“สามปีก่อน ลุงใหญ่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องเข้าโรงพยาบาล และต้องการเงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้นฉันก็เลยละทิ้งการแข่งขันและออกไปเป็นนางพยาบาลพี่เลี้ยงเพื่อหาเงินน่ะค่ะ”จ้าวซีซีไม่ต้องการบอกพี่ใหญ่ในเรื่องที่เธอได้แต่งงานกับฮั่วหานฮุยพี่หกหลินวู่เซิงจึงเสนอขึ้นมาว่า“สัปดาห์หน้าจะเป็นพิธีมอบรางวัลที่ยิ่งใหญ่ ซีซี เราออกไปซื้อชุดสำหรับงานเลี้ยงกันเถอะนะ”เมื่อพูดถึงประสบการณ์การเดินพรมแดงและเข้าร่วมงานเลี้ยงต่างๆ ไม่มีใครมีประสบการณ์เท่ากับเขาแล้วจ้าวซีซีพยักหน้าหลินตงเย่แอบถอนหายใจเล็กน้อย เพราะตระกูลหลินเป็นคนจัดการแข่งขันนี้ขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถออกมาปรากฏตัวได้ชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยตัวตนล่วงหน้าและทําให้น้องสาวไม่พอใจ เขาจึงทำได้เพียงให้น้องหกไปเป็นเพื่อนเธอเท่านั้นแต่วันต่อมา พี่หกและพี่ใหญ่ต่างก็มีธุระเร่งด่วน จึงให้พี่สะใภ้ไปเดินห้างเป็นเพื่อนกับเธอเท่านั้นหลังจากมาถึงห้างสรรพสินค้าเมื่อจ้าวซีซีมองเห็นแบรนด์สินค้าที่นี่ ซึ่งมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นเสื้อผ้าราคาแพงทั้งนั้น เธอจึงดึงชายเสื้อของพี่สะใภ้“พี่สะใภ้คะ แบรนด์ที่นี่ราคาแพงมากเลย เราไปเปลี่ยน
ฮั่วซานซานรู้สึกละอายใจเล็กน้อย“เธอพูดอะไรเพ้อเจ้ออยู่น่ะ”ผู้หญิงคนนี้รู้ได้ยังไง?จ้าวซีซีก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวภายในแบบนี้ด้วย เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโชว์จดหมายเชิญให้อีกฝ่ายดู“เธอเบิกตาดูให้ดีๆ ฉันไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำด้วยความสามารถของตัวเอง ไม่เหมือนกับบางคนหรอกนะที่ความสามารถก็ไม่มี ต้องอาศัยประตูหลังเท่านั้นน่ะ”ฮั่วซานซานโกรธจนควันออกหู ไม่คิดเลยว่าจ้าวซีซีจะผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้จริงๆเธอชำเลืองไปยังชุดราตรีที่อยู่ในมือของพนักงานในร้าน“เฮ้ ห่อกระโปรงสามตัวนั่นให้ฉันด้วย”พนักงานในร้านลำบากใจเล็กน้อย และฮั่วซานซานก็พูดอย่างเย็นชาขึ้นมาว่า“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรือไง?ห่อกระโปรงสามตัวนั่นให้ฉันเดี๋ยวนี้ หรือว่าเธอไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร?”“ได้ค่ะ คุณฮั่ว”“เดี๋ยวก่อนสิ!”ฉินอันจิ้งจับมือของพนักงานสาวในร้านเอาไว้“พวกเรามาก่อนนะ”ฮั่วซานซานแสยะยิ้ม“พวกเธอมาก่อนแล้วไง ยังไงก็ไม่มีปัญญาซื้ออยู่แล้ว จำเป็นจะต้องแสร้งทำตัวว่ารวยไปทำไมกัน?”“ใครบอกว่าเราซื้อไม่ได้ รูดบัตร”ฉินอันจิ้งล้วงบัตรหนึ่งใบออกมา และวางลงไปที่มือของพนักงานสาวในร้าน“เช็กบิลด้วย”เธอไม่เคยได้รับการดู
ฮั่วซานซานพูดเสียงดังขึ้นมาว่า“ทำไมถึงรูดไม่ได้?”“รูดไม่ได้จริงๆค่ะ”ฮั่วซานซานถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว เดือนนี้เธอซื้อของไปไม่น้อยแล้ว จำนวนเงินในบัตรเครดิตจึงเหลือไม่เท่าไหร่แล้ว และในวันนี้เธอก็ดันมาถูกจ้าวซีซีกลั่นแกล้งอีกครั้ง มันจึงทำให้บัตรเครดิตถูกรูดเงินจนหมดเกลี้ยงเสียแล้วฮั่วซานซานทำหน้านิ่งๆ“แบบนี้ก็ได้ เธอห่อของพวกนี้เอาไว้ก่อน แล้วจดในชื่อของฉัน เดี๋ยวฉันจะมาจ่ายทีหลังก็แล้วกัน”“คุณฮั่วคะ ร้านไม่มีกฎแบบนี้ค่ะ จำเป็นต้องชำระเงินแล้วถึงจะนำสินค้าออกไปได้ค่ะ”ฮั่วซานซานฟาดฝ่ามือออกไปหนึ่งที“แต่ฉันเป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลฮั่วนะ ห้างนี้ก็เป็นของตระกูลฉัน กลัวว่าฉันจะไม่มีปัญญาจ่ายหรือไง?”พนักงานสาวในร้านถูกตบจนหน้าแดงไปเกือบครึ่ง และไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีจ้าวซีซีทนดูไม่ได้อีกต่อไป“ฮั่วซานซาน ตระกูลฮั่วเป็นคนตั้งกฎของห้างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ต่อให้เป็นท่านประธานของฮั่วซื่อมาซื้อของที่นี่ ก็ต้องจ่ายเงินก่อนแล้วค่อยเอาของออกมา เธอมารังแกพนักงานเล็กๆคนหนึ่ง ถือว่าเก่งมากใช่ไหม?”เมื่อเห็นซีซีออกหน้ารับแทนคนอื่นแบบนี้ ฉินอันจิ้งก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้จิตใจดีเอาเสี
“เธอเป็นลูกค้าอะไรกันคะ!”ฮั่วซานซานกระวนกระวายราวกับไก่ที่ถูกเหยียบหาง เพราะการขอโทษจ้าวซีซีนั้นมันทรมานยิ่งกว่าการฆ่าเธอเสียอีกริมฝีปากบางๆของฮั่วหานฮุยเริ่มขยับ“ในฐานะคนของตระกูลฮั่ว พฤติกรรมแบบนี้ของเธอมันได้ทำลายผลประโยชน์ของตระกูลฮั่วอย่างร้ายแรง ถ้าเธอไม่ขอโทษ ต่อไปก็ไม่ต้องเข้ามาในห้างของฮั่วซื่ออีก รปภ. มาไล่เธอออกไปเดี๋ยวนี้”ฮั่วหานฮุยเด็ดขาดเป็นอย่างมาก โดยไม่ไว้หน้าฮั่วซานซานเลยแม้แต่น้อยเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินเข้ามา เธอก็รู้ว่าลูกพี่ลูกน้องคนนี้ของเธอพูดจริงจัง หากวันนี้เธอถูกไล่ตะเพิดและไม่สามารถเข้าห้างสรรพสินค้าในเครือของฮั่วซื่อใดๆได้อีก เธอต้องถูกทุกคนรุมหัวเราะเยาะอย่างแน่นอนท้ายที่สุดฮั่วซานซานก็เดินเข้าไปหาจ้าวซีซีอย่างไม่เต็มใจ ดวงตาแดงก่ำแล้วพูดอย่างดุร้ายออกไปว่า“ขอโทษ!”จ้าวซีซีเลิกคิ้วเล็กน้อย เธอมองไปยังฮั่วหานฮุยด้วยความประหลาดใจ เพราะคิดไม่ถึงว่าเขาจะกดดันฮั่วซานซานให้มาขอโทษเธอแบบนี้ หรือว่าที่เขาทำแบบนี้ก็เพียงเพราะว่าต้องการรักษาผลประโยชน์ของฮั่วซื่อเอาไว้เท่านั้นพี่สะใภ้ฉินอันจิ้งพูดขึ้นมาว่า“ท่าทางแบบนี้ ก็ถือว่าขอโทษงั้นเห
ยังไม่ทันที่จ้าวซีซีจะได้ตอบอะไรกลับไป พี่สะใภ้ฉินอันจิ้งก็ได้ตอบแทนเธอไปแล้วว่า“ใส่ชุดราตรีก็ต้องไปเข้าร่วมในงานเลี้ยงมอบรางวัลที่ยิ่งใหญ่อยู่แล้วนะคะ”งานเลี้ยงมอบรางวัล?ฮั่วหานฮุยนึกถึงใบรายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายขึ้นมาได้ ซึ่งจ้าวซีซีนั้นเข้าไปในรอบตัดสินได้จริงๆ โดยที่เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะมีความสามารถขนาดนั้นได้จริงๆตอนแรกที่คุณย่ายืนกรานที่จะเหลือรายชื่อให้กับจ้าวซีซีนั้น เขาไม่เคยเชื่อว่าจ้าวซีซีจะสามารถเข้ามาสู่รอบการตัดสินได้เลยแม้แต่น้อยชายหนุ่มมองมาที่เธอ แล้วกระซิบออกมาว่า“ยินดีด้วยนะ”จ้าวซีซียืนอยู่กับที่ แล้วพูดอย่างเรียบๆออกมาว่า“ขอบคุณค่ะ”และน้ำเสียงของฮั่วหานฮุยก็เปลี่ยนไปทันที“แต่กระโปรงชุดนี้ไม่เหมาะกับคุณ”“ทำไมล่ะ?ฉันคิดว่าก็โอเคอยู่นะ”“ด้านหลังมันโป๊เกินไป”จ้าวซีซี“...”กระโปรงตัวนี้เดิมทีก็ออกแบบฉลุหลังอยู่แล้ว ดังนั้นก็ต้องเผยแผ่นหลังออกมาเป็นธรรมดานี่นาพี่สะใภ้ฉินอันจิ้งชำเลืองตามอง แล้วก็พูดขึ้นมาว่า“ก็นิดหน่อยนะ งั้นลองดูแบบอื่นๆก่อนจะดีไหม”ถ้าหากผู้ชายที่หลงน้องสาวพวกนั้นเห็นแล้วละก็ คาดว่าพวกเขาก็คงไม่ยอมให้จ้าวซีซีสวมกระโปรงตั
“พี่คะ ทำไมพี่ถึงช่วยจ้าวซีซีนั่นพูดด้วยล่ะคะ เมื่อกี้ฉันอับอายขายหน้ามากเลยนะ”ฮั่วหานฮุยชักสายตากลับ และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกว่า“ถ้าฉันได้เห็นเรื่องแบบนี้เป็นครั้งที่สอง วันหลังเธอก็อย่าคิดที่จะเข้ามาในห้างของตระกูลฮั่วได้อีก ฉันพูดจริงทำจริง”“พี่คะ พี่ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง ยังไงเสียฉันก็เป็นหุ้นส่วนของตระกูลฮั่วด้วยเหมือนกันนะ”“ก็เพราะว่าฉันมีอำนาจตัดสินใจสูงสุดในตระกูลฮั่วไง เธอไม่เคยทำประโยชน์ก็ช่างมันเถอะ แต่ฉันจะไม่ยอมให้เธอมาเป็นตัวถ่วงเด็ดขาด”ฮั่วหานฮุยทิ้งประโยคนี้และจากไป เหลือเพียงแต่ฮั่วซานซานที่ยังยืนกระทืบเท้าอยู่ที่เดิม แต่กลับไม่กล้าพูดโต้แย้งอะไรได้เลยฮั่วซานซานเดินออกจากร้านด้วยความเกรี้ยวกราด และโทรหาหลินซีทันที“พี่หลินซี ฉันจะบอกอะไรให้พี่ฟังนะ จ้าวซีซีอะไรนั่นผ่านเข้ารอบการตัดสินแล้วนะคะ”“งั้นเหรอ?”หลินซีมักจะยุ่งอยู่กับงานตลอดเวลา หลังจากที่เธอเปิดใบรายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายทางวีแชทขึ้นมา ก็พบว่ามีชื่อของจ้าวซีซีอยู่ในนั้นจริงๆสีหน้าของเธอเย็นชาลงไปไม่น้อย“คิดไม่ถึงเลยว่านังผู้หญิงคนนั้นจะโชคดีขนาดนี้”ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้
รถของฮั่วหานฮุยจอดอยู่ข้างถนน และนักข่าวที่อยู่รอบๆ ก็เล็งไปที่นั่นโดยตรงเมื่อประตูเปิดออก ฮั่วหานฮุยก็ก้มลงจากรถ เขาสวมสูทสีเข้ม แลดูเป็นผู้ใหญ่และหล่อเหลาเอาเสียมากๆทันทีที่เขาลงจากรถ ด้านหลังก็มีรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งโผล่ออกมา และหญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีขาวก็ได้ตามลงมาจากรถจ้าวซีซีมองเห็นหลินซีลงมาจากรถของเขา และเห็นได้ชัดว่าทั้งสองมาด้วยกันนัยน์ตาของเธอหดลง และรู้สึกอึดอัดอยู่เล็กน้อย จากนั้นเธอก็ปรับอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ทั้งสองจะปรากฏตัวพร้อมกันอย่างนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็อยู่ในสังคมเดียวกันหลินวู่เซิงเปิดประตูออกมาเป็นคนแรก หลังจากใบหน้าของเขาปรากฏขึ้น นักข่าวคนหนึ่งก็พูดเสียงดังออกมาว่า“ราชาภาพยนตร์หลินเซินมาแล้ว!”หลังจากนักข่าวที่เหลือได้ยินดังนั้น เหล่าบรรดานักข่าวก็รีบวิ่งเข้าไปหารถคันนั้นราวกับฝูงผึ้งเพราะท้ายที่สุดแล้ว ราชาภาพยนตร์คนนั้นถ่อมตัวเอาเสียมากๆ นอกจากการแสดงแล้ว เขาก็ไม่ค่อยปรากฏตัวในที่สาธารณะสักเท่าไหร่ แม้กระทั่งโฆษณาก็ไม่ค่อยรับ และคงไม่ต้องพูดถึงการสัมภาษณ์แบบนี้ชั่วพริบตานักข่าวก็ได้ล้อมรอบรถคันนี้เอาไว้แล
หลินซีเดินเข้ามา“หานฮุย คุณกำลังมองอะไรน่ะ?”เมื่อหลินซีมองตามสายตาของเขาไป ก็พบกับด้านหลังของจ้าวซีซี และการแสดงออกของเธอก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก“คาดไม่ถึงว่าคุณจ้าวก็มีฝีมืออยู่เหมือนกันนะคะ เพราะการเข้ามารอบสุดท้ายได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ก่อนหน้านี้ฉันยังรู้สึกแปลกใจอยู่ แต่หลังจากที่ได้เห็นเพื่อนชายที่อยู่ข้างๆแล้ว ฉันก็เข้าใจสาเหตุแล้วล่ะค่ะ”ฮั่วหานฮุยชักสายตากลับ“คุณหมายความว่าไง?”“หานฮุย ผู้ชายที่อยู่ข้างๆเธอคือคุณชายหกหลินวู่เซิง และก็เป็นราชาภาพยนตร์แห่งเมืองหนานเฉิงด้วย ฉันก็ไม่คิดว่าจะได้เจอเขาที่นี่เหมือนกัน และยิ่งคาดไม่ถึงว่าเขาจะปรากฏตัวพร้อมกับคุณจ้าวแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้เขาอยู่เงียบๆ และก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนอยู่ข้างกายมาก่อนเลย”หลินซีจงใจพูดแบบนี้จนจบ และการแสดงออกของฮั่วหานฮุยก็เย็นชาลงอย่างเห็นได้ชัดเธอปิดปากอย่างมีชั้นเชิง พร้อมกับเงยหน้าขึ้นและมองไปทางจ้าวซีซี โดยที่สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย“จ้าวซีซีไปรู้จักกับคุณชายหกตั้งแต่เมื่อไหร่?”จริงๆ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างลูกพี่ลูกน้องทั้งสามคนกับครอบครัวของพวกเขานั้นห่างเหินกันมาก ได้ยินมาว่าเป็นเพราะคุณหนูใหญ่ของ