จ้าวซีพยักหน้า “ใช่ค่ะ แม้ว่าพี่จะเป็นสัตวแพทย์ แต่ก็ถือว่าเป็นการแพทย์ พี่มีรุ่นพี่ เพื่อนหรือเพื่อนร่วมชั้นที่พี่รู้จักเป็นหมอผ่าตัดหัวใจที่มีชื่อเสียงหรือเปล่าคะ”“ไม่ยากหรอก พอดีพี่รู้จักหมอผ่าตัดหัวใจคนหนึ่ง เพียงแต่เป็นคนหนานเฉิง แต่พี่สามารถจองเวลาให้น้องได้นะ”ขอแค่เพื่อนของน้องสาวต้องการความช่วยเหลือ เขาจะหาเวลาไปผ่าตัดให้ในทันทีแค่ผ่าตัดครั้งเดียวก็ทำให้น้องสาวไม่ต้องกังวลใจต่อไปอีกแล้ว มันคุ้มค่ามากเลยทีเดียว“จริงหรือคะ? ดีจริงๆเลยค่ะ”จ้าวซีซีแสดงความยินดีจากก้นบึ้งของหัวใจ ถ้าฮั่วหานฮุยปฏิเสธที่จะถูกบีบบังคับด้วยการแต่งงาน เขาก็สามารถลองไปหาหมอที่พี่สามแนะนําได้เมื่อไม่สามารถหาหมอที่เหมาะสมจากเมืองเป่ยเฉิงได้ ก็ไม่ใช่ว่าเมืองหนานเฉิงจะไม่มีตอนกลางคืน จ้าวซีซีก็นอนที่บ้านและไม่ได้ไปไหนเธอคิดว่าพรุ่งนี้จะลองพูดเรื่องนี้กับฮั่วหานฮุยดูกลางดึก เธอถูกปลุกให้ตื่นด้วยโทรศัพท์ น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกของฮั่วหานฮุยได้ดังแว่วมา “คุณย่าถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินแล้ว คุณอยู่ที่ไหน?”“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”หลังจากที่วางสาย จ้าวซีซีก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเงียบๆ และรีบมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลทัน
เมื่อจ้าวซีซีเห็นเอกสารที่คุ้นเคยนั้น เธอก็รู้ได้ทันทีว่ามันคืออะไรเธอไม่ได้รับมันมา “ฉันบอกแล้วว่า ฉันไม่เอาอะไรทั้งนั้น”เธอไม่ต้องการทรัพย์สินที่เขาให้ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “ตอนนี้ผมไม่มีเวลามาเล่นกับคุณหรอกนะ”“ฮั่วหานฮุย ฉันไม่เคยพูดว่าจะเล่นอะไรกับคุณ ฉันพูดความจริงทั้งหมด”จ้าวซีซีหันข้างมามองเขา “คุณเคยบอกว่าเกลียดการถูกคนอื่นหลอกให้แต่งงานไม่ใช่เหรอ เรื่องนี้เป็นความเพ้อฝันในตอนนั้นของฉันจริงๆนั่นแหละ การดํารงอยู่ของฉันในช่วงสามปีที่ผ่านมาน่าจะทําให้คุณรู้สึกคลื่นไส้และสะอิดสะเอียนมาก ดังนั้นถือเป็นค่าธรรมเนียมการสูญเสียทางจิตใจที่มอบให้คุณก็แล้วกันนะ คุณไม่จําเป็นต้องจ่ายเงินให้ฉัน ฉันเลือกที่จะมาอย่างตัวเปล่าๆเอง”ฮั่วหานฮุยวางมือที่ลูบขมับลง หันไปมองดวงตาเรียวยาวที่สะอาดคู่นั้นของเธอ มันดูนิ่งสงบ ไร้ซึ่งคลื่นลมแรงแต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ได้อารมณ์ดีขึ้นมาแต่อย่างใด จากนั้นก็วางเอกสารไว้ระหว่างคนสองคน “ไม่จําเป็น นี่คือสิ่งที่ผมควรให้ ผมไม่ได้จะใจจืดใจดำกับผู้หญิงที่เคยอยู่ร่วมกันมาก่อนหรอกนะ!”จ้าวซีซีมองเอกสารฉบับนั้นและฉีกเอกสารออกเป็นสองส่วนทันที “ฉันรู้ว่าคุณฮั่วใจกว้างมาก
“ป้าหลิวคะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจงานของเขาดี”จ้าวซีซีแสร้งทําท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังมื้ออาหารเธอก็ได้เรียนรู้บางอย่างเกี่ยวกับหญิงตั้งครรภ์กับนักเลี้ยงเด็ก นี่คือสิ่งที่เธอต้องเรียนรู้ในตอนนี้และเธอก็อยากจะลืมอะไรหลายๆสิ่งหลายๆอย่างลงไปด้วยวันรุ่งขึ้น เมื่อจ้าวซีซีคลิกดูหัวข้อข่าว เธอก็เห็นข่าวบันเทิงในคอลัมน์หนึ่งที่ว่า [คุณหนูใหญ่หลินซีหลังจากร่วมรับประทานอาหารกับแฟนหนุ่มแล้ว ก็ไปที่ร้านจิวเวลรี่เพื่อซื้อแหวนด้วยกัน]หลังจากที่เธอเห็นข่าวบันเทิงนี้ เธอก็รู้สึกกระสับกระส่ายในใจเอาเสียมากๆแม้ว่าจะไม่ได้ถ่ายรูปหน้าตรงเหมือนครั้งที่แล้ว แต่เงาหลังนั้นดูออกว่าเป็นฮั่วหานฮุยและหลินซีเมื่อวานเพิ่งไปหย่ากันที่ที่ว่าการอำเภออยู่เลย ตอนเย็นทั้งคู่ก็ไปซื้อแหวนที่ร้านจิวเวลรี่การเสียแล้วช่างรวดเร็วเสียจริงๆจ้าวซีซีปิดโทรศัพท์ และใส่ใจกับการเรียนรู้ความรู้ของหญิงมีครรภ์เพื่อไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่านเมื่อไม่มีเรียนในตอนบ่าย เธอยังคงไปทํางานที่สตูดิโอ เพราะอย่างไรเสียเธอก็ขาดเงินอยู่มากผู้ชายไม่ได้หอมไปกว่าเงินหรอกนะเป็นเวลาหลายวันติดต่อกันที่ฮั่วหานฮุ่ยไม่ได้กลับไปที่วิ
เมื่อจู่ๆก็ต้องเผชิญหน้ากับหลินซี จ้าวซีซีก็ตื่นตระหนกขึ้นมาฉับพลัน และรู้สึกไม่สบายไปทั้งตัวใครจะรู้ว่านังดอกทองนี้คิดจะทำอะไรต่อไป?จ้าวซีซีดึงแขนของตัวเองกลับมา และพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชาว่า "ฉันคิดว่าเรารักษาระยะห่างของกันและกันจะดีกว่านะ""คุณจ้าวคะ แม้ว่าคุณจะหย่ากับหานฮุยไปแล้ว แต่เราก็เป็นเพื่อนกันได้นี่นา"มีความเย้ยหยันแวบเข้ามาในดวงตาของจ้าวซีซี "คุณหลินคะ คุณเคยเห็นเป็นเพื่อนกับเมียน้อยหรือเปล่าล่ะคะ?"เมื่อหลินซีได้ยินคำว่าเมียน้อย สีหน้าของเธอก็เย็นลงทันที แต่เนื่องจากฮั่วหานฮุยและคุณนายฮั่วก็อยู่ตรงนั้น เธอจึงพูดอย่างน่าสงสารทันทีว่า "คุณจ้าวคะ ทำไมคุณพูดจาไม่น่าฟังแบบนี้ล่ะคะ? ฉันอยากให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้ด้วยดีจริงๆนะคะ"คุณหลี่อู่หรานรีบปกป้องหลินซีทันที และพูดกับเธอว่า "จ้าวซีซี จะไร้ยางอายไปถึงไหน? เธอดูสิ คุณหลินใจกว้างขนาดนี้ แต่ว่าใครเป็นเมียน้อย?ไม่ว่าจะก่อนหรือหลัง เธอต่างหากที่เป็นผู้หญิงที่มาแทรกตรงกลางคนนั้น หากไม่มีเธอแล้วละก็ คุณหลินก็คงแต่งเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ฉันไปตั้งนานแล้ว สามปีผ่านมาแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะมีลูกตั้งสองคนไปแล้วก็ได้"มีความเย้ยหยันแวบเ
เมื่อเธอกําลังจะกลับไปพักผ่อน จางเหวินเหวินก็เหยียบรองเท้าและเดินเข้ามา จากนั้นก็โยนเอกสารฉบับหนึ่งให้เธอโดยตรง แล้วพูดว่า "ส่งไปที่นี่ ถ้าลูกค้าไม่พอใจค่อยไปเปลี่ยน"จ้าวซีซีมองแวบหนึ่ง "นี่คืองานของเธอนะ""ใช่ แต่ตอนนี้ฉันมีธุระนิดหน่อย วันหยุดสุดสัปดาห์เธอเข้าทำงานตลอดนี่ มันเป็นสิ่งที่เธอควรทำไม่ใช่เหรอ? มันคงไม่สามารถให้เธอรับเงินเปล่าๆ แล้วไม่ทำอะไรหรอกมั้ง"พอพูดจบ จางเหวินเหวินก็ได้เดินออกไปจ้าวซีซีดูเอกสารฉบับนี้และถอนหายใจ ช่างมันเถอะ ทําเสร็จก็กลับบ้านนอนสักพักเธอดื่มน้ำร้อนแก้วใหญ่และเหงื่อออกมาเล็กน้อย ในที่สุดเธอก็รู้สึกดีขึ้นแล้วจ้าวซีซีนั่งแท็กซี่ไปที่ชุมชนวิลล่าแห่งหนึ่ง เดินเข้าไปตามหมายเลขบ้าน และมองแม่บ้านที่เปิดประตูอยู่ "สวัสดีค่ะ ฉันมาจากสตูดิโอ XX มาถามเจ้าของว่าพอใจกับการออกแบบของบริษัทเราหรือเปล่าคะ?""คุณเข้ามาสิคะ"จ้าวซีซีเดินตามเข้าไปในห้องโถง มองปราดเดียวก็เห็นชุดแต่งงานสีขาวที่แขวนอยู่ตรงกลางสุด ส่องแสงและสวยงามเอาเสียมากๆ"ใครบางคนตาลายไปหรือเปล่า นี่เป็นพรีเวดดิ้งแบรนด์ใหญ่ของวิเวย์ รุ่นลิมิเต็ดทั่วโลกมีแค่อันนี้เท่านั้นนะ"ฮั่วซานซานเดินอ
หลังจากจ้าวซีซีเห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยนั้น เธอยังคิดว่าตัวเองคงไข้ขึ้นสูงและมองผิดไปทำไมฮั่วหานฮุยถึงมาอยู่ที่นี่ได้?หลินซีเดินไปหาฮั่วหานฮุยด้วยรอยยิ้ม "พี่หานฮุย ทำไมพี่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ?"ฮั่วหานฮุยสวมสูทสีเข้ม โดยรอบกายมีคนเดินตามเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งหมดเตรียมพร้อมรับด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดเมื่อพบกับหลินซี ใบหน้าของเขาก็เรียบเฉยไร้ความรู้สึก แต่สายตากลับตกไปยังจ้าวซีซีที่อยู่ด้านหลังของหลินซีเสียต่างหากชายหนุ่มขมวดคิ้ว หลินซีรีบพูดว่า "ช่วงนี้ฉันอยากจะเปลี่ยนสไตล์ของบ้านใหม่น่ะ สตูดิโอที่คุณจ้าวทำงานอยู่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียง ดังนั้นก็เลยขอความช่วยเหลือจากคุณจ้าว แต่คิดไม่ถึงเลยว่า วันนี้เธอจะมาด้วยตัวเองแบบนี้"ฮั่วซานซานอยู่ข้าง ๆ "จ้าวซีซี คุณยืนทําอะไรอยู่ข้างนอก เข้ามาเลือกของสิ"เมื่อจ้าวซีซีมองเห็นชายหญิงที่ยืนอยู่ด้วยกันตรงนั้น ในที่สุดเธอก็เดินเข้าไปอย่างอึดอัดใจ เธอไม่ได้มองฮั่วหานฮุยเลยแม้แต่น้อย และพูดกับหลินซีอย่างเป็นการเป็นงานว่า "คุณหลินคะ ต้องการฟูกนอนแบบไหนหรือคะ?"หลินซีหันไปมองฮั่วหานฮุย "พี่หานฮุย พี่คิดว่าที่นอนคอลเลคชั่นไหนดีที่สุดคะ? แบบไหนหลับสบ
น้ำเสียงของชายหนุ่มค่อนข้างจะเย็นชา "เพื่องาน ไม่เอาชีวิตแล้วหรือไง?"จ้าวซีซีหันกลับมาและเดินไปข้างหน้า แต่เธอเดินไปไม่กี่ก้าวสายตาก็มืดลง แล้วก็ล้มลงไปทันทีจิตใต้สํานึกของเธอปกป้องท้องของตัวเองโดยคิดว่าครั้งนี้จะต้องล้มลงอย่างรุนแรงเป็นแน่ แต่ในวินาทีสุดท้าย เธอก็ถูกกอดและตกลงไปในหน้าอกคุ้นเคยและแปลกหน้าไปในเวลาเดียวกันเธอพยายามลืมตาขึ้นมา แต่มองคนข้างหน้าไม่ชัดฮั่วหานฮุยอุ้มจ้าวซีซีเอาไว้ในอ้อมแขน มองเห็นเหงื่อเย็นที่ผุดออกมา ลำตัวหนาวสั่น และริมฝีปากไร้สีเลือดรูม่านตาของเขาหดตัว และอุ้มเธอออกจากห้างโดยตรงเมื่อหลินซีพบกับฉากนี้ ก็รีบวิ่งตามไปทันที "พี่หานฮุยคะ"แต่ก็ยังช้าไปหนึ่งก้าว ประตูลิฟต์ถูกปิดลงโดยไม่รอเธอเลยแม้น้อยสีหน้าของหลินซีไม่ค่อยจะสู้ดีนัก "จ้าวซีซีคนนั้นตั้งใจหรือเปล่า?"และฮั่วซานซานก็ตามมาทัน "ตั้งใจแน่ๆ ทั้งๆที่เมื่อกี้จ้าวซีซียังสบายดีอยู่ บทจะเป็นลมก็เป็นลม และก็เป็นลมล้มไปในอ้อมแขนของพี่ชายฉันด้วย จ้าวซีซีคนนี้ช่างแสดงเก่งจริงๆ แต่พี่ชายก็ยังติดกับดักไปได้นี่น่ะสิ"หลินซีมองตัวเลขลิฟต์จอดติดลบชั้นล่างอย่างไม่เต็มใจ น่าจะพาจ้าวซีซีไปโรงพยาบาลแล้วแ
จ้าวซีซีมองชายหนุ่มที่อยู่ใกล้ๆ ปลายจมูกของทั้งสองอยู่ชิดติดกันเธอตกตะลึง ผู้ชายคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่?วินาทีต่อมา ริมฝีปากบางๆ ก็ขยับขึ้นมา "สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่แตกต่างหรือเปล่า?"จ้าวซีกะพริบตา และรู้สึกว่าหน้าผากของเขาเย็นมากเหมือนก้อนน้ำแข็งในขณะนี้ ก็มีเสียงไอมาจากข้างๆ "แคกๆ ระวังหน่อยสิ ที่นี่โรงพยาบาลนะ"ฮั่วหานฮุยลุกขึ้นอย่างรวดเร็วส่วนจ้าวซีซีก็รีบดึงผ้าห่มมาปิดหน้าตัวเอง รู้สึกลำบากใจเป็นอย่างยิ่งและพยาบาลสาวก็พูดขึ้นมาว่า "ญาติผู้ป่วยรออยู่ข้างนอกนะคะ หากยังไม่ได้กดบัตรคิวก็กดบัตรคิวก่อนนะคะ"จ้าวซีซีผ่านช่องว่างของผ้าห่มและเห็นรอยเท้าของเขาหายไปต่อหน้า จากนั้นเธอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อยในที่สุดเขาก็เดินออกไปจ้าวซีซีแอบเปิดผ้าห่มออกแล้วพูดกับพยาบาลสาวว่า "ที่จริงฉันไม่เป็นอะไรหรอกนะคะ ไม่ต้องรักษาก็ได้ค่ะ"จากนั้นพยาบาลสาวก็ใช้ปืนวัดอุณหภูมิร่างกายบีบใส่เธอ แล้วพูดว่า "อุณหภูมิร่างกาย 39 องศา แน่ใจนะว่าไม่เป็นไร?"สีหน้าของจ้าวซีซีเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าตัวเองจะไข้ขึ้นสูงขนาดนี้เมื่อพยาบาลสาวได้เห็นว่าคุณหมอเดินเข้ามาก็พูดว่า "หมอหลินค