แชร์

บทที่ 24 - คู่หมั่น

ผู้เขียน: แสงแห่งตะวัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-18 00:34:25

ณ แคว้นหนานฉี่

องค์ชายทั้งสามกลับมาถึงหนานฉี่อย่างปลอดภัย ส่วนฟางเฟ่ยเย่ก็กลับถึงจวนสกุลฟางเรียบร้อยแล้ว

“คุณหนูกลับมาแล้ว” รุ่ยรุ่ยสาวใช้ประจำตัวรีบวิ่งเข้าไปต้อนรับ

”คุณหนู! ยูหยินรอท่านอยู่ที่ศาลบรรพชนเจ้าค่ะ“ สาวใช้รุ่ยรุ่ยรีบรายงาน

”อืม ข้าจะไปเดี๋ยวนี้“ ฟางเฟ่ยเย่เดินมาหยุดที่ประตูทางเข้าศาลบรรพชนนางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยเปิดประตูก้าวเท้าเข้าไป

ยูหยินสกุลฟางนั่งสวดมนต์อยู่ก่อนแล้วเทียนไขในห้องนั้นถูกจุดสว่าง ป้ายชื่อผู้ล่วงลับตั้งวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ

เมื่อฟางเฟ่ยเย่เข้ามาในห้องนางก็รีบจุดรูปสักการะบรรพบุรุษทันที ก้มลงกราบสามครั้ง แล้วนั่งนิ่งๆ จองมองแผ่นหลังของผู้เป็นมารดา

“เจ้ากลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัยแม่ก็สบายใจแล้ว แต่เจ้ามีความผิดที่หลบหนีออกไปเช่นนี้ เจ้าเป็นกุลสตรีที่ยังไม่ออกเรือน หากวันนี้แม่ไม่ลงโทษเจ้า เจ้าคงไม่เห็นความสำคัญของชื่อเสียงตนเองและวงศ์ตระกูล เจ้าจงนั่งสำนึกผิดในศาลบรรพชนนี้สักสามวันเถอะ” เมื่อพูดจบยูหยินก็ลุกขึ้นช้าๆแล้วเดินออกจากโถงบรรพชนไป

เฟ่ยเย่ได้แต่นั่งสำนึกผิดในห้องตามลำพัง!

วันต่อมา!

องค์ชายทั้งสามและฟางเฟ่ยเย่ได้รับราชองค์การให้ไปเข้า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 25 - ศึกชิงนาง

    หน้าตำหนักตงเตี้ยน แคว้นหนานฉี่องค์รัชทายาทอันซื่อ,องค์ชายต้วนอวี้,องค์ชายซานอี้ มาขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท! ขันทีเว่ยจึงรีบไปรายงานฮ่องเต้ ที่ห้องทรงพระอักษร“เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร?” ซานอี้เปยขึ้นมากับตัวเอง แล้วเดินไปเดินมาอยู่หน้าตำหนักตงเตี้ยนไม่สามารถสงบใจได้เลย ส่วนอันซื่อและต้วนอวี้ต่างก็รอที่หน้าตำหนักอย่างร้อนใจเช่นกันครู่ต่อมา ขันทีเว่ยก็ออกมารายงานให้องค์ชายทั้งสามแยกย้ายกลับได้ “พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้เข้าพบหรือสงสัยในราชองค์การที่ทรงรับสั่งไปแล้ว! พะยะค่ะ” ขันทีเว่ยถ่ายทอดคำสั่งอันซื่อได้แต่ทอดถอนใจแล้วเดินกลับตำหนักบูรพา เมื่อมาถึงตำหนักบูรพาได้ประมาณหนึ่งก้านธูป องค์ชายต้วนอวี้และองค์ชายซานอี้ก็มาขอเข้าพบ!ในตำหนักบูรพา!“ท่านพี่ทั้งสอง ข้าชอบอาเย่ นางมีบุญคุณช่วยชีวิตข้า ข้าต้องแต่งงานกับนาง“ ซานอี้เริ่มก่อน”ไม่ได้! นางจะแต่งกับใครไม่ได้ทั้งนั้น“ ต้วนอวี้พูดขัดขึ้น”พี่รอง พูดแบบนี้หมายความว่าไง” ซานอี้เดินไปประจันหน้ากับ ต้วนอี้ขมวดคิ้วสีหน้าจริง“ถ้าพูดถึงเรื่องบุญคุณ นางก็มีคุณบุญกับข้าช่วยเหลือข้า ตอนเรือแตกติดถ้ำอยู่กับข้า” ต้วนอวี้ยอมลดละ“นางไม่ได้ชอบเจ้า ทำไมต้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 26 - มิตรภาพ

    องค์ชายทั้งสามเมื่อออกจากตำหนักตงเตี้ยน อันซื่อจึงเอ่ยปากเรียกน้องชายทั้งสอง “อาอวี้-อี้เอ๋อร์” องค์ชายทั้งสองหันกลับมามองทางต้นเสียง อันซื่อจึงเดินไปโอบไหล่ของน้องชายด้วยแขนคนละข้าง”พวกเจ้าน่ะ ดีกันเถอะ หายโกรธกันได้แล้ว“ อันซื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล”เสด็จพ่อพูดขนาดนั้น ข้าหายโกรธตั้งนานแล้ว!” ซานอี้นั้นถึงแม้จะอารมณ์ร้อนไปบ้างแต่ก็มีเหตุผล“อืม! ข้าขอโทษด้วยนะซานอี้ และขอโทษเสด็จพี่ด้วย เราไม่ได้ต่อยกันนานแล้ว หมัดซานอี้หนักชะมัด!“ ทั้งสามยังคงยิ้มให้กัน“จริงสิ ถ้าลั่วซืออยู่ด้วยล่ะก็ หมอนั่นจะกล้ายอมรับกับเสด็จพ่อมั้ยว่าชอบอาเย่ด้วยเหมือนกัน” ซานอี้พูดถึงองค์ชายสี่ลั่วซือต้วนอวี้ยังมิได้กลับจวน แต่เดินมาเรื่อยๆ จนถึงตำหนักจิ่งหลิน ซึ่งเป็นตำหนักขององค์หญิงเหยียนหลิน มีนางกำนัลยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องโถง เมื่อเปิดประตูภายในห้องโถงตกแต่งไว้อาลัย ศพขององค์หญิงบรรจุอยู่ในโลงตั้งไว้ที่กลางโถง ต้วนอวี้นั่งลงจุดธูปเพื่อเคารพศพน้องสาวอย่างเงียบๆ “ตอนนี้เจ้าน่ะไปอยู่ในร่างคนอื่นแล้ว เราไม่ได้เกี่ยวดองกันทางสายเลือดอีกแล้ว ชาตินี้พี่ชายดูแลเจ้าไม่ดี! พี่ชายรู้สึกผิดต่อเจ้ายิ่งนัก! แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 1 - โชคชะตา

    “หนาว..หนาวยิ่งนัก” ความเย็นยะเยือกที่รายล้อมอยู่รอบตัวของแม่นางเฟ่ยเย่ เสื้อผ้าที่เปียกชื้นนั่น ทำให้นางยิ่งหนาวมากขึ้น นางยังคงไม่ได้สติ ภายในถ้ำ บุรุษรูปงามนั่งอยู่หน้ากองไฟ คิ้วเข้มงามใบหน้าได้รูป ผิวขาว ในดวงตามีกองไฟเต้นอยู่ตามจังหวะ การสั่นไหวของเปลวไฟ เค้าครุ่นคิด สาเหตุของเรือที่อับปราง มันเป็นอุบัติเหตุหรืออะไรกันแน่! “หนาว..ข้าหนาวยิ่งนัก” เสียงนาง ทำให้บุรุษหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ ใกล้นางอีกนิด พยายามหาฟางใบไม้แห้งมาห่อนางเพื่อให้ความอบอุ่น เฟ่ยเย่ปรือตามองชายหนุ่มเบื้องหน้า “ข้าปวดหัว ข้าหนาวยิ่งนัก ท่านพี่รองขอข้ากอดหน่อย กอดข้าหน่อย” พูดไม่ทันขาดคำ เฟ่ยเย่ก็โผเข้าหาอ้อมกอดของต้วนอวี้ เค้าไม่ทันได้ตั้งหลัก ตัวแข็งทือ ทำอะไรไม่ถูก ค่อยๆคลายมือ ของเฟ่ยเย่ออก ”แม่นางเฟ่ยเย่ เจ้าปล่อยมือออกก่อน“ พลางค่อยๆแกะมือนางออกจากท้ายทอย หลุดจากท้ายทอยก็มากอดรอบตัว รัดมือแน่นกว่าเดิม จนแผ่นหน้าอกแนบชิดกัน ต้วนอวี้หัวใจเต้นรั่วยิ่งนัก! ผ้าที่ผิงไฟไว้น่าจะพอแห้งแล้ว เค้ารีบสลัดแกะมือของเฟ่ยเย่แล้วรีบออกจากพันธนาการของมือนางก็คว้าเสื้อมาคลุมไว้แทน เค้าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ชา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 2 - เสี่ยวเป่ามังกรเทพบรรพกาล

    จวนสกุลฟาง ข่าวการเดินทางไปส่งเสบียงและช่วยออกรบทางเหนือขององค์ชายซานอี้ก็เข้าหู ของคุณหนูฟางเฟ่ยเย่ “คุณหนูเจ้าคะ อีกไม่กี่วันองค์ชายซานอี้จะไปส่งเสบียงให้ท่านแม่ทัพ นายท่านมีโอกาสได้กลับมาบ้านแล้ว” พูดพลางหวีผมให้เฟ่ยเย่ไปด้วย “ข้าจะไปกับพี่สามด้วย เอ่อ หมายถึง ข้าจะร่วมเดินทางไปกับองค์ชายสามด้วย พรุ่งข้าต้องออกจากจวน” เหยียนหลินในร่างเฟ่ยเย่เริ่มคิดวางแผนต่างๆนานา ในใจ ”มันอันตรายนะเจัาคะ! ครานั้นก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด ข้าว่าฮูหยินท่านไม่มีทางให้ไปคุณหนูไปเจ้าค่ะ“ รุ่ยรุ่ยสาวใช้ผู้นี้ พอจะมีความคิดความอ่านบ้าง ณ ถ้ำในเขาเจ็ดสี “เสี่ยวเป่า!..เสี่ยวเป่า!“ เฟ่ยเย่เอ่ยชื่อใครสักคนเดินเข้าไปในถ้ำ ในมือถือคบเพลิงส่องสว่าง ”เสี่ยวเป่า!...เสี่ยวเป่า!” เดินสองสามก้าวก็เรียกครั้งนึง ส่ายมือไปมาให้แสงไฟจากคบเพลิงส่องตามที่ตามองพยายามเพ่งมอง นางพยายามหาใครสักคนในถ้ำ มีดวงตาสีแดงฉานคู่หนึ่ง จับจองมาที่เฟ่ยเย่ ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา เฟ่ยเย่หาได้หวาดกลัวสายตาคู่นั้นไม่ กับยื่นมือเข้าหาอย่างช้าๆ คร่าาาาาาาา...ฮ่าาาาา เสียงคำรามดังกึกก้องสะท้านไปทั่ว เจ้าของดวงตาแดงฉานคู่นั้น บัดนี้อ้างปา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 3 - องค์ชายสามซานอี้

    หน้าจวนองค์ชายซานอวี้ มีรถม้าคันหนึ่งมาจอดตั้งแต่เช้ามืด ฟ้ายังไม่สาง “องค์ชายสาม หน้าจวนมีรถม้าจากสกุลฟางมาจอดรอ พะยะค่ะ” องค์รักษ์มากล่าวรายงาน “เห็นว่าจะร่วมเดินทางร่วมทัพไปกับองค์ชายด้วย พะยะค่ะ” ซานอี้ขมวดคิ้วแปลกใจ ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเรียงกันเบาๆ ความแปลกใจคงอยู่ในใบหน้างามสง่าเกลี้ยงเกลา “สกุลฟางรึ ลูกสาวคนเดียวของท่านแม่ทัพ คุณหนูฟางเฟ่ยเย่ใช่หรือไม่” ใช่พะยะค่ะ องค์รักษ์พยักหน้า ”ไปเชิญนางมาพบข้า“ องค์รักษ์รับคำสั่ง ”หม่อมชั้น ฟางเฟ่ยเย่ ถวายบังคมองค์ชาย“ เฟ่ยเย่ย่อตัวทำความเคารพ ”ทำตัวตามสบายเถอะ เชิญนั่ง“ องค์ชายสามผายมือไปทางเก้าอี้ “องค์ชายเพคะ หม่อมชั้นขอติดตามร่วมเดินทางไปช่วยท่านพ่อด้วยได้หรือไม่เพคะ เอ่อ ข้ารับรองข้าจะไม่ทำตัวเป็นภาระ แน่นอน“ ”ในกองทัพมีเหล่าทหารมากมาย เจ้าเป็นหญิง ครั้งนี้เราเกรงว่าจะไม่ได้สะดวกสบายนักหรอก ถึงแม้นครานั้นที่ร่องเรือ ก็มิได้เรียบรื่น เราต้องสูญเสียน้องสาวอันเป็นที่รักของเราไป“ ซานอี้แววตาเศร้าหมอง หลบตาต่ำ “หม่อมชั้นจะปลอมตัวเป็นชาย เป็นองค์รักษ์ของพระองค์ หม่อมชั้นมีวรยุทธ์ ชำนาญการแพทย์ ขี่ม้า ยิงธนูได้ เพคะ” เฟ่ยเย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 4 - ค่ายทหารอี้ชาง

    การมาของเฟ่ยเย่ครั้งนี้ เฟ่ยเย่เองก็รู้สึกหนักใจเป็นอย่างยิ่ง ในสถานะองค์หญิงเหยียนหลินก็ไม่ได้มีความสนิทอะไรกับท่านแม่ทัพฟางเลยแม้แต่น้อย การที่นางมาที่นี่ประการแรกเป็นห่วงพี่ซานอี้เสียมากกว่า อีกอย่างตอนนี้นางเองก็อยู่ในสถานะลูกสาวของท่านแม่ทัพฟางแล้ว จะให้นิ่งดูดายเฝ้าเรือน ทั้งๆที่รู้ว่าบิดาตนถูกพวกศัตรูล้อมเช่นนั้น นางคงทนไม่ได้ “เราต้องวางแผน บุกหุบเขาลิ่ว เพื่อชิงตัวท่านแม่ทัพฟางในคืนนี้ ต้องช่วยให้ได้ในคราวเดียว ไม่ให้พวกมันตั้งรับได้ทัน“ ซานอี้ใช้ไม้จิ้มไปที่แผนที่จำลอง และวางแผนให้ทุกฝ่ายกระจายกำลัง บุกโจมตีพร้อมกันรอบหุบเขาลิ่ว หลังจากที่เฟ่ยเย่นั่งและทำความเข้าใจแผนสักพัก ”แล้วข้าล่ะ ข้าต้องทำอะไร“ เฟ่ยเย่เอ่ยถาม ”เจ้าไม่ต้องทำอะไร อยู่ในค่ายรักษาผู้บาดเจ็บ“ ซานอี้พูดทำเสียงเข้ม สีหน้าสงบนิ่ง ”เดิมทีเจ้าก็ไม่ได้อยู่ในแผนเราตั้งแต่แรก รอที่ค่ายเถอะ“ มีเจ้าช่วยรักษาทหารบาดเจ็บคงช่วยได้มากทีเดียว เมื่อเข้าใจแผนแล้วเหตุใดข้าจะตามไปด้วยมิได้เล่า เฟ่ยเย่เม้มปากแน่นแต่ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดนอกจาก ”ข้าเข้าใจแล้ว“ เฟ่ยเย่เอามือประสานกันทำความเคารพแบบผู้ชาย ยามจื่อ! เสียงสัญ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 5 - บาดเจ็บ

    ในถ้ำกองไฟถูกจุดขึ้น เพื่อให้ความสว่างและความอบอุ่น เฟ่ยเย่ค่อยๆพยุงซานอี้วางลงอย่างระมัดระวังซานอี้คงมีสติ แต่เหนื่อยอ่อน หมดแรง ปวดบาดแผล ซานอี้บาดเจ็บสาหัส เลือดสีดำไหลออกมาทางบาดแผลคมลูกธนูที่ปักคาอกของซานอี้“ลูกธนูมีพิษ ข้าไม่รู้ว่าเป็นชนิดใด“ เฟ่ยเย่มีสีหน้าเป็นกังวลจนเห็นได้ชัด“ข้าจะต้องดึงธนูออกก่อน มันอาจจะเจ็บปวดมากท่านไหวมั้ย“ เฟ่ยเย่อธิบายพร้อมเงยหน้ามองซานอี้เพื่อขอความเห็นซานอี้พยักหน้ารับ”ข้าต้องถอดเสื้อท่านออกก่อน จะได้ทำแผลสะดวก“ พูดพลางมือก็ปลดเข็มของซานอี้ออกครู่ต่อมา ซานอี้ก็รู้สึกประหม่า เขินอายนิดหน่อย ตั้งแต่โตมาไม่เคยมีสตรีนางใดมาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเค้าออกเช่นนี้ เฟ่ยเย่มีหอบผ้ามัดติดตัวมาด้วย นางรีบปลดออกจากตัวเพื่อความคล่องตัว เมื่อเตรียมทุกอย่างแล้ว”ข้าจะดึงธนูออกแล้วนะ” เฟ่ยเย่หันไปสบตาซานอี้อีกครั้ง ซานอี้พยักหน้ารับ นางจัดท่าให้ซานอี้กึ่งนั่งกึ่งนอนพิงซ้อนทับตัวนางไว้ หันหน้าออกเฟ่ยเย่เม้มปากแน่น มือขวากำลูกธนูแน่น มือซ้ายกอดตัวซ่านอี้ไว้ ไม่ให้ขยับ ข้าจะดึงแล้วนะ พูดไม่ทันขาดคำ ฉึก! ซานอี้กัดฟัน เม้มริมฝีปากแน่นลูกธนูถูกเฟ่ยเย่ดึงออกมาใน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 6 - พลัดพราก

    ในถ้ำที่หนานเจียง “ข้าต้องออกไปหาเสบียง วันนี้เราจะต้องได้กินเนื้อกันบ้าง” เฟ่ยเย่เตรียมเก็บของเข้าย่ามและ สะพายห่อผ้ารัดคาดอก “ข้าไปด้วย” ซานอี้ก็ลุกขึ้นหยิบเสื้อตัวนอกมาใส่ “ไม่ต้องไป ท่านต้องอยู่ที่นี่ ท่านมีแผลอยู่ ไม่ควรขยับตัวไปไหนมาไหนใช้แรงมากๆ” เฟ่ยเย่กอดอกออกคำสั่ง ส่วนซานอี้ก็นั่งกอดอกเงยหน้ามองกันและกันอย่างไม่มีใครยอมใคร “ข้าไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น เราออกไปพร้อมกันเถอะ ข้าจะหายดีในอีกไม่กี่วัน” ซานอี้ยังยืนกร้าน “เสบียงเราหมดแล้วท่านพี่คนดีของข้า“ น้ำเสียงฟังดูประชดประชันเล็กน้อย จากที่นางยืนกอดอกเปลี่ยนกลับมาเป็นนั่งลงข้างๆ แทน อมยิ้มทำหน้าปนหยอกล้อเล็กน้อย “ท่านต้องเดินลมปราณเพื่อขับพิษ จนกว่าพิษในร่างกายจะออกหมด ข้าต้องไปหาสมุนไพร มาช่วยขับพิษด้วย“ เฟ่ยเย่อธิบายต่อ ”ลำบากเจ้าแล้ว“ ซานอี้วางมือบนไหล่เฟ่ยเย่ แม้ซานอี้ไม่อยากให้ไป แต่ก็ห้ามนางมิได้ เฟ่ยเย่ออกจากถ้ำมาแล้ว แต่ไม่พบเสี่ยวเป่า คาดว่าคงไปหลบรักษาบาดแผลที่ไหนสักที่ เฟ่ยเย่เดินลงเขามาประมาณ 1 ชั่วยามแล้วเจอหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง สอบถามจากชาวบ้านจึงรู้ว่าที่นี่คือแคว้นหนานเจียง เฟ่ยเย่รีบหาซื้อเสบี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 26 - มิตรภาพ

    องค์ชายทั้งสามเมื่อออกจากตำหนักตงเตี้ยน อันซื่อจึงเอ่ยปากเรียกน้องชายทั้งสอง “อาอวี้-อี้เอ๋อร์” องค์ชายทั้งสองหันกลับมามองทางต้นเสียง อันซื่อจึงเดินไปโอบไหล่ของน้องชายด้วยแขนคนละข้าง”พวกเจ้าน่ะ ดีกันเถอะ หายโกรธกันได้แล้ว“ อันซื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล”เสด็จพ่อพูดขนาดนั้น ข้าหายโกรธตั้งนานแล้ว!” ซานอี้นั้นถึงแม้จะอารมณ์ร้อนไปบ้างแต่ก็มีเหตุผล“อืม! ข้าขอโทษด้วยนะซานอี้ และขอโทษเสด็จพี่ด้วย เราไม่ได้ต่อยกันนานแล้ว หมัดซานอี้หนักชะมัด!“ ทั้งสามยังคงยิ้มให้กัน“จริงสิ ถ้าลั่วซืออยู่ด้วยล่ะก็ หมอนั่นจะกล้ายอมรับกับเสด็จพ่อมั้ยว่าชอบอาเย่ด้วยเหมือนกัน” ซานอี้พูดถึงองค์ชายสี่ลั่วซือต้วนอวี้ยังมิได้กลับจวน แต่เดินมาเรื่อยๆ จนถึงตำหนักจิ่งหลิน ซึ่งเป็นตำหนักขององค์หญิงเหยียนหลิน มีนางกำนัลยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องโถง เมื่อเปิดประตูภายในห้องโถงตกแต่งไว้อาลัย ศพขององค์หญิงบรรจุอยู่ในโลงตั้งไว้ที่กลางโถง ต้วนอวี้นั่งลงจุดธูปเพื่อเคารพศพน้องสาวอย่างเงียบๆ “ตอนนี้เจ้าน่ะไปอยู่ในร่างคนอื่นแล้ว เราไม่ได้เกี่ยวดองกันทางสายเลือดอีกแล้ว ชาตินี้พี่ชายดูแลเจ้าไม่ดี! พี่ชายรู้สึกผิดต่อเจ้ายิ่งนัก! แ

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 25 - ศึกชิงนาง

    หน้าตำหนักตงเตี้ยน แคว้นหนานฉี่องค์รัชทายาทอันซื่อ,องค์ชายต้วนอวี้,องค์ชายซานอี้ มาขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท! ขันทีเว่ยจึงรีบไปรายงานฮ่องเต้ ที่ห้องทรงพระอักษร“เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร?” ซานอี้เปยขึ้นมากับตัวเอง แล้วเดินไปเดินมาอยู่หน้าตำหนักตงเตี้ยนไม่สามารถสงบใจได้เลย ส่วนอันซื่อและต้วนอวี้ต่างก็รอที่หน้าตำหนักอย่างร้อนใจเช่นกันครู่ต่อมา ขันทีเว่ยก็ออกมารายงานให้องค์ชายทั้งสามแยกย้ายกลับได้ “พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้เข้าพบหรือสงสัยในราชองค์การที่ทรงรับสั่งไปแล้ว! พะยะค่ะ” ขันทีเว่ยถ่ายทอดคำสั่งอันซื่อได้แต่ทอดถอนใจแล้วเดินกลับตำหนักบูรพา เมื่อมาถึงตำหนักบูรพาได้ประมาณหนึ่งก้านธูป องค์ชายต้วนอวี้และองค์ชายซานอี้ก็มาขอเข้าพบ!ในตำหนักบูรพา!“ท่านพี่ทั้งสอง ข้าชอบอาเย่ นางมีบุญคุณช่วยชีวิตข้า ข้าต้องแต่งงานกับนาง“ ซานอี้เริ่มก่อน”ไม่ได้! นางจะแต่งกับใครไม่ได้ทั้งนั้น“ ต้วนอวี้พูดขัดขึ้น”พี่รอง พูดแบบนี้หมายความว่าไง” ซานอี้เดินไปประจันหน้ากับ ต้วนอี้ขมวดคิ้วสีหน้าจริง“ถ้าพูดถึงเรื่องบุญคุณ นางก็มีคุณบุญกับข้าช่วยเหลือข้า ตอนเรือแตกติดถ้ำอยู่กับข้า” ต้วนอวี้ยอมลดละ“นางไม่ได้ชอบเจ้า ทำไมต้อ

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 24 - คู่หมั่น

    ณ แคว้นหนานฉี่องค์ชายทั้งสามกลับมาถึงหนานฉี่อย่างปลอดภัย ส่วนฟางเฟ่ยเย่ก็กลับถึงจวนสกุลฟางเรียบร้อยแล้ว“คุณหนูกลับมาแล้ว” รุ่ยรุ่ยสาวใช้ประจำตัวรีบวิ่งเข้าไปต้อนรับ ”คุณหนู! ยูหยินรอท่านอยู่ที่ศาลบรรพชนเจ้าค่ะ“ สาวใช้รุ่ยรุ่ยรีบรายงาน”อืม ข้าจะไปเดี๋ยวนี้“ ฟางเฟ่ยเย่เดินมาหยุดที่ประตูทางเข้าศาลบรรพชนนางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยเปิดประตูก้าวเท้าเข้าไปยูหยินสกุลฟางนั่งสวดมนต์อยู่ก่อนแล้วเทียนไขในห้องนั้นถูกจุดสว่าง ป้ายชื่อผู้ล่วงลับตั้งวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบเมื่อฟางเฟ่ยเย่เข้ามาในห้องนางก็รีบจุดรูปสักการะบรรพบุรุษทันที ก้มลงกราบสามครั้ง แล้วนั่งนิ่งๆ จองมองแผ่นหลังของผู้เป็นมารดา“เจ้ากลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัยแม่ก็สบายใจแล้ว แต่เจ้ามีความผิดที่หลบหนีออกไปเช่นนี้ เจ้าเป็นกุลสตรีที่ยังไม่ออกเรือน หากวันนี้แม่ไม่ลงโทษเจ้า เจ้าคงไม่เห็นความสำคัญของชื่อเสียงตนเองและวงศ์ตระกูล เจ้าจงนั่งสำนึกผิดในศาลบรรพชนนี้สักสามวันเถอะ” เมื่อพูดจบยูหยินก็ลุกขึ้นช้าๆแล้วเดินออกจากโถงบรรพชนไปเฟ่ยเย่ได้แต่นั่งสำนึกผิดในห้องตามลำพัง!วันต่อมา!องค์ชายทั้งสามและฟางเฟ่ยเย่ได้รับราชองค์การให้ไปเข้า

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 23 - องค์รัชทายาทหยางหย่วน

    มีราชองค์การจากฮ่องเต้หนานฉี่ ให้องค์ชายทั้งสี่กลับเข้าวังหลวง ส่วนค่ายอี้ชางมอบหมายให้ท่านแม่ทัพเกราะทองฟางหมิ่นเฉียนอยู่รักษาการณ์ชายแดนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย!ให้เดินทางออกจากค่ายอี้ชางภายในสามวันนับจากวันที่ได้รับราชองค์การ!“เราคงต้องทิ้งเจ้าสี่ไว้ที่นี่ก่อน หากเราเคลื่อนย้ายเค้าไปอาการคงไม่ดีแน่ เราจะไปทูลเสด็จพ่อเอง ฝากทางท่านแม่ทัพฟางด้วยนะ” องค์รัชทายาทอันซื่อเป็นห่วงน้องชาย“กะหม่อมจะดูแลองค์ชายสี่อย่างดี พระเจ้าข้า!” แม่ทัพฟางรับปากองค์รัชทายาท แล้วหันไปพูด กับเฟ่ยเย่ว่า ”เจ้าก็ตามองค์ชายทั้งสามกลับเมืองหลวงเสียเถอะ ป่านนี้ท่านแม่ของเจ้าเป็นห่วงแย่แล้ว!“”เจ้าค่ะ ท่านพ่อ“ เฟ่ยเย่รับคำอย่างว่าง่าย”องค์รัชทายาทเพคะ ข้าขอพระราชทานนามให้ศิษย์พี่เสี่ยวเป่าได้หรือไม่เจ้าคะ“ เฟ่ยเย่เอ่ยถามอันซื่อ”เรียกท่านพี่อันซื่อสิ“ อันซื่อยิ้มล้อเลียนเฟ่ยเย่”อ่อ หม่อมชั้นมิบังอาจ“ เฟ่ยเย่สงบเสงี่ยมเจียมตัวเมื่ออยู่ต่อหน้าแม่ทัพฟาง”เรียกเราว่าท่านพี่อันซื่อเถอะ เคยเรียกเช่นไรก็เรียกเช่นนั้น“ อันซื่อยิ้มให้เฟ่ยเย่แล้วกล่าวต่ออีกว่า “ชื่อใดดีนะ หนุ่มหน้าขาวราวหยก ดวงตาสีฟ้าดั่งทะเลใส ข้าให

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 22 - ปราบ“ฮุ่นตุ้น”สัตว์ปีศาจแห่งความโกลาหล

    ทางฝั่งของค่ายอี้ชาง เขตแดนหนานฉี่ “ท่านพ่อ ลูกขอออกไปปราบปีศาจนะเจ้าคะ ที่นี่มีไอมารพวยพุ่งเป็นจำนวนมากจะต้องมีปีศาจร้ายอยู่ที่ไหนสักแห่งแน่นอน เจ้าค่ะ“ เฟ่ยเย่ออดอ้อนท่านแม่ทัพผู้เป็นบิดา ”หน้าที่นี้ให้เป็นของพ่อเถอะ เจ้าเป็นเพียงสตรีบอบบาง พ่อว่าเจ้าควรกลับจวนไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่เจ้าดีหรือไม่?“ แม่ทัพฟางกล่าวกับลูกสาวด้วยความห่วงใย ”ข้ารู้ว่าท่านพ่อรักข้าที่สุด แต่ลูกได้กราบเทพอัคคีฉงหลีเป็นอาจารย์ ตอนนี้ลูกมีวรยุทธ ลูกได้รับปากท่านอาจารย์ว่าจะต้องกำจัดคนชั่ว ช่วยเหลือผู้อ่อนแอเจ้าค่ะ! ให้ลูกไปเถอะนะเจ้าคะ“ “อืม!..เย่เอ๋อร์..พ่อว่าเจ้าอยู่ช่วยเหลือรักษาทหารกับชาวบ้านที่บาดเจ็บในค่ายนี้ก็พอแล้ว” แม่ทัพฟางยังไม่ยอมรับปากเฟ่ยเย่ง่ายๆ ยามจื่อ! เฟ่ยเย่สวมชุดสีดำพรางตัวทะมัดทะแมงรัดเกล้าผมทรงสูง ใช้วิชาตัวเบารัดเลาะหลบทหารเดินยามในค่ายอี้ชาง นางรู้สึกถึงการถูกตบที่ไหล่จากทางด้านหลัง จึงสวนกลับเตะ ต่อย 2-3 กระบวนท่า “ศิษย์พี่!เองหรือ? ข้าตกใจหมด” เฟ่ยเย่รีบหยุดมือ “เจ้าจะไปไหนรึ?” ลั่วซื่อขมวดคิ้วถาม “แถวนี้มีไอมาร มีกลิ่นปีศาจ ข้าจะไปดูหน่อยว่ามันมาจากที่ใดกันแน่” เฟ

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 21 - จี้หยกสยบมาร

    ฟางเฟ่ยเย่ตอนนี้ปลอมตัวเป็นองค์รักษ์อยู่ข้างกายองค์รัชทายาทอวิ๋นเทียนเหอ ออกตามเสด็จไปช่วยบรรเทาภัยแล้งในหลายๆพื้นที่ของหนานเจียงเสด็จพ่อของอวิ๋นเทียนเหอ ฮ่องเต้ของแคว้นหนานเจียงตอนนี้ป่วยหนัก จนในที่สุดก็ทรงสวรรคต! บัดนี้..รัชศกเจียงโจวปีที่ 17 แห่งแคว้นหนานเจียงองค์รัชทายาทอวิ๋นเทียนเหอจึงได้ทรงขึ้นครองบังลังก์ ซึ่งในขณะนี้เกิดความวุ่นวายโกลาหล ในแคว้นกลับมีพวกนับถือลัทธิมารปรากฏ! องค์ฮ่องเต้อวิ๋นเทียนเหอ พึ่งขึ้นครองราช ไม่มีอำนาจและไม่มีกำลังทหารอยู่ในมือจึงต้องรีบส่งองค์รัชทายาทอันซื่อ-องค์ชายต้วนอวี้และแม่นางฟางเฟ่ยเย่กลับคืนไปยังสู่แคว้นหนานฉี่ณ หอดาราดาว! “พรุ่งนี้ข้าก็จะไม่ได้เห็นหน้าเจ้าอีกแล้ว ขอให้เจ้าเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย“อวิ๋นเทียนเหอพยายามข่มความรู้สึก และข่มกิริยาที่แสดงออกไป“ฝ่าบาทก็เช่นกัน ต้องดูแลตัวเองอย่างดีนะเพคะ” เฟ่ยเย่เอ่ยด้วยความจริงใจ นางล้วงมือไปในถุงเฉียนคุน หยิบของออกมาสิ่งหนึ่งยื่นให้องค์ฮ่องเต้ อวิ๋นเทียนเหอ“ฝ่าบาท! เอานี่ติดตัวไว้ตลอดห้ามถอดออกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม รับปากหม่อมชั้นนะเพคะ” เฟ่ยเย่ยื่นจี้หยกสยบมารให้อวิ๋นเทียนเหอ“จี้หยก

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 20 - เจรจา

    ซานอี้กับเฟ่ยเย่ลงจากเขาเมิ่งซานมาด้วยกัน จึงไปที่หอหรูอี้เพื่อสืบข่าว และได้พบกับองค์รักษ์ชิงเฟิงเฟ่ยเย่ตรวจดูอาการของชิงเฟิงแล้ว ถึงจะบาดเจ็บสาหัสแต่ก็ได้ยามาช่วยบรรเทาได้ทันเวลา นางใช้พลังเทพเดินลมปราณให้ชิงเฟิงทำให้หายเร็วกว่าปกติมาก”ขอบพระคุณแม่นางฟาง“ ชิงเฟิงกล่าวขอบคุณเฟ่ยเย่”มิได้ มิได้ องค์รักษ์ชิงเฟิงโตมาด้วยกันกับองค์รัชทายาทอันซื่อเราจะนิ่งดูดายได้อย่างไรกันเล่า“ เฟ่ยเย่ยิ้มให้อย่างมีไมตรี”เหตุใดแม่นางถึงได้ล่วงรู้เรื่องนี้ด้วย!“ชิงเฟิงหมวดคิ้วสงสัย”โถ เอ้ย เราเป็นสหายร่วมเรียนกับองค์หญิงเหยียนหลินนะ“ เฟ่ยเย่แสร้งกลบเกลื่อน“ท่านพี่ซานอี้เราคงต้องแยกกันตรงนี้ ท่านไปกับชิงเฟิงกลับไปหนานฉี่ก่อน ไปช่วยทางท่านพี่ลั่วซือ ส่วนข้าจะเข้าวังหนานเจียงไปพบองค์รัชทายาทอวิ๋นเทียนเหออีกครั้ง“ เฟ่ยเย่รีบแจกแจง”ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป หากเจ้าถูกจับตัวไป ข้าจะมีหน้าไปพบท่านแม่ทัพฟางหมิ่นเฉียนรึ“ ซานอี้หมวดคิ้ว ยืนกอดอก สีหน้าขรึงขรึม”ท่านพี่ ท่านพี่ ท่านพี่ ให้ข้าไปเถอะนะ”เฟ่ยเย่เข้ามาเขย่าแขนอ้อนซานอี้“ไม่ได้” ซานอี้กอดอกหันหลังให้เฟ่ยเย่“ข้ารับรอง ข้าไม่มีทางเป็นอันตราย ข้ามีอาว

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 19 - ตัวประกันครั้งที่ 2

    ณ เขาพระจันทร์เสี้ยว“ท่านพี่! ข้าจะส่งท่านออกไปก่อน“ องค์ชายต้วนอวี้บอกองค์รัชทายาทอันซื่อ ”ไม่นะอาอวี้ข้าไม่ไป ข้าจะทิ้งเจ้าได้อย่างไร?“ อันซื่อมิยินยอม”เราติดอยู่ที่นี่มาหลายวันเกินไปแล้ว พอเสบียงหมดทหารจะหมดแรง ถึงตอนนั้น ข้าจะปล่อยให้องค์รัชทายาทแห่งหนานฉี่ ถูกจับคุมไปเป็นเชลยศึกได้อย่างไร?“ ต้วนอวี้มีสีหน้าจริงจังและคุกเข่าต่อหน้าอันซื่อ”ท่านพี่ตั้งแต่เล็กจนโต ข้าไม่เคยร้องขออะไรจากท่านเลย ครั้งนี้อาอวี้ขอร้องท่านพี่สักครั้งได้หรือไม่! โปรดฟังคำขอร้องจากข้าด้วย!“ ต้วนอวี้ยังคงคุกเข่า”ไม่ได้! เจ้าอยู่ข้าอยู่! ไม่ว่าวันข้างหน้าจะสิ้นแสงสักเพียงใด ข้าจะไปกับเจ้า! ข้าเป็นท่านพี่ของเจ้า หากเจ้าเป็นอะไรไปข้าจะอธิบายกับเสด็จแม่บนสวรรค์ได้อย่างไร?” อันซื่อค่อยประคองต้วนอวี้ให้ลุกขึ้น“คืนนี้เราจะใช้กลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม” อั่นซื่อกล่าว“ไม่คิดเลยว่าแม่ทัพต้าฝู่จะสกปรกถึงเพียง คบค้าพวกมาร ทหารผีดิบพวกนั้นฆ่าไม่ตาย!” ต้วนอวี้กล่าวอย่างหดหู่เขาพระจันทร์เสี้ยวในคืนนั้น!ทหารหลายหมื่นนายสู้กันอย่างดุเดือด ทางฝ่ายแม่ทัพต้าฝู่สมคบคิดกับพวกมาร ทหารผีดิบพวกนั้นมีเป็นหมื่น เป็นพันๆ

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 18 - เชือกมัดเซียน

    ผ้าแพรเทพบินกลับคืนสู่เจ้าของแล้ว!เฟ่ยเย่พาซานอี้เดินทางขึ้นเขาเมิ่งซาน“เจ้าจะพาข้าไปที่ใด” ซานอี้เอ่ยถามทำลายความเงียบ“เขาเมิ่งซาน” จริงสิตอนนี้ซานอี้ตามองไม่เห็นแล้ว นางจึงจับมือซานอี้ให้กะชับมากขึ้นตลอดการเดินทาง“เจ้าไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับองค์รัชทายาทของหนานเจียงเลยหรือ?”ซานอี้สงสัย“ไม่มี! ที่สำคัญตอนนี้คือพาท่านไปรักษาดวงตาให้หาย“ เฟ่ยเย่ตอบสั้นๆเขาเสียบดาบ! ลั่วซือทางเดินมาถึงเขาเสียบดาบด้วยความลำบาก ที่นี่! เป็นสุสานอาวุธของเหล่าบรรดาจอมยุทธ ที่สิ้นชีพไปแล้ว อาวุธที่สุสานเขาเสียบดาบแห่งนี้รอคอยผู้เป็นเจ้านายคนใหม่!ลั่วซือเข้าไปยังใจกลางหุบเขาทำสมาธิแล้วดึงดาบทีละเล่ม เจอดาบดึงดาบ เจอกระบี่ดึงกระบี่ จนในที่สุดลั่วซือก็ดึง “ดาบวารีไหล” ของซืออู๋ตู้ครั้นมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ออกมาได้สำเร็จ! เทพอัคคีฉงหลีนั่งทำสมาธิรู้ได้ด้วยญาณว่าลั่วซือได้ดึงดาบวารีไหลออกมาจากเขาเสียบดาบสำเร็จแล้ว การครอบครองดาบวารีไหลนั้นไม่ง่ายแต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้! ท่านอาจารย์ลืมตาขึ้น เบื้องหน้าตนคือเฟ่ยเย่กับซานอี้พึ่งขึ้นมาถึงยอดเขาเมิ่งซานพอดี”กราบท่านอาจารย์“ เฟ่ยเย่ลุกเข่ากราบคาราวะอาจาย์ ซานอี้ก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status