แชร์

บทที่ 303

ผู้แต่ง: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ตอนนี้ยังต้องสละกำไรอีก 20% เธอรู้สึกขาดทุนอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเธอต้องเสี่ยงเผชิญกับชื่อเสียงที่ไม่ดีด้วย เย่หนานโจวยังถามคำถามนี้อีก ซึ่งมันเหมือนการตอกย้ำบาดแผล

แต่ตอนนี้ เธอไม่สามารถพูดอะไรได้เลย

เธอทำได้แค่รักษารอยยิ้ม "ประธานเย่ เราควรมองไปข้างหน้า การสละกำไรสองส่วนก็แค่ทำให้ฉันได้กำไรน้อยลง แต่ฉันสามารถรักษาลูกค้าใหญ่เช่นคุณไว้ได้ ประธานเย่ สองส่วนคือขีดจำกัดที่ฉันให้ได้แล้ว ฉันไม่สามารถถอยหลังได้อีก"

"ก็ได้" เย่หนานโจวตอบตกลงอย่างรวดเร็ว

แต่ในใจของเจียงซิงถงกลับเต็มไปด้วยความเคียดแค้น “ในเมื่อเราตกลงกันแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะจัดงานเลี้ยงที่หงเย่วิลล่า หวังว่าประธานเย่จะให้เกียรติมาร่วมงานนะคะ”

“อืม”

เย่หนานโจวปฏิเสธไม่ได้ จึงต้องตอบตกลง

เจียงซิงถงพยักหน้าเล็กน้อยให้เย่หนานโจว “ประธานเย่ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”

“เวินหนี่ ส่งแขก”

เย่หนานโจวเรียกเวินหนี่เข้ามา

แม้เจียงซิงถงจะไม่พอใจมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เมื่อออกมาจากที่ที่ไม่มีเย่หนานโจวอยู่แล้ว เจียงซิงถงก็หันไปพูดกับเวินหนี่อย่างตรงไปตรงมา “วันนี้ที่ฉันขอโทษเธอ ก็เพราะเห็นแก่ประธานเย่เท่านั้น”

ความอับอายที่เธ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 304

    เวินหนี่ถามเขาว่า "การไปประเทศฝรั่งเศสจะเลื่อนขึ้นมาอีกได้ไหม?"เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไร ดวงตาดำขลับของเขากลับแหลมคมขึ้นทันทีควันสีขาวโปร่งใสค่อย ๆ สลายไป เวินหนี่ก็สังเกตเห็นความลึกซึ้งในแววตาของเขาเย่หนานโจวไม่เข้าใจทั้งที่เธอกับลู่เซินสนิทกันมากขนาดนั้น แต่ตอนนี้เธอกลับมาถามเรื่องการไปประเทศฝรั่งเศสว่าจะเลื่อนขึ้นมาก่อนเวลาได้ไหม"ถ้าอยากยกเลิกก็ยกเลิกเถอะ ประธานเย่ คุณมีอะไรจะสั่งอีกไหมคะ?" เมื่อเห็นว่าเย่หนานโจวไม่ได้ตอบ เวินหนี่ก็ไม่ได้รอคำตอบจากเขาอีกต่อไปเย่หนานโจวหยุดความคิด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า "ไปชงชามาให้ฉันหน่อย""ได้ค่ะ" เวินหนี่ตอบรับภายในเวลาไม่ถึงสองนาที เวินหนี่ก็นำกาน้ำชาร้อนมาให้เย่หนานโจวชาที่ใช้รับรองแขกนั้นต่างจากชาที่เขาดื่มเองเย่หนานโจวชอบดื่มชาหลงจิ่ง“เรื่องของบริษัทเจียง เธอมาดูแลต่อ พรุ่งนี้ตอนเย็นไปที่หงเย่วิลล่ากับฉัน”ต่อหน้าคำสั่งของเย่หนานโจว เวินหนี่ไม่ได้มีข้อโต้แย้งใด ๆแต่ขณะที่เธอกำลังเดินออกจากห้องทำงาน กลับมีข้อความในกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นปรากฏขึ้นแจ้งทุกคนว่า “เนื่องจากเหตุผลเรื่องเวลา งานเลี้ยงครบเดือนของลูกหัวหน้าห้อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 305

    เมื่อพูดจบลู่ม่านเซิงก็ก้มหน้าด้วยความละอายใจ เย่หนานโจวยืนอยู่ข้างเธอมองตรงไปที่กล้องด้วยแววตาแข็งกร้าว"งานแถลงข่าวครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อชี้แจง ไม่มีการวางยา ไม่มีการใส่ร้ายใคร บรรดาหัวข้อข่าวที่บิดเบือนเรื่องนี้ต้องจบลงแค่นี้"ใบหน้าของเย่หนานโจวเคร่งขรึม ร่างกายสูงใหญ่ 188 เซนติเมตรของเขาภายใต้กล้องให้ความรู้สึกกดดันอย่างมากเมื่อเวินหนี่เห็นภาพนี้ เธอก็รู้สึกงุนงง เย่หนานโจวสามารถยืนเคียงข้างลู่ม่านเซิงอย่างไม่มีเงื่อนไข มอบความมั่นใจและความปลอดภัยให้เต็มเปี่ยม แต่กับเธอ เขากลับเย็นชาและห่างเหินตลอดมามีเพียงลู่ม่านเซิงเท่านั้นที่สามารถทำให้เย่หนานโจวทำได้ถึงขั้นนี้!ขณะที่เวินหนี่กำลังจะหันหลังจากไป ตัวหนังสือบนจอแสดงผลก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง และกล้องก็ซูมเข้าไปใกล้ ใบหน้าของเย่หนานโจวถูกขยายให้เห็นชัด"ขอถามเย่ประธานว่าที่วันนี้คุณมายืนที่นี่เพื่อช่วยเหลือคุณลู่ เป็นเรื่องทางด้านธุรกิจหรือเรื่องส่วนตัวครับ?"เย่หนานโจวเผยอริมฝีปากบาง ตอบอย่างเยือกเย็น "ทั้งสองอย่าง"ขณะตัวอักษรปรากฏขึ้นพร้อมกับคำพูดของเขา เวินหนี่รู้สึกราวกับหัวใจถูกก้อนหินก้อนใหญ่กดทับ เธอเริ่มหายใจติดข

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 306

    เมื่อลู่ม่านเซิงกำลังจะลงจากรถ โทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น เป็นสายจากพนักงานส่งของ"สวัสดีครับ คุณลู่ มีพัสดุหลายชิ้นต้องให้คุณลงมาเซ็นรับหน่อยครับ"ลู่ม่านเซิงเห็นว่าพนักงานส่งของอยู่ไม่ไกลจากรถ และมีพัสดุหลายชิ้นบนรถเข็นเธอจึงขอความช่วยเหลือจากเย่หนานโจว "พี่หนานโจวช่วยฉันหน่อยได้ไหมคะ นี่เป็นหลอดไฟที่ฉันซื้อมา พอดีหลอดไฟในบ้านเสียน่ะ"เย่หนานโจวไม่ได้ตอบอะไรทันที แต่ผ่านไปไม่กี่วินาที เขาก็ลงจากรถห้านาทีต่อมา…เย่หนานโจวให้เผยชิงลากรถเข็นคันเล็กและพาลู่ม่านเซิงขึ้นไปยังชั้นที่เธออาศัยอยู่เขาได้ให้สัญญาณทางสายตากับเผยชิง หลังจากนั้นเผยชิงก็เข้าใจและช่วยแกะพัสดุแล้วเปลี่ยนหลอดไฟให้ลู่ม่านเซิงเย่หนานโจวตั้งใจจะโทรหาเวินหนี่ แต่พอหันตัวกลับมาก็ชนเข้ากับลู่ม่านเซิงที่เดินสวนมา“อ้า!” หญิงสาวร้องออกมาโดยไม่ทันคิดน้ำบลูเบอร์รี่ในมือของเธอสาดไปทั่วตัวร่างสูงทันทีเย่หนานโจวขมวดคิ้วทันที จากนั้นไม่กี่วินาทีก็ได้ยินเสียงลู่ม่านเซิงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด "ขอโทษนะคะพี่หนานโจว น้ำบลูเบอร์รี่นี่เป็นแบรนด์ที่เพื่อนฉันทำเอง ฉันเคยดื่มแล้วมันอร่อยมาก เลยตั้งใจจะให้พี่ลองดื่

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 307

    หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที เย่หนานโจวก็เอ่ยขึ้นช้า ๆ "อีกสามวันข้างหน้าจองตั๋วเครื่องบินให้ฉันกับเวินหนี่ไปประเทศฝรั่งเศส"“ได้ครับ”เผยชิงตอบรับ หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียง ‘แคร่ก’ ดังขึ้น เห็นเย่หนานโจวผลักประตูแล้วลงจากรถ เขาก้าวเดินทีละก้าวเข้าสู่ว่างเจียงหยวนเวินหนี่กำลังยุ่งอยู่ในครัว ขณะที่เขาเดินผ่านประตูเข้าไป เวินหนี่ก็นำถ้วยซุปไก่เดินออกมาจากครัวพอดี“กลับมาแล้วเหรอคะ พอดีเลยทานข้าวกันเถอะ”เวินหนี่มองเย่หนานโจวเพียงแวบเดียว ก่อนจะละสายตาออกอย่างรวดเร็วเธอดูสงบนิ่งมากแต่คิ้วของเย่หนานโจวกลับขมวดแน่นไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็เดินเข้าไปหาเวินหนี่เธอจึงสังเกตเห็นคราบสกปรกและคราบเลือดบนเสื้อของเขา"คุณป้าช่วยยกอาหารที่เหลือออกมาทีนะคะ" เวินหนี่หันไปสั่ง จากนั้นจึงมองไปที่เย่หนานโจว "คุณไปอาบน้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะเตรียมชุดไว้ให้"ขณะที่เวินหนี่พูดเธอก็ถอดผ้ากันเปื้อนออกเธอไม่แม้แต่จะถามว่าคราบสกปรกบนตัวเขามาจากไหนยิ่งไปกว่านั้นแววตาของเธอก็ไร้ความรู้สึกอย่างสิ้นเชิง“เวินหนี่ เธอคิดว่าเธอเป็นภรรยาที่ดีพอหรือยัง?” ในที่สุดเย่หนานโจวก็ทนไม่ไหวเธอไม่ได้โต้เถียงหรือ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 308

    เย่หนานโจวกวาดตามองเวินหนี่แวบหนึ่ง จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ให้เธอเข้ามา"เวินหนี่เม้มริมฝีปาก ยังไม่ทันจะพูดอะไร ลู่ม่านเซิงก็เดินเข้ามาจากประตูโดยมีเสียงรองเท้าส้นสูงดังก้องเข้ามาเวินหนี่ไม่ได้มองเธอแต่เสียงของลู่ม่านเซิงก็ดังขึ้นข้าง ๆ "ฉันเอาเสื้อผ้ามาให้คุณน่ะ"ลู่ม่านเซิงเดินไปอยู่ตรงหน้าเย่หนานโจวเธอเปลี่ยนชุดใหม่แล้ว เป็นชุดสูทกระโปรงสีเขียวอ่อน พร้อมกับผมลอนใหญ่ที่ทำให้ลู่ม่านเซิงดูสูงเพรียวและสวยงาม"ไม่ต้องลำบากมาถึงที่นี่หรอก"เวินหนี่หันไปมองเย่หนานโจวแวบหนึ่งสีหน้าของเขาดูเย็นชาและไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนักแต่คำพูดของเขา…ลู่ม่านเซิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ถ้าฉันไม่มาส่งเอง ฉันคงจะไม่สบายใจ ไม่คิดเลยว่าคุณจะกำลังกินข้าวอยู่ อาหารพวกนี้เลขาเวินทำเองเลยสินะคะ?""อืม"เย่หนานโจวตอบรับอย่างเรียบ ๆลู่ม่านเซิงจึงมองไปที่เวินหนี่ด้วยความคาดหวัง “เลขาเวิน ฉันขอลองชิมฝีมือทำอาหารหน่อยได้ไหม? พอดีวันนี้ฉันว่างเลยคิดว่าจะมาเรียนทำอาหารจากคุณบ้าง”เวินหนี่ปฏิเสธ “ฉันเตรียมจานชามให้คุณได้นะ แต่เรื่องเรียนทำอาหารคงไม่ไหว ฉันไม่ใช่มืออาชีพ แล้วก็ไม่มีเวลา”พ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 309

    เวินหนี่ตอบโต้ทุกคำพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ คำพูดเหล่านั้นกำลังกดลู่ม่านเซิงให้จมลงไปในความเจ็บปวดสีหน้าของคนฟังจึงดูแย่ถึงขีดสุด ไฟโทสะลุกโชนในใจแต่เหตุผลบอกเธอว่าต้องสงบสติอารมณ์"เธอก็ไม่ต้องดีใจไป หนานโจวก็ไม่เคยยอมรับสถานะของเธอต่อสาธารณะเหมือนกัน และที่สำคัญเขาปกป้องฉันมากกว่า" ลู่ม่านเซิงคว้ามีดผลไม้ขึ้นมาแล้วยื่นมีดให้เวินหนี่ "เลขาเวิน ช่วยสอนฉันหั่นผักหน่อยสิ"เวินหนี่ขมวดคิ้ว มองลู่ม่านเซิงแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้รับมีดเธอเรียกแม่บ้านหลี่ "คุณลู่ ฉันไม่มีความอดทนพอจะสอนใครได้ แม่บ้านหลี่ดูจะมีความอดทนมากกว่า มาช่วยสอนคุณลู่แทนฉันที"สีหน้าของลู่ม่านเซิงเย็นชาไปกว่าเดิมเวินหนี่ไม่แม้แต่จะรับของจากเธอและไม่ยอมสอนอะไรเธอเลย!แผนการที่ลู่ม่านเซิงวางไว้ไม่เป็นไปตามคาด เธอจึงหมดความตั้งใจทันทีแล้วโยนมีดลงบนเขียงอย่างแรง "ช่างเถอะ อยู่ดี ๆ ฉันก็นึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ไว้วันหลังฉันจะมาเรียนใหม่"แม่บ้านหลี่มาถึงกับนิ่งไปเดี๋ยวจะเรียน เดี๋ยวไม่เรียน คุณลู่คนนี้ ช่างแปลกจริง ๆ!…ลู่ม่านเซิงเห็นว่าชุดที่เธอนำมาให้เย่หนานโจวนั้นถูกวางไว้บนโซฟาเวินหนี่นั่งอยู่บนโซฟาในขณะที่ถือโท

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 310

    คำพูดนั้นส่งผลกระทบต่อทั้งเวินหนี่และลู่ม่านเซิงสำหรับเวินหนี่เธออยู่ข้างเย่หนานโจวมานานเจ็ดปี เธอรู้จักนิสัยของเขาเป็นอย่างดี ขณะที่เธอยืนอยู่ตรงนั้น ในฐานะเลขาของเขา หากเป็นปกติเย่หนานโจวคงจะให้เธอไปช่วยพยุงลู่ม่านเซิงขึ้นแต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้นชัดเจนว่าเย่หนานโจวนั้นเข้าข้างลู่ม่านเซิงอย่างไรก็ตามเวินหนี่ยังคงสงบนิ่งเธอถือโทรศัพท์ตั้งแต่ต้นจนจบและไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย เพราะคนบริสุทธิ์ย่อมเป็นที่ประจักษ์เมื่อดูกล้องวงจรปิดก็จะเห็นได้ชัดว่าลู่ม่านเซิงเป็นเพียงตัวตลกที่แสดงละครเท่านั้นสำหรับลู่ม่านเซิงนั้น…เย่หนานโจวกำลังแสดงความรังเกียจเธอโดยเฉพาะน้ำเสียงที่เย็นชาของเย่หนานโจว ชัดเจนว่าเขาไม่เชื่อเธออีกต่อไปแต่เธอกำลังเดิมพันอยู่ประมาณสองนาทีต่อมาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดในภาพตอนที่ลู่ม่านเซิงเดินผ่านเวินหนี่มุมของกล้องถูกบังพอดี และในชั่วพริบตาลู่ม่านเซิงก็ล้มลงไปข้างหลังดูจากภาพแล้วเหมือนว่ามีคนผลักเธออย่างชัดเจนเย่หนานโจวส่งสายตาเย็นชาและดุดันไปยังเวินหนี่ “ขอโทษซะ”นี่คือคำสั่งในบ้านมีกล้องวงจรปิดก็จริง แต่ไม่ใช่กล้องที่สาม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 311

    ”ดูสิ”ลู่ม่านเซิงเองก็สังเกตเห็นเรื่องนี้แต่ก็ไม่ได้พูดถึง เธอคิดว่าเย่หนานโจวกำลังจะเล่นงานเวินหนี่ แจึงเดินจากไปด้วยความพึงพอใจ“ทำไมเมื่อกี้เธอถึงไม่พูด?” เย่หนานโจวขมวดคิ้วคำพูดของเวินหนี่ทำให้เขาตระหนักได้ถึงปัญหาข้อนี้เช่นกันรอยยิ้มเยาะปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเวินหนี่ “สิ่งที่คุณปักใจไปแล้วจะเปลี่ยนไปเพราะคำพูดไม่กี่คำของฉันงั้นเหรอคะ?”ทันทีที่พูดจบ เวินหนี่ก็สะบัดเย่หนานโจวออก จากนั้นเธอก็หันหลังจากไป ทิ้งไว้เพียงเงาเบื้องหลังให้กับเย่หนานโจวเย่หนานโจวไม่ได้ไล่ตามเธอและไม่ได้เรียกเธอไว้แต่ดวงตาดำขลับกลับมองตามแผ่นหลังของเวินหนี่ไป…ทันทีที่เย่หนานโจวจุดบุหรี่ ลู่ม่านเซิงก็โทรเข้ามาเขากดเปิดสปีกเกอร์โฟนเสียงที่ดังมาจากปลายสายของลู่ม่านเซิงฟังดูแหบแห้ง “พี่หนานโจว พี่อย่าดุเวินหนี่มากเกินไปเลยนะคะ ฉันรู้ว่ามันเป็นความผิดของฉันเอง และฉันจะควบคุมตัวเองไม่ให้สร้างปัญหาให้กับพี่อีก”“ได้แบบนั้นก็ดี”น้ำเสียงเย็น ๆ ออกมาจากปากของเย่หนานโจว เมื่อลู่ม่านเซิงได้ยินแบบนั้นเธอก็ตกตะลึงเย่หนานโจวเชื่อว่าเวินหนี่ผลักเธอไม่ใช่เหรอ?กล้องวงจรปิดจับภาพอะไรไว้ไม่ได้นี่เ

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 468

    “ไม่ใช่ค่ะ” เวินหนี่ตอบสีหน้าของเย่หนานโจวเปลี่ยนไปและเขาก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ใกล้จะเป็นอดีตภรรยาแล้วครับ!”คุณหมอถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคำตอบ เขาจึงรีบตอบไปว่า “ผู้ป่วยมีอาการกระทบกระเทือนเล็กน้อยและกระดูกมือร้าว เธอจะหายดีหลังจากพักผ่อนสักระยะหนึ่ง พวกคุณไม่ต้องกังวลมากเกินไป”นี่เป็นเรื่องที่ดี เวินหนี่ตอบไปทันที “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”“ด้วยความยินดีครับ”ทั้งสองตามเย่จื่อเข้าไปในวอร์ดเวินหนี่เห็นว่าริมฝีปากของเย่จื่อดูแห้งผาก ดังนั้นจึงรีบหาน้ำอุ่นมา และชุบด้วยสำลีก่อนจะเช็ดให้ชุ่มชื้นเย่หนานโจวเฝ้าดูจากด้านข้างในวอร์ดมีคนไม่มากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยเวินหนี่ไม่วางใจ ดังนั้นเธอจึงนั่งลงตรงข้ามเขาอีกครั้ง โดยมุ่งเน้นไปที่การเฝ้าเย่จื่อหลังจากที่เฝ้าได้สักพัก เธอก็รู้สึกง่วงจนเปลือกตาสั่น จากนั้นเธอก็เผลอฟุบหลับไปเมื่อเวินหนี่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะความตกใจ เธอฝันว่ามันมืดสนิทและอยู่ในพื้นที่แคบ ๆกลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น แม้แต่ในความฝันก็ยังไม่ปล่อยเธอไป เธอมักจะฝันแบบนี้ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลยเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีเสื้อคลุม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 467

    หรือว่าเขาจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว?เธอเคยได้ยินเย่จื่อพูดอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ได้คิดถึงเหตุผลบางทีเย่หนานโจวอาจรู้มานานแล้ว จึงเข้าใจโดยปริยาย“เวินหนี่”ลู่เซินเข้ามาหาเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พักสักหน่อยไหม เดี๋ยวร่างกายจะทนไม่ไหวเอานะ”เวินหนี่ยืนนานแล้วและรู้สึกปวดหลัง แต่เธออยากรอให้เย่จื่อออกมา จึงนั่งลงข้าง ๆ “ฉันอยากรอจนกว่าคุณอาจะฟื้น”“ผมจะรอเป็นเพื่อนคุณเอง” ลู่เซินพูดขึ้นอีกครั้งเวินหนี่พยักหน้าไปทางเขาร่างสูงของเย่หนานโจวเอนตัวไปที่กรอบประตูและเหลือบมองความกังวลของลู่เซินที่มีต่อเวินหนี่ ดวงตานั้นแทบจะมีน้ำล้นออกมาได้ และเวินหนี่ก็ดูเหมือนพร้อมยอมรับน้ำใจของเขาคลื่นแห่งความกระสับกระส่ายโจมตีร่างกายของเย่หนานโจวอีกครั้งดวงตาของเขาเย็นขึ้นและจงใจเตะเก้าอี้ข้าง ๆ ให้มีเสียงนั่นคือเก้าอี้ที่ลู่เซินนั่งอยู่ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง เย่หนานโจวก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “โทษที บังเอิญเตะโดนเข้าน่ะ!”“ไม่เป็นไร” ลู่เซินไม่ได้ติดใจอะไรเย่หนานโจวกลับพูดขึ้นอีกว่า “ตรงนี้คือพื้นที่รอสำหรับญาติ ไม่ทราบว่าคุณลู่มาที่นี่ทำไมกัน ที่บริษัทของคุณไม่ยุ่งเหรอครับ?”

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 466

    เขาไม่ได้โต้เถียงกับเธอ และเพิกเฉยต่อเสียงร้องไห้ของเธอสำหรับเขา น้ำตาของเย่ซูเฟินนั้นไร้ค่าเย่ซูเฟินในฐานะผู้หญิง เมื่อเห็นความเฉยชาของสามี มันก็ค่อย ๆ ทำลายแนวป้องกันในใจของเธอทีละน้อยและโวยวายขึ้นอย่างอารมณ์ร้อน “พูดมาสิ ทำไมถึงไม่พูดล่ะ ในสายตาของคุณ เย่จื่อสำคัญกว่าฉันใช่ไหม ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ เย่เหว่ยถิง คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!”เธอร้องไห้จนตาแดง อยากให้สามีเอาใจใส่เธอบ้างแค่หันมามองเธอสักครั้งก็สามารถสงบความโกรธและความกังวลของเธอได้เย่เหว่ยถิงเงียบและทำเหมือนเย่ซูเฟินคือคนแปลกหน้าอย่างเย็นชาเย่หนานโจวมองการอยู่ร่วมกันของพวกเขา เขาเห็นสิ่งนี้จนชินจึงไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆสำหรับเขา พวกเขาคือพ่อแม่ของตนเพียงในนามเท่านั้นการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำให้เขาชินมานานแล้วถึงขั้นทำให้เขารู้สึกไม่แยแสเย่เหว่ยถิงทนเย่ซูเฟินไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงลุกขึ้นและพูดกับเย่หนานโจวว่า “ฉันจะลงไปแล้ว ถ้าเย่จื่อฟื้นค่อยบอกฉัน!”เย่หนานโจวลดสายตาลงด้วยสายตาเย็นชาและไม่ตอบอะไรเย่เหว่ยถิงเองก็ไม่ได้รอคำตอบจากเขา เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับเย่หนานโจว เขารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 465

    เมื่อเห็นความเฉยเมยของเขา เย่ซูเฟินจึงพูดขึ้นว่า “หนานโจว!”เย่หนานโจวไม่ต้องการฟังเธออีกและเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชาเย่ซูเฟินต้องการพูดอะไรบางอย่างกับเย่หนานโจว แต่ลู่ม่านเซิงร้องไห้และถูกรังแก เธอจึงไปไหนไม่ได้ และทำได้เพียงเดินไปพยุงลู่ม่านเซิง “เซิงเซิงลุกขึ้นเถอะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว”ลู่ม่านเซิงถูกพยุงขึ้น เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟิน “คุณป้า หนูมันน่ารำคาญมากจนทุกคนไม่ชอบใช่ไหมคะ!”“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ฉันชอบเธอ ทุกคนต่างก็ชอบเธอ”เย่ซูเฟินตบหลังลู่ม่านเซิงเพื่อปลอบเธอลู่ม่านเซิงยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟินเห็นแบบนี้ แม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ดูเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ ใครจะกล้าไปว่าอะไรเธอได้ ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลและมีคนอยู่มากมาย เวินหนี่คงอยากจะฉีกหน้ากากของลู่ม่านเซิงออกเพื่อดูว่าเธอจะเสแสร้งได้สักแค่ไหน แน่นอน เธอรู้ดีว่าไม่ว่าลู่ม่านเซิงจะจริงหรือเท็จแค่ไหน เย่ซูเฟินก็จะยังคงปกป้องเธอความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอดูเหมือนไม่ชัดเจนเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้น “เย่จื่อเป็นยังไงบ้าง?”เวินหนี่เงยหน้าขึ้นมองและเห็นเย่เหว่ยถิงเดินเข้ามาเขาสวมชุดสูทแ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 464

    ขณะที่เย่ซูเฟินกำลังปกป้องลู่ม่านเซิง เวินหนี่ก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชาเมื่อเย่ซูเฟินเห็นเวินหนี่พูดแบบนั้น เธอจึงพูดขึ้นว่า “เวินหนี่ เซิงเซิงเป็นถึงขนาดนี้แล้ว อย่าอาศัยโอกาสนี้ซ้ำเติมเธออีก!”ปฏิกิริยาแรกของเธอคือปกป้องคนที่อ่อนแอไว้เวินหนี่เดินเข้าไป เห็นลู่ม่านเซิงร้องไห้หนักและดูอ่อนแอจนเกินบรรยาย “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ พวกคุณมีใครกังวลเกี่ยวกับคุณอาบ้าง สิ่งที่คุณกังวลคือกลัวว่าลูกชายจะไม่เอา ส่วนลู่ม่านเซิงเธอกล้วว่าถูกกล่าวโทษเลยมาเสแสร้งทำเป็นน่าสงสารที่นี่ ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าคุณผลักคุณอาลงมา และลู่ม่านเซิงก็น่าจะเป็นผู้ที่ยุยง!”คุณอาถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทำให้เวินหนี่ไม่ต้องการไว้หน้าพวกเธอ “อย่ามาพูดจาไร้สาระ!” เย่ซูเฟินตวาด “ฉันผลักเย่จื่อก็จริง แต่ฉันแค่ผลักเบา ๆ ทำไมเธอถึงไม่คิดบ้างล่ะว่าเย่จื่อจงใจล้มลงไปเอง”เวินหนี่มองไปที่เย่ซูเฟิน “แรงผลักของคุณมันไม่ได้เบา เราทุกคนต่างก็เห็น”เมื่อเย่ซูเฟินเห็นท่าทีของเวินหนี่ น้ำเสียงของเธอก็ดังมากยิ่งขึ้น “เวินหนี่ เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้ ยังไงฉันก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโส เป็นแม่สามีขอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 463

    “ไม่ใช่นะ…” เย่ซูเฟินกล่าว “ลูกยังเป็นลูกชายของแม่ แม่เสียใจมากและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดใช้ให้ลูก…”“ผมไม่ต้องการมันแล้ว” ดวงตาของเย่หนานโจวเย็นชา “การเรียกคุณว่าแม่มันคือความอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม และคุณก็ควรจะพอใจได้แล้ว!”เย่ซูเฟินอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองสามก้าวและพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ลูกจะทำกับแม่แบบนี้ไม่ได้นะ อย่าเป็นเหมือนพ่อของลูก ไม่อย่างนั้นแม่พาลูกกลับมามันจะมีความหมายอะไร!”เย่หนานโจวพูดอย่างเย็นชา “หากมีผม การเอาชนะใจสามีของคุณมันถึงจะมีความหมาย แต่น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของคุณมันไร้ประโยชน์!”ทุกคำพูดเหมือนมีดที่ทิ่มแทงใจของเย่ซูเฟินในตอนนั้นการแต่งงานของเธอกับเย่เหว่ยถิงนั้นค่อนข้างน่าขัน เป็นเพียงเพราะเธอดื้อดึงที่จะแต่งงานกับเขาเย่เหว่ยถิงไม่ได้รักเธอเลย ตรงกันข้ามเขาเกลียดเธอเธอคิดว่าตราบใดที่เธอแต่งงานกับเขา เย่เหว่ยถิงก็จะเป็นของเธอเมื่อเรื่องราวมันเลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขได้ มีอะไรที่จะผ่านไปไม่ได้อีก?แต่เธอคิดง่ายเกินไป เย่เหว่ยถิงไม่กลับบ้านและปล่อยให้เธออยู่คนเดียวในห้องที่อ้างว่างเธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะใจสามีแม้กระทั่ง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 462

    “หนานโจว”ในระหว่างที่โต้เถียงกับเย่จื่ออยู่นั้นเย่ซูเฟินก็สังเกตเห็นเขา และเธอก็ตกใจเล็กน้อยเวินหนี่เองก็มองไปและเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่ข้างหลัง ดวงตาของเขาเย็นชาและดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับสิ่งที่พวกเธอพูดกลับกัน เขากลับยอมรับความจริงนี้อย่างสงบนิ่งเย่จื่อตกใจเมื่อเห็นดวงตาของเย่หนานโจวในขณะนี้ สิ่งที่เธอเสียใจคือการที่เธอหุนหันพลันแล่นพูดออกไปว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเย่ซูเฟิน เพราะมันถือเป็นการโจมตีเขาเธอมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอมองเพียงเย่หนานโจว “หนานโจว…”เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไรมากเขาเพียงแค่รู้ว่าพวกเธอมาที่สุสานและอาจจะเกิดเรื่องขึ้น เขาจึงเป็นกังวลและแวะเข้ามาดูหน่อยเท่านั้น เย่ซูเฟินโกรธมากขึ้น “เย่จื่อ เธอกำลังพูดอะไร เธอจะให้ฉันมีความสุขไม่ได้เลยใช่ไหม เธอมันสมควรตายจริง ๆ!”เธอผลักเย่จื่ออย่างแรงความสนใจของเย่จื่อมุ่งไปที่เย่หนานโจว ความโกรธของเธอลดลงมากและลดความเกรี้ยวกราดลง ในใจคิดแต่ว่ามันจะสร้างบาดแผลให้เขาหรือไม่เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นการกระทำของเย่ซูเฟินและเธอก็ถูกผลักลงบันไดไปทันทีสติของเวินหนี่ยังไม่ทันกลับมาจากการที่เย่หนานโจวไม่ใช่ลูกแท้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 461

    “ดังนั้นเธอจึงทำทุกอย่างเพื่อทำลายครอบครัวทีละครอบครัว! เธอไม่เคยคิดถึงความผิดของตัวเองเลย!”“ฉันไม่ผิด!” เย่ซูเฟินพูดอย่างเดือดดาล “ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเธอบีบบังคับฉันเอง!”เมื่อเห็นว่าทุกคนอารมณ์ร้อน ลู่ม่านเซิงจึงเกลี้ยกล่อมจากด้านข้าง “คุณอา อย่าเถียงกับคุณป้าเลยค่ะ เธอแค่หุนหันพลันแล่นไปเท่านั้น ฉันไม่เป็นไรค่ะ และฉันก็ไม่ได้โทษคุณอาเลย คุณป้าพวกคุณต่างก็ถอยคนละก้าวเถอะนะคะ”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” เย่จื่อมองไปที่ลู่ม่านเซิง และพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ถ้าเธอไม่ได้โทษฉัน แล้วจะเล่าให้เย่ซูเฟินฟังทำไม เธออยากให้เย่ซูเฟินออกหน้าให้ไม่ใช่เหรอ? เสแสร้งแกล้งทำ ภายนอกดูใสซื่อ แต่ภายในคิดไม่ซื่อ ฉันล่ะเกลียดคนแบบเธอที่สุด!”เมื่อเห็นแบบนั้นเย่ซูเฟินก็ผลักเธอทันที “เธอกำลังดุใคร รู้ว่าเซิงเซิงสูญเสียการได้ยิน แต่ยังแอบพูดไม่ดีลับหลังเธอ เธอมันชั่วร้ายแค่ไหนกัน?!”“ถึงฉันจะชั่วร้ายแต่ก็ไม่ได้ขาดคุณธรรมเหมือนเธอ!” เย่จื่อก็ผลักกลับคืนไปเช่นกัน“เธอลงมือกับฉันงั้นเหรอ?”เย่ซูเฟินจ้องเธอด้วยความโกรธ “วันนี้มีเธอก็ไม่มีฉัน!”“ลองดูสิว่าฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ไหม!”เย่จื่อไม่พูดพล่ำทำเพลงเข้าไปต

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 460

    เย่จื่อไม่คาดคิดว่าเย่ซูเฟินจะโทรมาหาเธอ ซึ่งทำให้เธออารมณ์เดือดขึ้นทันที "ทำไม? หรือว่าเป็นลู่ม่านเซิงที่บอกอะไรกับเธอ ฉันจัดการเธอแล้วยังไงล่ะ!""ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?" เย่ซูเฟินพูดด้วยความโกรธ เพราะอยากจะจัดการกับเย่จื่อให้ได้"ฉันต้องบอกด้วยเหรอ? คิดว่าเธอเป็นใคร!" เย่จื่อไม่สนใจที่จะเคี้ยวเมล็ดแตงโมแล้ว ปัดมันออกไปพร้อมกับกำลังมองหาที่ระบายความโกรธเย่ซูเฟินหัวเราะเยาะ "กลัวสินะ กลัวฉันจะหาตัวเจอ ฉันรู้แล้วว่าโรงงานเสริมความงามของเธอโดนพังเสียหายหมด ตอนนี้ถึงกับต้องหลบซ่อนตัวเหมือนเต่าหดหัวแล้ว!""ฉันเนี่ยนะกลัว? ฉันเคยกลัวเธอสักครั้งไหม! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแต่งงานกับเย่เว่ยถิง ฉันไม่เคยนับเธอเป็นคนของตระกูลเย่ด้วยซ้ำ!" เย่จื่อตอบกลับอย่างกระแทกกระทั้น"งั้นก็ออกมาสิ มาสู้กันต่อหน้า!" เย่ซูเฟินท้าทาย"ก็ได้ ออกมาก็ออกมา เย่ซูเฟิน ถ้าเธออยากจะตัดขาดกับฉันจริง ๆ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว!" พูดจบ เย่จื่อก็ตัดสายทิ้งและหยิบกระเป๋าขึ้น เตรียมออกไปข้างนอกทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น เวินหนี่รีบพูดขึ้น "คุณอาคะ คุณอาจะไปไหนคะ หนูจะไปด้วย"เย่จื่อหันมามองเวินหนี่ "เธอไม่ต้องไป เย่ซูเฟิ

DMCA.com Protection Status