แชร์

บทที่ 1

ผู้เขียน: วรนิษฐา / Miss sexy
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-26 12:45:08

เช้าวันต่อมารติชาเลือกที่จะขับรถออกจากคอนโดมิเนียมตั้งแต่ยังไม่หกโมง เพราะมั่นใจว่าเส้นทางไปออฟฟิศรถติดหนักแน่ เสื้อผ้าก็ยังคงเป็นชุดเดิมๆ เนื่องจากไปช่วยแค่สามสี่เดือนจึงไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ ทรงผมเธอก็พึ่งไปตัดให้เข้าทรงแล้วทำสีอีกเล็กน้อยเพื่อให้หน้าสว่างขึ้น แต่งหน้าเบาๆ ให้พอไม่จืดชืดเน้นสีปากสวยๆ ทุกอย่างก็ลงตัว

รถมินิคูเปอร์สีแดงมุ่งหน้าไปบนถนนโดยรติชาเป็นคนขับ รถคันนี้เธอซื้อมาด้วยเงินของตัวเองจึงภูมิใจมาก เสียงโทรศัพท์ที่เก็บในกระเป๋าสะพายซึ่งวางอยู่บนเบาะข้างๆ คนขับก็ดังขึ้น นั่นทำให้เธอต้องละสายตาจากถนนมามอง เพียงเสี้ยววินาทีต่อจากนั้นก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

โครมมม

รติชาหลับตาแน่น เมื่อครู่นี้เธอรับรู้ได้ถึงแรงกระแทกแต่ก็ไม่ได้มากถึงขนาดถุงลมนิรภัยหน้ารถทำงาน ใจดวงน้อยเต้นโครมครามเพราะความตกใจและความกลัว เพราะนี่คือครั้งแรกที่เธอขับรถชนรถคันอื่น พอตั้งสติได้ก็รีบเปิดประตูลงมาจากรถซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่คู่กรณี

ปิลันธน์อยู่ในชุดทำงานเต็มยศเพราะวันนี้มีประชุมกับลูกค้า ผมยังคงถูกเซ็ตมาเป็นทรงอย่างดีเหมือนทุกวัน น้ำหอมกลิ่นสปอร์ตจากแบรนด์ชื่อดังโชยออกมาจากตัวเขา ชายหนุ่มยกแขนเสื้อขึ้นมองเวลาเพราะคงไปสายแน่นอน 

“คุณคะ ฉันขอโทษจริงๆ” รติชาเอ่ยขอโทษเพราะรู้ว่าเธอผิดเต็มๆ ที่หันไปสนใจเสียงโทรศัพท์จนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ในขณะที่ปิลันธน์ยังคงยืนนิ่งเพื่อสำรวจความเสียหาย จึงเห็นว่าท้ายรถสปอร์ตคันสวยยุบและมีรอยชนอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่รถมินิคูเปอร์คันก่อเหตุมีรอยเล็กน้อย

“ไม่เป็นไรครับ ผมว่าเราเรียกประกันก่อนดีกว่า”

“ค่ะๆ” รติชาเอ่ยรับจากนั้นก็กลับมาที่รถเพื่อคว้าโทรศัพท์ออกมากดโทรหาประกันซึ่งปิลันธน์ก็ทำเช่นเดียวกับเธอ ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาเคลียร์พื้นที่เพื่อเปิดการจราจรที่ตอนนี้ติดยาวไปหลายร้อยเมตร เวลานี้รถทั้งสองคันจึงย้ายมาจอดริมถนนแทน ไม่นานประกันของแต่ละคนก็มาถึง

รติชาตัดสินใจโทรหาอรสาเพื่อบอกว่าตอนนี้เธอเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยและอาจไปช้า ส่วนปิลันธน์เขาไม่สามารถยกเลิกนัดหมายเช้านี้ได้ บอสหนุ่มทำท่าครุ่นคิดเพื่อหาทางออก กระทั่งหันมาเห็นคู่กรณีเข้าความคิดหนึ่งก็ผุดเข้ามาในหัวทันที 

“คุณ”

“ค่ะ” รติชาขานรับด้วยสีหน้างุนงง เธอรู้ว่าตัวเองผิดที่ประมาทจนทำให้อีกฝ่ายเดือดร้อน เขาจะดุจะว่าอะไรเธอก็พร้อมยอมรับ 

“ขอโทรศัพท์หน่อยครับ”

“โทรศัพท์” เครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นบนใบหน้าของรติชาทันที

“ใช่...โทรศัพท์คุณ ผมขอหน่อย”

“นี่ค่ะ” รติชาเอ่ยรับแล้วจัดการปลดล็อคจากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้ชายตรงหน้าไปอย่างงุนงงอีกครั้ง หรือเช้านี้เธอยังไม่ได้กินกาแฟสมองเลยสั่งงานช้ากว่าปกติ 

เมื่อได้โทรศัพท์ของคู่กรณีมาไว้ในมือ ปิลันธน์ก็ไม่รีรอที่จะกดโทรออกไปยังเบอร์ตัวเขาเอง จากนั้นก็เซฟชื่อไว้ว่า

รถมินิคูเปอร์สีแดง จากนั้นก็ยื่นคืนให้เธอพร้อมกับกุญแจรถเขา

“นี่กุญแจรถผมครับ”

“เอ้...คุณให้ฉันไว้ทำไม” รติชาถามกลับไปทันที

“เมื่อกี้นี้ผมใช้โทรศัพท์คุณโทรหาผม ฉะนั้นตอนนี้เราจะมีเบอร์โทรของกันและกัน”

“โอเค เรื่องนั้นฉันเข้าใจแต่เรื่องกุญแจรถคุณฉันไม่เข้าใจ”

“พอดีผมรอจนประกันเคลียร์เสร็จไม่ได้ ผมเลยจะฝากคุณจัดการต่อให้หน่อย”

“อะไรนะคะ!” เสียงของรติชาดังกว่าปกติ เพราะไม่คิดว่าจู่ๆ ชายตรงหน้าจะทำแบบนี้ 

“เอกสารทุกอย่างอยู่ในรถ บัตรประชาชนผมทางประกันถ่ายรูปไว้แล้ว ถ้ามีอะไรติดต่อผมได้ตลอด แต่ตอนนี้ผมต้องไปก่อน”

“คุณ...เดี๋ยวก่อนสิ” รติชาพยายามเรียกชายตรงหน้าแต่ทว่าเขากลับไม่สนใจเธอเสียแล้ว ซึ่งเวลานั้นปิลันธน์เข้าไปคุยกับทางตำรวจต่อด้วยเจ้าหน้าที่ประกันเสร็จก็นั่งรถแท็กซี่ออกไปทันที ปล่อยให้รติชามองตามอย่างงุนงงและสับสนเล็กน้อย

“ฮือ...นี่มันวันอะไรเนี่ย” เสียงโวยวายดังขึ้นอยู่ภายในใจของรติชา สุดท้ายเธอก็ต้องอยู่จัดการทุกอย่างกระทั่งผ่านไปเกือบชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น 

เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากไปแล้วเจ้าหน้าที่ประกันก็เช่นเดียวกัน รติชายืนเท้าสะเอวมองรถเธอสลับกับรถคู่กรณีที่รู้จากเจ้าหน้าที่ประกันว่าเขาชื่อปิลันธน์อย่างใช้ความคิดเพราะคงปล่อยรถเขาจอดไว้ตรงนี้ไม่ได้ กระทั่งเธอปิ๊งไอเดียระยะเวลาจากจุดเกิดเหตุไปถึงบริษัทไม่ไกลนักถ้าจะขับไปจอดรถไว้ที่นั่นคงไม่เสียหายอะไร 

รติชาขับรถตัวเธอไปที่บริษัทก่อนแต่กว่าจะวนหาที่จอดได้ก็กินเวลาหลายนาที จากนั้นก็นั่งแท็กซี่ย้อนกลับมาขับรถของปิลันธน์ไปจอดไว้ที่นั่นด้วย แต่ที่รู้สึกแปลกคือทำไมตอนเธอขับรถตัวเองมากลับหาที่จอดยากแสนยาก แต่พอขับคันนี้เข้ามาปุ๊บเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถึงกับวิ่งหน้าตั้งมาดูแลแถมยังยกที่กั้นตรงจุดจอดรถวีไอพีให้อีกต่างหาก

หรือว่ารถปอร์เช่ 911 คันนี้มันมีภาษีกว่ารถมินิคูเปอร์ของเธอ รติชาได้แต่คิดแล้วก็สงสัยและยิ่งสงสัยมากขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตอนเจอเธอ เพราะจะตะเบ๊ะทำความเคารพก็ไม่เชิงสีหน้าดูตกใจบอกไม่ถูก รติชาจึงส่งยิ้มให้แล้วเดินเข้าไปภายในพร้อมกับแจ้งตรงจุดประชาสัมพันธ์ว่าเธอต้องการมาพบใคร ไม่กี่อึดใจอรสาก็ลงมารับ

“เดินช้าๆ ลงหน่อยก็ได้พี่เอม” รติชาเอ่ยบอกคนท้องแก่ที่ตอนนี้ดูอุ้ยอ้ายแต่อรสาก็คล่องแคล้วเสียจนคนไม่ท้องรู้สึกกลัวแทน

“ขอโทษที ลืมไปว่าท้องอยู่” อรสาหันมาตอบ ทั้งสองคนเดินผ่านจุดนั้นจุดนี้มาเรื่อยๆ กระทั่งถึงโซนทำงานของผู้บริหารที่ในสุดเป็นของประธานที่วันนี้ติดประชุมกับลูกค้าจึงยังไม่เข้ามา

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 2

    อรสาพารติชาไปยังโต๊ะทำงาน พอนั่งลงบนเก้าอี้ได้ก็เอนหลังพิงแล้วออกอาการนิ่วหน้าเล็กๆ เพราะลูกในท้องถีบชุดใหญ่“เป็นอะไรหรือเปล่าคะพี่เอม”“ลูกถีบน่ะ” “จริงเหรอคะ ปิ่นขอจับท้องหน่อยได้ไหม”“ได้สิ” อรสาเอ่ยรับ แต่คนขอจับดูกล้าๆ กลัว ว่าที่คุณแม่จึงยื่นมือไปจับมือของรติชาไว้แล้วนำมาวางบนหน้าท้องกลมๆ ของตัวเอง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกดิ้นพอดี แม้จะยังไม่เคยท้องแต่รติชาก็รู้สึกมหัศจรรย์ใจกับการอุ้มท้องและการให้กำเนิดของผู้หญิงทุกคนบนโลกใบนี้มาก“ถีบใหญ่เชียว” “อื้อ...ถีบจนบางทีพี่ไม่ได้นอนเลยก็มี”“ปิ่นขอโทษนะคะที่วันนี้มาสาย ทั้งๆ ที่เป็นวันทำงานวันแรกแท้ๆ”“ไม่เป็นไร อีกอย่างเช้านี้บอสไม่เข้าด้วย มาอีกทีบ่ายๆ นั่นล่ะ” อรสาส่งยิ้มให้รติชา จากนั้นก็เริ่มสอนงานแต่เอาจริงเธอก็แทบไม่ต้องสอนอะไรเพราะนี่คืองานที่รติชาพอจะคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่เรียนรู้บางอย่างเพิ่มเติมเท่านั้นเอง กระทั่งพักเที่ยงทั้งคู่ก็ลงไปกินข้าวด้วยกัน จากนั้นก็พูดคุยเรื่องทั่วๆ ไปเรียกได้ว่าเวลาพักช่างผ่านไปไวเพราะแป๊บๆ ทั้งสองก็กลับขึ้นมาทำงานแล้ว แต่จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ระทึกเมื่ออรสาน้ำเดินและเกิดความโกลาหลขึ้นทันที จา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 3

    “คุณมาทำอะไรที่นี่” ประโยคคำถามที่เหมือนกันดังขึ้นจากปากของทั้งคู่อีกครั้ง คราวนี้ทั้งสองต่างเลิกลั่กกระทั่งรติชาชิงตั้งคำถามขึ้นมาอีกครั้ง“คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”“แล้วคุณล่ะครับมาทำอะไรที่นี่” แทนที่จะตอบคำถามนั้นของรติชา ปิลันธน์กลับตั้งคำถามแบบเดียวกันกลับมาเสียได้ รติชาเป่าลมออกปากหนักๆ เพราะถ้ามัวแต่ถามกันไปถามกันมาคงไม่ได้คำตอบแน่ “ฉันมาทำงาน”“ทำงาน”“ค่ะ” รติชาเอ่ยรับพร้อมกับเพ่งสายตามองชายตรงหน้าไปด้วยหรือว่าเขาจะเป็นเจ้านาย ถ้าใช่นี่โลกมันจะกลมไปถึงไหน “หรือว่าคุณคือเลขาคนใหม่ที่จะมาช่วยงานตอนที่คุณเอมลาคลอด” ปิลันธน์เอ่ยถามขึ้นทันที อะไรมันจะประจวบเหมาะขนาดนี้ “ใช่ค่ะ...ฉันชื่อรติชา” รติชาพยักหน้ารับอย่างตรงไปตรงมา “โอเค งั้นเราก็คนกันเอง”“คนกันเองหรือคะ” เครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นบนใบหน้าของรติชาอีกครั้งเพราะไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคำว่าคนกันเองที่ชายตรงหน้าพูดสักเท่าไหร่ จะว่าไปแล้ววันนี้มันวันอะไรของเธอ“คุณเอมน่าจะบอกคุณบ้างแล้วว่าเจ้านายของเธอชื่อว่าอะไร”“บอกค่ะว่าชื่อคุณปิลันธน์ อย่าบอกนะคะว่าคือ...คุณ” “ครับ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการคุณเลขา” ปิลันธน์ส่งยิ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 4

    ปลายสายรอฟังอย่างตั้งใจ เพราะทั้งเธอและรติชาก็ต่างรู้จักและสนิทกับอรสามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว พอจบมาทำงานก็ยังไปมาหาสู่ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเรื่อยมา งานแต่งงานของอรสาคนที่ได้รับช่อดอกไม้เจ้าสาวก็คือรติชา แต่ผ่านมาสามปีแล้วพื่อนเธอคนนี้ก็ยังโสดสนิท โสดแบบไม่น่าโสดเพราะรติชาเพียบพร้อมไปหมดทุกอย่างออกขนาดนี้ “ก็เมื่อเช้าฉันขับรถชน”“จริงเหรอ แล้วแกเป็นไงบ้าง” น้ำเสียงของโสภิตานั้นฟังดูตกใจ“สบายดี ชนท้ายนะไม่ได้ร้ายแรงอะไร”“โล่งอกไป”“เคลียร์ประกันยังไม่ทันเสร็จดีเจ้าของรถที่ฉันขับไปเสยท้ายก็ต้องรีบไป แถมเขายังกล้าทิ้งกุญแจรถคันเกือบสิบล้านไว้ที่ฉันอีก” “นี่ฝ่ายนั้นกล้าทิ้งกุญแจรถให้แกเลยเหรอ” โสภิตาถามหน้าตื่นเพราะไม่เคยเจอเคสอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่ “ใช่...ฉันเลยต้องรับผิดชอบจนเคลียร์กับประกันเสร็จ พอเสร็จจากตรงนั้นฉันต้องขับรถตัวเองไปบริษัทแล้วย้อนกลับมาขับรถฝ่ายนั้นไปจอดด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะไปจอดไว้ที่ไหน ยังไม่จบเพราะทำงานกันอยู่ดีๆ พี่เอมน้ำเดินต้องเรียกรถพยาบาลมารับ”“ระทึกของจริง”“ยังไม่หมดแค่นั้นนะสิ”“ยังมีอีกเหรอ”“อันนี้เรียกระทึกและพีคขั้นสุด เพราะเจ้าของรถคันที่ฉั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 5

    เช้าวันที่สองของการไปทำงานแทนอรสา ทุกอย่างดูราบรื่นกว่าวันแรกมากแถมวันนี้รติชายังไปถึงที่ทำงานเร็วอีกด้วย ส่วนปิลันธน์นั้นเสียเวลารอรถคันใหม่เล็กน้อยเพราะคันที่ใช้อยู่ชายหนุ่มต้องส่งไปซ่อมเมื่อมาถึงเขาก็ทักทายเธอเล็กน้อยจากนั้นก็เข้าห้องทำงานไป รติชาถูกเรียกไปพบปิลันธน์อธิบายเรื่องงานที่เธอต้องรับผิดชอบซึ่งงานพวกนี้อยู่นอกเหนือจากที่อรสาได้อธิบายไปเมื่อวาน ซึ่งเธอก็เข้าใจมันได้ในเวลาอันสั้น จากนั้นจึงกลับมานั่งทำงานที่โต๊ะ กระทั่งพักเที่ยงแม่บ้านก็ยกมื้อเที่ยงเข้าไปเสิร์ฟให้ปิลันธน์ในห้องเพราะชายหนุ่มไม่ค่อยออกไปกินที่ไหน แต่เพราะชายหนุ่มไม่ชอบกลิ่นอาหารในห้องทำงานแม่บ้านจึงต้องเปิดหน้าต่างไว้ด้วย ส่วนรติชาที่ยังไม่รู้จักใครที่นี่ก็สามารถลงไปนั่งกินมื้อเที่ยงคนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเก้อเขินสายตาใคร จากนั้นก็แวะซื้อขนมติดไม้ติดมือมาสองสามอย่างเพื่อกินในช่วงบ่าย “คุณกินข้าวเที่ยงแล้วเหรอ” เพราะเดินออกมาแล้วเจอกับรติชาเข้า ปิลันธน์จึงเอ่ยถามขึ้น “ค่ะ”“มีเพื่อนไปกินด้วยหรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ทั้งๆ ที่เขาจะมองผ่านเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ไปก็ได้“ไม่มีค่ะ ฉันไปกินคนเดียว”“คนเดียว” “

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 6

    บอสหนุ่มถึงกับอุทานออกมาเสียงหลงพลอยทำให้รติชาลนลานตามไปอีกคน ส่วนตัวก่อเรื่องกลับไม่สะทกสะท้าน รติชายื่นมือไปจับตั๊กแตนตำข้าวตัวนั้นอีกครั้งคราวนี้เธอจับมันแน่นกว่าเดิมเพราะกลัวจะกระโดดไปเกาะหน้าของปิลันธน์เข้าอีก“มาได้ยังไง” ปิลันธน์หันมองซ้ายทีขวาทีอย่างหวาดระแวงเพราะกลัวว่าจะมีตั๊กแตนตำข้าวตัวอื่นๆ อยู่ในห้องทำงานอีก “มันคงบินเข้ามาตอนแม่บ้านเปิดหน้าต่างทิ้งไว้”“อ้อ” หัวใจของบอสหนุ่มเต้นโครมครามเพราะความกลัวที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง แถมยังเผลอแสดงอาการต่อหน้ารติชาเสียอีก “ฉันเอามันออกไปก่อนดีกว่า” เอ่ยบอกเสร็จรติชาก็เอาตั๊กแตนตำข้าวในมือไปวางไว้นอกหน้าต่างเสร็จก็รีบปิดทันที เพราะไม่อยากให้มันเข้ามาป่วนข้างในซ้ำอีก“มันไปแล้วหรือยัง”“กำลังไปค่ะ อีกสักพักคงไม่อยู่แล้ว”“โล่งอกไปที” ท่าทางของปิลันธน์ทำให้รติชานึกขำ เพราะไม่คิดว่าผู้ชายตัวโตอย่างเขาจะกลัวแมลงตัวเล็กๆ แบบนั้นได้ แถมยังดูกลัวมากเสียด้วย“บอสกลัวแมลงหรือคะ”“ไม่ได้กลัวแค่ไม่ชอบ” รติชาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะให้กับคำตอบของปิลันธน์ สรุปง่ายๆ คือเขากลัวแมลงนั่นแหละไม่ต้องสืบ “ไม่ได้กลัวก็ไม่ได้กลัวค่ะ” “ขอบคุณมาก ถ้าไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 7

    “ใช่...หนึ่งเขารักครอบครัวมากยิ่งมีลูกด้วยกันก็ยิ่งตอกย้ำว่าพี่เลือกคนไม่ผิด” อรสายิ้มออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะหันไปมองลูกสาวตัวน้อยที่เป็นโซ่ทองคล้องใจเธอและสามี รติชาอยู่กระทั่งสามีของอรสาเข้ามาเธอจึงขอตัวกลับ ระหว่างทางที่ขับรถอยู่นั้นก็เมาท์มอยกับโสภิตาไปด้วย แต่เมื่อมาถึงคอนโดมิเนียมรติชาก็ได้เจอกับคนที่ไม่คิดว่าจะเจอ รติชาอยากแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นอีกฝ่าย ทว่าสุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเดินเข้าไปทักทายเขา “คุณรติชา” “บอสมาทำอะไรที่นี่คะ”“หาเพื่อนครับ ว่าแต่คุณล่ะมาทำอะไรที่นี่” ปิลันธน์เอ่ยถามขึ้น เพราะเขาเองก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกับรติชาที่นี่เช่นกัน “ฉันพักที่นี่น่ะค่ะ”“อ๋อ” คนฟังถึงบางอ้อ แม้คอนโดมิเนียมที่นี่ราคาต่อยูนิตค่อนข้างสูงแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนซื้อ ดูจากรถที่ขับกระเป๋าที่ถือเครื่องประดับที่ใช้ก็บ่งบอกอยู่ว่ารติชานั้นคงมีฐานะพอสมควร แต่ที่แปลกใจคือทำไมเธอถึงยังเลือกที่จะทำงานเป็นเลขา“บอสพึ่งมาหรือว่ากำลังจะกลับคะ”“พึ่งมาครับ” “เฮ...ปิลันธน์” เสียงเอ่ยเรียกปิลันธน์ดังขึ้น ซึ่งคนที่เรียกก็ไม่ใช่ใครอื่นเพราะคือเพื่อนสนิทของบอสหนุ่มที่ชื่อว่าเมทีนั่นเอง “เพื่อนผมมานั่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 8

    “โอ๊ย...เสร็จสักที” รติชาขยับร่างกายไปมาเพื่อไล่ความเมื่อยขบหลังจากนั่งหลังขดหลังแข็งทำรีพอร์ทให้ปิลันธน์ติดต่อกันหลายชั่วโมง ส่วนบอสของเธอนั้นป่านนี้ก็ยังไม่ออกจากห้องประชุมเช่นกัน รติชาจิบชาอุ่นๆ เพิ่มความชุ่มชื่นให้ร่างกาย กระทั่งสายตาหันไปเห็นปิลันธน์เดินออกมาจากห้องประชุม “ประชุมเสร็จแล้วหรือคะบอส”“ยัง...แค่พักเบรก”“ลากยาวขนาดนี้ ไม่ล้ากันแย่แล้วเหรอคะ”“คงมีบ้าง แต่ผมอยากให้งานเสร็จก่อนหยุดยาว”“ค่ะ” รติชาเอ่ยรับเพราะบางอย่างมันก็อยู่เหนือการควบคุมของเธอ ปิลันธน์พักราวๆ ห้านาทีก็กลับเข้าไปประชุมอีกครั้ง ส่วนรติชาหลังจากจิบชาเสร็จแล้วก็กลับมานั่งส่งงานให้ปิลันธน์รวมถึงเคลียร์งานทุกอย่างให้จบ เธอชะเง้อมองเข้าไปในห้องประชุมหลายต่อหลายครั้งเพราะตอนนี้เลยเวลาเลิกงานมานานพอสมควรแต่ทุกคนก็ยังไม่กลับออกมากระทั่งประตูเปิดออกและคนที่ก้าวออกมาคนแรกคือผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ตามด้วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดและคนอื่นๆ เหลือก็เพียงแค่ปิลันธน์ที่ยังไม่เห็นแม้แต่เงา รติชาเดินไปชะเง้อมองตรงประตูกระจกจึงเห็นว่าเขายังนั่งจดๆ เขียนๆ อะไรบางอย่างใส่ไอแพด พอเห็นเขาลุกรติชาก็รีบกลับมานั่งที่โต๊ะทันที“ยั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 9

    เมื่อเห็นว่าทั้งเธอและเขาต่างอิ่มกันแล้ว ปิลันธน์จึงเรียกเช็กบิล โดยชายหนุ่มอาสาเป็นเจ้ามือทั้งๆ ที่รติชาปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีกเพราะเธอไม่อยากให้เขาต้องมาเลี้ยง สุดท้ายก็ปฏิเสธไม่สำเร็จ“ขอบคุณสำหรับเจ้ามือนะคะ”“ด้วยความยินดีครับ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกจากนั้นปิลันธน์จึงเดินมาส่งรติชาที่รถแล้วเดินย้อนไปยังรถตัวเองที่จอดอยู่ด้านหน้า ทว่ารถเจ้ากรรมที่นานๆ เขาจะเอามาใช้กลับเกเรเพราะสตาร์ทไม่ติด ปิลันธน์เป่าลมออกปากหนักๆ ซึ่งรติชาก็มองเห็นความผิดปกติที่ว่าเช่นกัน ก๊อก ก๊อก ก๊อกเลขาสาวสวยตัดสินใจเดินมาเคาะกระจกรถของบอสหนุ่มเบาๆ พอปิลันธน์ลดกระจกรถลงมาจึงเอ่ยถามขึ้น “รถเป็นอะไรหรือเปล่าคะบอส” “สงสัยจะเกเรนะครับเลยสตาร์ทไม่ติด” ปิลันธน์เอ่ยบอกเพราะรถคันนี้อยู่กับเขามาหลายปีแล้ว ส่วนรติชาก็พยายามคิดว่าจะแก้ปัญหาตอนนี้ยังไงดี ระหว่างจอดรถทิ้งไว้ที่นี่แล้วปล่อยให้ปิลันธน์กลับแท็กซี่หรือเธอไปส่งเขาที่บ้าน รติชาสองจิตสองใจในขณะที่ปิลันธน์ก็ยังคงพยายามสตาร์ทรถอย่างต่อเนื่อง“อืม...ผมว่าเสียเวลาเปล่า” เพราะลองหลายครั้งแล้วรถก็ยังนิ่งสนิท สุดท้ายปิลันธน์ก็ถอดใจหาวิธีอื่นกลับบ้าน“ให้ฉันไปส่งบอสที่บ้านไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26

บทล่าสุด

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 21

    ปิลันธน์อดไม่ได้ที่จะฝากรอยจูบไว้บนหัวไหล่มนของรติชานั่นก็เพื่อประทับตราความเป็นเจ้าของและไม่ได้มีแค่จุดเดียว น้ำเสียงยามที่เขาเอ่ยเรียกเธอนั้นแหบพร่าด้วยไฟปรารถนาอันเร่าร้อน ส่งผลให้แก่นกายส่วนล่างพองขยายจนปวดหนึบพร้อมกับพยายามดันตัวเองออกมาเพื่อผงาดนอกกางเกง“ผมต้องการคุณ” ปิลันธน์กระซิบบอกรติชาเสียแหบพร่า ก่อนจะหอมแก้มนุ่มๆ ที่แดงปลั่งของเธอหนักๆ รติชาเม้มริมฝีปากที่บวมเจ่อจากการจูบที่กินเวลายาวนานของตัวเองเล็กน้อย แววตาของเธอสั่นไหวอย่างขัดเขินก่อนจะพยักหน้ารับเพื่ออนุญาตให้เขาทำอย่างที่ใจนั้นต้องการคำอนุญาตของรติชาช่วยทำลายกำแพงความลังเลในใจของปิลันธน์ ชายหนุ่มผละออกจากเธอเล็กน้อยจากนั้นก็จัดการถอดเสื้อผ้าออกแล้วโยนมันทิ้งไปให้ห่างอย่างไม่สนใจ ร่างกายช่วงบนที่เต็มไปด้วยกล้ามของเขาช่างสวยงาม โดยเฉพาะซิกแพคลอนสวยนั่น แต่สิ่งที่สะดุดสายตาของรติชาจนทำให้เธอกลืนน้ำลายลงคอนั่นก็คือช่วงกลางลำตัวของบอสหนุ่ม แม้เขาจะยังสวมอันเดอร์แวร์อยู่แต่สิ่งนั้นก็ดุนเนื้อผ้าออกมาจนมองเห็นรูปร่างของมันได้อย่างชัดเจนรติชาส่ายศีรษะไปมาเพื่อไล่ภาพจินตนาการในหัวให้ออกไป

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 20

    “ไม่อยากรู้ค่ะ”“แต่ผมอยากบอก” ปิลันธน์เงียบไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มกำลังชั่งใจว่าจะพูดความรู้สึกออกไปตอนนี้ดีไหมหรือรอจนกว่ารติชาสร่างเมาเสียก่อน แต่อีกใจก็อยากพูดให้มันหายอึดอัด “เพราะผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอ”“บอสใจร้าย ไปหักอกผู้หญิงสวยๆ แบบนั้นได้ยังไง”“เพราะผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เธอคนนั้นดูจริงใจไม่วางฟอร์ม ทำอะไรที่ผู้หญิงเขาไม่ทำกันตั้งหลายอย่างและที่สำคัญเธอไม่กลัวแมลง” ปิลันธน์สารภาพรักทางอ้อมกับรติชา แต่คนเมาก็แกล้งทำเป็นทิ้งตัวนอนหลับทั้งๆ ที่ใจนั้นเต้นแรงจนกลัวว่าบอสหนุ่มจะได้ยินปิลันธน์รู้ว่ารติชาได้ยินที่เขาพูดทุกคำอย่างชัดเจน แต่ในเมื่อเธอแกล้งหลับเพราะขัดเขินเขาจึงไม่อยากปลุกเธอขึ้นมา บอสหนุ่มใช้จังหวะนั้นนั่งมองใบหน้าที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์เหล้าของคนตรงหน้า นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เคยรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงคนไหนเท่ารติชามาก่อนเธอกำลังทำให้หัวใจเขาเต้นด้วยจังหวะแปลกๆเธอกำลังทำให้ผู้ชายที่ไม่เคยคิดว่าจะรักใคร

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 19

    แต่ยิ่งเห็นว่าใครต่อใครให้ความสนใจเธอมากขึ้นปิลันธน์ก็เกิดอาการหวง พอหวงมากเข้าก็ดื่มเหล้าข่มอารมณ์ตัวเองไปหลายต่อหลายแก้วเช่นกัน ขณะที่หูก็พยายามฟังว่าโต๊ะของรติชากำลังคุยกันเรื่องอะไร แต่จู่ๆ ก็มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาชนแก้วกับเขา“คุณแองจี้”“บังเอิญจังเลยนะคะ ที่เราได้เจอกันที่นี่” แองจี้คือหนึ่งในลูกค้าวีไอพีของปิลันธน์ เธอเองก็มาพักผ่อนที่รีสอร์ตแห่งนี้และบังเอิญรู้ว่าบริษัทชายหนุ่มเองก็จัดทริปประจำปีและเข้าพักเช่นกัน จึงถือวิสาสะเดินเข้ามาหาทั้งๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง“ครับ...คุณแองจี้มาพักผ่อนหรือครับ”“ใช่ค่ะแองจี้มาพักผ่อนกับเพื่อนๆ เราสองคนไปนั่งดื่มกันตรงริมชายหาดดีไหมคะ ตรงนี้เสียงดังมากแองจี้แสบหูไปหมดแล้ว” แองจี้เอ่ยชวน แม้ปิลันธน์จะอยากปฏิเสธแต่เพราะเธอคือลูกค้ากระเป๋าหนักและคิดว่าไปคุยกันไม่นานก็คงแยกย้าย สุดท้ายชายหนุ่มจึงตอบรับคำเชิญนั้นรติชาหันไปเห็นจังหวะที่ปิลันธน์กำลังเดินออกไปกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้าพอดี ซึ่งผู้หญิงคนนั้นสวยและเซ็

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 18

    “ขอบคุณค่ะ”“ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับจากนั้นก็อาสาเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างให้ เมื่อเสร็จทั้งสองก็กลับเข้าการแข่งแรลลี่อีกครั้ง แม้ตอนนี้จะอยู่รั้งท้ายก็ตามแต่ดูเหมือนผลแพ้ชนะจะไม่สำคัญเท่ากับการได้รู้จักตัวตนของอีกฝ่าย ถึงอย่างนั้นปิลันธน์ก็ยังคงไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกมาอย่างชัดเจน ส่วนรติชาก็ยังคงปกติไม่ได้แสดงท่าทางเชื้อเชิญใดๆ เช่นกัน ทั้งๆ ที่ในใจของทั้งคู่นั้นค่อยๆ เชื่อมเข้าหากันทีละนิดช่วงพักเบรกจู่ๆ รติชาก็เผลอมองหาปิลันธน์อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน พอรู้ว่าเขากำลังทำอะไรก็เอาแต่มองอยู่แบบนั้น กระทั่งส่ายหน้าไล่ความรู้สึกบ้าๆ ของตัวเองให้ออกไปจากสมองพร้อมคว้าโทรศัพท์ออกมากดโทรหาโสภิตา“ฉันว่าตัวเองต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ”“ไม่เพี้ยนหรอก แกกำลังปิ๊งบอสปิลันธน์อยู่ต่างหาก” คนโสดอีกหนึ่งคนเอ่ยอย่างรู้ใจรติชา เพื่อนสนิทเธอคนนี้เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจสักเท่าไหร่หรือต่อให้รู้ใจตัวเองก็ยังต้องการกองหนุน“ไม่...หรอก...มั้งแก”

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 17

    หนึ่งอาทิตย์ต่อมาทริปท่องเที่ยวของบริษัทก็เกิดขึ้น โดยครั้งนี้มีการแบ่งกลุ่มเพื่อแข่งแรลลี่หาผู้ชนะที่จะได้เงินรางวัลถึงหนึ่งแสนบาท รติชาลงชื่อเข้าร่วมแข่งอย่างไม่ลังเลแต่กลับไม่มีคนมาจับคู่กับเธอด้วยเหตุเกรงใจสายตาของบอสหนุ่ม นั่นจึงเปิดโอกาสให้ปิลันธน์ลงมาแจมแต่ก็วางฟอร์มว่าเขาไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่จุดสตาร์ทคือที่หน้าบริษัทส่วนจุดเริ่มต้นนั้นคือหน้าโรงแรมที่พัก โดยมีทั้งหมดสิบฐานและต้องเก็บแต้มแต่ละฐานให้ได้มากที่สุด รติชาจริงจังกับกิจกรรมทุกๆ ฐานเธอนึกสนุกแต่ไมได้หวังเงิน ส่วนปิลันธน์ก็ใจเย็นเป็นน้ำแข็ง บางจังหวะยังแกล้งขับรถหลงทาง“บอส”“มองผมแบบนั้นทำไม ผมไม่ได้ตั้งใจพาคุณหลงนะ” คนไม่ได้ตั้งใจรีบออกตัว รถวันนี้ที่เขาใช้คือรถสปอร์ตคันสวยคู่ใจที่รติชาเคยขับรถมาชนท้ายจนต้องส่งไปซ่อมนั่นเอง “ก็ฉันบอกแล้วนี่ค่ะว่าให้บอสเลี้ยวซ้ายๆ บอสจะเลี้ยวขวามาทำไม” จีพีเอสสาวหน้างอเพราะฉุนชายหนุ่มเล็กน้อย เธอนั่งมองแผนที่แบบกระดาษให้ปิลันธน์มาตลอดทางจนตาล้าไปหมด เพราะการแข่งแรลลี่ครั้งนี้ห้ามใช้จีพีเอสจากโทรศัพท์มือถือหรือที่ติดมาในรถยนต์อย่างเด็ดขาด“ผมขอโทษๆ เดี๋ยวกลับรถให้” ปิลันธน์เอ่ยบอกอ

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 16

    ในขณะที่ปิลันธน์เองก็คิดแบบเดียวกับเธอ บอสหนุ่มนั่งจิบวิสกี้ไปด้วยพร้อมกับคิดเรื่องตัวเอง ความรู้สึกที่เขามีให้รติชามันอาจเกิดขึ้นเพียงแค่ฝ่ายเดียว ที่คิดแบบนั้นเพราะเท่าที่ได้ทำงานด้วยกันหรือจังหวะที่มีโอกาสได้ไปไหนมาไหนนอกเหนือจากเวลางานตามลำพัง เขามองไม่ออกจริงๆ ว่ารติชารู้สึกอะไรกับเขาแต่เพราะเธอเป็นแบบนั้นเขาจึงยิ่งต้องใจเย็น ไม่บุ่มบ่ามจนทำให้เธอระแวงก่อนครบสามเดือนมีโปรเจกต์ใหญ่ที่รติชาต้องรับผิดชอบ นั่นคือทริปท่องเที่ยวประจำปีของบริษัท โดยก่อนลาคลอดอรสาทำไว้แล้วบางส่วนรติชาจึงเข้ามาสานต่อให้ลุล่วง ทางปิลันธน์ยกให้เธอเป็นแม่งานซึ่งตัวรติชาเองก็อยากใช้โปรเจกต์นี้ส่งท้ายการทำงานที่นี่เช่นกัน บอสหนุ่มรู้ว่าเหลือเวลาที่ตัวเองจะได้ทำงานกับเลขาอย่างรติชาอีกไม่นาน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรหากจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปในทิศทางอื่น สิ่งเดียวที่เขากังวลตอนนี้คือเธอยังคงยืนกรานที่จะไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ โปรเจกต์ส่งท้ายทำให้ตารางงานชีวิตของรติชาค่อนข้างยุ่ง เพราะอยากทำให้พนักงานเกือบร้อยชีวิตประทับใจ หัวหน้าแผนกทุกคนต่างเสนอแนะกิจกรรมที่พวกเขาอยากทำ บางอย่างก็ได้รับการอนุมัติแต่บางอย่างก็ถูก

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 15

    ทุกวันทำงานของรติชาช่างมีอะไรให้ทำและลุ้นตลอดเวลา บางวันต้องออกไปประชุมกับปิลันธน์ที่กินเวลาแทบทั้งวัน บางวันก็ว่างจนนั่งตบยุงรองาน บางวันก็ต้องจับเจ้าตั๊กแตนตำข้าวที่แอบเข้ามาในห้องทำงานของชายหนุ่มไปปล่อย รติชามองออกว่ามันคนละตัวกันซึ่งไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมมันถึงขยันเข้ามากันนักพอนั่งนับนิ้วดูแล้วเธอก็ทำงานที่นี่มาเกือบสองเดือน เวลามันผ่านไปเร็วจนรติชาเองยังนึกใจหายและพลอยทำให้คิดถึงเพื่อนรุ่นพี่ขึ้นมา หลังเลิกงานวันนั้นเธอจึงเข้าไปเยี่ยมอรสาที่บ้าน แม้ก่อนหน้าจะโทรคุยโทรถามไถ่กันตลอดแต่ก็ไม่เท่ากับการได้เจอตัวจริง“สวัสดีค่ะน้องอุ่น” รติชาเอ่ยทักทายหลานสาวตัวน้อยที่ตอนนี้อ้อแอ้อยากพูดอยากคุยกับทุกๆ คนไปหมด “อ้อแอ้แบบนี้อยากคุยกับพี่เหรอคะ” คำแทนตัวเองว่าพี่ของรติชาทำให้คุณแม่มือใหม่อย่างอรสาหัวเราะออกมา เพราะดูเหมือนใครๆ ก็อยากเป็นพี่ของลูกสาวเธอ“ชีวิตตอนนี้เป็นไงบ้างปิ่น”“เรื่อยๆ ค่ะ ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน ซึ่งบอสก็ยังเป็นบอส เยอะแยะเรื่องงานสารพัด”“นั่นแหละคือคุณปิลันธน์”“แต่เพราะเขาเป๊ะและเยอะแบบนั้นมั้งคะธุรกิจถึงได้โตวันโตคืน”“ใช่จ้ะ กว่าจะมีวันนี้บอสก็เริ่มทุกอย่างม

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 14

    “อืม...ไม่น่าจะใช่นะคะ แต่ฉันขอหาข้อมูลก่อน” เอ่ยบอกเสร็จรติชาก็เอาสีและลายของงูที่ตอนนี้ตายแล้วไปเสิร์ชหาชื่อมันในอินเตอร์เน็ต หาไปหามาจึงรู้ว่ามันคืองูเขียวพระอินทร์ “งูเขียวพระอินทร์ค่ะ มีพิษแต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงมาก” “ชื่อเพราะแต่ไม่น่าคบสักเท่าไหร่” คำพูดของปิลันธน์ทำให้รติชาหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่เธอจะหันไปจัดการฝังซากงูให้เรียบร้อย ท่าทางจับพลั่วขุดดินของเธอมันอิมแพคเข้าที่หัวใจของบอสหนุ่มอย่างจัง ให้ตายสิทำไมเขาต้องแพ้ทางผู้หญิงแบบนี้ด้วยเมื่อฝังงูเสร็จรติชาก็ยืนเท้าสะเอวมองแถวต้นไทรเกาหลีที่ปลูกไว้ริมรั้วบ้านของปิลันธน์ เพราะทุกต้นใบของมันร่วงจนเกือบหมดแล้วที่ไม่ร่วงก็เหลืองรอวันร่วงโรยเช่นกัน“บอสให้คนมาดูสวนบ้างหรือเปล่าคะ”“เปล่าครับ ทำไม”“ต้นไทรเกาหลีมันกำลังจะตายนะคะ”“ไทรเกาหลีคือต้นไหนครับ” ปิลันธน์เอ่ยถามอย่างงุนงงเพราะวันๆ เขานั้นทำแต่งานจึงไม่มีเวลาสนใจเรื่องต้นไม้รอบๆ บ้านสักเท่าไหร่ “ต้นที่บอสปลูกไว้ติดรั้วพวกนี้ไงคะ” รติชาชี้นิ้วไปยังต้นไม้ที่ว่า “อ้อ...ต้นที่ทางโครงการให้มาตอนซื้อบ้าน งั้นพรุ่งนี้เช้าคุณปิ่นไปช่วยผมเลือกต้นไม้ได้ไหมครับ พอดีผมไม่มีความรู้เรื่

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 13

    “เรียกแล้วแต่กู้ภัยบอกจะมาจับให้ก็ตอนที่ผมเห็นตัวงูแล้ว” นั่นคือสิ่งที่บอสหนุ่มได้หลังจากคุยกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเขาก็พอเข้าใจได้ “อ้าว! ต้องเจองูก่อนด้วยเหรอถึงจะมาช่วย แล้วถ้าหาไม่เจอไม่ต้องอยู่กับงูไปตลอดหรือไง แล้วรปภ.หมู่บ้านละคะ บอสบอกไปหรือยัง” ก่อนจะถามถึงรปภ.หมู่บ้านรติชาก็บ่นเรื่องกู้ภัยยาวเหยียด “บอกแล้วครับแต่คงมาไม่ได้เพราะท้องเสียหนัก”“เอ่อ...งั้นบอสรอก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันไปช่วยหางู” เอ่ยบอกเสร็จรติชาก็วางสายจากปิลันธน์ทันที จากนั้นก็คว้ากระเป๋าและกุญแจรถมาไว้ในมือ รีบรุดไปยังรถที่จอดอยู่ในชั้นห้าของคอนโดมิเนียมเมื่อมาถึงก็บึ่งไปหาชายหนุ่มอย่างไม่ลังเล ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงรถของรติชาก็จอดเทียบอยู่ข้างๆ รั้วบ้านของปิลันธน์ “งูยังอยู่ในบ้านไหมคะ” ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่วันนี้อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนสบายๆ สวมรองเท้าแตะสีชมพูเอ่ยถามผู้ชายตัวโตกว่าขึ้นอย่างมาดแมน พร้อมกับรวบผมขึ้นแล้วมัดไว้ตรงหลังศีรษะ สีหน้าจริงจัง“อยู่ครับ” เจ้าบ้านเอ่ยบอกเพราะทันทีที่เห็นงูเลื้อยเข้าไปภายในบ้านเขาก็รีบออกมาแล้วปิดประตูหน้าต่างทุกบานเพื่อขังมันไว้ข้างในเพื่อรอคนมาจับออกไป รติชาอดที่จะขำสีหน้าที

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status