“ไม่ออกไป...สำรวจวังหลวงอีกแล้วหรือ”อิงนายิ้มบางๆ ใบหน้างดงามอ่อนช้อยยามฉีกยิ้มเพียงน้อยนิด“อิงนากำลังคิดว่าพี่สาวอยู่ที่นี่มีความสุขหรือไม่”ถามไม่ต้องการคำตอบแต่หาเรื่องคุยก็เท่านั้น“เจ้าเล่าอิงนา”ฟางหลานถามกลับแทนที่จะตอบคำถามยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าอิงนาถามอะไรที่ ต่างออกไปจากสิ่งที่อิงนาเคยสนใจหรือน้องสาวจะโตแล้วจริงๆ หรือว่าโตเพราะคำพูดของหมิงเซ่อที่เปลี่ยนอิงนาได้เพียงนี้“บางครั้งข้าก็คิดว่าเป็นข้าที่ทำให้ พี่สาวกับเจี่ยฟูหนักใจหากไม่ต้องทำตามคำสั่งของท่านแม่ข้าก็ควรจะไปเสีย”ฟางหลุนเดินมากุมมืออิงนา“ไม่ได้หากอิงนาไปแล้วใครจะคอยเล่าเรื่องสนุกๆให้พี่สาวฟัง แล้วใครกันจะเป็นคนสำรวจวังหลวง แทนพี่สาว”อิงนายิ้มสดใส“ต่อไปพี่เขยของเจ้า เขาไม่กล้ามายุ่งกับอิงนาอีกแล้วจะออกไปไหนหรือไปทำอะไรก็ได้ เพียงแต่อิงนาของพี่อย่าหายไป ให้พี่ใจหายเหมือนครั้งนั้นอีก”“เจี่ยฟูบอกพี่สาวอย่างนั้นหรือว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอิงนาอีกต่อไป”ใจหายจนเกือบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ฟางหลานพยักหน้าไม่กล้าบอกน้องสาวว่าตัวเองลงทุนขอร้อง อิงนาเองกลับคิดว่าหมิงเซ่อไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับอิงนาอีกต่อไป ใจหนอใจทำไม่รู้สึกเจ็บแปลบ
เจิ้งลี่กัง ก้าวขายาวๆ ยังตำหนักชิงหนิงกงเหมือนเช่นทุกวันจงใจว่าวันนี้จะชวนหลินฮวาไปเที่ยวนอกเขตวังหลวง ตำหนักชิงหนิงกงกับไร้ซึ่งสรรพเสียง นางกำนัลยืนระวังอยู่หน้าตำหนัก“ถวายพระพรไท่จือ”“ข้าหาหลินฮวา”“ชายายรองต้าหวัง บัดนี้ต้าหวังมารับนางไปแล้ว”“อาเล็กอย่างนั้นหรือ ไม่น่าเชื่อ”บ่นเบาๆ ก่อนจะเก้าขาออกมาช้าๆ แต่กลับเปลี่ยนใจอ้อมไปด้านหลัง ด้วยความคิดที่ไม่เชื่อว่าหลินฮวาไปกับเจิ้งจินเทาในเมื่อนางบอกเขาว่าไม่อยากเห็นหน้าเจิ้งจินเทาอีกต่อไป แล้วอีกอย่างเหตุใดนางกำนัลจึงขว้างเขาไว้ไม่ให้เข้าไปด้านใน จะกลัวอะไรแค่ลักลอบเข้าไปไม่ทำก็ไม่ใช่เจิ้งลี่กัง เผลออมยิ้มให้กับตัวเอง อ้อมไปด้านหลังเปิดประตูออกแผ่วเบา"ฮองเฮาของเสด็จพ่อกำลังทำอะไรกับหลินฮวากันแน่"บ่นเบาๆ ย่องเงียบกริบเข้าไปข้างใน ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาเจิ้งลี่กังยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น“ประหารเก้าชั่วโคตร”มีเพียงคำพูดเบาๆ หลุดออกจากปาก บีบมือตัวเองไปมาเดินหันหน้าหันหลังพยายามควบคุมอาการให้เป็นปกติหูซื่อเย่ลุกขึ้นยืนเห็นเพียงแผ่นหลังของเจิ้งลี่กัง ที่เดินลิ่วออกไปข้างนอกเมื่อได้สติ“ฮองเฮาแย่แล้ว ไท่จือ... เห็นเราสองคนอยู่ด้วยก
ย่อกายลงนั่งข้างๆกองไฟ ดวงตาสุกใสสะท้อนเปลวไฟไหวระริกน่ามองริมฝีปากชมพูระเรื่อน่าบดจูบเจิ้งจินเทาเผลอขบเม้มริมฝีปากตัวเอง“ต้าหวังมีเรื่องใดกันให้เบื่อหน่าย วังหลวงเป็นที่น่าอภิรมย์สำหรับต้าหวังทั้งลาภยศและผู้คนแวดล้อมล้วน ใส่ใจต้าหวังไม่น้อย”“ยามทุกข์ตรมขอเพียงได้หลบเร้นกายให้คลายหม่นหมอง จะกี่ผู้คน ก็ไม่เท่าคนรู้ใจเพียงหนึ่ง”หลินฮวาหลบสายตาคมที่จ้องมอง“ข้ามีเรื่องสำคัญจะขอเจ้า”หลินฮวาเลิกคิ้วสูง ขนตางอนงามดวงตากลมใส“ข้าอยากจะให้เจ้า เข้าใจในข้าระหว่างนี้แม้จะมีเรื่องใดที่ทำให้เราทั้งสองไม่เข้าใจกันให้เจ้าคิดถึงคำพูดของข้าในวันนี้”กุมมือหลินฮวาจ้องตากลมใสนิ่ง“หลินฮวาจะจำไว้”อยู่ๆ ก็ว่าง่ายขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นแววจริงใจในนั้นเจิ้งจินเทายิ้มกอดรวบร่างบางแนบอก จุมพิตที่หน้าผากเบาๆ อยากจะทำมากกว่านี้แต่เกรงว่าอีกคนจะตื่นตกใจไปเสีย ไม่สู้เขาค่อยๆให้เวลาหลินฮวาใกล้ชิดกันบ่อยหน่อยเมื่อทุกอย่างสุกงอม ย่อมหอมหวานถึงกระนั้นก็ไม่อาจห้ามใจ จูบไล่ลงมาที่เปลือกตาสองข้างแก้มเนียนนุ่ม และจบลงที่ริมฝีปากหวานหอมดูดกลืนซอกซอน ควานหาดื่มด่ำความหอมหวานจากสาวน้อยที่ยังไม่ประสา แม้จะจูบตอบอย่างเคอะเขิ
“เกรงว่า ตอนนี้ฮองเฮาอยู่ข้างกายฝ่าบาท เรื่องที่พูดส่งผลร้ายต่อพวกเราอย่างมากอีกทั้งฝ่าบาทรักและเชื่อใจอิงเผยฮองเฮายิ่งกว่าผู้ใดแล้วนางเองยังตั้งครรภ์ทำให้ฝ่าบาทยิ่งเอาอกเอาใจ”“เราพูดความจริงข้าเชื่อว่าฝ่าบาทต้องฟังเรา ต้าหวังก็ทรงเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของหูซื่อเย่กับฮองเฮาให้ฝ่าบาทฟัง”หลินฮวาร้อนรน“ข้าเป็นคนที่นั่งพูดกับฝ่าบาทแต่ อิงเผยฮองเฮานอนพูดอยู่บนแท่นนอนเจ้าคิดว่า ฝ่าบาทจะเชื่อใครมากกว่ากัน”หลินฮวาถอนหายใจ สีหน้าเป็นกังวล“ท่านพ่อจะเป็นอย่างไรบ้าง ป่านนี้คงเป็นกังวลว่าข้าจะเป็นอย่างไร”“ข้าน้อย อาสาส่งข่าวแต่คงต้องรอให้กลับไปที่วังหลวงอีกครั้ง ตอนนี้แม้แต่ข้าน้อยยังไม่อาจรั้งอยู่ที่วังหลวงคนในจวนล้วนถูกจองจำ เดิมตั้งใจจะพาท่านแม่ทัพหนีออกมาแต่ได้ข่าวว่าถูกจับตัวเสียก่อน”“ท่านพ่อ หากรู้ว่าไม่ผิดมักจะไม่เคยคิดหนีอยู่แล้ว ห่วงแต่ว่าฝ่าบาทจะฟังความข้างเดียว สั่งลงโทษโดยไม่ไต่สวน”“ข้าสัญญา อย่าได้กังวลเลยชายาของข้า ท่านแม่ทัพจะต้องปลอดภัย”กุมมือหลินฮวาไว้แน่น“ต้าหวัง ตอนนี้ท่านกับชายารองหนีไปเสียจากที่นี่ ทหารกับองครักษ์เสื้อแพรกำลังออกตามหาต้าหวังแทบพลิกแผ่นดิน”เจิ้งจินเทากั
ม้าหนุ่มพาคนทั้งสองมายังหมู่บ้านกลางหุบเขา ผู้คนที่นั่นล้วนเป็นดั่งนักรบ หลินฮวาสงสัยเสียจริงว่าพวกเขาฝึกซ้อมการรบไปทำไมกัน“พวกเขาเหล่านี้เป็นคนของข้าตำแหน่งอ๋องสามารถสะสมกำลังพลได้ เช่นนี้มักจะถูกมองว่าคิดการใหญ่”หลินฮวา ยิ้มให้กำลังใจเข้าใจสถานการณ์ดี แม้แต่บิดาของหลินฮวายังมักจะถูกเพ่งเล็งเสมอ บางครั้งการภักดีก็มักจะถูกแปลเป็นอื่นเจิ้งจินเทากระโดดลงจากหลังม้าเอื้อมมือรับร่างบางลงจากหลังม้าบุรุษวัยกลางคนท่าทีองอาจต่างจากชาวบ้านทั่วไปสาวเท้ายาวๆ ประสานมือตรงหน้า“ต้าหวังท่านมาแล้ว ใต้เท้าหานให้ข้าน้อยเตรียมที่พักและอาหาร”ใบหน้าเป็นมิตรอย่างที่สุด“ตอนนี้เห็นที่ต้องลำบากท่านฟางข้าไร้ที่พักพิง”“ต้าหวังท่านอย่าได้คิดว่าเป็นเรื่องรบกวนพวกเราล้วนมีวันนี้ได้เพราะต้าหวัง แม้ตายแทนได้พวกเราก็ไม่เคยหวั่น ในเมื่อสิ่งที่ต้าหวังทำเพื่อพวกเรามากมายยิ่งกว่าที่จะตอบแทนได้หมด”เจิ้งจินเทายิ้มบางๆ จูงแขนหลินฮวาเข้าไปข้างในบ้านหลังใหญ่ที่จัดเตรียมไว้ต้อนรับ“ต้าหวัง เครื่องเสวยถูกจัดเตรียมไว้แล้ว เชิญเสวยเสียหน่อย ที่นี่เป็นบ้านป่าเครื่องเสวยที่เราหาได้ จึงอาจไม่ค่อยถูกปากหวังว่าพระชายาจะอภัย”“ข
เจิ้งจินเทายิ้มขยับตัวไปนั่งบนแท่นนอนดึงมือหลินฮวาที่ลุกขึ้นยืนให้ล้มลงบนอกกว้าง“นอน...เสียด้วยกันที่นี่”หลินฮวาก้มหน้าหลบสายตาคมที่เหมือนจะพูดได้นั้น“ต้าหวังแท่นนอนมันคับแคบ หลินฮวาลงไปนอนเสียข้างล่าง”“สามีภรรยา เช่นไรจึงจะเรียกคับแคบ คืนนี้อากาศหนาวเหน็บข้างนอกหิมะโปรยปราย ข้ากำลังคิดว่าหากเจ้าเมตตานอนร่วมแท่นนอนคงอุ่นไม่น้อย ข้าสัญญาข้าจะนอนนิ่งๆ ....ไม่ดิ้นให้เจ้ารำคาญ”“สัญญา”“สัญญาด้วยเกียรติของแม่ทัพแคว้นเว่ยว่าจะไม่มีการหักหาญน้ำใจ”หลินฮวายิ้มทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้เจิ้งจินเทา ที่อมยิ้มก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆ หลินฮวา ยกแขนอุ่นขึ้นกอดรอบเอวบาง หลินฮวาตาโต“ไหนต้าหวังบอกว่าจะนอนนิ่งๆ ”“ข้าแค่กอดนิ่งๆ ยังไม่ได้ทำอะไรหรือว่าเจ้าต้องการให้ข้า ทำอะไรมากไปกว่านี้”หุบปากสนิททั้งอาย ทั้งกระดาก แกล้งนอนหลับตาเสีย หลินฮวาเผลอหลับไป ก่อนจะรู้สึกถึง จุมพิตที่ปากบางเบาๆปรือตามองคนนอนร่วมแท่นนอนบัดนี้กลับได้ยินเสียงหัวใจทั้งสองเต้นรัวเร็วไม่เป็นจังหวะ เจิ้งจินเทา ไม่ได้หลับใหล ทว่าบางอย่างในกายร้อนฉ่าพร้อมที่จะระเบิดจะทนได้หรือในเมื่อร่างบางที่กอดก่ายอุ่นนุ่มน่าสัมผัส เขาลูบมืออุ่นไ
เช้าสดใสร่างบางเปลือยเปล่าในอ้อมกอดยังนอนขด เจิ้งจินเทาพรมจูบตั้งแต่หน้าผากดวงตาสองข้างและพวงแก้ม หลินฮวาบิดตัวไปมา“เจ็บ”“เดี๋ยวจะทำให้หายเจ็บ”กดริมริมฝีปากกับปากบางอีกครั้ง เล้าโลมอ่อนหวานหลินฮวาขยับกายถอยห่าง มืออุ่นรวบร่างบางมาแนบชิดร่างแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเปลือยเปล่าในผ้าห่มเช่นเดียวกัน“ต้าหวังเอาเปรียบ หลินฮวา”หลุบตามองแผงอกกว้างรู้สึกว่าใจเต้นแรงอีกครั้ง“เช่นไรกัน”ถามยิ้มๆ ดวงตาสุกสว่าง“ก็….ต้าหวังซ่ำซองเพียงนี้ จะทำอย่างไรหลินฮวาก็หนีไม่รอด”“ช่ำชองกับเจ้าคนเดียว ก็จะทำให้หายเจ็บ”พลิกตัว ให้หลินฮวานอนใต้ร่างเขาอีกครั้งผงกศรีษะจ้องมองดวงตากลมโต มือใหญ่หยิบปอยผมที่ลงมาระใบหน้าสวยเหมือนตั้งใจจะมองดวงหน้างามให้ชัดเจนยิ่งขึ้นจวนต้าหวังก่อนหน้านั้น“เสี่ยวจง ตามชายารองคืนนี้”เสี่ยวจงยืนรีรอ“ต้าหวัง ท่านเมื่อคืน…”ใช้นิ้วจิ้ม กันสองนิ้วตรงหน้า“เมื่อคืน….อยู่กับชายาเอกวันนี้ยังมีแรง...เรียกหาชายารอง”หลอกศัตรูต้องหลอกมิตรให้ตายใจแม้กระทั่งเสี่ยวจงยังคิดว่าเขามีอะไรกับชายาเอก“ไปตามชายารองมาข้า….คิด..ข้า อยากพบนาง”อยากบอกว่าคิดถึงก็ในเมื่อแต่งนางเข้ามาเป็นชายารองแล้วแต่
เจิ้งจินเทาอมยิ้มนึกขำกับท่าทีจริงจังนั้น ไม่แปลกใจเลยว่าใต้เท้าต้วนมักจะบอกให้เขาอดทนกับหลินฮวาให้มาก บอกเสมอว่าหลินฮวา เป็นคนที่ดื้อดึงแต่หากนางได้ทุ่มเทให้สิ่งใดแล้วมักจะทำเต็มที่เสมอ เขาจะรอวันที่หลินฮวายอมมอบกายมอบใจให้เขาด้วยความเต็มใจ กดจมูกโด่งเป็นสันลงบนพวงแก้มอุ่น หลินฮวาดิ้นรน เจิ้งจินเทารวบมือบางทั้งสองข้างไว้เหนือหัวด้วยมือเพียงข้างเดียว เหมือนจะบอกว่าหลินฮวาสู้แรงของเขาไม่ได้ ก่อนจะใช้ปากและจมูกซอกซอนเข้าไปใต้ร่มผ้าปากอุ่นปลดแกะอาภรณ์อย่างเชี่ยวชาญ เนินอกอุ่นโผล่พ้นชายผ้าออกมา เจิ้งจินเทาอมยิ้มกดจมูกโด่งเป็นสันดอมดมกลิ่นกายสาวหอมละมุนจนสติแทบเตลิด ใช้ปากดึงสายรัดเอวจนหลุด ก่อนจะพรหมจูบหน้าท้องนวลเนียนแผ่วเบา หลินฮวาขยับตัวหนี กลายเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน บัดนี้มือใหญ่แทบไม่ต้องออกแรงรวบมือบางไว้ในเมื่อหลินฮวาอ่อนระทวยในอ้อมแขน“ปล่อย”เสียงสั่นสะท้าน เจิ้งจินเทาใช้ลิ้นอุ่นวนรอบประทุมถันที่ดันเนื้อผ้าขึ้นมา“นี่เป็นแค่บทเรียนแรกของเจ้า มีอีกหลายบทเรียนที่เจิ้งจินเทาคนนี้จะสั่งสอนชายารองอย่างเจ้า”กดปิดริมฝีปากบางอีกครั้ง อ่อนหวานเนิ่นนานจนคนใต้ร่างเขา นอ
“ท่านอา ท่านอาหญิงท่านสองคนจะไปจริงๆหรือ”เจิ้งลี่กังสีหน้าเศร้าสร้อยเดินมาส่งจ้งจินเทากับหลินฮวาที่หน้าประตูวัง เสี่ยวจงยืนรีรออยู่ด้านหน้าเกี้ยวหานห้าวตงยืนม้าคอย“ไม่ได้ไปไหน จวนฤดูร้อนของเราอยู่ห่างไปไม่ถึงร้อยลี้ด้วยซ้ำไป”“ท่านอาเล็ก ข้าจะต้องคิดถึงท่านทั้งสองมากแน่ๆ เสด็จพ่อบอกข้าว่าไม่อาจขัดเจตจำนงของท่านอา แต่ข้าเห็นว่าถึงจะไม่มีสงครามแต่ท่านอาก็ยังเป็นแม่ทัพของเราเช่นนั้นควรจะรั้งอยู่ที่นี่ข้าจึงจะสบายใจไม่ต้องกังวลสิ่งใด”“ขอบพระทัยฝ่าบาทยิ่งแล้วข้ากับ ชายาตั้งใจใช้ชีวิตสงบสุขที่นั่น ให้หลินฮวาคลอดอ๋องน้อยอย่างสบายใจครั้งนี้จึงถือว่าพาหวางเฟยไปหย่อนใจ ไท่จือท่านจไม่ต้องกังวลมีอะไรก็ส่งม้าเร็วไปเจิ้งจินเทารับรองจะมาถึงนี่อย่าทันท่วงทีครั้งนี้ข้าได้ให้หานห้าวตงคอยรั้งอยู่ที่จวนอ๋องไร้พ่ายเพื่อคอยอารักขาไท่จือและฝ่าบาท และท่านพ่อภรรยาอีกชั้น” ยกมือขึ้นโอบรอบเอวอวบของหลินฮวาตั้งใจพาหลินฮวาไปพักผ่อนที่จวนริมน้ำเพื่อหาเวลาอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง“ไอ้เรื่องความปลอดภัยข้าไม่ห่วงในเมื่อบ้านมืองสงบสุขเพียงนี้ นั่นก็เพราะท่านอาที่ปูทางมาตลอดมาวันนี้ข้าห่วงคือเรื่องที่ข้าจะเหงา หากว่าท่า
เจ้าอย่าใจร้ายกับข้านักเลย“ท่านอาเล็กกกกกก”เจิ้งจินเทาเลิกคิ้วสูงเจิ้งลี่กังเท้าคางตรงหน้าบนโต๊ะร่างอักษรของเจิ้งจินเทา“ว่าอย่างไรไท่จือ” เสี่ยวจงรีบรินชา เจิ้งจินเทาวางพู่กันลงกอดอกหันมาสนใจเจิ้งลี่กัง“คือข้าได้ยินมาว่า ว่าที่ชายาของท่านอา อือของอาเล็ก นางมีเวทย์มนตร์”เจิ้งจินเทาเลิกคิ้วสูงหานห้าวตงก้าวขาเข้ามาข้างใน ได้ยินประโยคสุดท้ายพอดีถึงกับขมวดคิ้ว“วันนี้ข้าเลย นำสิ่งนี้มามอบให้กับท่านอา”ยิ้มกว้างสดใส ในทุกครั้งที่อยากเอาใจเจิ้งจินเทา ยังๆไม่ยอมแพ้จากน้ำศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ยังไปที่วิหารเทียมฟ้าไปขอวัตถุมงคลมาให้กับเจิ้งจินเทาได้อีก“หมายความว่าอย่างไรเจ้าจะให้ข้าเอาสายสร้อยเส้นนี้ไป ทำอะไร”เจิ้งจินเทาเองก้ขมวดคิ้ว“ก็ว่าที่อาสะใภ้ของข้า นางมีเวทย์มนตร์เปลี่ยนท่านอาเล้กได้เพียงนี้และข้าไปเสาะแสวงหาสิ่งนี้มาเพื่อท่านมีเพียงสร้อยเส้นนี้เท่านั้นที่จะ..ต่อกรกับชายาของท่านข้าเห็นท่านอาเป็นแบบนี้แล้ว ข้าไม่สบายใจท่านแต่ไหนแต่ไรหญิงงามแค่ไหนก็ไม่เคยชายตามองแต่มาวันนี้กลับเปลี่ยนไป หากไม่ใช่ เวทย์หรือมนตร์ดำแล้วจะเป็นสิ่งใดได้”หานห้าวตงถึงกับปิดปากขำ“ต้าหวางไท่จือดั้นก้นไปถึงวิห
ทำอย่างไรให้เจ้าหันมอง“เสี่ยว จงเก็บเครื่องเสวยเหล่านี้กลับไปเสีย”“เอ่อ เอ่อต้าหวางจะไม่รอ เอ่อ คุณหนูหลินฮวาอีกสักครู่หรือไร”เจิ้งจินเทาถอนหายใจ“ไม่ข้ากำลังจะออกไปแล้วตอนนี้งานราชสำนักกำลังเร่งรัดข้าไม่อาจรอได้หากนางมาก็ให้นางเสวยเพียงลำพังบอกว่าข้าออกไปที่วังหลวงเสียแล้ว”“แต่ แต่ต้าหวาง ท่านก็อย่าใจร้ายกับคุณหนูให้มากอีกหน่อยก็จะแต่งนางแล้ว เอาใจนางหน่อยจะดีไหม ที่นางไที่ตำหนักบุรพาเพราะไท่จือเป้นคนที่เอาใจเก่งแล้วนางก็สำนึกผิดแล้วยอมคุกเข่าแต่ท่านอ๋องท่านเองก็ทำเกินไปหน่อยหักหาญน้ำใจคุณหนูเพียงนั้น....”เจิ้งจินเทาเลิกคิ้วสูง“เสี่ยวจงเจ้าจงใจว่าข้าว่าข้าไม่เข้าใจการเอาใจหญิงงามอย่างนั้นหรือ แล้วเจ้ายังแอบดูสิ่งที่ข้าทำกับคุณหนูของเจ้าอย่างนั้นหรือ"คิดถึงรสจูบหวานหอมเมื่อวานหากหลินฮวานางจะยินดีให้เขาจูบรสจูบจะหวานกว่านี้สักกี่เท่ากัน แต่ดูนางเขาสิเห็นเขาเป็นศัตรูตลอดมา“เสี่ยวจงมิบังอาจ แต่เสี่ยวจงอยากจะบอกท่านอ๋องว่าคุณหนูหลินฮวานางยังเด็กเพิ่งจะสิบห้าแล้ว แล้วไท่จือก็อายุไม่อ่อนแก่กว่ากันเท่าไหร่ ฉะนั้นสองคนอาจสนิทสนมกันได้ไม่ยาก ท่านอ๋องท่านก็แค่เอาใจคุณหนูหลินฮวาหน่อยหากว่า
“ไหนว่าเราเข้ามาอยู่ในฐานะแขก ท่านพ่อ เห้นไหมเขา ให้ลูกอดข้าว”“หลินอวาเราในฐานะเชลย ตอนนี้เจ้ากำลังจะเป็นบรรณาการของเขาเช่นนั้นคำพูดของต้าหวางเจ้าต้องคอยเชื่อฟังให้มากไม่มีเขาจึงไม่มีเราในวันนี้”“ท่านพ่อท่านพูดแบบนี้คนแบบนั้นจึงได้ใจ”“หุบปากเจ้าเสียหลินฮวา”เจิ้งจินเทาเดินเอามือไพล่หลังเข้ามาบริเวณที่พำนักที่ร่มรื่นสงบของหลินฮวาและต้วนเจี้ยนหลิน“ต้าหวาง”หลินฮวาย่อกาย แล้วเดินหลบเข้าข้างในเสียเชอะทำเหมือนว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่หลินฮวานิาทาเขาไว้ ต่อหน้าท่านพ่อของหลินฮวาเป็นเทพสงครามที่องอาจไม่มีให้เสียหน้า“ท่านแม่ทัพ”ประสานมือนอบน้อม หลินฮวาถอนหายใจ คนผู้นี้แสดงกิริยาต่อหน้าบิดาของหลินอวาเสียดิบดีมิน่าเล่าท่านพ่อเลยไม่เคยมองเขาในด้านไม่ดี“เกรงใจไปล้วต้าหวางข้าก็เพียงแค่แม่ทัพที่ไร้ทัพต้าหวางมีสิ่งใดให้รับใช้เชิญว่ามา”เจิ้งจินเทายิ้มบางๆ“ก็…แค่อยากจะแวะมาถามสารทุกข์สุขดิบว่าทั้งต้วนไม่สิ ท่านต้วนหับบุตรีของท่าน อยู่ที่นี่สบายดีหรือไม่”หลินหิวที่นั่งหลบอยุ่ในบ้านขมวดคิ้ว“เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องแวะมาเชียวหรือ”สายตาบอกว่าไม่อยากจะเชื่อหลินฮวาเองก้ไำม่เชื่อในสิ่งที่เจิ้งจินเทาพูดมา“อ
“ท่านอาเก้าท่านเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่”“แล้วไท่จือเล่าเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่อย่าบอกนะว่าเราสองคนใจตรงกันมาเพื่อว่าที่ชายาของพี่แปดเหมือนกัน”ไข้าต่างกับท่าน”ปกปิดสิ่งที่ซ่อนไว้ก็เสี่ยวจงบอกเขาว่าวันนี้คุณหนูต้วนจะเข้ามาพบฮองเอาตามพระบรรชาหากอยากพบนางจะต้องมาที่นี่ไม่น่าเชื่อว่าจะพบหูซื่อเย่ที่ออกมาจากส่วนในของตำหนักชิงหนิงกง“ท่านอาเก้าท่านอาเพิ่งจะออกมาจากส่วนใน….”หูซื่อเย่ถอนหายใจส่ายหน้าไปมา“ข้าไม่แปลกใจเลย ว่าตำแน่งไท่จือได้มาเพราะโชคช่วย ข้ากับฮองเฮามีเรื่องหารือเรื่องความปลอดถัยในตำหนักชิงหนิงกงข้าจึงต้องตรวจตราทุกซอกมุม”“ท่านลงมือเองเลยหรือปกติข้าเห็นแต่ท่านสั่งการ สั่งการและสั่งการ”“นานแค่ไหนแล้วที่นั่งบนตำหนักบูรพา” สีหน้าและแววตาหยามเหยียดของหูซื่อเย่ทำให้เจิ้งลี่กังกัดฟันแน่น“อาเก้าท่านเองก็เป็นอ๋องมานานเท่าไหร่แล้วเคยออกไปนอกเขตวังหลวงบ้างหรือไม่”“หุบปากเจ้าเสียไท่จือคิดว่านั่งบัลลังก์ตำหนักบูรพาแล้วยิ่งใหญ่เกินใครหรืออย่างไรจึงไม่ต้องนับถือใคร”“ข้านับถือคนที่ควรนับถืออย่างอาเล้กต้าหวางที่น่านับถือกว่าอ๋องบางคนที่เอาแต่สร้างบารมีรวบรวมซ่องสุม”“เจ้าว่าใครซ่องสุม”เจิ้งล
“อย่าๆๆๆทำแบบนี้ท่านอ๋องเก้าท่านจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”ปิงซูเยียนส่งเสียงร้องครางด้วยความกระสันเมื่อหูซื่อเย่งัดเอาทุกกระบวนท่ามาปรนเปรอซูเยี่ยนก็นางมาหาเขาที่จวนอ๋อง เพราะพรุ่งนี้นางจะต้องแต่งเข้าจวนต้าหวังอ๋องไร้พ่ายเจิ้งจินเทาคนนั้น“อ่าาาาาข้าติดใจรสสวาทของเจ้าเสียแล้วซูเยี่ยน เจ้าไม่ต้องแต่งดีไหม”“ไม่แต่งแล้วท่านอ๋องจะให้ซูเยี่ยนอยุ่ในฐานะใดกัน”เอวหนาขยับเร่งจังหวะซู๊ดปากด้วยรู้สึกเสียวกระสันอย่างที่สุด“เจ้าอยาอยากให้ข้ายกเจ้าไว้ในฐานะใดกันเล่าในเมื่อเจ้าก็รู้ว่าข้าไร้ซึ่งชายาและอำนาจในมือ หากข้าสามารถนั่งบัลลังก์มังกรได้ข้าจะแย่งชิงเจ้ามาจากเจิ้งจินเทาเสียแล้วตำแหน่งฮองเฮาก็ควรมอบให้เจ้าดีไหม”ซูเยี่ยนยิ้ม“ท่านอ๋องท่านไม่ได้ปดข้าใช่ไหม”“ใครกล้าปดเจ้าเจ้ายอมมอบายให้ข้าเพียงนี้ทั้งๆที่พรุ่งนี้จะเข้าหอกับเจิ้งจินเทาเจ้ากลับยอมเป็นคนของข้าซูเยี่ยนข้าเช่นไรจึงจะกล้าไม่ดีกับเจ้า”จูบซอกซอนมือล้วงลึกไปที่หว่างขา กระตุ้นสวาทอีกครั้งไม่เลิกรา“ท่านอ๋องงงงท่านปากหวานเสียจริงข้ามีหรือจะยอมใจแข็งข้าไม่แต่งกับเจิ้งจินเทาดีไหมท่านก็พาข้าหนีไปใช้ชีวิตสองคน”“ไม่ได้ทำเช่นนั้นเราต้องหนีจนตาย ทางที
“ไท่จือท่านแน่ใจหรือว่าเราจะทำแบบนั้นจริงๆ“ทำแบบไหน”เจิ้งลี่กังผู้ใจจดใจจ่อกับการประคองน้ำศักดิ์ตามคำแอบอ้างของหลวงจีนในวัดเทียมฟ้า“ก็แบบว่าเอาน้ำนี่”“หืมมอย่าเรียกน้ำนี่เจ้าไม่ได้ยินที่ไต้ซือพูดหรือไรเสี่ยวจง”เสี่ยวจงพยักหน้าขึ้นลง“ช้่างเถอะจะน้ำอะไรก้ช่างแต่ไท่จือท่าเอาไปสาดใส่ต้าหวางเกรงว่าต้าหวางจะทรงกริ้ว”“กริ้วก็กริ้ว ข้ายอมเพื่อให้ท่าอาหลุดพ้นจากเวทย์มนตร์ของนางจิ้งจอกนั่น”“เสี่ยวจงก้ไม่เห้นว่า คุณหนูหลินฮวาจะเป้นนางจิ้งจอกตรงไนหนางเพิ่ง15ใบหน้างดงามอ่อนเยาว์”“นั่นๆนั่นอย่าไงรเเล่าอ่อนเยาว์ นางเป็นนางจิ้งจอกจึงอ่อนเยาว์”“ไท่จือ ใครอายุ15ก็อ่อนเยาวืทั้งนั้นข้ากับท่านตอน15ก็อ่อนเยาว์”“นางอ่อนเยาว์มากไหม ถ้านางอ่อนเยาว์มากเสดงว่านางคือนางจิ้งจอก”เสี่ยวจงถอนหายใจ“เอาแบบนี้ข้าคิดออกแล้ว”“คิดอะไรออก”“คิดว่าคนที่ต้องเวทย์มิใช่ต้าหวางหากเป็นไท่จือ”“หะ นางมีเวทย์มนตร์แม้กระทั่งข้าที่ไม่เคยเห็นหน้านางยังต้องเวทย์นางหรือไรนางร้ายกาจจริงๆ”“ไท่จือท่านผิดแล้วท่านต้องเวทย์ของหลวงจีนที่วัดเทียมฟ้าต่างหาก”“ข้าไม่เข้าใจข้าจะต้องเวทย์ของไต้ซือได้อย่างไร”“ก็จากที่ดูอะไน ท่านลองเชื
“ต้าหวางท่านอาเล็กข้าได้ยินว่าท่านอา มีสาวสวยเคียงข้่างเช่นนี้นี่เองจึงรีบกลับจวนในทุกวัน”“หืมมม ไท่จือได้ยินมาผิดแล้วหญิงงามสาวสวยคำพูดเพ้อพกของใครกัน”เจิ้งลี่กังเหล่ตา“หืม เช่นนั้นหรือที่ข้าได้ยินมาผิดไปแล้วใช่ไหมตายจริงข้าก้เชื่อคนง่ายด้วยสิ เขาว่ากันว่าอาเล้กไปรับกลับมาคราวนี้ได้บรรณาการชิ้นเอกมาจากแคว้นฉี ข้าเองชื่นชอบหญิงงามอาเล็กหากไม่ว่าอะไร หลานรักคนนี้ขอพบหน้าบรรณาการของท่านสักครั้ง”“ไม่ได้”เสียงเข้มแข็งขัน“อ้าว ทำไมเล่าหญิงงามงามลำพังไร้คนเชยชมชื่นชมเช่นไรจึงเรียกหญิงงาม”“ไท่จือ ท่านมีหญิงงามมากมายให้เชยชม คนนี้ เจิ้งจินเทาบังอาจพูดว่าไม่ได้”เจิ้งลี่กังอมยิ้ม“น่าตื่นเต้นข้าชักอยากจะเห้นหน้านางเข้าจริงๆเสียแล้วว่าจะงดงามเพียงใด จึงทำให้ท่านอาเล็กที่เป็นดั่งครอบครัวจึง กล้าใจแคบกับข้าได้ลงคอ”“ไม่ได้ ข้าบอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้”เผลอพูดไปด้วยความโมโห เจิ้งลี่กังอ้าปากค้างเสี่ยวจงรีบดึงมือเจิ้งลี่กังไปเสียอีกทาง“เอาจริงๆนะเสี่ยวจงข้าไม่เข้าใจบรรณาการของท่านอาคนนั้นงามล่มสวรรคืเลยรือไรจึงหวงนักหวงหนา“ไท่จือ ต้าหวังไม่ได้หวงท่าน แต่ว่านางนะ เกลียดชังต้าหวังต้าหวังเ้กรงว่าหากไ
ทัพของแคว้นฉี และเหล่าทหารต่างปกป้องท่านแม่ทัพและหลินฮวากระบี่ในมือ ถูกกางกั้น เบื้องหน้าไม่ให้คนของแคว้นเว่ยเข้าถึงตัวแม่ทัพและบุตรีหลินฮวาที่บัดนี้หมดเรี่ยวแรงมือกำกระบี่แน่น ด้วตาตื่ตตระหนกทัพองแคว้นแีแน่แล้วต้องพ่ายแพ้ ใบหย้าขะมุกขมอม กัดฟันยืยหยัดไม่ถอย“ยอมจำนนเสีย”หานห้าวตงตวาดเหล่าทหารของแคว้นฉีไม่กี่สิบนายที่ยืนรายล้อมแม่ทัพกีบหลินฮวาไว้ปกป้องยิ่งชีวิตต้วนเจี้ยนหลิน ทรุดตัวลงกับก้มหน้ามองพื้นดิน“ข้าต้วนเจี้ยนหลิน ยอมจำนนแล้วขอเพียง ปล่อยทหารและราษฎรที่อาศัยที่ชายแดนแห่งนี้ไปเสียอย่าได้ฆ่าแกงกันเลย”น้ำเสียงเด็ดเดี่ยว หลินฮวาทรุดกายลงข้างบิดา ก้มหน้ากัดฟัน“ยอมจำนน มีค่าใดกัน”“ข้ายอมให้ท่านปลิดชีพข้าเพื่อแลกกับชีวิตของทหารและราษฎรทั้งหลาย”“ท่านอ่อง ศึกในครั้งนี้แคว้ยฉีพ่ายแพ้ย่อยยับ แม่ทัพต้วนแห่งแคว้นฉียินดีให้ท่านปลิดชีพเขาเพื่อแลกกับชีวิตของราษฎร และทหาร ที่เหลือเพียงหยิบมือ”ร่างสูงชะลูดก้าวขายาว ๆ ยังค่ายทหารที่มีแต่ฝุ่นควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณของกองทัพแคว้นฉี“นำเขากลับแคว้นเว่ยในฐานะเชลย”คำพูดที่หลุดออกจากปากทำเอาเจิ้งจินเทาถอนหายใจด้วยความโล่งอกทุกอย่างลุล่วงไปด้ว