บริษัท BR จำกัด
ประตูรถตู้สีดำคันหรูถูกเปิดออกโดยอัติโนมัติพร้อมกับร่างเล็กที่สูงเพียง 158 ซม. ก้าวขาลงมาจากรถตู้พร้อมกับชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวและมีโบว์ใหญ่ๆผูกไว้ด้านหลังราวกับองค์หญิงตัวน้อยในเทพนิยาย พอเด็กสาวก้าวขาเข้าไปในบริษัทก็พบกับสายตาของพนักงานมากมายจับจ้องไปที่เด็กสาวคนนั้นอย่างไม่ละสายตา " เด็กคนนั้นเป็นใครกันหน้าตาน่ารักเหมือนกับองค์หญิงตัวน้อยๆเลย " " หน้าตาจิ้มลิ้มเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้เลย " " หรือเป็นน้องสาวของนายท่าน " " ญาติหรือเปล่า " เสียงซุบซิบของพนักงานเอ่ยชมความน่ารักของเจ้าหญิงกันไปทั่วทั้งบริษัท และพวกเขาก็ไม่ได้คิดเลยว่าเจ้าหญิงเป็นเด็กของนายท่านของพวกเขา เพราะดูจากการแต่งตัวและหน้าตาที่ไร้เดียงสาแล้ว เด็กผู้หญิงน่ารักคนนี้คงไม่เหมือนกับพวกผู้หญิงคนอื่นๆที่เข้ามาหานายท่านของพวกเขา และอีกอย่างพวกเหล่าบอดี้การ์ดที่พวกเขาคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีออกมายืนตอนรับและพาเจ้าหญิงขึ้นไปที่ห้องทำงานของผู้เป็นนายท่านด้วยตัวเองอีกด้วย พอกิตเปิดประตูให้กับเจ้าหญิงเข้าไป เจ้าหญิงก็พบกับคุณบทร้ายที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมกับเสื้อกั๊กสีดำและกางเขาขากระบอกสีดำพร้อมกับรองเท้าหนังสีดำยืนหันหลังมองไปที่ด้านนอกกระจกใสๆ เพื่อชมวิวทิวทัศน์อยู่ " คุณบทร้ายขาาา เจ้าหญิงมาแล้วค๊าาา " เจ้าหญิงเอ่ยทักทายเขาเสียงใสแจ๋วพร้อมกับลากเสียงยาวยืดชวนให้คนฟังหลงใหลไปกับน้ำเสียงของเธอ บทร้ายที่ได้ยินเสียงใสของเด็กน้อยที่เขาเรียกให้มาหาที่บริษัทก็หันหน้ากลับไปมองเธอทันที " สวยไหมคะ :D " เจ้าหญิงฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับหมุนตัวไปมาอย่างน่ารักเพื่อให้คุณบทร้ายดูการแต่งตัวของเธอในวันนี้ บทร้ายที่เห็นใบหน้าหน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโต พร้อมกับหุ่นเล็กๆ ผอมๆ ผิวขาวอมชมพูยืนหมุนตัวไปมาอย่างกับการ์ตูนตุ๊กตาบาร์บี้ที่เจ้าหญิงเปิดดูบ่อยๆเขาถึงกับตกใจและละสายตาจากความน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กน้อยไม่ได้เลย " คิดว่าเป็นองค์หญิงตัวน้อยหรือไง " บทร้ายเดินเข้าไปยืนประชันหน้ากับเจ้าหญิงพร้อมกับถามเธอออกไป แต่ในความคิดของเขาตอนนี้เธอน่ารักมาก น่ารักเหมือนองค์หญิงตัวน้อยๆที่น่าทะนุถนอมและรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุด " เจ้าหญิงไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย คิกๆ ^0^ " เจ้าหญิงตอบกลับเขาพร้อมหัวเราะคิกคักออกมาอย่างน่ารักหน้าเอ็นดู " กินข้าวเช้าหรือยัง " เขาถามเด็กสาวไป พร้อมกับพาเธอเดินไปนั่งบนโซฟาสีดำที่อยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงาน แต่ที่จริงแล้วเขาก็รู้แล้วแหล่ะว่าเธอกินแล้ว เพราะเขาดูจากกล้องวงจรปิดยังไงล่ะ! " นมทำให้กินแล้วค่ะ " เจ้าหญิงตอบเขาทันที นม ที่เจ้าหญิงพูดถึง ก็คือนมนุ่มที่เป็นคนดูแลเรื่องอาหารการกินและดูแลบ้านหลังใหญ่ของคุณบทร้ายนั่นเอง ตั้งแต่มีเจ้าหญิงเข้ามาเขาก็บอกให้นมไปจัดการทำความสะอาดบ้านหลังเล็กสีขาวให้กับเจ้าหญิง พร้อมกับเรื่องอาหารการกินให้กับเจ้าหญิงอีกด้วย จนคนรับใช้ที่อยู่ในบ้านถึงกับพากันพูดต่างๆนาๆว่าเธอเป็นเด็กขัดดอกของนายท่านของพวกเขาจริงไหม ทำไมนายท่านถึงดูแลดีมากขนาดนี้ แต่นมนุ่มก็อธิบายไปให้พวกเธอฟังว่าเจ้าหญิงยังเด็กไร้เดียงสาเกินไป นายท่านไม่ใช้งานเด็กน้อยแบบนั้นหรอกมันผิดกฎหมาย ถึงนายท่านของพวกเขาจะฆ่าคนเป็นว่าเล่น ทำงานที่ผิดกฎหมายต่างๆนาๆ แต่กับเด็กนายท่านของพวกเขาจะไม่ทำอะไรทั้งสิ้น! " จะเที่ยงแล้วหิวหรือยัง " เขาเอ่ยถามองค์หญิงตัวน้อยอีกครั้ง " ก็นิดนึงนะคะ เดี๋ยวหนูรอคุณบทร้ายทำงานเสร็จก่อนค่ะ ค่อยไปกินกัน " เจ้าหญิงว่าพลางหยิบโทรศัพท์ที่เขาซื้อให้ออกมาเปิดดูการ์ตูนที่ค้างเอาไว้ต่อทันที " อืม งั้นก็รอ " เขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่โต๊ะทำงานของเขาทันที ส่วนเจ้าหญิงตอนนี้ก็เอนหลังพิงพนักพิงโซฟาเปิดดูการ์ตูนเสียงดังลั่นห้อง แต่เขาดันไม่ดุด่าว่าเธอซะงั้น ทั้งที่ปกติเวลาทำงานเขาต้องใช้ความเงียบและต้องการสมาธิอย่างมากที่สุด " หึ! " เขาเค้นหัวเราะออกมาเบาๆกับท่านั่งขององค์หญิงตัวน้อยที่นั่งพิงพนักพิงโซฟา แต่กับอ้าขาออกจนกว้าง ดีนะที่ในห้องนี้มีแค่เขาก็เท่านั้น ถ้ายังมีคนอื่นอีกล่ะก็เจ้าหญิงต้องโดนเขาดุเป็นแน่กับท่านั่งที่แสนสบายขนาดนั้น " ใส่กระโปรงแต่นั่งอ้าขาไม่น่าดูเลยนะ " เขาบ่นพึมพำออกมาคนเดียวก่อนจะก้มหน้าจดจ่อเซ็นต์เอกสารที่อยู่ตรงหน้าเป็นปึกๆ ครืดดดด ครืดดดดด เจ้าหญิงที่ดูการ์ตูนอยู่ก็มีสายเรียกเข้าดังขึ้นมา จนทำให้บทร้ายที่นั่งก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ถึงกับเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันทันที " ใครโทรมา!? " เขาจ้องหน้าเด็กสาวที่ตอนนี้เธอดีดตัวขึ้นนั่งหลังตรงด้วยท่าทางลุกรี้ลุกลนทันที " หมวยยยย หมวยค่ะ " เจ้าหญิงพูดโกหกเขาไป เพราะปลายสายที่โทรมาก็ถือเถวะนั่นเอง " อืม รับสิ " พอเขาอนุญาตเธอ เขาก็ก้มหน้าก้มตาเซ็นต์กองเอกสารต่อ " หมวยยยย มีอะไรเหรอ " เจ้าหญิงกดรับสายเถวะพร้อมกับพูดชื่อหมวยออกมาทันที จนเถวะที่ได้ยินถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย " เจ้าหญิงทำอะไรอยู่ " เถวะถามเพื่อนสนิท " เราดูการ์ตูนอยู่ เถ อ๊ะ หมวยล่ะ " เจ้าหญิงถามเถวะกลับไป เถวะตอนนี้ก็พอจะเข้าใจสถานการณ์แล้วว่าเจ้าหญิงต้องอยู่กับคุณบทร้ายแน่ๆ เขาก็เริ่มมีอารมณ์หงุดหงิดและไม่ชอบใจขึ้นมาทันที แต่ก็คงจะทำอะไรไม่ได้มากนัก " เรากำลังจะกินข้าวเที่ยงน่ะ พอดีคุณแม่ทำอาหารที่เจ้าหญิงชอบเยอะแยะเลยเราก็เลยคิดถึงเธอ เลยโทรมาหา " เถวะบอกไปอย่างนอยด์ๆ เพราะเวลาเขาเห็นอะไรที่เจ้าหญิงชอบเขาก็จะคิดถึงเธอเสมอ " ว้าวววว หิวข้าวเลยอ่ะ เถ หมวยยยย " " งั้นแค่นี้ก่อนนะ เจ้าหญิงต้องไปกินข้าวบ้างแล้ว บ๊ายจะหมวย " เจ้าหญิงพูดผิดๆ ถูกๆ พร้อมกับกดตัดสายเถวะทิ้งไปทันที นี่เจ้าหญิงต้องไปเรียนการแสดงเพิ่มจริงๆเหรอเนี่ย ดูท่าทางจะไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ คิกๆ ^0^ " คุณบทร้ายทำงานใกล้เสร็จหรือยังคะ เจ้าหญิงอยากกินกระเพราเครื่องในไก่ ใส่ตับไก่เยอะๆยิ่งดี ^^ " เจ้าหญิงหันหน้าไปถามคนที่เซ็นต์เอกสารอยู่บนโต๊ะทำงานพร้อมกับลูบท้องตัวเองไปมา จอกกกกกก! " อุ้ย! เสียงท้องเจ้าหญิงร้อง มันเริ่มจะต่อต้านเจ้าหญิงแล้วค่ะ " เจ้าหญิงทำหน้าตาตกใจเมื่ออยู่ๆท้องเธอก็ร้องขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว " นี่เจ้ากระเพาะใจเย็นๆซี่ คุณบทร้ายทำงานอยู่นะ " เจ้าหญิงก้มหน้าลงไปพูดและดุด่ากับกระเพาะของตัวเองด้วยน้ำเสียงแจ๊วจ๊าวทันที จนคนที่ทำงานอยู่ในมือถึงกับวางเอกสารลงทันที เมื่อได้ยินเด็กสาวพูดอยู่คนเดียวจนทำให้รบกวนสมาธิการทำงานของเขา แต่เขากลับไม่ได้ว่าอะไรเธอสักคำ " หึ! ฉันคิดผิดหรือคิดถูกเนี่ยพาเด็กคนนี้มานั่งเฝ้าที่บริษัท " ปากบ่นแต่ใบหน้ากลับยิ้มออกมาซะงั้น!หลายวันผ่านไป หลายวันผ่านไปเจ้าหญิงก็ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังเล็กสีขาวของเธอเหมือนเดิมตามปกติ และก็มีบางวันที่คุณบทร้ายพาเธอไปนั่งเล่นที่บริษัทกับเขาบ้างเหมือนที่เคยทำ จนเวลาล่วงเลยผ่านไปจนใกล้จะสิ้นปีแล้ว และพรุ่งนี้นั่นเองก็จะถึงวันสิ้นปี และก็จะเป็นวันคล้ายวันเกิดของเจ้าหญิงอีกด้วย" วันนี้เหลือประชุมถึงกี่ตอนไหน " บทร้ายที่ยังทำงานอยู่บริษัทหันหน้าไปถามกิตลูกน้องคนสนิทของเขา" วันนี้นายท่านมีงานทั้งคืนเลยครับ " กิตได้รายงานผู้เป็นนายท่านของตัวเองพร้อมกับยื่นแผนตารางงานไปให้เขาดู" อืม ออกไปก่อน " เขาตอบกิตพร้อมกับบอกให้กิตออกไปจากห้องทำงานของเขาทันที" ครับนายท่าน " กินโน้มศีรษะลงเล็กน้อยพร้อมกับเดินออกไปจากห้องทำงานในทันทีตามคำสั่งพอกิตออกจากห้องไปแล้ว บทร้ายเขาก็เอนตัวพิงพนักผิงเก้าอี้ราคาหรูของเขา พร้อมกับยกแขนขึ้นก่ายหน้าผากเหมือนคนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่บางอย่างอยู่ในใจ" วันเกิดเจ้าหญิง " เขาพึมพำออกมาเบาๆคนเดียว เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเจ้าหญิง ส่วนวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของปีนี้ เขาคิดอยากจะกลับไปหาเจ้าหญิงและก็พาเจ้าหญิงออกไปดูและชมกับบรรยากาศข้างนอกบ้าง แต่วันนี้เขากลั
ตอนนี้บทร้ายเขาได้อาบน้ำแต่งตัวและเขาก็นั่งรอเจ้าหญิงอยู่บนห้องนอนของตัวเองด้วยความตื่นเต้น สิ่งที่เขาตื่นเต้นในตอนนี้มันมีหลายเรื่องมากมายระคนปะปนกันไปหมด ทั้งเรื่องที่เจ้าหญิงจะขึ้นมาหาเขาบนห้องเป็นครั้งที่สอง ทั้งเรื่องที่เจ้าหญิงอายุครบ 18 ปี ซึ่งเรื่องนี้เขาก็ได้รอคอยมาหลายเดือนเช่นเดียวกัน หลายเดือนก่อนหน้านี้บทร้ายที่กำลังเดินทางไปที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อไปมอบทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนนั้นในทุกๆปี เขาก็พบเข้ากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งผ่านกระจกใสในห้องปกครอง ซึ่งตอนนั้นเขาก็ได้นั่งคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนในเรื่องการมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กที่เรียนเก่งหรือเด็กที่มีผลการเรียนที่ดี ซึ่งหนึ่งในสามคนนั้นก็มีชื่อของเจ้าหญิงรวมอยู่ด้วยเด็กที่เขาเห็นผ่านกระจกนั้น เธอมีรอยยิ้มที่สดใส ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จนทุกคนที่อยู่รอบกายของเธอดูไม่ออกเลยว่าเด็กคนนี้กำลังรู้สึกอะไรกันแน่ภายใต้รอยยิ้มนั่น ซึ่งบทร้ายเองเขาก็พอจะมองออกจากแววตากลมโตคู่สวยคู่นั้นว่าเธอมีเรื่องให้คิดมากมายอยู่ในใจก็เป็นแน่" เด็กผู้หญิงคนนั้นมีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่านะ " บทร้ายที่เป็นคนรักเด็กและเอ็นดูเด็กที่ดี
หลังจากที่เจ้าหญิงได้รับคำสั่งจากคุณบทร้ายให้เข้าไปหาเขาที่บ้านหลังใหญ่ เธอก็ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอคิดว่าเขาคงจะลืมวันเกิดของเธอไปแล้ว เด็กน้อยไร้เดียงสาเลยรีบอาบน้ำแต่งตัว พร้อมกับถือเค้กที่เธอทำเองกับมือเข้าไปในบ้านหลังใหญ่หลังนั้นด้วยก็อก ก็อก ก็อกมือเล็กเคาะประตูห้องของเขาเบาๆ ไม่นานนักประตูห้องบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกด้วยเจ้าของห้องที่ยืนทำหน้าตานิ่งๆไม่พูดไม่จาอะไร" ดูซิ เจ้าหญิงถืออะไรมา ^^ " เจ้าหญิงยิ้มตาหยีพร้อมกับเดินเข้าไปวางเค้กไว้ที่โต๊ะแก้วในห้องที่อยู่ข้างๆโซฟาตัวใหญ่" อะไร " เขาที่รู้อยู่แล้วว่าเจ้าหญิงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อไปทำเค้กวันเกิดให้กับตัวเองถามขึ้นมาอย่างแกล้งไม่รู้เรื่อง" แต๊นนนน!!! " เจ้าหญิงผายมือไปที่เค้กช็อกโกแลตของเธอด้วยความภาคภูมิใจ" เค้กวันเกิดของเจ้าหญิงคุณบทร้ายดูซี่ น่าทานไหมคะ เจ้าหญิงตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อให้นมมาสอนเจ้าหญิงทำเค้กเลยนะคะ ^^ " เจ้าหญิงบอกกับเขาพร้อมกับรอยยิ้มแสนน่ารัก รอยยิ้มนั้นที่เขาเคยเห็นผ่านกระจกใสเมื่อหลายเดือนที่แล้ว แต่แววตาของเจ้าหญิงตอนนี้เขากลับมองไม่ออกเลยว่าภายใต้รอยยิ้มไร้เดียงสานั้นในใจมีอะไรซ่อนอยู่หรือเป
" อื้อ " เจ้าหญิงที่เริ่มจะหายใจไม่ออกกับรสจูบที่เร่าร้อน ที่เขาส่งมาให้เธอ เขาทั้งบดขยี้จูบริมฝีปากบางด้วยความซาดิสและเขาก็ยังกัดริมฝีปากของเด็กน้อยจนเลือดซึมออกมาด้วยความโกรธ ฉันว่าจะไม่ขืนใจเธอแล้วนะ แต่เธอทำให้ฉันโมโหเอง บทร้ายคิดอยู่ในใจก่อนที่จะผละจูบออกและกระชากชุดนอนของเจ้าหญิงจนขาดหลุดรุ่ยด้วยความป่าเถื่อนจนทำให้เห็นชุดชั้นในสีชมพูของเธอและนมที่ใหญ่เกินกว่าอายุโผล่พ้นชุดชั้นในออกมานี่แหล่ะตัวตนที่แท้จริงของเขา เขาทั้งโหดร้ายและซาดิส ยิ่งเวลาร่วมเตียงกับผู้หญิง เขาไม่เคยจะทะนุถนอมใคร เขาเคยคิดว่าเขาจะทะนุถนอมเด็กที่ชื่อว่าเจ้าหญิง แต่ตอนนี้เขากลับหน้ามืดตามัวด้วยอารมณ์โกรธระคนไปกับอาการหึงหวงเด็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว จนความโกรธทำให้มันครอบงำจิตใต้สำนึกแรกว่า...เขาจะไม่ขืนใจเธอถ้าหากว่าเธอไม่ยอม" ฮือๆๆๆ TT "เจ้าหญิงที่ตอนนี้เธอตกใจกับอาการป่าเถื่อนอย่างกับซาตานของชายหนุ่ม เธอก็ร้องไห้ปล่อยโฮออกมาเสียงดังด้วยอาการสะอึกสะอื้น" ร้องออกมาดังๆเลยเจ้าหญิง "บทร้ายที่ตอนนี้ความเป็นซาตานเข้าครอบงำจนหน้ามืดเขาได้ปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองในเรื่องบนเตียงออกมาจนหมด จนเขาลืมไปเลยว่าต
" แค๊กๆๆๆ " หลังจากที่เขาถอดถอนท่อนเอ็นอันใหญ่เกินขนาดมาตรฐานของชายไทยออกจากปากของเจ้าหญิง เด็กน้อยก็สำลักน้ำลายและไอออกมาเสียงดังเหมือนคนที่กำลังจะขาดอากาศหายใจทันที" เจ้าหญิงไม่อยากทำแล้วค่ะ " เจ้าหญิงเงยหน้าขึ้นบอกกับคนร่างใหญ่ที่ยืนก้มใบหน้าของเขาลงมองเธออยู่ ด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดาบทร้ายนั่งลงบนเตียงพร้อมกับดึงร่างบางของเจ้าหญิงให้นอนราบลงกับเตียงนอนอย่างแรง คำพูดอ้อนวอนของเด็กสาวมันไม่ทำให้คนที่ขาดสติหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนได้เลยสักนิด" ฮือๆๆ เจ้าหญิงกลัว " เจ้าหญิงร้องห่มร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร พร้อมกับที่บทร้ายจับขาเรียวเล็กของเจ้าหญิงให้อ้าขาออกจากกันจนเห็นกลีบอวบอูมขาวอมชมพูสวยงามที่ปิดสนิทที่ปกคลุมไปด้วยแพนตี้สีขาวบางอย่างน่าลิ้มลองบทร้ายเอื้อมมือไปเกี่ยวแพนตี้น้อยสีขาวของเจ้าหญิงออกมาจนหลุดออกไปจากขาเรียวบางของเธอ พร้อมกับที่เขาก้มลงสูดดมกลีบอวบอูมนั้นอย่างบ้าคลั่ง ของเล่นของเด็กน้อยคนน่ารักคนนี้มันหอมหวานละมุนมาก เขาชอบมากจริงๆ เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและเอื้อมมือไปจับมันอย่างหลงใหลในความงามที่ปิดสนิทที่ไม่เคยได้มีใครแตะต้องหรือสัมผัสมันมาก่อน " อ๊ะ " เจ้าหญิงที่โด
บทร้ายรีบบอกให้คนขับรถ ขับรถไปด้วยความเร็วสูงเพื่อกลับเพ้นท์เฮ้าส์ในทันที ตอนนี้บทร้ายรู้สึกเป็นกระวนกระวายจิตใจและเป็นห่วงเจ้าหญิงเป็นอย่างมาก และภาพเรื่องเมื่อคืนที่เขาได้ขืนใจเด็กน้อยก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที" กูทำอะไรลงไปวะ " บทร้ายที่พึ่งคิดได้เขาก็แทบอยากจะต่อยหน้าตัวเองสักร้อยทีเพ้นท์เฮ้าส์เมื่อถึงเพ้นเฮ้าส์เขาก็รีบลงจากรถและรีบวิ่งไปที่บ้านหลังเล็กสีขาวในทันทีก็อก ก็อก ก็อกไม่นานนักประตูก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของเจ้าของบ้าน พร้อมกับใบหน้าของเด็กน้อยที่แดงก่ำและมีริมฝีปากที่ซีดเซียว" เจ้าหญิง! 0.0 " เขาที่เห็นสภาพของเด็กสาวในตอนนี้ หัวใจของเขาถึงกับตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม นี่เขาทำรุนแรงกับเธอมากขนาดนี้เลยหรือ ขอโทษนะเจ้าหญิง พี่ขอโทษจริงๆ " ขะ คุณบทร้าย มาทำอะไรคะ " เจ้าหญิงเปล่งเสียงที่แทบจะไม่มีเสียงอยู่เลยถามเขาออกไป แต่เธอก็เบนใบหน้าหลบหนีสายตาของเขาแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน และเขาก็สัมผัสได้ว่าเจ้าหญิงได้มองเขาเปลี่ยนไปเสียแล้วบทร้ายช้อนร่างบางของเจ้าหญิงอุ้มในท่าเจ้าสาวทันที หลังจากที่เขาทนเห็นสภาพร่างกายของเจ้าหญิงไม่ไหว แค่เขาแตะโดนตัวและผิวบอบบางของเธอเขาก็รู้ได้เลยว่าเธอไข้ขึ
วันนี้เจ้าหญิงต้องรีบตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพราะเธอมีนัดติวหนังสือกับเพื่อนๆที่โรงเรียนในตอนเช้า เพราะช่วงนี้ใกล้จะสอบจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กันแล้ว เจ้าหญิงรีบลุกขึ้นตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่ออาบน้ำชำระร่างกายก่อนที่เธอจะหยิบหนังสือและเอกสารต่างๆยัดใส่กระเป๋านักเรียนสีดำของเธอ" มาแล้วค่ะ " เจ้าหญิงวิ่งไปหาพี่อัคคีคนขับรถส่วนตัวของเธอ ซึ่งเธอได้บอกกับพี่อัคคีไปแล้วว่าวันนี้จะออกเช้ากว่าปกติ" ครับผม " อีคคีก้มหัวลงรับทราบพร้อมกับที่ทำท่าทางเลิ่กลั่ก เจ้าหญิงที่ยืนอยู่เลยมองเข้าไปในรถตู้ก็พบกับบุคคลที่สามที่เธอไม่อยากจะเจอหน้าค่าตาของเขาเลยด้วยซ้ำ" มาได้ไงคะ " เธอขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจนัก เมื่อเธอเห็นใบหน้าอันหล่อเหลานั่งไขว้ขายิ้มร่าอยู่บนรถตู้" ส่งหนูไปโรงเรียนยังไงคะ รีบขึ้นมาสิคะ เดี๋ยวสายเอานะ ^^ " บทร้ายส่งยิ้มให้เจ้าหญิง และเขาก็รู้ว่าเจ้าหญิงคงไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ได้เจอหน้าของเขา แต่จะทำยังไงได้ ตั้งแต่เขาได้รู้จักกับเด็กที่ชื่อเจ้าหญิง คำว่า...หน้าหนากว่าสิ่งใดๆ ก็อยู่บนใบหน้าของเขาแล้ว " สอบวันไหนคะ " หลังจากที่เจ้าหญิงขึ้นไปนั่งบนรถตู้ บทร้ายก็ส่งคำถาม
ณ บริษัทบทร้ายที่รู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเจ้าหญิงทั้งหมด ทั้งเรื่องที่เจ้าหญิงสมัครเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยไหน หรือแม้กระทั่งการที่เธอเข้าเรียนที่คณะนิเทศศาสตร์ และเป็นคณะที่เขาไม่อยากจะให้เจ้าหญิงเรียนมันเลยด้วยซ้ำ แต่เจ้าหญิงก็ดันดื้อดึงยื่นสมัครเรียนที่คณะนี้อย่างไม่ปริปากบอกเขาเลยสักคำ !!" ไอ้กันต์!!!! " บทร้ายที่กำลังหัวเสียขั้นรุนแรงตะโกนเรียกลูกน้องเสียงดังลั่นห้องทำงานโถงใหญ่ขึ้นมาทันที" ครับนายท่าน " กันต์รีบเปิดประตูเข้ามาทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่ดูดุดันของนายท่านของเขา ซึ่งเขาดูออกว่าตอนนี้นายท่านของเขากำลังโมโหเป็นอย่างมาก! ปังงงงง!!!" บอกให้ไอ้อัคคีพาเจ้าหญิงมาหาฉันที่บริษัทเดี๋ยวนี้และตอนนี้!! " บทร้ายลุกขึ้นยืนและตบโต๊ะเสียงดังอย่างแรง แต่ดีที่ห้องทำงานของเขาอยู่ชั้นบนสุด และไม่มีพนักงานคนไหนสามารถเข้ามาเดินเพ่นพ่านอยู่แถวนี้ได้สักคนถ้าเขาไม่ได้รับอนุญาต!" รับทราบครับนายท่าน " กันต์ก้มหัวเล็กน้อยและรีบต่อสายหาอัคคีคนขับรถคนสนิทหรือบอดี้การ์ดส่วนตัวของเจ้าหญิงทันที พอได้รับคำสั่งจากนายท่าน กันต์ก็เอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงและกดเบอร์โทรหา อัคคี ทันทีอย่าง
“ ขั้นตอนต่อไปเราจะตามหาประธานรุ่นกันนะคะ ประธานเอาจริงๆไม่ได้มีขั้นตอนอะไรมากมายนักหรอกค่ะ เพราะรุ่นพี่จะสุ่มจับขึ้นมาด้านหน้าตรงนี้เอง ฮ่าๆๆๆ ” พี่นิดพูดไปขำไป คณะนิเทศศาสตร์แตกต่างไปจากที่คิดเอามากๆ รุ่นพี่ทุกคนใจดี ไม่เครียด เป็นกันเอง ชิวๆ แบบโคตรชิว เพราะหันไปมองรุ่นพี่แต่ละคนที่ยืนรายล้อมน้องๆอยู่ก็มีแต่รอยยิ้มให้กับน้องๆทุกคนเลย มันไม่แปลกไปใช่ไหม หรือมันปกติ “ รบกวนพี่เคประธานรุ่นปี3 กับพี่ใหม่ประธานรุ่นปี4 เดินสุ่มจับน้องมาสัก 4 คนหน่อยค่า เชิญค่าาา ” สิ้นคำสั่งจากพี่นิดประธานรุ่นปี2 พี่เคกับพี่ใหม่ก็เดินเลือกน้องๆมองดูและเดินไปเช็คดูในแต่ละแถวและจับสุ่มออกมา“ น้องคนนี้ลุกขึ้นค่ะ ” พี่ใหม่เดินไปที่แถวของต่อกับเถวะ และพี่ใหม่ก็บอกให้ต่อลุกขึ้นไปยืนหน้าแถว ต่อทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย “ ดูเท่ห์ว่ะ :) ” ต่อพูดก่อนจะลุกขึ้นไปยืนด้านหน้าแถวของตัวเอง “ ลุกขึ้นครับ ” พี่เคบอกเพื่อนผู้ชายที่ยกมือถามคำถามพี่ฝนก่อนหน้านี้ “ ลุกขึ้นค่ะ ” พี่ใหม่จับเพื่อนผู้หญิงอีกคน“ ลุกขึ้นครับ ” พี่เคจับเพื่อนผู้ชายอีกคนให้ลุกขึ้นเป็นคนสุดท้าย “ ตอนนี้เราได้ว่าที่ประธานรุ่นของคณะนิเทศศาสตร์ของพ
มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งวันนี้เป็นเปิดเรียนวันแรกของภาคการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ปี1 เทอม1 เจ้าหญิงที่กำลังจะก้าวขาลงจากรถตู้เธอก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้คนที่ขับรถไปรับไผส่งเธอเป็นประจำในทุกๆวัน“ สวัสดีค่ะพี่อัคคี เจ้าหญิงไปเรียนก่อนนะคะ ” เจ้าหญิงยกมือไหว้อัคคีอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะอัคคีเปรียบดั่งเสมือนพี่ชายของเธอเลย เธออยู่กับเขาเธอรู้สึกอบอุ่น และรู้สึกถึงความเป็นพี่ชายจากตัวเขาเป็นอย่างมาก “ ครับ ตั้งใจเรียนนะครับ ” อัคคีหันไปยิ้มให้กับเด็กสาวที่เปรียบเสมือนน้องสาวของตนเหมือนกัน เขารู้สึกรักและเอ็นดูเจ้าหญิงตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเลยก็ว่าได้ “ เป็นยังไงบ้าง ” บทร้ายที่ค้างสายอยู่ตลอดเวลากับอัคคีถามเขา“ ลงจากรถไปแล้วครับ ” บทร้ายวันนี้ติดประชุมด่วนเลยไปส่งเจ้าหญิงที่มหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะค้างสายเพื่อเช็คเธอจากอัคคีตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเพื่อความปลอดภัย หรือหวงกันแน่ 😂“ อืม ” บทร้ายตอบและตัดสายโทรศัพท์ไปหลายปีก่อนหน้า“ พ่อครับ พ่ออย่าทิ้งผมไปเลยนะครับ ” อัคคีในวัยเพียงไม่กี่ขวบวิ่งไปกอดขาพ่อของเขาเอาไว้แน่น“ ออกไป! ไปซะ! ” พ่อของอัคคีไล่เขาด้วยน้ำเสียงแข
“ เกาะไว้แน่นๆนะคะ ” บทร้ายที่อุ้มเจ้าหญิงด้วยท่าลิงอุ้มแตงบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า เสียงแหบของเขามันดูเซ็กซี่จัง -////-“ อ๊ะ จะ เจ็บ ” เจ้าหญิงสะดุ้งโหยงเมื่อเธอรู้สึกถึงท่อนเอ็นแข็งๆที่มีขนาดใหญ่มากๆเข้ามาทิ่มแทงไปที่โพลงกลีบกุหลาบของเธอ “ อ๊าาาาาาาาา ” บทร้ายร้องครางออกมาด้วยความสุขสม แม้มันจะเข้าไปได้แค่ปลายหัวถอกของเขาเท่านั้น “ ฟิตจังค่ะ ที่รัก ” บทร้ายพูดพลางอุ้มเจ้าหญิงด้วยแขนข้างเดียว ดูเหมือนเขาไม่หนักเลย เขาอุ้มเจ้าหญิงด้วยแขนข้างเดียวอย่างง่ายดาย แต่แขนอีกข้างหนึ่งของเขากลับอ้อมแขนล้วงไปที่ใต้ระหว่างขาของเด็กสาว เขาจับท่อนเอ็นที่ใหญ่เกินขนาดมาตรฐานชายไทยถอดออกมาจากโพลงกลีบกุหลาบของเธอ พร้อมกับที่เขาจับท่อนเอ็นแข็งถูไปถูมาจนเริ่มมีน้ำใสๆไหลออกมาเล็กน้อย“ แฉะ แล้วนะคะ ” “ ทนอีกนิดนะคะ เดี๋ยวก็มีความสุขแล้ว ” บทร้ายพูดพลางแอบยัดท่อนเอ็นใหญ่ของตัวเองเข้าไปในโพลงกลีบกุหลาบโดยที่เด็กสาวยังไม่ทันได้ตั้งตัว “ กรี๊ดดดด อ๊ายยยย ” เจ้าหญิงร้องออกมาเสียงหลงด้วยอาการที่เจ็บแสบไปรอบๆโพลงเล็กๆของเธอ มันเจ็บจัง TT“ อ๊าาา เสียววววสัสๆ ” บทร้ายเผลอพูดสบถคำหยาบออกมาอย่างสุขสมอา
เพนท์เฮ้าส์“ เจ้าหญิงขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวเจ้าหญิงจะไปหาที่บ้านหลังใหญ่ค่ะ ” เจ้าหญิงบอกกับบทร้ายก่อนที่เธอจะก้าวขาลงจากรถตู้“ ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวพี่จะไปหาที่บ้านหลังเล็กเอง อยากเปลี่ยนบรรยากาศ :) ” บทร้ายยิ้มร้ายๆใส่เจ้าหญิง แววตาของเขาพร้อมที่จะตะครุบนางแมวน้อยยั่วสวาทตัวนี้จริงๆ แต่เขาก็ต้องอดใจรอไว้ก่อน เพราะต่างคนต่างต้องแยกย้ายกันไปอาบน้ำตัวหอมๆ เพราะกลิ่นอาหารทะเลติดตามตัวเขาไปหมด “ ร้ายนะคะเนี่ยยยย ” เจ้าหญิงยิ้มหวานและก้าวขาเรียวเล็กของเธอลงจากรถตู้และเดินเข้าบ้านหลังเล็กสีขาวของเธอทันทีก็อก ก็อก ก็อก ตอนนี้เป็นเวลา 3 ทุ่มกว่าๆ เสียงเคาะประตูบานเล็กดังขึ้น เจ้าหญิงได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งแจ้นออกมาเปิดประตูให้เจ้าของเสียงเคาะประตูทันที เพราะจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากเขา...คุณบทร้าย “ มาแล้วค่าาาา ” เสียงใสเจียแจ้วดังมาแต่ไกล “ อ๊ะ! ” เจ้าหญิงที่พึ่งเปิดกลอนประตู เธอโดนบทร้ายกอดรัดแน่นและโผล่เข้าจูบปากเล็กอย่างหื่นกระหายอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว“ อื้อๆ ” เจ้าหญิงทุบอกแกร่งอย่างแรงเพราะเธอหายใจไม่ออก คุณบทร้ายทำแบบนี้เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยนะ “ ปะ ปิด ปาาาา ตู้ ”
2 วัน ผ่านไปร้านอาหารตามสั่งวันดีวันนี้บทร้าย เจ้าหญิง ธันวา นม กันต์ และอัคคีได้มาชิมอาหารฝีมือของแม่วันดี แม่ของเจ้าหญิงครั้งแรกตามที่บทร้ายบอกว่าจะพามา เขาอยากพาเธอมาอวดผลสอบผู้เป็นแม่ และให้เจ้าหญิงได้เจอแม่ก่อนเปิดเรียนมหาวิทยาลัย “ คุณแม่ขาาาาา ” เจ้าหญิงที่พึ่งก้าวขาลงจากรถตู้ เธอรีบวิ่งไปกระโดดกอดแม่ของเธอทันที เมื่อวันก่อนที่จะมาหาคุณแม่ เจ้าหญิงได้โทรบอกกับแม่ของเธอไว้ก่อนแล้วว่าเธอจะเข้ามาพร้อมกับคุณบทร้าย วันนี้วันดีเลยปิดร้านอาหารเพื่อต้อนรับลูกสาวของตัวเองและผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้านายของลูกสาวเป็นพิเศษวันนี้เจ้าหญิงใส่ชุดเดรสสั้นสีฟ้าอ่อน พร้อมกับใส่ที่่คาดผมผ้าสีฟ้า พายกระเป๋าใบสีขาว รองเท้าส้นสูงสีขาว ใส่สร้อยและต่างหู นาฬิกา เครื่องประดับเล็กน้อย แต่งตัวดั่งเจ้าหญิงเช่นเคย...“ ลูกสาวแม่โตเป็นสาวแล้ว ” วันดีกอดลูกสาวน้ำตาคลอ เธอคิดถึงลูกสาวคนดีของเธอมากๆ ก่อนที่จะมีเรื่องเกิดขึ้น เธอกับลูกสาวเจอหน้ากันทุกวัน เจ้าหญิงเป็นเด็กที่น่ารักมาก ช่วยเหลืองานบ้านของแม่ทุกๆอย่าง เธอทั้งเรียนหนัก ทั้งทำงานบ้าน ค้าขายช่วยแม่อย่างหนัก และแม่ของเธอไม่เคยได้ยินเด็กตัวเล็กๆแค่นี้
“ นมขาาา ” เจ้าหญิงยื่นหมู ไก่ เนื้อ ให้นม เพื่อให้นมหั่นเป็นชิ้นๆให้เธอ “ พี่อัคคีช่วยเจ้าหญิงจับหน่อยค่าาา ” เจ้าหญิงที่กำลังจะปูเสื่อลงพื้นที่หน้าบ้านบอกให้อัคคีช่วยจับอีกแรงตอนนี้เธอแต่งตัวด้วยกางเกงผ้าลื่นขาสั้นสีดำ เสื้อยืดตัวใหญ่ๆสีชมพู พร้อมกับใส่ผ้ากันเปื้อนในการจัดเตรียมอาหารมื้อเย็นสุดพิเศษเธอค่อยๆยกหม้อต้มชาบูที่เธอพึ่งซื้อมาค่อยๆวางลงพื้นอย่างเบามือ และก็เดินไปยกหม้อใบที่สองออกมา เธอซื้อหม้อต้มชาบูกับหม้อปิ้งย่างมาอย่างละ 2 ใบ เผื่อมีคนอยากกินทั้งต้มและย่าง “ :) ” บทร้ายเดินไปยิ้มไปอย่างมีความสุข ส่วนธันวาก็มองหน้าเพื่อนสนิทจนจะเลี่ยนในความรัก ความรักที่ไม่รู้หัวใจตัวเอง...“ มาแล้วเหรอคะ :) ” เจ้าหญิงที่ตอนนี้ตัวเลอะเทอะไปหมดเอ่ยทักขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวาน จนทำให้ธันวาคล้อยตามไปกับสาวน้อยด้วย“ อุ้ย! คุณพาเพื่อนมาด้วยเหรอคะ เชิญค่ะๆ คุณ... ” เจ้าหญิงเอียงคอถามเล็กน้อย “ ธันวา เพื่อนสนิทคุณบทร้ายครับผม :) ” ธันวาแนะนำตัวพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับเจ้าหญิง แถมเขายังยื่นมือจะไปจับมือน้อยๆทักทายเจ้าหญิงอีกด้วยแปะ แปะ แปะ เจ้าหญิงทั้งปัดและเช็ดมือที่สกปรกของตัวเองออก ก่อน
เพนท์เฮ้าส์หลังจากที่ธันวาฉุดกระชากลากถูให้บทร้ายกลับเพนท์เฮ้าส์เพื่อที่ตัวเองจะได้เจอกับเจ้าหญิงดิสนีย์ที่ทุกคนพูดถึง พอเข้ามาในบ้านหลังใหญ่บทร้ายก็พาเขาไปที่ห้องอาหาร เพราะตอนนี้ก็เที่ยงวันแล้วก็เลยพามากินข้าวด้วยกันที่บ้านซะเลย นมกับแม่บ้านคนอื่นๆของบทร้ายก็เสิร์ฟน้ำกับอาหารวางไว้บนโต๊ะอาหารสีทองอร่ามอย่างเบามือตั้งแต่มีเจ้าหญิง บทร้ายยอมอนุญาตให้แม่บ้านหรือนมคนสนิท แม้กระทั่งกันต์เข้าบ้านได้ในโชนชั้นล่าง คือ ห้องอาหาร เพราะตอนนี้เขาได้เริ่มเปิดใจมากขึ้น และทำตัวปกติธรรมดาเหมือนคนทั่วไปมากขึ้น ตั้งแต่เขามีเธอ...เจ้าหญิงดิสนีย์ส่วนห้องทำงานของเขาจะอยู่ ชั้น 3 (กันต์บอดี้การ์ดคนสนิท สามารถขึ้นมาหาเขาที่ห้องทำงานได้แล้ว) ห้องรับแขกอยู่ชั้น 2 ซึ่งไม่เคยมีแขกมาบ้านเลย ไม่สิ เพราะเขาไม่เคยพาแขกมาบ้านเลยสักคน ยกเว้น...ธันวา ส่วนชั้น 4 จะเป็นห้องนอนห้องโล่งๆ 2-3 ห้องขนาดใหญ่ ที่ทำไปทำไมก็ไม่รู้ ส่วนชั้น 5 ก็จะเป็นห้องนอนของเขาเอง และในเพนท์เฮ้าส์จะมีลิฟต์ขึ้นลงได้อย่างสะดวกสบาย“ น้ำค่ะ นายท่าน ” นมรินน้ำใส่แก้วให้บทร้ายพร้อมกับรินน้ำใส่แก้วให้กับธันวาต่อ“ นม นม นม ” ธันวากวักมือเรีย
“ อื้อออ เสียงอะไรคะ ” “ ไม่มีอะไรค่ะ นอนต่อเถอะ รถบอดี้การ์ดเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ ไม่ร้ายแรงมาก ” บทร้ายตอบพลางลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ เขาภาวนาในใจอย่างหวั่นๆว่าอย่าให้เธอลืมตาตื่นขึ้นมาเลย ดีที่ว่าตอนนี้รถของคนที่คิดจะทำร้ายเขายังตามหารถเขาไม่เจอ เพราะรถบอดี้การ์ดอีกคันของเขาล่อพวกมันไปอีกทางหนึ่ง“ อ่อออ ค่าาา ~~Zzzzz ” เด็กน้อยที่หมดเรี่ยวแรงก็หลับต่อ เพราะปกติเจ้าหญิงไม่เคยนอนเกินเที่ยงคืน บริษัท BRก็อก ก็อก ก็อกเสียงเคาะประตูจากด้านนอกห้องทำงานของบทร้ายดังขึ้น ก่อนที่ต้นเสียงเคาะประตูจะปรากฎตัวขึ้นมา“ สวัสดีเพื่อนรักกกกก ” ธันวาหรือธัน เพื่อนสนิทในวัยเด็กของบทร้าย ธันวาเป็นเพื่อนเรียนด้วยกันตั้งแต่สมัยประถม ฐานะทางบ้านของธันวาก็รวยพอๆกับเขา แต่ครอบครัวธันวาไม่ใช่มาเฟีย แต่เป็นครอบครัวตำรวจทหารคนในเครื่องแบบที่กระทำเรื่องผิดกฎหมาย และมีอำนาจมากที่สุดในประเทศนี้พอๆกับบทร้าย ครอบครัวของทั้งสองก็เกื้อหนุนกันเรื่อยมา เพราะพ่อของบทร้ายก็เป็นเพื่อนสนิทของพ่อธันวาเหมือนกัน และทั้งสองคนก็ได้จากโลกใบนี้ไปแล้วในสถานที่และเวลาพร้อมกันเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยที่ทั้งคู่ก็ยังจับตัวไม่ได้ว่า
ส่วนด้านหน้ารถตู้ คนขับรถจะเป็นอัคคีพี่ชายคนสนิทของเจ้าหญิง คนนั่งเบาะด้านซ้ายข้างคนขับก็จะเป็นพี่กันต์บอดี้การ์ดคนสนิทของคุณบทร้าย และจะมีรถบอดี้การ์ดอีก 3-4 คัน ที่ขับตามหลังมา มันทำให้เจ้าหญิงรู้สึกอึดอัด ไปเที่ยวไหนก็ต้องมีบอดี้การ์ดตามไปด้วย ปกติเธอจะมีแค่พี่อัคคีที่คอยขับรถรับส่งเธอไปโรงเรียน “ ทำไมคุณต้องเอาบอดี้การ์ดมาเยอะแยะล่ะคะ เจ้าหญิงอึดอัดจัง ” เธอหันหลังไปมองรถที่ขับตามหลังมา 3-4 คัน แล้วเอ่ยถามคุณบทร้ายขึ้นอย่างอยากรู้คำตอบ“ หนูแต่งตัวชิวๆแบบนี้ดูน่ารักไปอีกแบบนะคะ ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาเลย ” บทร้ายเฉไฉนแกล้งพูดเรื่องอื่น เพราะเขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้กับเด็กน้อยคนนี้ยังไงดีถ้าเขาบอกเธอว่ามีบอดี้การ์ดเยอะๆ เพื่อป้องกันอันตรายจากศัตรูหรือคู่แข่งทางธุรกิจมันก็ดูจะน่ากลัวเกินไปสำหรับเจ้าหญิง ถ้าเธอรู้เช่นนั้น ต่อไปเธออาจจะไม่อยากไปไหนมาไหนกับเขาอีกแล้วก็ได้ สำเพ็ง“ ถึงแล้ววววว ” เจ้าหญิงกระโดดลงรถตู้โดยที่อัคคีเป็นคนเปิดประตูรถให้เฉียดเช่นทุกครั้งกึก กึก บทร้ายก้าวขาลงมาตามหลังเจ้าหญิงติดๆ เขามองไปรอบๆก็มีแต่สินค้าอะไรก็ไม่รู้ปัญญาอ่อนไปหมด กระเป๋าก็ของก็อปทั้งนั้น ค