แชร์

บทที่ 283

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-09 18:51:42
เธอทำโจ๊กและบะหมี่ไข่และทำน้ำลูกแพร์ตุ๋นด้วย เมื่อทำเสร็จแล้ว สาวใช้ก็ช่วยเธอนำมันออกไปที่โต๊ะด้านนอก

เย่หนานโจวบังเอิญลงมาจากชั้นบนพอดี เวินหนี่จึงเรียกเขา “รีบมาทานอาหารเช้าค่ะ”

ขณะนั้น แสงแดดก็ส่องมาบนตัวของเวินหนี่ ส่องประกายสีทองอันสวยงามบนร่างเธอ

เย่หนานโจวรู้สึกว่าเวลาชั่วขณะนี้มันดีมาก ราวกับว่าได้กลับไปยังตอนแรกของการแต่งงาน แม้ว่าจะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น

หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว พวกเขาต้องไปที่สำนักงานเขตตามนัดหมาย

เย่หนานโจวไม่อยากทานอาหารเช้าเลยจริง ๆ แต่เขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ฝีมือการทำอาหารของเวินหนี่นั้นยอดเยี่ยมมาก อาหารที่เธอทำก็อร่อยและมีประโยชน์ต่อกระเพาะ

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จพวกเขาก็เดินออกไปพร้อมกัน

เย่หนานโจวไม่ได้เรียกคนขับ และไม่ได้เรียกเผยชิง เขาขับรถเองโดยมีเวินหนี่นั่งอยู่ฝั่งข้างคนขับ เหมือนกับวันที่พวกเขาไปจดทะเบียนสมรส

แต่วันนั้นไม่ได้อากาศดีเท่าวันนี้

ตอนที่ไปถึงสำนักงานเขตช่องจดทะเบียนสมรสแทบไม่มีคนเลย กลับกันช่องจดทะเบียนหย่าต้องทำการนัดหมายและเข้าคิวรอ

เมื่อรอมาประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงคิวของพวกเขา

เจ้าหน้าที่ดูวันที่ ก่อนจะดูท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 284

    เวินหนี่ไม่ได้มีความสุขแต่เธอไม่มีทางเลือก“ใช่ค่ะ ฉันมีความสุขมาก” เวินหนี่ตอบปากไม่ตรงกับใจ เย่หนานโจวเข้าใจทุกอย่างแล้ว “สิ่งที่เธอเรียกว่าวิธีที่ดีกว่าคือการหาทนายความใช่ไหม?”เวินหนี่ไม่ปฏิเสธแต่หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดกับเย่หนานโจวว่า “ประธานเย่ เราไม่ได้จะไปทางเดียวกันแล้วค่ะ”เธอจะไปหาทนายความเย่หนานโจวเข้าใจความคิดของเธออย่างถ่องแท้ และไม่มีทางที่เขาจะใจดีไปส่งเธอแน่นอน เย่หนานโจวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ที่เย่กรุ๊ปมีงานค้างมากมาย”“อ้อ” เวินหนี่ไม่ได้พูดอะไรอีกเมื่อพวกเขามาถึงเย่กรุ๊ป คนหนึ่งก็เข้าไปในห้องทำงานของประธาน ส่วนอีกคนก็กลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองฉู่ซวงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเวินหนี่ “พี่เวิน ฉันคิดว่าพี่จะไม่กลับมาแล้วซะอีก”เวินหนี่ถูกดึงดูดด้วยเสียงของฉู่ซวงฉู่ซวงดูเนี๊ยบมากในชุดทำงานของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่หนานโจวให้การยอมรับในตัวเธอ บวกกับเธอเป็นคนคัดเลือกฉู่ซวงเข้ามาเอง ตั้งใจจะรับเข้ามาแทนตำแหน่งของเธออยู่แล้ว มันเป็นเรื่องปกติที่ฉู่ซวงจะพูดแบบนั้น แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกไม่สบายใจที่ได้ยินฉู่ซวงพูดแบบนี้กันนะฉู่ซวงทำใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 285

    เย่หนานโจวพูดโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา “เธอไปต้อนรับคนของเจียงกรุ๊ปที่โรงแรมที จากนั้นก็เตรียมสถานที่สำหรับมื้อกลางวันของวันนี้ รวมถึงเตรียมจองคลับสำหรับคืนนี้ด้วย”“ค่ะ”เธอไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งของเย่หนานโจวได้หลังจากได้ที่อยู่ของโรงแรมแล้ว เวินหนี่ก็ไปที่ลานจอดรถใต้ดินเพื่อเอารถ ขณะที่เธอกำลังเปิดประตูรถ ก็มีมือหนึ่งคว้าข้อมือของเธอเอาไว้จนทำให้เวินหนี่ตกใจวินาทีต่อมา เธอได้ยินเสียงของฉู่ซวง “พี่เวิน ฉันคือคนที่พี่คัดเลือกเข้ามา ฉันเป็นคนยังไงพี่ไม่รู้เหรอคะ? ที่ฉันถามพี่แบบนั้นมันไม่ได้มีความหมายอะไรแอบแฝง ฉันแค่อยากขอคำแนะนำจากพี่จริง ๆ พี่ช่วยฉันขอความเมตตากับประธานเย่หน่อยได้ไหมคะ?”ฉู่ซวงไม่อยากถูกไล่ออกไปแบบนี้เธอรออยู่ในลานจอดรถและคิดเรื่องนี้วนไปมา ไม่ว่าเธอจะได้พบกับเวินหนี่ เผยชิง หรือเย่หนานโจวก็ตาม เธอก็จะต้องทำตัวถ่อมตนและขอให้คนเหล่านี้ให้เธออยู่ต่อตอนนี้เวินหนี่ไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจ “ประธานเย่ไล่เธอออกแล้ว และเธอก็น่าจะรู้จักนิสัยของเขาดี เธอคิดว่าประธานเย่ยังจะอยากให้เธอกลับมาไหม?”เธอไม่อยากมีปัญหากับเย่หนานโจวเพราะฉู่ซวง และเธอก็ไม่ต้องการถูกเย่หนานโจวเย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 286

    หลังจากที่เจียงซิงถงพูดจบ เธอก็หันหลังให้กับเวินหนี่แล้วไม่พูดอะไรอีกเมื่อไม่สามารถรับรองผู้รับผิดชอบของเจียงกรุ๊ปได้ เวินหนี่จึงรายงานกับเย่หนานโจวตามความจริง “อีกฝ่ายขอให้คุณมาด้วยตนเอง เพราะพวกเขาไม่ชอบที่เราเปลี่ยนคนไปมาค่ะ”เวินหนี่ไม่มัวพูดไร้สาระ หากเย่หนานโจวต้องการรักษาความร่วมมือนี้เขาก็ต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง แต่หากเขาไม่ต้องการก็แค่ไม่สนใจ ส่วนเธอก็สามารถใช้โอกาสนี้ในการไปหาทนายความได้แต่ไม่คิดว่าเย่หนานโจวจะพูดขึ้นทันที “กลับมา”เย่หนานโจวเน้นเสียงต่ำและจริงจัง บ่งบอกว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น“ค่ะ” เวินหนี่ตอบรับโดยไม่ได้พูดอะไรมากเมื่อเธอกลับมาอยู่ข้างหน้าเย่หนานโจวอีกครั้ง ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่หน้าคอมพิวเตอร์แต่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างบานใหญ่พร้อมกับบุหรี่ในมือขวาตอนนี้เวินหนี่แยกแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวชัด “มีงานอะไรให้ฉันทำอีกไหมคะ?”เย่หนานโจวพ่นควันออกมา ควันสีขาวบดบังใบหน้าของเย่หนานโจวจนมองไม่เห็นแต่น้ำเสียงของเขาก็คมชัดและเย็นชา “ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ยื่นเงื่อนไขนี้ทันทีที่เธอไปที่นั่น?”คำพูดและน้ำเสียงเหล่านี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขากำลังตั้งคำถามมาที่เธอเวินห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 287

    ชายคนหนึ่งแต่งตัวเนี้ยบนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ถามเธอว่า “คุณผู้หญิง คุณบอกเองว่าคุณไปนัดหมายหย่าที่สำนักงานเขตเรียบร้อยแล้ว คุณเพียงแค่อดทนรอเท่านั้น หากสามีของคุณไม่ยอมหย่าพวกเราถึงจะดำเนินการตามกฎหมายได้”เวินหนี่เคร่งเครียด “ฉันต้องการหย่ายิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดีค่ะ”“คุณต้องการเงินเท่าไรถึงจะช่วยให้ฉันหย่าได้?” เวินหนี่ร้อนใจมากเธอไม่สามารถรอถึงสองเดือนได้ชายคนนั้นเห็นปฏิกิริยาของเวินหนี่อย่างชัดเจน “คุณรีบร้อนหย่าขนาดนี้ เป็นเพราะอีกฝ่ายไม่เต็มใจที่จะหย่า หรือคุณกำลังนอกใจมีคนอื่น?”เวินหนี่ปฏิเสธ “ฉันไม่ได้นอกใจค่ะ ฉันแต่งงานกับอีกฝ่ายตามสัญญา และอีกฝ่ายก็มีคนรักอยู่ในใจแล้ว และเราก็แต่งงานกันแบบลับ ๆ และตอนนี้ฉันก็เบื่อหน่ายกับการแต่งงานที่ไร้ความรักนี้แล้ว เราไม่ต้องแบ่งทรัพย์สินและไม่มีลูก ฉันแค่ต้องการชีวิตใหม่ค่ะ”การแต่งงานลับคำพูดนี้ของ “เวินหนี่” ดึงดูดความสนใจของชายคนนั้นได้สำเร็จมีเพียงครอบครัวคนรวยเท่านั้นที่จะเลือกแต่งงานลับในเมื่อเป็นแบบนี้เขาก็อาจได้เงินก้อนโตชายคนนั้นพยักหน้าให้เวินหนี่แล้วพูดว่า “คุณไปร่างแบบฟ้องหย่ากับผู้ช่วยผมก่อนก็แล้วกัน”“ค่ะ”เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 288

    เวินหนี่มาที่ตลาดแรงงาน เนื่องจากเปิดรับสมัครในนามเย่กรุ๊ป คนที่ส่งเรซูเม่เข้ามาจึงมีจำนวนมากเธอแยกทีละรายการและส่งไปให้เย่หนานโจวดู แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับใด ๆมีเรซูเม่มากมาย แต่เย่หนานโจวกลับไม่ถูกใจเลยสักอันเขาจงใจสร้างเรื่องยุ่งยากให้กับเธอ และไม่ยอมปล่อยเธอไป เวินหนี่รู้สึกเหนื่อยล้าจากภายใน เธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะอยู่ที่นี่อีกชั่วโมงหนึ่งและรวบรวมเรซูเม่เพิ่มเติม หากเย่หนานโจวยังไม่ถูกใจ เธอก็จะไม่สนใจแล้วอากาศร้อนเธอจึงออกไปซื้อน้ำให้ตัวเองขณะที่เธอเดินกลับมา เธอรู้สึกเวียนหัวภายใต้แสงแดดจ้า เธอจึงไม่กล้าเดินต่อทันทีและนั่งหอบอยู่ข้างถนน“เวินหนี่”ทันใดนั้น เสียงผู้ชายที่คลุมเคลือก็ดังเข้ามาในหูเวินหนี่มองไปโดยไม่รู้ตัวและเห็นลู่เซินที่สวมชุดสูทสีเทาเงินตัวสูงยืนโน้มตัวลงมาข้าง ๆ เธอ เวินหนี่รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเธอหันกลับมา ลู่เซินก็ยืดตัวขึ้นอีกครั้งแล้วสอดมือข้างหนึ่งเข้าไปในกระเป๋า“ลู่เซิน”ลู่เซินมองไปที่เธอแล้วยิ้ม “ใช่ ผมเอง”“บังเอิญจริง ๆ” เวินหนี่พบว่าเธอได้เจอเขาทุกที่จริง ๆ“ผมมาสำรวจภาคสนามที่นี่น่ะ ผู้ช่วยเพิ่งจอดรถซื้อของ แล้วก็บังเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 289

    เวินหนี่เห็นด้วยกับคำพูดของเขา “นายพูดถูก เมื่อเวลาผ่านไปเราก็จะยอมแพ้เอง ตอนนี้ฉันเข้าใจคำนี้สุด ๆ”ลู่เซินไม่รู้ว่าจะตอบคำพูดของเธออย่างไรเธอจะบอกว่าเธอยอมแพ้แล้วอย่างนั้นเหรอลู่เซินตกอยู่ในห้วงความคิด เธอชอบเย่หนานโจวมาหลายปี เธอยอมแพ้เรื่องของเขาแล้วจริง ๆ เหรอ?ตอนนั้นเขาเคยกลับมาแล้วครั้งหนึ่ง เขากังวลเกี่ยวกับเวินหนี่และไปหาเธอ ตอนที่เธออยู่มัธยมปลาย เขาซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้และคอยเฝ้าดูเธอ ขอแค่เธอสบายดีเขาก็สบายใจ แต่เขาเห็นเวินหนี่ยิ้ม และดวงตาของเธอก็มองไปที่เย่หนานโจวซึ่งอยู่ไม่ไกล ในเวลานั้นเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เวินหนี่จะชอบคนแบบนี้เนื่องจากเย่หนานโจวเป็นบุคคลยอดนิยมในโรงเรียน เขาหล่อเหลาและมีผลการเรียนดี จึงมีหญิงสาวตามจีบมากมายและตอนนั้นตัวเขาเองอ้วนมากจนไม่กล้าแสดงตัวเขามองไปที่เวินหนี่ หญิงสาวที่เขาชอบมานานหลายปีเขาแค่อยากให้เธอมีความสุข“เวินหนี่ ดูนี่สิ!”เวินหนี่มองไปและเห็นลู่เซินกำลังทำหน้าตาตลกใส่เธอเธออึ้งไปในทันทีเมื่อเห็นแบบนั้นลู่เซินก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย “ทำไม มันไม่ตลกเหรอ?”เวินหนี่ไม่คิดว่าคนที่จริงจังอยู่ตลอดเวลาอย่างเขาจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 290

    เย่หนานโจวกำลังจัดการกับงาน เขาเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างเย็นชาและหยิบเอกสารจากมือของเธอไปอย่างผิดปกติเขาพลิกดูหน้าต่าง ๆ อย่างผิดคาด เวินหนี่กังวลจนแทบบ้า ก่อนจะได้ยินเข้าพูดขึ้นว่า “คนเหล่านี้ใช้ได้ เก็บไว้ก่อน”เย่หนานโจวเก็บเรซูเม่ที่พอใจไว้อีกฝั่ง แล้วพูดต่อว่า “พรุ่งนี้เรียกมาสัมภาษณ์ที่บริษัท”เวินหนี่รู้สึกประหลาดใจกับท่าทีของเขา แต่เธอก็ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “ค่ะ ฉันจะโทรแจ้งกับคนเหล่านี้”เย่หนานโจวพูดขึ้นอีกว่า “ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วเธอก็กลับไปก่อน”เวินหนี่มองสีหน้าที่ไม่แยแสของเย่หนานโจวและคิดว่าเขาดูแปลกมาก แต่ในเมื่อเขาพูดออกมาแล้ว เธอก็ทำได้แค่เดินออกไป แต่เผยชิงก้าวเข้ามา “ประธานเย่ สถานที่ก่อสร้างที่เมืองเฉิงตงเกิดปัญหาครับ!”เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่หนานโจวก็ขมวดคิ้ว เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปพร้อมกับเผยชิงเมื่อเห็นว่าเป็นสถานการณ์เร่งด่วน เวินหนี่จึงตามเขาไปโดยไม่รู้ตัวทันทีหลังจากเดินออกไป เย่หนานโจวก็หยุด ก่อนจะหันมามองเวินหนี่แวบหนึ่ง แล้วมองไปที่ตำแหน่งของเฉินเพ่ยหลินนิ่ง ๆ “เธอตามมา เวินหนี่ไม่ต้องไป”เวินหนี่นิ่งอึ้งเฉินเพ่ยหลินก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 291

    “ใช่ เธอกลัวว่าเย่หนานโจวจะตกม้าตาย แล้วเธอก็จะไม่มีรายได้ ดังนั้นเธอเลยพยายามสร้างความสับสนและเปลี่ยนผิดเป็นถูก!”…คนเหล่านี้ชี้นิ้วไปที่เวินหนี่ และรุมเข้าหาเวินหนี่อย่างบ้าคลั่งเฉินเพ่ยหลินสังเกตเห็นสิ่งนี้ และเธอก็รู้สึกมีความสุขมาก เอาเลย เล่นงานหล่อนเลย ตีเวินหนี่ไปเลย สอนบทเรียนให้กับเธอซะ แต่เย่หนานโจวก็เริ่มกังวลขณะที่เขาพยายามสะบัดตัวออกจากตำรวจ เวินหนี่ก็ถูกตำรวจอีกกลุ่มคุ้มกันเอาไว้ ในตอนนั้นเผยชิงก็เดินไปที่ด้านข้างของเวินหนี่ตอนนั้นเย่หนานโจวถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและยอมตามตำรวจไปเวินหนี่พูดกับเผยชิงทันที “เน้นการตรวจสอบชุยเหล่ยและฉู่ซวง”เย่หนานโจววิพากษ์วิจารณ์ชุยเหล่ยต่อสาธารณะในการประชุมผู้ถือหุ้น ส่วนฉู่ซวงก็ติดตามใกล้ชิดเย่หนานโจวในช่วงก่อนหน้านี้ สองคนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดแต่เรื่องนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วนัก และฝ่ายรักษาความปลอดภัยสาธารณะก็ยังคงสอบสวนอยู่เช่นนี้เวินหนี่ถึงได้ถูกสั่งให้อยู่ในเย่กรุ๊ป เผยชิงติดต่อทนายความลู่ปั๋วเหนียนและไปที่สถานีตำรวจ แต่พอลู่ปั๋วเหนียนได้พบกับเย่หนานโจวเขากลับกำชับกับลู่ปั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status