แชร์

บทที่ 432

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-15 18:00:00
“เย่หนาน...”

ก่อนที่เวินหนี่จะพูดจบ ประตูก็ถูกผลักเปิดออกเสียก่อน

เห็นเพียงเย่จื่อที่เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ ดวงตาของเธอมองตรงมาที่เวินหนี่ และพูดด้วยความดีใจว่า

“ตายจริง เด็กดีของฉัน ทำไมถึงไม่บอกอาว่าท้องล่ะ จนถึงตอนนี้อาพึ่งจะทราบข่าว ถ้ารู้เร็วกว่านี้อาก็จะได้ไม่ไปเที่ยว ไหนบอกมาซิว่าอาเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม!”

ในมือของเย่จื่อยังคงลากกระเป๋าเดินทางอยู่ เธอสวมผ้าคลุมศีรษะและแว่นตากันแดด ดูเหมือนว่าจะเพิ่งลงจากเครื่อง

ผิวของเธอเข้มขึ้นกว่าเดิมมาก

ในมือถือของหลายอย่าง

เมื่อเวินหนี่เห็นเย่จื่อมาที่นี่ เรื่องที่จะคุยเย่หนานโจวก็ถูกขัดทันที

เธอรีบลุกขึ้นนั่งแล้วตะโกนเรียกเย่จื่อ “คุณอา!”

เวินหนี่มีความสุขมากที่ได้เห็นเย่จื่อ ราวกับว่าเมฆดำทะมึนสลายไปทันที

เย่จื่อทิ้งกระเป๋าเดินทางแล้วเดินไปผลักเย่หนานโจวออกไป ก่อนจะกอดเวินหนี่ “เวินหนี่ของอา ลำบากเธอแย่เลย ตั้งท้องเลือดเนื้อของตระกูลเย่ของเราคงลำบากแย่เลยใช่ไหม”

เวินหนี่กอดเธอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะซาบซึ้งหรือเพราะว่าช่วงนี้ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไร เธอสูดจมูกและพูดเบา ๆ ว่า “ทำไมกลับมาไม่บอกเลยล่ะคะ หนูคิดถึงอามาก ๆ เลย”

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 433

    อาหารต่าง ๆ ถูกใส่มาในกล่องเก็บความร้อนอย่างดีอาหารสำหรับสตรีมีครรภ์ที่เย่หนานโจวซื้อมาก็ปรุงมาจากในโรงแรมระดับ 5 ดาวเช่นกันเย่จื่อดูถูกของเหล่านั้น และผลักมันออกไป พลางเปิดกล่องอาหารของเธอแล้วพูดขึ้นว่า “นี่คือซุปปลาคาร์พซึ่งดีต่อหญิงตั้งครรภ์ ส่วนนี่คือโจ๊กตับหมู ช่วยบำรุงเลือด และนี่ก็กีบเท้าหมูตุ๋นถั่วเหลือง…”เธอพูดอยู่คนเดียวและพูดให้ทุกคนฟัง ก่อนจะหันไปหาเย่หนานโจวอีกครั้ง “แกเป็นพ่อมือใหม่ หัดเรียนรู้วิธีดูแลหญิงตั้งครรภ์ไว้ซะ อนาคตยังต้องดูแลลูกอีก นี่คือสิ่งที่หญิงตั้งครรภ์ควรกิน อย่าให้เธอแตะต้องอาหารที่ขับเลือดเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้แท้งได้ …”เย่จื่อพูดไม่หยุด และเย่หนานโจวก็แทรกขึ้นว่า “เธอเป็นภรรยาของผม ผมรู้ว่าต้องดูแลเธอยังไง”“แกจะรู้อะไร!” เย่จื่อไม่เชื่อเลยสักนิด “เป็นสามีแต่ปล่อยให้ภรรยาทำงานหนักจนเหนื่อย แกรู้วิธีดูแลแบบไหน? สถานการณ์ของเวินหนี่ตอนนี้ ต้องให้เธอพักผ่อนให้เต็มที่ ไม่ควรไปทำงาน เข้าใจไหม?”เย่หนานโจวมองเวินหนี่ จากนั้นก็มองไปที่ท้องของเธอ แล้วพูดขึ้นนิ่ง ๆ ว่า “เธอไม่ต้องไปทำงานก็ได้!”เวินหนี่ไม่อยากให้พวกเขาทะเลาะกันเพราะเธอ “คุณอา นั่งลง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 434

    เธอแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเย่หนานโจว แต่แล้วน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา “ประธานเย่ ในที่สุดก็ได้พบคุณสักที”เย่หนานโจวเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเห็นเห็นผู้ช่วยที่มีใบหน้าโศกเศร้า เขารู้ว่าเธอเป็นผู้ช่วยของลู่ม่านเซิง จากนั้นจึงดับบุหรี่แล้วโยนมันลงในถังขยะ “ในบริษัทไม่มีใครแล้วหรือไง?”เขาเปิดบริษัทบันเทิงและเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ก็มีผู้บริหารอยู่ไว้เหมือนกันดังนั้นปัญหาต่าง ๆ ก็มีคนคอยจัดการผู้ช่วยกล่าว “ไม่ว่าบริษัทจะมีคนมากมายแค่ไหน แต่คนที่พี่เซิงต้องการก็คือคุณนะคะ เธอติดต่อคุณไม่ได้เลย”เย่หนานโจวไม่ต้องการได้ยินคำพูดแบบนี้อีกต่อไป เขาขมวดคิ้ว “มีอะไรอีกไหม?”ผู้ช่วยปาดน้ำตา แต่น้ำตาก็ยังไม่หยุดไหล ปาดยังไงก็ปาดไม่หมด “พี่เซิงอาการกำเริบอีกแล้วค่ะ เมื่อวานมีถ่ายรายการแต่ก็ต้องยกเลิกไปเพราะหูเธอไม่ได้ยิน เธอจะหูหนวกหรือเปล่าคะ แล้วอนาคตจะแสดงละครยังไง เมื่อก่อนร้องเพลงก็ร้องไม่ได้แล้ว แล้วนี่ก็ไม่สามารถแสดงละครได้อีก อนาคตเธอจบแล้วงั้นเหรอคะ เธอจะทนต่อความเจ็บปวดนี้ได้อย่างไร?” เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่หนานโจวก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของเขาจริงจังมากขึ้น “เธอหูหนวกสนิทเลยเหรอ?”ผู้ช่วยพย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 435

    ดวงตาของลู่ม่านเซิงกระตุกครู่หนึ่ง จากนั้นก็ฝืนยิ้ม “หนานโจว คุณกำลังพูดอะไร? อย่าเย็นชาขนาดนั้นสิ ฉันกลัว ฉันกลัวมากพออยู่แล้ว!”มือของเธอเริ่มสั่นเย่หนานโจวปล่อยเธอ ราวกับมีลูกศรเย็นเฉียบอยู่ในดวงตาของเขา “ถ้าไม่ใช่เพราะเธอทรมานตัวเอง มันจะส่งผลกระทบต่อการได้ยินของเธอได้ยังไง ดูเหมือนว่าการหวงแหนชื่อเสียงของตัวเองของเธอจะเป็นเรื่องโกหกสินะ เธอไม่ได้ต้องการอาชีพของเธอ แต่เพียงแค่อยากทรมานตัวเอง”“วงการบันเทิงนี้มันง่ายจะตายไป ทุกคนต่างก็สามารถปีนขึ้นมาในตำแหน่งของเธอได้ ในเมื่อเธอไม่รักษามันให้ดี งั้นฉันก็จะหาคนอื่นที่เขารักและหวงแหนอาชีพนี้มาแทนเธอ!” คำพูดของเย่หนานโจวนั้นโหดเหี้ยมโดยไม่สนว่าเธอจะได้ยินหรือไม่ แต่เขาก็พูดมันออกไปแล้ว เขาจะมัวเสียเวลาอยู่กับเธอไม่ได้เขาดึงเธอขึ้นมาด้วยมือข้างหนึ่งได้เขาก็สามารถทำให้เธอตกลงไปจากแท่นได้เช่นกันพูดจบ เย่หนานโจวก็ตั้งใจที่จะจากไปลู่ม่านเซิงเห็นว่าสีหน้าของเขาดูไม่แยแส ไม่ได้ดูสงสารเธอเหมือนก่อนหน้านี้ เธอก็ยิ่งกระวนกระวาย และรีบกอดเขาไว้จากด้านหลัง “เย่หนานโจว อย่าไปนะ!”ข้างนอก เวินหนี่กับเย่จื่อขึ้นมาชั้นสิบเอ็ด และกำลังเดิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 436

    ลู่ม่านเซิงหน้าหัน และถลาล้มลงจากเตียงทันทีครั้งนี้เธอล้มแรงมากจนได้ยินเสียงกระดูกที่กระทบพื้น และลู่ม่านเซิงก็นอนอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพเย่หนานโจวกำลังจะผลักลู่ม่านเซิงออก แต่เขาไม่คิดเลยว่าเย่จื่อจะเข้ามาตบลู่ม่านเซิงซะก่อนเมื่อเขาเห็นเย่จื่อ เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “คุณอา นี่อากำลังทำอะไร?”ในเวลาเดียวกัน มีเพียงผู้ช่วยเท่านั้นที่เห็น และเข้าไปพยุงลู่ม่านเซิง“ฉันกำลังทำอะไรงั้นเหรอ ก็กำลังตบนังเมียน้อยนี่ไงไม่เห็นเหรอ?” เย่จื่อพูดอย่างเย็นชา โดยไม่ไว้หน้าพวกเขาเลย ลู่ม่านเซิงหลั่งน้ำตาและยังคงแน่นิ่ง เธอดูอ่อนแอราวกับดูแลตัวเองไม่ได้เย่หนานโจวขมวดคิ้ว ดึงลู่ม่านเซิงขึ้นมาจากพื้นแล้วพูดว่า “เธอป่วย และผมก็แค่มาดูเท่านั้น”“แกเป็นอะไรกับเธอ ถึงต้องให้แกมาเยี่ยม” เย่จื่อไม่เห็นด้วย “เธอเสแสร้งทั้งนั้น จุดประสงค์ก็เพื่อให้แกสงสาร แล้วแกก็ยังดันไปติดกับ!”“ผมเป็นเจ้านายของเธอ แม้ว่าเธอจะเสแสร้ง แต่ผมก็ยังต้องมาพูดอะไรสักหน่อย” เย่หนานโจวไม่คิดว่ามันจะไม่เหมาะสม แต่การกระทำของเย่จื่อนั้นค่อนข้างหุนหันพลันแล่น“ฉันไม่เชื่อ!” เย่จื่อพูด “ป่วยเมื่อไหร่ไม่ป่วย แต่พอแกอยู่โรงพย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 437

    เมื่อเห็นพวกเธอสร้างปัญหา เย่หนานโจวก็ดึงเย่จื่อออกมา เพราะไม่ต้องการให้ความหุนหันพลันแล่นของเธอทำให้เกิดข้อผิดพลาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม “อาทำอะไร ปล่อยเธอเถอะครับ!”เย่จื่อสะบัดมือของเย่หนานโจวออก “ฉันไม่ปล่อย วันนี้ฉันจะฉีกใบหน้าที่แท้จริงของยัยผู้หญิงคนนี้ให้ทุกได้เห็น ปากของเธอเต็มไปด้วยคำโกหก และเธอก็ไม่ได้หูหนวก!”“กรี้ด….”ลู่ม่านเซิงกรี้ดร้องขึ้น“พวกคุณทุกคนอยากให้ฉันตายมากใช่ไหม งั้นฉันก็จะตาย ฉันจะตายไปตอนนี้เลย!” ขณะที่พวกเขากำลังยื้อกันไปมา เธอก็ผลักทุกคนออกและรีบวิ่งออกไปและเอาหัวโขกกำแพงศีรษะของเธอมีเลือดไหลออกมาทันที ก่อนจะล้มลงกับพื้นแล้วหมดสติไปเวินหนี่เบิกตากว้างมองดูการกระทำของลู่ม่านเซิง เธอตกใจมากจนหน้าซีดและอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังไปเย่จื่อก็ตกใจเช่นกัน เธอไม่คิดว่าลู่ม่านเซิงจะคิดสั้นแบบนี้ ทุกคนต่างก็ไม่ตอบสนอง“พี่เซิง!” ผู้ช่วยกรีดร้องด้วยความกลัว “พวกคุณมันเพชฌฆาต พวกคุณทำร้ายพี่เซิง!”เย่หนานโจวไม่พูดพร่ำทําเพลง เขาอุ้มลู่ม่านเซิงขึ้นมาแล้วรีบออกไปทันที “รีบเรียกหมอ!”ผู้ช่วยไม่มีเวลาโต้เถียงกับพวกเขา และรีบวิ่งออกไปเรียกหมอคุณหมอรีบเข้ามา แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 438

    “เย่…”เธอเพิ่งเดินเข้าไป และยังไม่ทันได้เรียกเขา เย่หนานโจวก็หันกลับไปในขณะที่กำลังโทรศัพท์อยู่ เขาเดินไปโดยที่ไม่สังเกตเห็นเวินหนี่ “ปิดข่าวซะ อย่าให้ใครรู้เกี่ยวกับอาการของลู่ม่านเซิง มันจะส่งผลไม่ดี...”เย่หนานโจวเดินผ่านเวินหนี่ไปราวกับว่าเธอเป็นอากาศในขณะนั้น เวินหนี่รู้สึกเจ็บปวดใจมาก ๆเธอนึกว่าเย่หนานโจวจะกังวลเกี่ยวกับเย่จื่อ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นห่วงลู่ม่านเซิงมากกว่ากลัวมันจะกระทบต่ออาชีพของเธอเธอไม่ควรจะคิดมาก แต่ทุกสิ่งที่เธอเห็นกลับเป็นเหมือนเมล็ดที่งอกขึ้นในใจของเธอเมื่อเห็นว่าเย่หนานโจวกำลังยุ่งเพื่อลู่ม่านเซิง เขาน่าจะกังวลเกี่ยวกับเธอมาก เวินหนี่จึงไม่ได้รบกวนและขอความช่วยเหลือจากเขา แต่เดินกลับไปที่ห้องของคุณหมอแทนคุณหมอต้องให้คำตอบกับเธอได้อย่างแน่นอนหลังจากพูดคุยกับคุณหมอเกี่ยวกับอาการของลู่ม่านเซิง เธอถึงได้รู้ว่าลู่ม่านเซิงหูหนวกสนิททั้งสองข้าง ก่อนหน้านี้เธอรู้มาว่าลู่ม่านเซิงไม่สามารถใช้เสียงร้องเพลงได้อีกและดูเหมือนว่าหูข้างหนึ่งของเธอจะมีปัญหาในการได้ยินแต่มันส่งผลต่อหูทั้งสองข้างได้ยังไงกัน?คุณหมอยังบอกเธออีกด้วยว่าหูของเธอสามารถฟื้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 439

    เธอติดหนี้เขาจนชดใช้คืนให้ไม่หมด “ฉันไม่เป็นไร” ลู่เซินเดินเข้ามา เขายิ้มพลางเช็ดเหงื่อ “เดี๋ยวก็ดีขึ้น ฉันรีบมาจากบ้านเลยไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าน่ะ”เวินหนี่มองเขาแล้วยิ้ม “รีบนั่งลงเร็ว เดี๋ยวฉันเทน้ำให้!”“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันทำเอง!” ลู่เซินคว้ามันไว้ ไม่อยากให้เธอเหนื่อยมากเกินไป “เด็กไม่เป็นไรใช่ไหม?”เมื่อได้ยินแบบนั้น เวินหนี่ก็นั่งลงแล้วถามขึ้นว่า “หานลี่บอกเรื่องนี้กับนายด้วยงั้นเหรอ?”ลู่เซินเทน้ำใส่แก้วแล้วยกขึ้นดื่ม ก่อนจะยิ้มโดยไม่พูดอะไรเวินหนี่พูดขึ้น “เขาบอกนายทุกอย่างจนฉันสงสัยว่าเขาเป็นสายลับของนายหรือเปล่า พอเกิดอะไรขึ้นกับฉันนิดหน่อย ข่าวก็ไปถึงหูนายทันที”“ซะที่ไหนกัน” ลู่เซินวางแก้วน้ำลงข้าง ๆ “เขากับฉันค่อนข้างสนิทกัน และเขาเห็นว่าพวกเราต่างก็เป็นเพื่อนกัน จึงอดไม่ได้ที่จะพูดมากไปบ้าง”“ไม่ใช่ก็ดี ไม่อย่างนั้นฉันก็คงไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย” เวินหนี่พูดติดตลกดวงตาของลู่เซินจ้องไปที่ท้องของเธอ“เด็กยังอยู่ แค่เลือดออกน่ะ ไม่ได้ร้ายแรงอะไร คุณหมอบอกให้ฉันพักผ่อนให้มาก ๆ” เวินหนี่บอกเขาลู่เซินถามขึ้นอีกครั้ง “กี่เดือนแล้ว?”“สองเดือนกว่าแล้ว” เวินหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 440

    เมื่อได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเวินหนี่ก็ตกตะลึงหลังจากที่ลู่เซินพูดจบ เขาก็กดวางสายไปเขาตัดสินใจเรื่องนี้มาเป็นเวลานานแล้ว เขาต้องกล้าหาญและลองพยายามดูสักครั้งถ้าเขาไม่พยายาม เขาก็อาจไม่มีโอกาสอีกเลย “ลู่เซิน นี่นายกำลังพูดอะไร!” เวินหนี่ไม่เคยคิดว่าเขาจะทำแบบนี้เธอไม่ได้ตั้งท้องลูกของเขา แต่อยู่ ๆ เขาพยายามที่จะเป็นพ่อแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยลู่เซินพูดกับเธอ “ขอโทษ ที่ฉันตัดสินใจเองโดยไม่ได้ถามความเห็นของเธอ แต่ฉันคิดว่ามีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขายอมแพ้”“แล้วนายล่ะ!” เวินหนี่ขมวดคิ้ว “เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของนาย แต่นายกลับกลายเป็นพ่อ นี่มันไม่ยุติธรรมสำหรับนายเลย!”เธอรู้จักขอบเขตดี ลู่เซินยังหนุ่ม และเส้นทางข้างหน้าของเขายังอีกยาวไกล ภรรยาในอนาคตของเขาจะคิดอย่างไร และครอบครัวของเขาจะคิดอย่างไรเธอไม่อาจปล่อยให้เขาแบกรับความรับผิดชอบนี้โดยเปล่าประโยชน์และถูกคนอื่นวิจารณ์ได้ ลู่เซินกล่าว “ยุติธรรม ไม่ยุติธรรมอะไรกัน ได้เกิดมาทั้งทีก็ต้องทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำสิ คนอื่นจะพูดอะไรฉันไม่สนใจ ถ้าใส่ใจความคิดเห็นของคนอื่นมากขนาดนั้น ฉันจะใช้ชีวิตยังไง เธอไม่ต้องกังวลเกี่ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status