จ้าวซีซีมองไปที่โทรศัพท์มือถือ แต่เธอไม่รับสายเพราะยังไงเสียก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไร เธอไม่อยากจะรับมันหรอกนะแต่โทรศัพท์ก็โทรมาเรื่อย ๆ ไม่เคยหยุดเลยในที่สุดจ้าวซีซีก็รับสายอย่างเสียไม่ได้ "ฮัลโหล?""เด็กบ้า เธอกำลังทำอะไรอยู่น่ะ ทำไมไม่รับสาย รู้หรือเปล่าว่าฉันมีเรื่องด่วนต้องการจะโทรหาเธอ"จ้าวซีซีพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า "เรื่องอะไรคะ?"แม่บุญธรรมที่อยู่ปลายสายคร่ำครวญเสียงดังออกมาว่า "จ้าวซีซี เธอรีบโอนเงินห้าแสนมาให้ฉันหน่อยนะ""ห้าแสน? ทำไมไม่ปล้นกันเลยล่ะคะ?"จ้าวซีซีรู้ดีว่าการที่แม่บุญธรรมโทรมาหาเธอ คงไม่ใช่เรื่องดีอะไรอย่างแน่นอน และก็คงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินๆทองๆเป็นแน่อ้าปากก็จะเอาห้าแสนเสียแล้ว!"จ้าวซีซีเธออย่ามาเสแสร้งแกล้งทำอยู่เลยนะ สามีของเธอออกจะรวยขนาดนั้น และเธอก็เป็นคนที่ดูแลเงินทั้งหมดด้วย ตอนนี้เธอก็ตามหาครอบครัวเจอแล้ว ยังไงก็คงไม่ขาดเงินห้าแสนนี้ไปหรอกนะ ช่วงเวลานี้ฉันไม่ได้ก่อกวนเธอ มันก็ดีกับเธอแค่ไหนแล้ว หากเธอยังไม่เอาเงินห้าแสนออกมา ฉันจะก่อกวนเธอทุกวันแบบนี้ไม่มีหยุด"จ้าวซีซีขมวดคิ้ว "คุณจะเอาเงินห้าแสนไปทำอะไร?""แฟนสาวของน้องชายเธอตั
เพราะนี่ไม่ใช่ข่าวดีอะไรเลยจริงๆหลังจากเลิกเรียนแล้ว เธอก็ออกจากมหาลัยโดยสวมหมวกและหน้ากากแมสเอาไว้ เพราะกลัวว่าพ่อแม่บุญธรรมจะจำเธอได้เพราะยังไงเสียการที่จะมาดักรอเธออยู่หน้ามหาลัยแบบนั้น พ่อแม่บุญธรรมของเธอสามารถทำได้อย่างแน่นอนหลังจากจ้าวซีซีเดินออกมาดูตาท้องถนน เมื่อไม่พบบุคคลต้องสงสัย เธอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเตรียมเรียกแท็กซี่กลับบ้าน"เจ้าซีซี เธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ!"รถสปอร์ตสีแดงคันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนน จากนั้นฮั่วซานซานก็เดินลงมาจากรถอย่างโกรธๆ "คิดจะหลบไปที่ไหนอีก?"เมื่อเห็นว่าเป็นฮั่วซานซาน จ้าวซีซีก็มีสีหน้าที่สงบ "ฉันไม่ได้หลบสักหน่อย""เธอไม่ได้หลบ แล้วจะสวมหมวกและหน้ากากแมสในสภาพร้อนๆแบบนี้ได้ยังไง?"ฮั่วซานซานเดินมาขวางจ้าวซีซีเอาไว้ "นี่เธอกล้าไปฟ้องคนในบ้านฉัน จนฉันมีเงินใช้หนึ่งแสนต่อเดือนเท่านั้น มันจะพอใช้ได้อย่างไรกัน เธอต้องไปพูดกับลูกพี่ลูกน้องของฉันให้มันชัดเจน เรื่องของจางเหวินเหวินมันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย มันเป็นเพราะจางเหวินเหวินก่อขึ้นมาเพียงลำพังต่างหากล่ะ มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยนะ"หลายวันที่ผ่านมา เมื่อไม่มีเงินใช้นางก็รู้สึกอึดอัดเอาเสี
เมื่อจ้าวซีซีเห็นว่าฮั่วซานซานเตรียมที่จะกลับรถจริงๆ จึงรีบพูดขึ้นมาว่า"มีอะไรก็พูดดีๆกันได้นี่นา อย่าหุนหันพลันแล่นแบบนี้"เธอไม่ต้องการให้พ่อแม่บุญธรรมเข้ามาเกาะแกะอีกครั้งแล้วจริงๆ เพราะกว่าที่เธอจะย้ายออกมาจากชุมชนเก่านั้นได้มันไม่ง่ายเลย แม้ว่าพ่อแม่บุญธรรมจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอีกครั้ง พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรตัวเธอได้อีกต่อไปแล้วเธอไม่อยากให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่สงบสุขในตอนนี้ต้องถูกทำลายไปอีกครั้งฮั่วซานซานแสดงสีหน้าภาคภูมิใจทันที และขับรถตรงไปข้างหน้าไม่นานหลังจากนั้น จ้าวซีซีก็เห็นฮั่วซื่อกรุ๊ปที่อยู่ใกล้ๆ ไม่คิดเลยว่าจะมาที่บริษัทจริงๆฮั่วซานซานจอดรถตรงตำแหน่งพิเศษ และพูดอย่างภาคภูมิใจว่า "จ้าวซีซี ก่อนหน้านี้เธอคงไม่เคยมาที่นี่เลยล่ะสิ? ครั้งฉันจะพาเธอเดินเล่นสักหน่อย เพราะท้ายที่สุดแล้วเมื่อเธออยู่ในฐานะของคุณนายน้อยฮั่วไม่มีสิทธิ์ที่จะมา ตอนนี้ฉันจะพาเธอเข้าดูเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกนะ!"จ้าวซีซีมองเธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "ความจริงแล้ว ฉันมีคำถามอยากจะถามมากๆเลยนะ"ฮั่วซานซานเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เธอถามมาสิ""เธอสามารถทำให้กลิ่นปากเหม็นกว่ากลิ่นเท้
หลินซียิ้มอย่างภาคภูมิใจเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปยังจ้าวซีซีที่อยู่ตรงนั้น ลึกๆแล้วไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่หลินซีพูดออกมาตรงๆว่า "ซานซาน เธอปล่อยหล่อนไปเสียดีกว่า เดี๋ยวพี่ชายของเธอออกมา ฉันจะพูดเรื่องบัตรเครดิตให้เอง"เห็นได้ชัดว่า เธอไม่อยากให้จ้าวซีซีพบกับฮั่วหานฮุยเสียต่างหากโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างนี้ดวงตาของฮั่วซานซานกลอกไปมา จากนั้นก็พยักหน้า แล้วพูดว่า "ได้ค่ะ จ้าวซีซีเธอไปได้แล้วล่ะ ที่นี่ไม่ต้องการเธอแล้ว"จ้าวซีซีก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อด้วยเช่นกัน เดิมทีฮั่วซานซานก็เป็นคนที่บีบบังคับให้เธอมาอยู่แล้วพอดีเลย เธอก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งด้วยเช่นกันจ้าวซีซีออกจากห้องรับแขกเพื่อเตรียมตัวออกไป แต่แล้วก็ประจวบเหมาะที่ประตูห้องประชุมที่อยู่ข้างๆถูกเปิดออกพอดี จากนั้นก็มีกลุ่มคนจำนวนมากเดินออกมานำมาด้วยผู้ชายที่สวมชุดสูทสีเข้ม ออร่าเย็นชาและสูงส่งจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ขณะนี้เขากำลังก้มลงมาพูดอะไรบางอย่างกับผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆผู้ช่วยเป็นคนที่เห็นเธอคนแรก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "บอสครับ คุณนายน้อยมาครับ"จากนั้นฮั่วหานฮุยก็เงยหน้าขึ้นโดยไม่ร
เมื่อต้องเผชิญกับสายตาของฮั่วซานซาน หลินซีก็ทำได้เพียงพยายามพูดออกมาว่า "หานฮุย เดิมทีมันก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ จางเหวินเหวินต่างหากที่เป็นตัวต้นเหตุจริงๆ คุณก็อย่าตำหนิซานซานเลยนะ"ฮั่วหานฮุยชักสีหน้าเย็นชา และพูดอย่างหมดความอดทนเล็กน้อยว่า "ผมยังมีงานต้องทำ พวกคุณออกไปก่อนเถอะ"หลินซีตื่นตระหนกเล็กน้อย "หานฮุย ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ งานหมั้นในครั้งนี้ พวกพี่ชายของฉันก็จะมาด้วยนะ"ที่เธอมาก็เพราะว่าตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับฮั่วหานฮุยด้วยตัวเองสำหรับเธอแล้วการหมั้นครั้งนี้สำคัญจริงๆยังไงเสียฮั่วหานฮุยก็หย่าร้างกับจ้าวซีซีแล้ว ดังนั้นเธอจึงเป็นคนที่เหมาะกับฮั่วหานฮุยมากที่สุด และไม่มีใครสามารถแข่งขันกับเธอได้ฮั่วหานฮุยมองลงมา "แล้วไงล่ะ? เดิมทีการหมั้นครั้งนี้ก็เป็นแค่การแสดง คุณชัดเจนกว่าใครทั้งหมด"ลมหายใจของหลินซีหยุดชะงัก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความอ้อนวอน "หานฮุย ตอนที่อยู่ต่อหน้าพวกพี่ๆของฉัน คุณไว้หน้าฉันสักหน่อยจะได้หรือเปล่า เพราะท้ายที่สุดแล้วพี่สามยังคิดว่าพวกเราหมั้นกันจริงๆ สัปดาห์หน้าหากเขารู้ว่าการหมั้นเป็นเพียงข้อแลกเปลี่ยน หรือกระทั่งคุณมาไม่แล้วละก็ หากพี่สามของฉ
ยังไงเสียจ้าวซีซีก็เทียบกับเธอไม่ได้อยู่ดี——หลังจากที่จ้าวซีซีเดินออกจากฮั่วซื่อกรุ๊ป เธอก็หันกลับมามองตึกอาคารที่สูงตระหง่านแห่งนี้ จากนั้นก็ออกจากสถานที่แห่งนี้ไปตอนเย็นหลังจากที่เธอกลับถึงบ้าน ป้าใหญ่ก็มาดึงมือของเธอเอาไว้ "ซีซี ป้ามีข่าวดีจะบอกให้เธอได้รู้นะ ชุมชนเก่าของเราอาจจะถูกเวนคืนแล้วนะ""เวนคืน จริงๆเหรอคะ?"จ้าวซีซีไม่เคยคิดว่าสถานที่นั้นยังสามารถเวนคืนได้ นี่ถือว่าเป็นโชคดีได้หรือเปล่า?ในยามที่เธอต้องการเงินมากที่สุด เธอก็กลายเป็นเจ้าบ้านที่ถูกเวนคืนไปแล้ว?ป้าใหญ่ก็รู้สึกตื่นเต้นมากด้วยเช่นกัน "เป็นความจริง วันนี้ป้ากลับไปเยี่ยมที่นั่นโดยเฉพาะ ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน อีกสองสามวันก็จะให้พวกเรากลับไปร่วมการประชุมเพื่อขอความคิดเห็น ได้ยินมาว่าการเวนคืนมีสองทางให้เลือก หนึ่งคือให้บ้าน สองคือให้เงิน"จ้าวซีซีจับมือของป้าใหญ่เอาไว้แน่น "เป็นเรื่องดีค่ะ ถึงตอนนั้นค่อยคิดว่าจะทำอย่างไร""ซีซี ไม่ช้าก็เร็วพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็จะรู้เรื่องนี้ คิดว่าก็คงจะวุ่นวายกันอีกครั้งเป็นแน่ สู้แจ้งให้พวกพี่ๆของเธอรู้ไว้แต่เนิ่นๆจะดีกว่า ดูว่าพวกเขาจะมีใครที่
เมื่อจ้าวซีซีเห็นว่าแม่บุญธรรมจะมาไม้นี้ เธอก็กดเสียงให้ต่ำลงทันที "เราออกไปพูดกันข้างนอก""ไม่ต้องออกไปหรอก มีอะไรก็พูดต่อหน้าเพื่อนร่วมงานให้ชัดเจนไปเลย ทำไมเธอถึงได้ใจดำขนาดนี้ ตอนที่เธออยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านั่น เป็นเราสองคนที่รับเลี้ยงเธอ ตอนนี้เธอเติบโตแล้ว สุดท้ายเธอก็ไม่ยอมรับเรา แม้แต่คนในบ้านก็ยังไม่รับ ยังมีคนที่อกตัญญูแบบเธออยู่อีกเหรอ?"แม่บุญธรรมแสดงความสามารถของป้าจอมโวยวาย กลับดำให้เป็นขาวและสาดโคลนมาที่ตัวเธออย่างจังส่วนพ่อบุญธรรมก็แสดงภาพลักษณ์ของผู้ชายบ้านนอกที่ซื่อๆออกมา และอธิบายกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่รอบๆว่า "พวกเราก็ถูกบีบบังคับจนไม่มีทางเลือกด้วยเช่นกัน จ้าวซีซีเด็กคนนี้ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าจะอาหารการกินหรือร่ำเรียนหนังสือ เราก็ใช้เงินกับเธอไปไม่น้อยเลยทีเดียว ตอนนี้ทางบ้านจำเป็นต้องใช้เงิน เธอกลับหลบหน้าหลบตาไม่ออกมาพบ พวกเราก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน"จ้าวซีซีมองพ่อแม่บุญธรรมที่ไร้ยางอายอย่างเย็นชา "ฉันเรียนหนังสือ ไม่ได้ใช้เงินของพวกคุณแม้แต่บานเดียวนะ"แม่บุญธรรมเริ่มร้องครวญครางทันทีว่า "จ้าวซีซี เธอไม่ได้ใช้เงินของพวกเรา แล้วเธอจะใช้เงินของใครไ
จ้าวซีซีมองกลับไป "น่ากลัวว่าคุณคงจะคว้าน้ำเหลวแล้วล่ะ ฉันยอมที่จะตกงานและนอนข้างถนน ฉันจะไม่ให้เงินคุณแม้แต่บาทเดียว"พ่อบุญธรรมมีนิสัยฉุนเฉียว "จ้าวซีซี เธอกำลังพูดอะไรอยู่ เชื่อหรือเปล่าว่าข้าสามารถตบปากเจ้าจนตายได้?"ขณะที่พูดเขาก็คิดที่จะมาทุบตีเธอ แต่ฉินเฟิงได้เดินเข้ามาดึงเอาไว้ และพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชาว่า "คุณก็ลองลงมือดูสิ?"ในเวลานี้ เพื่อนร่วมงานชายในออฟฟิศต่างก็ยืนขึ้น และดูเหมือนจะน่าตื่นตระหนกอยู่เล็กน้อยส่วนเพื่อนร่วมงานสาวก็เริ่มเปิดปากพูดว่า "แม่เฒ่า เราจะให้ความรู้เรื่องกฎหมายกับท่านหน่อยนะ พฤติกรรมที่ทำร้ายจ้าวซีซีตั้งแต่ยังเด็กๆก็เป็นความผิดแล้ว หากตอนนี้เธอแจ้งความ คุณก็ต้องถูกนำตัวเข้าไปกักขังนะ""ใช่ๆ ไม่จำนึกแบบนี้ ยังกล้ามาขอเงินอีก ถุย!"เมื่อพ่อบุญธรรมเห็นสถานการณ์ไม่ถูกต้อง ขาจึงด่าทอและก้าวถอยหลังไปหลายก้าวแม่บุญธรรมเท้าสะเอว แล้วสาปแช่งไปว่า "จ้าวซีซี คอยดูเถอะ ถ้าเธอยังไม่ให้เงินเรา เราก็จะมาที่นี่ใหม่"เมื่อพ่อแม่บุญธรรมจากไป จ้าวซีซีก็มองเพื่อนร่วมงานที่ช่วยเหลืออย่างจนใจ "ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือนะ เดี๋ยวเลี้ยงชานมทุกคน"ฉินเฟิงพูด "แค่เรื่อ