกปากซ่อมกับหอยกาบทะเลาะกัน คนตกปลาย่อมได้ประโยชน์!“ท่านพ่อ หากมองในมุมมองของตระกูลไป๋ย่อมต้องเลือกเคลื่อนไหวภายหลัง เฝ้ารอจนกว่าตระกูลเซิ่งและต้าเย่จะเริ่มทำสงครามกันก่อนค่อยดำเนินการ!”“แต่ว่า... ในมุมมองของท่านอาคงต่างออกไป ข้าก็หวังว่าจะสามารถรีบไปช่วยนางได้ ในกรณีนี้ ท่านอาอาจจะไม่ตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตเจ้าค่ะ!”ไป๋เฟยเฟยก็ไม่รู้จะเลือกทางใดเช่นกันอย่างไรเสีย นั่นก็คืออาของนาง!ไป๋เจิ้นถังจะไม่เข้าใจได้อย่างไร!“เฟยเอ๋อร์ เรื่องนี้... เป็นเรื่องใหญ่ พ่อเองก็ยังตัดสินใจไม่ได้มาสักระยะแล้ว ดังนั้นเราจึงควรไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษ เพื่อให้บรรพบุรุษช่วยตัดสินใจกันเถิด!”“ไม่ว่าบรรพบุรุษจะบอกให้เราเลือกทางใด เราก็จะไม่มีวันหันหลังกลับ ตกลงหรือไม่?”ไป๋เจิ้นถังก็ตัดสินใจไม่ได้เช่นกัน เช่นเดียวกับที่ไป๋เฟยเฟยคิด ในมุมมองของตระกูลไป๋ย่อมหวังอย่างยิ่งว่านกปากซ่อมกับหอยกาบทะเลาะกัน คนตกปลาย่อมได้ประโยชน์!แต่จากมุมมองของน้องสาวจะต่างออกไป เขาไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับนาง
เมื่อไป๋เจิ้นถังและไป๋เฟยเฟยเห็นแท่งไม้ไผ่ดังกล่าวก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีแต่ว่า...นี่คือทางเลือกของบรรพบุรุษ!“เฟยเอ๋อร์ ถึงอย่างนั้น... เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม”ไป๋เจิ้นถังพูดจบแล้วหันหลังเดินจากไป...ในขณะนี้เซิ่งฟางสี่มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงตอนบนพร้อมด้วยกองกำลังทั้งหมดหกหมื่นนาย!ครั้งนี้เขาจะต้องยึดต้าเย่ให้ได้แน่นอน!เซิ่งฟางสี่และเซิ่งตงฉยงที่อยู่ด้านขบวนมีสายตาแน่วแน่แต่เซิ่งตงฉยงยังคงพูดว่า “ท่านพ่อ ตอนนี้กองทหารของเรากำลังจะจัดการกับต้าเย่แล้ว ตระกูลไป๋... จะคิดว่านี่เป็นโอกาสหรือไม่ขอรับ?”หลังจากได้ฟังเช่นนั้นเซิ่งฟางสี่ก็ยกยิ้มตระกูลไป๋ย่อมคิดเช่นนั้น ต่อให้เป็นคนอื่นก็คงฉวยโอกาสนี้คิดลงมือเช่นกัน!“แน่นอนว่าต้องคิด ไม่ว่าใครก็คงคิดว่านี่เป็นโอกาสดีทั้งนั้น!”“แต่ว่า... เราแค่ต้องปราบปรามพวกเขาเพียงไม่กี่วันเท่านั้นก็พอแล้ว!”เซิ่งฟางสี่แสยะยิ้มก่อนกล่าวเช่นนั้น เซิ่งตงฉยงก็พยักหน้า ทั้งสองนำกองกำลังหกหมื่นนายตรงไปยังบริเวณชายแดนเมืองหลวงแล้วตั้งค่าย!“ไม่มีทหารในเมืองรอบเมืองหลวงเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว จึงรีบถอยกลับไปเฝ้าเมืองหลวง!”เม
อู๋หลิงตะคอกอย่างเย็นชาเซิ่งตงฉยงได้ฟังเช่นนี้ก็หัวเราะเยาะ“ต่อสู้จนเหลือทหารคนสุดท้ายหรือ? เจ้าคิดว่ามันจะมีประโยชน์หรือ?”“อู๋หลิง ต้าเย่ถึงกาลล่มสลายแล้ว หากเจ้าละทิ้งด้านมืดเข้าสู่ด้านสว่าง ตระกูลเซิ่งของข้าจะให้อนาคตที่ดีแก่เจ้า!”เซิ่งตงฉยงพูดตามจริง แต่อู๋หลิงทรยศได้อย่างไร?ตระกูลนักรบของเขามีความจงรักภักดีมาหลายชั่วอายุคน ไม่เคยมีคนคิดคดทรยศมาก่อน!ดังนั้น...ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เขาจะอยู่และตายไปพร้อมกับเมืองหลวง!“เซิ่งตงฉยง ตระกูลเซิ่งของพวกเจ้ามีความสามารถในการโจมตีต้าเย่ แต่พวกเจ้าไม่กลัวตระกูลไป๋หรือ?”“พวกเขาวางแผนมาหลายปีแล้ว ย่อมไม่มีวันปล่อยต้าเย่ให้กับพวกเจ้าแน่นอน ดังนั้นเมื่อสงครามสงบลง พวกเขาต้องมาบุกเป็นแน่!”“พวกเจ้าอยากตัดชุดแต่งงานให้ตระกูลไป๋จริงหรือ?”หลังจากที่อู๋หลิงพูดจบ เซิ่งตงฉยงและเซิ่งฟางสี่ก็หาได้สนใจไม่แน่นอนว่าพวกเขาทุกคนคิดเรื่องนี้อยู่แล้ว!“อู๋หลิง เจ้าคงเดาถูก แต่ว่า...เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าตระกูลเซิ่งของเราไม่ได้เตรียมพร้อม?”เซิ่งฟางสี่กล่าวก่อนจะถามว่า “แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถรักษาต้าเย่ของเจ้าไว้ได้หรือ? ให้ข้าบอกเจ้าว่า ..
หวังหยวนมองพวกเขา แล้วรู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่!ในสถานการณ์นี้ ตราบใดที่พวกเขาเคลื่อนไหวย่อมกลายเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายอย่างแน่นอน!แต่ว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด!“ตอนนี้ตระกูลเซิ่ง, ตระกูลไป๋ และราชสำนักกำลังจะต่อสู้กัน ผลลัพธ์ของศึกครั้งนี้จะไม่อาจตัดสินได้รวดเร็วนัก!”เมื่อหวังหยวนพูดจบ พวกเขาทั้งหมดก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว ก็เห็นว่าเป็นเรื่องจริง!ศึกครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตัดสินผลลัพธ์!“ทั้งตระกูลเซิ่งและตระกูลไป๋วางแผนกันมานานหลายปีแล้ว เกรงว่ากองกำลังเหล่านี้ที่อยู่เบื้องหน้าจะไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อพวกเขาต่อสู้ก็จะต้องทุ่มกองกำลังเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเราเข้าร่วมอาจเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!”“และพวกเจ้าอย่าลืมว่าในโลกนี้ไม่ได้มีเพียงต้าเย่ของเราเท่านั้น แต่ยังมีเมืองหวงและหมานอี๋ด้วย!”“หากเรารู้เรื่องศึกครั้งนี้ พวกเขาก็จะรู้ด้วย!”“เมื่อถึงเวลานั้น...พวกเขาย่อมต้องการเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายใช่หรือไม่?”หวังหยวนคิดได้อย่างชัดเจนว่าแม้ตอนนี้เขาจะมีโอกาสควบคุมแผ่นดิน แต่เขาจะมีราคาที่ต้องจ่ายที่หนักหน่วงแน่นอน!
แม้ว่าในต้าเย่จะมีทหารม้าไม่น้อย แต่พวกเขากำลังใช้ต่อสู้กันเอง และไม่ได้สนใจคนนอกเลย!มีเพียงหวังหยวนคนเดียวเท่านั้นที่คิดเรื่องนี้!ขณะนี้มีจดหมายมากมายส่งมาถึงหวังหยวน!“ตระกูลเซิ่งได้เริ่มโจมตีเมืองหลวงแล้ว กองทหารสามหมื่นนายของอู๋หลิงพยายามยามต้านทานอย่างเต็มที่ การเคลื่อนไหวของตระกูลเซิ่งในเมืองหลวงถูกพวกเราสกัดกั้นไว้ แต่ก็ยังมีอีกมากที่ยังคงก่อปัญหา”“แต่... ยังไม่อาจบุกเข้าไปได้หรอกเพราะเมืองหลวงยังเข้มแข็ง!”เขาอ่านรายงานอย่างสบายอารมณ์แล้วกล่าวตามตรงในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าองค์กรเครือข่ายผีเสื้อของเกาเล่อมีความสำคัญมาก!“พี่หยวน ถังหม่างนำกองกำลังของเขาไปหาหมานอี๋ มีคนเพียงหนึ่งหมื่นคนแต่มีอาวุธซับซ้อน ซึ่งน่าจะเพียงพอที่จะทำให้ฝ่ายนั้นล่าช้าไปได้สักพัก!”“สำหรับเมืองหวง ลุงหานซานกับเอ้อหู่นำกองกำลังหนึ่งหมื่นห้าพันคนไปที่นั่น ทั้งยังนำอาวุธที่ซับซ้อนไปด้วย ดังนั้นพวกเขาน่าจะขัดขวางฝ่ายนั้นได้อีกสักพัก!”หลังจากที่เกาเล่อรายงานแล้วหวังหยวนก็พยักหน้า“อืม... ถึงแม้จะมีทหารม้าไม่เยอะนัก แต่ก็น่าจะเพียงพอ”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ความสามารถของพวกเขาไม
หลังจากวางแผนการและพยายามอย่างหนักมาหลายชั่วอายุคน ทั้งตระกูลเซิ่งและตระกูลไป๋มีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าจะสามารถเอาชนะต้าเย่ได้ เรื่องนี้ช่างน่ากลัวจริง ๆ!ลองจินตนาการว่าการที่ตระกูลหนึ่งสามารถดำรงอยู่ได้ยืนยาว สิ่งที่สำคัญที่ทำให้เป็นเช่นนั้นได้ก็คือความสามารถ! และผู้นำ!ไม่ว่าจะเป็นตระกูลไป๋หรือตระกูลเซิ่ง ผู้นำของพวกเขาต่างก็มีพลังอำนาจแข็งแกร่งมากทุกรุ่น อย่างน้อยในยุคนี้ผู้นำของพวกเขาก็ล้วนมีพรสวรรค์ระดับแนวหน้า!กว่าจะเป็นเช่นนี้ได้ คนรุ่นแล้วรุ่นเล่าค่อย ๆ วางแผนกันเพื่อจะมาให้ถึงจุดที่พวกเขาอยู่ในทุกวันนี้!จะบอกว่าพวกเขาไม่มีกำลังคนซ่อนเร้นอยู่งั้นหรือ?ไม่มีทาง!ดังนั้นศึกครั้งนี้อาจจะดุเดือด แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้รวดเร็วเช่นกัน!พวกเขาล้วนเป็นคนใจเย็น หากช่วงเวลาวิกฤติมาถึงก็ยังสามารถตั้งรับได้!หวังหยวนเดาว่าการตัดสินผู้ชนะในครั้งนี้คงเป็นเรื่องยาก!แต่แผ่นดินถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนแล้ว จึงสามารถยกมาเป็นข้อสรุปได้ล่วงหน้า!ว่าฝ่ายที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาคือต้าเย่!หากไม่ใช่เพราะตระกูลเซิ่งและตระกูลไป๋คิดจะยึดครองมัน ก็เกรงว่าต้าเย่คงไม่สามารถอยู่ต่อไปได้แล้ว!ในเ
“ฮ่าฮ่าฮ่า หวังหยวนไม่ได้มาด้วยตนเอง พวกเจ้าสองพันคนไม่มีทางหยุดยั้งพวกข้าได้หรอก!”หลังจากที่อากู่ต๋าพูดจบ หวังหานซานก็ไม่กล่าวเรื่องไม่สำคัญอื่นอีก“อ๋องถูหนาน ให้ข้าแสดงอาวุธให้ท่านดูเสียก่อน หลังจากดูแล้ว ท่านจะรู้เองว่าพวกท่านจำเป็นต้องล่าถอยหรือไม่!”พูดจบหวังหานซานก็หยิบระเบิดออกมาขว้างออกไป!สิ้นเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวปรากฏหลุมขนาดใหญ่ที่พื้น!พลังทำลายล้างนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ทำให้สีหน้าของอากู่ต๋าเปลี่ยนไปทันที!“นี่คืออะไร!”เขาตกใจมากเพราะไม่เคยเห็นอาวุธเช่นนี้มาก่อน!“นี่คืออาวุธที่คุณชายหวังหยวนคิดค้นขึ้น อ๋องถูหนาน ท่านยังต้องการจะเดินทัพต่อไปหรือไม่?”หวังหานซานถามตามตรง ใบหน้าของอากู่ต๋ามืดมนหลังจากได้ฟังเช่นนั้น!แม้ว่าอาวุธดังกล่าวจะทรงพลัง แต่เขาก็ไม่กลัว!“ฮึ่ม! ข้ามีกองทัพถึงหนึ่งแสนนาย แต่เจ้าจะมีอาวุธท้าทายสวรรค์นั่นกี่ชิ้นล่ะ!”“เคลื่อนทัพไปสังหารพวกมันให้ข้า!”อากู่ต๋าพูดทันที ทหารทั้งหมดสองหมื่นนายจึงรีบวิ่งกรูไปหาพวกหวังหานซานทันที!“ยิงได้!”หวังหานซานไม่เสียเวลา สั่งคนให้ดึงหน้าไม้ยักษ์ออกมาโดยตรง หลังจากวางที่ใส่คันธนูแล้ว คนสามสี
ส่วนทางด้านหมานอี๋ เอ้อร์ฮาเดินทัพไปพร้อมกับทหารแปดหมื่นนายก่อนที่จะไปถึงเมืองสู่ พวกเขาเห็นถังหม่างกำลังรออยู่ที่นี่พร้อมกับทหารม้าหนึ่งหมื่นนายใบหน้าของเอ้อร์ฮามืดมนเมื่อเห็นถังหม่างเขามองถังหม่างด้วยสายตาเย็นชาแล้วพูดอย่างดุดัน “ถังหม่างเจ้าบังอาจเพียงใดจึงมาขวางทางพวกข้า?”เอ้อร์ฮาหรี่ตามองกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังถังหม่างอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นความเย้ยหยันก็พลันปรากฏขึ้นใบหน้าของเขา“ถังหม่าง เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามหรือเปล่า เจ้านำกองทหารแค่หนึ่งหมื่นนายมา แต่ยังกล้ายั่วยุข้าหรือ?”ด้านหลังเอ้อร์ฮามีกองกำลังแปดหมื่นนาย!หากให้ทหารของเขาแต่ละคนถุยน้ำลายออกมา มันก็เพียงพอที่จะทำให้กลุ่มคนที่ถังหม่างพามาจมน้ำลายตายได้แล้วถ้าถังหม่างนั้นรนหาที่ตายจริง ๆ สิ่งเดียวที่รอเขาอยู่มีเพียงความตายเท่านั้นเมื่อเห็นท่าทางเย่อหยิ่งและเย้ยหยันของเอ้อร์ฮา ถังหม่างก็ยกยิ้มเย็นชาแล้วถามประชด “เอ้อร์ฮา เจ้าคิดว่าข้ากล้ามาขวางเจ้าที่นี่โดยไม่เตรียมการใด ๆ เลยหรือ?”“เตรียมการอะไรล่ะ?”ใบหน้าของเอ้อร์ฮาเต็มไปด้วยความดูถูก เขามองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “เจ้าเตรียมจะคุกเข่าร้อ
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห